ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Op. 6 : After the Rain
Op. 6 : After the Rain
"คุณนักสืบต่อครับ ตื่นเถอะครับ"พนักงานทำความสะอาดซึ่งจะมาถึงก่อนนักสืบคนอื่นๆที่ได้ชื่อว่าขยันมาเช้าปลุกต่อ ต่อตื่นขึ้นมาจากโซฟาที่ทำงาน เขาใช้หลับขณะที่กำลังค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับคดีในครั้งนี้ เขาบิดขี้เกียจซ้ายและขวาก่อนที่จะลุกขึ้นมาเกาหัวแกรกๆ แล้วนั่งทำงานที่โต๊ะประจำของเขา ตั้งแต่เมื่อคืนที่ตำรวจเอกให้รายละเอียดอย่างมากมาย แม้คดีจะดูคืบหน้าขึ้นมากกว่าที่เขาคิด แต่หลักฐานสำคัญอย่างช่างที่เข้าไปซ่อมในเช้าหลังวันที่เกิดเหตุก็เกิดเสียชีวิตไปแล้วด้วย บาสเดินมาหา ทักด้วยรอยยิ้มที่ปกติต่อจะคิดว่าเจ้านี่จะต้องมีแผนอะไรอีกแน่นอน หรือไม่ก็คิดอะไรพิเรนทร์อีก ต่อคิดแล้วทำให้ยิ่งสงสัยในความโง่ของตนเองว่าไปเลือกเจ้านี่มาทำไม คิดถูกแล้วหรอ สัญชาตญาณเขาถูกแน่รึเปล่า
"ทำงานตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี่ เหนื่อยน่าดูนะครับ"บาสเริ่มการสนทนา
"มันงานของนักสืบนี่"ต่อพยายามจะตัดบทให้สั้นที่สุด"คุณเองก็ควรรู้ไว้ด้วยละกัน"
"คร้าบ คุณนักสืบ"บาสพูดตอบยานคราง พลางหัวเราะหึหึในลำคอ
"วันนี้อากาศดีนะครับ"บาสยังคงยกเรื่องขึ้นมาพูด
"ผมไม่ได้ออกมาข้างนอกเลย ก็เลยไม่รู้ว่าสภาพอากาศเป็นยังไงหรอกครับ"ต่อตอบ"อีกอย่าง ผมก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว"ต่อหยิบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีเป็นตั้งๆวางที่โต๊ะเหมือนจะให้บาสรู้ว่าตนมีงานต้องทำอีกเยอะ เลิกยุ่งได้แล้ว"
"ถ้างั้นบาสเลื่อนเอกสารของต่อออกจากต่อ"ไปเดินเล่นๆกันหน่อดีมั้ยครับ"
"ผมมีงานทำเยอะนะ คุณก็ควรจะทำงานของตยให้เสร็จโดยเร็วด้วย"
"ก็งานของคุณก็คืองานของผมนี่ครับ"บาสตอบอย่างเฉยๆ ต่อมาคิด เออก็จริง เจ้านี่มันก็ทำงานร่วมกับเราแล้วนี่หว่า
"ถ้างั้นคุณก็ออกไปคนเดียวเถอะ ผมจะทำงานตรงนี้"
"เถอะน่า คุณนักสืบ ทำงานกักตัวอยู่อย่างนี้ สมองมันไม่แล่นเท่าไหร่หรอก"บาสคะยั้นคะยอจะให้ต่อไปด้วย ต่อทำท่าทีไม่สนใจ บาสเห็นดังนั้นก็เลยจัดเอกสารแถวๆนั้น ต่อทำหน้าไม่พอใจ เหมือนบาสพยายมจะก่อกวนเขาให้ได้
"เอ้า ต่อ วันนี้ไมมาเร็วดีนี่"
"อ้าว นัท เผอิญชั้นทำงานตั้งแต่ดึกเมื่อวานน่ะ"นัทฟังก็รู้ได้ทันที เพราะต่อถึงแม้จะเป็นคนที่ดุไม่มีระเบียบแต่เวลาทำงานเมื่อไหร่ก็จะทุ่มเทให้กับมันมาก หรือถ้าหากไม่มีอะไรคืบหน้า ต่อก็จะยังคงพยายามที่จะค้นหาคำตอบหรือเบาะแสให้ได้
"ชั้นจะปรึกษาเรื่องคดีหน่อย"
"คดีอะไรหรอ"นัททำท่าทีอยากรู้เหมือนกัน่าเพื่อนของตนทำคดีอะไร
"คือมีองค์กรค้ายาที่ตั้งบริษัทบังหน้าตัวเองแล้วมันดูท่าจะเกี่ยวกับคดีของชั้นน่ะ" นัททำทีท่าฉงนสีหน้าดูแปลกไป
"เราไม่รู้เกี่ยวกับคดีแบบนี้หรอก นายคงต้องค้นเองแล้วล่ะ"นัทตอบ
"งั้น เอ่อ...ไม่เป็นไร ขอบคุณมากนะ"ต่อก็คงเข้าใจเพราะว่านัทกำลังทำคดีเกี่ยวกับบริษัทที่เบี้ยวหนี้และเหมือนมีการคอรัปชั่นในนั้นอยู่
"อื้ม ขอโทษนะ"นัทยิ้มอย่างเนือยๆ ต่อก็บอกว่าไม่เป็นไร ทั้งสองต่างก็กลับไปทำงานที่ของตน บาสก็กลับไปยังที่ทำงานของตนเหมือนเดิมและดูหน้าตาไม่ค่อยจะพอใจซะเท่าไหร่ ต่อก็รู้ถึงเรื่องนี้ แต่ก็ดี จะได้ไม่ต้องมาป่วนเขาอีก
.......................................................................
