Gekkou
no kioku
月光の記憶
- ความทรงจำของแสงจันทร์ –
เสียงโลหะกระทบกันดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
ราวกับจะสะท้อนเสียงกู่ร้องอย่างบ้าคลั่งของเหล่าทหารทั้งสองฝ่าย ณ
ที่แห่งนี้สงครามขับไล่ต่างแดนยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด
สงครามอันยืดเยื้อยาวนานกว่ายี่สิบปีที่กลืนกินชีวิตของเหล่าซามูไรผู้หมายมั่นจะปกป้องอนาคตของดินแดนแห่งนี้
ในการบที่มีทั้งแพ้และชนะ ย่อมมีคราวที่เป็นฝ่ายได้เปรียบและเสียเปรียบ ....และโชคไม่ดีที่คราวนี้ผู้เป็นฝ่ายเสียเปรียบนั้นคงจะเป็นเขา
ชายที่ถูกเรียกขานว่าผู้นำแห่งกองทัพปีศาจตวัดดาบฟาดฟันใส่สัตรูที่อยู่ตรงหน้า นัยน์ตาสีเขียวกระจ่างในยามนี้ขุ่นมัวด้วยอารมณ์โกรธเคือง กองทัพของพวกเขาถูกซุ่มโจมตีในพื้นที่ที่ศัตรูเป็นฝ่ายได้เปรียบ การซุ่มโจมตีที่ถูกเตรียมการมาอย่างดีนั้นแม้จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายใหญ่แต่ก็ทำให้กองทัพของเขากระจัดกระจายกันไปคนละทิศทาง นี่คงจะเป็นอีกแผนหนึ่งของบาคุฟุที่หวังจะเข้าจัดการกองทัพของพวกเขาในยามที่เสียขบวน
แม้แผนรับมืออย่างดีจะถูกเตรียมพร้อมเอาไว้โดยบุรุษผมยาวผู้นำกองทัพใหญ่ หากแต่ในยามสงครามที่ไม่อาจคาดเดาโชคชะตาของตนได้นั้น การเชื่อมั่นในดาบที่คอยฟาดฟันศัตรูตรงหน้าคงจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำได้ ปลายดาบคมตวัดไปพร้อมกับโลหิตสีแดงฉานที่สาดกระเซ็น ราวกับปลายพู่กันที่รังสรรค์งานศิลปะจากห้วงลมหายใจสุดท้ายของศัตรู เขาฟาดฟันศัตรูที่อยู่ตรงหน้าคนแล้วคนเล่า ก่อนนัยน์ตาสีเขียวกระจ่างจะสะท้อนภาพของร่างคุ้นตาที่ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเหล่าอมนุษย์เอาไว้ได้ ปลายดาบคมถูกตวัดเข้าหาศัตรูตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนเขาจะฝ่าวงล้อมเข้าไปฟาดฟันศัตรูกำลังที่เงื้อมดาบเข้าหาแผ่นหลังที่คุ้นตานั่น
แผ่นหลังทั้งสองถอยชนกันท่ามกลางวงล้อมของอมนุษย์ชาวสวรรค์
ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆเพื่อประเมินสถานการณ์ ศัตรูตรงหน้ามีอยู่ประมาณเจ็ดสิบตนหรือมากกว่า
กับพวกเขาเพียงสองคนที่ถูกต้อนให้ออกห่างจากทัพของตนเอง ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มเยาะให้กับสถานการณ์ที่ชวนสิ้นหวังตรงหน้าก่อนเอ่ยทักบุรุษที่อยู่ด้านหลัง
“เนื้อหอมเป็นบ้าเลยนี่....
คนที่อยู่ทัพหลังอย่างนายมาทำอะไรอยู่ที่แนวหน้ากันล่ะ ทัตซึมะ?”
บุรุษที่ถูกเรียกขานว่ามังกรแห่งคาซึระฮามะหัวเราะร่วนด้วยเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ก่อนเอ่ยตอบ
“พอดีว่าทัพหลังของฉันถูกซุ่มโจมตีน่ะนะ
พอรู้ตัวอีกทีก็ดันมาโผล่เอาที่นี่ซะได้”
“พวกซึระกับกินโทกิล่ะ?”
