ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 1 ตอน ชตากรรมของเหยื่อ
[ สเลน่า POV. ]
"...มีคนกำลังแอบมองพวกเราอยู่"
โอ้วพระเจ้า...
ทิมกับไบรอั้นเริ่มเดินไปทั่วห้อง ก้มดูใต้โต๊ะและหลังสิ่งกีดขวางในห้อง
"ขอร้องล่ะ อย่าหาฉันเจอเลยนะ..." ฉันทำได้แค่ภาวนาให้พวกเค้ารีบออกไปจากห้อง
"หืม~" ทิมหันมาทางตู้ที่ฉันแอบอยู่ เค้าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตู้และค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ เหมือนเค้าพยายามาที่จะส่องดูข้างใน ฉันรีบปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้เสียงหายใจของฉันเล็ดลอดออกไปให้เค้าได้ยิน และถอยห่างจากประตู
"...นี่ไบรอั้น" ฉันกลัวจนหลับตาปี๋ มือที่ปิดปากตัวเองไว้ก็เริ่มสั่น
"หะ? มีอะไร?" ไบรอั้นถาม
"..."
"...นายเอาศพที่อยู่ในตู้นี่ไปทิ้งรึยัง?" ทิมถาม
"ทิ้งแล้ว ถามทำไม?" ไบรอั้นตอบ กำลังเดินขึ้นบันไดไป
"ปล่าว... ก็แค่..." ทิมเดินจากไป ฉันส่องดูก็ไม่เห็นเค้าไม่อยู่แล้ว และในห้องก็เงียบไป
ฉันถอนหายใจ รอดแล้วสินะ-
'เสียงประตูตู้ถูกเปิด!'
ตัวฉันสดุ้งเฮือกเมื่อประตูตู้ที่ฉันซ่อนอยู่ถูกเปิดออก!
"ก็เพราะมันเหมาะที่จะซ้อนตัวยังไงละไบรอั้น!" ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นทิมโผล่มาตรงหน้า ถึงแม้เค้าจะใส่หน้ากากปิดหน้าที่แท้ของเค้าไว้ แต่ฉันก็รู้ว่าเค้ากำลังสแยะยิ้มอย่างชั่วร้ายอยู่หลังหน้ากากนั่น
"มานี่~" ทิมพูดพร้อมกับจับที่ข้อมือฉันแน่น ดึงฉันออกมาจากตู้ มือข้างนึงของเค้าจับที่คางของฉัน บังคับให้เงยหน้ามองเค้า
ฉันใจเต้นแรง รู้สึกกลัวมากๆ ฉันพยายามที่จะผลักเค้าออกไปแต่ก็ไม่ได้ผล เค้ามีแรงเยอะกว่าฉัน
"ดูสิว่าใครเอ่ย~" ทิมพูดเสียงเจ้าเล่ห์ ฉันดิ้นสุดแรง เอาเท้าเตะเค้าบ้าง แต่ทิมก็ไม่เป็นไรเลย
"เธอนี่มันดื้อจริงๆ~" ทิมกระซิบที่ข้างหู ทำให้ฉันขนลุก เมื่อได้จังหวะฉันรีบผลักเค้าด้วยแรงทั้งหมดที่มีและรีบวิ่งหนีขึ้นบันได
วิ่งไปถึงข้างบนก็เจอไบรอั้นดักรออยู่
"ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามเข้าห้องนี่น่ะ" ไบรอั้นพูดด้วยเสียงเรียบแต่หังดูน่ากลัวแล้วพยายามจะจับฉัน แต่ฉันก็รีบหลบแล้วคลานหนีไปทางอื่น และลุกขึ้นวิ่งหนีพวกเค้าขึ้นไปบนห้อง
ฉันวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบปิดประตู ล็อคกลอน ฉันเห็นตู้ใบใหญ่เลยรีบไปดันมันมาขวางประตูไว้ ในขณะเดียวกันฉันก็ได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากอีกฝั่ง
"สเลนน่า เปิดประตู!"
