โค (ห) วิดแต่คนไม่หวิด..พุ่งปรี๊ดเลย!?!
ความจริงอันโหดร้ายอันตรายจากน้ำมือคน
ผู้เข้าชมรวม
103
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
"COVID-19" เอ๊! มันเป็นโรคเกี่ยวกับอะไรน๊า? แล้วมันเกิดขึ้นได้ไงเนี่ย? ทุกวันนี้ก็มีอะไร ๆ ให้ต้องปวดหัวต้องจัดการมากมายอยู่แล้วไหงจู่ ๆ เจ้าโรคประหลาดเนี่ยเข้ามาในชีวิต..ไม่รู้จักอ่ะ..มาได้ยังไงมันก็ยังงง ๆ?! เดี๋ยว ๆ ขอเวลาแป๊บ อ๋อ! ที่แท้เจ้าโรคโควิดสิบเก้า (COVID-19) เนี่ยเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งย่อมาจาก “Coronavirus disease starting in 2019” หรือเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าที่เริ่มต้นในปี 2019 ซึ่งไวรัสในกลุ่มนี้มีหลายสายพันธุ์อันป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่สามารถก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจในคนซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดอาการที่ไม่รุนแรงนักโดยเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่ว่าบางสายพันธุ์นั้นอาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงจนเกิดอาการปอดอักเสบคล้ายกับโรคติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) หรือโรคซาร์ (SARS-CoV-2) ซึ่งไวรัสนี้เพิ่งมีการค้นพบใหม่โดยไม่เคยปรากฏว่ามีการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ในคนมาก่อนเลยโดยพบคนที่ติดเชื้อไวรัสนี้ครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงปลายปี 2019 ก่อนที่เชื้อนั้นจะแพร่ระบาดกระจายอย่างรวดเร็วไปหลายประเทศทั่วโลกโดยจะพบเจอผู้ติดเชื้อที่โดยส่วนมากจะเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีนหรือเป็นชนชาวแผ่นดินใหญ่ที่เดินทางเข้ามาในประเทศแทบทั้งสิ้นนั่นเอง! ..รู้จักแล้วนะ เอ้า ๆ ๆ! มันกลัวเราไม่รู้จักดีก็เลยมาแนะนำตัวให้รู้จักถึงที่เลย..ซะอย่างงั้น!
1. เปิดฉากอย่างเร้าใจ!?! (ฺฺBoxing stadium cluster)
บ้านเราเมืองเราเริ่มรู้จักโรคโควิดสิบเก้าแบบใกล้ชิดเพราะเริ่มมีผลกระทบในราวต้นปี 2563 สาเหตุมาจากกลุ่มการแพร่เชื้อจากหลายกลุ่ม (Cluster) แต่กลุ่มใหญ่ที่สุดมาจากคลัสเตอร์สนามมวยเวทีลุมพินีราวเดือนมีนาคม 2563 จากนั้นจึงมีการดำเนินการรับมือกับโรคติดต่อนี้ด้วยการรณรงค์ให้เน้นการเฝ้าระวังตนเอง การรักษาความสะอาดโดยเฉพาะการล้างมืออย่างถูกวิธี การหลีกเลี่ยงฝูงชนและการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดต่อ ซึ่งถือว่าเริ่มที่จะเป็นวิถีในการดำเนินชีวิตแบบใหม่ (New normal) พร้อมกับการ “ล็อกดาวน์” ปิดประเทศของรัฐบาลเพื่อความปลอดภัยของประชาชนพร้อมกับการผุดโครงการต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชาชนอันเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้คนหันมาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้นหลังจากที่ประชาชนประสบปัญหายากลำบากในการประกอบอาชีพและทำมาหากินรวมถึงการดำเนินชีวิตที่ยุ่งยากมากขึ้นเนื่องจากต้องระมัดระวังการใช้ชีวิตประจำวันให้รอบคอบมากขึ้นอันประกอบไปด้วยโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” , “คนละครึ่ง” , “ช้อปดีมีคืน” เป็นต้น รวมทั้งโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน ซึ่งประชาชนต่างตื่นตัวตอบรับเป็นอย่างดีต่อโครงการต่าง ๆ และเริ่มปรับตัวเข้ากับการป้องกันและใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ในการรับมือกับโรคติดต่อดังกล่าวนี้จนดูเหมือนว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดอย่างได้ผลเป็นที่น่าพอใจซึ่งประเทศไทยเราเป็นประเทศลำดับต้นๆ ที่สามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิดสิบเก้าได้เป็นอย่างดี
