ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fanfic] หัวขโมยแห่งบารามอส เรื่องราว หลังจากนั้น

    ลำดับตอนที่ #45 : ผู้บุกรุกที่คุ้นเคย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.93K
      12
      24 ต.ค. 48

        สี่สหายมุ่งหน้าตรงเข้าไปในห้องโถง โดยมีร่างบางเป็นแกนนำ รอยยิ้มบางที่มองแล้วขนลุกปรากฏขึ้นมาบนดวงหน้าหวาน เป็นใบเบิกทางอย่างดีสำหรับใครหลายๆคนที่เข้ามาขวางทาง ไม่ว่าจะประสงค์ดีหรือไม่



        เจ้าหญิงสองดินแดนเดินเข้าไปในตัวงานในทันทีทันใด ดวงตาสีน้ำตาลกวาดไปทั่วห้องโถง ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้บุกรุกชุกคลุมหน้าสีดำ รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนดวงหน้าหวานของเฟริน มือยกขึ้นเหนือศีรษะ แล้วดีดนิ้วหนึ่งครั้ง ร่างของผู้บุกรุกที่เคยเต็มห้องโถงกลับเหลืออยู่เพียงสี่ร่าง



    \"ว่าแล้วเชียว เวทย์แยกร่าง\" โรพึมพำเบา รอยยิ้มพึงใจเปื้อนดวงหน้า



    \"นายรู้ตั้งแต่เมื่อไรเฟริน\" คาโลเอ่ยถาม เขารู้ตอนที่เห็นก้อนเนื้อรูปร่างประหลาดนั่น แต่เขาคิดว่าสาวน้อยตรงหน้านี่จะรู้ก่อนเขา



    \"ตั้งแต่ที่โรใช้พลังของมันไม่ค่อยได้ผล\" เฟรินตอบอย่างไม่ใส่ใจจะให้รายละเอียด สายตากวาดไปจับจ้องร่างของผู้บุกรุกทั้งสี่ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปยืนตรงหน้าหนึ่งในนั้น



    \"คิดยังไงถึงมาบุกปราสาทเอดินเบิร์ก\" เฟรินยิงคำถามอย่างอารมณ์เสียใส่ผู้บุกรุกคนนั้น



    \"ทำอะไรไม่ไว้หน้าฉันซักนิด คิดจะไปก็ไป คิดจะมาก็มา\" เฟรินไม่ปล่อยให้ผู้บุกรุกคนนั้นได้ตอบซักนิด แต่ตัวเองกลับบ่นต่อไปอย่างไม่รู้หยุด



    \"แล้วทำยังไงถึงไปพาอีกสองคนมาได้ ตอบมาเดี๋ยวนี้ ทั้งหมดเลยนะ พ่อ!!!\" คำพูดสุดท้ายทำให้ทุกคนในโถงกว้างแห่งนั้นมองไปที่เธอเป็นตาเดียว ก็พ่อมันอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เรอะ แล้วนี่มันหมายความว่าอะไรก๊านนน



    \"แกฉลาดขึ้นเยอะเลยนี่ ไอ้หนู\" คำพูดที่ไม่รู้ว่าชมว่าฉลาดหรือด่าว่าเมื่อก่อนโง่กันแน่ของผู้บุกรุกที่ยอมจำนนถอดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นหัวล้านเลี่ยนของสุดยอดหัวขโมยแห่งบารามอส มาดัส เดอเบอโรว์



    \"ตอบมาเลยพ่อ ตอบมาให้หมด คดีที่พ่อทิ้งฉันไว้ฉันก็ยังไม่ได้เฉ่ง ฉันจะเอารอบนี้รอบเดียวให้หมดไปเลย\" เฟรินเอ่ยด่าใส่พ่อของตัวเองอย่างหน้าตาเฉย แม้ว่าจะไม่ใช่พ่อแท้ๆ แต่ยังไงก็เป็นคนเลี้ยงมาตั้งสิบห้าปีนา



    \"โอย ไอ้หนู แกจะให้ฉันพักหน่อยจะได้มั้ย แกถามทีสามสี่คำถาม ฉันก็คนนะเว้ย\" มาดัสโวยวาย ก่อนจะไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง



    \"คำถามแรก มันไม่ใช่ความคิดฉัน ความคิดของคนที่ฉันพามาต่างหาก ทำอะไรไม่ไว้หน้า นั่นก็ไม่ใช่ความคิดฉันอีก ความคิดของเจ้าของความคิดแรก และฉันก็เห็นด้วยกับเค้า ถ้าแค่นี้แกยังรับมือไม่ได้ก็ไม่ต้องไปทำอะไรกินที่ไหนแล้ว คำถามที่สาม ทำยังไงถึงพามาได้ คนนั้น\" มาดัสชี้มือไปยังผู้บุกรุกที่รับมือของอดีตสองในสามสิงห์แห่งเอเดน \"ชั้นไปเจอเข้าแถวๆอันเซ็ค เลยท้าเล่นหมากรุก ฉันชนะ เลยพาเขากลับมานี่\" เฟรินมองหน้าพ่อเลี้ยงอย่างไม่ค่อยจะเชื่อ



    \"พ่อล้อฉันเล่นน่า พ่อเนี่ยนะชนะหมากรุกเขา\"



    \"เออสิวะ แกดูถูกฝีมือของทายาทเชสมาสเตอร์เดอะเกรทมากไปแล้วนะเฟริน\" มาดัสย้อนกลับใส่ลูกสาวอย่างไม่ค่อยพอใจที่เจ้าตัวลูกสาวไม่เชื่อ ก่อนจะรีบเสริมต่อ