กริ๊งๆ เสียงกระดิ่งที่ห้อยประตูกระทบเกิดเสียงขึ้น ตามด้วยเสียงพนักงานในชุดวอร์มสำหรับออกกำลังกายออกมาต้อนรับ
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ คุณนักสืบสิงห์"พนักงานชายที่ดุอายุราวๆเดียวกับต่อทัก"นึกว่าต้องไปจับผู้ร้ายเลยต้องฟิตร่างกายอีก"
"เผอิญงานผมเยอะน่ะ แล้ววันนี้ก็พอมีเวลา ก็เลยขอปลีกตัวมาเรียกเหงื่อหน่อย"
"งั้นเชิญเลยครับ เพราะบัตรสมาชิกของคุณยังไม่หมดอายุนี่นะ ฮะฮะ"พนักงานชายหัวเราะเพราะเขาก็รู้ว่าแต่เดิมสมาชิกรายปีมันราคาเป็นพัน แต่ต่อก็ทำคดีให้กับเขาเกี่ยวกับพนักงานโกงและหวังฮุบฟิตเนสแห่งนี้ ต่อยังช่วยชีวิตเขาจากมาเฟียในตอนนั้นอีกด้วย บุญคุณเหล่านี้สำหรับชายคนนี้คงทดแทนไม่หมด จึงได้เพียงแค่ให้ทำบัตรมาฟิตเนสได้ตลอดชีพ ชายคนนั้นเชิญต่อไปห้องเปลี่ยนชุด แล้วก็ขอลาไปต้อนับลูกค้าท่านอื่นต่อ ต่อรู้สึกถึงความสงบในห้องแม้จะมีลูกค้าหลายคนที่เข้ามาหรือออกไป เสียงประตูเปิดเอี๊ยดอ๊าด แต่ก็ยังดีกว่าเสียงคนที่เข้ามาแจกงานให้หรือเสียงตำรวจที่บอกรายละเอียดชวนปวดหัว ที่สำคัญ ไม่มีเสียงของวัตสันจอมป่วนอย่างเจ้าบาสอยู่
ต่อเปลี่ยนชุดเสร็จก็ไปยังเครื่องต่างๆทันที ยกน้ำหนัก ออกกำลังแขน ลู่วิ่ง เสียงเพลงในสถานที่ฟิตเนสมักจะเปิดเสียงดัง และเพลงเร็ว แต่ก้ดีสำหรับเขาที่จะถือว่าเป็นการพักผ่อนจากงานที่เครียดกว่าเยอะ ความสงบสุขเกิดขึ้นแล้ว แต่ก้เพียงแค่ชั่วโมงเดียว
ต่อพักจากการออกกำลังกายโดยการนั่งพักดื่มน้ำ ณ ที่ที่เตรียมไว้
"ขอผมนั่งด้วยคนนะครับ"ความเหนื่อยบวกกับเสียงเพลงที่ดังทำให้ประสาทหูในการได้ยินด้อยลง แต่ก็พอฟังออก
"เชิญครับ"ต่อตอบก่อนที่หันไปมองหน้าผู้ที่ขอที่นั่งก่อนที่จะตกใจจนสำลักน้ำ
"ไอ่ บาส..."
"ผมบอกแล้วไงว่าออกมาข้างนอกแล้วหัวสมองจะโล่งหน่อย"บาสชี้ที่หัวตัวเอง"เวลาคิดอะไรจะได้ง่ายๆหน่อย"
"นายมาได้ไง หรือว่า นายเป็นสมาชิกด้วย"ต่อทำทีท่าสงสัย เพราะคนที่เข้ามาใช้ฟิตเนสมักจะหน้าตาเดิมๆ ถ้าเกิดจะเป้นคนเข้ามาใหม่ก็คงประมาณสองอาทิตย์ก่อนเท่านั้นเอง
"ผมเป็นสมาชิกด้วยนา"บาสโชว์บัตรให้ดู
"หึ นายไม่ได้เป็นสมาชิกหรอก"ต่อยิ้มพลางคว้าบัตรของบาสมา อย่างที่เขาคิด
"สมชาย แต่ชื่อของนายคือ เมธาไม่ใช่หรอ"ต่อถาม
"ครับ ผมชื่อเมธา"บาสตอบ "แต่เวลาอยู่ในชีวิตจริง ผมไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อจริงก็ได้นี่ครับ"บาสตอบอย่างหน้าตาไม่แสดงความกังวลใดๆ
"ผมก็คงคิดอย่างนั้น"ต่อยิ้มอย่างมีชัย"ถ้าผมไม่เห็นตรงนี้ซะก่อน"
นี่คือความผิดพลาดของบางบริษัทที่ไม่มีการแสกนบัตรอย่างเช่นฟิตเนสที่นี่
"ฝีมือการวางตำแหน่งอักษรของคุณเยี่ยมมาก แทบจะต่อกันอย่างไม่มีอะไรขัดตาคนอื่นๆได้"ต่อยื่นให้บาสดูพลางชี้จุดที่ทำให้ต่อรู้ว่าบาสปลอมแปลงอย่างไร
"การวางอักษรจะต้องขูดพื้นที่ที่จะวางตัวอีกษรลงแนที่ แน่นอน ต้องมีการขัดให้บางลง จะได้ประกบอย่างแนบเนียน"เล็บของต่อเกาๆที่ตำแหน่งขาวๆรอบตัวอักษร
"แต่การขัดก็จะทำให้สีบางส่วนของบัตรลอกได้เหมือนกัน บวกกับการต่อบริเวณรอยจะให้สนิทแบบมองไม่เห็นน่ะ แทบเป็นไปไม่ได้"
"งั้น ถ้าผมไปยื่นให้คนอื่นดู เขาก็รู้กันน่ะสิว่าบัตรผมปลอม"บาสถามโดยไม่แสดงีหน้ากังวลแม้แต่น้อย
"อาจใช่ สำหรับคนที่สายตาดีละเอียดยิบ"ต่อตอบ"แต่ไม่ใช่สำหรับพนักงานที่ทำงานมากว่า5ปีอย่างหนักงานตอนรับคนนั้นแน่นอน"
