ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic. Creepypasta นางฟ้าแห่งความตาย [Proxies x oc]

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 1 ตอน วันออกไปเที่ยวสบายๆ รึเปล่า?

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 66


    [ 3rd. Person Pov. ]

         เวลาผ่านไปสองอาทิตย์หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นในปราสาท ความระแวงของทุกคนถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหลังจากที่ได้ฟังเจนเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นตอนที่พวกพร็อกซี้กับแจ็คไม่อยู่

         ในตอนนั้น เจนกำลังทำอาหารอยู่ แล้วเจฟก็วิ่งเข้ามาในห้องครัวในสภาพที่เลอะทั้งตัว และมีมีดปักอยู่ที่หัวใหล่

         เจฟรีบวิ่งไปหลบตรงมุมห้องและพยายามที่จะดึงมีดออก

         "อ้าว...ไปทำอะไรมาละเจ้าเน่า โดนใครกระทืบมา" เจนถาม

         "จะใครละ! ก็เพื่อนตายของเจ้ไง!" เจฟพูด แต่เค้าพยายามพูดให้เบามากที่สุด แล้วมองซ้ายมองขวาเหมือนกำลังหาที่ซ่อน

         เจนยืนงงว่าเจฟกำลังพูดถึงใคร?

         "ทำไมต้องทำตัวเหมือนมีพิรุธด้วย-" เจนถาม

         "เห้ย! เงียบๆหน่อย เดี๋ยวยัยนั้นก็ได้ยิน-"

         'เสียงระเบิด'

         เจฟยังพูดไม่จบก็มีเรื่องเกิดขึ้น กำแพงด้านหลังของเค้าถูกระเบิดพังลงพร้อมกับแรงกระแทกที่ตามมาอย่างรุนแรง ทำให้เจฟและเจนกระเด็นกันไปคนละทาง

         เจนกระเด็นลงไปนอนกับพื้น หน้ากากของเธอหลุดกระเด็นออกไป เผยให้เห็นหน้าที่แท้จริงของเธอ

         เจนพยายามที่จะลุกขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นก็เจอสเลนน่าที่ยืนอยู่ตรงหน้า และมองลงมาที่เธอด้วยดวงตาสีดำที่มืดสนิท

         "ส-สเลนน่า..." เจนเรียก แต่สเลนน่าไม่สนใจและเดินไปหาเจฟที่พยามยามจะคลานหนีเธอ

         "อย่าเข้ามานะเว้ย! " เจฟตะโกนไล่ พยายามคลานถอยจากสเลนน่าที่เดินเข้าไปหาเค้าเรื่อยๆ

         สเลนน่ายกมือขึ้นอย่างช้าๆ แล้วตัวของเจฟก็ลอยขึ้นตาม เจฟเอามือจับที่คอของเค้าไว้ เค้ารู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ออก เหมือนกำลังถูกบีบคอ

         "สเลนน่า!" เจนตะโกนเรียก

         เบ็นทะลุออกมาจากทีวีเมื่อได้ยินเสียงระเบิด เค้ามองสถานการณ์ในตอนนี้ด้วยความวิตกกังวล

         "เจน! เกิดอะไรขึ้น!" เบ็นถาม เค้ามองไปทางสเลนน่าที่ตอนนี้เหมือนกำลังใช้พลังจิตบีบคอเจฟอยู่

         "ฉันไม่รู้ แต่ฉันอยากให้นายรีบพาแซลลี้หนีไปเดี๋ยวนี้!" เจนสั่ง เบ็นจึงรีบบินไปที่ห้องของแซลลี้และรีบพาเด็กสาวออกไป

         เบ็นพาแซลลี้หนีไปทางประตูใหญ่ แต่ก่อนที่จะไปถึง สเลนน่าหันไปทางที่ทั้งสองคนกำลังจะหนีไป เธอมองขึ้นไปตรงโคมไฟใหญ่ที่ห้อยอยู่ข้างบนเพดานห้อง สเลนน่ายกมืออีกข้างขึ้นไปทางโคมไฟ แล้วโคมไฟนั้นก็ล่วงลงไปหาสองคน เบ็นสามารถหลบได้ทัน นั้นทำให้สเลนน่าโกรธ แล้วก็เกิดระเบิดขึ้นตรงประตู ทำให้เบ็นและแซลลี่ได้รับบาดเจ็บแต่ก็สามารถหนีออกไปได้

         เจนรีบลุกขึ้นและพุ่งเข้าไปหาสเลนน่า

         "สเลนน่า!" เจนตะโกนเรียกแล้วพุ่งเข้าไปจะรั้งตัวสเลนน่าไว้ แต่พอเธอกำลังจะเข้าประชิดตัว สเลนน่าก็หันมาหาเธอพอดี พร้อมกับใช้มืออีกข้างผลักตัวเจนให้กระเด็นถอยห่างออกไปอย่างรุนแรง

         ร่างของเจนกระเด็นออกไปและหัวของเธอก็ชนเข้ากับผนังกำแพงอย่างรุนแรงจนทำให้เธอหมดสติไป

         แต่ก็ก่อนที่จะหมดสติไป เจนเห็นร่างของเจฟถูกวางลงกับพื้น แล้วท่านสเลนเดอร์แมนก็โผล่มา เหมือนจะมาหยุดสเลนน่า แล้วเจนก็หมดสติไปหลังจากนั้น...



         "...เรื่องที่ฉันจำได้ก็มีเท่านี้แหละ" เจนบอก ทุกคนที่ฟังแล้วก็ได้แต่นิ่งเงียบ และแจ็คก็พูด

         "...งั้นนั้นก็น่าจะสรุปข้อสงสัยได้บางส่วนแล้ว" ทุกคนหันไปมองแจ็คที่กำลังประมวลผลเรื่องทั้งหมด

         "ว่าทำไมสเลนเดอร์แมนถึงสั่งให้พวกพร็อกซี้ไปพาสเลนน่ามา ทำไมเค้าถึงไม่ฆ่าเธอ ทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่จนถึงตอนนี้ได้... นั้นเพราะเธอไม่ใช่คนปกติ เธอเหมือนกับพวกเรา creepypasta" แจ็คพูดสรุป ทุกคนถึงกับอึ้ง

         "แล้วทำไมท่านสเลนเดอร์แมนถึงไม่บอกพวกเราตั้งแต่แรกละ?" เบ็นถาม ทุกคนเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน

         "ใครจะรู้ สเลนเดอร์แมนสามารถอ่านใจเราได้ แต่เราอ่านใจเค้าไม่ได้" แมสกี้พูดพร้อมกับใช้ไฟแช็คจุดไฟที่บุหรี่ของเค้า

         ในขณะเดียวกัน สเลนน่าที่ตอนนี้อยู่ในห้องน้ำ กำลังอาบน้ำอุ่นที่สเลนเดอร์แมนเตรียมไว้ให้เธอ

         ระหว่างแช่น้ำอยู่ สเลนน่าก็คิด จริงๆแล้วเธอไม่ใช่คนปกติงั้นเหรอ?

         "เป็นยังไงบ้างสเลนน่า สบายตัวมั้ย?สเลนเดอร์แมนถามจากอีกฝั่ง

         "ไม่... น-นู๋ทำร้ายเจน เบ็น แล้วก็แซลลี้ (ไรท์: แล้วเจฟละลูก?)" สเลนน่าพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมา สเลนเดอร์แมนเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปหาสเลนน่าและลูบหัวเธอเบาๆ

         "สเลนน่า… เธอไม่ใช่คนเดียวที่เคยทำเรื่องแบบนั้นหรอกนะ ทุกคนที่นี่ก็เคยฆ่าหรือสู้กันเองมาแล้วหลายครั้ง ก่อนที่ฉันจะพาพวกเค้ามาที่นี่" พูดเสร็จ สเลนเดอร์แมนก็เริ่มเล่าเรื่องของทุกคนให้สเลนน่าฟัง

         ทุกคนที่นี่ต่างก็มีที่มาที่ดาร์กสุดๆ เจฟที่เคยฆ่าครอบครัวของตัวเอง เบ็นที่ถูกกลั่นแกล้ง แซลลี่ที่ถูกลุงแท้ๆของเธอทำร้าย และเรื่องราวของคนอื่นๆอีกมากมาย

         "ฉันเองก็เคยมีปัญหากับพวกน้องๆบ่อย บ้านแตกทุกครั้ง ฮะฮะ~" เหมือนสเลนน่าจะใจเย็นลงเล็กน้อยหลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมด สเลนเดอร์แมนลูบหัวเธอแล้วพูดต่อ

         "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอปลอดภัยเมื่ออยู่ที่นี่..." สเลนน่าเงียบ ไม่พูดอะไร แค่ผงึกหัวให้เค้ารู้ว่าเธอเข้าใจสิ่งที่เค้าพูด

         สเลนเดอร์แมนกำลังจะไปเอาเสื้อให้สเลนน่าแต่ก็โดนเธอดึงแขนเสื้อไว้ให้อยู่ก่อน

         "...คุณสเลนเดอร์แมน...คือ…นู๋อยากถามว่า...จริงๆแล้ว...นู๋…" สเลนน่าถามตะกุตะกะ เห็นอย่างงั้นสเลนเดอร์แมนจึงพูดสิ่งที่สเลนน่าจะถามเค้าจากการอ่านความคิดของเธอ

         "จะถามว่าเธอเป็นเหมือนพวกเรารึเปล่าเหรอ?" สเลนเดอร์แมนถาม สเลนน่าผงึกหัว บอกว่าใช่

         "เธอคือคนพิเศษสเลนน่า ไม่ต้องกลัว...ต่อจากนี้ฉันจะปกป้องเธอและฝึกคัดเกลาเธอเอง เธอจะอยู่ในการดูแลของฉันต่อจากนี้..." พูดเสร็จ สเลนดเดอร์แมนเอาหน้าผากของเค้าชนกับหน้าผากของสเลนน่าเบาๆ และดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้ สเลนน่าเค้ากลับพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความสบายใจ...



         หลังจากนั้นมา สเลนน่าใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับสเลนเดอร์แมน

         สเลนน่าย้ายไปอยู่ห้องใต้ดินที่อยู่ลึกลงไป ในห้องมีเตียง ตู้เสื้อผ้า ห้องอาบน้ำหนึ่งห้อง และโต๊ะกับเก้าอี้ตั้งอยู่กลางห้อง

         สเลนเดอร์จะให้สเลนน่านั่งอยู่ในห้อง แก้ปริศนาที่เค้าเตรียมไว้ให้เธอ และปริศนาในแต่ละวันก็จะแตกต่างกันออกไป จากง่ายไปยาก

         เวลาที่สเลนน่าอยากจะออกไปข้างนอก เธอต้องได้รับอนุญาตจากสเลนเดอร์แมนก่อน และก็ต้องมีพร็อกซี้อย่างน้อยหนึ่งคนตามเธอไปทุกครั้ง

         แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่แสนธรรมดา(?) ทุกคนต่างแยกย้ายไปทำธุระของตัวเอง

         สเลนเดอร์แมนที่ตอนนี้อยู่ในห้องของเค้า กำลังเขียนจดหมาย พอเขียนเสร็จสเลนเดอร์แมนก็ใส่ในซองจดหมายและเขียนชื่อของเค้า ลงชื่อผู้ส่ง

         สเลนเดอร์แมนวาร์ปไปที่หน้าห้องของเบ็นและเคาะประตูเรียก

         "หืม? โอ้ว!ท่านสเลนเดอร์แมน มีอะไรรึเปล่าครับ?" เบ็นเปิดประตูออกมาแล้วทักทาย สเลนเดอร์แมนยื่นซองจดหมายให้ เบ็นก็รับซองนั้นมาแบบงงๆ

         "ฉันอยากให้นายเอาจดหมายนี้ไปส่งให้ใครบางคนเบ็นดูที่ซองจดหมายแล้วถาม

         "อืม...แล้วใครละครับ?" 

