กามเทพขังรัก (อ่านได้ที่ meb) - กามเทพขังรัก (อ่านได้ที่ meb) นิยาย กามเทพขังรัก (อ่านได้ที่ meb) : Dek-D.com - Writer

    กามเทพขังรัก (อ่านได้ที่ meb)

    "ถ้าเธอรักฉัน ก็อย่าไปมองผู้ชายคนอื่น แจกยิ้มเรี่ยราดอย่างนั้นอีก" "แล้วถ้าฉันขอเหมือนคุณบ้างล่ะคะ คุณจะยอมทำไหม" "เธอคิดว่าเธอเป็นใคร หืม! อย่าคิดที่จะมาออกคำสั่งกับฉัน!"

    ผู้เข้าชมรวม

    64

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    64

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 ก.ย. 67 / 18:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

                                      วิวาห์จำยอม NC 

       'รักกันนาน ๆ มีหลานไว ๆ นะลูก' เสียงคุณเพ็ญแขมารดาของสามีหมาด ๆ ยังคงดังกึกก้องอยู่ข้างหู แม้ท่านจะออกจากห้องไปนานแล้ว ทว่าด้วยความเงียบเชียบชวนอึดอัดบวกกับคำอวยพรที่น่าตกใจนั่นด้วยล่ะมั้ง เลยทำให้เธอนั่ง พวงแก้มแดงซ่านเกินกว่าจะปิดบังมันเอาไว้ได้ ซึ่งต่างจากฝ่ายเจ้าบ่าวที่เมื่อหมดหน้าที่เสแสร้งก็รีบขยับตัวถอยห่างคนตัวเล็กราวกับรังเกียจ  
      "เรื่องที่แม่ฉันพูดเมื่อกี้ก็ทำเป็นลืม ๆ ไปซะ เพราะยังไงเราก็ต้องหย่ากันอยู่ดี" 
      รามิลตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากดวงตาที่พิศมองร่างเล็กกลับแฝงไปด้วยไฟโทสะที่สามารถแผดเผาคนที่โดนมองกลายเป็นจุณในพริบตาเดียว
      ช่อพิกุลหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้าแม้แต่มองปลายเท้าของเขา 
      เธอรู้จักกับรามิลเพราะเป็นพนักงานในบริษัทของเขามาสองปี ก่อนที่เขาจะคบกับรสาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอ
      ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนมเลยแอบมีความรู้สึกดี ๆ ให้เขา กระนั้นเมื่อเขามีใจให้เพื่อนเธอ เธอก็พร้อมหลีกทางและคอยให้คำปรึกษาจนเขาจีบรสาได้สำเร็จ 
       แต่แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้เขากลายเป็นคนที่เธอแทบไม่รู้จักก็เกิดขึ้น เมื่อตอนเช้าของเดือนที่ผ่านมา เขาตื่นขึ้นมาและพบว่าบนเตียงกว้างมีเธอนอนเปลือยอยู่ข้างกาย เวรซ้ำกรรมซัดคุณเพ็ญแขและแฟนสาวของเขาดันเปิดประตูเข้ามาพบภาพอุจาดตานั่นอีก 
       รสาร้องไห้โฮก่อนบอกเลิกแฟนหนุ่มและหันมาตัดความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่คบกันมาเกือบห้าปีหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อหล่อนได้อีกเลย 
      รามิลทั้งโกรธ ทั้งก่นด่าเธอสารพัด คำพูดที่รุนแรงที่สุดก็คือ เขากล่าวหาว่าเธอร่านถึงขนาดทรยศหักหลังเพื่อนตัวเองลงคอ  หากความเป็นจริง เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุใดถึงมานอนในห้องกับเขาได้ รู้เพียงแค่ว่าพอโดนต่อว่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรงแบบไม่ทันได้ตั้งรับ เขื่อนน้ำตาก็พังครืนจนห้ามมันเอาไว้ไม่อยู่ 
      "..."
      "อ้อ อีกเรื่อง...ฉันเปลืองเงินสินสอดไปตั้งมากมาย เพราะงั้นตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ร่างกายของเธอก็คือของฉัน ห้ามขัดขืนเด็ดขาดเพราะเธอไม่มีสิทธิ์ปริปากปฏิเสธใด ๆ ตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาหาฉัน" 
      ชายหนุ่มเอ่ยข้อตกลงค่อนไปทางบังคับ แล้วเธอจะคัดค้านเขาได้อย่างไร นอกเสียจากก้มหน้ายอมรับอย่างคนขลาดเขลา 
      "แก้ชุดออก แล้วนอนรอฉันบนเตียง ถ้าฉันออกมาจากห้องน้ำแล้วยังเห็นอยู่ในสภาพนี้ เธอไม่ตายดีแน่" ออกคำสั่งเสร็จ เขาก็ก้าวอาด ๆ เข้าห้องน้ำไปอย่างหัวเสีย 
      ช่อพิกุลกำชุดเจ้าสาวแน่นขนัดจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน นึกน้อยเนื้อต่ำใจที่เขาทำเหมือนกับเธอเป็นผู้หญิงขายตัว 
       รามิลที่เธอรู้จักหายไปไหนกันนะ... 

