[ TOKYO REVENGERS ] ความฝันของฉันคือหาผัวเป็นคนญี่ปุ่น [ END ] - นิยาย [ TOKYO REVENGERS ] ความฝันของฉันคือหาผัวเป็นคนญี่ปุ่น [ END ] : Dek-D.com - Writer
×

    [ TOKYO REVENGERS ] ความฝันของฉันคือหาผัวเป็นคนญี่ปุ่น [ END ]

    โดย Namiko_Meiko

    หญิงสาวที่เพิ่งเรียนจบมหาลัยและได้เกียรตินิยมได้ไม่นานเธอก็ไปเรียนภาษาญี่ปุ่นต่อที่ประเทษเทศญี่ปุ่นต่อทันที เพื่อทำตามความฝันของตัวเอง.. ฉันจะไปหาผัวที่ญี่ปุ่น!!!!

    ผู้เข้าชมรวม

    3,740

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    288

    ผู้เข้าชมรวม


    3.74K

    ความคิดเห็น


    38

    คนติดตาม


    251
    จำนวนตอน :  19 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  31 ก.ค. 66 / 08:00 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    "อีนิ้งมึงไปญี่ปุ่นแล้วถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาหากูได้นะ" หญิงสาวผมสีดำยาวสลวยได้เอ่ยผู้เป็นน้องสาวของตนที่สนามบินและครอบครัวอีกสามคน

     

    "รู้แล้วน่าแต่กูไม่มีปัญหาหรอกเพราะมีกิ๊ฟไปด้วย เนอะ!" ร่างของหญิงสาวที่มีชื่อเล่นว่า นิ้ง ได้กอดคอเพื่อนสนิทสมัยประถมของเธออย่าง กิ๊ฟ สาวขี้อายแต่ถ้าเป็นเรื่องของประเทศญี่ปุ่นล่ะก็เธอชอบมากจนพูดไม่หยุดแน่ๆ

     

    "ไปแล้วถ้าจะหาผัวมาให้แม่ก็ขอคนที่ดูดีหน่อยนะไม่ใช่เอากุ้งแห้งมาฝาก" แม่ของนิ้งได้เอ่ยก่อนที่เธอจะตอบแม่กลับไป

     

    "มาอย่าเอาลอ-- จากเรื่องวันพีชมาบูลลี่นะ!!อันนั้นเขามีอาชีพหมอเลยนะแม่"

     

    "เรื่องของมึง ไปแล้วก็อย่าทำให้กิ๊ฟปวดหัวมากนักล่ะ...กิ๊ฟถ้ามีอะไรก็โทรหาแม่ได้ตลอดนะ" แม่ของนิ้งได้หันไปเอ่ยกับเพื่อนของลูกสาวด้วยนำ้เสียงที่นิ่มนวมก่อนที่นิ้งจะเบะปากมองบน

     

    "...ค่ะ"

     

    "ไปได้แล้วตอนนี้ได้เวลานะ" พ่อของนิ้งเอ่ยก่อนที่นิ้งจะจับมือของกิ๊ฟไปเข้าเกท ที่พ่อของกิ๊ฟไม่ได้มาด้วยเพราะพ่อของกิ๊ฟติดงานเลยมาส่งกิ๊ฟไม่ได้แต่เมื่อว่าทั้งกิ๊ฟและพ่อของกิ๊ฟก็ไปฉลองด้วยกันมาแล้ว

     

    หลังจากที่สองสาวแยกออกมาพวกเธอก็ตามไปนั่งที่ของเครื่องบินทันทีก่อนที่จะถ่ายรูปและอ่านหนังสือภาษาญี่ปุ่นเพื่อไม่ให้พวกเธอลืมและยังพูดภาษาญี่ปุ่นใส่กันเพื่อให้พวกเธอพูดคล้องเข้าไปอีก

     

    กิ๊ฟจะมีการพูด อ่าน เขียนภาษาญี่ปุ่นได้คล้องกว่านิ้งเพราะว่าเธอเรียนสายภาษาทั้งมัธยมปลายและมหาลัย ส่วนนิ้งที่เรียนสายวิทย์คณิตไหนจะยังจบคณะสถาปัตย์มาอีกทำให้เธอได้ภาษาญี่ปุ่นมาได้ระดับกลางทำให้เธอต้องให้กิ๊ฟสอนให้ประจำ

     

    ทั้งสองคุยกันไปมาก่อนที่พวกเธอจะนอนหลับไป พอตื่นมาอีกทีเครื่องบินก็มาจอดที่สนามบินโตเกียวแล้ว นี้พวกเธอนอนกินบ้านกินเมืองขนาดนั้นเลยหรอ?

