ฆ่าก่อน..ค่อยพูด (Kill or be Killed) - นิยาย ฆ่าก่อน..ค่อยพูด (Kill or be Killed) : Dek-D.com - Writer
×

    ฆ่าก่อน..ค่อยพูด (Kill or be Killed)

    เรื่องราวของหญิงสาวที่เดินทางไปคอนเสิร์ตของไอดอลที่เธอกรี๊ดมานานหลายปี แต่ใครจะรู้ ว่ามันจะตรงกับวันโลกแตกพอดี!!! ซอมบี้?? มันมีจริงหรอเนี่ย??!!

    ผู้เข้าชมรวม

    55

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    55

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    4
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ม.ค. 68 / 19:30 น.
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตอนนำร่อง

    ติ๊ดติ๊ดติ๊ด~ ติ๊ดติ๊ดติ๊ด~

    หลังจากเสียงนาฬิกาปลุกดังขี้น ฉันก็รีบเด้งตัวขึ้นมาปิดมันอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้น

    “สวัสดีเช้าอันสดใส วันนี้จะได้เจอ พี่คิม แล้วว้อยยยยยยยย~” ฉันตะโกนออกไปสุดเสียงด้วยความดีใจจากหัวใจจริง เพราะวันนี้เป็นวันที่ฉันจะไปดูคอนเสิร์ตของเขายังไงล่ะ ถึงแม้จะติดตามเขามานานหลายปี แต่กว่าจะกดบัตรคอนทัน เลือดตาแทบกระเด็นเลยล่ะ ฉันเพิ่งเข้าใจว่าการแก่งแย่งชิงดีเป็นยังไง ก็ตอนนี้นี่ล่ะ

    อ้อใช่ เกือบลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อ ไวท์อายุ 22ปี

    ไวท์ที่แปลว่า สีขาว แบบที่พวกคุณเข้าใจนั่นล่ะ ชื่อนี้ไม่ได้ได้มาง่ายๆนะ เพราะตอนที่เกิด ฉันนะเป็นเด็กทารกที่ขาวเกินกว่าปกติของสีผิวชาวไทย ขาวที่ว่านั่น ออกไปทางขาวซีดซะมากกว่า แต่เรื่องนี้ช่างมันก่อนเถอะ! ฉันต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัว แต่งหน้าทำผม ให้สวยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผื่อพี่คิมมองมา จะได้เห็นฉันยังไงล่ะ 555 (มโน+1)

     

    โอเค เสร็จเรียบร้อย กำหนดการในวันนี้ คอนเสิร์ตเริ่มตอน 19:00น. จัดที่สนามกีฬาหัวหมาก ถึงรู้ว่าอากาศบ้านเรามันร้อนจนเสื้อไหม้ แต่เนื่องด้วยเป็นคอนเสิร์ตกลางแจ้ง ฉันก็เต็มใจ ที่จะเสียหยาดเหงื่อแรงกาย

    เวลา 12:30น. 

    ฉันที่กำลังก้าวขาลงบันไดขั้นสุดท้าย ได้สบตาปริบๆเข้ากับ ‘ป้าลี่’ หญิงสาววัย 50ปี คนที่เป็นทั้งนางฟ้าแม่ทูนหัว พี่เลี้ยงและซุปเปอร์ฮีโร่ในสายตาของฉัน เธอคนนี้มีความสามารถพิเศษเหนือกว่าใครหลายๆคน เช่น จับแมลงสาบด้วยมือเปล่า จดจำเรื่องราวของคนข้างบ้านได้ทั้งระแวก ได้อย่างแม่นยำ แถมยังทำมีฝีมือการปรุงอาหารที่รสชาติอร่อยเหาะ แบบที่หากินที่ไหนไม่ได้ แค่คิดก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที

    “วันนี้มีผัดกะเพราหมูกรอบที่หนูไวท์ชอบค่าา” ป้าลี่เอ่ยขึ้นก่อน เสมือนรู้ว่าฉันกำลังจะพูดอะไร นั่นประไร! มีสกิลอ่านใจเพิ่มไปอีกหนึ่งข้อ!!