"เหมือนรถที่จอดในความมืด"เมื่อต่อพูดเท่านี้ บาสก็รู้ทันทีว่าต่อเข้าใจทุกอย่างถุกต้องแล้ว
"อย่างน้อย ผมก็เลือกคนไม่ผิดจริงๆ"บาสหัวเราะ"นี่แหละความสามารถที่แท้จริงของคุณ"
เพื่อที่จะให้เข้าใจยิ่งขึ้น จึงขอหยุดเรื่องราวก่อน แล้วมาฟังคำอธิบายกัน
คุณลองึกถึงพวกที่จอดรถข้างถนนเวลาตอนกลางคืน ในคืนที่ค่อนข้างมืดสนิท ไม่มีไฟจากถนนหรือเสาไฟ หรือคุณขับรถสีฟ้าไปจอดริมถนนมืดๆไปซื้อก๋วยเตี๋ยวกิน แล้วก็กลับมาพบว่ามีรถจอดแถวๆนั้นเต็มไปหมด คุณจะรู้ได้ไงว่า รถไหนเป็นของคุณนอกเหนือจากว่าชั้นจำได้ว่าจอดตรงนั้น
"รถชั้นสีฟ้า" คุณก็จะรู้ทันทีว่ารถคุณอยู่ไหน แต่ลองให้คนอื่นมองดู น่าแปลกว่าน้อยคนที่จะรู้ว่ารถคุณสีอะไร
มันเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า"ชั้นรู้ว่ารถชั้นสีอะไร"และ"สีฟ้าของรถชั้นเป็นอย่างไร"มาผนวกกัน เวลามองในที่มืดซึ่งไม่ควรจะมองว่ารถคุณเป็นสีอะไร แต่สมองเราก็สร้างส่วนเติมเต็มทำให้เห็นว่า รถเราสีฟ้า แต่คนอื่นไม่มีสิ่งที่เรียกว่า"สีฟ้าของรถของคุณเป็นอย่างไร"เพราะฉะนั้น มองอย่างไรก็ดูไม่ออกว่ารถคันนั้นสีอะไร
เช่นเดียวกัน คุณรู้ว่าบัตรคุณมีสีแดงล้วน สมมติให้เพื่อนยืมไปดูแป๊บนึง แล้วเพื่อนก็ทักว่า นั่นบัตรเธอรึเปล่า คุณก็จะตอบว่า ใช่ เพราะ"บัตรชั้นมันต้องสีแดงล้วน" แม้ว่าเพื่อนคุณอาจหยิบบัตรที่คล้ายกันแต่มีจุดขาวๆเล็กๆที่แทบจะมองไม่ออก
กล่าวคือสมองเราจะไปแปลผลให้สิ่งที่เราเห็นว่าใช่99เปอร์เซนต์กลายเป็นว่าใช่ชัวร์100เปอร์เซนต์
"ถ้าคุณเอาไปบอกเจ้าพนักงานคนนั้น คุณคงได้รับการยกย่องอย่างมากแน่นอน"บาสพูดเอ่ยชมต่อ ทำให้ต่อรู้สึกประหลาดใจ และกลับมาคิดอีกครั้งหนึ่ง
"ก่อนจะส่งนายไป ชั้นต้องถามนายก่อน"ต่อจ้องตาของบาส"นายมาที่นี่ทำไม"
"ผมฟังจากที่คุณเล่ามาเมื่อวาน คดีคืบหน้าไปมากทีเดียว"บาสเกริ่นนำ"แต่ข้อมูลแค่นั้นก็ทำให้คุณสามารถคืบหน้าได้ยิ่งกว่าครั้งนั้นอีก"
"หมายความว่าไง "ต่อถาม
"ในที่เกิดเหตุ"บาสไม่สนคำถามของต่อและเริ่มเข้าเรื่องราว"ตำรวจเล่าเรื่องให้ผมฟังด้วยว่ามีคนได้ยินเสียงคนวิ่งแถวๆนั้นตอนช่วงสองทุ่มที่ผ่านมา"
"แล้วไง คนนั้นก็น่าจะเป็นผู้ตายนี่นา"ต่อถาม
"ใช่ เขาน่าจะเป็นผู้ตาย"บาสพยักหน้า"แต่ว่าผู้ตายกลับตายที่บ้านและหลักฐานต่างๆดูเหมือนว่าผู้ร้ายที่ฆ่าจะต้องมารออยู่ที่บ้านอยู่แล้ว"
"แสดงว่าผู้ร้าย อาจจะมีมากกว่าหนึ่งคนงั้นหรอ"ต่อถาม
"มันก็เป็นไปได้"บาสเริ่มเล่าเรื่องที่เขาคิดต่อ ต่อเริ่มปรับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองที่มีต่อบาส บาสไม่ใช่วัตสันที่ดูเละเทะ แต่ความฉลาดของเขาไม่แพ้นักสืบรุ่นใหญ่เลยทีเดียว
"ดังนั้นเป็นไปได้อยู่สองอย่าง"ต่อสรุป
"อาจมีผุ้ร้ายมากกว่าหนึ่งคน และ ผู้ร้ายอาจโทรศัพท์เพื่อให้ผู้ตายกลับมาที่บ้าน"ต่อพูด"โดยที่ผู้ตายก็ลบบันทึกผู้โทรเข้าเนี่ยนะ"
"ก็แค่ความเป็นไปได้ แต่ว่าอันแรกดูน่าเชื่อถือกว่า"บาสเสริม
"ก็จริง เพราะผู้ตายก็เกี่ยวข้องกับบริษัทค้ายาอยู่แล้ว การโดนฆ่าปิดปากก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าจะโดนองค์กรทั้งองค์กรตามล่า"
"และคนที่ฆ่าจะต้องรู้ด้วยว่าผู้ตายจะต้องกลับมาที่บ้าน"
"ถ้างั้นด้วยวิธีไหนล่ะที่จะล่อผู้ตายเข้ามาในบ้านแล้วก็ฆ่าซะ"
