คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เดือนหก
เดือนหก
“กับข้าวอร่อยมาก
ๆ เลยครับย่าบัว”ไม้ว่าออกมาหลังจากที่ได้ลองชิมฝีมือย่าบัวที่วันนี้ลงครัวทำอาหารด้วยตัวเอง
“ใช่ค่ะฝนชอบมาก
ๆ”อาหารทุกอย่างที่วางอยู่ตรงหน้าดูก็รู้ว่าคนทำใส่ใจลงไปด้วยมากแค่ไหน
ก็นะหลานสุดที่รักกลับบ้านหลังจากไม่ได้กลับมาตั้งเป็นปีแถมพาเพื่อนมาด้วยใจคนแก่มันมีความสุขจนล้น
“ถ้าชอบก็ทานกันเยอะ
ๆ เลยนะลูกย่าเตรียมไว้ให้พวกเราทั้งนั้น มีของหวานด้วยนะจ๊ะ”ย่าบัวพูดออกมาพร้อมยิ้มให้เด็ก ๆ อย่างอ่อนโยน
“เดือนจะกินให้อ้วนไปเลย”คนตัวเล็กว่าอย่างเอาใจย่าคนสวยของตัวเอง
“น้องเดือนของย่ากินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนหรอกค่ะ”
“ก็ระบบย่อยอาหารของเดือนทำงานดีไงครับ”
“เอ่อ
ขอโทษนะครับย่าบัวผมสงสัยว่าทำไมถึงเรียกว่าเดือนเหรอครับ”หลังจากที่นั่งฟังบทสนทนาระหว่างย่าและหลานมานานตั้มจึงเป็นคนเอ่ยถามในเรื่องที่ทุกคนก็คงสงสัยเหมือนกัน
ก็เพื่อนตัวเล็กนี่มันชื่ออ้ายไม่ใช่เหรอ
หรือมันหลอกพวกเขากันวะ
“หืม
แล้วปกติเรียกอะไรกันเหรอจ๊ะ”คุณย่าเอ่ยถามยิ้ม ๆ
“อ้ายครับ”แมกซ์ตอบ
“อย่างนี้นี่เอง
น้องเดือนไม่ได้บอกเพื่อนเหรอคะ”คุณย่าคนสวยหันมาถามคนตัวเล็ก
“เดือนไม่ได้บอกครับก็พวกมันชอบแกล้งเดือนอ่ะถ้ารู้ชื่อเต็มต้องโดนล้อแน่
ๆ เดือนเลยไม่ได้บอกครับ”เดือนอ้ายคงลืมไปว่าต่อให้รู้ตอนนี้หรือรู้ก่อนหน้านี้ก็โดนล้อได้เหมือนกัน
“เรานี่นะ
เอาเถอะจ๊ะจริง ๆ แล้วชื่อเล่นเต็ม ๆ
ของน้องเดือนชื่อเดือนอ้ายส่วนพี่ชายของน้องเดือนชื่อเดือนสิบค่ะ
ชื่อไร่ก็มาจากชื่อของน้องเดือนกับพี่สิบคุณพ่อกับคุณแม่ของน้องเดือนสร้างบ้านไร่นี้มาด้วยกัน”คุณย่าบอกก่อนที่จะมองหน้าเดือนอ้ายพร้อมกับลูบมือบางอย่างปลอบโยนแล้วเริ่มเล่าต่อ
“ไร่ล้อมเดือนเกิดจากการที่คุณพ่อกับคุณแม่ของน้องเดือนกับพี่สิบต้องการให้ไร่แห่งนี้เปรียบเสมือนบ้านที่เต็มไปด้วยความสุข
และล้อมเดือนคือการโอบกอดน้องเดือนกับพี่สิบไว้เปรียบดั่งคนที่สร้างไร่นี้ขึ้นมายังคงอยู่กับทุกคนตลอดไป”เมื่อฟังคุณย่าเล่าเสร็จเดือนอ้ายก็ก้มหน้าลงไม่สบตาใคร
ให้ฟังอีกกี่ครั้งก็ไม่พร้อมที่จะชินกับมัน คนตัวเล็กสูดหายใจเข้าลึก ๆ
ก่อนที่จะเงยหน้ามองทุกคน
“ย่าบัวครับ
ตอนเย็นเดือนว่าจะพาเพื่อนไปไหว้ป๊ากับแม่