“ก็น่าจะแยกกันไปอย่างที่เห็นนั่นแหล่ะ
ถึงจะมีแผนรับมือแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงแล้วสิ”
แม้จะเอ่ยเคล้าเสียงหัวเราะร่วนอย่างทุกทีแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความตึงเครียดในน้ำเสียงนั้น ถึงแม้ว่าซากาโมโต้
ทัตซึมะจะไม่ได้อ่อนด้อยในเรื่องของการสู้รบ แต่ก็ไม่ได้มีฝีมือเทียบเท่าระดับยักษ์มารอย่างซึระหรือกินโทกิ
การจะตีฝ่าวงล้อมศัตรูจำนวนขนาดนี้จึงย่อมเป็นไปไม่ได้
“แปลว่าต้องถ่วงเวลาจนกว่าจะจัดขบวนทัพใหม่ได้งั้นสิ?”
“ก็คงงั้นหล่ะนะ”
ทันทีที่สิ้นคำพูดร่างของเขาทั้งสองก็กระโจนเข้าฟาดฟันกับศัตรู
ปลายดาบคมตวัดไปตามสัญชาติญาณช่วงชิงเอาชีวิตของศัตรูที่อยู่ตรงหน้าไปพร้อมๆกับระวังหลังให้แก่กัน
ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นอมนุษย์ร่างยักษ์ที่เตรียมเงื้อหอกยาวพุ่งใส่ชายที่ถูกเรียกขานว่ามังกรแห่งคาซึระฮามะจากทางจุดบอดของสายตา
“ชิส์...”
เขาเตะเข้าที่กลางลำตัวของศัตรูตรงหน้าก่อนจะเขวี้ยงคมดาบเข้าใส่อมนุษย์ที่อยู่ห่างออกไปอย่างแม่นยำ
ชายที่ถูกเรียกขานว่ามังกรแห่งคาซึระฮามะหันมองร่างของอมนุษย์ที่ล้มลงก่อนส่งยิ้มให้เขาแต่ทันใดนั้นรอยยิ้มกว้างก็แปรเปลี่ยนเป็นความตกใจเมื่อตัวเขาเป็นฝ่ายเปิดช่องว่างทางด้านหลังโดยไร้ซึ่งดาบในมือ
“ทากาสุงิ!!!!!!!”
เสียงตะโกนของมังกรแห่งคาซึระฮามะดังก้องไปทั่ว
เมื่ออมนุษย์สองตนที่เฝ้ารอจังหวะวิ่งเข้าประชิดตัวเขาก่อนหันปลายดาบเข้าหาในระยะที่เขาไม่อาจตั้งรับได้
เขากัดฟัดกรอดให้กับเสี้ยววินาทีที่โลหิตของเขาจะเป็นฝ่ายหลั่งริน หากทว่า....
สิ่งที่เขารับรู้ในเสี้ยววินาทีก่อนที่คมดาบจะถูกปักลงบนร่างไม่ใช่สีแดงฉานของโลหิตหากแต่เป็นสีขาวพิสุทธิ์ตัดกับท้องฟ้าที่มีเมฆสีดำลอยต่ำ.....
กิโมโนสีขาวพลิ้วไหวยามที่ปลายดาบนั้นตวัดเข้าหาศัตรูที่หันคมดาบใส่เขา
โลหิตสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่วราวกับดอกไม้สีแดงสดที่กำลังเบ่งบานและร่วงโรยอยู่รอบกายของชายผู้มีเส้นผมสีเงิน
ภาพที่อยู่เบื้องหน้านั้นงดงามแต่ก็ชวนให้พรั่นพรึง....
ภาพ....ของยักษ์สีขาวที่กำลังร่ายรำ......