         "THE NURSE ANN"



         เจนที่ตอนนี้อยู่ในครัว กำลังเตรียมอาหารกลางวันให้ทุกคน เจนได้ยินเสียงเดินเข้ามาในห้องครัว เธอหันไปกูก็เจอสเลนเดอร์แมนยืนอยูข้างหลังเธอแล้ว

         "ชาของฉันได้รึยังเจน?สเลนเดอร์แมนถาม ก่อนหน้านี้เค้าได้ขอให้เจนทำชาให้เค้าดื่ม

         "เสร็จแล้วค่ะ อยากให้ฉันเอาไปให้ที่ห้องของคุณมั้ย?" เจนถามพร้อมกับวางกาน้ำและถ้วยชาบนถาดอาหารที่เตรียมไว้

         "ไม่จำเป็น เดี๋ยวฉันยกไปเอง เธอเตรียมอาหารกลางวันให้เสร็จเถอะ เดี๋ยวคนอื่นๆก็คงจะกลับมาแล้ว" พูดเสร็จ สเลนเดอร์แมนก็ยกถาดออกไป และเดินลงไปที่ห้องใต้ดินที่สเลนน่าอยู่

         สเลนเดอร์แมนเปิดประตูเข้าไปก็เห็นสเลนน่ากำลังนั่งแก้โจทย์ปัญหาอยู่ เมื่อเธอได้ยินเสียงเปิดประตูก็หันกลับมาดู พอเห็นว่าเป็นสเลนเดอร์แมนที่เปิดประตูเข้ามา สเลนน่าจึงวางทุกอย่างลง

         "เป็นยังไงบ้างสเลนน่า แก้โจทย์ได้มั้ย" สเลนเดอร์แมนเดินเข้าไปดูและวางถาดลงบนโต๊ะ

         "ไม่...รู้บางข้อค่ะ" สเลนน่าพูดและเกาหัว

         "ไม่เป็นไรสเลนน่า ค่อยๆทำไป แต่ตอนนี้มาดื่มชาด้วยกันก่อนสิสเลนเดอร์แมนบอกและจัดถ้วยชาต่างๆลงบนโต๊ะ แล้วก็ชวนสเลนน่าให้มานั่งดื่มชากับเค้า

         "อยากได้ชาแบบไหนละ?" สเลนเดอร์แมนถาม รินชาลงในทั้งสองถ้วย

         "ชาที่ใส่นมเยอะๆ" สเลนน่าบอกและนั่งลงตรงข้ามกับสเลนเดอร์แมน

         "มันจะไม่หวานจนเกินไปเหรอ? อยากลองดื่มแบบเพียวๆดูมั้ย?สเลนเดอร์แมนถาม

         "ไม่ค่ะ นู๋ดื่มพวกชาหรือกาแฟไม่ได้ถ้าไม่ใส่นม"



         สเลนน่าตอนนี้กำลังนั่งวาดรูปเล่นอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงคนเดินลงมาทางบันได เสียงมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้อง คนที่อยู่อีกฝั่งก็เคาะประตูเรียก

         "ส-สเลนน่า" เมื่อได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคย สเลนน่าก็รีบไปนั่งพิงที่ประตู คุยกับคนที่อยู่อีกฝั่ง

         "โทบี้ นั้นนายเหรอ?" สเลนน่าถาม เอาหูแนบกับประตูฟัง

         "ช-ใช่ ฉันเอง" อีกฝั่งนึงของประตูก็คือโทบี้ เค้านั่งลงกับพื้น แล้วเริ่มคุยกับสเลนน่า

         "ธ-เธอเป็นยังไงบ-บ้างพ-พักนี้?" โทบี้ถาม

         "ก็ดี แล้วนายละ?" สเลนน่าถามกลับ

         แล้วทั้งสองคนก็คุยกัน

         จนกระทั้ง…

         "ตอนว่างๆ ฉันก็วาดรูปนายด้วยนะ " สเลนน่าบอกและส่งรูปวาดให้โทบี้ สอดไปใต้ประตู โทบี้หยิบกระดาษขึ้นมาแล้วดู เป็นรูปวาดที่ตัวเค้าไม่ได้สวมฮูดและก็ไม่ได้สวมแว่นตา

         "ธ-เธอวาดฉันเหรอ?!" โทบี้ถาม

         "อื้ม! ฉันวาดนาย มันเหมือนนายมั้ย?" สเลนน่าถามกลับ

         "ส-สุดยอด! ม-มันเหมือนฉันม-มากเลยละ!" โทบี้พูดชมแล้วก็เก็บกระดาษ ยัดใส่กระเป๋ากางเกงไว้

         "และฉ-ฉันอยากจะถ-ถามเธอย-อย่างนึง" โทบี้บอก

         "อะไรเหรอ?" สเลนน่าถาม

         "พ-พรุ่งนี้ธ-เธออยากจะไปข้างนอกม-มั้ย" โทบี้ถาม ทำให้สเลนน่าแปลกใจเล็กน้อย

         "ข้างนอกนี่...นายหมายถึงที่ไหนเหรอ?" สเลนน่าถามเพื่อความแน่ใจ

         "ฉันอยากจะพาเธอออกไปข้างนอก เห็นเธออยู่แต่ในห้อง ไม่ได้ออกไหนอีกเลยหลังจากวันนั้น..." สเลนน่าคิด ก็จริงอย่างที่โทบี้พูด หลังจากวันนั้นที่เธอออกไปเดินเล่นข้างนอกแล้วก็มีเรื่องเกิดขึ้น เธอก็ไม่ได้ออกไปไหนอีกเลย

         "ฉันก็เลยไปขอท่านสเลนเดอร์แมน ก็ยังไม่ได้คำตอบหรอกว่าเค้าจะอนุญาตมั้ย แต่มาถามเธอไว้ก่อน"

         "เราจะเข้าไปในเมืองก-กันสี่คน มีเธอ ฉ-ฉัน แมสกี้ และก็ฮูดดี้ " โทบี้พูดเสร็จ สเลนน่าก็รู้สึกดีใจขึ้นมา เธอมีโอกาสจะได้กลับไปที่บ้านงั้นเหรอ

         "ที่จริงตอนแรกจะม-มีแค่เราสองคน ต-แต่ท่านสเลนเดอร์ม-แมนอยากให้สองคนนั้นไปด้วย เพื่อความป-ปลอดภัย" โทบี้บอก เสียงฟังดูเหมือนเค้ารู็สึกเซ็งที่ไม่ได้ไปกับสเลนน่าแค่สองคน สเลนน่าที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกแปลกๆตรงอกพอโทบี้บอกว่าพวกเค้าควรจะได้ไปด้วยกันสองคน

         "ถ้าไปกันแค่สองคน..." สเลนน่าคิดแล้วก็เริ่มรู้สึกเขินขึ้นมาทันทีทันใด

         "ต-แต่ไปด้วยกันหลายคนก็สนุกดีนะ" สเลนน่ารีบปัดความคิดนั้นไป

         "แล้ว...ธ-เธอจะไปมั้ย?" โทบี้ถามอีกครั้ง

         "ป-ไปสิ" สเลนน่ารีบตอบตกลงทันที่

         "โอเค ถ้าง-งั้นเจอกันพรุ่งนี้ช-เช้า ฝันดีนะ" โทบี้พูดทั้งยิ้มใต้หน้ากาก

         "อื้ม ฝันดีจ๊ะ" ทั้งสองคนบอกลาเสร็จ โทบี้ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ส่วนสเลนน่าก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เตียงและนอนลงไป

         โทบี้เดินกลับไปที่ห้องของพร็อกซี้ เปิดประตูเข้าไปก็เจอกับแมสกี้และฮูดดี้ที่กำลังนั่งเล่นไพ่กันอยู่

         "ฉันชนะ" ฮูดดี้พูด

         "โถ่เว้ย..." แมสกี้พูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย ทั้งสองคนวางไพ่โดยที่ฮูดดี้เป็นฝ่ายชนะ

         "มาได้พอดีเลยโทบี้ ท่านสเลนเดอร์แมนบอกว่าถ้าพรุ่งนี้นายอยากจะพาสเลนน่าไป เค้าอนุญาตแล้ว" ฮูดดี้บอกและลุกขึ้น เก็บกองไพ่และวางไว้ในที่ๆของมัน โทบี้ดีใจยิ้มกลิ่มใต้หน้ากาก ฮูดดี้สั่งเกตว่าโทบี้ดูคึกครื้นก็เลยถาม

         "ทำไมนายดูมีความสุขกว่าครั้งไหนๆที่นายกวนทิมสะอีก มีเรื่องอะไรดีๆงั้นเหรอโทบี้?" โทบี้เมื่อโดนถามแบบนั้น เค้าก็รู้สึกแปลกๆตรงอก เหมือนครั้งก่อนที่โดนเจนถาม

         "ก-ก็สเลนน่าบอกว่าจ-จะไปด้วยน-น่ะ" โทบี้บอก แมสกี้ที่แอบฟังอยู่ก็สนใจขึ้นมา

         "สเลนน่าเหรอ? เห็นพักนี้พวกนายดู...สนิทกันนะ" ฮูดดี้พูด แมสกี้ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกฉุนขึ้นมา กำหมัดแน่น

         "ก็ธ-เธออยู่คนเดียวท-ทั้งวัน นั่งทำโจทย์ปัญหาที่โต๊ะบ-แบบนั้นมันก็น่าเบื่อจะตาย ฉ-ฉันก็เลยป-ไปอยู่เป็นเพื่อน เธอจะด-ได้ไม่เหงา" โทบี้บอก ระหว่างที่เค้าพูดไปก็รู้สึกแปลกๆตรงแก้มของเค้า ทำให้โทบี้สงสัย นี่เค้ากำลังเขินเหรอ? ถ้าใช่ ดีนะที่เค้าใส่หน้ากากปิดหน้าไว้อยู่

         "งั้นเหรอ..." แมสกี้พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งแต่ฟังดูน่ากลัว โทบี้ได้ยินแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าแมสกี้อารมณ์ไม่ดี เค้าจึงเงียบ ไม่พูดต่อ ฮูดดี้รู้ว่าถ้าโทบี้พูดต่อ ห้องคงเละแน่ เค้าเลยเปลี่ยนเรื่อง

         "...เดี๋ยวฉันจะไปเช็ครถที่จะใช้เดินทางพรุ่งนี้ พวกนายก็มาด้วยกันสิ" ฮูดดี้บอกแล้วเดินนำออกไปก่อน โทบี้ล้วงกระเป๋ากางเกง เอารูปที่สเลนน่าวาดให้คลี่ออก วางไว้บนเตียงของเค้าและรีบออกจากห้อง เดินตามฮูดดี้ไป

         แมสกี้หาขวดยาของเค้า พอเจอก็เก็บมาไว้กับตัวและกำลังจะเดินออกไปจากห้อง

         ก่อนออกไป สายตาของแมสกี้ไปสดุดอยู่ที่รูปวาดที่โทบี้ทิ้งไว้ แมสกี้หยิบกระดาษนั้นขึ้นมาดู เห็นลายเซ็นชื่อที่เขียนว่า 'สเลนน่า' บนรูปวาดที่คล้ายโทบี้

         แมสกี้ยืนนิ่งไปและกำกระดาษนั้นไว้แน่น เค้าอยากจะฉีกมันทิ้ง แต่นี่เป็นรูปที่สเลนน่าเป็นคนวาด เค้ายอมวางมันลงที่เตียงและเดินออกไปพร้อมความรู้สึกอิจฉา...



         เข้าวันต่อมา สเลนน่าเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับนุ่งผ้าเช็ดตัวและเดินไปหยิบเสื้อที่เจนเตรียมไว้ให้

         เธอใส่เสื้อแขนยาวสีขาว กระโปรงยาวถึงเข่าสีดำ สวมถุงมือสีดำ ใส่ถุงน่องสีดำและรองเท้าบูทน้ำตาลอ่อน

         พอแต่งเสร็จ เจนก็เปิดประตูเข้ามาหาพอดี

         "แต่งตัวเสร็จแล้วใช่มั้ยสเลนน่า" เจนถาม เดินเข้าไปหาสเลนน่าที่กำลังดูตัวเองในกระจก

         "เสร็จแล้วจ้ะ แล้วนี่พวกเค้ารอฉันอยู่เหรอ?" สเลนน่าถาม พูดถึงพวกพร็อกซี้

         "ช่าย…แต่ไม่ต้องรีบหรอกนะ" เจบบอกและนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้...