"ไบรอั้น หลีกไป! ฉันจะจัดการเอง" สิ้นเสียงพูดก็มีเสียงดังโครมครามจากอีกฝั่งของประตู เหมือนว่าคนที่อยู่อีกฝั่งพยายามที่จะพังประตูเข้ามา ฉันถอยห่างและมองไปรอบๆห้อง หาทางหนี
"ฉันต้องรีบออกไปจากที่นี่!"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
* อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อเรื่องในตอนนี้นะคะ
ต่อไปนี้ตัวละคร ทิม กับ ไบรอั้น จะถูกเรียกเป็นชื่ออีกชื่อนึงแทนค่ะ
ทิม = แมสกี้
ไบรอั้น = ฮูดดี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[ 3rd. POV. ]
เสียงดังโครมครามมาจากอีกฝั่งของประตู เหมือนคนข้างนอกกำลังจะพังประตูเข้ามา ทำให้สเลนน่ายิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น เธอนึกไม่ออกจริงๆว่าพวกเค้าจะทำอะไรกับเธอถ้าพวกเค้าจับเธอได้
สเลนน่ามองไปรอบๆห้อง พยายามหาของมาป้องกันตัวเอง เธอค้นของดูก็เจอไฟฉายหนึ่งกระบอก เธอลองเปิดดูและมันก็ยังใช้ได้
สเลนน่าเห็นว่าในห้องมีหน้าต่างอยู่หนึ่งบานเลยรีบวิ่งไปตรงนั้น เธอเห็นว่ามันไม่ได้ล็อคไว้จึงออกแรงดันหน้าต่างที่มีสนิมให้เปิด
เมื่อเปิดหน้าต่างได้ สเลนน่าก็ค่อยๆปีนออกไป ค่อยๆก้าวละก้าวอย่างระมัดระวัง
"สเลนน่า เปิดประตูเดี๋ยวนี้!" เสียงของฮูดดี้ตะโกนมาจากอีกฝั่ง
สเลนน่าไม่รอช้ารีบปีนลงจากชั้นสองของบ้าน เมื่อลงมาถึงพื้นอย่างปลอดภัยแล้ว เธอก็เปิดไฟฉายแล้ววิ่งหนีออกจากที่นั้น
สเลนน่าที่กำลังวิ่งหนีไปจากบ้านหลังนั้น เธอวิ่งผ่านรถกระบะคันหนึ่งที่จอดทิ้งไว้ให้ตากฝน เธอเห็นรถคันนั้นก็คิดในใจว่าอยากจะขับรถหนีไป แต่เธอขับรถไม่เป็นจึงปัดความคิดนั้นทิ้งแล้ววิ่งหนีต่อ
'เสียงกระจกรถแตก'
"กรี๊ด!"
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงกระจกแตกดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้สเลนน่าตกใจแล้วรีบลงไปคุกเข่าที่พื้นและเอามือกุมหัวไว้ เธอหันไปมองรถคันที่เธอพึ่งวิ่งผ่านไปก็เห็นว่ากระจกหน้ารถมันแตกเป็นเสี่ยงๆ และมีขวานหนึ่งด้ามปักอยู่ตรงหน้ารถ
สเลนน่าหันกลับไปดูที่บ้านก็เห็นว่ามีคนยืนอยู่หน้าบ้าน
เค้าสวมฮูดคลุมหัว ใส่แว่นคลอบตาสีส้ม และใส่ผ้าปิดปาก
สเลนน่าแยกไม่ออกว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ก็ไม่ทันที่จะได้คิด สายตาของเธอก็ไปหยุดอยู่ที่มือข้างหนึ่งของเค้าที่ถือขวานไว้ สเลนน่ารู้ทันทีว่าเจ้าของขวานที่ปักอยู่หน้ารถคือใคร
เมื่อเห็นท่าทีของเค้าเหมือนกำลังจะปาขวานอีกด้าม สเลนน่าก็ถึงกับผวา เป้าที่เค้าเล็งไว้คือหัวเธอแน่นอนคราวนี้ เธอไม่คิดอะไรมาก รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีเข้าไปในป่าพร้อมกับไฟฉายหนึ่งกระบอก
"โทบี้ นี่แกทำบ้าอะไรของแกหะ!" แมสกี้วิ่งออกมาแล้วโมโหใส่ชายหนุ่มที่ชื่อว่าโทบี้ เค้าวางขวานลงและหันไปหาแมสกี้