"ในบ้านมีภรรยาและก็ลูกสาว เป็นไปได้ว่ากลุ่มนี้อาจแกล้งทำเป็นขู่จะฆ่าลูกสาวหรือภรรยาเพื่อให้ผู้ตายมาติดกับก็เป็นได้ "
"นั่นสินะ แต่ว่า..."ต่อเริ่มสงสัย
"ทำไมหรอ"บาสถาม
"จากที่ดูบ้านนั้น ในห้องผู้ตายมีตู้เสื้อผ้าเท่านั้นที่จะหลบซ่อนได้ อีกอย่าง ผู้ตายอยู่ในสภาพกำลังอาบน้ำถ้าหากว่าหมกตัวในตู้เสื้อผ้า ผู้ตายน่าจะเห็นก่อน"
"อ๋อ อันนั้นผมก็ลองคิดดูแล้วล่ะ"บาสตอบ
"ผมลองคิดดูว่า ถ้าเกิดผู้ร้ายเข้ามาหลังจากผู้ตายไม่นานล่ะ"
"เขาบอกว่าสามีของผู้ตายล็อกประตูไว้ด้วย แม้ว่าเขารายงานว่าตอนสามทุ่มนั้น คนที่แสร้งว่าเป็นผู้ตายบอกว่ามาเอากุญแจก็เถอะ แต่ว่าตอนไปตรวจดู กุญแจอยู่กระเป๋าเสื้อเขาที่ถอดออกไปนะ"
"มันเป็นระบบง่ายๆของนักสืบน่ะครับ"
"หมายถึงอะไร...อ๊ะ"ทันใดนั้น ต่อก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง
"กระดาษขโมยไงครับ" ต่อนึกถึงครั้นสมัยเด็กๆที่พ่อเขาสอนวิธีของนักสืบให้เขาฟัง
มันเป็นวิธีง่ายๆเพราะใช้เพียงกระดาษหนึ่งแผ่นเท่านั้นวิธีการก็คือแกล้งนำกระดาษพับหนาเล็กน้อยแล้วสอดตรงประตู หรือว่าตรงรูที่ตัวล็อกจะดันปิดไว้ เวลาเขาปิดประตู ก็จะไปติดกับกระดาษ หากบางคนที่รีบร้อนจนไม่รู้สึกถึงความผิดปกติอันนี้ ก็เสร็จโจรอย่างง่ายล่ะ
"ผู้ร้ายสอดกระดาษเอาไว้ คงเป็นกระดาษทึมๆเข้ากับประตูบ้าน ทำให้สังเกตยาก แล้วตนเองก็แอบซ่อนแถวๆนั้น"
"ถ้าวิธีนั้นก็ฆ่าผู้ตายได้อย่างง่ายดายสินะ"ต่อทำท่าดีใจ
"แต่มันเป็นได้แค่สมมติฐานเท่านั้นล่ะครับ"
"เอ๊ะ"ต่อทำหน้าสงสัย
"วันที่สองของที่เกิดเหตุ ฝนตกลงมาหนักพอควร"
"แสดงว่า...."
"หลักฐานอาจจะสลายไปกับฝนแล้วล่ะครับ"
ต่อรู้สึกกลุ้มใจทันที หลักฐานชิ้นสำคัญถูกทำลายไปก่อนที่เขาจะพบเสียอีก ต่อถอนหายใจ
"ละก็มีข้อมูลอีกอันนึงที่ผมไปค้นมา"บาสยื่นเอกสารใบหนึ่งให้ต่อ
"ชนะ ช่างซ่อมของบริษัทที่ภรรยาผู้ตายติดต่อน่ะครับ"บาสพูด"ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับบรอษัทค้ายาเหมือนกันด้วย"
"อย่างนี้หมายถึงว่าบริษัทช่างนั้นเป็นบริษัทค้ายารึเปล่า" ต่อถาม
"คิดว่าไม่น่าใช่"บาสตอบพลางคิดอย่างหนัก"บริษัทช่างนั้นทำเครื่องมือและขายให้ห้างหลายๆที่ รายได้ก็ดี ช่างแต่ละคนก็มีฝีมือดีทั้งนั้น"บาสพูด
"ถ้าหากว่าจับได้ว่าช่างคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ทำงานค้ายาขึ้นมามันออกจะดูเปิดเผยเกินไป"บาสเสริม
"ทำงานตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี่ เหนื่อยน่าดูนะครับ"บาสเริ่มการสนทนา
"มันงานของนักสืบนี่"ต่อพยายามจะตัดบทให้สั้นที่สุด"คุณเองก็ควรรู้ไว้ด้วยละกัน"
"คร้าบ คุณนักสืบ"บาสพูดตอบยานคราง พลางหัวเราะหึหึในลำคอ
"วันนี้อากาศดีนะครับ"บาสยังคงยกเรื่องขึ้นมาพูด
"ผมไม่ได้ออกมาข้างนอกเลย ก็เลยไม่รู้ว่าสภาพอากาศเป็นยังไงหรอกครับ"ต่อตอบ"อีกอย่าง ผมก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว"ต่อหยิบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีเป็นตั้งๆวางที่โต๊ะเหมือนจะให้บาสรู้ว่าตนมีงานต้องทำอีกเยอะ เลิกยุ่งได้แล้ว"
"ถ้างั้นบาสเลื่อนเอกสารของต่อออกจากต่อ"ไปเดินเล่นๆกันหน่อดีมั้ยครับ"
"ผมมีงานทำเยอะนะ คุณก็ควรจะทำงานของตยให้เสร็จโดยเร็วด้วย"
