เรามาเริ่มเรื่องกันได้ ณบัดนี้~
>>badboy รักนายมันร้ายทำลายใจฉัน<<
จิ้บ จิ้บ จิ้บ
เสียงนกน้อยร้องในยามเช้าท้องฟ้าแจ่มใสทั้ง ใบไม้ที่ปลิวไสวตามแรงลมที่พัดผ่าน ช่องหน้าตางผ่านห้องนอนเล็กๆ
"เมเบล ตื่นได้แล้วลูกวันนี้เราต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้านะลูก" เสียงผู้หญิงอายุราวๆสามสิบต้นๆเรียก เด็กน้อยที่นอนอยู่ในห้องอย่างลืมโลก
"ค่า~" เด็กสาวที่พึ่งตื่นด้วยความงัวเงียเดินลงมาจากชั้นบนของตัวบ้าน เธอเดินมากอดผู้เป็นแม่อย่างนุ่มนวล
"แม่คะ" เธอเอยขึ้นจากด้านหลัง
"หืม?"
"เราต้องไปจากที่นี่จริงๆหรอคะ? หนูไม่อยากไปเลยค่ะ อยู่อีกนิดไม่ได้หรอคะ?" เธอถามแม่เธอ
" เมเบล อย่าทำให้แม่เสียอารมณ์ตั้งแต่เช้านะ บอกว่าไปก็ไปสิ รีบไปแต่งตัวได้แล้ว! " แม่ของเธอตอบอยางเสียอารมณ์
" เบลขอโทษค่ะแม่" เด็กสาวปล่อยกอดจากแม่แล้วเดินไปยังห้องของเธอ
"เฮ้อ~" เธอทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ
"ทำไมครอบครัวของฉันต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ" เธอลืมตามองเพดานสีขาวสะอาด
จากนั้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่แขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าแล้วเข้าไปยังห้องน้ำ ผ่านไปนับยี่สิบนาที เด็กสาวเดินออกมาด้วยตัวที่ชุ่มน้ำ สายตากลมโตตวาดมองไปทั่วตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าหลากสีสัน
เธอหยิบเสื้อยืดกางเก่งยีนส์ออกมาสวมใส่ จากนั้นหันไปทาครีมบำรุงผิวมาทา เสร็จแล้วก็ตบแป้งเล็กน้อยและลิปมันมาทาเพื่อป้องดันปากแตก
"เมเบล เสร็จหรือยังลูกพ่อมารอแล้ว น้องไปยืนรอที่รถแล้วนะ รีบเข้าละ" แม่ตะโกนมาจากด้านลาง
" เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวเบลก็เสร็จแล้ว" เธอหันไปหยิบกระเป๋าลากใบใหญ่ที่วางไว้หน้าประตูแล้วเดินลงบันไดลงไปยัง ตัวรถ
"แม่คะ ยัยเบลมาแล้วค่ะ" น้องสาวที่ยืนอยู่ข้างประตูรถเอยบอกแม่ที่ยืนพูดกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่
"งั้นก็ขึ้นรถเลยแล้วกับ" คุณแม่เดินมายังข้างคนขับแล้วเข้าไปนั่งทันที
" ให้พ่อยกกระเป๋าช่วยมั้ยลูก" ผู้ชายคนนั้นเดินมายังเมเบลพูดขึ้น
"ไม่เป็นไรค่ะ หนูยกเองได้ค่ะคุณไปขับรถเถอะค่ะ" เธอตอบหวนๆ เขาคนนั้นได้แค่ยิ้มให้เธอแล้วเดินไปยังที่ขับ
ระยะทางที่พวกเราเดินทางมาระหว่างร้อยโลได้ ในที่สุดก็ถึงจุดหมาย รถขันสีดำบรอนเงินราคาเกือบสิบล้านได้จอดลงหน้าบ้านหลังใหญ่
