คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chess piece 6
สี่ชั่วโมงแห่งความร้อนอบอ้าว สี่ชั่วโมงที่ต้องทนยืนเมื่อยขาท่ามกลางหมู่ผู้คนนับร้อย สี่ชั่วโมงแห่งความทรมาร ชิยูกิที่กำลังยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มฝูงคนที่กำลังร้องเพลงเชียร์ตามไอดอลสาวที่อยู่บนเวที
ตอนนี้พัดกระดาษที่แจกมาไม่มีลมเหลืออยู่มีเพียงแค่ไอร้อนจากเหงื่อผสมปนเปจนเหนียวตัวและที่ยิ่งไปกว่านั้น เธอควรจะตกใจหรืองงกับอิซายะดี ที่เขาไม่มีเหงือท่วมตัวแบบเธอเลยหรือควรตกใจที่เขาสามารถฮัมและร้องเพลงของสาวไอดอลคนนี้ได้เกือบทุกเพลง
"นั้นก็เป็นเพลงสุดท้ายของวันนี้นะค่ะทุกคน" มิริพูดผ่านไมค์นั้นเป็นสิ่งเดียวที่เธออยากกรีดร้องชัยโยตามที่สุดแต่คนทั้งฮอลแสดงต่างโฮร้องด้วยความเสียใจ ถามจริงเหอะแค่นี้ยังไม่พอใจกันอีกหรอ
"แต่ว่า แต่ว่า แต่ว่า" เธอเว้นช่วงก่อน "เราจะมีมีตติ้งพิเศษหลังเวทีกับมิริมิริด้วยน้าาาา" ทุกคนในคอนเสิตร์ต่างมองหน้ากันเองอย่างงๆปนความดีใจ เริ่มมีเสียงดังขึ้นจากเหล่าแฟนคลับ มันเป็นกิจกรรมพิเศษที่นานๆจะมีครั้งที่เหล่าแฟนคลับจะได้เจอกับศิลปินที่เราชอบ
"ช้าก่อนนะค่ะทุกคน มีตติ้งนี้จะมีได้แค่3แขกรับเชิญเท่านั้นนะจ้ะ มิริจะซุ่มเลขบัตรคอนเสริต์ของทุกๆคนที่อยู่ในนี้จำนวน3ใบ ใครที่ได้ยินเลขของตัวเองเหล่าสตาฟจะพาพวกคุณมาหามิริมิรินั้นเอง"
ทุกคนต่างหยิบบัตรคอนเสิตร์ที่ซื้อกันมาดูอย่างใจจดใจจ่อ ต่างคนต่างเฝ้าคอยรอเลขโชคชะตะของตัวเอง
"ดูสิวันนี้พวกเราต้องโชคดีแน่ๆเลย" อิซายะกระซิบข้างหู ในมือก็มีตั๋วสองใบทั้งของเขาและของเธอ
"คนดูมีเป็นร้อยคงจะโดนเราอ่ะนะ" เธอพูดประชดแต่เมื่อมาคิดดูดีๆ อิซายะทำอาชีพนั้นนี่น่า หรือว่าจะ... เธอหันไปมองหน้าของชายหนุ่มและดูเหมือนเขาจะอ่านสีหน้าเธอออก ใบหน้าประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ตามเคย
"นายคงไม่ได้หมายความตามที่นายว่า.....ใช่ไหม"
"ไม่รู้สิ คนดูมีเป็นร้อยนี่เนอะ"
กล่องสีเหลี่ยมใสขนาดใหญ่ที่มีลูกบอลสีขาวเต็มไปหมดกำลังถูกเข็นขึ้นมาบนเวที ลมถูกเปาออกมาลูกบอลสีขาวเหล่านั้นต่างลอยไปมาในกล่อง มิริยื่นมือเข้าไปข้างในก่อนจะหยิบลูกบอลออกมาสามลูกด้วยกัน
"เอาละหมายเลขที่โชคดีของเราก็คือ" เธอพลิกลูกบอลไปด้านตัวเลข ผู้คนต่างเงียบรอฟังคำประกาศ "A12, G15และG16" เลขทั้งสามได้ถูกโชว์ขึ้นบนพื้นหลังเธอ
"นี้คือหมายเลขผู้โชคดีของเรากันค้าาาาาาทุกคน" เสียงโฮร้องเสียใจดังไปทั่วฮอล แต่กลับมีเสียงตะโกนลั่นอยู่ในกลุ่มพวกนั้น นั้นคงจะเป็นคนที่โชคดีเป็นแน่
