คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 6
“สวัสดีคร้าบบบบบบบบ ทุกโคนนนนนนนน” เสียงของคอลินดังกังวานและสนุกสนานชวนให้ผ่อนคลาย
“ขอต้อนรับสู่งานเลี้ยงการกุศลของมูลนิธิเคนซิงตั้นนะครับ งานครั้งนี้เราจะนำเงินจากการประมูลจำนวนร้อยละ 90 ไปทำบุญที่ลอสแองเจเลสใต้ครับ”
เสียงปรบมือดังกระหึ่มไปทั้งงาน ก่อนที่คอลินจะยกมือขึ้นให้ทุกคนเห็น
“แต่ก่อนที่ผมจะเริ่ม วันนี้เป็นวันพิเศษ เป็นวันเกิดของผู้หญิงที่สวยที่สุดในความคิดของผมตอนนี้ แม่ของพวกเรา ซานดร้า ซาลิอาโน่คร้าบบบบบบ”
“แต่….วันนี้ เลน่า น้องสาวของพวกเราไม่มา แต่เธอฝากของขวัญวันเกิดมาให้แม่ผ่านวิดิโอนี้ เชิญชมครับ”
ไฟในงานมืดลง พร้อมหน้าจอที่เปิดวิดิโอของเลน่าในห้องทำงานกลุ่มของตัวเอง เป็นเลน่าในชุดกาว์นขาวสะอาดที่คนไม่มักคุ้น ดวงตาของคนเป็นแม่เบิกกว้างด้วยไม่เคยเห็นมาดการทำงานแบบหมอของลูกสาวแบบเต็มตามาก่อน เธอทำงานค้างเอาไว้จนเสียงคอลินดังขึ้นเพื่อเรียกเลน่า
“โย่ ไหวมั้ยเนี่ย”
“ไม่ไหวก็ต้องไหว”
สายตาที่มองลงกระดาษนั้นอ่อนแรงและเหนื่อยล้าแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คนเป็นแม่อย่างซานดร้าเห็นถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
(โถ เลน่าลูกแม่ แม่ไม่คิดเลยว่าแม่จะเห็นลูกในสภาพแบบนี้ ลูกช่างดูเหนื่อยล้า และเหมือนจะขาดใจตายได้ทุกเมื่อเลย)
ฝั่งพี่ชายทั้งสอง มีสีหน้าทรมานกันคนละแบบ คอลินที่พยายามกลั้นสะอื้นอยู่นั้น มองดูช่วงเวลานั้นซ้ำอีกรอบพลางคิดถึงสาวตัวเล็ก ส่วนแซม เป็นสีหน้าที่ก้ำกึ่งระหว่างพี่ชายที่สนิทกับน้องมาก กับพี่ชายคิดไม่ซื่อ พลางนึกถึงวันที่เธอเข้ามาในครอบครัววันแรก วันที่มาร์ค ต้วนเปลี่ยนชีวิตน้องสาว และวันนี้ ซึ่งดูท่าแล้ว วันนี้อาการจะแย่ที่สุด
“อ้าว ถ่ายแล้วเหรอ”
“อืม ถ่ายแล้ว พูดเลย”
“โอ้ ขอโทษนะคะแม่ พอดีเลน่าทำงานเพลินไปหน่อย เลน่าขอโทษแม่ก่อนเลยนะคะ ที่วันงานเลน่าคงมาไม่ได้ เพราะมันตรงกับงานผ่าตัดที่หนูรับผิดชอบอยู่ ไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน แต่จะพยายามกลับไปให้เร็วที่สุดนะคะ เคสนี้ยากมาก และคนไข้ก็เด็กมาก เลน่าเลย…….ไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน แต่แม่คะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง หนูจะทำให้ดีที่สุด อย่างที่แม่ก็รู้ดีอยู่แล้ว”
สายตานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนล้าจากการตรากตรำทำงานไม่หยุดมานาน แต่สายตามุ่งมั่นนั้นไม่เคยคลอนแคลน ทั้ง ๆ ที่เวลาพึ่งผ่านมาได้แค่สัปดาห์เดียว แต่ร่างกายซูบผอมจากวันที่ไปเยี่ยมบ้านต้วนวันนั้นเกือบ 5 กิโล ห้องทำงานกลุ่มเต็มไปด้วยหนังสือทางการแพทย์กระจัดกระจาย ผนังที่เป็นไฟเบอร์กลาสลบได้ถูกเขียนเป็นสมการและความเป็นไปได้ต่าง ๆ นานา จนเต็มไปแล้ว 1 ด้าน เพื่อนร่วมทีมต่างพักผ่อนกันอยู่ ไม่เล่นเกม ก็นอนหลับ
“แม่คะ ตั้งแต่หนูจำได้ แม่มักเป็นฝ่ายเอาใจใส่หนู ดูแลหนูตั้งแต่วันแรกที่หนูย่างเท้าเข้าบ้านมา หนูที่จมอยู่กับความเศร้า ปฏิเสธและผลักไสทุกคนออกห่างจากหนู แม่เป็นคนที่……..เข้าใจหนูในทุก ๆ ด้าน เป็นคนแรกที่เข้าใจหนูก่อนที่แซมกับคอลินจะเข้าใจซะอีก มาไม่กี่สัปดาห์นี้ แม่ทำให้หนูมีความสุขที่สุดในโลกเลยนะคะ แม้ว่าแม่ชอบมองว่าเป็น Guilty pleasure เป็นทัณฑ์ทรมานแสนหวานที่หนูเคยพูดเอาไว้ แต่หนูก็เต็มใจรับมัน เพราะหัวใจของหนู เป็นของเค้ามาจะ 8 ปีแล้ว แม่จำได้มั้ยคะ วันที่เราไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน แม่บอกว่าแม่ไม่เคยเห็นหนูยิ้มกว้างขนาดนั้นเลย และหนูก็ไม่เคยได้ไปดูคอนเสิร์ตอีกเลย เพราะงานของหนูที่ยุ่งจนรัดตัว แต่หนูก็เอาแต่มองเค้า เหมือนหนูจะไม่ได้เจอเค้าอีกนาน”
เลน่าปาดน้ำตาที่ไหลนองแก้ม ก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงสั่นเครือน้อยๆ หากแต่เต็มไปด้วยความจริงใจและความรักที่มี
“แม่คะ หนูอยากบอกแม่ว่า นอกเหนือจากเค้าแล้ว แม่ก็เป็น…..ความสุขของหนูเช่นเดียวกัน หนูรักแม่นะคะ อ้อ แม่ชอบบอกเลน่าว่าอยากเห็นเลน่าทำงาน วันนี้ หนูจะทำให้สิ่งที่แม่ขอหนูในวันนั้นเป็นจริง พี่คอลิน ฝากเปิดหลังจากนี้เลยค่ะ”
“และต่อจากนี้ เป็นภาพสด ตอนนี้ จากห้องผ่าตัด โรงพยาบาลเซนต์แองเจเลส ซึ่งขอบอกไว้ได้เลยว่า ผมไม่เคยเห็นเลน่าผ่าตัดมาก่อนเลย งั้นเรา มาดูชีวิตอีกด้านของน้องสาวของผมเอง เซเลน่า อารยา ซาลิอาโน่”
ภาพตัดไปเป็นเว็บไซต์ของโรงพยาบาล ก่อนจะป้อนรหัสผ่านและเข้าอย่างง่ายดาย ก่อนจะพบเลน่าในชุดศัลยแพทย์สีเขียว เก็บผม ปิดหน้าจนเหลือแค่ลูกตา นิ้วเรียวยาวพลางจับมีดผ่าตัด (scarpel) อย่างหลวมๆ หากแต่มั่นคง ก่อนค่อยๆ กรีดพังผืดด้านในแล้วคีบออกมาอย่างเบามือ สายตามองไปที่หมอผ่าตัดที่สอง นามว่า หมอชอน แฮมิลตัน (Sean Hamilton) รองหัวหน้าทีมและเพื่อนสนิทที่เธอเชื่อใจมากที่สุด ผู้ส่งหัวดูดแบบพิเศษที่ใช้แรงดูดน้อย แต่ดูดได้เยอะ เพื่อดูดเอาสิ่งที่อาจออกมาระหว่างเลาะพังผืด
