ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Op. 5 : Tiger in the Rain
Op. 5 : Tiger in the Rain
ครืน ครืน ซ่าซ่า เสียงฝนตกพรำๆในค่ำคืน ต่อเดินฝ่าหยดน้ำไปตามทางไปยังที่เกิดเหตุที่เดิม แต่คราวนี้เขามากับคู่หูที่ดูไม่เข้าหูเขาซักเท่าไหร่ บาสเดินมากับเขาด้วย
“รู้งี้น่าจะเอาร่มมาด้วย”ต่อพึมพำความมักง่ายของตัวเอง
“คราวหลัง คุณก็หัดพกหมวกไว้บ้างซี่”บาสชี้ไปที่หมวกบนหัวตัวเอง ทำหน้าเยาะเย้ย
“ยังไงก็เถอะ”ต่อทำหน้าเซ็ง“ตอนนี้เราต้องรีบๆทำงาน หาข้อมูลเพิ่มให้ได้อย่างน้อยซัก1อย่างก็ยังดี”
“ยิ่งหลักฐานทิ้งไว้นาน อาจจะพลาดหลักฐานชิ้นสำคัญบางอย่างไปได้สินะ”บาสถาม
ต่อเพียงแค่พยักหน้า
“คุณนักสืบต่อครับ ทางนี้ครับ”ตำรวจเอกคนเดิมออกมาต้อนรับ“ละก็คุณ
”
“เรียกผมว่าบาสละกันครับ”บาสยิ้มให้“เป็นผู้ช่วยของต่อเค้าน่ะ”
“ครับ คุณบาส ”ตำรวจทำสีหน้าสงสัย “เชิญเข้าไปดูข้างในกันต่อเลยครับ”
บรรยากาศในห้องที่เกิดเหตุยังคงน่ากลัวเหมือนเดิม เพียงแต่ไม่มีศพ ของชายที่นอนคว่ำและนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
“คุณตำรวจเอกครับ คุณได้เบาะแสหรือหลักฐานอะไรเพิ่มเติมจากคราวนั้นมั้ยครับ”
“อ๋อ เรามีแล้วครับ”ตำรวจเอกหยิบเอกสารขึ้นมา“มีสามอันครับ”
“โห แฮะ”บาสอุทาน“ได้มาตั้งสามอัน” ตำรวจเอกยื่นให้ต่อ
“เราสอบถามภรรยา
”
“ผมขอเดินดูรอบๆห้องนี้หน่อยนะครับ”ต่อและตำรวจเอกทำหน้าฉงน
“ไม่ต้องห่วงน่า ผมไม่ทำให้หลักฐานเสียหายหรอกครับ” ต่อถอนหายใจ ตำรวจเอกก็พยายามไม่สนใจและเล่ารายละเอียดต่อ
“ภรรยาของผู้ตายให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของผู้ตายดังก่อนที่จะมีเสียงเหมือนของกระแทกพื้นอีกประมาณสองสามครั้งครับ”
“อืม
ถ้างั้นมือถือของผู้ตาย
”
“เราค้นในกองเสื้อผ้าของผู้ตายแล้วเจอเจ้านี่ครับ”ตำรวจเอกยื่นถุงที่มีโทรศัพท์มือถือNokia 7610ให้ต่อดูห่างๆ
“งั้นแปลว่าต้องมีคนโทรไปหาเขาก่อนที่เขาจะโดนลอบโจมตีจากด้านหลัง”
“ไม่เชิงอย่างนั้นน่ะครับ”คำพูดนี้ ทำให้ต่อสงสัยอย่างมาก
“อย่างแรกคือ ภรรยาได้ยินเสียงตอนประมาณสามทุ่มยี่สิบ แต่ว่า มือถือนี้บอกเวลาที่รับสายล่าสุดคือหกโมงเย็นตรง”