    \"แกไม่เชื่อไปถามเขาได้\" ไม่ต้องรอให้พูดต่อ สาวเจ้ารีบหันไปถามบุรุษที่สามทันที



    \"จริงเหรอฮะ ท่านวิลเลี่ยม\" ชื่อของบุคคลที่สามที่ทำให้บุคคลทั่วทั้งโถงกว้างพากันมองไปยังบุคคลที่ถูกถามอย่างไม่เชื่อหู ฝ่ายผู้บุกรุกคนนั้นหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยอมจำนนถอดผ้าคลุมออกอีกคน



    \"เรารู้ได้ยังไงฮึ เฟริน\" ร่างของบุรุษวัยกลางคนเจ้าของเรือนผมสีชาและนัยน์ตาสีมรกต เอ่ยถามกลั้วหัวเราะเบาๆที่ถูกเด็กรุ่นลูกจับได้โดยง่าย ทั้งๆที่เพื่อนทั้งสามของเขายังไม่รู้เลยซักนิด ร่างของบุรุษผู้ตรึงเอาสายตาของบุรุษที่มีดวงตาสีเดียวกันไป



    \"ง่ายจะตาย มันจะมีใครที่สามารถรับมือคิงบาโรกับคิงริชาร์ดได้พร้อมกันทีเดียวสองคนล่ะฮะ ถ้าไม่ใช่วิลเลี่ยมจอมปราชญ์\" เฟรินแจงเหตุผลที่ทำให้หลายๆคนในโถงกว้างอึ้งไปตามๆกัน มันไปรู้จักกับจอมปราชญ์ของสามสิงห์แห่งเอเดนได้เมื่อไร



    \"เราฉลาดขึ้นจริงๆด้วยเฟริน ไม่ได้เจอกันนาน แต่คงไม่นานนักสำหรับเรา ฉลาดขึ้นเป็นกอง\" คำเอ่ยที่ไม่รู้ว่าชมหรือด่าดังขึ้นมาอีกครั้ง เฟรินชักสีหน้าปั้นยาก ก่อนที่วิลเลี่ยมจะตัดสินใจพูดต่อ



    \"แต่ตอนนี้สามสิงห์แห่งเอเดนมันเก่าไปแล้ว เฟริน ตอนนี้มันเป็นยุคของพวกเธอ สี่อัศวินต่างหาก(ขอยืมหน่อยนะฮะ จากฟิคของใครก็ไม่รู้อ่ะฮะ ขอโทษฮะที่จำชื่อคนแต่งไม่ได้)\"



    \"เฟริน\" เสียงชายหนุ่มคุ้นหูดังขึ้นข้างหลัง เฟรินหันหลังไปมอง ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อชายคนนั้นเข้ามากอดเธอเต็มๆ เฟรินตาเบิกกว้าง



    \"พี่..... วิสนี่ วิส ปล่อยนะ\" เฟรินร้องเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มคนนั้นไม่ยอมปล่อยเธอเสียที อุณหภูมิในห้องโถงลดลงอย่างรวดเร็วจนหน้าใจหาย



    \"วิส คืนร่างก่อน ขอร้อง คืนร่าง วิส อย่าทำแบบนี้\" เฟรินดันตัวชายหนุ่งเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ กับนัยน์ตาสี้น้ำตาลไหม้ให้ออกไปห่างตัว ปากก็ร้องพัลวัน



    \"คิดถึงจัง\" ชายหนุ่มพูดเสียงนุ่ม เฟรินขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัว คำพูดที่ทำให้อุณหภูมิลดลงมากขึ้นไปอีก



    \"วิสคืนร่างสิ วิส โธ่วิส อย่าทำแบบนี้ คนโดนมันไม่ใช่แกนะ พี่ไคน์!! อย่ามัวแต่ยืนดูเฉยๆได้มั้ย!! ทำอะไรซักอย่างสิ!!\" หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อเห็นว่าสู้แรงคนตรงหน้าไม่ได้ จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากผู้บุกรุกอีกคนที่เหลือทันที



        ผู้บุกรุกคนสุดท้ายส่ายหน้าปลงๆ ก่อนยื่นข้อเสนอ \"หนึ่งเพลงนะ\"



    \"อะไรก็เอา พี่รีบคืนร่างให้วิสซะที!! ผมตายแน่งานนี้ เร็วๆเข้า!!\" เฟรินรับข้อเสนอในทันใด ผู้บุกรุกคนสุดท้าย หรือไคน์ที่เฟรินเรียก ถอดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นรูปร่างหน้าตาที่เรียกได้ว่าเป็นพิมพ์เดียวกับวิสที่กอดเฟรินอยู่ แถมยังเกาะหนึบไม่ปล่อยเสียด้วยสิ ไคน์เดินไปยังตัวของวิส มือแตะไหล่ ก่อนที่จะพึมพำอะไรบางอย่าง แล้วก็เกิดแสงสว่างจ้าขึ้น ร่างเด็กหนุ่มที่เฟรินเรียกว่าวิสหายไป เหลือแค่เพียงร่างของเด็กหนุ่มพิมพ์เดียวกันที่เฟรินเรียกว่าไคน์ และตัวอะไรบางอย่างที่อยู่บนฝ่ามือของเขา ที่ดูเหมือนว่าอยากจะกัดไคน์มากเสียด้วย