ยังไงรบกวนเตรียมอุปกรณ์ให้เดือนด้วยนะครับ เดือนจะจัดดอกไม้เอง”สวนดอกไม้ที่แม่ชอบและป๊าเป็นคนทำให้เองกับมือ
ดอกไม้ทุกต้นเดือนยังดูแลมันอย่างดีนะครับเดือนจะเอาไปให้ป๊ากับแม่นะ
“ได้จ๊ะ
ย่าดูแลแทนน้องเดือนเป็นอย่างดีตอนนี้สวยเชียวล่ะ”ว่าพร้อมกับลูบหัวปลอบคนตัวเล็กไปด้วย
น้องเดือนยังเด็กไม่ว่าเรื่องจะผ่านมานานแค่ไหนแต่เด็กอายุแค่นั้นไม่ควรจะได้เจอเรื่องที่ทำร้ายจิตใจที่บอบบางของเขามากขนาดนี้
เดือนอ้ายไม่ผิดที่จะจดจำและยังคงเจ็บปวดกับมัน
“ขอบคุณครับ”เอ่ยขอบคุณคุณย่าสุดที่นักไปก่อนจะหันกลับไปคุยกับเพื่อน
“เดี๋ยวแดดอ่อนลงกว่านี้สักบ่ายแก่
ๆ จะพาเข้าสวนนะ”
“เอาดิ ๆ
อย่างเห็นคงสวยมากแน่ ๆ”ไม้ว่าอย่างเอาใจเพื่อนตัวเล็ก
เดือนอ้ายไม่เหมาะกับความเศร้าหรือเสียใจหรอก
รู้ว่าเพื่อนตัวเล็กพยายามเข้มแข็งมากแค่ไหนแต่ก็ทำได้แค่ทางสีหน้าเท่านั้นแต่ดวงตาไม่เคยซ่อนมันได้เลย
ยัยหนูอ้ายของพวกเขาไม่เหมาะกับความเศร้าเลยจริง ๆ
“สวนดอกไม้ใช่ไหมอ้าย”ฝนเอ่ยถามเพื่อน
“ใช่แล้วล่ะเราจะไปเก็บดอกไม้กัน”สวนที่น้อยคนนักจะได้ย่างกลายเข้าไปเฉยชมความสวยงามของมันนอกจากเดือนอ้ายและเดือนสิบยังมีย่าบัวและคุณแม่บ้านที่อยู่มานานแล้วเท่านั้น
อ้อมีคุณลุงมีด้วย รวมแล้วมีเพียงหกคนเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าสวนดอกไม้นี้ สวนดอกไม้ของแม่
“ต้องสวยมากแน่
ๆ เลย”ฝนว่าอย่างตื่นเต้น
“แน่นอนอยู่แล้วถ้าฝนได้เห็นต้องชอบอยู่แล้ว”เดือนอ้ายว่า
คุณย่านั่งมองเด็ก
ๆ คุยกันและทานของหวานไปด้วยอย่างมีความสุข หนูเจอคนที่ดีกับหนูมาก ๆ
แล้วนะน้องเดือนย่าขอให้หนูมีความสุขแบบนี้ไปตลอดนะลูก
และย่าก็หวังว่าเดือนสิบของย่าจะมีความสุขเหมือนกับน้องบ้าง
อย่าได้จมอยู่กับความทุกข์นักเลยนะคะพี่สิบของย่า
.
.
ตอนนี้แดดเริ่มไม่ร้อนแล้วเพราะเป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้วและทุกคนกำลังเตรียมตัวที่จะไปเก็บดอกไม้กันที่สวน
“โอเคพร้อมกันแล้วนะ”เดือนอ้ายถามเพื่อน
“พร้อม!”ทุกคนตอบอย่างแข็งขัน
“ตัวเล็กใส่หมวกด้วย”เฮียพูดกับแฟนตัวเอง
เราจะไปกันแค่ห้าคนเพราะพวกเฮียเขาไม่ไปด้วยเห็นบอกว่าสวนดอกไม้ไปกันไม่ได้กับผู้ชายคูล
ๆ
โอเคจะพยายามเข้าใจนะครับ
“เค้าใส่แล้ว
ๆ เฮียห้ามบ่นนะ”เสียงคุยกันจากคู่รักหนึ่งเดียวดังขึ้นให้ได้ยินเป็นระยะ
ๆ
“ลุยกันเลย”
.
.
