Rain of Love สื่อรัก วัยเรียน
ความรักที่บังเอิญเกิดขึ้น ระหว่างเด็กหนุ่มสองคน ที่เค้าสองคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่ คือความรัก
ผู้เข้าชมรวม
183
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Rain of Love สื่อรัก วัยเรียน
ตอนที่ 1
สวัสดี เราเปอร์นะ จริงๆ แล้วเราชื่อชอปเปอร์ เห็นแม่เคยเล่าให้ฟังว่าพ่อของเรา ชอบรถชอบเปอร์มาก ก็เลยเอามาตั้งชื่อลูกตัวเองซะเลย
แต่เรา..ชอบให้เรียกเปอร์ สั้นๆ มากกว่า หรืออาจจะเป็นเพราะชินกับคำนี้ที่เพื่อนๆๆ เค้าก็เรียกกัน
ตอนนี้ก็เกือบสี่โมงเย็นของวันอาทิตย์ ที่เราต้องเตรียมตัวกลับหอพักที่เชียงราย เพราะพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า
มองดูฟ้า ก็เห็นเมฆฝนปกคลุมมาแต่ไกล ภาวนาขออย่าให้ฝนตกเลย ไม่งั้นคงตัวเปียกก่อนถึงเชียงรายเป็นแน่
รีบไปได้แล้ว เดี๋ยวฝนก็ตกหรอก ! เสียงแม่ตะโกนมาจากหลังบ้าน ให้รีบออกเดินทางได้แล้ว
ผมใช้เวลาแพคกระเป๋าไม่กี่นาที ก็พร้อมที่จะสตาร์ทรถมอไซด์คู่ใจ ออกเดินทางก่อนที่ฝนจะแวะมาทักทาย ก่อนออกจากบ้านผมก็ไม่ลืมที่จะลาแม่ผมกับน้องสาว ที่ช่วยกันทำอาหารเย็นที่ในครัว
ระยะทางจากบ้านผมไปตัวเมืองเชียงรายก็ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่ง กะให้ถึงหอพักชัก 6 โมงเย็น จะได้ไม่มืดมากไป
เวลาล่วงเลยมาถึง 5 โมงเศษ เจ้าเมฆก้อนโตก็ไล่ตูดผมมาติดๆๆ หวังไว้ในใจลึกๆๆ ว่าอย่าเพิ่งทักทายกันจนกว่าจะถึงหอพัก แต่เจ้ากรรม ไม่ทันแล้ว หยดน้ำเม็ดแรก กระทบกับกระจกหมวกกันน๊อคของผม เป็นสัญญาณเตือนว่า อีกร้อยล้านเม็ดกำลังจะตามมา โชคดีที่ใต้เบาะมีเสื้อกันฝนอยู่ ผมเลยตัดสินใจจอดรถ เพื่อใส่เสื้อกันฝน กันไว้ก่อน
ป๊อกแป๊กๆๆๆ ยังไม่ทันออกตัว เสียงเม็ดฝนตกกระทบหมวกกันน๊อค จากหลักสิบเป็นหลักร้อย ภายในไม่กี่วินาที คงต้องรีบฝ่าฝนไปก่อนที่จะหนักกว่านี้ ขับต่อได้ไม่ถึง 5 นาที สายฝนก็หอบเอาสายลมมาด้วย วิสัยทัศน์จาก 100 เมตรเริ่มเลือนลาง ลดหลั่นลงตามความแรงของสายฝน ถึงเวลาที่ผมต้องหาที่พักกลางทางแล้วจริงๆ ไม่งั้นคงเอาชีวิตไปไม่ถึง หอพักคืนนี้เป็นแน่แท้
ณ เวลานี้ ศาลาริมทางคงเป็นที่เพิ่งยามฉุกเฉินได้ดีที่สุด และแล้วผมก็ต้องรีบแวะศาลาริมทางที่บังเอิญเจอระหว่างทางพอดี หลังจากจอดมอไซไว้ข้างหน้าศาลาริมทาง ผมก็ต้องรีบวิ่งเข้าไปหลบฝนในศาลาที่ตอนนี้รอบข้างแทบมองไม่เห็นอะไรเลย ความมืดเริ่มเข้ามาทักทาย แต่โชคดีแถวนั้นยังมีแสงไฟจาก เสาไฟข้างถนนที่สาดแสงเข้ามา
ผมถอดเสื้อกันฝน พร้อมวางกระเป๋า ไว้ข้างตัว พร้อมค้นกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา เสียงฝนกระทบหลังคาสังกะสี เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย ผมนั่งนึกใจใจว่าจะได้ไปต่อตอนกี่โมง พร้อมกับก้มเล่นโทรศัพท์ต่อไป ตุ๊บๆๆๆ เสียงฝีเท้าคนแปลกหน้าวิ่งเข้ามาในศาลา พร้อมกับตัวเปียกโชก ผมเงยหน้าขึ้นดู เห็นน้องผู้ชายตัวสูง วิ่งเข้ามาในศาลา พร้อมเสียงทักทาย “ผมขอหลบฝนด้วยคนนะพี่” ผมทำได้แต่เพียงตอบไปว่า “คับ” พร้อมกับมองออกไปที่นอกศาลา เห็นมอไซด์อีกหนึ่งคันที่จอดข้างๆ รถมอไซด์ผม ตอนที่น้องมาจอดมอไซด์ ผมแทบไม่ได้ยินเสียงเลย อาจจะเป็นเพราะเสียงฝนที่กระทบหลังคา บวกกับเสียงฟ้าร้องที่กลบเสียงมอไซด์ของน้อง
ผมกับน้องตัวสูงหลบฝนได้ประมาณ 20 นาที ฝนก็เริ่มซา ผมเลยลุกขึ้นเตรียมตัวออกเดินทางต่อ ก่อนที่ฝนจะกลับมาตกหนักซ้ำอีกที โดยที่น้องตัวสูง เดินตามออกมาจากศาลาเช่นกัน อยากรู้ใช่ไหมละครับ ว่า 20 กว่านาทีที่ผมกับน้องตัวสูงอยู่ด้วยกันในศาลานั้น พูดคุยอะไรกันบ้าง เปล่าเลย ไม่มีวาจาสนทนาใดใด นอกจากคำทักทายของน้องตัวสูงในนาทีแรกที่ได้เจอกัน………………..
ผลงานอื่นๆ ของ Ohmykung ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Ohmykung
ความคิดเห็น