    20 นาทีก่อนหน้านี้

         เจนเดินอออกมาจากห้องของตัวเอง กำลังจะเดินไปที่ห้องใต้ดินที่สเลนน่าอยู่ เธอเดินผ่านพวกพร็อกซี้พอดี เจนเห็นพวกเค้าก็ถึงกับถอนหายใจ

         "พวกพร็อกซี้นี่ไม่คิดจะเปลี่ยนชุดบ้างรึไง?" เจนคิดในใจ เดินลงไปหาพวกเค้า มองตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งสามหนุ่มเห็นเจนยืนกอดอกมองพวกเค้าอยู่นาน แมสกี้เลยพูด

         "มีอะไรเจน?" แมสกี้ถาม

         "เห้อ...นี้พวกนายไม่คิดจะเปลี่ยนชุด ใส่อย่างอื่นบ้างรึไง?" เจนถาม ดูเสื้อของพวกเค้าแต่ละคนที่ลุยภารกิจมาหลายครั้งจนตอนนี้มันแถบจะกลายเป็นเสื้อผ้าเก่าไปแล้ว

         "แล้วหน้ากากเนี่ย! จะใส่ทำไม ทั้งที่ยังไงก็ต้องออกไปเดินในที่สาธารณะน่ะ จะปล่อยให้สเลนน่าไปเดินคนเดียวรึไง?" เจนพูดพร้อมชี้ไปที่พวกเค้าทั้งสามเป็นรายบุคคล

         "ไม่เห็นเป็นอะไรเลย แค่ถอดออกก่อนลงจากรถ แค่นั้นเอง" แมสกี้บอก หยิบแท่งบุหรี่ออกมาสูบ

         เจนกุมขมับก่อนที่เธอจะนึกอะไรดีๆขึ้นมาได้

         "เห้อ~ งั้นก็เสียดายความน่ารักของสเลนน่าสะเปล่า~" เจนพูด หลอกล่อชายทั้งสามคน

         "หะ? เมื่อกี้เธอพูดว่า…" แมสกี้ถาม เจนยิ้มเจ้าเล่ห์ เห็นว่ามีเหยื่อติดเบ็ดแล้ว เลยพูดต่อ

         "อ้อ~ พอดีก่อนหน้านี้ฉันไปหาสเลนน่า แล้วเธอบอกว่าอยากจะแต่งตัวสวยๆออกไปข้างนอกกับพวกนาย เธอก็เลยขอให้ฉันเลือกชุดให้ แล้วตอนนี้เธอก็คงกำลังแต่งตัวอยู่ คงจะดูไม่ดีเนอะถ้าผู้หญิงน่ารักๆอย่างสเลนน่า จะไปข้างนอกกับผู้ชายสามคนที่แต่งตัวแบบ..." เจนขำคิกคัก มองพวกผู้ชายทั้งสามคนที่ยืนมองสภาพตัวเอง ทั้งที่ความจริงคือเธอเป็นคนกล่อมให้สเลนน่าหาชุดดีๆใส่ไปข้างนอกเอง

         (สรุปที่นางเจนพูดไปเมื่อกี้คือนางแต่งเรื่องขึ้นค่ะ555)

         "ฉ-ฉันคิดว่าฉันจ-จะกลับไปที่ห้องแล้วป-เปลี่ยนเสื้อก่อนนะ!" โทบี้พูดแล้วรีบวิ่งขึ้นห้องไป

         "เออ...ฉ-ฉันว่าฉันจะหาชุดที่สีเดียวกันกับซันชายน์ใส่ดีกว่า เราจะได้คู่กัน" แมสกี้บอกแล้วรีบเดินตามโทบี้ไปที่ห้อง เจนยิ้มอย่างมีชัยที่ได้เหยื่อติดเบ็ดตั้งสองคน แต่ก็น่าเสียดายที่ยังมีเหยื่ออีกคนที่ยังไม่ติดกับดัก เธอหันกลับไปมองฮูดดี้ที่ยังคงยืนอยู่เฉยๆ ไม่ขยับไปไหน

         "แล้ว~นายไม่คิดจะเปลี่ยนชุดกับพวกเค้าบ้างเหรอ?" เจนถาม ฮูดดี้แค่ยักไหล่และพูด

         "ฉันแต่งตัวแค่นี้ก็พอแล้ว" ฮูดดี้บอกแล้วกำลังจะเดินออกไปแต่เจนก็ดึงฮูด รั้งเจ้าตัวไว้ก่อน

         "แต่สเลนน่าตั้งใจแต่งตัวสวยๆเพื่อนายเลยนะ เพราะนายเคยช่วยเธอไว้ตอนอยู่ในป่า" เจนพยายามหลอกล่อฮูดดี้ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล

         "งั้นก็บอกสเลนน่าว่าเธอไม่จำเป็นที่จะต้องแต่งตัวเซ็กซี่เพื่อเอาใจฉันหรอก" ฮูดดี้บอก เจนเลยเครียดทันที

         "จะบ้ารึไง! สเลนน่าเนี่ยนะแต่งตัวเซ็กซี่ อีกอย่าง วันนี้อากาศหนาว ใครที่ไหนจะแต่งตัวโชว์เนื้อหนังออกจากบ้านละ" เจนบอกแล้วฉุดกระชาก ดึงตัวฮูดดี้กลับไปที่ห้องของเค้า

         "เจน! เธอทำอะไร!-"

         "นายก็ต้องเปลี่ยนชุดด้วย!" แล้วเจนก็ลากฮูดดี้เข้าห้องไป จัดการเลือกชุดให้พวกพร็อกซี้

         แต่งตัวให้พวกพร็อกซี้เสร็จ เจนก็รีบไปเจอสเลนน่าที่ห้องใต้ดินทันที...



    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    กลับมาปัจจุบัน

    [ สเลนน่า POV. ] (หลังจากที่ไม่ได้แต่งในมุมมองของน้องมานาน)

         ฉันนั่งอยู่ในห้อง เจนกำลังแต่งหน้าให้

         "แล้ว…เรียบร้อย~" เมื่อแต่งเสร็จ ฉันมองตัวเองในกระจก ว้าว! เจนทำได้ดีมากๆเลย

         ฉันลุกจากเก้าอี้ ขอบคุณเจนและเดินไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับเธอ

         เมื่อไปถึง พวกพร็อกซี้ทั้งสามก็รออยู่ แต่…

         ฉันมองพวกเค้าด้วยความตลึง เกินความคิดขึ้นในหัว นี่ใช่พวกเค้าจริงๆเหรอ!

         ทิม(แมสกี้)ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีแดง สวมผ้าพันคอสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ ร้องเท้าบูทสีดำ และเค้าก็ถอดหน้ากาก เผยให้เห็นผมและดวงตาสีน้ำตาลของเค้า

         ฮูดดี้ ตอนนี้ก็ถอดหน้ากากแล้วเช่นกัน เผยให้เห็นผมและดวงตาสีน้ำตาลของเค้า สวมหมวกไหมพรมสีดำ ใส่เสื้อกันหนาวลายสีดำตัดเหลือง กางเกงยีนส์น้ำเงิน มีรอยขาดๆเป็นสไตล์ ใส่รองเท้าบูท

         และโทบี้ สวมผ้าปิดปากสีขาว ใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์น้ำเงินเข้ม และรองเท้าสนิกเกอร์

         พวกพร็อกซี้ทำหน้าประหลาดใจทันทีเมื่อเห็นฉัน

         "พวกเค้ามองอะไรอยู่ ฉันเหรอ?" ฉันคิด รีบสำรวจตัวเอง ฉันแต่งตัวแบบนี้แล้วไม่เหมาะเหรอ?

         แมสกี้ละสายตาจากฉันและเดินออกไปก่อน

         "สเลนน่าแต่งตัวเสร็จแล้ว ดูแลเธอดีๆละ" เจนบอกและยื่นกระเป๋าใบหนึ่งให้ฮูดดี้

         "ฉันเตรียมทั้งอาหารกลางวัน ของใช้ส่วนตัวที่ควรมี ไว้ให้ในกระเป๋าแล้ว" เจนบอก ส่วนฉันก็เดินออกไปรอข้างนอก

         เดินออกไปข้างนอกก็เจอแมสกี้ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่

         ฉันมองแมสกี้จากไกลๆ ดูเหมือนเค้ากำลังคิดอะไรอยู่

         ฉันเดินเข้าไปหาแมสกี้อย่างกล้าๆกลัวๆ เดินไปไม่มีกี่ก้าวเค้าก็หันมาหาฉันและส่งยิ้มให้ แล้วเค้าก็เป็นฝ่ายเดินมาหาฉันแทน

         "ว่าไงซันชายน์~ เธอสวยมากเลยนะวันนี้" แมสกี้ชมฉันพร้อมกับยื่นมือมาลูบแก้มฉันเบาๆ ฉันยืนนิ่ง เขินที่เมื่อเค้าชม แต่เขินได้ไม่นานเมื่อควันบุหรี่ลอยมาเตะที่จมูกฉัน ทำให้ฉันรีบสบัดหน้าหนีแล้วจามออกมา

         "โทษทีนะซันชายน์" แมสกี้หยิบบุหรี่ออกจากปากแล้วหันไปทางอื่นเพื่อเป่าควันออกไป ฉันสงสัย? ทำไมแมสกี้ชอบสูบบุหรี่นะ?

         "แคก!แคก! ค-คุณชอบสูบบุหรี่เหรอ?" ฉันถาม เค้ายิ้มอย่างมีเรศนัยก่อนที่จะตอบ

         "สูบเฉพาะตอนที่ฉันเครียดน่ะ มันทำให้ฉันสบายใจขึ้นเยอะ" แมสกี้บอก ปากคาบบุหรี่ สูบต่อ

         "ทำไมเธอไม่ใส่สีแดงละซันชายน์?" แมสกี้ถาม ฉันมองดูตัวเองแล้วถามกลับ

         "ฉันใส่สีแดงดูดีกว่าเหรอ?"

         "เปล่า~ แค่คิดว่าเธอควรจะใส่สีแดง เราจะได้คู่กัน" พูดเสร็จเค้าก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วมองตาฉัน ฉันรีบหันหน้าหนี รู้สึกว่าหน้าฉันตอนนี้คงแดงมาก

         "ฮะฮะ~เธอนี่น่ารักจริงๆซันชายน์" แมสกี้พูดแหย่ฉัน

         "ทำไมเค้าถึงเรียกฉันว่าซันชายน์ที่แปลว่าพระอาทิตย์นะ?" ฉันสงสัย

         "คือ…ทำไมคุณ-"

         "ไม่ต้องใช้คำว่า 'คุณ' เธอเรียกฉันว่าคุณอย่างกับว่าฉันแก่กว่าเธอสิบปียังไงอย่างงั้นน่ะ" แมสกี้ชิงตัดหน้าพูดก่อน ฉันสตั้นไปแป๊บนึง เวลาฉันเรียกใครสักคนว่า 'คุณ' คือฉันกำลังบอกเค้าว่าเค้าแก่เหรอ?

         "เออ...คือ ทำไมนายถึงเรียกฉันว่าซันชายน์?" ฉันถาม

         "...เพราะว่า-"

         "เรามาแล้ว รอนานมั้ย?" แมสกี้ยังพูดไม่เสร็จ ฮูดดี้กับโทบี้ก็เดินเข้ามาหาพวกเรา แมสกี้ทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วเหยียบทิ้ง และเดินไปที่รถ นั่งที่คนขับ

         "ช-ขึ้นรถสเลนน่า ธ-เธอนั่งข้างล-หลังกับฉันนะ" โทบี้บอกและจูงมือพาฉันไปขึ้นรถ พวกเราทั้งสี่คนขึ้นไปนั่งบนรถ และแมสกี้ก็สตาร์ทรถ ขับออกไป

         "ไปข้างนอกให้สนุกละ!" ฉันมองออกไปทางกระจกก็เจอเจนกับแซลลี่เดินออกมาส่งพวกเรา

         "ดูแลสเลนน่าด้วยละ ถ้าสเลนน่าไม่กลับมากับพวกนาย สเลนเดอร์แมนฆ่าพวกนายแน่! " เจนตะโกนบอกพร้อบกับโบกมือลา แล้วแมสกี้ก็ขับรถออกไป

         ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถ ฉันกับโทบี้ก็นั่งคุยกันตลอดทาง

         "ฉ-ฉันหวังว่าเราจะเจอร้านข-ขายวาฟเฟิลอร่อยๆระว-หว่างทางนะ!" โทบี้พูดอย่างตื่นเต้น

         "ฉันว่าต้องมีสักร้านแน่นอน" ฉันบอก

         "เราพาซันชายน์มาเที่ยว ไม่ได้มาซื้อของกินตามใจนาย โรเจอร์" แมสกี้บอก ตามองทางขับรถไปด้วย แต่ก็มีส่งสายตาที่ไม่สบอารมณ์ผ่านทางกระจกไปทางโทบี้