"ดูสิชิยูกิ เราโชคดีจังเลยเนอะเธอว่าไหม" อิซายะชูบัตรขึ้นมาให้เธอดู G15 G16 แบบนี่ไม่น่าจะนับเป็นโชคที่ทำให้เธอต้องมาเจอกับไอดอลสาวคนนี้แน่
"เอาละค่ะถ้าใครได้บัตรตามเลขที่ประกาศไว้ละก็ให้ชูมือขึ้นนะค่ะ เดี๋ยวทางสตาฟจะไปรับพวกคุณเองค่ะ"
มือของคนทั้งสามคนชูขึ้น อิซายะเองก็เหมือนกันโดยมือที่ยกนั้นจับแขนของเด็กสาวยกมือขึ้นตามอย่าไม่สมัครใจ เหล่าสตาฟเดินไปตามจุดของเหล่าแขกรับเชิญ พวกเค้าทั้งสองเองก็เช่นกัน เหล่าสตาฟได้เดินนำทางไปยังหลังเวที
ห้องสีชมพูวิบวับ ประดับไปด้วยตุ๊กตาสรรพสัตว์มากมาย กับโปสเตอร์รูปตัวของเธอเองมิริมิริจัง มีคนทั้ง4คนอยู่ในห้องนั้น มิริมิริ กับเหล่าแขกรับเชิญอีกสามคนซึ่งหนึ่งในนั้นมีอิซายะกับชิยูกิ ตรงหน้าของพวกเขามีขนมกับน้ำชาวางเตรียมไว้
"สวัสดีสวีดัส มิริมิริเองจ้า" เด็กสาวกล่าวทักทายกระโดดดึ้งดั้งตื่นเต้นผิดกับชิยูกิและอิซายะที่ยื่นนิ่งๆไม่แสดงท่าทีอะไร
แต่ดูเหมือนแฟนคลับอีกคนดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ เขาเป็นชายร่างท้วมใส่แว่นหนาเตาะตามแบบโอตาคุในการ์ตูน เขาใส่หูกระต่ายกับชุดเสื้อคลุมเหมือนกับชิยูกิแต่มีออปชั่นเสริมนั้นก็คือ กระเป๋าเป้ลายของมิริมิริ เสื้อลายมิริมิริ ถ้าให้พูดละก็มีแต่มิริมิริเต็มตัวทั้งนั้น
"มิริมิริดีใจจริงๆที่ได้มาเจอแฟนคลับทั้งสามคนและ" เธอเหล่สายตามาที่ชิยูกิ "ไม่คิดว่าจะมีเด็กสาวน้อยน่ารักอย่างเธอที่เป็นแฟนคลับของมิริมิริด้วย ดีใจจังเลย" ชิยูกิยิ้มแห้งใส่ถ้าบอกไปว่าโดนลากมาก็คงจะไม่ดีเท่าไร
"งั้นเรามาเริ่มแนะนำตัวกันเลยเนอะ อะแฮ่มอะแฮ่ม มิริมิริเองจ้า ไอดอลสาววัย19ปีจ้าาา" เธอแนะนำตัวพลางกินขนมไปด้วย ที่จริงไม่ต้องแนะนำตัวก็ได้รู้ชื่อตั้งแต่แรกแล้ว
"แล้วพวกคุณทุกคนชื่ออะไรกันเอ่ย" เธอถามแขกรับเชิญอีกสามคน ซึ่งคนที่ตอบคนแรกก็คือชายหนุ่มร่างท้วมที่ยืนขึ้นแถวตรงราวกับทหาร
"ผะ ผะ ผมชื่อ อาราตะ โกโร่ครับ อายุ 21 ปี ผมเป็นหัวหน้าสมาคมแฟนคลับของมิริมิริ ผมติดตามผลงานของคุณตั้งแต่คุณเดบิ้วต์ ไปทุกคอนเสิร์ตที่คุณจัดเลยครับ เป็นเกรียติ์อย่างยิ่งที่ได้พบกับมิริมิริจังมากๆเลยครับ" เข้าโค้งตัว90องศาเคารพไอดอลที่เคารพยิ่ง
"คุณอาราตะนั้นเองสินะ มิริเจอคุณอาราตะทุกคอนเสิร์ตเลย ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่ติดตามผลงานของมิริมาตลอด แล้วก็ไม่ต้องตัวแข็งเป็นหินขนาดนั้นก็ได้ทำตัวตามสบายก็พอ" มิริมิริยิ้มส่งให้อาราตะซึ่งนั้นทำให้ชายหนุ่มคนนั้นหน้าแดงเป็นมะเขือเทศด้วยความเขินและดีใจไปในตัว
