คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เดือนสาม
เดือนสาม
ตอนนี้เป็นตอนที่อารมณ์จะคล้ายไบโพล่านะครับ เราเตือนแล้วน้า เพราะขนาดเราแต่งเองยังสลับขั้วอารมณ์เลย 5555
ตอนนี้คือไบโพล่าแล้วหนึ่ง
......................................................................
การใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เหมือนเดิมซ้ำ
ๆ จะแตกต่างหน่อยก็คงเป็นการที่มีใครอีกคนเพิ่มเข้ามาและทำให้ชีวิตมีสีสันหลากหลายมากขึ้น
เดือนอ้ายเคยมีความฝัน
ฝันว่าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนอย่างครอบครัวตนเอง อยากเจอคนรักที่ดี
เจอคนที่รักเขาและเขาก็รักเราเหมือนกัน อยากมีเจ้าตัวเล็กเป็นของตัวเอง
และเขาจะเป็นคุณพ่อที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกและเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี
แต่แล้วเดือนอ้ายก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่และเลิกคิดถึงความฝันอันสวยงามที่ได้วาดเอาไว้เพราะอะไรนะเหรอ
หึ
เพราะเดือนอ้ายพึ่งจะเข้าใจว่าที่จริงแล้วมนุษย์ทุกคนไม่ได้สวยงามเหมือนกันหมดยังไงล่ะเพราะฉะนั้นเลิกคิดเลิกฝันอะไรที่มันดูเหมือนเด็กน้อยตัวเล็ก
ๆ แบบนั้นสักที เพราะมันจะทำให้ตัวของเขาเองดูน่าสมเพช
หลังจากนั้นเดือนอ้ายจึงเลือกที่จะไม่รักใครและปฏิเสธทุกคนที่เข้าหาและเลือกที่จะเมินเฉย
แต่ดันเจอเข้ากับคนที่เป็นข้อยกเว้นสำหรับความรู้สึกของตัวเองเข้าจนได้ ทั้ง ๆ
ที่ตอนแรกเลือกที่จะไม่สนใจแต่ก็ยังแอบมองตามหลัง เลือกที่จะพ่นคำพูดจาร้าย ๆ
ใส่แต่กลับเอ่ยขอโทษในใจ
และยิ่งโดนเขาบอกชอบใจมันยิ่งลิงโลดด้วยความดีใจแต่ก็ไม่ยอมง่าย ๆ ยังทำเป็นใจแข็ง
และเมื่อตกลงที่จะคบกันก็จะคอยพร่ำบอกตัวเองอยู่เสมอว่าจงรักอย่างมีสติยู่เสมอ
แล้วผลสุดท้ายเป็นยังไงก็ต้องมานั่งทำหน้านิ่งทั้งที่ในใจเหมือนกับคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่งไม่เท่ากันน่ะสิ
“ทำไมทำหน้านิ่งแบบนั้นล่ะ”ฝนถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนคนน่ารักนั่งนิ่ง
“จะอะไรล่ะก็ภาพจากเพจมอไงที่ไอ้..
เออ นั้นแหละแม่งยืนยิ้มกับใครก็ไม่รู้แต่แอดมินเพจเสือกชงฉิบหายแล้วมันนั่งอ่านคอมเม้นต์ผลออกมาก็นั่นทำหน้าตูมแบบนี้ไง
เหอะ! กูว่าแล้วว่าแม่งต้องเจ้าชู้มึงต้องเลิกกับมันนะยัยหนูอ้าย”ไม้อธิบายยาวเหยียดแต่จุดประสงค์หลัก ๆ เลยก็คือ มึงต้องเลิกกับมันนะเดือนอ้าย
“ลูกอีช่างยุ!”
เพื่อนตะโกนใส่หน้าไม้ก่อนที่จะพูดประโยคที่ทำเอาเดือนอ้ายกับฝนถึงกับกุมขมับแน่น
“แต่ก็ดีนะกูเห็นด้วยมึงก็เลิกไปเลยสิ
ดีออกนะจะได้ไม่ต้องมานั่งเครียดแบบนี้”เอาแล้วไงไอ้พวกเพื่อนตัวดีทั้งหลาย!