         โทบี้แอบเตะที่เบาะที่นั่งของแมสกี้เป็นครั้งคราว ทำให้ทั้งสองคนทะเลาะกันจนต้องจอดข้างทาง และให้ฮูดดี้เป็นคนมาขับรถแทน

         "นายอยากมีปัญหากับฉันรึไงโรเจอร์!" หลังจากที่เปลี่ยนที่นั่งกันเสร็ แมสกี้มานั่งข้างหลังอีกคน ตอนนี้เราสามคนนั่งเบียดกันอยู่ด้านหลังในขณะที่ข้างหน้ามีแค่ฮูดดี้ที่กำลังขับรถอยู่

         "ฉ-ฉันก็แค่แหย่นายเล่นๆเท่านั้นอ-เอง แล้วทำไมน-นายต้องมาน-นั่งข้างหลังเบียดพวกเราด-ด้วยละ!" แล้วทั้งสองคนก็เริ่มทะเลาะกันอีกครั้ง ฉันนั่งอยู่ริมซ้าย ทำได้แค่นั่งหดตัวลง รับแรงกระแทกจากทั้งสองหนุ่มที่ตีกัน

         ฮูดดี้เห็นว่าข้างหลังเริ่มมีเรื่องกันแล้ว เค้าเลยลดที่พิงเบาะลงและบอกให้ฉันคลานข้ามมานั่งข้างหน้ากับเค้า ฉันเลยใช้โอกาสรีบคลานไปนั่งข้างหน้ากับเค้า ปล่อยให้สองคนนั้นตีกันต่อไป

         พอฉันข้ามมานั่งข้างหน้ากับฮูดดี้ได้แล้ว เค้าก็ยื่นหูฟังข้างนึงมาให้ฉัน ฉันรับมาแล้วใส่ฟัง ฮูดดี้เปิดเพลงที่ฉันเคยฟังเมื่อนานมาแล้ว และเป็นแนวที่ฉันชอบ

         "นายฟังเพลงแนวนี้ด้วยเหรอ?" ฉันถามด้วยความแปลกใจ

         "ฉันฟังหลายแนว แต่ฟังเพลงแนวนี้บ่อยสุด" ฮูดดี้หันมามองฉันแล้วยิ้มให้ มันทำให้ฉันนึกถึงตอนที่เค้ายังใช้ชื่อว่าเจย์ นึกถึงตอนที่เค้ายิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร ทำให้ฉันรู้สึกเขิน

         ฉันรีบหันหน้าหนีเพื่อไม่ให้ฮูดดี้เห็นหน้าของฉันที่ตอนนี้น่าจะเริ่มแดงแล้ว

         แล้วฉันก็หลับตานอนฟังเพลงตลอดทาง...



         ฉันลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีคนเอานิ้วมาจิ้มที่แก้มของฉัน หันไปมองก็เจอโทบี้ที่ยังไม่หยุดจิ้มแก้มฉันสักที

         "โอเค...ฉันตื่นแล้ว" ฉันขยี้ตา มองออกไป ตอนนี้เราอยู่ที่ห้างขนาดใหญ่

         "ตื่นได้แล้วซันชายน์ เราถึงแล้ว" แมสกี้บอก เปิดประตูรถลงไปก่อน

         ฉันเปิดประตูรถ ลมหนาวตีเข้าหน้า ฉันมองไปรอบๆ สูดอากาศเข้าปอด นานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่ได้ออกมาข้างนอกจริงๆ

         "แล้ว…ไงต่อ?" ฉันถาม ในขณะเดียวกันลมก็แรงเหลือเกิน!

         "พามาเดินเล่นที่ห้าง เผื่อซันชายน์อยากได้อะไร-"

         "อี๊ฟ!" ฉันร้องเสียงหลงเพราะลมพัดมาแรงมากๆ ทำให้กระโปรงฉันบานลอยขึ้นมา ฉันรีบเอามือดึงลงทันที

         "เห้อ...เอะ?" ฉันพึ่งรู้ตัวว่าเมื่อตอนที่กระโปรงฉันบานขึ้น สามหนุ่มนั้นยืนอยู่ข้างหลังฉัน

         ฉันหันไปหาพวกพร็อกซี้ที่ตอนนี้ยืนมองฉันและแก้มของพวกเค้าเริ่มออกสีชมพู

         "...อย่าบอกนะว่า..." ฉันว่าตอนนี้หน้าของฉันคงแดงเป็นมะเขือเทศแล้ว

         "เมื่อกี้พวกนาย..." ฉันพูด มือก็จับกระโปรงไว้แน่น หวังว่าพวกเค้าจะไม่ได้เห็นใต้กระโปรงฉันนะ

         "อ-เออ...เปล่าๆ ม-เมื่อกี้ฉันไม่ได้เห็นอะไร" โทบบี้พูดอย่างเลิ่กลั่ก

         "ไม่นิ กระโปรงเธอยาวพอ" ฮูดดี้พูดและรีบหันหน้าไปทางอื่น

         "สีขาว~" แมสกี้พูดทั้งยิ้มเจ้าเล่ห์ ฉันยืนหน้าแดงก่ำ สรุปพวกเค้าเห็นกกน.ฉันจริงๆ

         "แมสกี้!"

         "ทิม!" ฮูดดี้กับโทบี้ตะโกนพร้อมกัน ส่วนฉันก็อยากจะมุดลงดินหายไปเลย…



         พวกเราเดินเข้ามาในห้าง และฉันก็ยังแก้มแดงเป็นมะเขือเทศอยู่

         "อือ..." ฉันก้มหน้า ไม่กล้าสบตาพวกเค้า

         "ฮะฮะ~ขอโทษนะซันชายน์ มันเห็นพอดีน่ะ~" แมสกี้บอกและลูบหัวฉันเป็นการปลอบ

         "เธอเคยม-มาเดินเล่นที่ห้างมั้ย?" โทบี้ถาม

         "นานๆทีน่ะ ครั้งนึงฉันมากับเพื่อนของฉัน มินดา และบางครั้งก็มาที่นี่เพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร-"

         "เธอทำอาหารเป็นเหรอ?" ฮูดดี้ถามแทรกขึ้นมา

         "เออ...ก็...ทำได้แค่บางเมนูน่ะ" ฉันบอก แมสกี้ยิ้มแล้วพูด

         "ฉันว่าฉันต้องขอลองชิมอาหารฝีมือของเธอสักครั้งแล้วหละซันชายน์"

         "ไม่! ฉ-ฉันต่างหากล่ะที่จ-จะได้กินเป็นคนแรก" โทบี้เถียง ก่อนที่ทั้งสองคนจะได้เริ่มตตีกันอีกครั้ง ฮูดดี้ก็ห้ามทัพไว้ก่อน

         "เราไปเดินดูแถวๆนั้นกันดีกว่า" ฮูดดี้พาสเลนน่าเดินออกไปก่อน โทบี้กับแมสก็รีบตามไป

         เราเดินผ่านร้านขายตุ๊กตา ฉันหยุดยืนอยู่หน้าร้าน ดูตุ๊กตาหมีน่ารักที่เค้าเอามาตั้งโชว์ไว้ ฉันว่าฉันอยากจะซื้อไปให้แซลลี่สักตัว เธอจะได้มีเพื่อนตุ๊กตาเพิ่ม

         "อยากซื้อตุ๊กตาเหรอซันชายน์?" แมสกี้ถาม

         "อืม...ฉันว่าฉันอยากจะซื้อให้แซลลี่สักตัว เอาตัวไหนดีนะ~" ฉันมองรายตัว มันน่ารักทุกตัว จะเอาตัวไหนให้แซลลี่ดีนะ~

         "...หือ!?" ในระหว่างที่ฉันกำลังเลือกตุ๊กตา อยู่ๆฉันก็รู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองฉันอยู่...

         ฉันมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่มีใครที่มองมาทางฉันเลย ฉันหันกลับไปสนใจตุ๊กตาต่อ แต่ฉันก็ยังรู้สึกเหมือนว่ากำลังโดนจับตามองเลย...

         "มีอะไรรึเปล่าซันชายน์?" แมสกี้ถาม เค้าคงเห็นท่าทีของที่ฉันหันซ้ายหันขวาตลอด

         "...ป-เปล่าหรอก ฉันคงจะคิดไปเอง..." ฉันพูดพึมพัม บอกว่าไม่มีอะไรแต่ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี เหมือนฉันกำลังจะเจอเรื่องร้ายๆเลย

         ความกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นความกลัว ฉันหันหลังไปทุกครั้งเมื่อรู้สึกว่ามีคนมอง แต่พอหันไปก็ไม่มีใคร...

         "นั่นใครน่ะ!" ฉันเริ่มหายใจแรงถี่ขึ้น

         "ใครกำลังจับตามองฉัน!"

         "ซันชายน์-"

         'เสียงกระจกแตก!'

         ในระหว่างที่ฉันกำลังกระวนกระวาย จู่ๆตู้กระจกที่โชว์ตุ๊กตาก็แตกต่อหน้าฉัน ฉันยืนอึ้ง ทำตัวไม่ถูก ได้แค่ยืนมองเศษกระจกที่แหลมคมพวกนั้นตกลงมาหาฉัน...

         "ซันชายน์!" แมสกี้ตะโกนขึ้นพร้อมกับวิ่งกระโจนเข้ามาช่วยฉัน ช่วยให้ฉันออกมาจากตรงจุดที่ฉันยืนอยู่ พวกเราล้มลงไปกับพื้น เฉียดโดนเศษกระจกตกใส่หัว

         คนในบริเวณใกล้ๆที่ได้ยินเสียงต่างพากันตกใจ

         ฉันลืมตาขึ้นก็เห็นร่างของแมสกี้นอนอยู่บนตัวฉันและมีเศษกระจกเล็กๆบนตัวเค้า ฉันรีบลุกขึ้นและเรียก

         "แม-ฉันหมายถึง ทิม!" ฉันเรียก แมสกี้ก็ค่อยลุกออกไปจากตัวฉัน

         "เป็นอะไรรึเปล่าทั้งสองคน!" ฮูดดี้และโทบี้รีบวิ่งเข้ามาดูพวกเรา

         "ฉันไม่เป็นไร เธอละซันชายน์?" แมสกี้ถาม ช่วยฉันให้ลุกขึ้น ฉันต่างหากที่ต้องถามเค้าคำถามนั้น

         "ทิมนั้นแหละเป็นอะไรรึเปล่า! นายรีบวิ่งเข้ามาช่วยฉันโดยไม่คิดอะไรเลย ถ้านายเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ!" ฉับพูด แต่แมสกี้แค่ลูบหัวฉันเบาๆก่อนที่กระซิบข้างหูฉัน

         "ไม่มีอะไรฆ่าฉันได้ง่ายๆหรอกซันชายน์~" แมสกี้กระซิบบอก

         เสียงเรียกของเจ้าหน้าที่ดังมาแต่ไกล

         "เรารีบไปดีกว่า เริ่มมีคนมามุงดูเยอะแล้ว" ฮูดดี้บอก แมสกี้รีบจับมือฉันเดินฝ่าฝูงชนออกไปพร้อมกับฮูดดี้และโทบี้

         เราเดินมาหยุดพักอยู่หน้าร้านขายเครื่องสำอาง ฉันตัดสินใจเข้าไปเดินเล่นข้างใน จะได้รู้สึกสบายใจมากขึ้น

         ฉันเดินเข้าไปในร้าน แต่ก็ยังระแวงอยู่

         "หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องแย่เกิดขึ้นอีกนะ" ฉันหวังในใจ เดินไปตาก็เลิ่กลั่กมองซ้ายมองขวาตลอด

         "ซันชายน์~" แมสกี้เรียกพร้อมกับเอามือมาจับที่ไหล่ ทำให้ฉันสดุ้งเฮือกแล้วรีบหันไปมองเค้า

         "เป็นอะไรไปละซันชายน์ ยังไม่หายกลัวเหรอ?" แมสกี้ถามแล้วดึงฉันเข้าไปยืนใกล้ๆเค้า

         "ก็..."

         "ฮะฮะ~ ไม่ต้องคิดมากหรอกซันชายน์ มันก็แค่อุบัติเหตุ" แมสกี้บอกพร้อมกับลูบหัวฉันเหมือนเป็นการปลอบ แต่ฉันกลัวว่ามันจะไม่ใช่อุบัติเหตุ...อาจเป็นเพราะฉัน...