      "อ้าออกสิ จะหุบไว้ทำไม ทีตอนแก้ผ้าให้ฉันเอาฟรี ๆ ยังทำมาแล้ว ตอนนี้ไม่ให้เอาฟรี ๆ แล้วนี่จะอายอะไรฮะ!" ชายหนุ่มที่เดินโทง ๆ ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพเปลือยเปล่าตะหวาดเสียงดังลั่น เมื่อร่างบางเอาแต่หุบขา ถอยตัวหนีต่อต้านทุกสัมผัสจากเขา
      "คุณมิล คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย" 
      "เออ คนอย่างฉันจะเป็นลูกผู้ชายก็ต่อเมื่ออยู่กับคนที่ดี ไม่ใช่เสแสร้งเหมือนเธอ" 
       คนตัวโตไม่ว่าเปล่ารีบคว้าเอาข้อเท้าเล็กลากประชิดตัว ถ่างเรียวขาเสลาแยกจากกัน จากนั้นจึงแทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงช่องว่างระหว่างขาสองข้าง
      "ฮึก...มันจะมากเกินไปแล้วนะ" หญิงสาวเอ่ยเสียงสะอื้น สองมือปัดป้องฝ่ามือใหญ่ที่สาละวนอยู่หน้าอกอวบ หากแรงอันน้อยนิดก็ไม่สามารถทำให้เขายอมรามือได้ 
      "มากไปงั้นเหรอ ฉันต่างหากต้องเป็นคนพูดคำนั้น เธอเป็นต้นเหตุทำให้ความรักของฉันพังก็ต้องรับผิดชอบสิ" 
      "อ๊ะ..." ไม่มีการเล้าโลมใด ๆ ตัวตนที่พองขยายใหญ่กว่าช่องทางคับแคบก็ตอกตรึงเข้ามาอย่างรุนแรง ทุกการเคลื่อนสะโพกเข้าออกจะเรียกว่าดิบเถื่อนเลยก็ไม่ผิดนัก 
      "อย่าริอาจมาท้าทายฉันจำใส่หัวเอาไว้" รามิลสวนตัวตนเข้าไปในโพรงเนื้อนุ่ม ถือโอกาสสั่งสอนหล่อนกราย ๆ ว่าถ้าเกิดต่อต้านเขาอีก จะต้องเจอกับอะไรในภายภาคหน้า
      "ฉันเจ็บ...คุณมิล...อ๊ะ...อื้อ" ขอร้องวิงวอนให้เขาเห็นใจ แต่ดูเหมือนยิ่งพยายามอ้อนวอนมากเท่าไหร่ แรงจากส่วนล่างยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ 
      "เธอเจ็บแค่นี้ยังไม่เทียบเท่ากับสิ่งที่ฉันเจ็บด้วยซ้ำ" พ่นวาจาหยาบกระด้าง ไม่ได้แยแสคนใต้อาณัติ แม้หล่อนจะร้องไห้สะอึกสะอื้นปานจะขาดใจตายลงตรงนั้นก็ตาม 
       ด้วยความคั่งแค้นบวกกับไฟราคะที่สุมอยู่ภายในอกย้ำเตือนว่า เขาไม่ควรปล่อยเธอง่าย ๆ อย่างน้อยก็ให้หล่อนได้ชดใช้เสียก่อน