"แล้วคุณละคะ" มิริมิริ หันมาทางอิซายะ
"เรียกผมว่า นาคุระก็ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จักมิริมิริจัง" อิซายะได้ใช้ชื่อปลอมประจำตัวของตัวเอง เขายื่นจับมือเป็นการทักทาย ซึ่งมิริเองก็ได้จับมือกับอีกฝ่ายตอบกลับเช่นกันแต่ดูเหมือนว่า อาราตะจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร
"แล้วววว สาวน้อยน่ารักอย่างเธอละ" มิริมิริเปลี่ยนทิศทางมาที่ชิยูกิที่กำลังนั่งดื่มน้ำผลไม้ใส่น้ำแข็งดับกระหาย เธอสะอึกเล็กน้อยก่อนจะใช่หลังมือเช็ดที่มุมปาก
"เอ่อ คือ ฉัน-"
"เธอชื่อว่าฮิบามิครับ เราสองคนมาด้วยกัน " อิซายะตอบแทน ชิยูกิที่อยู่ดีๆได้รับชื่อใหม่ก็ต้องเล่นตามน้ำไป
"ฮิบามิค่ะยินดีที่ได้รู้จัก"
"เอ้ เอ้ อย่าบอกนะว่าทั้งสองคนจะเป็น แฟนกัน" มิริมองสลับเธอกับชายหนุ่มไปมาพลางเอามือกุมไว้ที่ปากทำท่าตกใจ
"ไม่ใช่ค่ะ/ใช่แล้วครับ" ทั้งสองพูดพร้อมกันแต่ประโยคกับขัดแย้งโดยสิ้นเชิง
"แค่คนรู้จักค่ะ/รู้จักกันมานานแล้วครับ" ชิยูกิส่งสายตาอาฆาตใส่ชายหนุ่ม
"ดูเหมือนว่าฮิบามิจังจะเขินนะเนี้ย" มิริมิริพูดแหย่
"ฉันไม่ได้เขินค่ะ"จริงๆแล้วในใจเธอตอนนี้อยากจะตั๊นหน้าชายที่นั้งข้างๆเธอมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
"ไม่ต้องเขินไปหรอกนะ คุณนาคุระเองก็หล่อๆพอตัวและแถมคุณฮิบามิก็น่ารักด้วย" อิซายะหัวเราะตามมิริมิริผิดกับชิยูกิที่เอามือกุมขมับไว้ ปวดประสาท มีแต่พวกประสาททั้งนั้น
"เอ่อ ผมว่าเราออกนอกเรื่องมามากแล้วนะครับ มิริมิริจัง" อยู่ๆเสียงของอาราตะก็ขัดบทสนถนาขึ้นอย่างหงุดหงิด ซึ่งนั้นทำให้คนทั้งสามคนที่พูดคุยกันอยู่ก็ต้องหยุดลง
"ชิไอ้เวรนี้"เสียงสบทเล็กๆพูดขึ้น ชิยูกิที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากมิริมิริได้ยินเสียงนั้น 'เมื่อกี้เธอพูดอย่างงั้นหรอ คงไม่หรอกมั้ง' ชิยูกิคิดในใจ
"ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณอาราตะที่พวกเราคุยไม่ได้สนใจคุณ" อิซายะพูดขอโทษแต่แท้จริงแล้วมีการแอบแซะอีกฝ่ายไปในตัวส่วนตัวของชิยูกิไม่ได้พูดอะไรออกไปนั่งนิ่งๆกับกินขนมในจานตัวเองต่อ
"นั้นสิน้าาาา งั้นเรามาเริ่ม meeting Miri Miri กันเถอะ" มิริมิริ ตบมือเบาๆก่อนจะนั่งตัวตรง "งั้นเรามาเริ่มกิจกรรม ก็คือ ทำความรู้จักกันครั้งแรกพบ" มิริมิริพูดด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง
"พวกคุณทุกคนจะสามารถถามคำถามเกี่ยวกับมิริมิริจำนวนทั้งหมดคนละ10คำถาม แต่ว่ามีข้อแม้ก็คือ ถ้าคำถามดูล่อแหลมหรือละลาบละลวงเกินไป มิริมิริจะไม่ตอบนะจ้ะและมิริมิริเองก็สามารถเลือกไม่ตอบคำถามของพวกเธอในบ้างคำถามเช่นกัน"
เมื่อทำข้อตกลงกันเสร็จ มิริมิริก็ได้เอาไม้จับสลากเสี่ยงทาย ซึ่งเมื่อคนทั้งสามคนจับ คนที่ได้ถามคนแรกก็คือชิยูกิ คนที่สองคืออิซายะและคนสุดท้ายก็คืออาราตะที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจกับผลลับสักเท่าไร
เมื่อชิยูกิเป็นคนโดนคนแรกเธอก็แทบจะคิดคำถามไม่ออก งั้นลองถามอะไรเบสิคๆดูก็แล้วกัน
"งั้นมิริมิริจังชอบทานอะไรหรอค่ะ"
"มิริมิริชอบ-" มิริมิริที่กำลังจะตอบแต่ก็ถูกขัดไว้
"มิริมิริจังชอบทานของหวานโดยเฉพาะเค้กส้มกับคุ้กกี้ ส่วนของที่ไม่ชอบทานก็จะเป็นพวกสาหร่ายต้ม" อาราตะพูดขัดคำตอบของมิริมิริจัง ทั้งสองสาวต่างเงียบไม่พูดอะไร มิริมิริจึงกระแอมเปลี่ยนคนมาที่อิซายะแทน
"ตามนั้นละนัคุณฮิบามิ งะงั้นคุณนาคุระล่ะคะ" มิริมิริหันไปถามคนถัดไป
"วันเกิดของมิริมิริจังละครับ"
"วันเกิดของมิริมิริก็คือ-"
"วันที่ 23 พฤษภาคม" คุณอาราตะก็ยังคงพูดแทรกขึ้นเช่นเดิม
"ดะ ดูเหมือนคุณอาราตะจะรู้ข้อมูลของมิริมิริดีจังเลยนะค่ะ" มิริมิริยิ้มแห้งพูดน้ำเสียงตะกุกตะกัก
"แน่นอนอยู่แล้วครับ ในฐานะประธานชมรมแฟนคลับของมิริมิริจัง ผมจำเป็นจะต้องรู้ข้อมูลทุกอย่างครับ" เค้ากอดอกพูดอย่างภาคภูมิใจ
คำถามได้ถูกถามหลายข้อและบางครั้งอาราตะก็จะขัดการตอบคำถามของมิริมิริบ้างแต่ก็ไม่มีใครห้ามอะไร เพราะทั้งอิซายะกับชิยูกิไม่ได้เป็นแฟนคลับของเธอ จนถึงคำภามได้ล่วงเลยมาถึงข้อสุดท้ายของอาราตะ
"คำถามข้อสุดท้ายของคุณอาราตะค่ะ" มิริมิริพูด หน้าตาของเธอตอนนี้ถึงจะยิ้มไว้อยู่แต่ก็รู้ได้ว่าเป็นรอยยิ้มที่ฝืนจากความเหนื่อย เหนื่อยใจจากชายหนุ่มคนนี้
"มิริมิริจัง"เขาเว้นระยะ"ผมอยากจะถามเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อ20 ปีที่ครับ" ทว่าแทนที่จะเป็นคำถามทั่วไปกลับกลายเป็นคำถามที่ทำให้คนทั้งห้องหันมามองเป็นสายตาเดียวกัน
"คะ? เหตุการณ์อะไรนะคะ" มิริมิริทวนคำถามอีกครั้ง
อาราตะไม่พูดอะไรแต่กลับยื่นเศษกระดาษหนังสือพิมพ์ออกมาให้มิริมิริดูแทน หัวข้อข่าว 'แฟนคลับสาวกถวายตัว' มีรูปภาพกำแพงบ้านแห่งนึงที่เต็มไปด้วยคราบบางอย่าง เพราะรูปในหนังสือพิมพ์เป็นสีขาวดำจึงทำให้ดูยากแต่ก็คงเดาออกละว่าคราบนั้นคืออะไร