2. ยังเจ็บไม่พอ..จะขออีกซักที! (Foreign workers cluster)
กระทั่งต่อมาโรคนี้ได้ระบาดอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างหนักและปรากฎว่าพบการระบาดของโรคโควิดสิบเก้ารอบใหม่ประมาณกลางเดือนธันวาคม 2563 ในจังหวัดสมุทรสาครที่มีแรงงานต่างด้าวอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสงสัยว่าน่าจะมาจากแรงงานต่างด้าวที่มีการลักลอบนำพาเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายรวมถึงคนไทยที่ไปทำงานอยู่ที่นั่นและเดินทางกลับมาบ้านเกิดเมืองนอนและคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศดังกล่าวต้องการหนีตายจากการติดเชื้อจึงหนีเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายโดยเฉพาะทางช่องทางธรรมชาติและเคลื่อนตัวเข้ามาทำมาหากินประกอบอาชีพใช้ชีวิตอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พบการระบาดจากแรงงานต่างด้าวในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร ทั้ง ๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ก็สามารถปรับตัวอย่างกระตือรือร้นให้ความร่วมมือไม่ลดการ์ดลงมีความรับผิดชอบต่อตนเองต่อครอบครัวและสังคมรวมทั้งมีความรู้ที่ได้รับการประชาสัมพันธ์อย่างเข้าใจในการป้องกันตัวเองเป็นอย่างดีและรับรู้ข้อเท็จจริงทางการแพทย์ที่ว่าโรคโควิดสิบเก้าต่อให้ติดเชื้อมาแล้วแต่หากมีร่างกายปกติแข็งแรงไม่ได้มีโรคประจำตัวร้ายแรงต่อให้ไม่ต้องไปพบแพทย์ไม่ต้องกินยาใดใดร่างกายก็มีภูมิคุ้มกันในตัวเองอยู่แล้วแค่ดูแลตัวเองได้ดีก็สามารถหายได้เป็นปกติเว้นแต่รับเชื้อไปโดยตรงและรับเข้าไปมากเกินไปประจวบกับมีร่างกายไม่แข็งแรงมีภูมิคุ้มกันต่ำก็อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ใขณะเดียวกันรัฐบาลก็มีโครงการเพิ่มขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอีกหลายโครงการทั้งโครงการ "เราชนะ", "เราสามัคคี", “เราไม่ทิ้งกัน” , "เรารักกัน", "ลดค่าน้ำ", "ลดค่าไฟฟ้า", "ประกันสังคม" เป็นต้น ส่วนหนึ่งเพื่อแบ่งเบาภาระและเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนในการดำรงชีวิตสู้กับภัยโควิดสิบเก้าและอีกส่วนหนึ่งก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้กระเตื้องขึ้น
3. กว่าจะรู้จักจำ..ใจก็ชอกช้ำอีก! (Entertainment spot cluster)
จนกระทั่งต้นเดือนเมษายน 2564 ก็พบการระบาดระลอกใหม่อีกครั้งซึ่งอาจเรียกว่าเป็นรอบที่สามก็ว่าได้โดยมีคลัสเตอร์ที่ย่านทองหล่อและนราธิวาสทำให้เวลานี้ทั้งนักดนตรี ดารา นักแสดง นักร้อง ดีเจ ตลก พริตตี้ รัฐมนตรี ส.