    \"มันไม่ฟังผมเลย พี่ไม่ทำอะไรกับมัน\" เฟรินเสยผมอย่างโล่งใจเมื่อวิสกลับคืนร่างเป็นเจ้าตัวขนปุยน่ารักตามเดิม แต่ปากก็ยังถามคนรู้จักถึงสาเหตุ



    \"ปกติมันก็ฟังผมดีนี่นา\"



    \"ดัดนิสัยนิดหน่อย\" ไคน์ตอบกลับ ก่อนจะไหวไหล่น้อยๆ \"แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล\" ร่างขนปุยที่มีหูยาวเหมือนกระต่ายแต่ก็ไม่ใช่ ดูยังไงก็ยังไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร และไม่ต้องถาม เจ้าของเองยังไม่รู้เลย วิสแยกเขี้ยวขู่เจ้าของ ที่ดูจะไม่มีพิษสงนักในสายตาของชายหนุ่ม



    \"พี่ไปทำให้นิสัยมันแย่ลงกว่าเดิมน่ะสิไม่ว่า ปกติมันไม่ฟังพี่คนเดียว ตอนนี้มันก็ลามมาถึงผมด้วย\" เฟรินเบ้ปากพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ



    \"แล้วพี่มานี่ได้ไง\" เธอเอ่ยถามคำถามสำคัญ ซึ่งพอดีกับที่วิสกับมือของไคน์พอดี



    \"โอ๊ย! ไอ้วิส! แก!\" ไคน์ร้องลั่น เฟรินต้องรีบคว้าเจ้าตัวขนปุยเจ้ากรรมมาวางบนไหล่ทันที พร้อมแยกเขี้ยวถามแกมด่าเข้าให้



    \"พอใจแล้วใช่มั้ย\" วิสยิ้มกว้าง ส่งเสียงร้อง มิ้ว~ อย่างพอใจ ไคน์มองภาพนั้นตาขวาง แล้วเอ่ยด่าระคนขู่ภูตรับใช้ของตัวเองเข้าให้



    \"เออ ทีชั้นล่ะกัด ทีเฟรินล่ะทำเป็นอ้อน ไอ้วิสขี้หลีเอ้ย ซักวันชั้นจะทิ้งแกแล้วเอานีอาร์มาใช้แทนแก\"



    \"มิ้ว~\" วิสส่งเสียงร้องโต้ตอบกลับไป อย่างประมาณจะบอกว่า \'แกทำไม่ลงหรอก\'



    \"เลิกบ้า ทั้งคู่นั่นแหละ เห็นใจคนไม่รู้เรื่องหน่อย\" เฟรินว่า ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวคนใหม่ให้เสียเอง



    \"ไคน์ แม็กดาเลน ตระกูลแม็กดาเลนแห่งฟรานซ์น่ะ พูดต่อซิ โร\" เธอโยนช่วงต่อของหน้าที่ไปเสียอย่างนั้น โรผู้รอบรู้เสียไม่ได้จึงต้องอธิบายต่อ



    \"ตระกูลแม็คดาเลน ตระกูลที่มีชื่อเสียงในการทำสิ่งประดิษฐ์แฮนด์เมดมานานเกือบศตวรรษ ว่ากันว่า สิ่งประดิษฐ์ของคนตระกูลนี้ดูราวกับไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ โดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นพวกเครื่องประดับจากเงินแท้\"



    \"เออ แล้วพี่ไคน์ก็เป็นทายาทคนสุดท้ายของแม็กดาเลน เขาอายุมากกว่าชั้น สองสามปีได้ประมาณนั้น\" เฟรินว่าต่อ \"ส่วนความสามารถพิเศษ ชั้นชอบมากเลย เพราะงั้น ไถ่โทษซะพี่ไคน์ ผมขอหนึ่งเพลง\"



    \"เราก็ติดพี่ไว้หนึ่งเพลง\" ไคน์โต้กลับ รอยยิ้มแต้มดวงดวงหน้าคม



    \"งั้นก็เจ๊ากันไป\" เฟรินตัดบท กล่องสี่เหลี่ยมสีเงินปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอมันทีที่เธอกำลังจะเหลียวกลับ



    \"มั่นใจนะว่าไม่เอา\" คำพูดยั่วเย้ากระทบเข้าหูของคนโลภมาก



    \"เอาสิ\" ดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกายสดใสขึ้นมาทันที พร้อมกับที่กล่องที่สองและกล่องที่สามเริ่มปรากฏตามๆกันออกมาก



    \"ของขวัญวันเกิดของเรา แต่เราไม่มาสามปี พี่คิดดอกเบี้ย\" แววเจ้าเล่ห์เริ่มฉายขึ้นมาบนนัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ แววตาที่เธอเห็นแล้วเริ่มบอกตัวเองไว้ว่าไม่น่าไปตกปากรับคำว่าจะเอาเลย ไคน์ชูสามนิ้ว



    \"สามเพลง แล้วพี่จะให้หมดสามกล่อง\" เฟรินเบ้หน้าทันทีที่ได้ยิน แล้วเริ่มยุทธการต่อรอง



    \"เพลงเดียวสามกล่อง\" ไคน์ส่ายหน้า



    \"ไม่ได้ๆ พี่บอกแล้วไง ว่าถ้าไปหาพี่ พี่ก็จะให้ฟรีๆ แต่นี่เราไม่ได้ไปตั้งสามปี เพลงเดียวไม่พอหรอก\"



    \"โธ่พี่ ก็สามปีมานี่ผมก็ยุ่งๆตลอด\" เฟรินต่อรองอีกครั้ง ไคน์เริ่มทำสีหน้าครุ่นคิด



