ขอเขียนนิยายขนาดสั้นเรื่องอาชาไนย เป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่มีรักแท้ให้กับหญิงสาวต่างวัยค่ะ เพราะยังไม่เคยเขียนนิยาย เรื่องแรกที่เขียนจึงอยากเขียนให้สั้นเข้าไว้ ถ้าเป็นไปได้จะพยายามเขียนให้ไม่เกิน30หน้า อยากเขียนสักห้าตอน ขอวอนผู้อ่าน ช่วยแสดงความเห็นให้หน่อยนะคะ
อาชาไนย
บนเตียงนอนขาวสะอาด ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มวัย40เศษ ที่ข้อมือมีสายนำ้เกลือตามแบบคนไข้ใน นั่งกลืนยาพร้อมกับดื่มนำ้สะอาดตามจนหมดแก้วด้วยอาการเศร้าซึม
เขานอนเจ็บและมีไข้สูง นอนเพ้อไม่ได้สติมาหลายวันแล้ว การจับไข้ครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากการป่วยเป็นโรค หากแต่เป็นเพราะเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสตรงหว่างขาจากการถูกกระสุนปืนยิงเข้าอย่างจัง
หน้าตาหมองคล้ำและเพิ่งสร่างไข้ ใบหน้าในยามปกตินั้นคมสันและคมคล้ำ อาจจะเรียกได้ว่า ก็หล่ออยู่เหมือนกัน
ในห้องนั้น หญิงสาวผมสั้นเปิดหูเปิดคอในวัยเกือบสามสิบห้านั่งอยู่บนโซฟา สายตาจ้องมองท่าทีเศร้าสร้อยของเขาแล้วทอดถอนใจ สีหน้าขึงขังกล่าวโวย “ไม่น่าเล้ยไม่น่าเลย รอดชีวิตมาได้นี่ก็บุญแล้ว จู่จู่ก็หาเรื่องเสียไอ้จู๋”
หนุ่มใหญ่มองตอบด้วยสีหน้าละห้อย สาวใหญ่ผู้นี้ผิวขาวร่างอวบชอบพูดจาโผงผางเสียงดังและกล้าได้กล้าเสีย อย่างคนมั่นใจในตนเอง และคิดไปว่าตนเองมีนิสัยแบบผู้ชาย
เมื่อเห็นคนเจ็บนิ่งเฉย สาวห้าวก็กล่าวอย่างแค้น ๆ“ ต้องเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุดเลยนะพี่ มันยิงพี่ศักดิ์ทั้งที่พี่เข้าไปโดยไม่มีอาวุธ ”
พี่ศักดิ์หรือศักดิ์ชัยโบกมือส่ายศีรษะ กล่าวปฏิเสธ “ พี่ละ พี่โง่เองที่บุ่มบ่ามเดินเข้าไปในสถานที่แบบนั้น ก็อย่างที่รัตน์ว่าน่ะแหละ รอดตายมาได้ก็นับว่าบุญแล้ว”
เจ้ารัตน์หรือรัตนาร้องแหว “ อะไร ไม่เอาเรื่องมันเหรอ มันทำขนาดนี้ อภัยไม่ได้นะ มันต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ยอมกันไม่ได้นะ พี่ไม่แค้นมันหรือไง”
ศักดิ์ชัยถอนหายใจยาว ขบกรามข่มโทสะ
ทำไมเขาจะไม่โกรธ ทำไมเขาจะไม่เเค้น. แต่เมื่อตระหนักว่า การโต้ตอบเอาคืนนั้น ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมานอกจากจะเป็นการก่อกรรมสร้างเวร
ชายหนุ่มเคยอยู่ในร่มกาสาวพัตรมามากกว่าสิบปีก่อนจะมาช่วยน้องสาวต่างบิดาทำกิจกาคร้านทอง เขามีความเชื่อฝังลึกในเรื่องบาปบุญและการเวียนว่ายตายเกิด อีกทั้งยังเคนกล่าวอยู่เนืองๆว่า คนเราพบกันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีเรื่องที่ทำให้ต้องพบกันต่างหาก เรากับผู้ที่เกี่ยวข้องกันล้วนแต่เคยเจอะเจอกันมาแล้วทั้งนั้น จึงมึเหตุให้ได้เจอกันอีก
รัตนารู้เท่าทันความคิดของเขา ก็พ่นลมออกจากจมูก ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด หันรีหันขวาง รู้สึกฮึดฮัดขัดใจ น้ำเสียงอัดอั้น “ คิดอย่างนี้. ไอ้คนทำผิด มันก็ลอยนวลไป คนดีๆแม่งก็จะถูกไอ้คนสารเลวรังแกร่ำไป”
ศักดิ์ชัยถอนหายใจยาวอีกครา เขานั่งเงียบเพราะรู้ว่า รัตนาไม่อยากฟังข้อโต้แย้งหรอก เขาเองก็รู้สึกเพลียมากอยู่
แม้ว่าเขาจะไม่โต้ตอบ. แต่รัตนาก็ยังคงมึคำถามต่อไป “ กล้าไปถึงที่ของเขา แน่ใจหรือว่า เด็กคนนั้น เขามีใจให้”
เมื่อเห็นพี่ชายยังคงนั่งนิ่ง รัตนาก็ถามอย่างเดือดดาล “ เชื่อได้ยังไงว่า ผู้หญิงคนนั้นเคยเป็นพี่เพ็ญ”
คำถามนี้ทำให้คนเจ็บรู้สึกปวดร้าวในหัวใจขึ้นมาทันใด ก็ไม่ใช่เพราะเขาปักใจเชื่อเช่นนั้นดอกหรือ เขาจึงได้เกือบเอาชีวิตไปทิ้งในวันก่อนนั้น
เรื่องมีอยู่ว่า ก่อนหน้าที่เขาจะได้บวชเป็นหลวงพี่นั้น. ศักดิ์ชัยได้ใช้ชีวิตอยู่กินกับคนรัก ศศิเพ็ญเป็นของเขา. เธอทั้งรักทั้งเชื่อฟัง ซื่อตรงต่อเขา รักเขาอย่างเต็มหัวใจ แต่เมื่อต้องเจอกับมรสุมชีวิต จิตใจของเธอก็โศกเศร้า. และในที่สุดเมื่อเขากับเธอมีเรื่องไม่เข้าใจกันในขณะที่เธอตั้งครรภ์. สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ศศิเพ็ญได้ปลิดชีพของตน คนรักของเขาถึงแก่ความตายพร้อมกับลูกในท้อง ความเจ็บปวดและอาลัยทำให้ศักดิ์ชัยตัดสินใจบวชเป็นพระ หันหน้าเข้าหาทางธรรม
โปรดติดตามตอนต่อไปในอีกไม่เกินเจ็ดวันค่ะ
ความคิดเห็น