คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 7
แหะๆ รู้ตัวแหละ ว่าหายไปนาน พอดีไรต์ไปเขียนนิยายเพิ่มอีกเรื่อง ฝากกดเฟบ กดกำลังใจ และติดตามกันด้วยนะค้า
[มาร์ค]
ผมเดินเข้าไปในบ้านของตระกูลซาลิอาโน่ ทุกคนดูเป็นห่วงยัยเลเน่าจนเกินขอบเขต โดยมีผมที่ทำหน้าเซ็งไปด้วย คนอะไรเรียกร้องความสนใจชะมัด แซมวางเธอลงที่โซฟา พลางมองผมเหมือนกินเลือดกินเนื้อ ผมแอบขนลุก แต่ทำหน้าเฉยเอาไว้ ก่อนที่แซมจะเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้วชกผมเข้าเต็มๆที่ปลายคาง มันเจ็บ และผมล้มลงกับพื้น ผมรู้สึกได้ถึงของเหลวบางอย่างในปาก เลือดหรือเปล่านะ และพูดเสียงเย็นชาใส่ผม
“นี่สำหรับที่แกทำกับเลน่า” สายตาของเค้าเหมือนอยากฆ่าผมให้ตายไปตรงนั้น ผมเลยพูดประชดออกไปเลย
“หึ นึกว่าจะมากกว่านี้” แค่คำแรก ของเหลวสีแดงก็ออกมาจากปาก และหล่นมาอยู่ที่พื้นเงางาม
“โอย อย่าพึ่งอวดดีเล้ย นี่พี่โชคดีแล้วนะ ไม่งั้นพี่อาจต้องเข้าโรงบาลหรือเลวร้ายกว่านั้นไปนอนในโลงแล่ว” เสียงไอ้โจอี้ขัดแบบเครียดๆขึ้นมา
ผมรีบลุกขึ้นมา พลันสายตาไปพบกับคุณซานดร้าที่เดินปราดมาและตบหน้าผมฉาดเดียว แต่เสียงดังสนั่นไปทั้งบ้าน ผมชาไปทั้งหน้า ดวงตาของเธอแดงก่ำจากการร้องไห้ แต่ก็วาวโรจน์จากความโกรธผม ผมยอมให้แซมต่อยผมอีกกี่ครั้งก็ได้ แต่ไม่เอาแบบนี้ นี่คือสายตาคนเป็นแม่ที่เจ็บและทรมานเมื่อเห็นลูกทรมาน
“ตอนแรกฉันดีใจนะ ที่เธอจะมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวฉันอย่างเป็นทางการ แม้จะช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี แต่มาตอนนี้ ฉันไม่มั่นใจแล้ว ว่าฉันจะยกเลน่าให้เธอได้มั้ย เพราะสิ่งที่เธอทำกับเลน่า มันแย่มาก ฉันรู้ว่าเธอคิดว่าเลน่ายอมแต่งงานกับเธอเพราะเธอมีส่วนได้ส่วนเสียในการแต่งงานครั้งนี้ และมีผลประโยชน์ทางธุรกิจเข้ามาเกี่ยว แต่ฉันจะบอกเธอเอาไว้ เลน่าเป็นซาลิอาโน่เพียงคนเดียวที่ไม่มีตำแหน่ง และหุ้นในบริษัทเลยแม้แต่เศษเสี้ยวของเปอร์เซ็นต์”
ผมเบิกตากว้าง ผมไม่รู้ความจริงข้อนี้เลย ผมคิดนำหน้าไป คิดว่าเธอหน้าเงินและอีกมากมาย แต่ความจริงวันนี้ ทำผมต้องคิดกับเธอใหม่ซะแล้ว เสียงโทรศัพท์เพลง Playground ดังขึ้น หมอชอนหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าของเลน่า ก่อนที่โจอี้จะโทรหาเธอ แต่เพลงเปลี่ยนเป็น Love Loop โดยแต่ละคน เปลี่ยนกันโทรหาเครื่องของยัยนั่น ทุกเสียงเรียกเข้า เป็นเพลงของวงผมทั้งหมด แต่ที่ฮาที่สุดคงเป็นของคอลิน ที่เป็นเพลง Just Right Stage Version