    \"สองเพลงพี่ลดหลั่นให้ได้แค่นี้ เราจะเอาไง\" ไคน์เริ่มเสนอทางเลือกของทางฝ่ายตัวเอง



    \"ก็ได้\" เฟรินว่า ไคน์ดีดนิ้วหนึ่งครั้ง แสงไฟที่สว่างทั้งงานก็เริ่มหรี่ลง



    \"แล้วเราจะเอาเพลงอะไร\" ไคน์เอ่ยถาม



    \"Life is Like a Boat กับ Motherland\" เฟรินเลือกเพลง ไคน์ยิ้ม



    \"ตกลง เริ่มล่ะนะ\" ไคน์ว่า ดีดนิ้วหนึ่งครั้ง แล้วเสียงทำนองเพลงก็ดังขึ้นมา เฟรินหลับตาหลบสายตาคนหมู่มาก แล้วเริ่มขับเสียงใสไปคลอกับทำนองเพลงที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนในเมื่อแถวนี้ไม่มีเครื่องดนตรีสักชิ้น แต่เสียงดนตรีที่ดังขึ้นมานั้นมีเสียงเครื่องดนตรีหลายๆชนิดผสมปนเปกันไป



        เสียงเพลงเรื่อยๆทำให้ทุกคนผ่อนคลายลง ความตึงเครียดจากการปะทะเมื่อครู่ได้หายไปอย่างรวดเร็ว เพลงเริ่มดำเนินมาถึงช่วงกลาง เพลงที่ช่างตรงกับตัวตนของเธอตอนนี้นัก



        เนื้อเพลงบางท่อนเป็นภาษาสากล(ไม่รู้ล่ะ จะเอาภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลแล้วนะ) ทำให้คนที่พอจะมีความรู้พอจะฟังออกบ้าง บทเพลงสอนชีวิต ที่ไม่น่าเชื่อคนอย่างเฟรินจะร้องออกมาได้(โธ่คุณ มันร้องยากนะ)



        เสียงเพลงคลอเบา ทำให้ทุกคนให้บริเวณถึงกับเคลิ้มไปไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุรุษผู้เคยได้ลองฟังเสียงใสของสาวน้อยตรงหน้า ความขัดใจหายไปหมดเมื่อได้ยินเธอร้องเพลงเสียงหวาน สาวเจ้าร้องเพลงโดยไม่คิดจะลืมตาสักนิด ด้วยกลัวว่าจะไปสบกับใครคนหนึ่งเข้าแล้วจะทำให้สะดุดไปเสียอย่างนั้น



        เสียงทำนองเริ่มช้าลง บ่งความหมายว่าเพลงกำลังจะจบ เสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราวอย่างไม่ได้นัดหมาย แม้แต่เพื่อนรักนักฆ่ายังร่วมปรบมือไปกับการแสดงดนตรีครั้งนี้ เจ้าหญิงสองดินแดนผู้เป็นตัวเอกของงานสะดุ้งอย่างเหวอๆ ยิ้มเฝื่อนๆถูกแจกไปรอบงาน ใจนึกอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเสียตรงนั้น เสียแต่มันทำไม่ได้ เพราะพี่ไคน์คนดีของเธอได้ดีดนิ้วเรียกเสียงทำนองของเพลงใหม่ขึ้นมาทันใด



        เธอหันไปแยกเขี้ยวให้กับบุรษเรือนผมสีน้ำเงินเข้มที่ยิ้มรับ ก่อนจะโค้งตัวน้อยๆเพื่อแหย่เธอ อากัปกริยาที่ทำให้เธอยิ่งอารมณ์เสีย ก่อนจะเบือนหน้าหนี แล้วเธอก็ได้รู้ว่า นั่นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เมื่อเธอได้สบกับสายตาประชาชีทั้งมวลเนื้อเพลงที่มีอยู่ในสมองก็เหมือนจะเลือนไปซะเฉยๆ จนไคน์ต้องสะกิดเธอเบาๆทีหนึ่ง แล้วกระซิบบอกให้ตั้งสติ เฟรินจะค่อยสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อตั้งสติ แล้วร้องเพลงต่อไปออกมา



        เสียงหวานกังวาลใส แต่ฟังแล้วกลับให้ความรู้สึกเศร้าๆอย่างน่าประหลาด แม้จะไม่รู้ความหมายของเนื้อเพลง แต่เพียงแค่ได้ยินแล้วมันทำให้รู้สึกเศร้าตาม เสียงใสที่ดังกังวาลไปทั่วทั้งห้อง มันเพราะมากก็จริง แต่ก็ให้ความรู้สึกเศร้าๆตามไปด้วย



        นัยน์ตาสีน้ำตาลที่ตอนนี้ยอมลืมขึ้นมาสบกับผู้ฟังทั้งห้อง แต่คงจะไม่ใช่นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยของเจ้าชายแห่งคาโนวาล ด้วยกลัวว่า สติที่อุตส่าห์เรียกกลับมาได้แล้วจะหลุดลอยออกไปอีกด้วยฝีมือของเจ้าชายน้ำแข็งคนนั้น แม้จะรู้ว่าเขามองเธอยู่ แต่เธอนั่นแหละที่คอยหลบตาเขาเอง