"ก็งานของคุณก็คืองานของผมนี่ครับ"บาสตอบอย่างเฉยๆ ต่อมาคิด เออก็จริง เจ้านี่มันก็ทำงานร่วมกับเราแล้วนี่หว่า
"ถ้างั้นคุณก็ออกไปคนเดียวเถอะ ผมจะทำงานตรงนี้"
"เถอะน่า คุณนักสืบ ทำงานกักตัวอยู่อย่างนี้ สมองมันไม่แล่นเท่าไหร่หรอก"บาสคะยั้นคะยอจะให้ต่อไปด้วย ต่อทำท่าทีไม่สนใจ บาสเห็นดังนั้นก็เลยจัดเอกสารแถวๆนั้น ต่อทำหน้าไม่พอใจ เหมือนบาสพยายมจะก่อกวนเขาให้ได้
"เอ้า ต่อ วันนี้ไมมาเร็วดีนี่"
"อ้าว นัท เผอิญชั้นทำงานตั้งแต่ดึกเมื่อวานน่ะ"นัทฟังก็รู้ได้ทันที เพราะต่อถึงแม้จะเป็นคนที่ดุไม่มีระเบียบแต่เวลาทำงานเมื่อไหร่ก็จะทุ่มเทให้กับมันมาก หรือถ้าหากไม่มีอะไรคืบหน้า ต่อก็จะยังคงพยายามที่จะค้นหาคำตอบหรือเบาะแสให้ได้
"ชั้นจะปรึกษาเรื่องคดีหน่อย"
"คดีอะไรหรอ"นัททำท่าทีอยากรู้เหมือนกัน่าเพื่อนของตนทำคดีอะไร
"คือมีองค์กรค้ายาที่ตั้งบริษัทบังหน้าตัวเองแล้วมันดูท่าจะเกี่ยวกับคดีของชั้นน่ะ" นัททำทีท่าฉงนสีหน้าดูแปลกไป
"เราไม่รู้เกี่ยวกับคดีแบบนี้หรอก นายคงต้องค้นเองแล้วล่ะ"นัทตอบ
"งั้น เอ่อ...ไม่เป็นไร ขอบคุณมากนะ"ต่อก็คงเข้าใจเพราะว่านัทกำลังทำคดีเกี่ยวกับบริษัทที่เบี้ยวหนี้และเหมือนมีการคอรัปชั่นในนั้นอยู่
"อื้ม ขอโทษนะ"นัทยิ้มอย่างเนือยๆ ต่อก็บอกว่าไม่เป็นไร ทั้งสองต่างก็กลับไปทำงานที่ของตน บาสก็กลับไปยังที่ทำงานของตนเหมือนเดิมและดูหน้าตาไม่ค่อยจะพอใจซะเท่าไหร่ ต่อก็รู้ถึงเรื่องนี้ แต่ก็ดี จะได้ไม่ต้องมาป่วนเขาอีก
.......................................................................
กริ๊งๆ เสียงกระดิ่งที่ห้อยประตูกระทบเกิดเสียงขึ้น ตามด้วยเสียงพนักงานในชุดวอร์มสำหรับออกกำลังกายออกมาต้อนรับ
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ คุณนักสืบสิงห์"พนักงานชายที่ดุอายุราวๆเดียวกับต่อทัก"นึกว่าต้องไปจับผู้ร้ายเลยต้องฟิตร่างกายอีก"
"เผอิญงานผมเยอะน่ะ แล้ววันนี้ก็พอมีเวลา ก็เลยขอปลีกตัวมาเรียกเหงื่อหน่อย"
"งั้นเชิญเลยครับ เพราะบัตรสมาชิกของคุณยังไม่หมดอายุนี่นะ ฮะฮะ"พนักงานชายหัวเราะเพราะเขาก็รู้ว่าแต่เดิมสมาชิกรายปีมันราคาเป็นพัน แต่ต่อก็ทำคดีให้กับเขาเกี่ยวกับพนักงานโกงและหวังฮุบฟิตเนสแห่งนี้ ต่อยังช่วยชีวิตเขาจากมาเฟียในตอนนั้นอีกด้วย บุญคุณเหล่านี้สำหรับชายคนนี้คงทดแทนไม่หมด จึงได้เพียงแค่ให้ทำบัตรมาฟิตเนสได้ตลอดชีพ ชายคนนั้นเชิญต่อไปห้องเปลี่ยนชุด แล้วก็ขอลาไปต้อนับลูกค้าท่านอื่นต่อ ต่อรู้สึกถึงความสงบในห้องแม้จะมีลูกค้าหลายคนที่เข้ามาหรือออกไป เสียงประตูเปิดเอี๊ยดอ๊าด แต่ก็ยังดีกว่าเสียงคนที่เข้ามาแจกงานให้หรือเสียงตำรวจที่บอกรายละเอียดชวนปวดหัว ที่สำคัญ ไม่มีเสียงของวัตสันจอมป่วนอย่างเจ้าบาสอยู่
ต่อเปลี่ยนชุดเสร็จก็ไปยังเครื่องต่างๆทันที ยกน้ำหนัก ออกกำลังแขน ลู่วิ่ง เสียงเพลงในสถานที่ฟิตเนสมักจะเปิดเสียงดัง และเพลงเร็ว แต่ก้ดีสำหรับเขาที่จะถือว่าเป็นการพักผ่อนจากงานที่เครียดกว่าเยอะ ความสงบสุขเกิดขึ้นแล้ว แต่ก้เพียงแค่ชั่วโมงเดียว
ต่อพักจากการออกกำลังกายโดยการนั่งพักดื่มน้ำ ณ ที่ที่เตรียมไว้
"ขอผมนั่งด้วยคนนะครับ"ความเหนื่อยบวกกับเสียงเพลงที่ดังทำให้ประสาทหูในการได้ยินด้อยลง แต่ก็พอฟังออก
"เชิญครับ"ต่อตอบก่อนที่หันไปมองหน้าผู้ที่ขอที่นั่งก่อนที่จะตกใจจนสำลักน้ำ
"ไอ่ บาส..."
