ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Op.3 Sundown
Op. 3 : Sundown
ต่อวิ่งไปตามเสียงของที่เกิดเหตุ เขารู้ทันทีว่าน่าจะเกิดที่ห้างใกล้ๆ บริเวณที่มีไทยมุงอยู่เต็มไปหมด ต่อเดินฝ่าเข้าไปพบกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆร้องไห้อยู่ กับผู้ชายที่ท่าทางเหมือนจะเป็นคนขายของร้านดังกล่าว เศษกระจกแตก
“ไอ้เด็กนี่มันปากระจกร้านผมแตกครับ ผมเลยจะสั่งสอนมันหน่อย”ชายคนนั้นตะโกน หน้าแดงก่ำ ตะคอกเด็กด่าสารพัดก่อนจะตีเด็กหญิงคนนั้น เด็กก็ร้องไห้ครวญ ดีที่ชาวบ้านที่ทนไม่ได้ไปเรียกตำรวจมา เลยทำให้ไทยมุงที่อยู่แถวนั้นกระจายหายไป พวกเขาต่างนินทาต่างๆนานา ด่าเด็กบ้าง สงสารเด็กบ้าง
“คุณตำรวจจับมันไปเลยครับ ลงโทษให้สาสม! คนอย่างมันโตขึ้นไปก็ถ่วงชาติบ้านเมืองเปล่าๆ”ชายคนนั้นด่าทอขณะที่เด็กก็ยังร้องไห้ จนต่อก็นึกที่จะกลั้นไว้ไม่ได้ ต้องเข้าไปหา ขณะที่เดินสวนเด็กที่ถูกตำรวจจับไปเข้ารถ เขาก็ได้สังเกตจุดเล็กๆน้อยๆ ที่ตำรวจมองข้ามไป
“สวัสดีครับ ผมทำงานรักษาความปลอดภัยครับ”ต่อปกปิดไม่ให้รู้ว่าตนเป็นนักสืบ มิฉะนั้น ชายคนนั้นจะไม่ให้ความร่วมมือมากพอหรือเป็นไปตามที่เขาคาดการณืไว้
“ดีเลยครับ จับมันไปเลยครับ โห ทำร้านชาวบ้านเสียหายแบบนี้ อย่าปล่อยออกมาเลยครับ”
“เราเข้าใจครับว่าคุณต้องเสียใจกับเรื่องนี้”ต่อพยายามกัดฟันพูดเพราะเขาพอเดาความเป็นจริงออก“แต่คุณต้องไปให้การกับตำรวจด้วยครับ”
“ทำไมผมต้องไปล่ะครับ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา หรือว่าคุณไม่เชื่อ” คำพูดนี้ทำเอาต่ออึ้งไปซักพัก ก็ใช่แหละว่าชั้นไม่เชื่อแก
“ไม่ใช่ครับ มันเป็นหน้าที่น่ะครับ”ต่อคิดอยู่ว่าถ้าหากชายคนนี้ยังขัดขืน เขาอาจต้องใช้กำลัง
“แต่ผมก็ต้องขายของนะคุณ ไม่มีเวลาที่จะไปให้การอะไรหรอก จับมันเข้าคุกไปเลยก็พอแล้วนี่”ระหว่างที่ต่อจะทำตามที่เขาคิดอยู่นั้น
“เอาน่า คุณตำรวจนอกเครื่องคนนี้ เขาทำตามหน้าที่น่ะแหละ”เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น ต่อหันไปมองเสียงที่คุ้นๆนั้น
“นี่คุณ..” ต่อจำได้ เขาจำได้ตั้งแต่เสียงทุ้มๆแต่ประโยคชวนกวนประสาทแบบนี้
“อ๋อ ผมเผอิญผ่านมาน่ะครับ ไม่นึกว่าจะเจอ...”วัตสันชายยิ้ม“คุณตำรวจอีก”
“อ้าว ถ้าคุณเป็นตำรวจ ก็จับกุมคนร้ายคนนั้นไปก็พอแล้วนี่ครับ”ชายเจ้าของร้านถาม มือกำแน่นๆหลวมๆสลับกันไป
“เห็นท่าว่าจะไม่ได้น่ะครับ คุณเจ้าของร้าน”วัตสันหนุ่มหัวเราะ