         ฉันมองตามชั้นวางของ เครื่องสำอางแต่ละยี่ห้อราคาแพงไม่แพ้กันเลย ซื้อไปให้เจนดีมั้ยนะ?

         ผ่านไปไม่นาน ฉันก็เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น แล้วอยู่ๆฉันก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เรื่องที่แมสกี้ชอบเรียกฉันว่าซันชายน์

         "แมส-ทิม นายยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าทำไมนายชอบเรียกฉันว่าซันชายน์?" ฉันถาม แมสกี้หันมาหาฉันและยิ้มให้ก่อนจะพูด

         "ฉัน...ก็ไม่รู้หรอกว่าทำไม" 

         "...หะ?" ฉันงง สรุปแมสกี้แค่เรียกชื่อไปงั้นเฉยเหรอ?

         "แต่ถ้าให้ฉันพูดจริงๆ ฉันเปรียบเธอเหมือนพระอาทิตย์ซันชายน์"

         "...ทำไมละ" ฉันพูดเสียงเบา ทำไมแมสกี้ถึงคิดอย่างงั้นละ แมสกี้ยิ้มให้พร้อมกับเล่นผมของฉันไปด้วย

         "...โลกของฉันมันมืดมัวตลอด แต่พอเธอโผล่มา..."

         "..." ฉันเงียบ รอดูว่าเค้าจะพูดอะไรต่อ

         "...มันเหมือนกับเธอทำให้โลกของฉัน...จากตอนแรกที่มันมืดมัว มันกลับสว่างมากขึ้น... มันทำให้ฉันรู้สึก ฉันต้องการมัน..." ประโยคสุท้ายแมสกี้พูดเสียงเบาจนฉันแถบไม่ได้ยิน แต่พอจะจับใจความได้บ้าง

         ฉันทำให้โลกของแมสกี้สว่างขึ้น? ฉันเข้าใจถูกใช่มั้ย?

         ฉันที่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้แปลกๆตรงแก้ม นี่ฉันกำลังเขินเหรอ?

         "ฉันต้องการเธอซันชายน์~...แต่เธอคงไม่ได้รู้สึกแบบนั้น..." ฉันได้ยินแมสกี้พูดพึมพัมอะไรสักอย่าง ฉันได้ยินไม่ชัดเลยถาม

         "เมื่อกี้นายพูดอะไรรึเปล่าทิม?"

         "ไม่มีอะไรหรอกซันชายน์" แมสกี้ตอบทันที

         "อืม...อ้อ!เกือบลืมเลย!"

         "อะไรงั้นเหรอซัน-!" ไม่รอให้ถามเสร็จ ฉันรีบกอดแมสกี้ เหมือนเค้าจะสตั้นไปแป๊บนึงก่อนที่จะเอาแขนกอดเอวฉันไว้

         "ขอบคุณที่ก่อนหน้านี้ช่วยฉันไว้นะ" ฉันกระซิบบอกแล้วเงยหน้ามองแมสกี้ที่ตอนนี้แก้มของเค้าเริ่มออกสีชมพู

         "ม-ไม่เป็นไร-?!"

         เรายืนกอดกันไม่นาน ฉันกำลังจะปล่อยแมสกี้ไปแต่เค้ากลับกอดรั้งฉันไว้สะงั้น

         "เอิ่ม...ทิม ฉันว่านายปล่อยฉันได้แล้วล่ะ" ฉับกระซิบบอก แต่เหมือนแมสกี้จะไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลย เค้ามองไปรอบเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง

         "เอิ่ม...มีอะไรรึเปล่าทิม-!" แมสกี้โอบไหล่ฉันและรีบพาฉันออกจากร้าน ออกไปเจอเจอฮูดดี้และโทบี้ที่รอเราอยู่ข้างนอก

         "ท-ทั้งสองคนเข้าไปท-ทำอ-อะไรในร้านนั่นกันส-สองคน?" โทบี้ถาม

         "...มีอะไรรึเปล่า?" ฮูดดี้ถาม แต่แมสกี้ก็ไม่ได้ตอบตรงคำถามฮูดดี้เลย

         "เรากลับกันดีกว่า ถึงเวลากลางวันแล้ว และฉันก็หิวแล้วด้วย" แมสกี้บอก พวกเราเลยเดินออกไปจากห้าง



         เมื่อออกมาจากห้าง ลมก็ยังแรงเหมือนเดิม ฉันต้องรีบจับกระโปรงตัวเองไว้

         เราเดินไปที่รถ ฉันที่กำลังจะขึ้นรถ ฉันก็รู้สึกว่ามีคนกำลังมองฉันอีกแล้ว ฉันหันหลังกลับไปดูแต่ไม่เจอใครอยู่ดี ฉันเริ่มระแวงอีกครั้ง

         "ม-มีอะไรกวนใจเธอรึป-เปล่าสเลนน่า เห็นเธอด-ดูระแวงอะไรอยู่" โทบี้ถาม ฉันแค่ส่ายหน้าบอกว่าไม่มีอะไร ฉันเห็นแมสกี้กระซิบคุยกับฮูดดี้ก่อนที่จะขึ้นรถ แต่ว่าคงไม่มีอะไรหรอก



    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    [ 3rdPerson Pov. ]

         "เกิดอะไรขึ้นตอนที่พวกนายอยู่ในร้านนั่นกันสองคน?" ฮูดดี้ถาม

         "ตอนที่อยู่ในร้านเราก็แค่คุยกันเฉยๆ แต่ตอนที่ออกมาน่ะ ฉันรู้สึกว่ามีคนตามสเลนน่ามา" แมสกี้บอก ตอนอยู่ที่ร้านขายเครื่องสำอาง ตอนที่เค้ากับสเลนน่ากำลังยืนกอดกันอยู่ ทั้งสัญชาตญาณและความรู้สึกของเค้าบอกว่ามีคนกำลังมองพวกเค้าอยู่ เค้าพยายามจับผิดว่าใครในร้านบ้างที่น่าสงสัย แต่เค้าไม่เจอเลย หรือก็อาจเป็นไปได้ว่าคนๆนั้นจะหายไปแล้ว

         "...นายไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ย?" ฮูดดี้ถาม แมสกี้ถึงกับหลี่ตาใส่ก่อนจะพูด

         "ไบรอั้น เรื่องรางสังหรณ์และสัญชาตญาณของฉันไม่พลาดง่ายๆหรอกนะ" แมสกี้บอกและขึ้นรถ แต่ก็ก่อนที่จะขับรถออกไปเค้าก็กระซิบบอกฮูดดี้

         "ระวังไว้ก่อนก็ดี…" ฮูดดี้ผงึกหัวรับทราบ แล้วแมสกี้ก็ขับรถออกไปจากจุดที่จอดรถ



         ระหว่างที่ขับรถอยู่บนทางด่วน สเลนน่าตัดสินใจที่จะหลับรอ โทบี้มองที่กระจกข้างรถ เห็นว่ามีรถยนต์สีขาวขับตามหลังมา ตอนแรกโทบี้ก็ไม่ได้สนใจรถคันนั้น แต่เวลาผ่านไปจนพวกเค้าขับรถลงมาจากทางด่วนแล้ว รถคันนั้นก็ยังขับตามหลังพวกเค้ามาอยู่จนโทบี้เริ่มรู้สึกตงิดๆกับรถคันนั้น เค้าเลยถามอีกสองคนข้างหน้า

         "ม-มีแค่ฉันคนด-เดียวรึเปล่าที่คิดว่าร-รถคันนั้นก-กำลังขับตามพวกเรามา?" โทบี้ถาม หันกลับไปมองรถคันนั้น ฮูดดี้มองผ่านกระจกรถ ดูเหมือนว่าจะมีคนตามพวกเค้ามา แต่ถ้าพูดให้ถูกต้องก็คือมีคนตามสเลนน่ามาจริงๆ

         "ทิม" ฮูดดี้บอก

         "รู้แล้ว..." แมสกี้บอกและเร่งความเร็ว ขับรถเข้าไปในเมือง เค้าเห็นที่จอดรถหน้าสวนสาธารณะ เค้าเลยรีบเรี้ยวรถไปจอดตรงนั้นทันที

         ทั้งสามหนุ่มมองสถานการณ์อยู่ในรถ แล้วดูเหมือนจะเป็นอย่างที่คิด รถยนต์สีขาวคันนั้นจอดอีกฝากของถนน

         "เตรียมอาวุธ" แมสกี้บอก เค้าเตรียมมีด ซ่อนเอาไว้ในกระเป๋ากางเกง ฮูดดี้ซ่อนปืนไว้ข้างหลังใต้เสื้อฮูด

         "ล-แล้วฉันละ?" โทบี้ถาม เค้าไม่สามารถพกขวานไปด้วยได้

         "นายคอยอยู่ข้างๆสเลนน่าไว้ ถ้ามีคนเข้าประชิดเธอก็จัดการเลย" ฮูดดี้บอกและลงจากรถ โทบี้เขย่าสเลนน่าจนเธอตื่น

         "ลุกเร็วส-สเลนน่า เราจะป-ไปหาที่นั่งก-กินข้าวกัน" โทบี้บอก แล้วทั้งสองก็ลงจากรถเดินไปรวมกลุ่ม

         พวกเค้าเดินไปหาที่นั่งในสวนสาธารณะ ตอนเดินอยู่ ทั้งสามหนุมก็เดินใกล้สเลนน่ามากจนเธอเริ่มรู้สึกอึดอัด

         "เออ…ทำไมพวกนายต้องเดินใกล้ฉันจัง?" สเลนน่าถาม แต่เหมือนหนุ่มๆจะไม่ได้ฟังที่เธอพูดเลย นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดกว่าเดิมอีก

         "เออ...ง-งั้นเราไปนั่งกินข้าวตรงนั้นดีมั้ย?" สเลนน่าชี้ไปที่ใต้ต้นไม้ วิวกำลังดี พวกเค้านั่งลงใต้ต้นไม้และฮูดดี้ก็เริ่มแจกกล่องข้าวที่เจนทำให้พวกเค้า

         "เหมือนว่าเจนจะทำข้าวพัดให้พวกเรานะ" พวกเค้าเริ่มลงมือทานข้าวกลางวัน แต่โทบี้กลับไม่กินเลย

         "โทบี้ไม่กินเหรอ? นายไม่หิวเหรอ?" สเลนน่าถาม เห็นว่าโทบี้ไม่กินข้าวสักคำ

         "อ-เออ…"

         "นายคงไม่อยากให้ซันชายน์เห็นแผลที่น่ารังเกียจตรงมุมปากของนายใช่มั้ยละโรเจอร์" แมสกี้พูด ทำให้สเลนน่าสงสัยขึ้นมา โทบี้ไม่เคยบอกเธอเรื่องแผลที่มุมปาก

         "ฉ-ฉันแค่ไม่หิวท-เท่านั้น-"

         'เสียงท้องโทบี้ร้อง' ไม่ทันได้พูดแก้ตัว ท้องของโทบี้ก็ร้องดังโครกจนทั้งกลุ่มได้ยิน สเลนน่าขำคิกคัก ส่วนโทบี้ก็นั่งคอตก แก้มแดงเป็นมะเขือเทศ

         "ฮาฮา! อายมั้ยละโรเจอร์!" แมสกี้พูดแหย่ ฮูดดี้พยายามกลั้นขำแต่ก็หลุดขำอยู่ดี

         "ฮะฮะ~ไม่เป็นไรหรอกนะโทบี้ ฉันไม่หยีนายหรอก" สเลนน่าบอก สุดท้ายโทบี้ก็ยอมและดึงที่ปิดปากลง เผยให้เห็นแผลที่มุมปาก เธอมองแผลที่มุมปากของเค้าอย่างแปลกใจ

         "โทบี้..." สเลนน่ายื่นมือไปลูบแก้มของโทบี้ข้างที่มีแผลเบาๆ

         "มันไม่ได้น่าเกลียดเลย..." สเลนน่าบอกและลูบผมเค้าเบาๆ โทบี้เริ่มคลอเคลียที่มือของสเลนน่า แล้วเธอก็ตักข้าวให้เค้ากิน แมสกี้ที่ดูอยู่ก็เริ่มรู้สึกหึงหวงขึ้นมา แต่ก็ยอมนั่งๆเงียบกินข้าวต่อ



         ผ่านไปสักพัก ทั้งสี่คนก็ทานอาหารกลางวันเสร็จและกำลังจะกลับไปที่รถ แต่ระหว่างทางกลับพวกเค้าเดินผ่านร้านขายวาฟเฟิลพอดี โทบี้เห็นว่าร้านกำลังทำวาฟเฟิลใหม่ๆร้อนๆเลย เค้าเลยรีบวิ่งไปต่อคิว