สายตาของเลน่ามองไปที่นาฬิกา บ่งบอกเวลาผ่าตัดกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนจะมองไปที่เพื่อนร่วมทีมที่สีหน้าเหนื่อยล้าไม่ต่างกันนัก ทุกคนมองหน้าเลน่าเพียงน้อยนิด แต่ล้วนมีนัยและคำศัพท์ทางการแพทย์มากมายพ่นมาเป็นระยะ นางพยาบาลซับเหงื่อที่แตกพลั่กให้เลน่าและหมอชอน ก่อนจะไปดูค่าหัวใจของคนไข้ เลน่าพยักหน้าให้พยาบาลคนนั้น ก่อนจะเปิดเครื่องให้หัวใจทำงาน หัวใจที่เล็กนิดเดียวเต้นอยู่ในทรวงอกแต่ไม่มีอะไรผิดปกติ
“เฮ้อออออออออออออ” เลน่าถอนหายใจยาว
“ในที่สุด” หมอชอนพูดด้วยเสียงโล่งอกสุดๆ
“งั้น มาปิดจ๊อบกัน ขอลวดเย็บ” เสียงเลน่ากลับมามีเรี่ยวแรง ยื่นมือไปทางนางพยาบาลอาวุโสข้างกาย
“ค่ะคุณหมอ ลวดเย็บค่ะ”
กล้องถูกเปลี่ยนเป็นกล้องซูม ทำให้เห็นวิธีที่เลน่าเย็บแผลผ่านถุงมือสีเขียวหนึ่งเดียวในถุงมือสีฟ้า เลน่าเย็บด้วยความชำนาญ ด้วยฝีเข็มที่ถี่ หากแต่เบามือและรวดเร็ว เพียงไม่นานนักชั้นแรกก็เสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเริ่มชั้นที่สองด้วยไหมด้วยฝีเข็มที่ห่างกว่าเดิมนิดๆ แต่ไม่มากนัก แต่น้ำหนักและความเร็วยังเท่าเดิม ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ทั้งงานเกิดเสียงอื้ออึง รวมถึงสมาชิกบ้านซาลิอาโน่และบ้านต้วน
“ไม่ยักกะรู้ว่าหนูอันนาเก่งขนาดนี้นะ ซินดี้” มาม๊าต้วนหรี่ตา
“ฉันก็ไม่รู้” สายตาที่อึ้งกิมกี่ไม่ต่างกันบ่งบอกชัดเจนว่านี่ก็เป็นครั้งแรก
“โอย ทุกคนคร้าบบบบบบ เลน่าก็เป็นอย่างนี้แหละครับ นี่ดีนะครับมาเห็นช่วงท้าย ถ้าทุกคนมาเห็นตั้งแต่เริ่ม จะรู้เลยครับว่า เจ้าของสโลแกน Dr. Selena Slay it all เนี่ย ไม่ได้มาเพราะฟลุคแน่ๆ” โจอี้ปิดท้ายด้วยสโลแกนส่วนตัวของคุณหมอเลน่าที่ทุกคนในโรงพยาบาลมอบให้เธอ
“มันขนาดนั้นเลยเหรอ Dr. Selena Slay it all มันดู…..โหดไปนะ” ปาป๊าต้วนเสริม
“ในที่นี้ หมายถึงชีเอาอยู่ทุกสถานการณ์ครับป๊า ลองว่าถ้าใครเป็นคนไข้ของเลน่า เปอร์เซ็นต์รอดสูงมาก”
ภาพในวิดีโอถูกเปลี่ยนเป็นภาพของคุณหมอที่เริ่มออกห่างจากคนไข้ไปทีละคนๆ แต่เลน่ายังคงอยู่ตรงนั้น กุมไหล่เล็กๆของคนไข้เอาไว้ ก่อนเดินจากไป และสัญญาณถ่ายทอดสดก็ถูกตัดไป