“เพราะคำให้การสำคัญมากสำหรับคดีทุกคดี ไม่งั้นจะเอาผิดเด็กคนนี้ยาก ดีไม่ดี เด็กรอดออกมาได้ เป็นปัญหาสังคมอย่างที่คุณบอกอีก”วัตสันคนนั้นยิ้มให้เจ้าของร้าน
“เออ..ก็จริงของคุณตำรวจ”ชายเจ้าของร้านพยักหน้า
“นอกจากนั้น คุณอาจจะเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ปกครองของเด็กได้อีกนะ”วัตสันเหน็บให้เจ้าของร้านฟัง เจ้าของร้านคิดพิจารณาความคุ้มค่า และก็พยักหน้า
“โอเค ผมจะไปให้การด้วยละกัน”เจ้าของร้านกำลังจะเดินขึ้นรถตำรวจ
“อ๊ะ ขึ้นอีกคันจะดีกว่าครับ คุณเจ้าของร้าน”วัตสันชี้ไปที่รถตำรวจอีกคัน“คุณคงไม่อยากนั่งข้างๆคนที่เพิ่งทำร้ายจิตใจคุณไปใช่มั้ยล่ะ”
“ฮ่าฮ่า ฮ่า ถูกของคุณตำรวจ คุณช่างรู้ใจผมซะจริงๆ”เจ้าของร้านหัวเราะร่วมกับวัตสัน ก่อนจะขึ้นรถไป มีเพียงต่อที่รุ้สึกๆไม่สบายใจกับเรื่องนี้ เพราะเขารู้ว่าตอนนี้ทุกคนต่างเข้าใจผิด โดยเฉพาะวัตสันชายที่ดูท่าจะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม
“เดี๋ยวก่อน คุณวัตสัน”ต่อตบไหล่วัตสันชายเรียก
“เรียกผมว่าบาสเถอะ ชื่อวัตสันมันกระดากปากไงไม่รู้”คำพูดชวนกวนประสาทของวัตสันชายแทบจะทำให้ต่อจะกระโดดถีบซะให้หายอยาก
“ผมไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงนะ แต่ผมคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นถูกเข้าใจผิดอยู่”ต่อพูด
“เฮ้อ! แปลว่าคุณไม่เข้าใจผมจริงๆน่ะแหละ”บาสถอนหายใจ“ใครว่าผมบอกว่าเด็กคนนั้นผิดล่ะ”
“เอ๋ ?”ต่อทำหน้างง ฉงนว่าเจ้าวัตสันคนนี้มันคิดอะไรอยู่
“วางใจเถอะ คุณนักสืบ”บาสตบไหล่ต่อเบาๆพร้อมยิ้มให้“วัตสันอาจต้องคอยถามเชอร์ล็อคโฮลม์เสมอ” บาสเดินไปที่รถตำรวจ ซึ่งดูเหมือนว่าเขาก็กำลังทำคดีนี้อยู่
“แต่ไม่ใช่กับวัตสันคนนี้”บาสมองด้วยสายตาที่ดูเฉียบขาดทำเอาต่ออึ้งไปซักพัก
“เอ้า! จะขึ้นมามั้ย คุณนักสืบ ผมขับไปสถานีตำรวจให้นะ”
“อะ...เอาวะ”ต่อทำท่าจะขึ้นแหล่ไม่ขึ้นแหล่หลายครั้งก่อนตัดสินใจเผชิญหน้ากับความยากที่จะหยั่งรู้ของวัตสันหนุ่มคนนี้
.............................................
ณ สถานีตำรวจ
“เราจะลงบันทึกกันเลยนะครับ”ตำรวจนายหนึ่งเปิดสมุดเล่มหนึ่ง
“เฮ้อ! ดูเหมือนปลาตัวใหญ่จะเข้ามาติดกับซะแล้ว”บาสพูดอย่างใจเย็น ต่อหันไปมองเด็กสาวด้วยความกังวลใจและหันไปมองบาส พอได้มานั่งใกล้ๆถึงได้รู้ว่า บาสนอกจากผมหยักศกแล้วยังมีไฮไลท์สีทองบางๆแซมอยู่ มาดูเครื่องแต่งกายใกล้ๆ เสื้อที่ใช้ก็ของดีมียี่ห้อ มีกระเป๋าเสื้อสองด้าน และเนคไทผูกค่อนข้างเนี้ยบเลยทีเดียว
“ความผิดของคดีนี้คือข้อหา
”ตำรวจนายนั้นเขียนบันทึก
“ทำลายร้านของนาย..เอ่อ..”