ตอนนี้เราอยู่กันที่ด้านหน้าของสวนดอกไม้ที่ด้านหน้ามีป้ายชื่อของสวนน่ารัก
ๆ ที่ป๊าทำให้แม่ ‘สวนของคุณนายดารา’ พร้อมกับรูปหัวใจสลักท้ายชื่อ
เดือนอ้ายรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปตอนเด็กเลย
“ปะป๊าจ้าอันนี้อ่านว่าไรอ่ะ”เดือนอ้ายในวัยห้าขวบถามคุณพ่อสุดหล่อ
“อันนี้เป็นชื่อสวนของคุณแม่ครับน้องเดือนอ่านว่าสวนของคุณนายดารา”คุณธันวาตอบลูกน้อยตัวเล็กของตัวเองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่เต็มไปด้วยความรัก
“งื้อชื่อคุงแม่”เดือนอ้ายว่าออกมาอย่างน่ารักพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้า
“ใช่แล้วครับน้องเดือนชอบไหม”
“หนูชอบ
ๆ”เด็กน้อยรีบตอบ
“สองพ่อลูกทำอะไรกันอยู่คะแม่กับพี่สิบตามหาตั้งนาน”เสียงอ่อนโยนของคุณแม่คนสวยดังขึ้นด้านหลังของธันวาและเดือนอ้าย
พร้อมกับจูงมือเดือนสิบเดินเข้าไปหา
“ผมพาลูกมาดูสวนของคุณ
มันออกมาดีมากคุณชอบใช่ไหม”ธันวาเอ่ยถามภรรยา
“แน่นอนค่ะฉันชอบมาก
ขอบคุณมากนะคะธันที่ทำสวนนี้ให้ฉัน”คุณดาราว่าพร้อมรอยยิ้มที่มีความสุขมอบให้คนเป็นสามี
“อะไรที่คุณชอบและมีความสุขผมพร้อมทำให้ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย
ทั้งคุณและลูกเป็นทุกอย่างของผม
เดือนอ้ายและเดือนสิบเปรียบเสมือนของขวัญที่พระเจ้ามอบให้เรา”
“ครอบครัวของเราสมบูรณ์แล้วนะ”สองสามีภรรยาพูดออกมาพร้อมกันและยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
ภาพด้านหลังคือภาพของครอบครัวที่มีความสุขที่สุดมีคุณพ่อคุณแม่และลูกชายอีกสองคนถูกโอบล้อมไปด้วยดอกไม้และบรรยากาศดี
ๆ ในพื้นที่ที่เรียกว่าบ้าน บ้านที่กว้างและใหญ่โตแต่กลับอบอุ่นที่สุด
เมื่อเผลอนึกถึงเรื่องในอดีตน้ำตาของเดือนอ้ายก็เอ่อคลอรอบดวงตาสวยจนต้องกระพริบตาถี่
ๆ เพื่อไล่มันออกไปไม่ให้ไหลลงมาเปื้อนแก้มสวย
“เข้าไปกันเถอะ”เดือนอ้ายพูดกับเพื่อนก่อนจะเดินเข้าสวน
“สวยมาก”ฝนว่าออกมาอย่างเหม่อลอย
“เชี่ยเหมือนในฝันเลยวะ”
“ดูแลดีมากจริง
ๆ ไม่ตายสักต้นแถมช่อดอกสวยมาก”
“กูว่ากูยังไม่ตื่น”
บรรยากาศด้านในของสวนดอกไม้ไม่ได้มีแค่ดอกไม้ชนิดเดียวหรือสองชนิดแต่มันมีมากถึงสิบชนิด
แต่ละชนิดล้วนมีความหมายที่แม่ชอบ
“นี่ดอกอะไรเหรออ้ายสวยจัง”ฝนถามขึ้น
“ดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์”
ดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์เป็นดอกไม้สีขาวสะอาดตารูปทรงเหมือนระฆังเล็ก
ๆ เรียงบนกิ่งก้านบอบบาง มีกลิ่นหอมหวนหวานสนิท และให้ความหมายที่หวานลึกซึงคือ
ความอ่อนหวานของคุณช่วยเติมชีวิตฉันให้สมบูรณ์
มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความสุขที่หวนคืนมา
“มึงง
มีดอกกุหลาบสีดำกับสีน้ำเงินด้วยวะ”ตั้มว่าอย่างตื่นเต้น
ดอกกุหลาบสีดำและสีน้ำเงินเป็นดอกไม้ที่ปลูกยากและต้องการการดูแลเอาใจใส่มากที่สุด
เดือนอ้ายเป็นคนปลูกเองกับมือเพราะคนตัวเล็กสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ
ดอกกุหลาบสีน้ำเงิน
ความหมายเดิมของมันสื่อถึงความเป็นไปไม่ได้ เป็นการปฏิเสธอย่างหนักแน่น เป็นความรักที่ไม่มีทางเป็นจริง
แต่ความหมายใหม่ของมันหมายถึงความสมหวัง การรอคอยด้วยความอดทน ความมั่นคงในความรัก
ดอกกุหลาบสีดำ
สื่อถึงความรักความรักอันเป็นนิรันดร์ ความรักที่มั่นคงตลอดกาล ไม่เคยจางหาย
ซึ่งมันก็เข้ากันดีกับความหายากของกุหลาบสีนี้ เหมือนจะสื่อว่าความรักนิรันดร์ไม่ได้พบเจอกันได้ง่าย
ๆ ราวกับว่ามันอาจจะไม่มีอยู่จริงในโลก
ความหมายของมันช่างเหมือนกับสิ่งที่เดือนอ้ายกับเดือนสิบต้องพบเจอ
“พอเก็บเสร็จแล้วจะได้ไปจัดช่อกันต่อ
เลือกเอาดอกไม้ที่ชอบเลยนะ”เดือนอ้ายบอกเพื่อน
“แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ชอบดอกอะไรเหรอ”แม็กซ์ถามเพื่อนด้วยเสียงที่ไม่มั่นคงเพราะเขาคิดว่ามันต้องมีเรื่องอะไรที่เพื่อนยังไม่ได้บอกพวกเขาอีกแน่
ๆ
คำถามจากเพื่อนทำให้เดือนอ้ายลมหายใจสะดุดอีกครั้งก่อนที่จะยิ้มบาง
ๆ ส่งให้เพื่อนแล้วหันไปเลือกดอกไม้ต่อ
“ดอกไม้ที่แม่ชอบก็ในสวนนี้ทั้งหมดแหละแต่จะชอบมากที่สุดก็เห็นจะเป็นฟอร์เก็ตมีน็อตกับสต๊อค”เดือนอ้ายพูดกับเพื่อนแต่ยังคงเลือกดอกไม้ต่อไม่ได้หันกลับมาสบตา“ส่วนป๊าน่ะแม่ชอบอะไรป๊าก็ชอบหมดแหละ”คุณธันวานะตามใจคุณดาราที่สุดเลยและรักกันมากด้วย
แค่นึกถึงก็ทำให้คนตัวเล็กยิ้มได้ยิ้มที่มีทั้งความสุขและความคิดถึงรวมทั้งความเจ็บปวด
“โอเคงั้นกูเอาที่คุณแม่ชอบท่านจะได้เอ็นดูกูแทนมึงเผื่อจะได้มรดกจากท่านบ้าง”ไม้ว่าออกมาอย่างทะเล้นเขาไม่อยากเห็นเพื่อนตัวเล็กเศร้า
“เสียใจกูต่างหากที่ท่านจะรัก”ตั้มเกทับแล้วเชิดหน้า
จากนั้นทุกคนต่างตั้งใจเลือกดอกไม้ที่ต้องการเพื่อที่จะนำไปเข้าช่อให้สวยงาม
.