"ผมบอกแล้วไงว่าออกมาข้างนอกแล้วหัวสมองจะโล่งหน่อย"บาสชี้ที่หัวตัวเอง"เวลาคิดอะไรจะได้ง่ายๆหน่อย"
"นายมาได้ไง หรือว่า นายเป็นสมาชิกด้วย"ต่อทำทีท่าสงสัย เพราะคนที่เข้ามาใช้ฟิตเนสมักจะหน้าตาเดิมๆ ถ้าเกิดจะเป้นคนเข้ามาใหม่ก็คงประมาณสองอาทิตย์ก่อนเท่านั้นเอง
"ผมเป็นสมาชิกด้วยนา"บาสโชว์บัตรให้ดู
"หึ นายไม่ได้เป็นสมาชิกหรอก"ต่อยิ้มพลางคว้าบัตรของบาสมา อย่างที่เขาคิด
"สมชาย แต่ชื่อของนายคือ เมธาไม่ใช่หรอ"ต่อถาม
"ครับ ผมชื่อเมธา"บาสตอบ "แต่เวลาอยู่ในชีวิตจริง ผมไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อจริงก็ได้นี่ครับ"บาสตอบอย่างหน้าตาไม่แสดงความกังวลใดๆ
"ผมก็คงคิดอย่างนั้น"ต่อยิ้มอย่างมีชัย"ถ้าผมไม่เห็นตรงนี้ซะก่อน"
นี่คือความผิดพลาดของบางบริษัทที่ไม่มีการแสกนบัตรอย่างเช่นฟิตเนสที่นี่
"ฝีมือการวางตำแหน่งอักษรของคุณเยี่ยมมาก แทบจะต่อกันอย่างไม่มีอะไรขัดตาคนอื่นๆได้"ต่อยื่นให้บาสดูพลางชี้จุดที่ทำให้ต่อรู้ว่าบาสปลอมแปลงอย่างไร
"การวางอักษรจะต้องขูดพื้นที่ที่จะวางตัวอีกษรลงแนที่ แน่นอน ต้องมีการขัดให้บางลง จะได้ประกบอย่างแนบเนียน"เล็บของต่อเกาๆที่ตำแหน่งขาวๆรอบตัวอักษร
"แต่การขัดก็จะทำให้สีบางส่วนของบัตรลอกได้เหมือนกัน บวกกับการต่อบริเวณรอยจะให้สนิทแบบมองไม่เห็นน่ะ แทบเป็นไปไม่ได้"
"งั้น ถ้าผมไปยื่นให้คนอื่นดู เขาก็รู้กันน่ะสิว่าบัตรผมปลอม"บาสถามโดยไม่แสดงีหน้ากังวลแม้แต่น้อย
"อาจใช่ สำหรับคนที่สายตาดีละเอียดยิบ"ต่อตอบ"แต่ไม่ใช่สำหรับพนักงานที่ทำงานมากว่า5ปีอย่างหนักงานตอนรับคนนั้นแน่นอน"
"เหมือนรถที่จอดในความมืด"เมื่อต่อพูดเท่านี้ บาสก็รู้ทันทีว่าต่อเข้าใจทุกอย่างถุกต้องแล้ว
"อย่างน้อย ผมก็เลือกคนไม่ผิดจริงๆ"บาสหัวเราะ"นี่แหละความสามารถที่แท้จริงของคุณ"
เพื่อที่จะให้เข้าใจยิ่งขึ้น จึงขอหยุดเรื่องราวก่อน แล้วมาฟังคำอธิบายกัน
คุณลองึกถึงพวกที่จอดรถข้างถนนเวลาตอนกลางคืน ในคืนที่ค่อนข้างมืดสนิท ไม่มีไฟจากถนนหรือเสาไฟ หรือคุณขับรถสีฟ้าไปจอดริมถนนมืดๆไปซื้อก๋วยเตี๋ยวกิน แล้วก็กลับมาพบว่ามีรถจอดแถวๆนั้นเต็มไปหมด คุณจะรู้ได้ไงว่า รถไหนเป็นของคุณนอกเหนือจากว่าชั้นจำได้ว่าจอดตรงนั้น
"รถชั้นสีฟ้า" คุณก็จะรู้ทันทีว่ารถคุณอยู่ไหน แต่ลองให้คนอื่นมองดู น่าแปลกว่าน้อยคนที่จะรู้ว่ารถคุณสีอะไร
มันเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า"ชั้นรู้ว่ารถชั้นสีอะไร"และ"สีฟ้าของรถชั้นเป็นอย่างไร"มาผนวกกัน เวลามองในที่มืดซึ่งไม่ควรจะมองว่ารถคุณเป็นสีอะไร แต่สมองเราก็สร้างส่วนเติมเต็มทำให้เห็นว่า รถเราสีฟ้า แต่คนอื่นไม่มีสิ่งที่เรียกว่า"สีฟ้าของรถของคุณเป็นอย่างไร"เพราะฉะนั้น มองอย่างไรก็ดูไม่ออกว่ารถคันนั้นสีอะไร
เช่นเดียวกัน คุณรู้ว่าบัตรคุณมีสีแดงล้วน สมมติให้เพื่อนยืมไปดูแป๊บนึง แล้วเพื่อนก็ทักว่า นั่นบัตรเธอรึเปล่า คุณก็จะตอบว่า ใช่ เพราะ"บัตรชั้นมันต้องสีแดงล้วน" แม้ว่าเพื่อนคุณอาจหยิบบัตรที่คล้ายกันแต่มีจุดขาวๆเล็กๆที่แทบจะมองไม่ออก
กล่าวคือสมองเราจะไปแปลผลให้สิ่งที่เราเห็นว่าใช่99เปอร์เซนต์กลายเป็นว่าใช่ชัวร์100เปอร์เซนต์
"ถ้าคุณเอาไปบอกเจ้าพนักงานคนนั้น คุณคงได้รับการยกย่องอย่างมากแน่นอน"บาสพูดเอ่ยชมต่อ ทำให้ต่อรู้สึกประหลาดใจ และกลับมาคิดอีกครั้งหนึ่ง