เขาอาศัยจังหวะที่ศัตรูรอบกายกำลังตกตะลึงเข้าแย่งดาบจากมือของอมนุษย์ที่อยู่ใกล้ๆ
ก่อนจะกระโจนเข้าใส่ทุ่งดอกไม้โลหิต ฟาดฟันศัตรูที่อยู่ตรงหน้าอย่างต่อเนื่อง แผ่นหลังทั้งสามถอยร่นเข้าชิดกันก่อนที่ยักษ์สีขาวผู้นั้นจะเป็นฝ่ายเอ่ยทัก
“ไม่ไหวเลยนะ พวกแกเนี่ย... แอบมาเล่นสนุกกันไม่เห็นบอกฉันซักคำ”
“ฮ่าๆๆๆๆ
คนที่กล้าเรียกสถานการณ์ตรงหน้าว่าสนุกก็มีแต่นายเท่านั้นแหล่ะคินโทกิ”
“สถานการณ์ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
เขาหันไปถามถึงสถานการณ์ของทัพใหญ่ที่ถูกซุ่มโจมตีจากบุรุษตรงหน้า
“ซึระใช้แผนรับมือจัดขบวนทัพขึ้นมาใหม่อยู่น่ะ
ฉันเลยรับหน้าที่เป็นตัวล่อ”
“ตัวล่อ? นายคนเดียวเนี่ยนะ? กระโดดเข้ามาแนวหน้าคนเดียวแบบนี้เดี๊ยวจะได้ตายเร็วเอานาคินโทกิ”
“ไม่อยากให้ไอ้คนที่เงาหัวกำลังจะขาดอยู่รอมร่ออย่างแกเป็นคนพูดเลยฟ่ะ
ทัตซึมะ”
ชายที่มักถูกเรียกชื่อผิดกล่าวอย่างหน่ายๆก่อนกระชับดาบในมือเตรียมพร้อมรับมือกับกองทัพอมนุษย์ที่พร้อมจะกระโจนเข้าใส่
เช่นเดียวกับเขาที่จดจ้องไปยังศัตรูที่อยู่เบื้องหน้า ในจังหวะที่อมนุษย์นับร้อยกำลังจะโรมรันเข้าปะทะนั้นเอง
เสียงระเบิดกัมปนาทก็ดังกึกก้องไปทั่วสนามรบ พร้อมๆกับเสียงกู่ร้องจากกองทัพใหญ่ของเหล่าซามูไรเจ้าของดินแดน
“เฮ้ยๆ หมอนั่นเล่นยึดปืนใหญ่มาเลยเรอะ?”
ชายผู้มีเส้นผมสีเงินหันมองไปยังอีกฟากฝั่งของสนามรบที่ปรากฏภาพของกองทัพใหญ่ที่นำทัพโดยคุณชายสูงศักดิ์ผู้บ้าคลั่งกำลังเข้าบดขยี้เหล่าอมนุษย์ที่อยู่เบื้องหน้าจนแตกพ่าย
ดูเหมือนว่าแผนรับมือของซึระจะใช้ได้ผล
เมื่อกองทัพของศัตรูแตกกระเจิงจนพวกเขาสามารถฝ่าวงล้อมออกมาได้โดยง่าย
ดวงตาสีเขียวกระจ่างจับจ้องไปยังแผ่นหลังสีขาวที่กระโจนนำหน้าเข้าหาศัตรูที่ขวางทางก่อนริมฝีปากบางจะยกรอยยิ้ม
ในการบที่มีทั้งแพ้และชนะ
ย่อมมีคราวที่เป็นฝ่ายได้เปรียบและเสียเปรียบ
และดูเหมือนว่าผู้เป็นฝ่ายกุมชัยชนะในครั้งนี้จะเป็นพวกเขา....
................
......
ในค่ายใหญ่ของกองทัพของเหล่าซามูไรเต็มไปด้วยเสียงครื้นเครงจากการฉลองชัยชนะในการศึกที่ผ่านมา
โดยการนำทัพจากชายผู้ถูกเรียกขานว่าคุณชายสูงศักดิ์ผู้บ้าคลั่งและชายเจ้าของฉายาปีศาจสีขาวผู้กระโจนเข้าไปยังแนวหน้าเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรูจนทำให้แผนสำรองในการรวบรวมกองทัพที่กระจัดกระจายเป็นผลสำเร็จ
“ดื่มให้กับคุณคาซึระและท่านชิโรยาฉะ!!”