.
“จัดยากชิบหาย”
“ยัยหนูอ้ายมึงจัดสวยจังวะ”
“ก็จัดมาตั้งนานแล้วไหม”ว่าตอบเพื่อนแล้วจัดต่อ
“ยากจังอ้ายฝนทำเบี้ยวอีกแล้วว”ฝนว่าอย่างอแง เฮียจนได้เข้ามาปลอบแฟนก่อนที่จะถอดใจไปซะก่อน
“ค่อย ๆ
ทำนะจัดเบา ๆ ดอกจะได้ไม่ช้ำ”เดือนอ้ายคอยสอนเพื่อนไปด้วย
หลังจากใช้เวลาจัดช่อดอกไม้กันอยู่นานก็ได้เวลาที่จะต้องไปไหว้ป๊ากับแม่แล้ว
“ไปกันเถอะ”เดือนอ้ายว่าแล้วลุกขึ้น
ทำให้ทุกขึ้นต้องลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินตามคนตัวเล็กออกไป
เราเดินทางกันด้วยรถของไร่ล้อมเดือนเพื่อที่จะไปยังสถานที่ที่ป๊ากับแม่พักผ่อนอยู่ด้วยกัน
.
.
บรรยากาศเย็น ๆ
ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยดอกไม้นา ๆ
ชนิดทั่วทั้งบริเวณตั้งแต่ทางเดินเข้ามาพวกเราทุกคนมองบรรยากาศรอบ ๆ ไปเรื่อย ๆ
เลยไม่ทันได้สังเกตจนตอนที่เพื่อนตัวเล็กหยุดเดินจึงทำให้ต้องหยุดตามไปด้วย
ด้านหน้าของเดือนอ้ายเป็นป้ายชื่อและรูปของใครสักคนที่พวกเขาไม่รู้จักมีรูปผู้ชายกับผู้หญิงคู่กันมองจากรูปทำให้รู้ว่าทั้งสองหน้าตาดีมากแค่ไหนและที่สำคัญคือมีใบหน้าคล้ายกับเพื่อนตัวเล็ก
พวกเขาคิดไว้ว่าเรื่องอาจจะเป็นแบบนี้แต่พอมาเจอจริง ๆ
กลับทำให้พูดไม่ออกทำได้แต่มองเพื่อนตัวเล็กที่ยืนสงบนิ่งแล้วมองไปคนบนรูปทั้งสอง
“สวัสดีตอนเย็นนะครับ”เดือนอ้ายเริ่มพูดและมองรอยยิ้มของผู้ให้กำเนิดทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะไม่ให้มันสั่น
“หนูกลับมาแล้วนะครับ
อยู่บนนั้นป๊ากับแม่สบายดีไหมคิดถึงหนูกับที่รักบ้างหรือเปล่า”ทั้ง ๆ ที่พยายามที่สุดแต่กลับห้ามน้ำตาไม่เคยได้เลย
“หนูคิดถึงป๊ากับแม่นะ
ป๊าไม่ต้องเป็นห่วงหนูแล้วนะครับไปเรียนที่นั่นถึงจะไกลจากบ้านเราและห่างจากป๊ากับแม่แต่หนูโชคดีที่เจอเพื่อนที่ดีและพี่ชายที่ดีกับหนูที่สุด
ส่วนที่รักก็ไม่ต้องห่วงนะครับหนูจะดูแลเป็นอย่างดี
วันนี้หนูพาเพื่อนมาไหว้ป๊ากับแม่ด้วย”เมื่อเดือนอ้ายพูดออกมาแบบนั้นทำให้เพื่อนเริ่มที่จะเดินไปยืนเคียงข้างคนตัวเล็ก
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ผมชื่อไม้นะครับ
ยินดีที่ได้พบพ่อกับแม่นะครับ ส่วนอ้ายไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราสัญญาจะดูแลให้อย่างดี”ไม้ขยับตัวไหว้ทำความเคารพก่อนจะกลับมายืนข้างเดือนอ้ายเหมือนเดิม
“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่
หนูชื่อฝนนะคะ”
“สวัสดีครับผมชื่อแม็กซ์นะครับ
ยินดีที่ได้รู้จักคุณพ่อกับคุณแม่นะครับ”
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่
ผมตั้มสุดหล่อนะครับยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เมื่อแนะนำเพื่อนให้ป๊ากับแม่รู้จักก็แนะนำพี่ชายที่แสนดีทุกคนต่อ
“หนูต้องกลับบ้านแล้วไว้หนูจะมาใหม่นะครับรักป๊ากับแม่มากนะ”
“คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับพวกเราจะช่วยดูแลเดือนอ้ายเป็นอย่างดี
สัญญาครับ”แมกซ์บอกกับคนทั้งสองที่ยังคงส่งรอยยิ้มมีความสุขบนรูปมาให้เพื่อย้ำให้คนที่อยู่บนฟ้าสบายใจว่าพวกเขาจะรักษาสัญญานี้อย่างแน่นอน
.