'ที่ที่นี้คงดูวุ่นวายหน้าดูเลย' เด็กสาวผู้เป็นพี่คิดในใจ
ผู้คนที่อยู่ภายในบ้านต่างกันเดินออกมาต้อนรับอย่าง น่าแปลกใจ 'พวกเขาออกมาทำไมกันนะ' คำถามที่ไม่มีวันสิ้นสุดได้พุ่ดขึ้นมาในสมองเธอเป็นร้อยๆคำถาม ทุกคนต่างก้มหัวลงเมื่อพวกเราลงจากรถ
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณผู้ชาย" หญิงแก่คนหนึ่งเอยขึ้นหลังการก้ม
"เตรียมห้องไว้หมดแล้วใช่มั้ย" เขาคนนั้นพูดขึ้น
"เรียบร้อยแล้วค่ะคุณผู้ชาย" หญิงแก่คนนั้นตอบกลับ
" ไปกันเถอะครับ" เขาคนนั้นบอกคุณแม่ให้เดินไปยังตัวบ้าน คุณแม่ยิ้มให้จากนั้นก็จับมือกันเข้าไป เหลือไว้เพียงแค่เมเบลที่ยืนอยู่
"เมเบล!" แม่เธอหันมาเรียกเด็กสาวที่ยืนขาแข็งอยู่ที่เดิม เธอมองหน้าแม่เธออย่างเศร้าๆ
"เชิญทางนี้ค่ะคุณหนู" ผู้หญิงคนกนึ่งขึ้นพร้อมผายมือออกไปด้านหน้า เธอเดินตามแม่เธอไปยังตัวบ้าน
เธอเดินมายังห้องโถ่งขนาดใหญ่ เธอเห็นคุณแม่และน้องของเธอนั่งรอตรงโซฟาตัวยาว เขาคนนั้นกวักมือเรียกเธอไปหา เธอเดินไปยังโซฟาจากนั้นเธอนั่งลงข้างๆน้องของเธอ
" เป็นไงที่นี่กวางมั้ย พ่อดีใจที่ลูกๆได้อยู่ในที่สบายๆ ไม่ต้องลำบากเหมือนเมื่อก่อน" เจาคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกวักมือเรียกผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูมาหา?
"พาลูกๆของฉันไปยังห้องที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้" ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าเพื่อเป็นความเข้าใจ
"เชิญทางนี้ค่ะคุณหนู" เธอผายมืออกไปด้านข้างแล้วก้มหัวลงเธอแสดงความเคราพ
"…" เด็กสาวทั้งสองคนเดินตามหญิงสาวอย่างเงียยๆ
เธอคนนั้นพาเด็กสาวขึ้นมายังชั้นสองของตัวบ้านทั้งสามมาหยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่
"ห้องทางฝั่งซ้ายมือเป็นห้องของคุณหนูเมเบลส่วนห้องฝั่งทางขวามือเป็นห้องของคุณหนูเรเน่ค่ะ หมดธุระของดิฉันแล้ว ขอตัวนะคะ" เธอก้มหัวลงแล้วเดินจากไป...
"เบลฉันเข้าห้องก่อนน่ะเธอจะยืนต่อไปก็เชิญฉันคงไม่อยากยืนขาแข็งเหมือเธอหรอกน่ะ" พูดเสร็จผู้เป็นน้องก็เดินเข้าห้องไป
ห้องที่ทั้งสองอยู่นั้นเป็นห้องชุดที่มีสองห้องนอนทั้งสองห้องมีห้องน้ำภายในตัว มีโซฟาอยู่ระหว่างกลางห้องนั่งเล่น ห้องนั่งเล่นเป็นเพียงที่กั้นระหว่างห้องของพวกเธอ
"เฮ้อ~" เด็กสาวถอนหายใจก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป เธอเดินไปนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ ที่มีน้องสาวนั่งอยู่ก่อนหน้านี้