“มันก็แค่รูปเองไหม
จะโวยวายกันไปทำไมรอถามเจ้าตัวเขาไปเลยสิ”ฝนว่าให้เพื่อนก่อนที่จะหันมาพูดกับเดือนอ้าย
“รอถามกายก่อนดีกว่าไหมอ้ายมันคงไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก”
“อือ”ต้องถามอยู่แล้วล่ะ แล้วเขาต้องได้คำตอบที่เป็นความจริงเท่านั้น
“ไม่เห็นต้องถามเลยภาพมันฟ้องอยู่แล้ว”ตั้มว่าออกมาเบา ๆ เพราะโดนฝนจ้องตาเขม่ง
หลังจากเรียนวิชาสุดท้ายของวันนี้เสร็จร่างสูงของสกายและเพื่อนก็เดินลงมาจากอาคารเรียน
“มึงนัดแฟนไว้เหรอวะ”เต้ถามขึ้นเมื่อเดินมาแล้วเห็นแฟนตัวเล็กของเพื่อนนั่งรออยู่ที่โต๊ะโดยที่กำลังก้มหน้าพิมพ์อะไรไม่รู้ในโทรศัพท์ที่ถืออยู่
“เออ
วันนี้กูว่าจะพาแมวเหมียวไปทานข้าวข้างนอกว่ะ”สกายตอบเพื่อนแล้วยักคิ้วแบบอารมณ์ดี
“ดินเนอร์?”
“หึ” ร่างสูงไม่ได้ตอบคำถามเพื่อนแต่คิดว่ามันคงรู้อยู่แล้ว
“แมวเหมียว”สกายเรียกคนที่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ในมือจนไม่สนใจว่าเขาเดินเข้ามาหา
“เลิกแล้วเหรอ”เดือนอ้ายเงยหน้าจากสิ่งที่อยู่ในมือก่อนที่จะมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วถามขึ้น
“ครับ
มารอนานหรือยัง”ถามแฟนตัวเล็กพร้อมกับยื่นมือมาลูบผมเบา ๆ
โดยไม่สนใจว่าเพื่อนมองอยู่
เหม็นความรัก!
“ไม่นาน”เดือนอ้ายตอบร่างสูงก่อนที่จะหันไปส่งยิ้มเบา ๆ ให้เพื่อนของแฟน
“งั้นเรากลับกันดีกว่า
กูไปล่ะ”สกายพูดกับคนตัวเล็กก่อนที่จะหันไปบอกลาเพื่อน
“เออเจอกัน
ๆ”จากนั้นก็เดินแยกออกมา
ทำไมวันนี้แฟนตัวเล็กของเขาดูแปลกไปดูนิ่ง
ๆ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ แถมยังขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
“แมวเหมียวครับเดี๋ยววันนี้เราจะไปทานข้าวข้างนอกกันนะ”แต่สกายก็เลือกที่จะเก็บความสงสัยไว้ก่อน และเลือกที่จะบอกเรื่องที่เขาคิดไว้แทน
“หือ?
อ๋ออืม ๆ”เดือนอ้ายทำหน้างงก่อนที่จะตอบไปเหมือนพึ่งประมวลผลของประโยคที่ร่างสูงบอกออกมา
“เดี๋ยวเรากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนนะครับ”
“เปลี่ยน?
เราจะไปทานข้าวกันที่ไหนงั้นเหรอ”เดือนอ้ายถามด้วยความสงสัย
“ความลับครับ”ตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำเอาเดือนอ้ายหมั่นไส้
“มีความลับเยอะจังนะ
อย่าให้จับได้ล่ะ”เดือนอ้ายว่าด้วยน้ำเสียงที่สกายไม่เคยได้ยินมาก่อน
ความลับเยอะ?
หมายความว่าไงกันแน่
แม่งใครกล้ามาทำให้เหมียวแมวของเขาคิดมากวะ
“วันนี้ดูแปลกไปนะครับ
มีอะไรอยากเล่าไหม”เมื่อถึงห้องสกายก็จูงมือคนตัวเล็กเดินไปนั่งที่โซฟาก่อนที่จะถามขึ้น
เดือนอ้ายยิ้มส่งให้คนที่นั่งกุมมือตนเองอยู่เบา
ๆ ก่อนที่จะพูดขึ้น
“เล่าเหรอ?