.
เมื่อกลับจากไหวป๊ากับแม่ของคนตัวเล็กเพื่อนก็รีบเดินมากอดเดือนอ้ายทันที
“ไม่เป็นไรนะมึงพวกกูยังอยู่ตรงนี้อยู่ข้างมึงเสมอ”ว่าแล้วก็กอดกันกลมทั้งห้าคนทำให้คนที่อายุมากกว่าที่ยืนดูอยู่ต้องเบือนสายตาหนีเพราะมันกระทบจิตใจมากที่สุด
การที่เราเสียคนที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับนั้นเป็นสิ่งที่โหดร้ายที่สุด
คุณธันวาและคุณดาราเสียชีวิตตอนที่เดือนอ้ายยังเด็ก
เด็กอายุแค่ 13 ปีที่ต้องรับรู้ถึงการจากไปของผู้ให้กำเนิดทั้งสองด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์แต่ต่อให้อายุมากแค่ไหนการที่เราต้องเสียใครไปสักคนมันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุด
ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนความเจ็บปวดที่ได้รับไม่เคยมีวันลืมเลยสักวินาที
....................................................................
“คนเล็กครับ”เสียงเรียกที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้เดือนอ้ายผละตัวออกจากวงล้อมของเพื่อนแล้วหันกลับไปมองด้วยความดีใจ
คนที่เรียกเป็นผู้ชายที่ดูดีมากทีเดียว
เป็นใครกันนะ
“ที่รัก!”เดือนอ้ายตะโกนเรียกอีกคนกลับไปก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปหาแล้วสวมกอดทันที
“ยินดีตอนรับกลับบ้านนะครับ”น้ำเสียงทุ้มนุ่มพูดออกมาแล้วกอดคนตัวเล็กกลับ
“ฮึก คิดถึง”เสียงสะอื้นเบา ๆ
พร้อมกับกอดคนตรงหน้าแน่น
ที่รัก!?
เพื่อนได้แต่ยืนมองอย่างงง
ๆ ว่าคนที่เพื่อนตัวเล็กเรียกว่าที่รักพร้อมวิ่งเข้าไปกอดอย่างยินดีคนนี้เป็นใคร
รู้แหละว่าเดือนอ้ายให้ความสำคัญกับคนที่มาใหม่มากทีเดียวแต่เขาเป็นใครกันละ
เกี่ยวข้องกับเพื่อนของพวกเขาในทางไหน แฟน? คนรัก? หรือพี่ชาย?
“ไม่ร้องแล้วนะครับคนดี”
“เข้าบ้านกันก่อนดีกว่านะครับอากาศเริ่มเย็นแล้วเดี๋ยวไม่สบาย”คนตัวสูงพูดพร้อมกับลูบหัวเล็ก ๆ ของเดือนอ้ายอย่างอ่อนโยน
แววตาที่ทุกคนเห็นคือแววตาที่รักใคร่ของผู้ชายตัวสูงคนนี้ที่มีให้เดือนอ้าย
คนตัวเล็กพยักหน้าเบา
ๆ ก่อนจะหันไปหาเพื่อน
“เข้าบ้านกัน”
.
.