      ร่างสูงโปร่งของรองประทานหนุ่มโผล่พ้นประตูเข้ามาด้วยสภาพสุดเนี๊ยบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทว่าใบหน้าหล่อเหลากลับปราศจากร่องรอยแห่งความสุขเหมือนคนที่เพิ่งผ่านพิธีวิวาห์ทั่วไป แถมยังขี้หงุดหงิดไปอีก
      "ถ้าเกิดคราวหน้ายังทำงานกันไม่รอบคอบแบบนี้อีก ผมจะไล่พวกคุณออกให้หมด"
       ดวงตาหลายคู่เสมองพื้นหลบสายตาตำหนิของเจ้านายหนุ่ม 
       ไม่รู้ว่าฟ้าพิโรธแผ่นดินทลายหรืออย่างไร ถึงทำให้คนที่เก็บอารมณ์ได้ดีกลับกลายเป็นอารมณ์ร้อนชั่วข้ามคืน
      "ค่ะ ท่านรอง" เสียงตอบกลับมาของพนักงานเบาหวิวติดสั่นเพราะทำตัวไม่ถูก เมื่อโดนจับจ้องไม่วางตา
      "เรียกช่อพิกุลมาที่ห้องผมด้วยนะ" ออกคำสั่งเสร็จสรรพก็หมุนตัวไปเลย ปล่อยให้พนักงานต่างมองหน้ากันด้วยความงุนงง 

      "ช่อ! ท่านรองเรียกน่ะ" 
      เอ่ยทักร่างเพรียวบางที่นั่งหลังตรง ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างขมักเขม้น 
      หญิงสาวละสายตาจากงานเบื้องหน้าหันมาหาคู่สนทนาอย่างให้ความสนใจ 
      "ท่านรองเรียกช่อเหรอคะ" ขมวดคิ้วสงสัย 
      "ก็ใช่น่ะสิ ไม่รู้ไปอารมณ์เสียอะไรมาถึงได้อาละวาดใหญ่เลย" ถือโอกาสฟ้องระคนระบายให้ภรรยาเจ้านายฟัง 
       ด้วยช่อพิกุลเป็นรุ่นน้องที่เธอค่อนข้างสนิทสนม ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะมักเล่าให้ฟังอยู่เสมอ เช่นนั้นเธอจึงกล้าพูด กล้าคุย กล้าบ่น แม้บุคคลที่อยู่ในบทสนทนาจะเป็นถึงเจ้านายพ่วงตำแหน่งสามีเพื่อนก็ตาม 
       "อาละวาดอย่างนั้นเหรอ?" ทวนคำชั่ววูบนึงรู้สึกใจคอไม่ดีอย่างประหลาด
       "เข้าหอคืนแรกทำพลาดอะไรรึเปล่า ท่านรองถึงกลายเป็นคนขี้วีน" ปนัดดาเย้าแหย่ ก่อนตามมาด้วยเสียงหัวเราะร่วน
       "ปะ...เปล่านะคะ"
       "เสียงสั่นเชียว ทำพลาดจริง ๆ อะดิ" คนอายุมากกว่าแซวไม่หยุด พอเห็นรุ่นน้องแก้มแดงซ่านก็ได้ใจเข้าไปใหญ่
       "..."
       "ช่อนะช่อไม่เซียนเอาเสียเลย พวกพี่เลยโดนหางเลขไปด้วยเนี่ย" 
      "พี่ดาน่ะ" กลอกตามองอย่างเอือมระอา
      "ยังไงก็ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ คุยกันล่ะ พี่ยังไม่อยากตายในหน้าที่ พี่มีครอบครัวที่ต้องดูแล" 
       ปนัดดาบีบไหล่เบา ๆ ให้ความหวังแกมให้กำลังใจรุ่นน้อง 