        เสียงใสยังคงร้องคลอกับดนตรีต่อไป เสียงดนตรีที่เพราะเหมือนกับมีนักดนตรีมืออาชีพมาบรรเลงให้ แต่กลับไม่มี มีเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนกำกับท่วงทำนองที่เขาเป็นคนเรียกขึ้นมาเหมือนกับเป็นอุปรากรผู้ควบคุมวงออเครสตร้ายังไงอย่างงั้น เสียงดนตรีที่สะกดสายตาของนิกส์นักดนตรีประจำป้อมอัศวินได้เป็นอย่างดี เก่งจนนักดนตรีตัวจริงยังต้องชมเชย



        ร่างบางในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น แม้จะไม่ใช่ชุดราตรีสุดหรู แต่ก็ยังสะกดสายตาผู้คนได้เป็นอย่างดี ด้วยน้ำเสียงหวานใสของตัวเธอเอง แม้ในใจของเธอคาดว่าตัวเองจะต้องโดนพ่อปีศาจของเธอเล่นงานเอาแน่ๆ แต่หากทำตัวดีๆ ท่านพ่อของเธออาจะไม่ว่าอะไรเลยก็เป็นได้ ความคิดที่เรียกให้สาวน้อยจอมยุ่งยอมเป็นตุ๊กตากล่องเพลงให้กับแขกเหรื่อในงานทั้งหลาย เพื่อจะลดโทษลงไปสักนิดก็ยังดีที่คนรู้จักของเธอทำงานพัง



        ช่วงหนึ่งของเพลงที่เสียงดนตรีแผ่วลงไป ยิ่งเป็นส่วนช่วยให้เสียงหวานฟังเด่นขึ้นมาอีก เสียงหวานใสที่ยิ่งฟังแล้วยิ่งเศร้า เคล้ากับอารมณ์เพลงได้เป็นอย่างดี เสียงดนตรีที่เคยแผ่วลงไปกลับขึ้นมาดังสม่ำเสมออีกครั้ง ความหมายทั่วๆไปของการที่ปล่อยให้นักร้องได้โซโล่นั่นหมายถึงว่า เพลงนี้ได้ดำเนินมาถึงท่อนสุดท้ายแล้ว และสำหรับเฟริน ก็จบเพลงลงได้ด้วยการโซโล่ครั้งสุดท้ายอีกครั้ง



        เสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวอีกครั้ง ด้วยความประทับใจในเสียงเพลงหวานใสของสาวน้อยเจ้าหญิงสองดินแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คิงบาโร วาเนบลี แห่ง คาโนวาล และจ้าวปีศาจเอวิเดส เกรเดเวล ออฟ เดมอส ที่มองเฟรินชนิดว่าแทบจะเห็นเป็นภาพซ้อนของใครอีกคน



        เจ้าหญิงสองดินแดนหลบฉากออกมาจากบริเวณนั้นทันที ด้วยเหตุผลที่ว่า



    \"เฮ้ย แย่แล้ว ลืมพวกเฟมไปซะสนิมเลย\" ไม่ต้องรอให้ใครอนุญาต สาวน้อยก็วิ่งออกไปจากงานทันทีด้วยความเร็วสูง เรียกรอยยิ้มบางได้จากหลายคนได้เป็นอย่างดี



    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



        หญิงสาวร่างบางรีบเอามือปิดหูทันทีที่เมื่อปล่อยเหล่าทโมนรุ่นน้องออกมาจากเขตอาคมที่กักพวกมันไว้แล้วมันก็มาต่อว่าเธอทันที บ่นนู่น ว่านี่ ตัดพ้อนั่น จนเธอทนไม่ไหว ต้องตัดใจพาพวกมันเข้าไปในงานเลี้ยงที่เกือบ(?)พัง



        เหล่าเด็กใหม่วัยคะนองต่างก็พากันเข้ามาในห้องโถงด้วยสีหน้าร่าเริงเต็มเปี่ยม ผิดกับคนที่พาเข้ามาที่ทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าตัวตายไปกับความใจอ่อนของตัวเอง เมื่อเห็นลางความวุ่นวายกำลังจะคืบคลานเข้ามาด้วยฝีมือของเธอที่นำมันเข้ามา



        สาวเจ้าผู้นำขบวนทรุดลงนั่งใกล้ๆกับเหล่าพื่อนของเธอ ปล่อยให้พวกเรนอนได้ผลัดกันลูบหัว และเล่นกับวิสที่ยังเกาะอยู่บนไหล่เธอไม่ไปไหน ที่เจ้าตัวขนสีขาวปุกปุยนั่นก็ยอมให้เล่นด้วยความเต็มใจ ทำให้เธอชักจะเชื่อคำพูดของไคน์ขึ้นมาตะหงิดๆแล้วว่าไอ้วิสมันขี้หลีจริงๆ



        พูดถึงพี่ไคน์แล้ว.... สายตาของสาวน้อยเบือนไปจับกับพี่ไคน์คนดีของเธอ พี่ไคน์เค้าจะให้เธอร้องเพลงทำไม สิ้นความคิด ปากที่ไวเป็นทุนเดิมแล้วก็เอ่ยถามทันที



    \"แล้วพี่จะเอาเสียงผมไปทำไม\"



    \"อืม ไม่มีอะไรหรอกน่า พี่แค่อยากรู้ว่าเราจะเสียงดีเหมือนเดิมรึเปล่า\" ไคน์ตอบปัดๆ วิสที่จับได้ว่าคนเป็นเจ้านายกำลังโกหกก็ขู่ฟ่อ ปกป้องสิทธิของเฟรินเต็มที่ เฟรินที่จับโกหกได้จากปฏิกิริยาของภูตรับใช้ หรี่ตาลง เอ่ยคำขู่