ตอนนี้ทุกคนนั่งรวมกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นของบ้านและกำลังจะได้คลายความสงสัยกันสักทีว่าคนที่เดือนอ้ายเรียกว่าที่รักเป็นอะไรกับเจ้าตัวกันแน่
“ทุกคนนี้คือเดือนสิบพี่ชายของเราเอง”เดือนอ้ายแนะนำพี่ชายให้เพื่อนรู้จัก
เดือนสิบผู้เป็นพี่ชายของเดือนอ้ายนั้นมีรูปร่างที่สูงกว่าน้องของตัวเองอยู่มากเพราะคงได้จากพ่อมาเต็ม
ๆ
หน้าตาของสองพี่น้องมีส่วนที่คล้ายกันอยู่ไม่มากนักเพราะเดือนสิบจะหน้าตาค่อนข้างไปทางพ่อเยอะไปหน่อย
ส่วนเดือนอ้ายใคร ๆ
ก็บอกว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวจากคุณธันวาและคุณดาราเพราะเครื่องหน้านั้นจิ้มลิ้มมากจนคุณป๊าเขาหวงนักล่ะ
“ส่วนนี้เพื่อนของเดือนเองครับ”เดือนอ้ายแนะนำเพื่อนให้พี่ชายรู้จักบ้าง
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ”เดือนสิบตอบกลับพร้อมรอยยิ้มใจดี
พี่ชายของเดือนอ้ายคนนี้เป็นถึงคุณหมอประจำที่โรงพยาบาลดังในตัวของจังหวัดด้วยบุคลิกที่สง่างามและใจดีจึงเป็นที่รักของทุกคนไม่แพ้น้องชายของตัวเองอย่างเดือนอ้ายเลย
และอายุห่างจากคนตัวเล็ก 6 ปี
และด้วยการศึกษาที่จบด็อกเตอร์จากมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ
จากอเมริกาและความเพียบพร้อมทำให้มีคนมากมายอยากครอบครองแต่หารู้ไม่ว่าทั้งชีวิตเดือนสิบมีให้แค่น้องน้อยสุดที่รักเพียงคนเดียว
“ยินดีต้อนรับทุกคนอีกครั้งนะครับ
พอดีพี่ติดคนไข้นิดหน่อยเลยมาช้าต้องขอโทษด้วย”เดือนสิบว่า
“ไม่เป็นไรเลยครับทุกคนที่นี้ต้อนรับเราดีมาก
ๆ แล้วก็ขอบคุณสำหรับที่พักนะครับ”เฮียฟลุ๊คแฟนของฝนพูดขึ้น
“ยินดีครับ
แล้ววางแผนจะเที่ยวกันยังไงหืมคนเล็ก”เมื่อพูดกับฟลุ๊คเสร็จก็หันกลับมาถามน้องตัวเอง
“เพื่อนของเดือนมาเที่ยวกันอาทิตย์หนึ่งครับ
เดือนว่าจะพาดูไร่ของเราก่อนแล้วก็เข้าเมืองครับ”เดือนอ้ายวางแผนไว้ว่าจะพาเพื่อนไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินในตัวเมือง
และก่อนที่เพื่อนจะกลับจะพาไปไหว้พระขอพรที่วัด สำหรับวันที่เที่ยวในไร่ก็คงจะพาเพื่อนไปส่วนที่ปลูกผลไม้
และโรงผลิตไวน์ และจะพาไปเจอสีครามกับม่านหมอกด้วย
“รถพอไหมครับเอารถเราไปดีกว่านะแล้วก็ให้ลุงชัยขับให้จะได้เที่ยวกันสนุก
ๆ”เดือนสิบบอกน้อง
“เดือนก็คิดไว้แบบนั้นครับ
แต่ที่รักต้องไปกับเดือนด้วยนะ”เดือนอ้ายเริ่มหันไปอ้อนพี่ชาย
“ต้องไปสิครับพี่ยอมลางานเพราะคนเล็กเลยนะ”เดือนสิบยอมใช้วันหยุดที่ไม่เคยคิดจะหยุดเลยสักครั้งเพื่อน้องชายคนเดียวของตัวเอง
“งั้นวันนี้เดือนเข้าครัวดีกว่า”คนตัวเล็กว่าอย่างอารมณ์ดีลืมความเศร้าที่มีก่อนหน้านั้นไป
ที่เดือนสิบรีบกลับมาจากที่ทำงานก็เพราะแบบนี้เขาไม่อยากเห็นน้องต้องร้องไห้อีกแล้ว
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปช่วยนะครับ”
“ทุกคนรอทานได้เลยน้า
เดี๋ยววันนี้จะโชว์ฝีมือเอง”เดือนอ้ายหันกลับมาพูดกับเพื่อน วันนี้เดือนอ้ายมีลูกมือแหละนั่นก็คือที่รักเอง
“ให้เราไปช่วยไหมเกรงใจอ่ะให้เจ้าของบ้านทำให้ทานแบบนี้”ฝนว่า แค่ที่พักกับเที่ยวในไร่ก็เกรงใจจะแย่
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับตามสบายเลยเพื่อนของเดือนก็เหมือนน้องของพี่”
“ขอบคุณนะครับพี่สิบ”ใจดีทั้งพี่ทั้งน้อง
“จริงสิ
