คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : VENDER & YANIN 1 100%
ชนวนรักร้าย...พ่ายรัก: VENDER ♥ YANIN
ตอนที่ 1 คืนธรรมดา
ไฟรักอันเร้าร้อนระอุกำลังปะทุขึ้นอย่างเรื่อยๆ ราวกับสายน้ำไหลที่ยังไงก็ไม่มีท่าทางว่าจะหยุดยั้งได้ง่ายๆ มันเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ในค่ำคืนนี้ ไม่มีใครรู้ได้เลยแม้กระทั่งเจ้าของร่างกายของทั้งสองที่กำลังมีความสุขกันอยู่กลางห้องคอนโดหรูใจกลางเมืองหลวงก็ตาม ในเวลานี้คงเพียงร่างชายหญิงทั้งสองรู้สึกเพียงแต่ว่าต้องการการปลดปล่อยเท่านั้น
“โอ้..อ่าส์”
เสียงร้องครางออกมาอย่างไม่ได้ศัพท์ดังขึ้นลั่นสนั่นทั่วห้อง ความเสี่ยว ความซาบซ่านแล่นเข้ามาสู่ร่างกายของหญิงสาวอย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อฝ่ายชายที่คร่อมอยู่บนตัวเธอเริ่มที่จะบรรเลงบทเพลงแห่งรักด้วยการเคลื่อนจังหวะขึ้นให้ถี่จนสามารถได้ยินเสียงของเนื้อกระทบกันหนักหน่วงตามมา
พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!
“อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊ะ! โอ้...แวนเดอร์...”
“…..”
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
“คุณช่างร้อนแรงเหลือเกิน เร็วขึ้นอีก โอ้..อ่าส์.”
“……”
ฝ่ายหญิงครางออกมาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความรู้สึกที่หลากหลายที่ตัวเองอัดอั้นไว้อย่างสุดทน ชายผู้นี้เป็นคนที่เธอหมายตาว่าจะเอามาครอบครองให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตามจนในที่สุดเธอก็ได้เขามาครอบครองและตำแหน่งที่มันจะต้องเป็นของเธอเพียงผู้เดียวก็คือ นายหญิงแห่ง VENDER MISCREANT CAR ด้วยมันถึงจะพอใจอย่างที่สุด!
เมื่อความอั้นอัดถึงจุดสุดยอดไปแล้วเธอก็นอนลงที่นอนอย่างอ่อนแรงเป็นที่สุดแต่ก็มีความสุขที่เปี่ยมล้น ส่วนแวนเดอร์นั่นเขาก็เดินเข้าไปยังห้องน้ำทันที
“เงินอยู่บนหัวเตียง รีบเอาแล้วไสหัวไปซะ!”
เสียงอันราบเรียบพูดขึ้นมาหลังจากที่ใส่เพียงแค่ชุดคลุมสีขาวเผยให้เห็นแผลงอกแกร่งดูเช็กซี่เข้าไปอีกเมื่อมีหยดน้ำเกาะตัว ผมที่เปียกหมาดๆ ใช่ชายผู้นี้พึ่งเดินออกจากห้องน้ำมา แต่นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่แสดงออกมาพร้อมกับเสียงพูดนั้นไม่สามารถบ่งบอกได้เลยว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่
“อะไรกันคะแวนเดอร์ เมื่อกี้เรายังสนุกกันอยู่เลย”
เสียงใสปรนกับความดัดจริตเปล่งออกมาอย่างทันท่วงทีเมื่อเห็นว่าจบประโยคที่ชายหนุ่มพูดแล้ว มีเพียงแววตาแห่งว่าเสน่ห์หาเท่านั้นที่เธอส่งไปยั่วอารมณ์ของชายตรงหน้าในขณะที่หญิงสาวผู้นี้กำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยสภาพที่เปลือยทั้งตัวไร้ความละอายสิ้นดี ไม่คิดเลยว่าเซ็กส์ของเขาที่มอบให้มันช่างร้อนแรงและยังทำให้เธอติดใจเป็นบ้า
“สนุก? เหอะ! อย่างเธอเนี้ยสนุกมากี่คนแล้ววะ? ที่ชั้นพามาเห็นว่าผู้หญิงอย่างเธอมันง่าย? แค่นั้น ของที่มาง่ายๆ มักไม่มีอะไรให้น่าค้นหา! ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วมั้ง บอกให้รีบออกไป!”
กรี๊ด!“นี่คุณหลอกฟันแอมมี่!”