"เน่..." ผู้เป็นพี่เอยขึ้น
" มีไร" เธอตอบกลับ
" ฉันแค่คิดถึงพ่ออะ" เธอพูดแล้วน้ำตาเริ่มคลอ เธอพยายามกลั้นมันไม่ให้ออกมาแต่ก็ทำไม่ได้
" เธอคิดว่าฉันไม่คิดถึงหรือไงแค่เงียบ…"ยังไม่จบประโยคน้องสาวเธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องตัวเอง
เธอนอนลงโซฟาแล้วหลับตาลงเพื่อจะทำให้ความเศร้าจางหาย นานนับนาทีกว่าเธอจะลืมตาขึ้นมา เธอพ้นลมหายใจยาวๆก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเอง
ตั้งแต่พ่อของเธอเสียเธอก็ไม่เหมือนเดิมจากที่เคยสดใส่ (ปกติเธอชอบหาเรื่องใส่ตัวเองไม่เว้นแต่ละวัน-_-^) แต่ตอนนี้เศร้าหมอง จนเป็นเหมือนดอกไม้ที่ไม่ได้รับน้ำรับปุ๋ยเลยก็ว่าได้
ครื้ด ครื้ด ครื้ด
เสียงโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเด็กสาวดังขึ้น เธอล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเธอ
>นาเดียร์<
เธอเลื่อนรับมันอย่างใจเย็น "ว่าไง"
(เป็นไงบ้างแกฉันเป็นหวงเพื่อนคนนี้จังแล้วอยู่ที่นั้น แล้วทำไมไม่โทรหาฉันว่าถึงหรือยังไม่ถึง ทำแบบนี้รู้มั้ยว่า.....) เพื่อนหญิงสาวทิ้งช่องลมหายใจเพราะหายใจไม่ทันคำพูดของตัวเอง
"โฮ่ แกฉันมาอยู่ที่ก็ไม่ได้แปลว่าแกกันฉันจะไม่ำด้เจอกันซะหน่อย แล้วถามขนาดนี้ใครจะไปตอบแกทันเล่า " เธอพูดอยางใจเย็น
(นี้แกกลายเป็นสัตว์เลือดเย็นตั้งแต่เมื่อไหร่กันว่ะ?)เพื่อนของเธอเห็นเธอพูดไม่เหมือนเมื่อก่อนจึงถ่วงขึ้น
"ก็ที่นี่ไม่ใช้บ้านฉัน…จะให้ทำตัว กระโดกกระเดกได้ไงเล่าพูดบ้าๆ"เธอโต้กลับ
(เเหมเป็นแม่พระซะงั้นนะแก) เพื่อนเธอพูดแซวเล่น
"ที่โทรมาจะพูดแค่นี้ใช่มั้ย?"
(อา ฉันแค่ได้ยินเสียงห่าวๆของแกก็รู้แล้วว่าแกไม่ตายง่าย ฮ่าๆๆ วางละ) ก่อนที่เธอจะโดนด่าต้องรีบวางสาย
นี้แหละที่ทำให้ชีวิตของฉันเปลียนไปจากเดิมอย่างสิ่นเชิงเรามาเริ่มเรื่องกันได้ ณบัดนี้~
>>badboy รักนายมันร้ายทำลายใจฉัน<<
จิ้บ จิ้บ จิ้บ
เสียงนกน้อยร้องในยามเช้าท้องฟ้าแจ่มใสทั้ง ใบไม้ที่ปลิวไสวตามแรงลมที่พัดผ่าน ช่องหน้าตางผ่านห้องนอนเล็กๆ
"เมเบล ตื่นได้แล้วลูกวันนี้เราต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้านะลูก" เสียงผู้หญิงอายุราวๆสามสิบต้นๆเรียก เด็กน้อยที่นอนอยู่ในห้องอย่างลืมโลก
"ค่า~" เด็กสาวที่พึ่งตื่นด้วยความงัวเงียเดินลงมาจากชั้นบนของตัวบ้าน เธอเดินมากอดผู้เป็นแม่อย่างนุ่มนวล
"แม่คะ" เธอเอยขึ้นจากด้านหลัง
"หืม?"