“เป็นไปได้มั้ยว่า คนร้ายจะลบเวลาที่ผู้ตายรับสายออกไปน่ะ”ต่อถาม
“ก็เป็นไปได้ครับ”
“แต่ถ้าทำอย่างนั้น มันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะว่าคนในบ้านก็ย่อมได้ยินเสียงมือถือ ทำให้รู้เวลาที่รับสายได้น่ะสิ”
“งั้นก็แปลว่าอาจเป็นไปได้ว่า เสียงนั้นไม่ใช่มากจากมือถือเขา หรืออาจเป็นมือถือของคนร้ายก็ได้”
“ถ้าเค้าใช้รุ่นเดียวกันล่ะก็นะ”บาสพูดแทรกระหว่างที่ตนกำลังดูร่องรอยเลือดในห้อง
“ว่าแต่คุณตำรวจเอก ผู้ตายชื่ออะไรอ่ะครับ”บาสถาม
“คุณวสันต์น่ะครับ”ตำรวจเอกตอบ
“อืม”บาสทำท่าคิดอยู่ แล้วก็ดูร่องรอยต่อ ต่อจึงพยายามสรุปเรื่องราวทั้งหมด
“งั้นก็คงประมาณว่า เสียงมือถือหรืออะไรซักอย่างดังขึ้น แล้วผู้ตายก็ออกมาเพราะนึกว่าเสียงโทรศัพท์ของตนเอง แล้วก็โดนฆ่าตาย”ต่อสรุปผลออกมาอย่างคร่าวๆ
“เอ่อ
ผมลืมบอกข้อมูลไปอีกอย่างน่ะครับ”ตำรวจเอกเกาหัวตนเอง
“อะไรหรอ”ต่อถาม
“ตอนเวลาสามทุ่มสี่สิบห้า ภรรยาเห็นผู้ตายกำลังจะขึ้นบันได เขาบอกว่าลืมกุญแจอยู่กับประตู” ต่อกุมหน้าผากโดยไม่รู้ตัว ทำไมรู้สึกคดีนี้เริ่มมีอะไรที่แปลกพิสดารขึ้นไปอีก เขารู้สึกปวดหัวขึ้นทันที
“เป็นอะไรไปครับ คุณต่อ”ตำรวจเอกถาม
“สงสัยจะตากฝนมากไปหน่อย เลยเริ่มจะเป็นไข้มั้ง”ต่อตอบเบี่ยงๆไป ต่อคิดว่าจริงๆแล้วมาจากเจ้าคดีที่มันชวนปวดหัวอันนี้มากกว่า
“คำตอบน่าจะอยู่แค่เอื้อมนะ คุณนักสืบต่อ”บาสพูดขึ้นมา“ลองนึกดีๆสิ”
ต่อได้สติขึ้นมาแล้วพยายามนึกเรื่องราวใหประติดประต่อ มองไปรอบๆห้อง อะไรที่น่าจะเป็นตัวบ่งชี้บ้างนะ เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ตายจะฟื้นแล้วทำภารกิจต่อ
“ฝนตกอย่างนี้ ผมนึกถึงเพลง Tiger in the rainจริงๆ”บาสพูดถึงอีกเรื่องหนึ่ง
“เสือ กลางสายฝน เพลงบอกว่าเสือที่น่ากลัว แต่ธรรมชาติน่ากลัวยิ่งกว่า”บาสยังงพูดต่อ
“แต่ผมว่า เสือกลางสายฝนที่มองเห็นยากนั้น น่ากลัวกว่าเสือธรรมดานะ”
ต่อเริ่มหงุดหงิด ไม่เพียงแค่คดีนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องไร้สาระของบาสอีก เสือที่ซ่อนตัวอยู่ในสายฝน
ซ่อนตัว ไม่มีใครเห็นชัด... อ๊ะ!
