(Rewrite) He's mine #มาเฟียไร้หัวใจชบ | CHANBAEK
ก้อนเนื้อสีแดงที่ขยับไหว ถูกแปรผันตามความรู้สึก แลกด้วยความรักชั่วนิรันดร์ และหัวใจหนึ่งดวง ที่ถูกจองจำชั่วกัลปาวสาน
ผู้เข้าชมรวม
5,534
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เสียงหยาดฝนที่กระทบพื้นเป็นจังหวะ
ทัศนียภาพสีเทาหม่นซึ่งเกิดมาจากสายฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างหนัก เท้าเล็กๆ
ในรองเท้าแตะสีขาวก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ โดยไม่เร่งรีบเฉกเช่นผู้คนโดยรอบ
ที่ทั้งวิ่งวุ่นหลบเข้าร่มหรือแม้แต่ครอบครัวฝั่งซ้ายที่เพิ่งออกมาจากร้านอาหารแล้ววิ่งกระหืบกระหอบเพื่อหลบเข้ารถ
ร่มสีฟ้าดูสดใสเข้ากับเสื้อยืดสีขาวธรรมดาๆ
กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลประมาณเข่าตัดกับผิวขาวเนียนได้อย่างลงตัวทำให้ 'เขา' ไม่ต้องกลัวน้ำที่นองพื้นกระเด็นมาเปื้อนปลายกางเกงจนอาจทำให้รู้สึกรำคาญ
เสียงแตรที่บีบเสียงดังของรถที่แล่นอยู่บนถนนหลายคันกับการจราจรที่ย่ำเเย่เป็นเรื่องเคยชินสำหรับเด็กชายวัย
12 ที่ต้องเดินทางสัญจรเส้นทางนี้เป็นประจำ
แบคฮยอนมุ่งหน้าตัดผ่านเส้นทางของถนนใหญ่เพื่อเข้าซอยฝั่งที่เขานั้นกำลังเดินอยู่
ทางนี้ผู้คนเริ่มหายไปจากครรลองสายตา เขารู้ดีว่าทางนี้นั้นใกล้กว่าอีกทางมากโข
เมื่อตัดสินใจก็เดินเข้าไปในซอยเล็กๆ เพื่อหลบหลีกเสียงดังหนวกหู
ซึ่งมันทำให้หน้าฝนนี้น่าเบื่อไปถนัดตา
ยิ่งก้าวเดินเข้าไปในตรอกซอยเล็กๆ
ผู้คนมากมายในตอนนี้กลับมีเพียงเด็กชายตัวเล็กเพียงคนเดียว
สายฝนที่เทกระหน่ำลงมาไม่หยุด ทำให้เสื้อที่ใส่อยู่เริ่มเปียกไปตาม
หยดน้ำเกาะตามแขนขา แถมบางส่วนกระเด็นมาเปรอะใบหน้าของเขาเพราะร่มเล็กๆ
คันนี้ไม่สามารถบดบังสายฝนเม็ดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังพิโรธบางสิ่ง
ฝ่ามือขาวเนียนอีกข้างที่ไม่ได้จับคันร่มยกขึ้นเช็ดใบหน้าที่เปรอะไปด้วยหยดน้ำ
ภาพที่ปรากฏในสายตาใครบางคนช่างดูงดงามราวกับถูกจับวางเมื่อได้เห็นใบหน้าของเด็กชายภายใต้ร่มสีฟ้าสดใส
ดวงตาใสกับหางตาตกๆ ดูเหมือนสุนัขที่กำลังออดอ้อนอย่างน่ารัก จมูกโด่งเล็กๆ
ช่างหน้ามันเขี้ยวนั่นรับกับริมฝีปากบางสีชมพูเข้มจนทำให้'เขา' รู้สึกอยากลองกัดปากเล็กๆ
นั่นสักครั้ง เสื้อสีขาวบางๆ แนบไปกับลำตัวที่ดูอ้อนแอ้นเกินกว่าจะเป็นผู้ชาย
เอวคอดๆ ที่เขาอยากลองสัมผัส ไหนจะขาขาวเนียนภายใต้กางเกงขาสั้นนั่น
แบคฮยอนเดินเข้าไปในตรอกซอยมืดๆ เรื่อยๆ
โดยไม่รู้สึกถึงสายตากระหายอยากของใครบางคนที่หลบอยู่ในมุมมืดสุด หากแต่เด็กชายวัยสิบสอง
ยังคงมุ่งหน้าเดินไปในเส้นทางที่คุ้นชินอย่างมุ่งมั่น
กึก!
เสียงบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวในมุมอับฝั่งด้านขวามือนั้นทำให้เด็กชายวัยสิบสองปี
หยุดชะงัก
แม้เสียงสายฝนที่ตกลงมาอย่างแรงนั้นก็ไม่อาจกลบเสียงของบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในหลืบซอกตึกตรงนั้นได้
ปลายเท้าในรองเท้าแตะสีขาวเปลี่ยนทิศทางทันทีตามกลไกของมนุษย์ที่มีความอยากรู้อยากเห็น
แบคฮยอนเดินเข้าไปหาต้นเสียงช้าๆ ในขณะที่หัวใจของเขากำลังเต้นแรงอย่างตื่นเต้น
เพ่งมองเข้าไปก็พบกับร่างใหญ่ๆ
ของมนุษย์จึงทำให้เขาโล่งใจไป เด็กชายนึกว่าจะเป็นสัตว์ตัวใหญ่ๆ
น่ากลัวที่อาจกำลังบาดเจ็บหรือไม่ก็ลูกสุนัขตัวเล็กๆ ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ
แบคฮยอนก้าวเท้าเข้าไปหา
แม้จะมืดหากแต่แสงจากดวงจันทร์ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาถึงอย่างรู้เวลานั้นทำให้เขาได้เห็นผู้ชายร่างกำยำในเสื้อกล้ามสีดำพร้อมกับกางเกงเนื้อดีสีเดียวกันที่เปียกลู่กำลังนั่งชันเข่าอยู่ไม่กลัวเม็ดฝนที่ตกลงมาจนทั้งร่างกายเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำฝน
"คุณครับ! "
น้ำเสียงหวานเอ่ยเรียกบุรุษในชุดสีดำที่กำลังก้มหน้าอยู่
เขาเริ่มกังวลเมื่อคนตรงหน้านั่งท่าเดิมไม่ขยับเขยื้อน เสียงหวานที่กระทบหูของ 'เขา' ทำให้เขานั้นลองเงยหน้าขึ้นเพื่อจับจ้องใบหน้างดงามนั่นอีกครั้ง
แม้นสายฝนจะบดบังความชัดเจนของสายตา
หากแต่ไม่ใช่ในครั้งนี้ แบคฮยอนหายใจสะดุดไปในทันทีที่สบกับดวงตาคมโตนั่น
ใบหน้าหล่อเหลาที่เปียกไปด้วยหยดน้ำดูเซ็กซี่และน่าค้นหา จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหนาที่ปิดสนิท
"มานั่งตากฝนในที่มืดๆ
แบบนี้ทำไมครับ" เมื่อตั้งสติที่หลุดกลับมาได้
แบคฮยอนก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วงตามนิสัยของตัวเอง
ไม่แม้แต่จะคิดว่าชายแปลกหน้าจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดี
จิตใต้สำนึกของเขาคืออยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่กำลังเดือดร้อน
แม้ตัวเองจะมีเพียงร่มคันเดียวที่พกมา แต่ก็สามารถสละแบ่งปันให้ได้
เด็กชายยื่นร่มไปบดบังเม็ดฝนให้ผู้ชายร่างใหญ่ตรงหน้า
เขาค้อมตัวลง
ใบหน้าหวานส่งยิ้มน่ารักไม่สนใจว่าตัวเองจะเปียกฝนสักนิดพร้อมเอ่ยเตือนชายคนเดิมที่แบคฮยอนไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
เพราะหากถ้าเด็กชายได้รู้สักนิดละก็อาจจะเดินหนีออกไปจากตรงนี้เลยก็ได้
"ระวังไม่สบายนะครับ
อากาศเริ่มหนาวขึ้นทุกที พกร่มของผมเอาไว้นะครับ"
ฝ่ามือหนาของบุรุษแปลกหน้าไม่แม้แต่จะยื่นมือเข้าไปรับน้ำใจของเด็กชาย
หากแต่กลับเอ่ยถามเสียงแหบต่ำแต่ช่างเย้ายวนสะจนเด็กน้อยรู้สึกมวนท้องแปลกๆ
"นายชื่ออะไร"
แบคฮยอนตัดสินใจนั่งยองๆ ลงตรงหน้าชายหนุ่มรูปงาม
แม้จะแปลกใจที่มีคนมานั่งในซอยมืดๆ นี้ แต่เขาก็ไม่คิดอะไรมากมายให้ปวดหัว
"ผมพยอนแบคฮยอน
แล้วคุณล่ะครับ" น้ำเสียงหวานใสเอ่ยตอบ