ไม่มีหรอก แต่เรื่องที่จะถามน่ะมี”
“มันเกี่ยวกับว่าวันนี้แมวเหมียวดูเงียบไปสินะครับ”เรื่องอะไรกันนะที่ทำให้แฟนเขาเป็นแบบนี้
“ใช่ และเผื่อยังไม่รู้เราไม่ชอบคนโกหก”เดือนอ้ายไม่ตอบแต่เลือกที่จะบอกอีกเรื่องที่สกายควรจะได้รับรู้
“ถามได้ทุกเรื่องครับ”สกายว่าแล้วกระชับมือแฟนตัวเล็กให้แน่นขึ้น
“เมื่อวันก่อนไปไหนมางั้นเหรอ
เท่าที่จำได้กายบอกเราว่าจะไปช่วยงานเพื่อน”
“ครับ
กายไปช่วยงานเพื่อน”สกายตอบก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันทำให้คนตัวเล็กไม่พอใจตรงไหนเพราะก่อนหน้านั้นเขาก็บอกไปแล้วและเดือนอ้ายก็รับรู้แล้วด้วย
มันผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่าวะ?
เดือนอ้ายมองคนตรงหน้าเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่างในดวงตาคู่คมนั้นก่อนที่จะดึงมืออกจากการเกาะกุมของสกายแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดอยู่สักพักก่อนที่จะส่งให้สกายที่กำลังมองดูอยู่
เดี๋ยวนะ
ให้ตายเถอะหาเรื่องให้กูบ้านแตกหรือไงวะ!!
เวรเอ๊ย!!
“แมวเหมียวฟังก่อนนะครับ
คนที่อยู่ในรูปเป็นน้องปีหนึ่งที่มาช่วยงานเหมือนกัน แล้วเพื่อนกายมันวานให้ช่วยดูงานส่วนที่น้องมันทำแค่นั้นเองครับ
แล้วที่ยิ้มก็แค่ตอบรับคำขอบคุณจากน้องเขาแค่นั้นเอง”สกายถอนหายใจก่อนที่จะอธิบายอย่างใจเย็น
“แค่อธิบายเรื่องแค่นี้ก็ถอนหายใจแล้วเหรอ”
“ทีหลังถ้าไม่พอใจที่จะบอกก็พูดมาสิ
เราขอโทษที่ทำให้เหนื่อยแล้วกันนะ”เดือนอ้ายพูดก่อนที่จะเดินเข้าห้องนอนไปแบบที่สกายคว้าตัวไว้ไม่ทัน
“ฉิบ!!”ไอ้เพจเวรเอ๊ย!!!!!
สบถก่อนที่จะเดินเข้าไปง้อคนที่กำลังเข้าใจผิด
เมื่ออยู่ในห้องน้ำคนเดียวเดือนอ้ายก็มองดูตัวเองผ่านกระจก
แค่อธิบายให้เข้าใจกันมันยากและมากไปสำหรับอีกคนสินะ
เดือนอ้ายคิดก่อนที่จะเงยหน้าและกระพริบตาถี่ ๆ
เพื่อที่จะไหลน้ำตาที่มันมาจากไหนไม่รู้
เขากลายเป็นคนงี่เง่าแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เขาไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้
จากที่ฟังคนตัวสูงอธิบายมาก็รู้ว่าคนของเขาไม่ผิด
แต่มันกลับเป็นเขาคนนี้นี่แหละที่ผิด
ผิดที่งี่เง่า
ผิดที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้
ความรักมักจะทำให้เราพูดอะไรออกไปแบบไม่ทันคิด
แล้วก็ต้องมานั่งรู้สึกผิดทีหลัง
ในที่สุดก็กลั้นไว้ไม่ไหวเดือนอ้ายทรุดตัวลงนั่งร้องไห้กับพื้นเงียบ
ๆ ไหล่เล็ก ๆ สั่นเทาอย่างน่ากลัว
เหมือนกับว่าคนตัวเล็กกำลังจะแหลกสลายไปในอีกเสี้ยววินาทีข้างหน้า
หมับ!