    \"พี่จะบอกผมมาดีๆ หรือจะให้ผมบังคับให้พี่พูด\" อีกฝ่ายยังคงเงียบ เฟรินจึงค่อยๆเอ่ยคำขู่ต่อไป



    \"ไว้ผมไปฟรานซ์คราวหน้า ผมจะไปหาพี่แคลร์\" ชื่อของบุคคลที่สามเรียกเหงื่อค่อยๆผุดพรายขึ้นมาบนดวงหน้าคม



    \"เรื่องที่พี่ทำไว้เมื่อสี่ปีก่อน บางทีพี่แคลร์อาจอยากรู้\" คำว่าเรื่องที่ทำไว้เรียกเสียงร้องห้ามเสียงหลงได้จากบุคคลที่ต้องการ



    \"พี่ยอมแล้ว พี่ยอมเราแล้ว เฟริน พี่จะบอก อย่าเอาไปบอกแคโรไลน์\" ไคน์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ด้วยรู้ว่าน้องของเขาคนนี้ต้องโกรธเขาแน่ๆ



    \"พี่แค่อยากได้เสียงเรานิดหน่อย\" ไคน์ตอบเสียงเบา คำตอบที่เรียกให้เฟรินตาเบิกกว้าง แล้วกระชากเสียงถามย้ำ



    \"พี่เอาเสียงผมไปขาย พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง\" น้ำเสียงกับแววตาตัดพ้อที่ทำให้เขายอมแพ้ได้เสมอ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อตอนนี้เธอเป็นผู้หญิง



    \"ไม่เอาน่า พี่ขอโทษ อย่าโกรธพี่สิ\" ไคน์เอ่ยขอโทษ น้ำเสียงออดอ้อนพยายามจะให้น้องของเขาอารมณ์ดีขึ้นมาอีกครั้ง



    \"ผมเอาเรื่องนี้ไปแฉพี่แคลร์แน่\" น้ำเสียงของคนอารมณ์เสียงฉายแววโกรธปิดไม่มิด ชื่อบุคคลที่สามถูกเอามาเอี่ยวอีกครั้ง ทำให้คนมีชนักติดหลังแก้ตัวพัลวัน



    \"มันไม่ใช่ความผิดพี่นะ ก็ตอนเราทิ้งเสียงForever Memmoriesไว้ให้พี่ฟัง พี่ก็เอามาฟัง\" เมื่อสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลเอาเรื่อง ก็รีบแก้คำพูด \"โอเค พี่ไปแอบเก็บมา แต่พี่ไม่ได้จะเอาไปขายนี่ พี่กะเอาไว้ฟังคนเดียว พอดีมีคนเค้าเข้ามาได้ยินเข้า โธ่ เฟริน เราก็รู้ คนทั่วทั้งฟรานซ์รู้จักพี่ เค้าก็ขอให้พี่ทำกล่องเพลงเสียงเราให้ อ่ะ พี่ก็ทำให้\"



    \"แล้วพี่จะทำให้ทำไม\" น้ำเสียงเอาเรื่องถามขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะไม่เดินเข้ามาใกล้ๆ ด้วยว่าถูกเพื่อนๆห้ามไว้ แต่เขาก็ยังกลัวฝีมือของเธออยู่ดี ไคน์ไม่ตอบ ได้แต่สบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตนั่นพลางส่งแววขอโทษรอบแล้วรอบเล่าไปให้



    \"เค้าคงให้ราคาดีล่ะสิ\" เฟรินเอ่ยน้ำเสียงรู้ทัน



    \"ก็บอกแล้วไง พี่ขอโทษ\" ไคน์เอ่ยขอโทษอีกครั้ง



    \"แล้วไง พี่ไปทำให้แล้วไง พี่ถึงได้ต้องมาเอดินเบิร์กเพื่อเอาเสียงผมไปทำมาหากินต่อ\" เฟรินเค้นถามต่อ ท่าทางที่เหล่าเพื่อร่วมรุ่นไม่เคยพบ เพราะคนที่เคยเห็นมีแค่ มาดัส และรุ่นน้องปีหนึ่งเท่านั้น ไคน์ถอนใจแล้วเล่าต่อ จบเมื่อไร เขาอาจตายได้เมื่อนั้น แย่จริงๆ



    \"ก็ทำไปทำมา เค้าก็มีคนอยากได้มากขึ้นๆ แล้วพี่ก็เลย...\" ไคน์เล่าต่อเสียงอ่อย



    \"พี่ก็เลยคิดรวยทางลัด โดยไม่คิดจะมาถามความสมัครใจของผมซักนิด เอากล่องเพลงมาล่อผม แล้วพี่ก็กะเอาไปกินเรียบคนเดียวสบายๆ\" เฟรินเอ่ยต่อคำให้ด้วยน้ำเสียงเย็น ไคน์พยักหน้ารับน้อย แกตายแน่ ไอ้ไคน์ ไม่ด้วยฝีมือเฟรินก็ต้องฝีมือแคโรไลน์ ไคน์คิดอย่างปลงตก



    \"ขอบคุณสำหรับคำบอกเล่าฮะพี่ไคน์ พี่แคลร์รู้เรื่องนี้เรียบร้อย ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์พี่แคลร์จะมาจัดการกับพี่เอง\" เฟรินว่า ก่อนโบกมือหนึ่งครั้งเพื่อส่งข้อความไปให้นักบวชสาวแห่งฟรานซ์ แคโรไลน์ เวนเดรียอา ไคน์หน้าซีดหนัก การเผชิญหน้ากับแคโรไลน์ทั้งๆที่มีชนักติดหลังกับเด็กคนโปรดของเธอเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดเลยซักนิด แววตาของเฟรินบ่งบอกว่าไม่ได้โกหก เขาแย่แล้ว