“อันที่จริง เลน่าไม่ต้องทำงานนี้ก็ได้ แต่เลน่าก็ทำ ทั้งๆที่การแต่งงานกับเธอ มันจะทำให้เธอเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม เมื่อต้องหย่ากับเธอ แต่เลน่าก็ยอม แล้วเธอไปทำกับเลน่าแบบนั้น ใช้ชีวิตแบบไม่รู้สึกผิด เท่าที่ฟังมาจากดอรีน แค่นี้ ฉันยังสงสัยเลยว่า จะยอมให้เธอสองคนแต่งงานกัน เพื่อธุรกิจของแม่เธอกับฉันดีมั้ย”
ผมก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด ก่อนเอ่ยสั้น ๆ
“ถ้าคุณซานดร้าไม่ต้องการให้ผมแต่งงานกับเลน่า งั้นก็ไม่เป็นไรครับ เพราะเอาเข้าจริง หลังจากความจริงวันนี้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะสู้มองหน้าเธอแบบไม่รู้สึกผิดได้หรือเปล่าเลย”
แม่ผมและคุณซานดร้ามองหน้ากัน ก่อนมีเสียงพึมพำในภาษาไทยแน่ๆดังขึ้น
“…..แม่คะ……” เสียงของเธอแผ่วเบาจากความอ่อนแรง
“เลน่า อย่าลุกเลย” คุณซานดร้ารีบผ่อนร่างเธอเบาๆด้วยเธอพยายามจะลุกขึ้น
“คุณเลน่าครับ ดื่มซะหน่อยนะครับ” ชายวัยเดียวกันที่ผมไม่คุ้นหน้าจ่อเครื่องดื่มที่ปาก เธอดูดมันอย่างอ่อนแรง แล้วค่อยๆแรงขึ้นเรื่อย ๆตามกำลังวังชาที่ฟื้นคืนอย่างรวดเร็ว
“มันคืออะไร” หมอชอนถาม สายตาไปหยุดอยู่ที่ชายคนนั้น
“โปรตีนเชคสูตรส่วนตัวของคุณเลน่าครับ ช่วยฟื้นกำลังได้ดีมากๆ โดยเฉพาะเวลาที่ไม่ได้กินอะไรนานๆ” ชายคนนั้นพูดสีหน้าเรียบเฉย ผมงงมากว่าชายคนนี้คือใคร จนกระทั่งโจอี้กระซิบข้างหูผม
“นี่เจโรม พ่อบ้านส่วนตัวของพี่เลน่า อารมณ์ประมาณว่ากิลาร์ดของคุณคาร์ลและคุณซานดร้า ลูกๆก็จะมีกันคนละคนไปเลย”
“แล้วเป็นผู้ชายเนี่ยนะ” ผมกระซิบกลับไปด้วยความงงล้วนๆ อิหยัง-ะเนี่ย
“ใช่ เพราะคุณกิลาร์ดมีแต่ลูกและหลานชาย ไม่มีลูกและหลานสาวเลย เจโรมเป็นหลานชาย แต่ถูกสอนให้เป็นพ่อบ้านมาตั้งแต่เด็ก ดูแลพี่เลน่ามาตั้งแต่พี่เลน่ามาอยู่บ้านนี้แล้ว เอาง่ายๆ คิดจะหาพี่เลน่า ผ่านคนนี้ให้ได้ก่อน”
ผมมองไปที่ต้นแขนที่ไม่ล่ำจนเห็นได้ชัดเหมือนแซม แต่ก็พอดูออกว่าสามารถอุ้มเลน่าได้สบายๆ ร่างกายที่สมส่วนและสูงเท่ากันกับแซมทำให้เขาดูละมุนและไม่น่ากลัวเท่าแซมนัก ถ้าเปรียบแซมเหมือนคริส เฮมส์เวิร์ธ คนนี้คือเลียม เฮมส์เวิร์ธแน่ๆ
เมื่อผมหันหลับไปมองเลน่าอีกครั้ง เธอเหม่อมองผมเหมือนเธอจะไม่มีวันได้มองผมอีกแล้ว ไม่สิ สายตาของเธอมีหลายอารมณ์ ทั้งความกลัว ความทะนุถนอม ความรักทุ่มเท และที่สำคัญที่ผมรู้สึกได้คือ ความเสน่หา เหมือนกับว่าเธอกระหายที่จะเห็นผมในระยะห่างแค่นี้ เหมือนเธอไม่เคยเห็นผมมาก่อน เหมือนคนที่ได้เจอคนที่รักครั้งแรกหลังจากที่ต้องทนอยู่ห่างกันมานาน
“……มาร์คคะ…….เลน่าขอโทษ…..ที่เลน่าไม่พูดอะไรไปก่อนหน้านี้….”