         "โทบี้! นั้นนายจะไปไหน!?" ฮูดดี้ตะโกนเรียกเมื่อจู่ๆโทบี้ก็วิ่งออกไป

         "เห้ย!โรเจอร์กลับมา!" พวกเค้ารีบวิ่งตามโทบี้ไปจนถึงร้านขายวาฟเฟิลที่โทบี้กำลังต่อแถวอยู่

         "ให้ตายเถอะโรเจอร์"

         "งั้น...เราก็รอก่อนละกัน" แล้วพวกเค้าก็ต้องนั่งรอโทบี้ซื้อวาฟเฟิลก่อน ระหว่างที่รออยู่นั้น สเลนน่าก็ได้ยินเสียงร้องของแมว

         'เมี้ยว~' สเลนน่าหันไปตามเสียงร้องแล้วก็เจอแมวสีดำ ตาสีเหลือง กำลังร้องเหมียวๆอยู่ตรงถังขยะ สเลนน่าลุกจากที่ไปไม่บอกสามหนุ่ม เดินไปหาแมวตัวนั้น มันเดินเข้าไปในตรอกตึก เธอก็เดินตามไป แล้วก็เจอมันนอนอยู่บนกล่องกระดาษ

         "น้องเหมียว~" สเลนน่าเรียก เดินเข้าไปนั่งข้างๆและเกาคางให้มัน

         "อ๋อ~น่ารัก~" น้องแมวเคลิ้มและคลอเคลียที่มือของสเลนน่า เธอเห็นอย่างนั้นก็อดใจไม่ได้ที่จะงุ้ยให้มัน

         "ฉันจะเอาแกไปด้วยได้มั้ยนะ" สเลนน่าคิด ถ้าเธอเอามันกลับไปด้วย สเลนเดอร์แมนจะว่าไง?

         'เสียงเดิน'

         ระหว่างที่สเลนน่ากำลังเล่นอยู่กับแมว มีเสียงเหมือนรองเท้าส้นสูงดังขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าคงเป็นผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเท่านั้น แต่เสียงร้องเท้ากลับยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ เธอก็เลยต้องหันกลับไปดู

         "ว่าไงสเลนน่า~" เมื่อสเลนน่าหันไปดู เธอก็ถึงกับอึ้ง หน้าซีดทันที

         เสียงที่สเลนน่าคุ้นเคย ผู้หญิงที่ทำให้ทั้งชีวิตของเธอในมหาลัยเหมือนกับนรก...

         "...โคลอี้" สเลนน่าเรียกชื่อของหล่อน

         (ใครจำนางได้บ้าง จากตอนแรกเลย~ แต่ทุกคนน่าจะจำไม่ได้หรอกเพราะไรท์เขียนบทนางน้อยมาก555)

         โคลอี้ ลูกคุณหนูของเศรษฐีที่ชอบแกล้งเธอเพียงเพราะคนที่หล่อนชอบดันมาจีบสเลนน่าทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย

         "ว่าไงยัยแว่นของฉัน~" สเลนน่ามองข้างหลังโคลอี ก็เจอผู้ชายคนนั้นที่มีส่วนทำให้เธอตกเป็นเป่าของโคลอี

         "...แม็กซ์!? "

         (จากตอนแรกเหมือนกันค่ะ)

         ทั้งสองคนมองมาที่สเลนน่าแล้วส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ ทำให้สเลนน่ากลัวแล้วถอยหลังหนี

         "ที่เธอหายไปตั้งหนึ่งเดือนก็เพราะเธอหนีไปอยู่กับพวกผู้ชายนี่เอง~" โคลอี้พูดและโชว์รูปที่เธอแอบถ่ายได้ รูปที่สเลนน่าอยู่กับแมสกี้ ฮูดดี้ และโทบี้ที่ห้าง

         "อย่างงี้ เรื่องที่คุณผู้ดูแลของเธอเคยไปแจ้งที่มหาลัย...ก็ไม่จริงนะสิ" โคลอี้บอก และในที่สุดสเลนน่าก็เข้าใจ

         "...เธอคือคนที่แอบตามฉันมา" สเลนน่าพูด โคลอี้แค่ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่และเดินมาหยุดยืนตรงหน้าเธอ

         "พอดีว่าตอนนั้นฉันกำลังออกเดทกับแม็กซ์ แล้วก็ดันเห็นเธอพอดี ก็เลยตามเธอมา และก็รอจังหวะที่เธออยู่คนเดียวเนี้ยแหละ" แล้วโคลอี้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นและกดอัดวีดีโอ สเลนน่ารีบปิดหน้าตัวเอง

         "มินดาจะต้องดีใจแน่ๆที่ได้เห็นเธออีกครั้ง และทุกคนก็จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วเธอหนีไปหาพวกผู้ชาย~" โคลอี้หัวเราะอย่างชั่วร้าย สเลนน่าได้แต่กัดฟันแน่น หลบกล้องของหล่อน

         "ฉ-ฉันไม่ได้หนีไป..." สเลนน่าพูดเสียงเบาไม่ให้พวกเค้าได้ยิน รู้ว่าเธอไม่ควรอยู่ที่นี่ เธอจึงรีบคว้าตัวเจ้าแมวไว้และวิ่งหนี แต่ก็ถูกแมกซ์จับตัวไว้ได้ เธอพยายามที่จะตะเกียดตะกายหนีแต่ก็ไม่ได้ผลเพราะเธอสู้แรงของแม็กซ์ไม่ได้

         "อยู่นิ่งๆเถอะสเลนน่า แล้วก็ยิ้มให้กล้องด้วย" โคลอี้เดินมาข้างหน้าเธอและยิ้มเยาะเย้ยใส่ และชูกล้องถ่ายรูปสเลนน่า

         สเลนน่าพยายามส่งเสียงร้องแต่ก็โดนแม็กซ์เอามือปิดปากเธอไว้

         "ฉันอยากหนี..."

         "ฉันอยากจะหนีไปจากพวกเค้า!"

         สเลนน่ารู้สึกบางอย่างในตัวเธอตื่น... เธอรู้สึกว่าเธอต้องการที่จะสู้...

         สเลนน่ากัดที่มือของแม็กซ์ ฝังเขี้ยวลงไปในเนื้อ ทำให้แม็กซ์ร้องเจ็บปวด พยายามดึงมือกลับ แต่สเลนน่าก็กัดไม่ปล่อยจนแม็กซ์ต้องโยนเธอทิ้งไป

         สเลนน่าโดนโยนลงกับพื้น ตัวเธอกลิ้งไปกับพื้น เธอพยายามที่จะลุกขึ้นแล้วถุยเลือดที่ปากเธอทิ้ง โคลอี้รีบเดินมาและเตะไปที่ท้องของสเลนน่าจน ทำให้เธอสำลักน้ำลายออกมา

         "หายไปแค่หนึ่งเดือนก็ทำตัวเป็นสัตว์ป่าแล้วเหรอ?" โคลอี้พูดและเตะซ้ำเติมไปที่ท้องอีกครั้ง แม็กซ์พุ่งเข้าไปหาสเลนน่าและกระชากคอเสื้อ ยกตัวเธอขึ้น แมวสีดำตัวนั้นขู่ใส่แม็กซ์และข่วนเค้า แต่แม็กซ์ก็เตะมันออกไป นั่นทำให้สเลนน่ายิ่งขัดขืนเค้า

         "ใครก็ได้ช่วยด้วย...แมสกี้ ฮูดดี้ โทบี้"

         "หนอย...บังอาจมากนะ กัดมือฉัน-" แม็กซ์กำลังจะยกหมัดต่อยเข้าไปที่หน้าของสเลนน่า แต่เค้าก็ตัวแข็งทื่อเมื่อเค้ารู้สึกว่าเหมือนมีปืนมาจ่อที่หัวของเค้า แม็กซ์หันไปมองอย่างช้าๆ แล้วก็เจอฮูดดี้กำลังจ่อปืนมาที่หัวของเค้า

         สเลนน่าเมื่อเห็นพวกสามหนุ่มมาตามเธอก็รู้สึกดีใจมากๆอย่างบอกไม่ถูก

         โคลอี้เห็นว่ามีคนถือปืนโผล่มา เธอกลัวและวิ่งหนี แต่เธอก็ไปวิ่งชนแมสกี้ที่อยู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้พร้อมกับส่งยิ้มที่น่ากลัวให้ ทำให้โคลอี้ตกใจแล้วรีบหันหลังหนี แต่แมสกี้ก็จับกระชากผมเธอและเอามีดจ่อที่คอหอย

         ฮูดดี้มองแม็กซ์ด้วยสายตาที่ดุดันแล้วพูด

         "ปล่อยเธอ..." ฮูดดี้พูดด้วยเสียงที่ฟังดูน่ากลัวจนแม็กซ์ต้องยอมและปล่อยสเลนน่าไป

         เมื่อสเลนน่าเป็นอิสระ เธอก็รีบไปหาน้องแมวตัวนั้นและอุ้มมันไว้ แล้วรีบไปหลบหลังฮูดดี้

         "พวกแกเลือกตามผู้หญิงผิดคนแล้ว~" แมสกี้บอกและใช้มีดขู่โคลอี้จนทำให้เธอสติแตกและกรี๊ดออกมา คิดว่าเค้าจะฆ่าเธอจริงๆ แมสกี้เอามือปิดปากเธอไว้เพื่อกันไม่ให้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้ยิน

         "บ้าเอ้ย!" แม็กซ์รีบผลักฮูดดี้ออกไปและวิ่งหนี สเลนน่าคิดว่าฮูดดี้จะตามไป แต่ฮูดดี้ดูเหมือนจะไม่รีบร้อนอะไรเลยที่แม็กซ์หนีไป

         "แม็กซ์! กลับมา! อย่าทิ้งฉันใอบ้า!" โคลอี้ตะโกนสุดเสียงทั้งที่ยังโดนปิดปากอยู่ แม็กซ์วิ่งไปก็เจอโทบี้มายืนขวางทางไว้

         "ถอยไป!" แม็กซ์ง้างหมัดจะต่อยโทบี้ แต่โทบี้เร็วกว่า เค้าหลบหมัดนั้นได้สบายๆแล้วขัดขาแม็ซ์ ทำให้เค้าล้มลงพื้น หน้าคะมำ โทบี้ไม่รอช้า ดึงขาแม็กซ์ ลากกลับมาที่เดิม แม็กซ์ร้องโวยวายขอความเมตตาจากพวกเค้า โทบี้ลงไปนั่งคร่อมตัวแม็กซ์และจัดหนัก ลงกำปั้นไปที่หน้าของแม็กซ์ทันที

         สเลนน่ามองภาพตรงหน้าทั้งหมดที่โทบี้ทำ เธอไม่ได้รู้สึกกลัวหรือสงสารแม็กซ์เลย แต่กลับกัน เธอกลับรู้สึกดีแทน

         "...โทบี้ ฉันว่าพอได้แล้วล่ะ" ฮูดดี้บอก แต่ไม่ทันแล้ว โทบี้ลงไม้ลงมือที่หน้าของแม็กซ์จนตอนนี้หน้าของเค้ามีแผลรอยช้ำเต็มหน้า และแม็กซ์ก็สลบไปแล้ว

         โทบี้ลุกขึ้น ทั้งมือเปื้อนเลือด เค้าเดินเข้าไปหาสเลนน่าและก็กอดเธอไว้

         "ย-อย่าเดินออกไปคนเดียวอ-อีกนะ" โทบี้บอกและกอดสเลนน่าแน่นกว่าเดิม สเลนน่าแค่ผงึกหัวรัวๆ บอกว่าเธอจะไม่เดินไปไหนคนเดียวอีกแล้ว

         "เอาไงต่อกับเธอคนนี้ละซันชายน์~" แมสกี้ถามและพาโคลอี้เดินเข้าไปหาสเลนน่า เธอเองก็ไม่รู้จะทำยังไงกับโคลอี้ดี

         "ฉัน...เออ..."