"เราต้องไปจากที่นี่จริงๆหรอคะ? หนูไม่อยากไปเลยค่ะ อยู่อีกนิดไม่ได้หรอคะ?" เธอถามแม่เธอ
" เมเบล อย่าทำให้แม่เสียอารมณ์ตั้งแต่เช้านะ บอกว่าไปก็ไปสิ รีบไปแต่งตัวได้แล้ว! " แม่ของเธอตอบอยางเสียอารมณ์
" เบลขอโทษค่ะแม่" เด็กสาวปล่อยกอดจากแม่แล้วเดินไปยังห้องของเธอ
"เฮ้อ~" เธอทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ
"ทำไมครอบครัวของฉันต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ" เธอลืมตามองเพดานสีขาวสะอาด
จากนั้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่แขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าแล้วเข้าไปยังห้องน้ำ ผ่านไปนับยี่สิบนาที เด็กสาวเดินออกมาด้วยตัวที่ชุ่มน้ำ สายตากลมโตตวาดมองไปทั่วตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าหลากสีสัน
เธอหยิบเสื้อยืดกางเก่งยีนส์ออกมาสวมใส่ จากนั้นหันไปทาครีมบำรุงผิวมาทา เสร็จแล้วก็ตบแป้งเล็กน้อยและลิปมันมาทาเพื่อป้องดันปากแตก
"เมเบล เสร็จหรือยังลูกพ่อมารอแล้ว น้องไปยืนรอที่รถแล้วนะ รีบเข้าละ" แม่ตะโกนมาจากด้านลาง
" เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวเบลก็เสร็จแล้ว" เธอหันไปหยิบกระเป๋าลากใบใหญ่ที่วางไว้หน้าประตูแล้วเดินลงบันไดลงไปยัง ตัวรถ
"แม่คะ ยัยเบลมาแล้วค่ะ" น้องสาวที่ยืนอยู่ข้างประตูรถเอยบอกแม่ที่ยืนพูดกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่
"งั้นก็ขึ้นรถเลยแล้วกับ" คุณแม่เดินมายังข้างคนขับแล้วเข้าไปนั่งทันที
" ให้พ่อยกกระเป๋าช่วยมั้ยลูก" ผู้ชายคนนั้นเดินมายังเมเบลพูดขึ้น
"ไม่เป็นไรค่ะ หนูยกเองได้ค่ะคุณไปขับรถเถอะค่ะ" เธอตอบหวนๆ เขาคนนั้นได้แค่ยิ้มให้เธอแล้วเดินไปยังที่ขับ
ระยะทางที่พวกเราเดินทางมาระหว่างร้อยโลได้ ในที่สุดก็ถึงจุดหมาย รถขันสีดำบรอนเงินราคาเกือบสิบล้านได้จอดลงหน้าบ้านหลังใหญ่
'ที่ที่นี้คงดูวุ่นวายหน้าดูเลย' เด็กสาวผู้เป็นพี่คิดในใจ
ผู้คนที่อยู่ภายในบ้านต่างกันเดินออกมาต้อนรับอย่าง น่าแปลกใจ 'พวกเขาออกมาทำไมกันนะ' คำถามที่ไม่มีวันสิ้นสุดได้พุ่ดขึ้นมาในสมองเธอเป็นร้อยๆคำถาม ทุกคนต่างก้มหัวลงเมื่อพวกเราลงจากรถ
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณผู้ชาย" หญิงแก่คนหนึ่งเอยขึ้นหลังการก้ม
"เตรียมห้องไว้หมดแล้วใช่มั้ย" เขาคนนั้นพูดขึ้น
"เรียบร้อยแล้วค่ะคุณผู้ชาย" หญิงแก่คนนั้นตอบกลับ
" ไปกันเถอะครับ" เขาคนนั้นบอกคุณแม่ให้เดินไปยังตัวบ้าน คุณแม่ยิ้มให้จากนั้นก็จับมือกันเข้าไป เหลือไว้เพียงแค่เมเบลที่ยืนอยู่
"เมเบล!" แม่เธอหันมาเรียกเด็กสาวที่ยืนขาแข็งอยู่ที่เดิม เธอมองหน้าแม่เธออย่างเศร้าๆ
"เชิญทางนี้ค่ะคุณหนู" ผู้หญิงคนกนึ่งขึ้นพร้อมผายมือออกไปด้านหน้า เธอเดินตามแม่เธอไปยังตัวบ้าน
เธอเดินมายังห้องโถ่งขนาดใหญ่ เธอเห็นคุณแม่และน้องของเธอนั่งรอตรงโซฟาตัวยาว เขาคนนั้นกวักมือเรียกเธอไปหา เธอเดินไปยังโซฟาจากนั้นเธอนั่งลงข้างๆน้องของเธอ
" เป็นไงที่นี่กวางมั้ย พ่อดีใจที่ลูกๆได้อยู่ในที่สบายๆ ไม่ต้องลำบากเหมือนเมื่อก่อน" เจาคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกวักมือเรียกผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูมาหา?
"พาลูกๆของฉันไปยังห้องที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้" ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าเพื่อเป็นความเข้าใจ
"เชิญทางนี้ค่ะคุณหนู" เธอผายมืออกไปด้านข้างแล้วก้มหัวลงเธอแสดงความเคราพ
"…" เด็กสาวทั้งสองคนเดินตามหญิงสาวอย่างเงียยๆ
เธอคนนั้นพาเด็กสาวขึ้นมายังชั้นสองของตัวบ้านทั้งสามมาหยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่
"ห้องทางฝั่งซ้ายมือเป็นห้องของคุณหนูเมเบลส่วนห้องฝั่งทางขวามือเป็นห้องของคุณหนูเรเน่ค่ะ หมดธุระของดิฉันแล้ว ขอตัวนะคะ" เธอก้มหัวลงแล้วเดินจากไป...