“คนดีไม่ร้องนะครับ”สกายที่เดินเข้ามาในห้องแล้วไม่เจอคนตัวเล็กจึงรีบเดินตรงมาที่ห้องน้ำซึ่งปิดประตูไม่สนิทก่อนที่จะเห็นภาพที่ทำเอาเขาต้องกัดฟันแน่นหัวใจบีบรัดอย่างรุนแรง
ก่อนที่จะรีบเข้ามาโอบก่อนคนรักไว้แนบอก
“คนดีไม่ร้องนะครับขอร้องล่ะ
อย่าร้องเลยนะ”
“กายไม่ได้รำคาญและยินดีที่จะอธิบายทุกอย่างที่คนดีอยากรู้
ที่ถอนหายใจเพราะกายไม่พอใจที่เพจเขาทำแบบนั้นแล้วมันทำให้คนดีของกายไม่สบายใจ
ไม่ใช่เพราะกายไม่อยากอธิบายกับคนดีเลย”สกายรีบบอกเรื่องที่ทำให้คนตัวเล็กต้องเสียใจและเข้าใจผิด
คนมันเคยเจ็บ
คนมันเคยมีแผลเป็น
แค่เรื่องเล็กน้อยแต่มันก็ยากเกินกว่าที่จะทำความเข้าใจ
เดือนอ้ายเป็นแบบนั้นเพราะมีแผลเป็นที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่
ไม่ใช่อยากที่จะอ่อนแอหรืออ่อนไหวกับอะไรง่าย ๆ
แบบนี้แต่ต้องเข้าใจว่ามันเป็นแผลที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้ แต่แค่ต้องหาวิธีให้มันพอทุเลาลงได้บ้างก็แค่นั้นเอง
“ฮึก ๆ
ไม่.. โกหกนะ”เดือนอ้ายถามอีกคนด้วยความไม่มั่นใจ
“ไม่โกหกครับ
ไม่เคยรำคาญเดือนจริง ๆ”สกายตอบก่อนที่จะอุ้มคนตัวเล็กขึ้นจากพื้นแล้วก้าวไปยังอ่างอาบน้ำ
“เลิกร้องได้แล้วครับ
กายใจไม่ดีเลย”
เดือนอ้ายพยักหน้ารับเบา
ๆ
วันนี้คนตัวเล็กมีคนอาบน้ำให้
เดือนอ้ายดูซึม ๆ ไปแค่ตอนที่เข้าใจแฟนตัวสูงผิดเท่านั้นแต่พออีกคนอธิบายด้วยความสัตย์จริงเดือนอ้ายจึงเริ่มที่จะกลับมายิ้มให้สกายอีกครั้ง
ซึ่งก็ทำให้สกายใจชื้นขึ้นมา
“เราจะไปที่ไหนกันงั้นเหรอ”เดือนอ้ายเอ่ยถามคนที่เป็นสารถีส่วนตัว
เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมาคนตัวโตก็ไม่ได้พูดอะไรอีกนอกจากคำพูดว่าจะพาไปทานข้าว
“เดี๋ยวไปถึงก็รู้ครับ”สกายตอบคำถามอีกคนยิ้ม ๆ
เดือนอ้ายไม่เหมาะกับน้ำตาหรอก
คนตัวเล็กคนนี้น่ะเหมาะกับรอยยิ้มสวย ๆ ต่างหาก
“ดูลึกลับจัง
ไม่ได้จะพาเราไปขายใช่ไหม”เดือนอ้ายว่าติดตลก
“ขายให้คนอื่นทำไมครับ
เก็บเอาไว้เองยังดีกว่าอีก แมวตัวนี้บ๊องจริง ๆ”สกายว่าแล้วก็ละมือออกจากพวงมาลัยรถแล้วโยกหัวเดือนอ้ายเบา
ๆ
“ไม่รู้ไม่ชี้
แล้วก็ไม่บ๊องด้วย”
สวยจัง! เดือนอ้ายร้องอุทานในใจ
บรรยากาศดีมากเลย
ตอนนี้สกายและเดือนอ้ายกำลังอยู่ที่ร้านอาหารที่ใกล้กับทะเลหรือพูดก็คือร้านอาหารริมทะเลนั้นเอง
เจ้าของร้านคงใส่ใจน่าดูเพราะร้านรู้สึกได้ถึงบรรยากาศรอบตัวที่ดูจะสบาย ๆ
ทั้งสวยงามให้ความอบอุ่น และโรแมนติกผสมผสานกันอย่างลงตัว
ไปเจอมาได้ยังไงนะ
“แมวเหมียวชอบไหมครับ”สกายถามคนที่ตั้งแต่เดินเข้ามาเอาแต่มองนู่นมองนี่ไม่หยุดเหมือนเด็กน้อยตัวเล็กที่ดีใจเวลาได้ของเล่นชิ้นใหม่ไม่มีผิด