         "ก่อนที่จะทำอะไร" ฮูดดี้เดินเข้าไปหาโคลอี้และค้นตัวหล่อน แล้วก็เจอโทรศัพท์ของหล่อน เค้าเช็คดูแล้วก็เจอวีดีโอและรูปถ่ายของสเลนน่า เค้าทิ้งโทรศัพท์นั่นลงกับพื้นและกระทืบทำลาย แล้วเก็บมันขึ้นมาใส่ไว้ในถุงพลาสติกและเก็บเข้ากระเป๋าฮูดของเค้า

         "จะให้ฉันฆ่าผู้หญิงคนนี้มั้ยซันชายน์~" แมสกี้ถาม ถึงแม้สเลนน่าจะรู้สึกดีที่ได้เห็นพวกเค้ากลัวแล้วกรีดร้อง แต่เธอก็ไม่ต้องการให้ใครตาย เธอจึงส่ายหน้าและหันหน้าหนีโคลอี้

         "ธ-เธอรู้จักเหรอส-สเลนน่า?" โทบี้ถาม

         "...เธอชอบแกล้งฉันบ่อยๆตอนที่ยังอยู่มหาลัยน่ะ" เล่าเสร็จ โทบี้เดินเข้าไปและจ้องโคลอี้จนหล่อนต้องหันหน้าหนี เค้าเกลียดพวกที่ชอบบูลี่คนอื่น

         "...ถ-ถ้างั้นฉันม-มีความคิดดีๆ" โทบี้พูดและบอกให้ฮูดดี้กลับไปเอารถ ถึงฮูดดี้จะไม่เข้าใจสักเท่าไหรแต่ก็กลับไปเอารถ

         ใช้เวลาไม่นาน ฮูดดี้ก็ขับรถกลับมา โทบี้เดินไปท้ายรถและเอาเชือกที่พวกเค้ามีเอามามัดตัวโคลอี้ไว้ มัดผ้าปิดปากเธอ และอุ้มเธอไปที่ถังขยะถังใหญ่

         "อ้อ~ฉันพอเข้าใจที่นายพูดแล้วโรเจอร์" แมสกี้เดินไปที่ตัวแม็กซ์และบอกให้ฮูดดี้มาช่วยเค้ายกตัวแม็กซ์ไปทิ้งลงในถังขยะ โคลอี้พยายามตะเกียดตะกายหนี แต่ก็โดนโทบี้จับอุ้มทิ้งลงไปในถังขยะกับแม็กซ์

         "รอก่อนเถอะสเลนน่า! ฉันจะปล่อยข่าวเรื่องนี้ในมหาลัย เรื่องที่แกหนีไปอยู่กับพวกผู้ชายโรคจิต!" โคลอี้ตะโกนทั้งที่ตัวเองยังโดนปิดปากและโทบี้ก็ปิดฝาถังขยะใส่หน้า

         "เรียบร้อย~"

         "คือ..." สเลนน่าเรียกและโชว์เจ้าแมวสีดำให้ทั้งสามหนุ่มดู

         "ฉันเลี้ยงได้มั้ย?" สเลนน่าถามและกอดน้องแมวไว้

         "ท่านสเลนเดอร์แมนไม่น่าจะว่านะ" ฮูดดี้บอกและลูบหัวเจ้าแมว

         "แต่ว่าตอนนี้พวกเราก็กลับกันเถอะ ก่อนที่จะมีคนมาเจอเจ้าพวกนี้สะก่อน" ฮูดดี้ขึ้นไปนั่งที่คนขับ ทุกคนขึ้นรถแล้วฮูดดี้ก็ขับออกไป ขับไปถึงบริเวณที่มีสายธารน้ำในเมือง ฮูดดี้ลดกระจกลงและโยนโทรศัพท์ของโคลอี้ทิ้งไปในน้ำ

         สเลนน่านั่งเล่นกับแมว ไม่พูดกับใคร โทบี้เห็นว่าสเลนน่านั่งเงียบมานานแล้วเลยชวนคุย

         "ส-สเลนน่า ธ-เธอกลัวฉันมั้ย?" โทบี้ถาม นั่นทำให้สเลนน่างง เธอจะกลัวเค้าทำไม

         "ต-ตอนที่ฉันจัดการจ-เจ้านั้น เธอเห็นล-แล้วรู้สึกก-กลัวฉันมั้ย?"

         "...ไม่นะ ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนั้น ที่จริงฉันกลับรู้สึกดีด้วยที่นายทำแบบนั้น" สเลนน่าพูด นั่นทำให้สามหนุ่มถึงกับอึ้งไปแป็บนึง ไม่นึกว่าสเลนน่าจะพูดแบบนี้

         สเลนน่าไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เธอเลยเอนตัวไปนอนพิงไหล่ของโทบี้ ให้เค้ารู้ว่าเธอไม่ได้กลัวเค้าแม้แต่นิด

         "สเลนน่า..." ฮูดดี้เรียก

         "ก่อนที่เราจะขับไปถึงปราสาท เธออยากจะให้ฉันขับไปที่สถานรับเลี้ยงมั้ย?" คำถามนั้นทำให้สเลนน่าอึ้งไปเลย

         ถ้าสเลนน่าไปที่นั้น เธอก็จะได้เจอทุกคนอีกครั้ง ทั้งเด็กๆและผู้ดูแลที่เธอคิดถึง

         "ได้โปรด..." สเลนน่าขอ พูดเสร็จฮูดดี้ก็ขับไปเส้นทางที่จะพาพวกเค้าไปที่สถานรับเลี้ยง



         พวกเค้ามาถึงสถานรับเลี้ยง ฮูดดี้จอดรถแล้วหันไปคุยกับสเลนน่า

         "พวกฉันจะรออยู่ในรถ" ฮูดดี้บอก สเลนน่ารีบลงจากรถ วิ่งไปที่สถานรับเลี้ยงพร้อมทั้งรอยยิ้ม

         "นายแน่ใจเหรอที่จะปล่อยให้เธอไปเจอพวกเค้า?" แมสกี้ถาม

         "...ออกมาข้างนอกทั้งทีต้องใช้เวลาให้คุ้มสิ" ฮูดดี้บอก

         สเลนน่าวิ่งมาหยุดอยู่หน้าประตู กำลังจะยื่นมือไปเคาะเรียก แต่เธอก็หยุดและคิด

         "...มันถึงเวลาแล้วจริงๆเหรอ?" สเลนน่าคิด เธอถกแขนเสื้อลง เผยให้เห็นเส้นเลือดสีดำ แล้วภาพอันเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นก็ย้อนกลับมา

         "...ถ้าฉันควบคุมตัวเองไม่ได้อีกล่ะ?" สเลนน่ากังวล ถ้าเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วเผลอทำร้ายพวกเด็กๆและคุณจินนี่...

         สเลนน่าดึงมือกลับ เธอหายใจลึกๆ กลั้นน้ำตา แล้วรีบวิ่งกลับไปที่รถ

         "ทำไมละซันชายน์?" แมสกี้ถามเมื่อสเลนน่าวิ่งกลับมา สเลนน่าถอนหายใจออกมาก่อนจะพูด

         "...ที่ผ่านมาทุกอย่างมันชัดเจนแล้วว่าฉันไม่ใช่คนปกติ ฉันว่ามันจะดีกว่าถ้าฉัน...ควบคุม...อะไรก็ตามที่มันอยู่ในตัวฉันได้ สิ่งที่สเลนเดอร์แมนเห็นในตัวฉัน..." สเลนน่าบอกพร้อมกับเล่นแมวไปด้วย ให้ตัวเองสงบลง ทั้งสามหนุ่มฟังแล้วก็พอเข้าใจที่เธอพยายามจะสื่อ

         "ฉันเลยคิดว่า ถ้าฉันพร้อมเมื่อไหร่...ฉันค่อยกลับไป" พูดเสร็จสเลนน่าก็หลับตาลง เอนหัวไปพิงไหล่ของโทบี้ เธออยากจะขอหลับสักงีบหลังจากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น...



         พวกเค้าขับรถจนมาถึงป่าที่พวกเค้าอยู่ ฮูดดี้เรี้ยวรถเข้าป่า ขับไปเรื่อยๆจนพวกเค้าเห็นปราสาทที่คุ้นเคย

         "ร-เราถึงบ-บ้านแล้วส-สเลนน่า" โทบี้เรียกสเลนน่าให้ตื่น พอสเลนน่ารู้ว่าเธอนอนพิงไหล่โทบี้ตลอดทาง เธอก็รีบลุกออกไปทันที

         "ข-ขอโทษนะ นายคงจะปวดเมื่อยมากแน่ๆ" สเลนน่ารีบขอโทษแต่โทบี้ก็ส่ายหน้า

         "ม-ไม่เป็นไร ธ-เธอเอาเจ้าแมวข-เข้าไปข้างในก่อนเลย" โทบี้บอกแล้วอุ้มเจ้าแมวให้สเลนน่า

         สเลนน่าลงจากรถไปพร้อมกับเจ้าแมว และเดินเข้าไปในปราสาท

         สเลนน่าเดินเข้าไปก็เจอแซลลี้ที่เดินมาตอนรับ

         "พี่สาวกลับมาแล้ว!" แซลลี้วิ่งเข้าไปหาพร้อมกับกอดตุ๊กตาหมีไว้ เมื่อแซลลี่เห็นน้องแมวในมือเธอก็ว้าวและลูบหัวน้องแมว

         "น้องเหมียว~" 

         "สเลนน่า! กลับมาแล้วเหรอ?" เจนเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น เมื่อเธอเห็นว่าสเลนน่ากำลังอุ้มแมวสีดำอยู่ เธอก็แปลกใจเล็กน้อย

         "แมวเหรอ?" เจนถาม มองไปที่แมวสีดำที่มีตาสีเหลืองตัวนั้น

         "ฉันเลี้ยงได้มั้ย?" สเลนน่าถาม แล้วเธอก็รู้สึกเหมือนมีมือใหญ่ๆมาโอบที่ไหล่ของเธอทั้งสองข้าง เธอหันไปดูก็เจอสเลนเดอร์แมนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ

         "คุณสเลนเดอร์แมน!"

         "เป็นยังไงบ้างสเลนน่า พวกพร็อกซี้ดูแลเธอดีมั้ย?" สเลนเดอร์แมนถาม สเลนน่ากำลังคิดว่าเธอควรจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นดีมั้ย?

         "เออ...ก็ดีค่ะ..." สเลนน่าต้องปั่นหน้ายิ้มพูดเหมือนไม่มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้น

         "..." เหมือนสเลนเดอร์แมนกำลังสงสัยสเลนน่า เค้ายื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ สเลนน่ารีบอุ้มแมวขึ้นมาตรงหน้าสเลนเดอร์แมนเพื่อหนีเค้า

         "เอิ่ม...เหมียว?"

         'เมี้ยว~'

         สเลนเดอร์แมนถอยออกไป สเลนน่าถอนหายใจ ดูเหมือนว่าสเลนเดอร์แมนจะจับผิดเธอไม่ได้...รึเปล่า?

         สเลนเดอร์แมนเห็นว่าพวกพร็อกซี้เดินเข้ามาแล้ว เค้าจึงพูด

         "สเลนน่า ถ้าเธอไม่รีบไปไหน ฉันอยากจะให้เธอรออยู่นี้ก่อนได้มั้ย?" สเลนน่าแค่ผงึกหัวให้แล้วเดินไปหาแซลลี่

         สเลนเดอร์แมนสั่งให้พวกพร็อกซี้เดินตามเค้าไปที่ห้องทำงานของเค้า

         เมื่อพวกเค้าไปถึง พวกเค้าก็ต้องแปลกใจเมื่อในห้องมีอีกคนนั่งรออยู่

         ผู้หญิงวัยกลาง ใส่ชุดเหมือนนางพยาบาลแต่เป็นสีดำทั้งชุด ผมสีแดง มีรอยเย็บบนตัว

         ผู้หญิงคนนั้นหันไปหาพวกเค้าด้วยสายตาที่ดูดุดัน

         "กว่าจะมาได้นะ..." ผู้หญิงคนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว

         "ขอโทษที่ให้รอ แอน..."