    \"เฟริน พี่ขอโทษ จะไปบอกแคลร์ทำไม พี่ขอโทษจริงๆ เฟริน พี่ขอร้อง พี่แย่แน่ถ้าแคลร์มานี่\" คนเป็นพี่เริ่มสติแตก เอ่ยขอโทษขอโพยเธอใหญ่ จนหลายๆคนชักอยากรู้ว่า หญิงสาวชื่อน่ารักนั่นจะมีพิษสงขนาดที่ทำให้ไคน์กลัวได้ขนาดนั้นเชียว



    \"พี่ผิดเองนี่\" เฟรินตอบอย่างไม่ใส่ใจ



    \"โธ่ พี่ก็ขอโทษแล้วไง เราขออะไรพี่ให้ทั้งนั้น แค่ช่วยพี่ให้ไม่โดนแคลร์เล่นงาน\" เฟรินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยกับข้อเสนอ



    \"แน่ใจ\"



    \"โธ่ แน่ใจสิ พี่สัญญาเลย นะเฟริน ช่วยพี่ด้วย\" แววตาสีน้ำตาลไหม้มีประกายวิงวอน เธอยิ้มนิดๆที่มุมปาก



    \"แล้วผมจะเอาไปคิดดู\" เฟรินตอบรับ แต่ไม่ได้บอกว่าจะรับปาก ไคน์หน้าซีดหนัก เขาจะไม่ทำอีกเลย ไม่ว่าจะเงินดีแค่ไหน เขาจะไม่ทำอีกแล้ว พระเจ้า ธิดาแห่งความมืดช่างน่ากลัวนัก เขาจะไม่ทำให้เธอโกรธอีกเลย



        ความน่ากลัวของเฟรินที่ทุกคนเพิ่งเคยได้เห็นก็วันนี้ แม้จะเป็นคาโลก็ตามที แต่คงไม่ใช่รุนน้องปีหนึ่ง พวกเขารู้ฤทธิ์คุณเธอดีกว่าใคร เพราะโดนบ่อยที่สุด ช่วงหลังๆเรียกได้ว่าแทบทุกครั้งที่โดนเรียกประชุม



        สาวน้อยอารมณ์เสียนั่งเงียบ พลางลูบหัวภูตรับใช้เล่นอย่างสนุกมือ แม้นัยน์ตาจะวาววับอย่างที่ใครก็ไม่กล้าเข้าใกล้ก็ตามที วันนี้มันวันอะไรกะนล่ะเนี่ย ที่ต้องมีเรื่องให้เธออารมณ์เสียได้ตลอดทั้งวัน มันชักจะเกินไปหน่อยแล้วมั้ง



        จ้าวปีศาจมองลูกสาวที่กำลังอารมณ์เสียอย่างเอ็นดู จะโกรธอะไรนักหนา พอกันเลย เหมือนอลิเซีย ตอนนที่เขาได้ยินเธอร้องเพลงครั้งแรกก็ประมาณนี้ โกรธเขาไปหลายวันเลยทีเดียว น่าอายตรงไหนกัน ทั้งๆที่เสียงเพราะออกแบบนั้น



        สายตาเบือนไปยังเหล่าเพื่อสนิทของลูกสาว ที่พยายามที่จะหาทางให้เธอกลับมาอารมณ์ดี แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล คิลที่ทั้งกล่อม ทั้งปลอบ แต่ด้วยว่ามันติดหัวเราะ เธอเลยยิ่งอารมณ์เสียหนัก โรที่ปลอบ แต่สายตาของมันก็ยังยิ้มไม่หยุด แถมยังอยู่ในแววสะใจนิดๆเสียด้วยสิ ส่วนคาโล ก็ได้แสงสายตาเห็นใจไปให้ เพราะเขาเองก็รู้ว่าเธอไม่ชอบให้ใครมาฟังเธอร้องเพลง(ก็โดนไปแล้วนี่)



        ผิดกับเหล่ารุ่นน้องที่เอาแต่เล่นสนุกกันโดยไม่ใส่ใจคนเป็นรุ่นพี่ และเริ่มที่จะเสียงดังขึ้นทุกที โรมองไปยังเหล่ารุ่นน้องเหมือนจะปราม แต่ก็แค่เหมือน เพราะมันไม่ได้จะทำอะไรเลยซักนิด เฟรินกระซิบอะไรเบาๆกับภูตรับใช้ ที่มันรับคำสั่งด้วยความยินดี แล้วหายวับไปจากไหล่อของเฟริน หลายคนงงกับการที่วิสหายไป แต่คงไม่ใช่ไคน์ เฟรินต้องให้วิสไปรับแคโรไลน์ชัวร์อยู่แล้ว และ ตอนนี้ เฟรินก็กำลังอารมณ์เสียสุดๆ ชะตากรรมที่เธอจะฟิวส์ขาดและลุกขึ้นมาจัดการคงจะไม่เกินไปจากสามนาทีนี้แน่ ซึ่งมัน ก็เป็นความจริง



          !ปัง!