“อือ ๆ
เราชอบมากเลยขอบคุณที่พามานะ”เดือนอ้ายรีบพยักหน้ารับทันที
“ด้วยความยินดีครับผม”
หลังจากที่ผ่านความรู้สึกที่เข้าใจไม่ตรงกันเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาจึงทำให้สกายได้เรียนรู้เกี่ยวกับเดือนอ้ายขึ้นไปอีกขั้นว่าแฟนของตัวเองนั้นเป็นคนยังไง
และเขาควรจะปรับตัวเข้าหากันยังไง
เดือนอ้ายเป็นคนที่ใจเย็นและมีเหตุผลมากเพราะดูจากที่อีกคนถามเขาอย่างใจเย็น
ทั้งที่ถ้าเป็นคนอื่นคงโวยวายให้ผิดใจกันจนแตกหักไปมากกว่านี้แล้วแต่คนตัวเล็กคนนี้กลับเลือกที่จะถามเขาก่อน
ซึ่งเขาไม่ได้มองว่ามันงี่เง่าเพราะเดือนอ้ายคงกำลังหวาดกลัวและอ่อนไหวดังนั้นเขาจึงต้องค่อย
ๆ อธิบาย ซึ่งเขาดีใจมากนะที่อีกคนรับฟังเหตุผลของเขา
แมวเหมียวน่ะน่ารักสำหรับเขาที่สุด
เขาเป็นคนที่โคตรจะโชคดีเลยที่ได้คนน่ารักคนนี้มาเป็นแฟน
และหวังว่าเราจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นในอนาคต
“อิ่มไหมครับเอาอะไรเพิ่มอีกไหม”เห็นคนตัวเล็กทานข้าวได้เยอะกว่าเดิมก็ถามขึ้น
“ม่ายย
เราไม่ไหวแล้วพุงยื่นแล้วด้วย”เดือนอ้ายส่ายหัวตอบอีกคน
แค่นี้ก็ไม่มีที่จะเก็บแล้ว
“ครับ ๆ
งั้นไปเดินย่อยกันไหม”สกายเอ่ยชวน
ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเคียงคู่กันไปยังชายหาด
คนหนึ่งตัวสูงและแข็งแรง
คนหนึ่งตัวเล็กน่ารักน่าเอ็นดู
ทั้งคู่นั้นเดินจับมือไปพร้อม
ๆ กันเป็นภาพที่สวยงามมากจริง ๆ
................................................................................
เรื่องเมื่อตอนเย็นเขาผิดเองที่อ่อนแอแบบนั้น
และใช่เดือนอ้ายไม่ได้อยากที่จะอ่อนแอแต่กลับยั้งความรู้สึกไม่อยู่
และมันทำให้เดือนอ้ายบอกกับตัวเองว่าเราควรที่จะเชื่อใจกันให้มากกว่านี้
เชื่อใจคนที่ตัวเองเรียกว่าแฟนให้ได้มากที่สุด
เพราะการที่เราไม่เชื่อใจกันมันจะทำให้ความสัมพันธ์ของเราไม่มั่นคงและโดนแทรกกลางได้ง่าย
เอาล่ะต่อไปนี้เราคงต้องพูดและทำความเข้าใจ
ตกลงกันก่อนที่จะมีเรื่องมากวนใจแบบวันนี้อีก
“ถ้าง่วงก็หลับได้เลยนะครับ”สกายบอกคนที่นั่งเบาะข้าง ๆ
ตอนนี้เรากำลังเดินทางกลับห้องและก็ดูเหมือนวันนี้เขาจะทำสำเร็จเพราะดูเดือนอ้ายอารมณ์ดีและมีความสุขมากทีเดียว(ถ้าไม่ติดว่ามีเรื่องก่อนคงจะดีมากกว่านี้
แต่แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว)
“ยังไม่ง่วงเลย”เดือนอ้ายตอบแล้วหันมามองคนตัวสูง
“ครับ
งั้นฟังเพลงกันดีกว่า”
ตอนนี้ก็ดึกมาแล้วแต่ดูเหมือนแฟนเขาจะยังคึกไม่หายสินะ
“รูปสวย
ๆ ทั้งนั้นเลย”เมื่อเปิดเพลงแล้วเดือนอ้ายก็นั่งเช็ครูปที่ถ่ายตอนที่อยู่ร้านอาหาร