ส. ตำรวจและทหารล้วนแล้วแต่ได้รับการแพร่เชื้ออันเป็นผลสืบเนื่องมาจากสถานบันเทิงย่านทองหล่อทั้งสิ้นส่งผลให้เชื้อโควิดสิบเก้านั้นแพร่กระจายไปทั่วจนขยายไปสู่แต่ละจังหวัดต่าง ๆ แล้วกว่า 62 จังหวัด โดยข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ณ วันที่ 10 เมษายน 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 789 ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องสั่งห้ามมิให้ร้านอาหารเปิดเกินเวลาสามทุ่มและห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในร้านอาหาร รวมทั้งสถานบันเทิงสถานบริการต่าง ๆ ถูกสั่งห้ามเปิดให้บริการกว่า 41 จังหวัด ในส่วนของจังหวัดอื่น ๆ นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ว่าฯ ในแต่ละจังหวัดว่าจะดำเนินการมาตรการในการควบคุมต่อไปอย่างไรรวมถึงการต้องมารายงานตัวและทำการกักตัวหากประสงค์จะเดินทางเข้ามาภายในจังหวัดที่มีการกำหนดมาตรการควบคุมในช่วงเทศกาลสงกรานต์หลังจากได้รับการอนุญาตให้สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้โดยที่ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างก็ทำการดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามกว่าทั่วประเทศในหลาย ๆ จังหวัดเพื่อรองรับมาตรการในการควบคุมโรคโควิดสิบเก้าระลอกล่าสุดนี้
การแพร่ระบาดของโรคโควิดสิบเก้าในรอบแรกนั้นแรกแริ่มเดิมทีอาจเกิดจากความที่ไม่รู้ตัวว่าได้ติดโรคนี้ไปแล้วจึงได้นำไปแพร่เชื้อสู่สังคมส่วนใหญ่โดยไม่รู้ตัวเพราะเชื้อไวรัสนี้ไม่เคยเป็นที่รู้จักกันมาก่อนและเป็นสิ่งใหม่ในประเทศจึงยังไม่รู้ลักษณะอาการของโรคและยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วมันสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ง่ายมาก ๆ ต่อมาพอรู้แล้วแต่คนก็ยังไม่ค่อยใส่ใจนักที่จะปฏิบัติตามการรณรงค์เพื่อป้องกันโรคนี้เพราะยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับนิวนอร์มอลได้เท่าที่ควรจนทำให้เกิดความประมาทขึ้นมาและเกิดการแพร่เชื้อขยายต่อกันในที่สุด ต่อมาการแพร่กระจายของโรคนี้ในรอบต่อมานั้นเกิดจากแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเป็นตัวนำเชื้อมาแพร่กระจายโดยมีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลายฝ่ายที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลักโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาอย่างร้ายแรงเกินกว่าที่คนส่วนใหญ่และประเทศชาติจะรับไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพร่ระบาดของโควิดสิบเก้าระลอกใหม่ที่เห็นได้ชัดเจนว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยสิ้นเชิงเพราะถูกสงสัยว่าอาจไม่มีมาตรการในการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ไม่มีการสวมหน้ากากอนามัยในการใช้บริการภายในสถานบันเทิงทำให้การใกล้ชิดกันนั้นกลายเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดอย่างชัดเจนและ ณ ขณะนี้ผู้จัดการของสถานบันเทิงทั้งสองร้านถูกศาลพิพากษาจำคุกคนละสองเดือนโดยไม่รอลงอาญา หากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญในแต่ละกรณีนั้นมีความรับผิดชอบต่อตนเองต่อครอบครัวและต่อสังคมให้มากขึ้นกว่านี้การแพร่ระบาดของโรคโควิดสิบเก้าคงสามารถควบคุมได้และก็คงไม่ใหญ่โตจนเกิดผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างมากเหมือนในขณะนี้!!
เรื่องโดย นรชนไท
เครดิตภาพ
ภาพปก โดย geralt จาก Pixabay
ภาพที่ 1 โดย Claudio_Scott จาก Pixabay
ภาพที่ 2 โดย danisampa จาก Pixabay
ภาพที่ 3 โดย Free-Photos จาก Pixabay
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Norrachonthai ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Norrachonthai
ความคิดเห็น