"โทบี้! ถ้ารถฉันเป็นอะไรขึ้นมา แกโดนแน่!" แมสกี้ดึงคอเสื้อของโทบี้อย่างรุนแรง
"แต่เราข-ขโมยร-รถนี้มาไม่ช-ใช่เหรอ? เราห-หาใหม่ก-ก็ได้นิ" โทบี้บอก
"โทบี้ แก..." แมสกี้กัดฟันโมโห และกำลังจะกำหมัดชก แต่ฮูดดี้ก็เข้ามาห้าม
"โทบี้ ผู้หญิงละ?" ฮูดดี้เดินเข้ามาแทรกระหว่างทั้งสองแล้วถามถึงสเลนน่า โทบี้ชี้ไปทางป่าที่สเลนน่าวิ่งไป
"หนีเข้าไปในป่าสินะ" ฮูดดี้มองเข้าไปในป่าลึกที่มืดมิด
"...ฮึ~ฮะฮะ~ ดูเหมือนว่าเราจะได้เล่นวิ่งไล่จับกับเธอแล้วสิ มาเถอะ...ไปเตรียมตัวให้พร้อม เราจะไปตามล่าเธอกัน" แมสกี้บอก ทั้งสามจึงกลับเข้าไปในบ้าน เตรียมของที่จำเป็นสำหรับพวกเค้าใส่กระเป๋า
เมื่อเตรียมตัวเสร็จ ทั้งสามคนก็เดินออกมาจากบ้าน แมสกี้เดินนำหน้า ตามมาด้วยฮูดดี้ และโทบี้ที่เดินไปที่หน้ารถแล้วดึงขวานของเค้าออกมาเก็บไว้ที่ตัวเหมือนเดิม
"ฉันว่าเราควรรีบนะ ในป่าเราไม่รู้ว่าจะมีพวกมันอยู่รึเปล่า" ฮูดดี้บอกแล้วเตรียมปืนของเค้า
"มันนี่ ม-มันไหน?" โทบี้ถาม
"Rake โทบี้ เจ้าพวกตัวประหลาด Rake ที่อยู่ในป่า รอคอยให้คนหลงเข้ามาและจับกิน" ฮูดดี้บอก ส่วนโทบี้ก็เตรียมขวานของเค้าไว้ในมือ แมสกี้เองก็เตรียมแท่งเหล็กของเค้า พร้อมที่จะฟาดใส่หัวพวกมันเพื่อความสะใจ...
"เป็นเพราะพวกมันแท้ๆ ดันเป็นข่าวสะได้" แมสกี้พูดพร้อมกับเหวี่ยงแท่งเหล็กเล่น
"ล่าสุดมันพึ่งจะฆ่ากลุ่มวัยรุ่นที่มาตั้งแคมป์ในป่าไป เลยเป็นข่าวใหญ่โต แล้วเราก็ต้องไปเก็บกวาดงานให้พวกมัน ถ้าเจอพวกมันสักตัว ฉันจะขอหยุมหัวมันสักหน่อย..."
แล้วไม่นานทั้งสามก็เดินหายเข้าไปในป่าลึกมี่มืดมิด ทั้งฝนตกหนักและมีเสียงฟ้าผ่าเป็นระยะๆดังไปทั่วทั้งป่าแห่งนี้...
สเลนน่าวิ่งและส่องไฟฉายไปตามทาง พยายามที่จะหาทางออกจากป่าแห่งนี้ แต่ก็คงไม่ง่าย เธอคิดได้แค่ว่าเธอควรที่จะวิ่งเป็นเส้นตรง คงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้
สเลนน่าวิ่งไปเรื่อยๆ ไม่สนแม้ว่าตอนนี้ฝนเริ่มจะตกหนักขึ้น และรอบๆก็มืด แสงจากไฟฉายก็ไม่ได้สว่างมากนัก แต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย
สเลนน่าวิ่งมาเจอบริเวณลานกว้างที่ไม่มีต้นไม้บดบังท้องฟ้าทำให้บริเวณแห่งนี้ดูสว่างขึ้นมาบ้าง เธอดีใจเล็กน้อยที่ได้เห็นท้องฟ้าเต็มตา ถึงแม้ว่าฝนจะยังตกอยู่ก็ตาม
สเลนน่าเดินมาหยุดอยู่ตรงต้นไม้ต้นหนึ่งเพื่อหยุดพักหายใจ เธอนั่งลงที่พื้นดินแล้วมองไปรอบๆ ดูเหมือนว่าตอนนี้ที่นี่จะมีแค่เธอคนเดียว ชายสามคนนั้นคงไม่ตามมาแล้ว
สเลนน่าถอนหายใจและข่มตาลง เธอรู้สึกเหนื่อยมากตอนนี้
สเลนน่านึกถึงเจย์(ฮูดดี้) ชายหนุ่มที่ช่วยเธอไว้ เธอนึกถึงร้อยยิ้มของเค้า รอยยิ้มที่แสดงถึงความเป็นมิตรของเค้า... แต่รอยยิ้มนั้นก็คงจะเป็นแค่การแสดงตบตาเธอเท่านั้น...