เสียงเฮลั่นไปทั่วห้องขนาดใหญ่
ยามที่จอกสาเกถูกชูขึ้นสูง ที่ปลายสุดของโต๊ะเตี้ยตัวยาวปรากฏร่างของสองวีรบุรุษในวันนี้
จอกสาเกในมือถูกชูขึ้นรับเสียงชมเชยจากเหล่าเพื่อนพ้องก่อนที่ทั้งสองจะนั่งดื่มต่ออย่างเงียบๆ
บุรุษผมยาวรับเอาจอกสาเกขึ้นจิบก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆกับชายที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“โชคดีแค่ไหนที่นายรอดตายนะกินโทกิ
การบุกเข้าไปในแนวหน้าเพียงลำพังขณะที่ถูกโอบล้อมโดยศัตรูไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดเอาเสียเลย”
ชายที่ถูกตำหนิโคลงหัวไปมาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะกล่าวตอบบุรุษผมยาวด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
“แต่ผลลัพธ์มันก็ออกมาดีไม่ใช่รึไง?
ฉันอาละวาดส่วนแกก็ตามเก็บกวาดก็เหมือนเรื่องเดิมๆที่แกชอบบ่นไง”
ชายที่ถูกเรียกขานว่าคุณชายสูงศักดิ์ผู้บ้าคลั่งหันมองชายหนุ่มผู้มีเส้นผมสีเงินก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างหาได้ยาก
“แต่ครั้งนี้นายวู่วามเกินไป
ถ้าเป็นแบบนี้ในยามศึกคราวหน้าล่ะก็ทัพของเราอาจจะเสียขบวนได้”
“แต่ถ้าฉันไปช้ากว่านี้เราก็อาจจะต้องเสียพวกพ้องที่อยู่ในทัพแนวหน้าไปแล้วก็ได้.......”
น้ำเสียงเรียบๆที่กล่าวขึ้นพร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่วางจอกสาเกในมือลง
ทำให้บุรุษผมยาวไม่อาจเอ่ยคำตำหนิได้ต่อ ชายผู้มีเส้นผมสีเงินจับจ้องไปยังกลุ่มเพื่อนพ้องที่กำลังดื่มกินอย่างครื้นเครงตรงหน้า
ก่อนเอ่ยถามเพื่อเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“หมอนั่นไปไหนน่ะ?”
โดยไม่ต้องรอให้ถามซ้ำคนฉลาดอย่างคาซึระ
โคทาโร่ก็เข้าใจว่าหมอนั่นที่ว่านั้นหมายถึงใคร
“ทากาสุงิมีเวรเฝ้ารอบดึกเลยพักผ่อนอยู่ในห้องน่ะ
ฉันเองก็บอกแล้วว่าให้คนของฉันเป็นฝ่ายเฝ้าแทนเพราะหมอนั่นก็เพิ่งกลับจากแนวหน้า
แต่คนรอบตัวฉันดันมีแต่พวกบ้าที่หัวดื้อกันทั้งนั้น”
คนที่ถูกเหมารวมว่าเป็นพวกบ้าหัวดื้อหัวเราะเบาๆก่อนจะคว้าสาเกขวดเล็กกับจอกเหล้าสองใบขึ้นจากโต๊ะ
ขายาวๆก้าวไปที่ประตูด้วยท่าทีสบายๆก่อนกล่าวทิ้งท้าย
“ยังไงวันนี้ก็ขอบใจนะซึระ”
“ไม่ใช่ซึระ คาซึระต่างหาก......อุ้บ!”
คุณชายสูงศักดิ์ผู้บ้าคลั่งตอบกลับอย่างหน่ายๆก่อนถูกมังกรแห่งคาซึระฮามะคว้าคอเข้าจากทางด้านหลังพร้อมจับขวดเหล้าดีกรีแรงกรอกเข้าปากท่ามกลางเสียงเชียร์ดังสนั่นของเหล่าเพื่อนพ้อง
...........................................
