ณภัทรมิริน (end) - นิยาย ณภัทรมิริน (end) : Dek-D.com - Writer
×

    ณภัทรมิริน (end)

    โดย Blush

    เอ็นดูเราขนาดนั้นเลยรึไง ถึงได้เห็นเราเป็นลูกแมว ก็ประมาณนึงครับ รู้ตัวป่ะเนี่ยว่าพูดอะไรออกมา

    ผู้เข้าชมรวม

    671

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    18

    ผู้เข้าชมรวม


    671

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    5
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  29 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  4 ธ.ค. 66 / 12:31 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

        สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่สดใส นี่น่าจะเป็นเช้าแรกในรอบหลายๆเดือนสินะ ที่รู้สึกถึงการพักผ่อนอย่างเต็มที่นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม หลังจากที่ฉันสู้ชีวิตกับอ่านการหนังสือสอบfinalเป็นสัปดาห์ และยิ่งดีไปกว่านั้นคือวันนี้ครอบครัวของฉันจะได้มานั่งทานข้าวเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากันทุกคนสักที หลังจากที่เลื่อนนัดกันมาหลายรอบ เพราะว่าต่างคนต่างยุ่ง พูดเหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ แต่ที่จริงแล้วครอบครัวของฉันนะเป็นครอบครัวขนาดเล็ก มีสมาชิกครอบครัวด้วยกัน 5 คน มีพ่อ แม่ พี่นินหรือลินินพี่สาวคนโต ฉันรินหรือมิรินลูกคนกลาง และสุดท้ายคือวินหรือกวินต์ลูกชายคนเดียวของบ้าน ถึงสมาชิกจะดูน้อยแต่การกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันสำหรับบ้านฉันถือเป็นเรื่องที่ยากมากเลยละ เพราะพี่นินทำงานอยู่ต่างจังหวัด กลับบ้านได้นานๆครั้ง แต่ถือว่าโชคดีที่สัปดาห์นี้กลับมา ฉันขอมโนเลยละกันว่ากลับมาเลี้ยงฉลองที่ฉันสอบเสร็จ ยังไม่ทันมโนไปไหนไกลจู่ๆก็มีเสียงหวานๆของผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในบ้านเรียกฉันซะแล้ว

     “มิรินตื่นหรือยังลูก” ถามในขณะที่ตนเองกำลังตำน้ำพริก

    “ตื่นแล้วค่ะแม่ แม่มีอะไรให้หนูช่วยไหมค่ะ” ตอบพร้อมกับสาวเท้าไปยังห้องครอบครัว

    “มีจ้า หนูช่วยพาเจ้ามาสุไปกินข้าวหน่อยเร็ว แม่คลุกข้าวกับปลาทูไว้ให้แล้ว แต่สงสัยเจ้าตัวจะยังไม่มีรู้ตัว เลยมานั่งเฝ้าแม่ทำกับข้าวอยู่ในครัว” แม่พูดพร้อมกับยิ้มให้กับเจ้ามาสุ แมวเปอร์เซียขนดำที่ถือได้ว่าเป็นสมาชิกคนที่หกของบ้านไปแล้วตอนนี้

    “ได้ค่ะแม่” 

    พูดเสร็จฉันเดินมาอุ้มเจ้ามาสุจากข้างหลัง แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเหมือนเจ้ามาสุจะตกใจที่ฉันไปอุ้มน้องจากข้างหลัง ซึ่งในตอนนั้นน้องคงโฟกัสกับการตำน้ำพริกของแม่อยู่ และผลจากตกใจของมาสุคือรอยข่วนจากกงเล็บของน้องบนแขนข้างขวาพร้อมเลือดซิบๆ เมื่อเห็นแบบนั้นแม่ก็ได้ตะโกนเรียกทั้งบ้านให้มาปฐมพยาบาลฉัน บอกเลยงานเล่นใหญ่ไว้ใจแม่ เพราะไม่ใช่แค่คนในบ้านเท่านะสิที่ได้ยิน บ้านข้างๆยังวิ่งออกมาดูเลย จนพ่อต้องเป็นคนบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และให้พี่นินมาทำแผลให้ฉัน 