ผมมองหน้าเธอไม่ได้ ผมจึงก้มหน้า เพียงครู่เดียว เธอมายืนอยู่ตรงหน้าผม กุมมือผมไว้ข้างนึง และกุมไหล่ไว้เบาๆ
“เลน่าไม่โกรธ เลน่าเข้าใจมาร์คเลยด้วยซ้ำ เป็นเลน่า เลน่าก็คิดเหมือนกัน”
“…..แต่……”
“…ชู่ววววว……ไม่เอาค่ะ……มาร์คคนเก่งของอากาเซ่ไม่เคย regret อะไรนี่คะ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดนะคะ เรามา…..เริ่มต้น รีสตาร์ตกันใหม่เนาะ”
“นี่มันไม่ใช่เกมนะ ที่ตายแล้วจะรีสตาร์ตได้”
“และเราก็ไม่ได้อยู่ในเกมอมังก์ อัส (Among Us) ที่เราต้องรอรอบใหม่แล้วเราจะเล่นใหม่ได้เช่นเดียวกัน” เลน่ากลอกตาเบาๆ เธอรู้เรื่องเกมด้วยเหรอเนี่ย เอาจริงดิ
“เฮ้ แค่เดินผ่านไปค่ะ คิดซะว่าเราอยู่ในเกม…..อืม….วาโลแรนท์ละกัน ใครตายก็ไม่สน เดินหน้าต่อไป เดอะโชว์มัสโกออน (The Show must go on)”
ผมสูดหายใจเข้าอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เลน่าจะดึงมือผมไปที่ลิฟต์ ขึ้นไปที่ชั้น 6 และหยุดหน้าม่านสีเขียว
“ต่อจากนี้ไป….สิ่งที่คุณเห็นคือเรื่องจริง…ทุกสิ่งที่ฉันรู้สึก และคิดกับคุณ ถูกเก็บไว้ในห้องนี้ ก่อนหน้านี้ห้องนี้เป็นห้องที่มีเพียงคนไม่กี่คนที่เข้ามาได้ แต่วันนี้ ทุกคนจะเข้ามาได้”
เธอเว้นวรรค ผมสังเกตเห็นมือของเธอที่สั่น ผมต้องใช้ความอดทนของผมทั้งหมดในการไม่เอื้อมมือไปกุมมือเธอเอาไว้
“ถ้าหลังจากนี้ คุณจะเดินออกไปจากชีวิตฉันอย่างถาวร ฉันจะไม่ห้ามคุณ”
“เลน่า / หนูอันนา / หนูเลน่า” ทุกคนอุทาน แต่เธอไม่หยุด
“คุณพร้อมหรือยัง” สายตาเธอหันมามองผมเหมือนจะได้มองเป็นครั้งสุดท้าย รอยยิ้มนั้นเหมือนรอยยิ้มสั่งลา
“พร้อมแล้ว ไปกันเลย”
เอาแล้ววววววววววววววววว เมื่อความลับของเลน่ากำลังจะถูกเปิดเผยว่าเธอติ่งพี่จ๋าและเจ้าก้อนทั้ง 7 แค่ไหน งานนี้พี่มาร์คจะหนีหาย หรืออยู่ต่อไป มาเป็นกำลังใจให้เลน่าด้วยน้าาาาา
ความคิดเห็น