...............
ในห้องขนาดเล็กที่มีเพียงแสงจันทร์สาดส่องเข้ามาจากหน้าต่างบานใหญ่ ปรากฏร่างในชุดกิโมโนสีม่วงอ่อนที่ถูกอาบไล้ท่ามกลางแสงสีนวล นัยน์ตาสีเขียวกระจ่างจับจ้องไปยังดวงจันทร์ที่ลอยต่ำอยู่เบื้องหน้า ปลายนิ้วเรียวไล้ไปตามเส้นสายของเครื่องดนตรีคู่ใจก่อให้เกิดท่วงทำนองแผ่วเบาสะท้อนกังวานขึ้นในห้องที่เงียบงัน
ท่วงทำนองไหลลื่นราวกับสายน้ำหยุดลงยามได้ยินเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยดังขึ้น
นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องไปยังประตูบานเลื่อนที่ถูกเปิดออกพร้อมกับเจ้าของเรือนผมสีเงินที่กระชับสาเกขวดเล็กเอาไว้ในมือ
“ได้ยินเสียงดนตรีในห้องเงียบๆไอ้ฉันก็นึกว่าเจ้าหญิงคางุยะจะเสด็จลงมาจากดวงจันทร์เสียอีก
ที่แท้ก็เป็นคุณหนูชินสุเกะนี่เอง”
น้ำเสียงกวนๆถูกกล่าวขึ้นพร้อมกับร่างในชุดกิโมโนสีขาวที่ค่อยๆสาวเท้าเข้ามาในห้อง
เขายกรอยยิ้มบางพร้อมเงยหน้าขึ้นสบสายตากับคนตรงหน้าก่อนเอ่ยตอบ
“หึ ได้ยินเสียงฝีเท้าก็นึกว่าใคร
ที่แท้ก็เป็นท่านชิโรยาฉะวีรบุรุษของวันนี้นี่เอง”
ชายที่ถูกเรียกขานว่าวีรบุรุษทำหน้าเหม็นบูดก่อนจะหย่อนกายลงข้างๆเขา
จอกสาเกสองใบถูกวางเอาไว้บนพื้นเสื่อพร้อมกับสาเกขวดเล็กที่ถูกเปิดออก
ส่งกลิ่นหอมหวานที่เกิดจากการหมักบ่มอย่างดีให้ลอยขึ้นไปในอากาศ
“พอถูกนายเรียกด้วยน้ำเสียงแบบนั้นแล้วมันรู้สึกยั๊วะยังไงไม่รู้ฟ่ะ.....”
นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องไปยังจอกสาเกที่กำลังถูกรินน้ำใสลงไปก่อนเอ่ยตอบ
“งั้น....จะให้เรียกว่าอัศวินของฉันมั้ยล่ะ?”
ฝ่ามือใหญ่ที่กำลังรินสาเกชะงักไปชั่วครู่ก่อนนัยน์ตาสีแดงฉานที่ฉายแววประหลาดใจนั้นจะเงยขึ้นมาสบ
“อะไรกันล่ะนั่นน่ะ...?”
“หึๆ ก็แค่เรียกตามที่ทัตซึมะพูดเอาไว้น่ะ”
“ชิส์ เจ้าบ้านั่น.......”
ร่างในชุดกิโมโนสีม่วงอ่อนพิงกายเข้ากับบานหน้าต่างอย่างผ่อนคลายกับความรู้สึกที่ได้เป็นฝ่ายเอาคืน ก่อนฝ่ามือเรียวจะยื่นไปรับจอกสาเกขึ้นมาจิบ
“แต่ก็เอาเถอะ...
มันก็ไม่เลวไม่ใช่หรอ?”