วันนี้เราทานข้าวกันที่เรือนแสงอรุณดีไหมครับ”เดือนอ้ายเสนอวันนี้เป็นวันที่คนตัวเล็กมีความสุขเพราะจะได้ทานข้าวกับพี่ชาย
ย่าบัว และเพื่อน ๆ เดือนอ้ายอยากให้มันเป็นเรื่องราวดี ๆ อีกเรื่องที่น่าจดจำ
ซึ่งเรือนแสงอรุณที่เดือนอ้ายพูถึงก็คือเรือนฝั่งซ้ายของบ้านนั่นเอง
กินพื้นที่หนึ่งในหกของพื้นที่ทั้งหมดบริเวณของบ้านหลัก
“เอาสิครับตามใจคนเล็ก”เดือนสิบว่า
“ทุกคนจะไปเดินเล่นรอที่เรือนแสงอรุณไหมเดี๋ยวให้พี่สายพาไป”คนตัวเล็กถามเพื่อน
“เอางั้นก็ได้
ว่าแต่ไม่ใช่พื้นที่หวงห้ามแน่นะ”ตั้มถามเพื่อนก็นะทุกอย่างที่นี้ดูมีความสำคัญกับเพื่อนตัวเล็กมากพวกเขาไม่กล้าเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปหรอก
“ไปได้อยู่แล้ว”คนตัวเล็กว่าอย่างติดตลก
“โอเคงั้นพวกกูรอที่เรือนนะ”
หลังจากเพื่อนเดินออกไปเดือนอ้ายกับเดือนสิบก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้าครัวกันทันที
แต่เดือนอ้ายคงลืมอีกอย่างไปแล้ว
ลืมไปแล้วว่าต้องโทร.หาใคร
ลืมไปแล้วว่าใครกำลังรอการติดต่อกลับไปจากคนตัวเล็กอย่างเป็นกังวล
“ทำไมหายไปเลยนะ โทรหาก็ไม่ยอมรับสาย”
“ป่านนี้จะถึงหรือยังนะแมวเหมียว”
“เสร็จแล้ว”คนตัวเล็กแล้วยิ้มตาปิดส่งให้พี่ชายตัวเอง
“หืม
คนเก่งของย่าฝีมือไม่เคยตกเลยนะคะ”คุณย่าของทั้งสองว่า
“นั้นสิครับ
ไปอยู่ที่นั่นพี่ตามไปดูแลไม่ได้ด้วยสิ”ความหวงลูกของคุณธันวามีเท่าไหร่เดือนสิบยิ่งหวงน้องมากกว่านั้น
“งื้ออ”คนตัวเล็กส่งเสียงออกมาอย่างอ้อน ๆ
“งั้นย่าให้เด็กยกไปตั้งโต๊ะเลยนะคะ”
“ครับย่าบัวเดี๋ยวเราเดินไปพร้อมกันเลย”
จากนั้นทั้งสามคนก็เดินออกจากห้องครัวแล้วตรงไปที่เรือนแสงอรุณ
.
.
เรือนแสงอรุณเป็นเรือนไม้ขนาดกลางแต่มีบริเวณบ้านที่กว้างมีต้นไม้และดอกไม้ตกแต่งดูสวยงามและร่มรื่น
และเราจะทานข้าวกันที่ชานของเรือน
“ชอบมาก
คนออกแบบคือสุดยอด”
“ไม่คิดเลยว่าบ้านซ้อนบ้านจะสวยขนาดนี้”
“เป็นไอเดียที่ดีจริง
ๆ”
เมื่อพูดคุยกันเสร็จก็เริ่มลงมือทานอาหารกันทันที
เดือนอ้ายยิ้มออกมาบาง ๆ
แล้วหวนคิดถึงผู้ให้กำเนิดทั้งสองเรือนนี้เดือนอ้ายเป็นคนอยากได้ด้วยคำพูดของเด็กที่เปิดเจอหนังสือแบบบ้านเรือนไทยจึงบอกกับป๊าว่าถ้าบ้านเรามีแบบนี้คงดี
ไม่คิดว่าป๊าจะทำให้เพราะตอนนั้นยังเด็กมาก และเดือนอ้ายก็รักเรือนไม้ทั้งสามหลังนี้มากด้วย
.
.
อีกฝั่งหนึ่งในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร
“เป็นอะไรอีกละ”ยูเปิดปากถามเพื่อน แม่งอยู่ดี ๆ
ปิดเทอมก็โดนมันเรียกออกมาเนี่ยเสียเวลานอนกูจริง ๆ
“มาถึงก็ไม่พูดไม่จาแดกเอา
ๆ”เต้ว่า
ตั้งแต่แม่งมาก็แดกยังกับน้ำเปล่ากลัวไม่เมาหรือไงวะ
“พูดมากกินไปสิวะ”สกายเหลือบตามองเพื่อนนิดหน่อยก่อนจะยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปากต่อ
ตอนนี้สกายกำลังรอ
ใช่เขารอตั้งแต่เย็นจนตอนนี้ดึกมากแล้วแต่คนที่บอกว่าถึงแล้วจะโทร.กลับมาหายเงียบไปเลย ไม่รู้ว่าอีกคนกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ทำไมถึงยังไม่ติดต่อกลับมาสักที
ให้ตายเถอะเขาต้องนั่งมองมือถือแบบนี้อีกนานแค่ไหนกัน
“มีอะไรก็ไม่ยอมเล่าแล้วพวกกูจะรู้เรื่องไหม”ก็ดูมันดินั่งกินเหล้าแล้วมองมือถือในมือไปด้วยเหมือนกำลังรอสายจากใครสักคน
ว่าแต่คือใครกันละ?