     

    ทั้งคู่ไม่รอช้ารียเก็บหนังสือเข้ากระเป๋าก่อนที่จะออกจากตัวเครื่องบินเพื่อไปรับกระเป๋าเสื้อผ้า การมาเรียนภาษาญี่ปุ่นในครั้งนี้พวกเธอมาเรียนสองปีและพวกเธอได้มาอยู่กับโฮสที่รับนักเรียนสองคนพร้อมกัน

     

    แน่นอนว่าพวกเธอจะไม่แยกกันแน่นอนเพราะพวกเธอทั้งคู่นั้นเป็นคนที่เข้าสังคมได้แย่มากแต่สำหรับนิ้งเธอยังพอคุยด้วยได้หน่อยๆเพราะตอนเธอฝึกงานเธอทำงานในตำแหน่งHR ทำเอาเธอปวดหัวมากเพราะเจอลูกค้าประสาทเสียบ่อยๆ

     

    "กิ๊ฟอันนั้นชื่อของพวกเราหรือเปล่า?" นิ้งที่เห็นคนชูป้านชื่อของพวกเธอเป็นภาษาไทยทำให้พวกเธอต้องหันไปมอง

     

    "ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นโฮสของพวกเรานะ"

     

    ทั้งสองสาวเดินไปหาชายหนุ่มที่ทำผมสีเหลืองสลับม่วงไว้ยาวและรวบมัดเอาไว้ด้านหลังใบหน้าของเขาเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา ส่วนอีกคนก็เป็นชายมัดกล้ามร่างสูงผิวเข้มจ้องมองพวกเธอตาไม่กระพริบเลย

     

    "สวัสดีพวกเราคือโฮสต์ของพวกเธอเองฉันชื่อ อิมาอุชิ วาคาสะ แต่จะเรียกฉันว่า วากะ ก็ได้นะ"

     

    "ฉัน อาราชิ เคย์โซ...เรียกฉันว่าเบ็งเคก็ได้"

     

    "สะ-สวัสดีค่ะ หนูชื่อนิ้งแต่จะเรียกนิคุก็ได้ค่ะส่วนนี้เพื่อนของหนูชื่อกิ๊ฟ0//0" นิ้งอยากจะหัวใจวายเอาตอนนี้โฮสต์หล่อมากเลยค่ะแม่ หนูจะเอาไปฝากสองคนเลยนะคะ

     

    "อืม ไม่ต้องกลัวพวกฉันไปหรอกนะพวกฉันมีใบอนุญาตให้รับเด็กที่อยากเรียนภาษามาอยู่ด้วยได้น่ะ" วากะซังบอก

     

    "ค่ะ" แต่ดูเหมือนว่ากิ๊ฟยังไม่ค่อยไว้ใจสองคนตรงหน้าเท่าไหร่เลย

     

    "มาเถอะพวกฉันเอามอเตอร์ไซค์มารับคงไม่กลัวกันนะ" วากะซังบอก

     

    "ไม่หรอกค่ะ หนูน่ะชอบนั่งมอเตอร์ไซค์ให้ลมปะทะหน้าเอามากๆเลยค่ะ^^" ฉันเอ่ยก่อนที่จะยกยิ้มตามสไตล์ของตัวเอง ฉันนะโคตรชอบนั่งมอเตอร์ไซค์เลยล่ะเพราะงั้นเวลาไปไหนก็จะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ตลอด

     

    "งั้นก็ดีเลย งั้นไปกันเถอะ" วากะซังบอกก่อนที่จะช่วยพวกเราถือของ

     

    "กิ๊ฟแกนั่งกับวากะซังได้นะ เดี้ยวฉันนั่งกับเบ็งเคซังเอง" ฉันหันไปเอ่ยกับเพื่อนสนิทที่ยังกลัวเบ็งเคซังอยู่ด้วยภาษาไทยก่อนที่เธอจะพยักหน้า

     

    ฉันได้นั่งซ้อนท้ายเบ็งเคซังก่อนที่พวกเขาจะขับพาพวกเราไปยังที่พัก ระหว่างทางฉันก็คอยดูว่ามีอะไรบ้างจนฉันได้ยินเสียงหัวเราะของเบ็งเคซังเขาคงคิดว่าฉันเป็นเด็กแน่ๆ แต่ฉันอายุ22แล้วนะ....