เจ้าของเรือนผมสีเงินเอ่ยขึ้นพร้อมขยับกายเข้ามาใกล้
ฝ่ามืออุ่นคว้าเอามือข้างที่ว่างของเขาขึ้นมาจุมพิตเบาๆ ก่อนน้ำเสียงทุ้มนั้นจะเอื้อนเอ่ย
“ไม่ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นสวรรค์หรือนรกฉันก็จะไม่ยอมให้มาพรากนายไปได้.......เพราะว่าชีวิตของนาย...ฉันคนนี้จะปกป้องเอาไว้เอง”
นัยน์ตาสีแดงฉานส่องประกายรับกับแสงจันทร์
ถ้อยคำที่หนักแน่นถูกเอื้อนเอ่ยสะท้อนกังวานไปในห้องที่เงียบสงัด เขาค่อยๆยกปลายนิ้วขึ้นไล้ไปตามใบหน้าคมที่อยู่ตรงหน้าก่อนที่จะ...
“คุ....หึ ฮ่ะๆๆๆ”
ใบหน้าคมถูกแต่งแต้มด้วยสีจางๆในทันทีเมื่อแผนเก๊กหล่อพังไม่เป็นท่าด้วยเสียงหัวเราะใส
ร่างสูงโปร่งยันกายขึ้นอย่างลุกลนพร้อมชี้นิ้วโวยวาย
“ขำอะไรของนายฟะเจ้าบ้า! ท่านชิโรยาฉะคนนี้กำลังทำเท่ห์อยู่เชียวนะเฟ้ย!”
ปลายนิ้วเรียวค่อยๆยกขึ้นปาดเช็ดหยาดน้ำตรงหางตา
รอยยิ้มบางยังคงถูกฉาบเอาไว้บนใบหน้าพร้อมๆกับนัยน์ตาคู่สวยที่เงยขึ้นสบ
“คิก... กินโทกิ”
“หา?”
น้ำเสียงโกรธเคืองถูกส่งมาพร้อมนัยน์ตาสีแดงฉานที่ทอประกายคุกรุ่น
แต่ต้องชะงักลงเมื่อเห็นแขนเรียวทั้งสองยกกางออกกว้าง
รอยยิ้มหวานถูกวาดเอาไว้บนริมฝีปากบาง ก่อนน้ำเสียงที่แสนรักจะเอื้อนเอ่ย
“มานี่สิ...”
อา....
พ่ายแพ้เข้าเสียแล้ว.....
ชายที่ถูกเรียกขานว่าปีศาจสีขาวผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับศึกครั้งใดๆ
ในยามนี้กลับพ่ายแพ้อย่างหมดรูปให้กับเพียงถ้อยคำสั้นๆ
เจ้าของเรือนผมสีเงินโผเข้าหาอ้อมกอดตรงหน้าพร้อมซุกใบหน้าคมลงกับไหล่บางราวกับเด็กตัวเล็กๆ
เขายกรอยยิ้มบางให้กับท่าทางของคนตรงหน้า ฝ่ามือเรียวยกเอาซามิเซนที่อยู่บนตักพิงเข้ากับบานหน้าต่าง
ก่อนจับเรือนผมสีเงินซบลงบนตักนุ่ม
ในห้องเล็กๆที่มีเพียงแสงจันทร์กระจ่างทอประกายพาดผ่าน
เรือนผมสีเงินสะท้อนประกายกับแสงจันทร์ราวกับกับเส้นไหมที่เปล่งประกายในความมืด
ใบหน้าคมซุกเข้ากับกิโมโนสีม่วงอ่อนก่อนนัยน์ตาสีแดงฉานที่แสนรักจะเงยขึ้นสบกับนัยน์ตาของเขาที่ทอดมองลงมา
ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นเกลี่ยปอยผมสีเข้มที่ปรกลงบนหน้าของเขาก่อนน้ำเสียงทุ้มนั้นจะเอื้อนเอ่ย
“ทากาสุงิ....”
“หืม..?”
“จริงๆแล้วฉันน่ะไม่ใช่วีรบุรุษหรอกนะ”
“.....”
“ฉันมันก็แค่คนขี้ขลาด ที่หวาดกลัวไปซะทุกอย่าง
แต่ก็ยังปากดี.....”