"ก่อนจะส่งนายไป ชั้นต้องถามนายก่อน"ต่อจ้องตาของบาส"นายมาที่นี่ทำไม"
"ผมฟังจากที่คุณเล่ามาเมื่อวาน คดีคืบหน้าไปมากทีเดียว"บาสเกริ่นนำ"แต่ข้อมูลแค่นั้นก็ทำให้คุณสามารถคืบหน้าได้ยิ่งกว่าครั้งนั้นอีก"
"หมายความว่าไง "ต่อถาม
"ในที่เกิดเหตุ"บาสไม่สนคำถามของต่อและเริ่มเข้าเรื่องราว"ตำรวจเล่าเรื่องให้ผมฟังด้วยว่ามีคนได้ยินเสียงคนวิ่งแถวๆนั้นตอนช่วงสองทุ่มที่ผ่านมา"
"แล้วไง คนนั้นก็น่าจะเป็นผู้ตายนี่นา"ต่อถาม
"ใช่ เขาน่าจะเป็นผู้ตาย"บาสพยักหน้า"แต่ว่าผู้ตายกลับตายที่บ้านและหลักฐานต่างๆดูเหมือนว่าผู้ร้ายที่ฆ่าจะต้องมารออยู่ที่บ้านอยู่แล้ว"
"แสดงว่าผู้ร้าย อาจจะมีมากกว่าหนึ่งคนงั้นหรอ"ต่อถาม
"มันก็เป็นไปได้"บาสเริ่มเล่าเรื่องที่เขาคิดต่อ ต่อเริ่มปรับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองที่มีต่อบาส บาสไม่ใช่วัตสันที่ดูเละเทะ แต่ความฉลาดของเขาไม่แพ้นักสืบรุ่นใหญ่เลยทีเดียว
"ดังนั้นเป็นไปได้อยู่สองอย่าง"ต่อสรุป
"อาจมีผุ้ร้ายมากกว่าหนึ่งคน และ ผู้ร้ายอาจโทรศัพท์เพื่อให้ผู้ตายกลับมาที่บ้าน"ต่อพูด"โดยที่ผู้ตายก็ลบบันทึกผู้โทรเข้าเนี่ยนะ"
"ก็แค่ความเป็นไปได้ แต่ว่าอันแรกดูน่าเชื่อถือกว่า"บาสเสริม
"ก็จริง เพราะผู้ตายก็เกี่ยวข้องกับบริษัทค้ายาอยู่แล้ว การโดนฆ่าปิดปากก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าจะโดนองค์กรทั้งองค์กรตามล่า"
"และคนที่ฆ่าจะต้องรู้ด้วยว่าผู้ตายจะต้องกลับมาที่บ้าน"
"ถ้างั้นด้วยวิธีไหนล่ะที่จะล่อผู้ตายเข้ามาในบ้านแล้วก็ฆ่าซะ"
"ในบ้านมีภรรยาและก็ลูกสาว เป็นไปได้ว่ากลุ่มนี้อาจแกล้งทำเป็นขู่จะฆ่าลูกสาวหรือภรรยาเพื่อให้ผู้ตายมาติดกับก็เป็นได้ "
"นั่นสินะ แต่ว่า..."ต่อเริ่มสงสัย
"ทำไมหรอ"บาสถาม
"จากที่ดูบ้านนั้น ในห้องผู้ตายมีตู้เสื้อผ้าเท่านั้นที่จะหลบซ่อนได้ อีกอย่าง ผู้ตายอยู่ในสภาพกำลังอาบน้ำถ้าหากว่าหมกตัวในตู้เสื้อผ้า ผู้ตายน่าจะเห็นก่อน"
"อ๋อ อันนั้นผมก็ลองคิดดูแล้วล่ะ"บาสตอบ
"ผมลองคิดดูว่า ถ้าเกิดผู้ร้ายเข้ามาหลังจากผู้ตายไม่นานล่ะ"
"เขาบอกว่าสามีของผู้ตายล็อกประตูไว้ด้วย แม้ว่าเขารายงานว่าตอนสามทุ่มนั้น คนที่แสร้งว่าเป็นผู้ตายบอกว่ามาเอากุญแจก็เถอะ แต่ว่าตอนไปตรวจดู กุญแจอยู่กระเป๋าเสื้อเขาที่ถอดออกไปนะ"
"มันเป็นระบบง่ายๆของนักสืบน่ะครับ"
"หมายถึงอะไร...อ๊ะ"ทันใดนั้น ต่อก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง
"กระดาษขโมยไงครับ" ต่อนึกถึงครั้นสมัยเด็กๆที่พ่อเขาสอนวิธีของนักสืบให้เขาฟัง
มันเป็นวิธีง่ายๆเพราะใช้เพียงกระดาษหนึ่งแผ่นเท่านั้นวิธีการก็คือแกล้งนำกระดาษพับหนาเล็กน้อยแล้วสอดตรงประตู หรือว่าตรงรูที่ตัวล็อกจะดันปิดไว้ เวลาเขาปิดประตู ก็จะไปติดกับกระดาษ หากบางคนที่รีบร้อนจนไม่รู้สึกถึงความผิดปกติอันนี้ ก็เสร็จโจรอย่างง่ายล่ะ
"ผู้ร้ายสอดกระดาษเอาไว้ คงเป็นกระดาษทึมๆเข้ากับประตูบ้าน ทำให้สังเกตยาก แล้วตนเองก็แอบซ่อนแถวๆนั้น"
"ถ้าวิธีนั้นก็ฆ่าผู้ตายได้อย่างง่ายดายสินะ"ต่อทำท่าดีใจ
"แต่มันเป็นได้แค่สมมติฐานเท่านั้นล่ะครับ"
"เอ๊ะ"ต่อทำหน้าสงสัย
"วันที่สองของที่เกิดเหตุ ฝนตกลงมาหนักพอควร"
"แสดงว่า...."