“อาชาครับ”เจ้าของร้านตอบ
ต่อทำท่าทีกระสับกระส่าย ไม่รู้ว่าเจ้าวัตสันหนุ่มนี่คิดอะไรอยู่กันแน่ แล้วถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ เด็กสาวที่ไม่ได้ทำอะไรผิดจะต้องเป็นเหยื่อของคนโฉดคนนี้เหรอ
“คุณตำรวจจ๊อบครับ ผมว่า คุณคงต้องทำคดีอีกกระทงนึงด้วยนะครับ”วัตสันหนุ่มนั่งพิงพนักเก้าอี้ แกว่งขาอย่างสบายใจ ยิ้มให้
“ข้อหาอะไรหรือครับ”คุณตำรวจคนนั้นถาม
“ล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ไงครับ”บาสพูดออกมาอย่างสบายใจเฉิบ ทำเอาตำรวจนายนั้นอึ้งจนทำปากกาในมือหล่น แรงโน้มถ่วงทำให้เกิดเส้นตวัดเหมือนขีดฆ่าคำว่าทำลาย
“หมายความว่าไงกัน คุณตำรวจ”เจ้าของร้านทำทีท่าไม่พอใจ
“ผมเป็นฝ่ายเสียหายนะ ทำไมพูดจาเลอะเทอะอย่างนี้ล่ะ”
“คุณอาจเสียหายจริง ”บาสยิ้ม “ถ้าเด็กไม่มีเจ้านี่”บาสเดินไปหาเด็กสาว
“ขอโทษนะ หนูน้อย แต่งต้องถลกแขนเสื้อนิดนึงนะ” เด็กน้อยยอมทำตาม
“นี่มัน...”ตำรวจคนนั้นตกใจที่ไม่ทันสังเกตรอยสีแดงที่ท้องแขน เป็นรูปมือคนซึ่งต้องเป็นผู้ใหญ่และเพศชาย ต่อก็สังเกตตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเหมือนกัน จึงได้พาเจ้าของร้านมายังที่นี่
“มะ
ไม่ใช่ฝีมือผมนะ”เจ้าของร้านปฏิเสธ
“ไม่ได้บอกนี่นา ว่านี่เป็นมือของคุณรึเปล่า เว้นแต่
ถ้าเช็คด้วยตนเอง ดีมั้ย คุณเจ้าของร้าน”
“เหลวไหล ผมไม่ได้ทำอะไรผิด บางทีอาจเป็นมือของตำรวจเองก็ได้”
“ถ้างั้น”ต่อช่วยเสริม “แล้วรอยนี้ล่ะ”ต่อชี้ไปที่รอยแดงๆที่อยู่ตรงไหปลาร้าของเด็กสาว
“หนูต้องถอดเสื้อออกแป๊บนึงนะ”บาสบอก เด็กสาวมีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอม รอยแดงดังที่ต่อกล่าวมาแท้จริงคือ รอยปื้นเหมือนถูกบางอย่างกดไว้ หรือนอนทับนานๆ บางจุดก็มีรอยถลอกบ้าง รอยเปื้อนบ้าง “นี่ถ้าตรวจภายในนี่”ต่อมองเจ้าของร้านด้วยความเคียดแค้น“คงไม่ต้องสงสัยอีกเลยใช่มั้ย”
“อะไรกัน”เจ้าของร้านหน้าซีด “มันก็แค่บังเอิญเท่านั้นแหละน่า เด็กมันก็ซนของเด็กไม่ใช่หรอไง”
“เดี๋ยวผมมานะ”บาสขอตัวไปจากบริเวณที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด ทิ้งไว้ให้ต่อเป็นคนรับบทนักสืบอย่างเต็มที่
“หนู คุณลุงคนนี้เขาทำอะไรไม่ดีรึเปล่าจ๊ะ”ต่อถามเด็กสาว
“
”ไม่มีเสียงตอบจากเด็กคนนั้น
“เห็นมั้ยล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย เด็กมันไม่ดี ขว้างก้อนหินเข้าไปในร้าน โทษมันต้องได้รับอย่างสาสม ฮ่าฮ่าฮ่า”ชายคนนั้นเริ่มแสยะยิ้มอย่างไม่เต็มใจ เพราะตนองได้แกว่งเท้าหาเสี้ยนเสียแล้ว ชีวิตเป็นตายร้ายดีตนเขวนอยู่บนคำตอบของเด็กเท่านั้น