นัยน์ตาสีสดละจากใบหน้าของเขาก่อนทอดมองไปยังเพดานสีหม่น
ปลายนิ้วเรียวถูกยกขึ้นเกี่ยวกับเส้นผมสีเงินที่ส่องสะท้อนกับแสงจันทร์ พร้อมกับรับฟังถ้อยคำของคนตรงหน้าอย่างเงียบๆ....
“ตอนที่รู้ว่าทัพหน้าของนายถูกศัตรูล้อมเอาไว้
ร่างกายของฉันมันก็กระโจนออกไปแล้ว....”
“ทัตซึมะบอกว่าฉันเป็นพวกไม่กลัวตาย...
ก็คงจะอย่างนั้นล่ะมั้ง ตอนที่เห็นปลายดาบนั่นถูกเงื้อเข้าใส่นาย
ในหัวของฉันมันขาวโพลนไปหมด ....เพราะสิ่งที่ฉันหวาดกลัวที่สุดได้อยู่ตรงหน้าแล้ว...”
นัยน์ตาสีแดงฉานที่แสนรักทอประกายหม่นก่อนฝ่ามือใหญ่จะยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา.....
“ทากาสุงิ.....ถึงแม้ว่าฉันบอกว่าจะปกป้องนาย
แต่จริงๆแล้วฉันก็แค่อยากจะตายก่อนนายแค่สักหนึ่งนาที...ไม่สิแค่หนึ่งวินาทีก็ยังดี.....”
“เพราะฉันไม่อยากรับรู้ถึงความรู้สึกที่ต้องสูญเสียนาย...แม้เพียงเสี้ยววินาที......”
น้ำเสียงทุ้มถูกเอื้อนเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบาพร้อมกับนัยน์ตาคมที่ทอประกายแสนเศร้า... ร่างในชุดกิโมโนสีม่วงอ่อนซบใบหน้าลงกับฝ่ามืออุ่นก่อนเอ่ยกระซิบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาไม่แพ้กัน
“เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวจังเลยนะ นายน่ะ......”
“ฮ่ะๆ ใช่มั้ยล่ะ?”
รอยยิ้มกวนๆที่ดูขัดแย้งกับนัยน์ตาที่เศร้าสร้อยถูกวาดขึ้นบนริมฝีปากอิ่ม
เขาไล้ปลายนิ้วลงบนสันจมูกคมพลางเอ่ยพร้อมรอยยิ้มบาง
“ถ้าไม่มีฉันอยู่ข้างๆ
นายจะเป็นยังไงกันนะ?”
“เห.... ฉันก็นึกไม่ออกเหมือนกันแฮะ”
เส้นไหมสีเงินสะท้อนประกายกับแสงจันทร์ยามที่เจ้าของเรือนผมนั้นยันกายขึ้นจากตักนิ่ม
ฝ่ามืออุ่นกุมกระชับปลายนิ้วของเขาเอาไว้ก่อนโน้มกายเข้าใกล้จนเห็นประกายสีแดงฉานในดวงตาที่ยังคงทอประกายแสนเศร้าหากแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่นและมั่นคง
“เพราะอย่างงั้น......อยู่ข้างๆฉันตลอดไปนะทากาสุงิ”
“อยู่ข้างๆฉัน.....เพราะฉันจะคอยอยู่เคียงข้างเพื่อปกป้องนายให้เอง.....”
...........................................
..................
ในโลกสีเงินที่แสงจันทร์กระจ่างทอประกายพาดผ่าน
อาบไล้ร่างในชุดกิโมโนสีสดที่ยืนอยู่เพียงลำพังบนดาดฟ้าของเรือบินลำใหญ่
นัยน์ตาสีเขียวกระจ่างเพียงข้างเดียวที่เหลืออยู่จับจ้องไปยังดวงจันทร์สีเงินที่ลอยสูงก่อนริมฝีปากจะเหยียดยกรอยยิ้มบาง
สายลมในฤดูร้อนหอบพัดให้กิโมโนสีสดพลิ้วสะบัดไปพร้อมกับเรือนผมสีเข้ม
นัยน์ตาข้างสวยหรี่มองไปยังทิศทางที่สายลมพัดผ่านพลางยกกระบอกยาสูบขึ้นแนบกับริมฝีปาก
ในทิศทางเดียวกันกับที่สายลมฤดูร้อนเคลื่อนผ่าน ยามที่ดวงจันทร์สีเงินกระจ่างถูกแทนที่ด้วยดวงอาทิตย์สีแดงฉาน
เรือลำนี้จะมุ่งตรงสู่ชิรานุอิ.....