เมื่อมิริมิริเห็นข้อความบนเศษกระดาษ ตาของเธอเบิกกว้าง เหงื่อของเธอผุดเต็มทั่วใบหน้าทั้งที่ห้องๆนั้นมีแต่ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ
"นี้มันข่าวของ เด็กหนุ่มมหาลัยที่ชอบเอาของขวัญน่าขนลุกมาให้ไอดอลที่ตนเองชื่นชอบนิครับ" อิซายะหยิบเศษกระดาษนั้นขึ้นมาดู คนอย่างเขาถ้าจะรู้จักข่าวพวกนี้ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไร
"คุณอาราตะสนใจข่าวจำพวกนี้หรอครับ"
"ไม่หรอกครับ คงเป็นแค่ข่าวนี่ข่าวเดียวเท่านั้น"
"แล้วคุณอาราตะคำถามของคุณคือ" อิซายะถามอีกฝ่าย อาราตะหันไปหาไอดอลสาว ก่อนจะพูดคำถามข้อสุดท้ายของเค้า
"มิริมิริจังพอจะจำคนที่อยู่ในรูปนี้ได้ไหมครับ" ความเงียบเข้าปกคลุม อิซายะยิ้มกับภาพตรงหน้า ชิยูกิหน้านิ่งกอดอกใบหน้าไม่ได้แสดงอาการใดๆ รอดูปฎิกิริยาของคนตรงหน้าแทน
อาราตะหยิบกระดาษสี่เหลี่ยมแผ่นเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อของตัวเองออกมา รูปภาพสีขาวดำที่ถูกพับได้คลี่ออกมา เผยให้เห็นเด็กชายวัยรุ่นในชุดเสื้อคลุมเชียร์ไอดอลอย่างที่ชิยูกิใส่อยู่แต่ที่ชุดเสื้อคลุมกับเขียนคำว่ารินกะจัง เค้ามีลักษณะคล้ายกับชายที่อยู่บนเศษหนังสือพิมษ์ที่อิซายะถืออยู่ไม่มีผิด
"ไม่เลยค่ะ ไม่เคยเห็น ไม่รู้จักเลยค่ะผู้ชายคนนี้" มิริมิริปฎิเสธอย่างลนลานอย่างเห็นได้ชัด
"คุณโกหก"
"คะ?"
"มิริมิริจังกำลังโกหกผมอยู่ เป็นคนโกหกที่ไม่เก่งเอาเสียเลย ทั้งคำพูดหรือแม้กระทั้งตัวของคุณเอง คุณรู้จักกับชายคนนี้ คุณยังจำคนคนนี้ได้" น้ำเสียงที่ดูถ่อมตนได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นน้ำเสียงเข้มดุที่จริงจังขึ้น
บรรยากาศในห้องเริ่มมาขุแบบไม่ทันตั้งตัว
"มิริมิริว่าเวลามีตติ้งของพวกเราคงหมดแล้ว คงต้องขอให้พวกคุณทุกคนต้องกลับแล้วละค่ะ" เธอเริ่มบ่ายเบี่ยงประเด็นเพื่อที่จะได้ไม่ต้องพูดตอบคำถามกับชายตรงหน้า
"จะไม่มีใครได้ไปไหนทั้งนั้น!!" อาราตะตะโกนแล้วเอามือทุบกับโต๊ะเข้าอย่างจัง สายตาของเค้าดูโกรธเกรี้ยวเป็นอย่ามาก
"รปภ.!!" มิริมิริตะโกนเรียกรปภ. เพื่อขอความช่วยเหลือแต่ทว่าการตอบรับนั้นไม่มีเสียงใดๆหรือแม้กระทั้งเสียงฝีเท้า
"มิริมิริจัง คุณแน่ใจนะว่าจำไม่ได้จริงๆ ชายที่ตกหลุมรักคุณ ยอมสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อคุณ ถวายตัวเพื่อคุณ โอกิ ไดอิจิ"
ไอดอลสาวที่เห็นท่าว่าจะไม่ดี เธอรีบลุกจากที่นั่งไปที่ประตูตามสัญชาตญาณเอาตัวรอด เธอบิดลูกบิดประตูไปมาแต่มันกลับถูกล็อคเอาไว้ซะได้