    “เย้~” เสมือนฝันเป็นจริง ฉันรีบเดินตรงไปที่โต๊ะอาหาร ที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อยด้วยจาน และแก้ว1ใบ

    จะว่าไปแล้วมันก็รู้สึกแอบเหงาบ่อยๆ ที่ต้องกินข้าวคนเดียวเกือบตลอด มีแค่บางครั้งที่อ้อนป้าลี่ให้มาร่วมโต๊ะด้วยกันได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ป้าแกจะใช้เวลาไปกับการทำความสะอาดส่วนต่างๆของบ้าน เพราะแม่ของฉันฝากฝังให้ป้าลี่ช่วยคอยดูแลสิ่งต่างๆ ในขณะที่ท่านไม่อยู่

    ซึ่งตอนนี้ แม่ของฉันเพิ่งบินไปโตเกียวเมื่อสามวันก่อน งานของท่านคือคอยประสานงานต่างๆให้กับบริษัท ฟีลเหมือนเลขาท่านประธานแหล่ะมั้ง แต่ท่านต้องเดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างประเทศในโซนเอเชียบ่อยมาก โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี 

    คนที่อยู่ในบ้าน หลักๆเลยก็จะมีแค่ ฉัน ป้าลี่ พี่หนิง (หลานสาวของป้าลี่) และ ลุงป๋อง ที่เป็นทั้งคนขับรถ และคนสวน เพราะแกชอบไปตัดแต่งต้นไม้ที่สวนหลังบ้านอยู่บ่อยๆ

    ส่วนพ่อของฉันได้แยกทางไปมีครอบครัวใหม่ และมีลูกชาย ที่รุ่นราวคราวเดียวกับฉันอีก1คน ชื่อ ‘วิน’ พวกเราจะเจอกันทุกปี ในงานรวมญาติช่วงปีใหม่ไทย และก็แน่นอน.. ว่าทั้งวินและแม่ของเขา ดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่ พวกเราจึงไม่ค่อยได้คุยหรือทำความรู้จักกันมากมายนักหรอก

     

    “วันนี้หนูไวท์จะออกไปไหนหรอคะ แต่งตัวซะสวยเชียว” ป้าลี่เอ่ยถามในขณะที่ฉันกำลังเคี้ยวหมูกรอบคำใหญ่ ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยชั้นไขมัน ความกรอบนุ่มชุ่มใน กลิ่นใบกะเพรา และความเผ็ดของพริกสด ที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ทำให้มันอร่อยสุดๆจนรู้สึกเหมือนแสงออกปาก

    “ไอออนเอิด อี้อั๋วอากข่ะ… (วุ้นแปลภาษา : ไปคอนเสิร์ต ที่หัวหมากค่ะ…)” ฉันพูดอย่างอู้อี้ ต่อด้วยการตักข้าวคำใหญ่ และหมูกรอบอีกชิ้นเข้าปากทันที โดยไม่รอให้ความอร่อยนี้ต้องขาดตอน

    “ตอนบ่าย ป้าจะไปตลาดค่ะ คุณหนูจะออกไปพร้อมกันเลยมั้ยคะ” ป้าลี่ตอบกลับมาและยิ้มอย่างเอ็นดูกับการกระทำของฉัน แต่จะทำไงได้ ก็อาหารที่ป้าลี่ทำ มันอร่อยมากๆจริงๆ และหมูกรอบก็คือเมนูที่ฉันชอบมากๆถึงขั้นคลั่งไคล้ ต่อให้กินทุกมื้อก็คงไม่เบื่อ!

    “ไปค่า เดี๋ยวกินเสร็จแล้วออกเลย อยากไปเจอพี่คิมสุดๆ” ฉันตอบกลับก่อนที่จะเริ่มตักข้าวเพิ่ม

    “อย่าลืมถ่ายมาอวดป้านะคะ ป้าก็อยากเจอต้าวคิมสุดหล่อจริงๆ เสียดายที่กดบัตรไม่ทัน”ป้าลี่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่น้อยใจนิดๆและเบ้ปากเล็กน้อย

    และเพราะว่าฉันเป็นคนที่มีเพื่อนน้อย และไม่ค่อยได้ออกไปไหน ฉันและป้าลี่จึงสนิทกันค่อนข้างมาก เวลาที่ไม่รู้จะไปเม้าท์มอยเรื่องไอดอลกับใคร หรือไม่รู้ว่าจะฟินจิกหมอน นอนดูซีรีย์กับใคร ก็มีป้าลี่ที่คอยทำความรู้จักดารา นักร้องเหล่านั้น ไปพร้อมๆกับฉันในจอทีวี,สมาร์ทโฟน มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากจริงๆ เพราะป้าลี่ไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวเลย

    “แน่นอนค่ะ จะเอามาอวดจนป้าลี่ต้องอิจฉาเลยล่ะ ฮ่าๆๆ” ฉันและป้าลี่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ปิดท้ายด้วยการที่ฉันไปจัดการธุระส่วนตัว และแปรงฟันอีกสักรอบ ถ้าพี่คิมมาเห็นใบกระเพราที่ติดฟันอยู่ มันคงดูสยิวกิ้วมากแน่ๆ

     

    13:40น.

    ฉันขึ้นมานั่งที่เบาะหลังของรถ ที่ลุงป๋องมาจอดเทียบไว้ที่หน้าประตูบ้าน และมีพี่หนิงนั่งอยู่ข้างๆ ส่วนป้าลี่นั่งอยู่ด้านหน้า ข้างลุงป๋อง 

    ในทุกเดือน ป้าลี่กับพี่หนิง ต้องซื้อของที่จำเป็นสำหรับ1เดือน ทั้งพวกอาหารสด แห้ง และของใช้ที่จำเป็นต่างๆ มาเก็บเอาไว้ เพราะบ้านของฉันนั้นค่อนข้างที่จะห่างจากตลาดและห้างสรรพสินค้าต่างๆ จึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีของติดบ้านไว้ ก็ประมาณว่า เผื่อเหลือดีกว่าเผื่อขาด ส่วนพืชผักสวนครัวบางชนิด ก็มีอยู่ที่สวนหลังบ้าน เพราะลุงป๋องปลูกเอาไว้

    "ส่งหนูลงที่บีทีเอส(BTS) นะคะลุงป๋อง แล้วไปส่งป้าลี่กับพี่หนิงที่ตลาดได้เลยค่า”เมื่อพูดจบล้อรถค่อยๆหมุนและเคลื่อนที่ออกอย่างช้าๆ เพราะคิดว่าวันนี้รถคงต้องติดมากแน่ๆ ฉันจึงเลือกเดินทางโดยรถไฟฟ้าBTSแทน ถึงแม้บางช่วงเวลา คนจะเยอะจนแออัด แต่มันก็สะดวกกว่าถ้าจะให้ขับรถไปส่ง

    แสงแดดในวันนี้ รู้สึกว่ามันจะแรงมากเป็นพิเศษ โชคดีที่ฉันโบกครีมกันแดดไว้ทั่วทั้งใบหน้าและแขนขาไว้เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้วันนี้พยากรณ์อากาศจะบอกว่า ไม่มีฝนตกอย่างแน่นอน แต่ฉันก็ยังไม่ลืมที่จะพกร่มแบบพับสีดำออกมาด้วย… ไม่กลัวหรอกฝนตก กลัวแดดเผามากกว่า… และถึงแม้ว่าในรถจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำมากๆ แต่ก็ยังรู้สึกถึงความร้อนของไอแดดยามบ่ายที่ทะลุผ่านกระจกรถมาโดนที่แขนข้างซ้าย จนแอบคิดว่ากว่าจะไปถึงสถานีBTS แขนทั้งสองข้างคงจะกลายเป็นคนละสี TT

    (~ ซ่าา.. @#! !@# ประกาศ ซ่าา … นี้ @#@#! .. @#@!@# ซ่า.. เยอะ @#@#! ตึ๊ดดดด~)

    เสียงจากช่องข่าวของวิทยุในรถ ขาดๆหายๆ เสียงซู่ซ่า จนฟังอะไรแทบไม่ออก รู้แค่ว่าเป็นประกาศอะไรสักอย่าง และจากนั้นมันก็ตัดจบไปดื้อๆ 

    ฉันกับพี่หนิง หันมามองหน้ากันอย่าง งงๆ และเกาหัวดังแกรกๆ

    “สงสัยแถวนี้คลื่นแทรกมันเยอะรึเปล่า ฟังไม่ออกเลย ว่าพูดอะไร” ลุงป๋องพูดออกมาเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆจอดรถที่BTS สถานีเอกมัย…

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น