ชั่วฟ้าดินสลาย​ (เล่าใหม่)​ - นิยาย ชั่วฟ้าดินสลาย​ (เล่าใหม่)​ : Dek-D.com - Writer
×

    ชั่วฟ้าดินสลาย​ (เล่าใหม่)​

    ให้คุณช่วยกันอ่านๆหน่อย ฝีมือในการเขียนของผมมันจะสู้ครูมาลัยท่านได้หรือไม่ หากสู้ได้กด1 สู้ไม่ได้กด2 อย่าหาทำกด3

    ผู้เข้าชมรวม

    209

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    209

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนฟิคไทย
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  8 ต.ค. 65 / 14:42 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

        "นิพนธ์​  ดลโขง" 


        เกิดในปีพุทธศักราช​2468  ที่บ้านเลขที่21/4​  จังหวัดอุบลราชธานี​  บิดาชื่อพระวาริญบาลบุรี(มหิง  ดลโขง)​  เป็นผู้ว่าราชการ​จังหวัด​อุบลราชธานี​  มารดาคือนางแก้ว​  อาชีพค้าขาย​  

    เรียนจบจากโรงเรียนเบ็ญจะ​มะ​มหาราช​  ​ชั้นมัธยมศึกษา​ปีที่3

      ​  ทำงานแรกเป็นตัวแทนขายสินค้าบริษัท​  ปรีดาอนุพักตร์​  สาขาอุบลราชธานี​  ทำงานได้ปีครึ่งจึงลาออกมาเป็นเสมียนบัญชีบริษัท​เดชอุดมค้าไม้​  ทำงานมาได้อีกสามปีจึงลาออกมาร่วมกับมรว.สิงหะ​  ปาปะนนท์​และศรีสละ​  มะดาไภยเปิดสำนักพิมพ์​เกียรติ​อีสาน

        เขียนหนังสือนิยายเรื่องแรก

        "เสน่ห์​สาวภูไท" 

        แล้วร่วมกันเขียนบทละครเรื่อง​  "บักเซียงเมี่ยง"  ให้กับคณะละครวิทยุ"ศรีอุบล"  ต่อมาย้ายสำนักพิมพ์​จากอุบลราชธานี​มาที่ปัจจุบัน​คือถนนคลองเตย​  แล้วเขียนนิยายอีกหลายเรื่อง​  "ความรักกลิ่นดอกคูน"  ,  "บ้านไผมีลูกสาวบ่?"  ,  "ปีศาจคุ้มหัวกุด"  , "มฤตยู​สี่มุม"  ,  "ชั่วฟ้าดิน​สลาย"  ,  "เศรษฐี​ปีเดียว"  ,  "แด่ไตปลาและแจ่วบอง"  ,  "อพาตเมนท์ซ่อนศพ"  ,  "ฮ่วย! จั๋งใด๋เป็นจั๋งซั้น!"  ฯลฯ​  เมื่อถึงปี2511จึงเลิกเขียนหนังสือแล้วขายหุ้นไปทำหนังในนาม

         "ดลโขงภาพยนตร์​"  สร้าง​หนังเรื่อง​  "อพาตเมนต์​ซ่อนศพ"ร่วมกับ"อัศวิน​ภาพยนตร์​"แล้วจึงสร้างอีกหกเรื่อง"เศรษฐี​ปีเดียว","เขยลูกอีสาน"," มฤตยู​สี่มุม",ชั่วฟ้า​ดิน​สลาย"และเรื่องสุดท้าย"ฮ่วย!จั๋งใด๋เป็นจั๋งซั้น!"  แล้วจึงเลิกทำหนังในปี2524ร่วมสร้างละครให้กับรัฐฟิล์ม​และทำร้านอาหาร"อีสานขึ้นโต๊ะ" 

        ในวันศุก​ร์ที่​3เมษายนปี2546ในขณะที่กำลังกลับมาจากการดูละครเวทีของภัทราวดี​  มีชูธน​  เกิดปวดศีรษะ​อย่างรุนแรง​  เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเปาโลจึงเสียชีวิตอย่างสงบในเวลา03.28  ศิริร่วมอายุได้​  72ปี

        สำหรับเรื่อง"ชั่วฟ้าดิน​สลาย"  เขาเล่าว่าได้นิยายนี้มาจากเรื่องเล่าของเพื่อนครั้งไปเที่ยวที่กำแพงเพชร​  เขาไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริงจึงขออนุญาต​จากเจ้าของเรื่องมาทำเป็นนิยาย​  เจ้าของเรื่องคือเจ้าของนิคมขอนสักคนที่2​  ผู้เขียนเล่าว่านิคมป่าไม้นี่ปัจจุบัน​เป็นค่ายรบทหารบกของจังหวัด​  อย่างไรก็ตามความยิ่งใหญ่ของนิคมก็ถูกจารึกในส่วนหนึ่งของค่าย​  บ้านพักหลายหลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของค่ายทหาร​  แล้วสำนักงานก็เป็นพิพิธภัณฑ์​ของปางไม้​  ครอบครัวของเจ้าของปางไม้ไปตั้งรกรากใหม่ที่กรุงเทพ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น