แล้วต่อก็นึกออก
“ถ้าเกิดว่า..”ต่อนึกขึ้นมา“คนที่ภรรยาเห็นตอนนั้นเป็นคนร้ายล่ะ”
“แต่ว่าภรรยาก็จะต้องเห็นหน้าของผู้ตายสิ”
“ปกติน่ะ ถ้าเป็นคนที่สนิทหรือใกล้ตัวอยู่แล้ว คุยกันเผินๆเขาไม่ได้จดจำหน้าตาทุกรายละเอียดหรอกนะ”บาสเสริม“อย่างมากก็แค่ เสียงกับรูปร่างน่ะ”
“รูปร่างของผู้ตายตอนนั้นดูสมส่วน ไม่อ้วนและสูงพอๆกับคนทั่วๆไป”ต่อบรรยาย“จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะปลอมเป็นผู้ตายโดยนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัว”
“แต่ว่า เขาก็ต้องเห็นหน้าด้วยสิครับ”ตำรวจเอกค้าน
“นี่คือตัวช่วยไง”บาสโยนผ้าผืนหนึ่งให้ตำรวจเอก
“นี่มัน
”ตำรวจเอกเริ่มจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก”ต่อตอบ“แต่ส่วนใหญ่คนอื่นก็เอาไว้เช็ดผมให้แห้งน่ะนะ”
“ถ้าเกิดว่าระหว่างคุยกัน ไม่อยากให้เห็นหน้าชัดๆ ”บาสเสริม“ก็ทำเป็นว่ากำลังเช็ดผมอยู่ซี่”
“ส่วนเรื่องเสียงน่ะ ไม่มีปัญหาเท่าไหร่ ถ้าอยู่ตรงบันไดอย่างที่เขาว่าจริงๆ”
“ทำไมล่ะครับ”ตำรวจเอกสงสัย
“ตอนขึ้นมาน่ะ ผมสังเกตเห็นว่าบันไดขึ้นล้อมรอบด้วยกำแพงกั้น พูดง่ายๆคือเหมือนบันไดวนขึ้นไปโดยตกแต่งด้วยกำแพงทรงกระบอก”ต่ออธิบาย
“เสียงที่พูดออกมาจะสะท้อนกับกำแพง ทำให้เสียงก้องขึ้นและ เมื่อเทียบกับเสียงจริงแล้ว ไม่เหมือนเดิม”
“ภรรยาคงคิดถึงเรื่องนี้ ก็เลยไม่ได้สงสัยเรื่องเสียงที่เปลี่ยนไปของผู้ตาย”บาสเสริม
“งั้น เงื่อนงำนี้เราก็ไปได้สวยแล้วสิครับ”ตำรวจเอกยิ้มดีใจที่คดีคืบหน้าอย่างรวดเร็วและน่าประหลาดใจ
“สืบถามข้อมูลเรื่องผ้าเช็ดหัวกับภรรยาอีกที แล้วตรวจประวัติของผู้ตาย คงจะได้เบาะแสเพิ่มขึ้นอีก”
“เรื่องประวัติผู้ตาย เราสืบมาแล้วครับ”
“แล้วประวัติเขาเป็นไงบ้าง”ต่อถาม
“เคยมีประวัติขายยาเสพย์ติดด้วยครับ ส่วนเรื่องเคยทะเลาะกับใครหรือสร้างปัญหาให้ใครนั้น ก็ไม่มีครับ เว้นแต่เจ้านายที่ทำงานเท่านั้นเอง”ตำรวจเอกพูด
“งั้นก็เป็นไปได้ว่า คนของพวกขายยาเสพย์ติดมาสั่งเก็บอะไรทำนองเนี้ยรึเปล่า”ต่อถาม
“ก็มีความเป็นไปได้สูงครับ”ตำรวจเอกพูด
“งั้นที่พวกเราต้องช่วยกันก็คงจะรู้แล้วสินะ”ต่อพูดกับตำรวจเอกและมองไปที่บาส
“ไม่ต้องห่วง”บาสพูด “ผมชินกับเรื่องเลวร้ายอยู่แล้ว”
“ผมและบาสจะพยายามสืบค้นข้อมูลภายในองค์กรนั้นเอง”ต่อพูด
“ส่วนทางผมก็จะลองสืบประวัติคนที่เกี่ยวข้องแหล่งข่าวต่างๆให้ครับ”ตำรวจเอกพูด
“่ก่อนอื่น บอกมาได้มั้ยว่าองค์กรนั้นกบดานที่ไหน ใครอยู่บ้าง”
“ผมไม่ทราบที่กบดานของพวกมันหรอกครับ แต่มีบุคคลที่พอจะรู้ข่าวคราวบ้าง”ตำรวจเอกยื่นเอกสารอีกฉบับให้ต่อ
“ในนี้มีข้อมูลที่คุณคงได้ใช้ประโยชน์จกมันอีกเยอะเลยล่ะ”
“ขอบคุณมาก คุณตำรวจเอก งั้นผมขอกลับไปเตรียมตัววางแผนก่อนนะ”
“โชคดีครับ”ตำรวจเอกโบกมือลา แต่ไม่ทันที่จะขาดคำ เขาลืมบอกเรื่องสำคัญไป
“เดี๋ยวครับ คุณนักสืบต่อ”
“อะไรอีกล่ะเนี่ย”ต่อพึมพำในใจ
“คุณจำเรื่องช่างที่ไปซ่อมที่บ้านหลังนี้ได้มั้ยครับ”
“อ๊ะ จริงสิ ลืมสนิทเลยเรา”ต่อเกาหัว“แล้วสืบมาได้ความว่ายังไงบ้าง”
“คือว่า
”ตำรวจเอกถอนหายใจ
“ช่างคนนั้นเสียชีวิตไปแล้วครับ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น