“หนูน้อย ถ้าหนูไม่ตอบ เราก็เอาผิดคนร้ายไม่ได้นะ”ต่อพยายามคะยั้นคะยอให้เด็กสาวตอบ แต่ไม่มีคำตอบออกมา มีเพียงเสียงสะอื้นในลำคอเท่านั้นที่ดังออกมาอย่างเบาๆ
“เสียเวลาน่า คุณตำรวจ คนไม่ผิดมันก็ไม่ผิดวันยันค่ำ นี่แสดงว่าคุณตำรวจพยายามใส่ร้ายผมสิเนี่ย” เจ้าของร้านเริ่มเหิมเกริม
“เด็กน้อย”บาสที่หายไปจากฉากปรากฏตัว“พี่มีของมาให้แน่ะ” บาสยื่นให้เด็กสาวคนนั้น
“ตุ๊กตา?”ต่อทำหน้าฉงน บาสยื่นตุ๊กตาสองตัว ดูจากรูปลักษณ์ก็พอทราบว่าเป็นตุ๊กตาผู้ชายผู้หญิง
“นี่จ้ะ”บาสยื่นตุ๊กตาทั้งสองไปให้เด็กสาวคนนั้น เด็กสาวมองแล้วมองอีก ก่อนที่จะหยิบไป
แต่หยิบไปเพียงตุ๊กตาผู้หญิงเท่านั้น เด็กสาวกอดตุ๊กตาตัวนั้นแน่น อาการสะอื้นลดลง แต่ต่อก็รู้สึกได้ถึงความขมขื่นเต็มจิตใจของเด็กน้อยผู้น่าสงสาร แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าบาสวางแผนอะไรไว้
“ตุ๊กตาผู้หญิงเป็นอะไรไปหรอ ฮึ”บาสทำน้ำเสียงเป็นห่วง“ตุ๊กตาชายไม่ดีอย่างนั้นหรอ”
เด็กน้อยยังคงไม่ตอบแต่ว่าก็ดูเหมือนอยากจะตอบว่า “ใช่”
“คุณตำรวจ คุณทำอะไรของคุณอยู่เนี่ย คุณมาแสดงละครตุ๊กตาให้เด็กหายเครียดหรือไง”เจ้าของร้านทำหน้าเหยียดหยามบาส
“ตุ๊กตาชายทำอะไรเขางั้นหรอ”บาสถามเด็กสาว เด็กสาวค่อยๆหยิบตุ๊กตาชายมา และก็วางตุ๊กตาหญิงลง จากนั้น ก็นำตุ๊กตาชายขึ้นคร่อม ต่อตกใจที่เด็กทำเช่นนั้น
“เดี๋ยวสิ”ต่อรีบตัดบท“เด็กเรียนรู้มาจากไหนกัน”
“ก็คงมาจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้”บาสตอบแล้วหันไปถามเด็กสาวต่อ“แล้วเขาทำอะไรอีก” เด็กสาวก็จับมือขอตุ๊กตาชายและกระแทกเข้าที่ท้องของตุ๊กตาหญิง จากนั้นก็จับตุ๊กตาชายตัวนั้นขย่มบนตุ๊กตาหญิงอีกหลายครั้ง
“ถ้างั้น เด็กน้อย”บาสยิ้มให้พร้อมหยิบตุ๊กตาชายคืน“หนูชี้ให้พี่หน่อยว่าตุ๊กตาชายตัวนี้”บาสเหลือบมองไปที่เจ้าของร้าน“คือใคร?”
เด็กน้อยมองไปรอบๆผ่านที่ต่อมายังคุณตำรวจที่บันทึกคดี มองบาสอีกครั้งแล้วก็มองรอบๆจนหยุดมาที่เจ้าของร้าน มองด้วยสายตาไม่พอใจ นิ้วชี้ก็พุ่งเป้าตรงไปที่เจ้าของร้าน ตำรวจที่อยู่และต่อ ก็ต่างตะลึงกับการกระทำของเด็กสาวน้อยๆคนนี้
“มันหมายความว่าไงกัน”เจ้าของร้านผงะจนล้มตกเก้าอี้ พยายามที่จะยืนลุกขึ้นใหม่แต่ก็ดูเหมือนขาไม่ค่อยจะมีเรี่ยวแรงจึงต้องใช้เก้าอี้เป็นตัวค้ำ สีหน้าดูซีดเผือกต่างกับตอนขามา ต่อถอนหายใจเฮือกหนึ่ง อย่างน้อยก็โล่งใจที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ก็ยังสงสัยอยู่ดีว่า บาสใช้วิธีอะไรกันแน่ ตุ๊กตางั้นเหรอ?