ครืดด ครืดด
เวลาผ่านไปได้สักพักก็เหมือนพระเจ้าจะเห็นใจ
เสียงเรียกเข้าจากคนที่สกายกำลังรอก็ดังขึ้น
สกายจึงยัดตัวลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินไปหาที่เงียบ ๆ เพื่อคุยกับอีกคน
‘แมวเหมียว’
“…”ร่างสูงกดรับสายแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
เขากำลังรอว่าคนตัวเล็กจะพูดอะไร
‘ฮัลโหล
ได้ยินไหม’เสียงสดใสส่งมาถึงร่างสูงของสกายจากเครื่องมือสื่อสารที่กำลังแนบอยู่ข้างหู
หายไปตั้งนานกว่าจะติดต่อกลับมาทำไมเสียงถึงได้ดูมีความสุขนักนะแมวเหมียว
“หายไปไหนมาตั้งนาน”
‘พอดีมาถึงแล้วยุ่ง
ๆ เลยลืมไปน่ะ ไม่โกรธกันนะ’
เดือนอ้ายรีบบอกพร้อมกับส่งเสียงอ้อนมาตามสายเพื่อไม่ให้อีกคนโกรธหรืออีกอย่างก็คืองอน
เดือนอ้ายลืมไปจริง
ๆ อันนี้ตัวเองผิดไม่เถียง
“จะทำไงดีนะแมวเหมียวรู้บ้างไหมว่าคนรอมันเป็นห่วงแค่ไหน”ต่อให้จะพูดยังไงก็ขอดุก่อนต่อไปจะได้ไม่ลืมอีก
‘ไม่เอาไม่งอนนะ
ต่อไปจะไม่ลืมแล้วสัญญา’เดือนอ้ายยังอ้อนต่อไม่ลดละ
หึ
รอบนี้ปล่อยไปก่อนก็ได้แต่ถ้ามีรอบหน้าก็ค่อยว่ากัน
“แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่ครับ”
‘ตอบก่อนสิ
นะๆๆๆ ไม่โกรธนะจะให้ทำอะไรก็ได้เลยเอ้า’
“เฮ้อ”เสียงถอนหายใจจากร่างสูงทำเอาคนปลายสายหน้าเสียไปแล้ว
‘กาย..’
“งั้นกลับมาแล้วจะบอกครับ
แล้วตกลงตอนนี้ทำอะไรอยู่”
‘จะเข้านอนแล้ว
ตอนนี้กายอยู่ไหน’เสียงดนตรีที่ดังเข้ามาในสายทำให้เดือนอ้ายรู้ว่าอีกคนคงอยู่ข้างนอก
“มาดื่มกับเพื่อน”จริง ๆ เขาเป็นลากคอพวกมันออกมาต่างหากล่ะ
‘อย่าดื่มเยอะนะเดี๋ยวขับรถกลับไม่ได้
แต่ทางที่ดีอย่าขับรถเลยดีกว่า’น้ำเสียงเป็นห่วงดังออกมาจากปลายสาย
“จะกลับแล้วครับไม่ต้องห่วงไม่เมาแน่นอน”
‘โอเคขับรถกลับดี
ๆ นะถึงห้องแล้วทักมาด้วย’เดือนอ้ายรีบบอกคนตัวสูง
“ครับ ๆ”
‘(คนเล็กครับทำอะไรอยู่)’
แต่ก่อนที่สายจะตัดไปก็มีเสียงผู้ชายดังเข้ามาในสายทำให้สกายต้องยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูอีกครั้ง
“เสียงใคร!!”สกายถามออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ
‘ที่รัก!!’
แต่สิ่งที่ได้ยินกลับมาคือการที่คนตัวเล็กกำลังเรียกใครอีกคนอย่างตกใจก่อนที่สายจะโดนตัดไป
ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร!
ที่รักห่าอะไรวะ!!
#ฟ้าคลั่งรัก
อย่างเราบอกไว้นะคะเนื้อเรื่องเดินเร็วมาก
เพราะเราวางไว้แค่สิบตอนนิด ๆ ไม่กล้าแต่งเยอะกลัวออกทะเล แหะ ๆ ถ้าตรงไหนติดขัดแบบแปลก
ๆ บอกได้นะคะเราจะได้ปรับให้
ตอนต่อไปเจอกัน ศุกร์หน้านะคะ
เนื่องจากเราอยู่ในช่วงฝึกงานและอาทิตย์หน้าติดลงพื้นที่ทั้งอาทิตย์เลยต้องขึ้นเขา
ยังไงก็ฝากเอ็นดูเด็ก ๆ ด้วยนะคะ
ความคิดเห็น