ชิยูกิหันหน้ามามองอิซายะ ชายหนุ่มเอื้อมตัวมาที่ข้างหูของเธอ 'โชว์ของจริงกำลังจะเริ่มจากนี้ต่างหาก' เขากระซิบเบาๆก่อนจะผละตัวออกจากเธอ สีหน้าขี้เล่นจอมทะเล้นยังคงประดับไว้เช่นเคยก่อนจะเฉยชมผลงานตรงหน้า
"รู้ไหมว่าการจ่ายเงินปิดปากสตาฟของคุณน่ะใช้เงินนิดเดียวก็ทำให้ผมมาเจอคุณได้สบายๆ" อาราตะพูดไล่หลังมา เมื่อมิริมิริหันหลังตามเสียง เธอก็พบกับอาราตะที่ยืนอยู่ด้านหลัง เขาคว้าที่ตัวของไอดอลสาวแล้วลากเธอมาที่เก้าอี้ที่เดิม
มิริมิริดิ้นสุดแรงหวังที่จะหลุดจากการจับกุมของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของผู้ชายได้ สายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากคนทั้งสองที่ยังอยู่ในห้อง พวกเขากลับมองเธออย่างใจเย็นเหมือนกับมองดูรายการโทรทัศน์ ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าไปช่วยเธอเลยสักนิด เขาบังคับจับตัวเธอกดลงกับเก้าอี้เอามือของหญิงสาวไผหลังกับกถญแจมือเหล็ก
อาราตะหันมาหาอิซายะกับชิยูกิที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่
"ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจะไม่ทำอะไรพวกคุณแน่นอน ถ้าหากพวกคุณไม่บังคับให้ผมทำหรอกนะครับ" อาราตะพูด
"ถ้าเรื่องนั้นละก็ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราไม่ขว้างคุณแน่นอน เชิญทำธุระของคุณต่อเถอะครับคุณอาราตะ" อิซายะเผยมือตอบกลับเหมือนกับบทสนถนาที่ปกติทั่วไปทั้งที่จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลยสักนิด อาราตะแปลกใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรตอบ เขาโค้งตัวขอบคุณก่อนจะหันมาทางหญิงสาวตรงหน้า
"งั้นเรามาต่อเรื่องของเรากันเถอะครับ มิริมิริจัง ไม่สิถ้าจะพูดให้ถูกก็ต้องเป็น จิโรอิ มิกิวะ คุณคือคนที่เปลี่ยนชีวิตของผม"
อิซายะที่อยู่ในเหตุการณ์ ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่กำลังบงบอกว่าเขากำลังสนุก สนุกเหมือนได้ของเล่นที่เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ สายตาของหันมาจับจ้องกับชิยูกิ เธอไม่แสดงความกลัวหรือตกใจแต่อย่างใดกลับกันเธอเลือกที่จะยกชาขึ้นมาดื่มสบายๆซะอย่างนั้น
ดวงตาสีครามคู่สวยกำลังดูสถาณการณ์อย่างเงียบสงบ ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆดูพึ่งพอใจเป็นอย่างมาก นี่คือสิ่งที่เค้าต้องการจากตัวของเธอ ท่าทาง อาการ กิริยาที่และสายตาคู่นั้นที่ตอบสนองอย่างดี
'ใช้แล้วอย่างนั้นแหละ เชิญชื่นชมให้พอใจเลย เพราะฉันตั้งใจเตรียมมาให้เธอโดยเฉพาะเลยนะ ชิยูกิ'
ความคิดเห็น