เขาไม่ทันสังเกตเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของอีกคน
เพราะเขาเงยหน้ามองดูเม็ดฝนที่เริ่มซา
"ชานยอล ปาร์คชานยอล"
น้ำเสียงทุ้มแหบเอ่ย
"คุณชานยอล"
แบคฮยอนพึมพำชื่อของผู้ชายแปลกหน้าอย่างตั้งใจเหมือนเป็นการจดจำไปในตัว
ซึ่งเขานั้นก็ได้รับการพยักหน้าส่งมาให้
"!!!!! " แต่ก่อนที่แบคฮยอนจะได้ถามอะไรอีก
ฝ่ามือหนาของชานยอลก็คว้าข้อมือของเขาดึงเข้าหาตัว ชุดของทั้งคู่ที่เปียกแฉะไปด้วยน้ำฝนนั้นยิ่งทำให้สัมผัสของทั้งสองแนบชิดยิ่งขึ้นไปอีก
แบคฮยอนตาโตทำอะไรไม่ถูก ร่มที่เขาถือไว้หลุดมือไปในทันทีที่ชายแปลกหน้า
ฉุดเขาเข้าไปกอด
เมื่อร่างเล็กตั้งสติได้เขาจึงรีบดันหน้าอกอีกฝ่ายออกห่างแต่ชายกำยำตรงหน้าช่างแข็งแรงเกินจะขยับไหว
ดวงตาตกๆ จ้องมองดวงตาคมอย่างตกใจ
"คุณชานยอลทำอะไรครับ
ปล่อยนะ" แม้จะเอ่ยถามเอ่ยขอร้อง
อีกฝ่ายก็ไม่แม้แต่จะคลายอ้อมกอดที่เริ่มรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ แบคฮยอนดิ้นขลุกขลัก
สายตาก็หลุบต่ำไม่กล้าจ้องนัยน์ตาที่เย้ายวนชวนฝันของชานยอลอีก
"อ่า..." เด็กชายวัยสิบสองชะงักไปในทันทีเมื่อเสียงครางทุ้มที่ดังข้างหูทำให้ขนทั้งร่างของเขานั้นตั้งชัน
"ขยับอีกสิ"
เสียงแหบทุ้มกระซิบชิดริมหูทำเอาแบคฮยอนช็อกค้างไม่กล้าขยับเขยื้อน
ร่างกายแข็งทื่ออย่างฉับพลันเหมือนถูกถอดปลั๊ก
ใจของเขาร้องขอความช่วยเหลืออย่างบ้าคลั่งเมื่อตนตั้งสติได้ว่าเขานั้นให้ความช่วยเหลือคนไม่ดีสะได้
"คะ..คุณ ปล่อยผมนะครับ"
เอ่ยบอกด้วยเสียงสั่นไหว ช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างน่าสงสาร
ร่างกายที่สั่นเทาอย่างควบคุมไม่อยู่ยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณดิบของปาร์คชานยอลออกมา
ร่างสูงใหญ่รู้สึกอยากขย้ำร่างกายอ้อนแอ้นบอบบางนี้ให้เป็นรอยด้วยน้ำมือของเขาแต่เพียงผู้เดียว
เพียงพบพานกันไม่กี่นาทีแต่กลับให้ความรู้สึกนานนับปี
อยากครอบครอง อยากได้และเขานั้น...
"งดงาม" แขนแกร่งกระชับรอบเอวคอดให้เข้ามาใกล้อีก
ยิ่งเสียดสีกันอุณหภูมิก็เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
แม้รอบกายจะหนาวเหน็บหลังจากฝนหยุดตกไปแล้วก็ตาม
ก็ต้องได้…
“ใบหน้า และทุกอย่างที่เป็นเธอ”
“...”
“ฉันอยากได้มาเป็นของฉันทั้งหมด”
"ค..คุณหมายถึง..อื้อ.."ลมร้อนเป่ารดซอกคออย่างหยาบคาย
แบคฮยอนย่นคอหนี มือบางพยายามดันตัวออกจากอีกคนแต่ก็เช่นเคยนอกจากจะไม่ขยับแล้ว
ริมฝีปากหนานั่นก็เริ่มลากไล้ตามสันกรามของแบคฮยอน
จนทำให้เขานั้นรู้สึกมวนท้องอีกรอบ
"บอกฉันสิ
ว่านายเป็นของฉัน" เสียงทุ้มเอ่ยชิดกับแก้มของแบคฮยอน
ดวงตาคมจ้องเข้ามาอย่างจาบจ้วง
เด็กชายกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเมื่อเขาไม่เอ่ยตอบอะไร
ยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายเริ่มรุกล้ำเข้ามาเรื่อยๆ
ฝ่ามือหนาสอดเข้ามาใต้เสื้อตัวบางที่เปียกลู่แนบไปกับลำตัว
ความร้อนแล่นพล่านทันทีเมื่อถูกชานยอลสัมผัส
"ผ..ผม อึ้ก.."