    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    The Nurse Ann

          ในเรื่องไรท์จะเรียกเธอว่า 'แอน' ค่ะ

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



         "นั่งลงก่อนสิทั้งสามคน" สเลนเดอร์แมนเชิญให้ทั้งสามหนุ่มนั่งลงข้างๆแอนและเริ่มพูด

         "ฮูดดี้ ตอนที่พวกเธอสี่คนออกไปข้างนอก มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า" สเลนเดอร์แมนถาม เค้ารู้ว่าสเลนน่าโกหก สเลนเดอร์แมนก็เลยมาถามจากพร็อกซี้ของเค้าแทน

         ฮูดดี้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ทั้งเรื่องที่สเลนน่าเกือบจะได้รับอันตราย ทั้งเจอคนไม่ดีจากมหาลัยของเธอ

         "...ฮูดดี้ ไปตามสเลนน่ามาที่ห้องนี้ที่สิ ฉันอยากจะแนะนำแอนให้เธอรู้จัก" สเลนเดอร์แมนสั่ง ฮูดดี้นิ่ง ทั้งที่สเลนเดอร์แมนเคยบอกไว้ว่าไม่ต้องการให้คนอื่นนอกจากพวกเค้ารู้เรื่องของสเลนน่า แต่เค้าก็ออกจากห้องไปตามสเลนน่ามา

         เมื่อสเลนน่ามาถึง แอนก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปหาเธอ สเลนน่ารีบไปหลบหลังฮูดดี้ทันทีเมื่อแอนเข้ามาใกล้ แต่สเลนเดอร์แมนก็บอกว่าไม่เป็นไรและแนะนำแอนให้เธอรู้จัก

         "สเลนน่า นี่คือแอน เธอเป็นหมอเหมือนกับแจ็ค" สเลนเดอร์แมนอธิบาย เมื่อสเลนน่าไม่กลัวแอนแล้ว เธอก็เข้าไปทักทาย

         "ย-ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณแอน"

         "เรียกฉันว่าแอนเฉยๆก็พอ" ทั้งสองคนต่างทักทาย

         "งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อน พวกเธอไปได้แล้ว แต่ฮูดดี้อยู่ก่อน" สเลนเดอร์แมนบอก แมสกี้ โทบี้ และสเลนน่า ทั้งสามคนออกจากห้องไป เหลือแค่ฮูดดี้อยู่ในห้องกับแอนและสเลนเดอร์แมน

         "...ฮูดดี้ รู้ใช่มั้ยว่าสเลนน่าไม่ใช่คนปกติ เธอเหมือนกับพวกเรา" สเลนเดอร์แมนพูด ฮูดดี้แค่ผงึกหัวให้ เค้าก็รู้เรื่องนี้มาสักพักแล้ว

         "...งั้นฟังสิ่งที่ฉันจะพูดให้ดีๆ" สเลนเดอร์แมนเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าฮูดดี้แล้วพูด

         "ถ้ามีวันใดวันนึง สเลนน่าสูญเสียการควบคุม หรือเธอไม่ใช่ตัวเธออีกต่อไป..."

         "อย่าลังเลที่จะฆ่า"

         ประโยคนั่นทำให้ฮูดดี้ถึงกับสตั้นไปเลย เค้าไม่เข้าใจ ทั้งที่สเลนเดอร์ดูแลสเลนน่ามาตลอด แต่กลับมาบอกให้เค้าฆ่าเธอ

         ทำไม?...

         "ท-ท่าน...ทำไม?" ฮูดดี้แถบพูดไม่ออก แล้วทำไมต้องเป็นเค้าที่ฆ่าเธอ...

         "...ถ้าจะต้องมีใครสักคนฆ่าสเลนน่า แม้แต่ฉันก็คงทำไม่ได้ เพาะฉะนั้น...ฉันจึงตัดสินใจว่าเธอคือตัวเลือกที่ดีที่สุด" สเลนเดอร์แมนอธิบาย แต่นั่นก็ไม่ได้บอกเหตุผลอยู่ดีว่าทำไมต้องเป็นฮูดดี้

         "แต่-"

         "เข้าใจนะ..." สเลนเดอร์แมนถาม และเหมือนเป็นคำสั่งที่ฮูดดี้ต้องรับทั้งที่ไม่ต้องการ

         ฮูดดี้ทำได้แค่ยืนนิ่ง ไม่พูดอะไร ในหัวตั้งคำถามว่าทำไมต้องเป็นเค้า ทำไมถึงไม่เป็นเจฟ ทำไมถึงไม่เป็นคอื่น แล้วที่สเลนเดอร์แมนทำมาทั้งหมดก็คือไม่มีความหมายอะไรเลยงั้นเหรอ? แล้วที่พาสเลนน่ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกเพื่ออะไรละ?

         สเลนเดอร์แมนรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตจากด้านหลังของเค้า เค้าหันกลับไปดูก็เห็นแอนที่มองเค้าด้วยสายตาอาฆาต สเลนเดอร์แมนจึงสั่งให้ฮูดดี้ออกไปก่อน...

         ระหว่างที่ฮูดดี้เดินไปเค้าก็คิดไปด้วย ถ้าสักวันเค้าต้องเป็นคนฆ่าสเลนน่าจริงๆ แล้วเค้าจะทำได้มั้ย? และทุกคนจะรู้สึกยังไง?...



         เมื่อฮูดดี้เดินออกไปทั้งห้องก็เงียบ แต่ไม่นานก็มีเสียงเลื่อยดังขึ้น นั่นคือแอนที่กระโจนเข้าไปหาสเลนเดอร์แมนพร้อมทั้งเลื่อยไฟฟ้าของเธอที่พร้อมที่จะเฉือนเค้าเป็นชิ้นๆ

         "ใอเจ้าเปรตเดินดินกินเนื้อคน!" แอนตะโกนดังสุดเสียง หนวดหมึกสีดำที่อยู่ด้านหลังสเลนเดอร์แมนรีบมัดตัวเธอไว้

         "อย่างแรก ฉันไม่ได้กินเนื้อคน ฉันแค่ฆ่าคน" สเลนเดอร์แมนพูด แอนพยายามใช้เลื่อยตัดหนวดพวกนั้นให้ขาดแต่ก็ไม่ได้ผล

         "และฉันจะไม่ลงโทษที่เธอพยายามจะเฉือนฉันละกัน เพราะมีแค่พวกเราเท่านั้นที่รู้เรื่องทั้งหมด" แล้วสเลนเดอร์แมนก็วางตัวแอนลง เธอหายใจเข้าลึกและถอนหายใจออกมา พยายามควบคุมอารมณ์ของเธอแล้วพูด

         "คุณนี่มันบ้าจริงๆ ชอบทำอะไรแล้วไม่บอกคนอื่นก่อน และที่ผ่านมาทั้งหมดที่เราวางแผนไว้เพื่ออะไรละ ในเมื่อคุณพาเด็กคนนั้นมาที่นี่แล้ว!" แอนเอามือกุมขมับตัวเอง

         สเลนเดอร์แมนเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเค้าแล้วพูด

         "ฉันแค่ต้องการจะปกป้องสเลนน่า" สิ่งที่สเลนเดอร์แมนพูดนั้นทำให้แอนรีบพูดแย้งขึ้นมาทันที

         "โดยการพาเด็กคนนั้นมาที่นี่เหรอ!" แอนพูดพร้อมกับทุบมือลงที่โต๊ะแรงๆต่อหน้าสเลนเดอร์แมน

         "ให้ฉันเล่าให้จบก่อน..." สเลนเดอร์แมนยื่นเอกสารให้แอน เธอสงสัยเลยรับมาเปิดดู

         "ฉันยังไม่ได้บอก ฉันเชื่อมจิตกับสเลนน่าไว้แล้ว" สเลนเดอร์แมนพูด แอนเปิดดูเอกสาร มีรูปถ่ายมือของสเลนน่าที่ตอนนี้มันแถบจะกลายเป็นสีดำทั้งมือ และการทดลองต่างๆที่ผ่านมา

         "ฉันสามารถมองเห็นผ่านสายตาของสเลนน่าได้ เท่านี้ฉันก็สามารถจับตาดูเด็กคนนั้นได้ตลอดเวลาสเลนเดอร์แมนใช้พลังของเค้า มองผ่านทางสายตาของสเลนน่าที่ตอนนี้กำลังเล่นกับแมวอยู่

         "...แต่คุณก็ไม่ควรพาเธอมาที่นี่" แอนพูดพร้อมกับวางเอกสารลง

         "อย่างที่ฉันพูด ฉันแค่อยากปกป้องเด็กคนนั้น-"

         "ไม่! เพราะคุณเชื่อสิ่งที่ 'เจ้าตัวตลก' นั่นพูดต่างหาก!" ในห้องเงียบไปเมื่อแอนพูด เธอเริ่มขึ้นเสียงใส่สเลนเดอร์แมน

         "เราทำตามแผนที่เราวางไว้ได้ดีมาโดยตลอด จนกระทั้งคุณไปหาเจ้าตัวตลกนั่นอีกครั้ง!" แอนพูด สเลนเดอร์แมนก็รู้ดีว่า 'เจ้าตัวตลก' ที่แอนพูดหมายถึงคือใคร

         "สุดท้ายคุณก็เชื่อสิ่งที่เจ้านั่นพูด คุณเลยออกนอกแผน คุณพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตที่ไม่มีใครสามารถคอนเฟิร์มได้ว่าจะเกิดขึ้นจริง!"

         "สิ่งที่เจ้านั่นเคยเห็นในนิมิตไม่เคยพลาด-"

         "เพียงแค่ว่าเจ้านั่นพูดถูกแค่ครั้งเดียวเรื่องที่ว่าคุณจะต้องสู้กับ 'ซาลโก' และกลับมาในสภาพที่บาดเจ็บสาหัส มันไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เจ้านั่นเห็นจะเป็นจริงเสมอไป" แอนดุ

         "คุณไม่ได้คิดบ้างเหรอว่าแผนที่เราวางไว้ตั้งแต่แรกอาจจะเป็นแผนที่ดีที่สุดแล้ว!"

         "...เธอไม่รู้" สเลนเดอร์แมนพูดหลังจากที่เงียบไปแป๊บนึง

         "เธอไม่เคยรู้ว่าสเลนน่าต้องเจออะไรมาบ้าง" สเลนเดอร์แมนพูด นั่นทำให้แอนนิ่งไป

         "ฉันรู้ว่าฉันผิดแผน แต่แผนที่เราวางกันไว้มันแลกมาด้วยกับการที่สเลนน่าจะต้องใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นมาตลอดหลายปี!..." คราวนี้สเลนเดอร์แมนเป็นฝ่ายขึ้นเสียงใส่บ้าง

         "...ฉันรู้...แต่นั่นก็เพื่อความปลอดภัยของสเลนน่า" แอนพูด

         "...แล้วคุณจะทำยังไงต่อ?" แอนถาม แล้วสเลนเดอร์แมนก็เริ่มอธิบายแผนใหม่ของเค้า

         "ไม่ว่าเจ้าตัวตลกนั่นจะพูดยังไง ฉันก็จะขอพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อที่จะเปลี่ยนอนาคตที่เจ้านั่นเห็น" สเลนเดอร์แมนพูด นั่นทำให้แอนสงสัยขึ้นมา

         "มันเกี่ยวข้องกับเรื่องที่คุณสั่งให้ฮูดดี้ฆ่าเด็กคนนั้นรึเปล่า?" แอนถาม

         "ตอนนี้สเลนน่ากำลังปรับตัวกับสิ่งใหม่ๆ ฉันสังเกตมาได้สักพักแล้ว ส่วนสเลนน่าเองก็คงเริ่มรู้ตัวแล้วเช่นกัน" สเลนเดอร์แมนเล่าให้ฟังพร้อมกับเปิดเอกสารของเค้าทั้งหมด

         "แต่มันก็ไม่ได้การันตีว่าสเลนน่าจะสามารถควบคุมตัวเองได้ และอาจจะลงเอยเหมือนตอนนั้น" สเลนเดอร์แมนนึกย้อนกลับไปตอนที่สเลนน่าควบคุมตัวเองไม่ได้และเผลอทำร้ายคนอื่นๆ

         "แล้วถ้ามันเป็นอย่างที่เจ้าตัวตลกนั่นเห็น ฮูดดี้ก็คือคนที่ฆ่าสเลนน่า"

         "...และถ้าเกิดเค้าทำไม่ได้ล่ะ?" แอนถาม แล้วถ้าฮูดดี้ไม่ยอมที่จะฆ่าสเลนน่าล่ะ?

         "งั้นก็หมายความว่าเราเปลี่ยนอนาคตสำเร็จ..." สเลนเดอร์แมนพูดพร้อมกับปิดแฟ้มเอกสารไป



    ติดตามตอนต่อไป

         ไรท์กลับมาแล้ว~ หลังจากหายไปนาน

         ไรท์ยอมรับผิด ไรท์ติดดูหนัง, ดูอนิเมะค่ะ555

         แค่นี้ค่ะ ไรท์ไปก่อนน้า~
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×