FULL METAL DRAKAREN : มหาขุมทรัพย์แห่ง เอล ซานัม - นิยาย FULL METAL DRAKAREN : มหาขุมทรัพย์แห่ง เอล ซานัม : Dek-D.com - Writer
×

    FULL METAL DRAKAREN : มหาขุมทรัพย์แห่ง เอล ซานัม

    เอล ซานัม มหาพงไพรอันกว้างใหญ่ได้เก็บซ่อนความลับที่หลับไหลแห่งโลก ขุมทรัพย์แห่งราชัน และเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบ กำลังจะถูกค้นหาโดยทีมฮันเตอร์สุดเพี้ยนแล้ว!!

    ผู้เข้าชมรวม

    7,035

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    93

    ผู้เข้าชมรวม


    7.03K

    ความคิดเห็น


    21

    คนติดตาม


    282
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  660 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  21 พ.ย. 67 / 20:02 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     

    FULL METAL DRAKAREN Tale of Mecha Fantasy 

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    FULL METAL DRAKAREN ภาค มหาขุมทรัพย์แห่ง เอล ซานัม

    เอล ซานัม มหาพงไพรอันกว้างใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นป่าเก่าแก่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พืชพันธุ์ต่างๆที่ไม่สามารถพบเห็นได้จากที่ไหน สัตว์ป่าหายากที่คนหมู่มากไม่อาจพบเห็น และอากาศที่แสนบริสุทธิ์ แต่ว่าความสวยงามของธรรมชาตินั้นได้ถูกกลบทับความลับบางอย่างที่หลับไหลมาเป็นเวลานานแสนนาน

    ทีมฮันเตอร์ของ ซีโน รุยซ์ ได้รับงานว่าจ้างสำรวจค้นหาสมบัติแห่งอาณาจักรที่ล่มสลายในมหาพงไพรแห่ง เอล ซานัม และสืบหาความลับของเทคโนโลยีที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้โดยบุคคลปริศนา แต่ดูเหมือนการสำรวจครั้งนี้จะทำให้พวกเขาได้รับรู้เรื่องราวความลับบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในเงามือของโลกใบนี้ และจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดการ

    "อะไรล่ะเนี่ยฉันแค่จะมาตามหาขุมทรัพย์เฉยๆ แล้วไหงต้องมาพัวพันกับเรื่องที่ยุ่งยากขนาดนี้กันเล่า"

    "นี่แหละซีโนรสชาติของการผจญภัยที่ข้าเเละเจ้าต่างเฝ้ารอคอย"

    "ขอแค่มีหนังสือกับการผจญภัยฉันจะขอติดตามคุณซีโนและคุณบอนดิไปทุกที่เลยค่ะ!"

    "ซีโน รุยซ์ฉันแค่ต้องทำงานชิ้นนี้ให้สำเร็จเพราะฉนั้นเลิกมาขวางทางของฉันได้แล้ว!!"

    "ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันไม่สนหรอกนะว่าพวกแกจะทำเพื่อพวกสัตว์ชั้นต่ำนั่นไปทำไม แต่สมบัติทั้งหมดต้องตกเป็นของพวกเรา เชเลน!"

    "สิ่งที่พวกฉันต้องการก็คือขุมทรัพย์และขุมทรัพย์น่ะคือสิ่งของมีค่าที่ถูกทิ้งเอาไว้ แต่สมบัติคือสิ่งสำคัญของใครซักคนหรือสิ่งสำคัญของทุกคน เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ยอมให้พวกแกพรากมันไปจากใครทั้งนั้น ไปกันเลยแลนเซอร์!!!"

            --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    GAREL DESING CONCEPT

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ตำนานได้กล่าวไว้

    ในโลกที่เต็มไปด้วยภัยคุกคามขนาดยักษ์

    เหล่านักรบและจอมเวทย์ได้ร่วมมือกันเข้าต่อสู้โดยหยิบยืมพลังจากกระแสมานาแห่งโลก

    แต่พลังเหล่านั้นไม่มากพอที่จะปกป้องพวกเขาเอาไว้ได้

    เหล่าจอมเวทย์จึงได้ใช้ศาสตร์แห่งเวทมนตร์สร้างโกเลมและอัญเชิญเหล่าภูตยักษ์ออกมาต่อกรกับพวกมัน

    แต่ว่า..............

    ผู้คนที่ครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่ได้มีเพียงจำนวนหยิบมือเท่านั้น

    ภัยคุกคามขนาดยักษ์ได้ก่อตัวขึ้นเป็นคลื่นลูกใหญ่ถาโถมเข้าใส่นานาอาณาจักร

    นักรบ จอมเวทย์ โกเลม และภูตยักษ์ ไม่อาจต่อกรกับพวกมันได้อีกต่อไป

    ...หลายเผ่าพันธ์ุถูกกวาดล้าง หลายอาณาจักรต่างล่มสลาย...

    และแล้วแสงแห่งความหวังครั้งใหม่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางไฟแห่งมหาสงครามอันสิ้นหวังนี้

    สิ่งที่เกินความเข้าใจของพวกเขาได้ถูกส่งมาโดยบางสิ่งที่ไม่อาจรู้ได้

    กองทัพหุ่นยนต์ยักษ์ปริศนาได้เข้ากอบกู้วิกฤตแห่งโลกนี้เอาไว้

    ในกองทัพนั้นมีหุ่นยนต์ยักษ์ทั้งสองที่แปร่งประกายเหนือสิ่งอื่นใด

    "สีขาว"

    แม่ทัพผู้กล้าแห่งแสง

    "สีดำ"

    แม่ทัพราชันความมืด

    ตำนานเล่าขานว่าเพียงเครื่องเดียวสามารถลบล้างกองทัพมอนเตอร์ขนาดยักษ์นับหมื่นได้อย่างง่ายดาย

    เมื่อความหวังครั้งใหม่ถูกมอบให้กับเหล่ามวลมนุษย์

    ไฟแห่งความหวังก็ได้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง

    กองทัพสีขาวและสีดำได้ร่วมมือกับราชันมังกรทั้งเจ็ด

    เข้าต่อกรกับมหาภัยคุกคามด้วยความกล้าหาญ

    และแล้ว

    มนุษยชาติได้ร่วมมือกับกองทัพหุ่นยนต์กวาดล้างภัยคุกคามเหล่านั้นได้สำเร็จ

    โลกจึงกลับสู่ความสงบสุขได้อีกครั้ง

    อารยธรรมที่เหลือรอดได้ฟื้นฟูกลับมา

    หลังจากนั้น

    กองทัพราชันความมืดได้หายไปอย่างเป็นปริศนา

    เหลือทิ้งไว้เพียงผู้กล้าแห่งแสงและบริวารที่เหลือรอด

    แต่กลับไม่มีวี่เเววผู้ควบคุมหุ่นยนต์ยักษ์นั้น

    เวลาได้ล่วงลับผ่านไป

    ผู้คนได้ส่งต่อเรื่องราวตำนานของ

    กองทัพแสงแห่งความกล้า

    กองทัพเงาแห่งความหวัง

    และ

    สองแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ได้รับการขนานนามของผู้กอบกู้เอาไว้ว่า

    ......

    " ดรากาเร็น "

    .....

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ท่านผู้อ่าน สามารถเป็นกำลังใจให้ผมทำตามความฝันและ ติดตามผลงานความเคลื่อนไหวของผมได้ที่

    FACEBOOK PAGE : FULL METAL DRAKAREN

    หรือคลิ๊กที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เล๊ยยยยย

    https://www.facebook.com/neoaipom

    ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตามนะคร้าบ

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น