       "ทุกครั้งที่ฉันเรียก เธอต้องมาไม่เกิน 5 นาที" 
       "ไม่งั้นจะโดนฉันเอาหนัก ๆ" เมื่อพาตัวเองเข้ามาถึงที่หมาย เสียงทุ้มต่ำก็ลอยมาทันที ก่อนปรากฏร่างหนาที่ขณะนี้ยืนกอดอกมองนาฬิกาข้อมือ ตำหนิแกมข่มขู่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
       ไอ้ประโยคแรกเธอไม่ได้นึกกังวล หากประโยคหลังนี่สิ ทำเอาใบ้รับประทานไปชั่วขณะ
       "ฉันจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนแล้วกัน"
       "คุณรามิล!" กว่าจะเปล่งเสียงออกมาได้ก็ตอนที่เขาเข้ามากระชากแขน กดบ่าไหล่เธอแนบกับโต๊ะทำงานเรียบร้อยแล้ว
       "ทำไม หืม...เดี๋ยวนี้กล้าขึ้นเสียงเหรอ เผยธาตุแท้ออกมาแล้วสินะ"
       "มะ ไม่..."
       "นับแต่นี้เป็นต้นไป เวลาที่ฉันเรียกมาที่ห้อง ขอให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่เรื่องงาน" เขาเว้นจังหวะไปพักนึงก่อนเอ่ยต่อ
       "ถ้าขัดคำสั่งหรือมาช้าก็เตรียมตัวรับบทลงโทษเอาไว้เลย"
       "ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าตายทั้งเป็นมันเป็นยังไง"  
        รามิลกล่าวเจตนารมณ์จบก็ถอดกระโปรงยาวกรอมเท้าของอีกฝ่ายไปให้พ้นตัว ก่อนหันมาจัดการกับกางเกงตัวเอง จับงัดแท่งรักที่พรักพร้อมสำหรับบทลงโทษ
       "...อย่านะ" หญิงสาวต่อต้านเสียงเบาหวิวราวกับเสียงร้องของสัตว์เล็ก รวบรวมพละกำลังที่มีหมายจะผลักไสเขาออกห่าง ทว่าทุกอย่างดูเหมือนจะไม่เป็นดั่งคาด เมื่อคนได้เปรียบแนบชิดแผ่นอกแน่นหนั่นลงมาประชิดแผ่นหลังบอบบาง มือหนาล็อกแขนสองข้างติดกับพื้นโต๊ะ จนเธอมิสามารถขยับขัดขืนออกจากพันธนาการไปไหนได้
        "เธอเลือกที่จะแต่งงานกับฉันเองนะช่อพิกุล" 
        "เพราะงั้นจะหาว่าฉันใจร้ายมันก็ชักกระไรอยู่" 
        "ถ้าจะมากล่าวหากันหน้าด้าน ๆ แบบนี้ คุณเองก็ไม่ต่างกันหรอกค่ะ"
        จู่ ๆ หญิงสาวที่ไม่ค่อยสู้คนก็พูดโพล่งด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง 
       เขาลืมไปแล้วหรือว่า หากเขาไม่เมามายและหักห้ามใจ เรื่องทุกอย่างก็คงไม่เลยเถิดแบบนี้    เช่นนั้นจะมาโทษเธอฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้
       "..."
       "ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกนะ..."
       "ยอมรับแล้วใช่ไหมว่ามันเป็นแผนของเธอ" ดั่งราดน้ำมันลงไปในกองไฟ จากที่โมโหเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งเพิ่มระดับอารมณ์ให้คนฟังพุ่งสูงขึ้นไปอีกเท่าตัว
       "คุณคิดแบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ ต่อให้ฉันไม่ยอมรับ คุณก็จะทำให้ฉันยอมรับอยู่ดี ดังนั้นปฏิเสธไปเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์จริงไหมคะ" 
       ชายหนุ่มคล้ายกับโดนค้อนทุบแสกกลางศีรษะ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอีกต่อไป เมื่อถูกโทสะครอบงำจนสติไม่หลงเหลือให้ไตร่ตรอง
       เขาไม่เอ่ยอะไรเพื่อเปิดทางให้หล่อนต่อว่าต่อขานอีก พริบตาเดียวก็ชำแรกแท่งร้อนที่ก่อนหน้านี้ถูไถอยู่ที่บั้นท้ายเข้ามาในโพรงสวาทคราวเดียวจนมิดลำ 
       ช่อพิกุลกัดริมฝีปากแน่นขนัด น้ำตาเอ่อล้นท่วมใบหน้าด้วยความอดสู นึกสมเพชเวทนาตัวเองในเวลานี้เหลือเกิน 
       หากย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่มีวันยกหัวใจให้เขาอย่างแน่นอน...
      

      อ่านเต็ม ๆ ได้ที่ meb นะคะ 

    https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMzgwNDMxMiI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjMyMTk3MSI7fQ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×