"เบลฉันเข้าห้องก่อนน่ะเธอจะยืนต่อไปก็เชิญฉันคงไม่อยากยืนขาแข็งเหมือเธอหรอกน่ะ" พูดเสร็จผู้เป็นน้องก็เดินเข้าห้องไป
ห้องที่ทั้งสองอยู่นั้นเป็นห้องชุดที่มีสองห้องนอนทั้งสองห้องมีห้องน้ำภายในตัว มีโซฟาอยู่ระหว่างกลางห้องนั่งเล่น ห้องนั่งเล่นเป็นเพียงที่กั้นระหว่างห้องของพวกเธอ
"เฮ้อ~" เด็กสาวถอนหายใจก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป เธอเดินไปนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ ที่มีน้องสาวนั่งอยู่ก่อนหน้านี้
"เน่..." ผู้เป็นพี่เอยขึ้น
" มีไร" เธอตอบกลับ
" ฉันแค่คิดถึงพ่ออะ" เธอพูดแล้วน้ำตาเริ่มคลอ เธอพยายามกลั้นมันไม่ให้ออกมาแต่ก็ทำไม่ได้
" เธอคิดว่าฉันไม่คิดถึงหรือไงแค่เงียบ…"ยังไม่จบประโยคน้องสาวเธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องตัวเอง
เธอนอนลงโซฟาแล้วหลับตาลงเพื่อจะทำให้ความเศร้าจางหาย นานนับนาทีกว่าเธอจะลืมตาขึ้นมา เธอพ้นลมหายใจยาวๆก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเอง
ตั้งแต่พ่อของเธอเสียเธอก็ไม่เหมือนเดิมจากที่เคยสดใส่ (ปกติเธอชอบหาเรื่องใส่ตัวเองไม่เว้นแต่ละวัน-_-^) แต่ตอนนี้เศร้าหมอง จนเป็นเหมือนดอกไม้ที่ไม่ได้รับน้ำรับปุ๋ยเลยก็ว่าได้
ครื้ด ครื้ด ครื้ด
เสียงโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเด็กสาวดังขึ้น เธอล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเธอ
>นาเดียร์<
เธอเลื่อนรับมันอย่างใจเย็น "ว่าไง"
(เป็นไงบ้างแกฉันเป็นหวงเพื่อนคนนี้จังแล้วอยู่ที่นั้น แล้วทำไมไม่โทรหาฉันว่าถึงหรือยังไม่ถึง ทำแบบนี้รู้มั้ยว่า.....) เพื่อนหญิงสาวทิ้งช่องลมหายใจเพราะหายใจไม่ทันคำพูดของตัวเอง
"โฮ่ แกฉันมาอยู่ที่ก็ไม่ได้แปลว่าแกกันฉันจะไม่ำด้เจอกันซะหน่อย แล้วถามขนาดนี้ใครจะไปตอบแกทันเล่า " เธอพูดอยางใจเย็น
(นี้แกกลายเป็นสัตว์เลือดเย็นตั้งแต่เมื่อไหร่กันว่ะ?)เพื่อนของเธอเห็นเธอพูดไม่เหมือนเมื่อก่อนจึงถ่วงขึ้น
"ก็ที่นี่ไม่ใช้บ้านฉัน…จะให้ทำตัว กระโดกกระเดกได้ไงเล่าพูดบ้าๆ"เธอโต้กลับ
(เเหมเป็นแม่พระซะงั้นนะแก) เพื่อนเธอพูดแซวเล่น
"ที่โทรมาจะพูดแค่นี้ใช่มั้ย?"
(อา ฉันแค่ได้ยินเสียงห่าวๆของแกก็รู้แล้วว่าแกไม่ตายง่าย ฮ่าๆๆ วางละ) ก่อนที่เธอจะโดนด่าต้องรีบวางสาย
นี้แหละที่ทำให้ชีวิตของฉันเปลียนไปจากเดิมอย่างสิ่นเชิง
ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้
นี่ไม่ใช่เรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายแต่ก็อยากให้ทุกคนติดตามด้วยนะคะ
ความคิดเห็น