กลุ่มควันสีขาวถูกทอดถอดออกจากริมฝีปากบาง
ล่องลอยขึ้นไปบนท้องฟ้ากว้างก่อนค่อยๆบิดเบี้ยว และพร่าเลือน ราวกับความทรงจำในครั้งวันวาน....
“จะคอยอยู่เคียงข้างฉันงั้นหรอ....”
ควันสีขาวจางหายมลายไปกับแสงจันทร์กระจ่าง ทิ้งไว้เพียงถ้อยคำแสนแผ่วเบาที่ถูกเอื้อนเอ่ยเอาไว้กับสายลมที่พัดผ่าน....
“คนโกหก....”
...............................................
.....................
......
✿:・❀・;✿:・❀・;✿:・❀・;✿:・❀・;✿:・❀・;✿
Let’s talk
สวัสดีค่ะ....... //ค่อยๆโผล่หัวออกมาจากที่กำบังหลังจากโดนนักอ่านขว้างปาข้าวของใส่
ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบพระคุณค่ะที่กดเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้ ตกใจมากๆกับจำนวนคนที่เข้ามาอ่านเรื่อง Sekai no owari ni ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ยอดวิวที่มากมายแต่ก็ทำให้มีกำลังใจเข็นฟิคเรื่องนี้ออกมาอีกจนได้ และที่สำคัญก็คือคอมเมนต์ทุกคอมเมนต์ที่เข้ามาติชมให้กำลังใจกันขอบคุณมากๆค่ะ และต้องขอโทษด้วยที่ตอบกลับช้ามากๆ *ปาดเหงื่อ*
ถึงเพื่อนร่วมอุดมการณ์ใครสักคนที่คอยเชียร์คู่นี้อยู่
จากนี้ไปก็จะพยายามเข็นฟิคคู่นี้ออกมาเรื่อยๆนะคะ ฝากตัวด้วยค่ะ!
ประชาสัมพันธ์กันสักนิด♡
ในพื้นที่โฆษณานี้ จะบอกว่าตอนนี้ไรท์แต่งฟิคคู่ GinxTaka เอาไว้สามเรื่องค่ะ ลงในเด็กดีเอาไว้สองเรื่อง ส่วนอีกเรื่องเป็นฟิคจากเรื่องปี3ห้องZ ที่ลงเอาไว้ในเว็บธัญวลัOค่ะ เนื่องจากเนื้อหาไม่สามารถนำมาลงในเด็กดีได้ในความหมายที่รู้กัน ไรท์ไม่แน่ใจว่าถ้าแปะลิงค์ไปเลย จะผิดกฎของเด็กดีรึเปล่า เพราะฉะนั้นจะลงชื่อเรื่องเอาไว้ให้ไปจิ้มอากู๋กันเอาเองนะคะ ชื่อเรื่อง Omae to himitsu no jikan ค่ะ ไรท์ใช้นามปากกาเดียวกัน อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจกันด้วยนะคะ เพราะไรท์คนนี้ดันทะลึ่งเอาฟิคไปลงในเว็บที่ไม่เคยมีใครเอาฟิคกินทามะไปลงมาก่อน ก็เลยเงียบเป็นป่าช้าจนน่ากลัวว่าจะมีสแตXด์โผล่ออกมาเลยล่ะค่ะ..... *เหงื่อตก*
งือ เพิ่งมาติดค่ะ หนูทากะสวยและเศ้ามาก ขอบคุณที่เขียนคู่นี้นะคะ ;//////;
ปล.ชอบทากาเคะมากเลย
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์นะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ค่ะ ^^