    “เดี๋ยวรินล้างแผลด้วยสบู่ก่อน ส่วนพี่นะไปเตรียมอุปกรณ์ทำแผลให้”พี่นินพูดหลังจากที่มาส่งฉันหน้าน้ำและตัวเองก็เดินไปตู้ยาในห้องครัวเมื่อฉันพยักหน้ารับว่าเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด

     เมื่อฉันล้างแผลด้วยสบู่เสร็จ พี่นินก็ได้สำรวจแผลที่แขนของฉันอีกครั้งพร้อมพูดว่า

    “แผลค่อนข้างเยอะอยู่นะริน ไปฉีดยากันพิษสุนัขบ้ากับบาดทะยักไหม”

    “พี่นินแผลแค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก พี่นินแค่ทำแผลก็พอ เดี๋ยวพรุ่งนี้รินก็หายแล้ว”

    “แมวข่วนนะไม่ใช่มีดบาด ถึงจะได้หายเร็วขนาดนั้น”พี่นินเริ่มทำเสียงดุด้วยความเป็นห่วง

    “ไม่ต้องห่วงหรอกน้าพี่นิน ถ้าไม่ไหวจริงๆเดี๋ยวรินชวนพ่อไปโรงพยาบาลพรุ่งนี้ก็ได้ วันนี้ตารางชีวิตเต็ม” พูดอย่างไม่เป็นกังวลอะไร

    “สอบเสร็จแล้วไม่ใช่รึไงเรา ทำไมตารางชีวิตยังเต็มอยู่”คราวนี้เป็นพ่อบ้างที่เริ่มเอ่ยถาม

    “พอดีรินว่ายังมีโครงการที่ต้องสรุปอีก 3 โครงการค่ะ แล้วก็ส่งพรุ่งนี้ทั้งหมดด้วย แต่ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงน้า รินสัญญาถ้าพรุ่งนี้รินสรุปโครงการเสร็จตอนไหนจะรีบให้พ่อพาไปโรงพยาบาล” พูดพร้อมยกนิ้วก้อยขึ้นมา

    “บ้างานอีกแล้วสินะพี่ริน” อยู่ๆน้องคนสุดท้ายอย่างวินที่เพิ่งพาเจ้ามาสุไปกินข้าวก็พูดขึ้นฉันจึงต้องรีบอธิบาย

    “ไม่ใช่สักนะวิน พี่แค่กลัวส่งงานไม่ทันต่างหาก” 

    “จริงๆเลยมิรินลูกพ่อ ยังไงก็ห่วงงานได้แต่อย่าลืมห่วงตัวเองด้วยนะ”

    “รับทราบค่ะพ่อ พี่นินด้วยไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ขอเบอร์หมอที่โรงพยาบาลให้”

    “กวนนะๆ แต่ถ้าได้ก็ดี” จู่ๆจากสถานการณ์ที่ดูตึงเครียดก็ค่อยๆคลี่คลายลงและกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ

       หลังจากจบสนทนาดังกล่าวเราก็เริ่มมานั่งที่โต๊ะอาหารและทานข้าวเช้ากัน ภาพที่ฉันเห็นอยู่ตรงหน้ามันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆสำหรับครอบครัวฉันที่มีสมาชิกในครอบครัวทำงานอยู่ต่างจังหวัด หรือแม้กระทั้งฉันเองก็เพิ่งผ่านการเป็นเด็กหอมาหมาดๆ แต่พอมันเกิดขึ้นแล้วมันก็เหมือนเป็นการฉายภาพซ้ำที่เรามากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน ได้แชร์เรื่องราวต่างๆที่แต่ละคนเจอมา พี่นินยังเคยบอกกับฉันว่าครอบครัวเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีที่ต่อให้เราจะเหนื่อยจากการทำงานแค่ไหน แค่ได้กลับบ้านมาเจอครอบครัวพลังงานที่กำลังจะหมดก็จะค่อยๆกลับเต็มอีกครั้ง แค่คิดว่าภาพที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้ตรงฉันมันจะไม่ปรากฏขึ้นหากฉันต้องไปโรงพยาบาลด้วยแผลที่มืออย่างน้อยนิด ถึงแม้ทุกคนในบ้านจะบอกว่าเยอะก็เถอะ แต่ฉันก็รู้สึกเสียดายแล้วละหากว่าวันนี้มันไม่ได้เกิดขึ้น


     


     


     


     


     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น