'เสียงขู่'
สเลนน่ารีบลืมตาขึ้นด้วยความตกใจและกลัว เธอรีบฉายไฟไปรอบๆเพื่อหาต้นตอของเสียงที่เธอได้ยิน
เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็ไปสดุดที่พุ่มไม้พุ่มหนึ่งที่อยู่ๆมันก็ขยับเองเหมือนมีตัวอะไรสักอย่างซ่อนอยู่ในพุ่ม
เธอตั้งสติแล้วลุกขึ้น รีบวิ่งออกจากตรงนั้นทันที
'เสียงคำราม'
ไม่นาน เจ้าสิ่งนั้นที่ซ้อนอยู่ในพุ่มไม้ก็วิ่งออกมาด้วยความเร็วและวิ่งตามสเลนน่าไปติดๆ
สเลนน่าได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังวิ่งตามไล่หลังเธอมา เธอหันกลับไปมองก็เจอมัน!
มันมีหน้าตาคล้ายคนอยู่บ้าง แต่ทั้งตัวมันผอมแห้งจนเห็นกระดูก มีเล็บที่ยาวและแหลม มีหน้าตาที่น่ากลัว ทั้งตาโต มีฝันที่แหลม และมันกำลังวิ่งตามหลังสเลนน่ามาไม่หยุด ทำให้เธอต้องรีบเร่งฝีเท้า วิ่งหนีต่อไป
"เห้อๆ! ว-วันนี้มันอะไรกันเนี้ย ตอนแรกก็เจอกลุ่มคนบ้าที่จะฆ่าฉัน และคราวนี้ก็มีตัวประหลาดมาวิ่งไล่ตามฉันอีก!"
สเลนน่าวิ่งไปเรื่อยๆจนมาเจอสะพานยาวที่ไว้ข้ามเหวลึก
สเลนน่ามองสะพานนั้น รู้สึกไม่ไว้ใจ สะพานนั้นดูเก่าพอสมควร
ถ้าสเลนน่าวิ่งไปแล้วสะพานเกิดพังขึ้นมาก็เท่ากับว่าเธอดิ่งลงสู่เหวทันที แต่เธอก็ต้องหนีเจ้าตัวประหลาดที่กำลังจะวิ่งมาถึงเธอ
สเลนน่าตัดสินใจได้แล้วรีบวิ่งข้ามสะพานไม้ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ความซวยก็เกิดขึ้น เมื่อมีแผ่นไม้แผ่นหนึ่งหักตอนที่เธอวิ่งไปถึง ทำให้เธอถึงกับทรุดลงไปบนสะพาน ไฟฉายหลุดมือแล้วล่วงลงไปในเหว
สเลนน่ารีบตั้งสติแล้วลุกขึ้น วิ่งไปต่อจนข้ามสพานได้สำเร็จ
สเลนน่าวิ่งต่อไปเรื่อยๆ แต่เธอก็ต้องหยุดเมื่อเธอวิ่งมาถึงสุดทาง เจอกับหน้าผาที่ข้างล่างนั้นเป็นเหวลึก เธอคิดจะหันหลังกลับแต่ก็ต้องเผชิญกับเจ้าตัวประหลาดที่ตอนนี้มันมาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว...