“ผมไม่ผิดนะ ผมถูกใส่ร้าย”ตำรวจเข้าจับกุมเจ้าของร้านกันเหนียวไว้ก่อน เจ้าของร้านพยายามดิ้นแต่ก็ไม่หลุดจากตำรวจกว่า3คนได้“แก
แกใส่ร้ายชั้น เป็นตำรวจภาษาอะไร มากลั่นแกล้งพลเมืองดีอย่างชั้น”
“คุณอาชา ทองสำเภา”จากใบหน้าของวัตสันที่ดูธรรมดาตอนนี้แววตาดูดุดันขึ้นทันตา เสียงคำพูดบวกกับสายตาที่จ้องมาสบตากับเจ้าของร้านทำเอาเจ้าของร้านเหมือนถูกมนต์สะกดไม่สามารถขยับได้แม้แต่ปลายนิ้วมือ
“คุณเคยมีแฟนมั้ย? อ๊ะ ผมหมายถึงภรรยาที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องน่ะ”คำพูดนี้ทำเอาเจ้าของร้านอึ้งแต่แววตากลับเริ่มลุกลี้ลุกลนเหมือนจะรู้ประโยคที่บาสจะพูดต่อ
“ดูเหมือนเขาเองจะรักคุณมากนะ เพราะอะไรกันน้า”บาสไม่ได้สีหน้าดุดันแต่เหมือนเป็นการยิ้มเยาะ ดั่งเสือที่มองและหยอกเล่นเหยื่อที่ไม่สามารถหนีได้
“เพราะคุณให้ของขวัญเขาหรอ หรือว่า
ปรนเปรอให้ทุกอย่าง แลกกับได้นอนกับเขา หึหึ”
“หุบปาก!!!”
“อ๊ะ โกรธอะไรกันครับ ผมพูดอะไรผิดไปรึเปล่า หรือว่าตอนนี้ภรรยาคุณไม่ได้อยู่กับคุณแล้ว เอ๊ะ แล้วเขาไปไหนล่ะ”
“บอกให้หุบปากไงเล่า!!”เจ้าของร้านหน้าแดงก่ำพยายามสะบัดตำรวจให้กระเด็นแต่ไม่อาจทำได้
“แล้วเด็กคนนี้เขาเป็นอะไรหรอ ห๊ะ หรือว่าทำให้นึกถึงตอนนั้น ตอนได้อยู่กับเขาหรอ”
“ว้าาก!!!”
“ท่าจะไม่ดีแล้ว จับมันเข้าตารางไปเลย”ตำรวจนายหนึ่งบอกเพื่อนๆให้ลากเจ้าของร้านที่อารมณ์พุ่งพล่านอยู่หายไปจากห้องนั้น สายตาที่เคียดแค้นจ้องมาที่วัตสันหนุ่ม แต่วัตสันก็ตอบกลับด้วยการยิ้มให้และโบกมืออำลา บรรยากาศกลับมาเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เอาล่ะ”บาสหันมามองเด็กสาวคนนั้น“คงต้องพาหนูส่งกลับบ้านไปแล้วล่ะ”บาสพาเด็กไปหาคุณตำรวจอีกคนที่อยู่ด้านนอก
“ช่วยพาเด็กคนนี้ไปส่งที่บ้านของเขาให้หน่อยสิ ”ตำรวจพยักหน้าแล้วพาเด็กคนนั้นไป บาสกลับมาที่เดิมเพื่อจะเก็บของ
“คดีทำได้ดีมากเลยครับ คุณนักสืบ ผมล่ะทึ่งจริงๆ”ตำรวจจ๊อบขอบคุณนักสืบทั้งสองคน
“จริงๆเป็นผลงานของนักสืบต่อซะส่วนใหญ่น่ะครับ”บาสตบไหล่ต่อ
“ถ้างั้นก็ ขอบคุณทั้งสองคนนะครับ”ตำรวจจ๊อบขอตัวออกจากห้องไป
“อ่า ได้เวลากลับบ้านแล้วสิ 2ทุ่มหรอเนี่ย ฮ้าว~”บาสอ้าปากหาวหวอด
“มันหมายความว่ายังไงกัน”ต่อพูดโพล่งขึ้นมา
“หือ?”
“ที่คุณทำไปทั้งหมดนี่ มันยังไงกันแน่”ต่อมองบาสอย่างไม่ไว้ใจ“คุณคิดอะไร หรือวางแผนอะไรอยู่กันแน่”
“หึหึ”วัตสันหนุ่มเช็ดรอยน้ำตาที่เกิดจากการหาวเมื่อครู่“คุณเป็นนักสืบไม่ใช่หรอ”
บาสตบที่ไหล่ต่อเบาๆ ยิ้มและหน้าเลื่อนเข้าไปใกล้เล็กน้อย
“งั้นคุณก็ลองหาคำตอบเอาเองดูสิ”แล้วบาสก็เดินจากไป ทิ้งปริศนาไว้ให้ต่อต้องกลับไปคิดอีก
“เฮ้อ! กรำ”ต่อหยิบเสื้อนอกแล้วเดินออกจากห้อง พึมพำและคิดในใจ ชีวิตให้มันได้ยังงี้สิ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น