ชวิน พิพากษาแดนมนุษย์

คำนำ

เมื่อ 30 ปีที่แล้วมีนักเขียนนิยายแนวสืบสวนสอบสวนผู้ใช้ปลายปากกาในการนำความจริงของคดีที่ไม่มีใครสามารถคลี่คลายได้ออกมาตีแผ่เป็นนิยายเรื่องหนึ่งพร้อมกับบทสรุปไปในตัว แต่ที่น่าแปลกคือนิยายเล่มนั้นๆ จะมีความลับที่ถูกซ่อนไว้ของคดีต่างๆ ทำเอาผู้ที่ได้อ่านต้องขนลุกไปตามๆ กัน และคดีฆาตกรรมที่ถูกไขจนกระจ่างล้วนมาจากนิยายทุกเล่มที่เขาได้เขียนเอาไว้ เรียกได้ว่าในยุคสมัยนั้นนิยายสืบสวนสอบสวนขายดีเป็นกอบเป็นกำ 

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนมาถึงทางตันเมื่อไหร่ หรือไม่สามารถสรุปคดีไหนได้ พวกเขาก็หวังพึ่งพาชายคนนี้ในการหาเบาะแสต่างๆ คนทั่วไปจะรู้จักเขาในนามปากกา ปลายวารีนิรันดร์ 

เป็นเวลานานถึง 5 ปีในที่สุดอาชญากรทั่วกรุงเทพฯและเขตเมืองใหญ่ๆ ก็ถูกกวาดล้างไปเกือบทั้งหมด เครือข่ายรายย่อยหนีหายเข้ากลีบเมฆ ไม่ว่าจะยาเสพติด บ่อนพนัน คดีฆาตกรรม คอรัปชั่น แทบหาไม่ได้ในยุคนั้น

เขาเริ่มวางมือจากการเป็นนักสืบและกลับมาเขียนนิยายแนวชีวิตเพื่อเป็นวิทยาทานให้กับคนรุ่นหลัง ไม่นานปลายวารีนิรันดร์ได้สร้างครอบครัวเล็กๆ ของเขาขึ้นโดยมีภรรยาและบุตรชายหนึ่งคน ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งมีอิทธิพลมืดกลุ่มใหม่เริ่มแผ่ขยายอำนาจที่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ พวกมันใช้ ไสยศาสตร์ มนต์ดำ สิ่งที่คนทั่วไปไร้วิชาอาคมไม่อาจต่อกร 

อาชญากรเติบโตรวดเร็วเกินควบคุมทั้งยังแฝงตัวอยู่ในหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม และอีกหลายๆ หน่วยงาน ซึ่งแน่นอนว่าองค์กรลึกลับหมายหัวปลายวารีนิรันดร์เป็นหลัก

เมื่อรู้ตัวดีว่าตนและครอบครัวไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในเมืองศิวิไลซ์ได้แล้ว จึงพากันหลบหนีไปยังสถานที่ไกลแสนไกล ที่ที่คนพวกนั้นจะตามหาเขาไม่เจอ

เป็นเวลายาวนานกว่า 30 ปีที่ประเทศนี้โหยหาความยุติธรรม ชื่อเสียงของปลายวารีนิรันดร์กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานสืบต่อกัน มีผู้ร่วมอุดมการณ์ไม่กี่คนที่ยังเหลือรอด ตั้งความหวังที่จะออกค้นหาชายผู้หายสาบสูญ...

………………………………………….

หากสมุดถูกเปิดออกบอกเนื้อหา

ปรากฏแสงส่องจ้าประดับแคว้น

แจ้งเงื่อนไขวิพากษ์ครบจบคาถา

เปล่งวาจานิรมิตจิตพันธนา

“วินิจฺฉยเนตฺต”

มนุษย์ผู้โง่เขลาก่ออกุศลกรรมทั้งหลายจงฟังข้า บัดนี้เจ้าไม่มีสิทธิต่อรอง นัยน์ตาทั้งสองนี้จะนำไปสู่ความจริงที่มิอาจซ่อนเร้น หากไม่สำนึกในบาปที่กระทำก็จงติดอยู่ในวังวนนั่นไปชั่วกัลป์…