แรงขย้ำเนื้อตรงช่วงเอวยิ่งทำให้เด็กชายไม่กล้าเอ่ยอะไรเพราะตกใจ
"พูด!!! "
เสียงตะคอกที่มาพร้อมกับความเย็นตรงช่วงบนของร่างกายทันทีที่สัมผัสอากาศหนาวทำให้แบคฮยอนรู้ตัวว่าเขานั้นถูกถอดเสื้อออกไปแล้ว
จากที่สั่นอยู่แล้วก็ยิ่งสั่นเข้าไปใหญ่
"ผ..ผมเป็นของคุณค..ครับ"
ความรู้สึกหวาดกลัวถูกผสมปนไปกับความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้
เหมือนการปรุงอาหารที่ลิ้มรสความรู้สึกบางอย่างไม่ออก อาจจะหวานเค็มหากแต่มีอีกรสที่ทำให้อาหารจานนี้อร่อยขึ้นมา
แม้เหมือนเด็กอย่างเขากำลังถูกบังคับ
"หึ นายเป็นของใครพูดชื่อออกมา!!
"
หากแต่
"ผมเป็นของคุณครับ
คุณปาร์คชานยอล!!! " ตะคอกกลับสุดเสียงจนหน้าแดง
หากร่างแกร่งตรงหน้าต้องการให้เขาเอ่ยตามที่สั่ง แบคฮยอนก็พูดออกไปแล้ว
ถือว่าหมดสิ้นภาระที่ต้องมาอยู่ให้อีกคนกอด
แต่ในเศษเสี้ยวความรู้สึก
เขากลับย้อนแย้งและอยากได้รับอ้อมกอดจากคนแปลกหน้าคนนี้
แต่นอกจากชานยอลจะไม่ปล่อยแล้ว
"จำชื่อนี้ไว้ให้ดีแบคฮยอน"
"....."
มีสิ่งหนึ่งที่เด็กอย่างเขาสามารถแยกแยะความรู้สึกแ
ปลกๆที่ก่อตัวขึ้นได้ แม้เป็นเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของเศษเสี้ยวอารมณ์หรืออะไรก็ตาม
เขารับรู้บางอย่างได้
"เพราะตั้งแต่นี้ต่อไป"
คือความรู้สึกอบอุ่นเหมือนมีเตาผิงมาวางไว้ใกล้ๆตรงกันข้ามกับความหนาวเหน็บของสายฝนที่ตกกระทบลงมาไม่หยุด
"....."
ความรู้สึกนั้นกำลังแทรกซึมลงไปในสมองให้ได้จดจำ เหมือนหยดน้ำที่ถูกรินรดให้แทรกซึมลงไปในดินและงอกเงยเมล็ดพันธุ์บางอย่างให้เติบโต
"นาย...เป็นของฉันแล้วเด็กน้อย"
จดจำเจ้าของที่เริ่มคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
ประโยคสุดท้ายที่เอ่ยออกมาของร่างสูงใหญ่พร้อมกับสติที่พร่าเลือนของแบคฮยอน
ความมืดมิดคือสิ่งสุดท้ายที่มองเห็น
แววตาคมก้มมองใบหน้าหวานที่หลับพริ้มอย่างน่าเอ็นดูแว๊บหนึ่ง
แล้ววกสายตามองรอยปานแดงที่หน้าอก เขายกมือลูบรอยนั้นเบาๆอย่างอ่อนโยน
รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าแสนเย็นชาที่ไม่เคยแสดงสีหน้าแบบนี้ให้ใครได้เห็น ก่อนจะอุ้มร่างเล็กๆ ขึ้นแนบอก
หากแบคฮยอนลองตั้งใจสัมผัสเขามากกว่านี้ จะรู้ว่าทุกการแตะต้องของชานยอล อ่อนโยนและทะนุถนอมร่างเล็กเหมือนกลัวแตกสลายได้ทุกเมื่อ
ร่างสูงสง่าที่ไม่เข้ากลับตรอกซอยชนบทแถบนี้แม้แต่น้อย
รถหรูสีดำที่จอดอยู่ปากทางเข้าซอยแคบๆ นี้คือจุดหมาย
โดยที่เขาไม่รู้เลยว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับสถานะของเด็กธรรมดาๆ
วัยสิบสองกลายเป็นคนสำคัญของมาเฟียไร้หัวใจ....
เป็นหัวใจที่ถูกซ่อนไว้จากหัวขโมยทั้งหลายที่จะมาพรากจากผู้ชายคนนี้ไป....
เป็นทั้งชีวิต ที่เคียงคู่ข้างกันบนบัลลังก์
#มาเฟียไร้หัวใจชบ
ติดตามการอัพเดตนิยายได้ที่ทวิตเตอร์ @snowywithice
talk:เรื่องนี้ไรท์นำกลับมารีไรท์ใหม่นะคะ
สำหรับคนที่รอ วันนี้ไรท์กลับมาอีกแล้วยังไงฝากด้วยนะคะ
ผลงานอื่นๆ ของ หิมะผู้เย็นชา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ หิมะผู้เย็นชา
ความคิดเห็น