“เอ่อ…….ทำไมเลน่า……ถึง…….” ซาลิอาโน่คนพ่อที่ถึงกับพูดไม่ออก หันไปถามโจอี้ ซึ่งดูเหมือนจะรู้เรื่องเลน่ามากที่สุด
“ดูเหนื่อย เหรอครับ เพราะเลน่า แทบไม่ได้กินไม่ได้นอน เพราะเคสนี้มาเกือบอาทิตย์ และเลน่าก็…….” โจอี้หยุดเพราะสายตาพิฆาตของพี่ชายคนเดียว ซึ่งตัวเขาเองก็รู้ว่าเพราะพี่ชายคนเดียวเนี่ยแหละ ที่ทำให้นางเป็นแบบนี้ ก็ยังจะมาเบรกกันอีก
“ผมรู้ เลน่าเดี๋ยวนี้ แทบไม่กลับบ้าน อยู่แต่โรงพยาบาล ไปหาก็ถามคำตอบคำ ถ้าไม่อัดวิดิโอนี้ เลน่าก็แทบไม่พูดอะไรเลย” คอลินขมวดคิ้วเมื่อนึกถึงน้องสาวคนเดียว ผู้ซึ่งไม่เคยอ่อนแอมาเกือบ 8 ปี แล้ว แต่ตอนนี้กลับมาเป็นเหมือนเก่า ไม่สิ แย่กว่าเก่า
งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปจนจบ โดยมีสายตาของพี่ชายสองคนที่งุ่นง่านอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่หมอชอนจะวิ่งเข้ามาในงาน หน้าตาตื่นตกใจเป็นที่สุด
“คุณแซม คุณคอลิน เลน่า……….”
“อยู่ไหน” สายตาของแซมเต็มไปด้วยความเป็นห่วง และไม่ยอมให้เวลาถูกเสียเปล่า
“อยู่ในรถผมกับเซลิน เลน่า……..เป็นลมครับ อ้าว คุณแซม” ไม่รอฟังอะไรทั้งนั้น แซมวิ่งออกไปทันที ไม่นานนักก็อุ้มร่างเล็กกับมา หัวถูกซบอยู่กับอกพี่ชาย สายตาแซมคอยมองทุกคนสลับกับร่างเล็กในอ้อมแขน ก่อนจะวางเธอลงที่โซฟาในโซนรับแขกส่วนตัว
“เลน่าๆๆๆ” ทุกคนในบ้านซาลิอาโน่ต่างร้องเรียกเธอ
“ทุกคนครับ เลน่าเป็นลม คงเพราะไม่ได้ทานอะไรมาทั้งวัน ผมขอ”
“ไม่ใช่อย่างเดียวพี่ชอน พี่ชอนก็รู้ ว่าแค่อดข้าววันเดียวไม่ทำให้คุณหมอเลน่าเป็นลมได้”
“อืม แต่เค้าอยู่ที่นี่ ไม่เหมาะ” สายตาชอนแสดงออกถึงความโกรธ
“งั้น พากลับบ้านก่อนดีมั้ยพี่ชอน เดี๋ยวค่อยว่ากัน”
“อืม”
“คุณคะ ฉันขออยู่ดูอาการหนูเลน่าหน่อยนะ ฉันเป็นห่วง”
“เหมือนกันครับ ผมก็จะสลบแล้ว เหนื่อยมาก” โจอี้เสริม
“ทุกคนเลยครับ มานอนบ้านพวกเราเถอะ นี่ก็ดึกแล้ว ผมว่าบ้านต้วนจะกลับบ้านลำบากแล้วแหละ”
“ใช่ๆๆ นอนแค่คืนเดียว ไม่ทำให้บ้านเราถล่มหรอก” คุณแม่ซานดร้าเสริมด้วยเสียงกลั้วหัวเราะด้วยพยายามให้บรรยากาศไม่อึดอัดจนเกินไป
“งั้นป่ะ ไปนอนบ้านคุณคาร์ลละกัน แกก็ด้วยนะมาร์ค ไปเดี๋ยวนี้” ปาป๊าต้วนเสริมด้วยเสียงเด็ดขาด
ทุกคนเดินตรงไปเทียร์ร่า พาราดิโซท่ามกลางความมืด
ความคิดเห็น