     

    พวกเรามาหยุดที่ตึกสามชั้นแห่งนึงในตัวเมืองโตเกียว ก่อนที่พวกเราจะเดินเข้าไปก็พบว่าชั้นแรกเป็นยิมก่อนที่วากะซังจะบอกว่าอาชีพของพวกเขาคือกรเปิดยิมและเป็นเทรนนิ่งด้วยก่อนที่พวกเขาจะพาพวกเธอไปชั้นสามของตึกที่เป็นที่พักของพวกเรา

     

    ทั้งเธอและกิ๊ฟนอนห้องเดียวกันมีเตียงและโต๊ะแยกซ้ายขวาเพื่ให้พวกเธอนั้นเลือกนอน มีหน้าตางบานใหญ่ให้เห็นเมืองได้ชัด สรโทนห้องออกไปทางสีชมพูอ่อนซึ่งเธอและกิ๊ฟไม่ได้ชอบแต่ก็ไม่ได้เกลียดสีชมพูก็ถือว่าโอเคเลย ดีนะที่ยังมีลายไม้เยอะกว่าสีชมพู.....

     

    sds

    (รูปห้องนอนของนิ้งและกิ๊ฟ//ไรท์)

     

    "พวกฉันไม่ค่อยรู้เรื่องการจัดห้องของพวกผู้หญิงเท่าไหร่น่ะ พออยู่ได้หรือเปล่า" เบ็งเคซังเอ่ย

     

    "น่ารักมากๆเลยค่ะ ขอบคุณนะคะเบ็งเคซัง วากะซัง^^" พวกเขาเอาใจใส่พวกเราขนาดนี้ถือว่าดีมากๆเลยล่ะ

     

    "ขอบคุณค่ะ" กิ๊ฟเองก็โค้งขอบคุณทั้งสองก่อนเช่นกัน

     

    "ถ้าชอบก็ดีแล้วล่ะ เดี้ยวตอนสี่โมงฉันจะมาตามอีกทีนะเดี้ยวพวกเราจะไปทานข้าวข้างนอกกัน" วากะซังเอ่ย

     

    "เก็บของให้เรียบร้อยนะ ถ้าขาดเหลืออะไรให้จดเอาไว้เดี้ยวตอนไปกินข้าวข้างนอกจะได้ซื้อกลับเข้ามา" เบ็งเคซังเอ่ยก่อนที่พวกเขาจะออกจากห้องไปเพื่อให้พวกเราได้จัดของให้เข้าที่

     

    "เฮ้อ...น่ากลัวจังเลยนิ้งพูดคุยเป็นกันเองได้ไงอ่ะ" กิ๊ฟเอ่ยบ่นออกมาเป็นภาษาไทย ตอนแรกเธอกะว่าจะช่วยนิ้งในการพูดกับคนญี่ปุ่นแต่เธอดันไม่ถูกกับคนแปลกหน้า

     

    "...พอดีคณะที่ฉันจบเจอคนประมาณนี้เยอะเลยล่ะ ฉันชินแล้ว=v=;;" เพื่อนๆในสาขาของเธอหน้าโหดและเถื่อนกว่านี้อีกเยอะ

     

    "แต่พวกเขาน่ากลัวจริงๆนะนิ้ง" กิ๊ฟเอ่ยก่อนที่เธอจะค่อยๆเก็บเสื้อผ้าในกระเป๋าแขวนเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าต่างกับนิ้งที่จัดเสร็จแล้วและกำลังเขียนว่าเธอต้องซื้ออะไรบ้าง

     

    "เอาน่า...ยังไงพวกเราก็ต้องอยู่กับพวกเขาตั้งสองปีเดี้ยวก็ชินถ้าเธอไม่ไว้ใจพวกเขาฉันจะอยู่ข้างๆแกเอง^^" นิ้งเอ่ยก่อนที่จะจดรายการสุดท้ายของเธอเสร็จ

     

    "อื้ม!"

     

    "ว่าแต่แกขาดอะไรไหม ฉันจะได้เขียนเพิ่ม"

     

    สองสาวคุยกันเป้นภาษาไทยกันอย่างสนุกสนานทำให้ชยหนุ่มทั้งสอที่แอบฟังอยู่นอกห้องก็อมยิ้มถึงแม้ว่าพวกเขาจะฟังไม่ออกว่าพวกเธอพูดอะไรกันแต่หญิงสาวที่ชื่อนิคุนั้นร่าเริงเอามากๆและยังสามารถทำให้เพื่อนของเธอเริ่มคลายกังวลได้บ้างแล้ว

     

    ถ้าพวกเขาฟังจากเสียงอ่ะนะ....

     

    ===============================================================================

    TALK

    ยังไม่ได้ตรวจคำผิด

     

    น้องฮ่าๆๆๆๆๆ

    น้องเจอคนเถื่อนมาเยอะค่ะฮ่าๆๆๆๆ

    อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะT^T

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น