        เสียงทุบโต๊ะที่ไม่เคยเกิดจากเจ้าคนอารมณ์ดีอย่างเจ้าหล่อน แต่วันนี้ดูเจ้าหล่อนจะอารมณ์เสียเกินพิกัดซะแล้ว



    \"เลิกบ้ากันซะที ไอ้พวกปัญญาอ่อน!!!!!\" เฟรินตะโกนด่าเด็กปีหนึ่งที่ตอนนี้ตัวแข็งไปแล้ว



    \"หนวกหูโว้ย!! มาส่งเสียงดังอยู่ใกล้ๆแบบนี้อยากตายนักใช่มั้ย!!!\" เฟรินด่าต่ออย่างหงุดหงิดและสติแตก ลุกยืนขึ้นอย่างหมายจะเอาเรื่อง



    \"จะตีกันออกไปตีข้างนอก กางเขตอาคมให้ดี ไม่ใช่มาทำบ้าอะไรในงานเลี้ยง สงสัยแค่ริบเวลาพักกับฟื้นลานตะวันมันจะเบาเกินไปซะแล้ว\" เฟรินเอ่ยขู่น้ำเสียงเย็น ท่าทางที่เล่นเอาเด็กปีหนึ่งกลัวหัวหด



    \"จะออกไปดีๆ หรือจะให้ชั้นพาออกไปพร้อมกับคำสั่งกักบริเวณ\" คำสั่งที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยการวิ่งกรูกันออกไปข้างนอกด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง เฟรินส่ายหัวอย่างปลงๆ



    \"วันนี้มันวันอะไรวะเนี่ย\" เสียงพึมพำเบา ก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณงาน



    \"ผมขอหยุดซักสองวันนะฮะ รู้สึกปวดหัว\" คำขอวันหยุดดังขึ้นทิ้งท้าย ก่อนที่สาวเจ้าจะแทบสะดุดกับคำพูดที่มารั้งเธอเอาไว้ของไธนอส



    \"คงไม่ได้ เฟริน เราฝีมือเวทย์ดีขึ้น แต่ฝีมือดาบแย่ลง ดูเหมือนว่าพี่จะต้องเรียกฝีมือดาบเราขึ้นมาซะแล้ว\"



    \"ง่า พี่ล้อเล่นใช่มั้ยฮะ\" เฟรินเอ่ยเสียงอ่อน ขาแทบจะทรุดลงไปกับพื้น



    \"พูดจริง เฟริน ตั้งแต่พรุ่งนี้เราจะต้องมาฝึกดาบกับพี่และไธนอส ตอนหกโมงเย็นทุกวัน ไม่มีข้อแม้\" โซมาเนียเอ่ยเสริมคำของไธนอส คำพูดที่เฟรินแทบร้องไห้ โดยเฉพาะคำพูดต่อมาของไธนอส



    \"พี่ไม่ใจดีเหมือนลอเรนซ์กับลูคัสหรอกนะ\" เฟรินอ้าปากค้าง ถ้ากับพี่ลอเรนซ์กับลูคัสยังเรียกใจดี แล้วของพี่เค้าสองคนจะโหดขนาดไหน ก่อนจะรีบออกไประบายอารมณ์กับพวกรุ่นน้องในทันใด



    \"แล้วมันก็สติแตกจนได้\" น้ำเสียงปลงตกกับเพื่อนสาวดังขึ้นไล่หลังทันทีที่สาวเจ้าเดินออกไป มือของทั้งสามกุมขมับเหมือนกันโดยมิได้นัดหมาย



    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    จบๆ จบตอนได้แล้ว



    เดี๋ยวจะตัดมาเป็นฉากคุยกันของผู้ใหญ่แล้วฮะ



    ฮะ สำหรับเพลงในตอนนี้ก็เป็นเพลงจาก Bleach กับ FMA นะฮะ



    ลิงค์โหลดนะฮะ http://www.nipponcomics.com/song_boy/bleach2.htm อันนี้ Life is Like a Boat ฮะ มีเนื้อเพลงเสร็จสรรพฮะ



    http://www.geocities.com/digifma2/Motherland.zip อันนี้ Motherland http://www.digifma.cjb.net/ ในนี้มีเนื้อเพลงให้ฮะ เข้าเว็บไป แล้วจะเห็นแถบข้างบนน่ะฮะ ให้กดลงมาแล้วเลือก lyrics จะมีเนื้อเพลงขอmatherlandให้ฮะ มีแปลเป็นอังกฤษให้ด้วย



    เพลงหลังนี่เสียงสูงพอดู แต่ในใจคิดไว้ให้เฟรินเสียงสูงๆอยู่แล้วด้วย เลยช่างมันเถอะ



    ใจจริงอยากเอา brat\'ja แต่มันเป็นเพลงภาษารัสเซีย อ่านไม่ออกฮะ เลยต้องพับเก็บ



    ขอบคุณฮะทุกคนที่ชอบฟิคของเรา



    แต่ไอ้จะให้อัพวันละตอนนี่มันไม่ไหวจริงๆฮะ



    วันละครึ่งตอนก็แย่แล้วฮะ เราปั่นไม่ทัน



    มันเป็นฟิคพิมพ์สดฮะ มันเลยได้วันละนิดละหน่อย



    ทำใจฮะ อย่าลืมไปอ่านตอนพิเศษของเรานะฮะ



    ปล. คุณมุย ขอบคุณมากฮะที่มาเม้นให้เรา ดีใจจัง



    ปลล. ถ้าชอบเพลงวันหลังเราจะเอามาฝากให้อีกฮะ



    แต่รอดูโอกาสก่อนนะฮะ



    ขอให้สนุกกันทุกท่านฮะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×