"หลักฐานอาจจะสลายไปกับฝนแล้วล่ะครับ"
ต่อรู้สึกกลุ้มใจทันที หลักฐานชิ้นสำคัญถูกทำลายไปก่อนที่เขาจะพบเสียอีก ต่อถอนหายใจ
"ละก็มีข้อมูลอีกอันนึงที่ผมไปค้นมา"บาสยื่นเอกสารใบหนึ่งให้ต่อ
"ชนะ ช่างซ่อมของบริษัทที่ภรรยาผู้ตายติดต่อน่ะครับ"บาสพูด"ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับบรอษัทค้ายาเหมือนกันด้วย"
"อย่างนี้หมายถึงว่าบริษัทช่างนั้นเป็นบริษัทค้ายารึเปล่า" ต่อถาม
"คิดว่าไม่น่าใช่"บาสตอบพลางคิดอย่างหนัก"บริษัทช่างนั้นทำเครื่องมือและขายให้ห้างหลายๆที่ รายได้ก็ดี ช่างแต่ละคนก็มีฝีมือดีทั้งนั้น"บาสพูด
"ถ้าหากว่าจับได้ว่าช่างคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ทำงานค้ายาขึ้นมามันออกจะดูเปิดเผยเกินไป"บาสเสริม
"เพราะเขาเป็นคนแจ้งตำรวจว่าพบช่างคนนี้ ตายอยู่กลางถนน หลังจากที่คุณติดต่อไปไม่นาน"
"แล้วถ้าเกิดเป็นการจ้างฆ่าปิดปากล่ะ"
"ลองคิดดูสิ คุณนักสืบ ไม่ว่าบริษัทนั้นจะเป็นบริษัทบังหน้าค้ายาจริงหรือไม่ยังไงตำรวจก็วางข้อหาแล้วว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวกับการค้ายาซึ่งถ้ามีจริงก็ไม่น่ารอด ถ้าหากว่ายังไงก็โดนอย่างนี้ บริษัทไม่น่าจะฆ่าช่างคนนี้หรอก"
"แปลว่าอาจจะเป็นบริษัทอื่นสินะ"ต่อถาม
"ผมก็คิดอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน"บาสตอบ"ไม่ว่าจะส่งช่างมาแทรกแซงหรือไม่ก็ตาม"
"ถ้างั้น"ต่อลุกขึ้นแล้วไปที่ล็อกเกอร์หยิบผ้าขนหนูเพื่อจะอาบน้ำ"เราคงต้องปลอมตัวไปสืบแล้วล่ะ"
"ผมได้รายละเอียดของคนที่น่าจะมีส่วนในองค์กรค้ายามาคนหนึ่ง"บาสหยิบเอกสารยื่นมาให้ต่อดู
"ครรชัย..."ต่ออ่านดูคร่าวๆ"แล้วจะไปหาเขาได้ที่ไหน"
"ผมลองสืบดูแล้ว เขาจะไปที่อารามฟิตเนสตอนประมาณสองทุ่ม"
"วันไหน"ต่อถาม
"คืนนี้"บาสตอบ
"แล้วถ้าเกิดเป็นการจ้างฆ่าปิดปากล่ะ"
"ลองคิดดูสิ คุณนักสืบ ไม่ว่าบริษัทนั้นจะเป็นบริษัทบังหน้าค้ายาจริงหรือไม่ยังไงตำรวจก็วางข้อหาแล้วว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวกับการค้ายาซึ่งถ้ามีจริงก็ไม่น่ารอด ถ้าหากว่ายังไงก็โดนอย่างนี้ บริษัทไม่น่าจะฆ่าช่างคนนี้หรอก"
"แปลว่าอาจจะเป็นบริษัทอื่นสินะ"ต่อถาม
"ผมก็คิดอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน"บาสตอบ"ไม่ว่าจะส่งช่างมาแทรกแซงหรือไม่ก็ตาม"
"ถ้างั้น"ต่อลุกขึ้นแล้วไปที่ล็อกเกอร์หยิบผ้าขนหนูเพื่อจะอาบน้ำ"เราคงต้องปลอมตัวไปสืบแล้วล่ะ"
"ผมได้รายละเอียดของคนที่น่าจะมีส่วนในองค์กรค้ายามาคนหนึ่ง"บาสหยิบเอกสารยื่นมาให้ต่อดู
"ครรชัย..."ต่ออ่านดูคร่าวๆ"แล้วจะไปหาเขาได้ที่ไหน"
"ผมลองสืบดูแล้ว เขาจะไปที่อารามฟิตเนสตอนประมาณสองทุ่ม"
"วันไหน"ต่อถาม
"คืนนี้"บาสตอบ
ต่อรู้สึกหมดแรงในทันที นี่เขาเพิ่งจะมาฟิตเนสเพื่อเรียกเหงื่อ ไหงจะปลอมตัวไปเล่นฟิตเนสอีก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น