มีแต่รูปสวย ๆ ทั้งนั้นไม่รู้ว่าจะต้องยกความดีความชอบให้อะไรดีระหว่างฝีมือคนถ่าย
บรรยากาศหรือว่ามุมของแสงดี แต่ไม่ว่าจะอะไรมันก็ออกมาดีมาก ๆ
“เดี๋ยวคราวหลังจะพาไปอีก”
“สัญญานะ”
“สัญญาครับคนดี”
เมื่ออีกคนตอบกลับทำเอาเดือนอ้ายยิ้มไม่หุบเลยทีเดียวมีความสุขที่สุด
“พักแป๊บหนึ่งแล้วไปอาบน้ำนะเธอ”เดือนอ้ายบอกคนที่เมื่อถึงห้องก็ล้มตัวลงนั่งพาดขาบนโซฟา
“พรุ่งนี้เดี๋ยวไปทานข้าวเที่ยงด้วยนะครับ”สกายบอกแฟนคนดีที่ตอนนี้กำลังเดินออกมาจากห้องครัว
“ได้สิ
จะให้สั่งข้าวไว้รอไหม”เดือนอ้ายเดินมานั่งลงข้าง ๆ แฟน
“เดี๋ยวโทร.บอกอีกทีนะครับเผื่อกายเลิกก่อน”ว่าแล้วก็เช็คมือถือเผื่อมีงานด่วนเข้าจากไลน์กรุ๊ปห้อง
“โอเค”
เมื่อดูแล้วว่าวันนี้คงไม่มีอะไรแล้วคนตัวสูงก็วางโทรศัพท์เครื่องสวยลงบนโต๊ะก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วช้อนตัวเดือนอ้ายขึ้นอุ้มอย่างรวดเร็ว
“เหวอ!”เดือนอ้ายร้องออกมาอย่างตกใจพร้อมกับเรียวแขนที่โอบรอบคอของสกายแน่น
“ไปอาบน้ำกันดีกว่าครับเหนียวตัวจะแย่”สกายว่า
“กาย!
ตกใจหมด ไปอาบก่อนสิเดี๋ยวเราจะอาบที่หลัง”
“อาบพร้อมกันนะครับ”ไม่ฟังเสียงคนตัวเล็กในอ้อมแขนที่ร้องประท้วงเลยสักนิด
เพราะตอนนี้สกายก้าวเท้ายาว ๆ เดินตรงไปที่ห้องน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เธอไม่เล่นนะ”เดือนอ้ายว่าเสียงแผ่ว
“ไม่เล่นครับ
วันนี้กายทำดีแมวเหมียวต้องให้รางวัลนะ”
“รางวัล?
อะไรอ่ะ”เดือนอ้ายเอียงคอมองคนพูด
“เรื่องอะไรเหรอ”
“ก็เรื่องเมื่อเย็นไงครับ
กายเป็นเด็กดีเชื่อฟังแมวเหมียวขนาดนี้ ทำดีก็ต้องมีรางวัลนะครับ”
“หืม
ได้ไงอ่ะ!”
“นะครับ”
“ทะเลาะกันจนเป็นเรื่องเนี่ยยังจะขอรางวัล”
“…….”
“แต่เราก็ผิด
..งั้นยอมให้ก็ได้ จะเอาอะไรอ่ะ”
“ขอเป็นจูบหวาน
ๆ ได้ไหมนะ”สกายบอกแล้ววางคนตัวเล็กลงบนขอบอ่างอาบน้ำ
เดือนอ้ายเม้มปากแน่นใบหน้าน่ารักขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ามองทำเอาคนที่ยืนมองอยู่ถึงกับอมยิ้มกับความน่ารักของแฟนตัวเอง
#ฟ้าคลั่งรัก
เราลงไม่ครบ แล้วทุกคนอ่านกันยังไง ฮืออออ ลืมเช็คขอโทษคั้บ
และตอนนี้เราลงได้นิดหนึ่งนะครับส่วนที่เหลือทุกคนต้องไปต่อกันที่ RAW และเราติดเหรียญนะครับ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรน้า เพราะไม่ได้มีอะไรมาก เราเขินตัวเองเฉยๆแต่งไปเขินไปงี้
เราไม่รู้ว่าเรื่องมันถูกใจทุกคนหรือเปล่า
ยังไงก็อย่าด่าเราเยอะนะครับทำใจไม่ทัน ฮืออออ
เหลือ 2
ตอนจาจบแล้วนะครับ ตอนนี้กำลังแต่งต่อแต่ช้ามาก ๆ เพราะลงพื้นที่แสนจะบ่อย
และมีแววจะได้ลงอีก 2 พื้นที่ แต่เราปั่นอยู่น้า
ความคิดเห็น