"ไม่เอาแบบนี้สิ!" สเลนน่ากลัว เจ้าตัวประหลาดนั่นเดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ เธอทำได้แค่ถอยหลังหนี แต่ข้างหลังเธอก็เป็นเหว
"ย-อย่า! กรี๊ด!" สเลนน่าเดินถอยหลังไปเยอะเกินจนตัวเธอหงายหลังตกลงไป แต่โชคดีที่เธอคว้ารากไม้อันใหญ่ที่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักตัวเธอไว้ได้ทัน แต่ตัวเธอก็ต้องห้อยอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าจะยื้อไว้ได้นานขนาดไหน
ในตอนนั้นเธอนึกถึงเจย์ เธออยากให้เค้ามาอยู่ที่นี่ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย!
"เจย์! ช่วยด้วย!"
'เสียงทุบตี'
"หะ?" สเลนน่ารีบเงยหน้าขึ้นไปมองแต่ก็ไม่เห็นอะไร เมื่อกี้เธอได้ยินเสียงทุบตีอะไรบางอย่างจากด้านบน มีเสียงเดินเข้ามาใกล้เธอ เธอหวังให้เป็นคนดีที่ผ่านมาช่วยเธอ แต่ความหวังนั้นก็เหมือนโดนลมพัดหายไปทันทีเมื่อคนที่โผล่มาคือโทบี้
โทบี้เอื้อมมือลงมาช่วย สเลนน่าเองก็แสดงสีหน้าออกอย่างชัดเจนว่าเธอไม่ได้หวังให้เป็นเค้าที่มาช่วย หลังจากที่เค้าพยายามจะฆ่าเธอก่อนหน้านี้ แต่เพราะไม่มีทางเลือก เธอจึงปล่อยให้โทบี้ดึงเธอขึ้นไปโดยไม่ขัดขืน
"โทบี้! นายทำบ้าอะไรของนายอีก" แมสกี้เดินมาดูว่าโทบี้กำลังทำอะไร แล้วก็เจอสเลนน่า
"โอ้ว~ ดูสิว่าใครเอ่ย~" แมสกี้ช่วยโทบี้ดึงตัวสเลนน่าขึ้นมาได้สำเร็จ
เมื่อสเลนน่าขึ้นมาถึงก็เห็นเจ้าตัวประหลาดที่ไล่ตามเธอก่อนหน้านี้ ตอนนี้อยู่ในสภาพที่หัวของมันเละ และมีเลือดไหลออกมาเต็มพื้น
สเลนน่าช็อคกับภาพตรงหน้า
"เยี่ยมมากทิม นายทำให้งานเราเละยิ่งกว่าเดิม" ฮูดดี้พูด มองไปที่แมสกี้ที่ควงแท่งเหล็กที่เปื้อนเลือดเล่น
"โทษที ฮะฮะ~ มือฉันอยู่เฉยไม่ได้น่ะ~" แมสกี้บอกและสะบัดเลือดที่เปื้อนแท่งเหล็กออก สเลนน่าถอยห่างจากเค้า แต่เธอก็ต้องหยุดเมื่อแผ่นหลังของเธอชนเข้ากับอกของโทบี้ สเลนน่ากำลังจะถอยห่างจากเค้า แต่โทบี้ก็จับข้อมือเธอไว้แล้วพาไปหาฮูดดี้
ฮูดดี้เอาผ้าเช็ดหน้าที่ชุบยาสลบไว้เอามาโป่ะใส่สเลนน่า ทำให้เธอรู้สึกมึนๆ แล้วไม่นานเธอก็หลับไป
"ขอโทษนะ แต่เพื่อให้งานของเราง่ายขึ้น" ฮูดดี้บอกและอุ้มสเลนน่าในท่าอุ้มเจ้าสาว หัวของสเลนน่าพิงที่ไหล่ของฮูดดี้ ภาพตรงหน้าทำให้แมสกี้รู้สึกอิจฉา
"เราก-กลับได้รึยัง?" โทบี้ถาม
"ใช่ เรากลับได้แล้ว" ฮูดดี้บอกและเดินนำหน้าทุกคนไปก่อน ตามมาด้วยแมสกี้กับโทบี้ที่ตามหลังไป
และทั้งหมดก็เดินหายไปในป่า ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก...
ติดตามตอนต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น