เสียงกรี๊ดแหลมใสเข้ามายังแก้วหูของผมทันที ผมคิดผิดมากที่เรียกใช้บริการผู้หญิงคนนี้ ลีลาก็งั้นๆ ไม่ได้ทำให้เร้าใจเลยสักนิด ยากที่จะอยู่กับผมยาว
“จุ๊ๆ ถ้าคิดจะแรดก็ไม่ต้องมาแอ๊บปกปิด เพราะความดัดจริต มันซ่อนยังไงก็ไม่มิดหรอกวะ เชิญ!”
“แต่แอนนี่....”
“อย่าให้ได้พูดซ้ำ! ชั้นไม่ชอบคนที่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง ออกไป!” เบื่อมากที่ได้พบกับผู้หญิงชนิดนี้ ไม่มีความเป็นกุลสตรีเลยสักนิด “ไอ้วิน! ส่ง!”
“ครับเฮีย!”
ปัง!
ผมเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวของตัวเองทันทีโดยไม่หันไปมองผู้หญิงคนนั้นเลยสักนิดเดียว ช่างปะไรล่ะ? ทำไมผมจะต้องแคร์? มันไม่ใช่เรื่อง! ห้องของผมแยกเข้ามาอยู่ในอีกโซนหนึ่งของอีกด้านหนึ่งของคอนโดส่วนห้องที่ผู้หญิงเข้ามานอนนั้นมันก็แค่ห้องไว้ทำเรื่องอย่างว่าเท่านั้น!
ว่าแล้วผมก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงใหญ่ของตัวเองทันทีพร้อมกับหลับตาลงเบาๆ เพื่อที่จะไล่ความเมื่อยล้าที่เจอมาทั้งวันแล้วยังเป็นการพักผ่อนสายตาอีกทางหนึ่ง ชีวิตของผมมันก็ไม่มีอะไรมากเลยเพียงแค่ไปๆ มาๆ ระหว่างคอนโดกับที่ทำธุรกิจของตัวเองเท่านั้น
และแล้วระหว่างที่หลับตาเหตุการณ์บางอย่างที่มันยังคงค้างคาใจของผมมาตลอดในระยะห้าปีที่ผ่านมามันก็เข้ามาเล่นงานผมทุกๆ ครั้ง ความเจ็บปวดที่มาพร้อมกับการศูนย์เสียที่ยากยิ่งที่จะทำใจได้ ทำไมผมยังต้องจำมันอีกนะ....
“แวน...ก็รู้ว่าขวัญรักเพทาย ขวัญ...”
สาวหน้าหวานงดงามดั่งสาวแรกแย้มบอกกับชายหนุ่มตรงหน้าด้วยการใช้คำที่มันทำร้ายจิตใจของเขามากที่สุด เธอคือทั้งชีวิตของเขาเชียวนะ แต่ทำไมถึงได้...ใจร้ายแบบนี้
“แต่แวนรักขวัญนะ รักมากที่สุด รักข้างเดียวมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าขวัญจะให้แวนทำอะไรให้แวนก็ยอมทุกๆ อย่าง ทำไมขวัญถึงไม่รักแวนบ้างทั้งๆ ที่เมื่อก่อนที่เพทายยังไม่เข้ามาขวัญยัง...บอกรักแวนอยู่เลย”
ชายหญิงสองคนนี้พูดกันขึ้นมาในชั่วกลางดึกที่ช่องตึกแห่งหนึ่งในเมืองหลวง ชายหนุ่มที่รูปร่างสูงโปร่งผมยาวดำถึงไหล่เหมือนกับผู้หญิงพูดออกมอย่างเป็นการตัดพ้อ
“ขวัญไม่ได้รักแวนสักนิด! ที่ให้แวนทำทุกๆ อย่างนั้นก็เพื่อทำให้เกรดของขวัญดีขึ้นเท่านั้นเอง ขวัญอยากมีชีวิตที่ดีจะได้ไม่ต้องอยู่อย่างลำบากเหมือนที่ผ่านมา ขวัญเบื่อๆ มากที่ต้องใช้ชีวิตแบบนี้ ขอบใจมากนะที่ทำทุกอย่างเพื่อขวัญ ตัดใจเสียเถอะนะแวน ยังไงๆ ขวัญก็รักเพทายมากกว่าแวนอยู่แล้ว”
“ขวัญ!”
“โธ่เว้ย! ทำไมต้องฝันเกี่ยวกับเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยนะ”
เนื้อตัวที่ต่างชุ่มไปด้วยเหงื่อเต็มร่างกายของตัวเองจนผมต้องลุกมายืนที่ตรงระเบียงของคอนโดเพื่อรับลมเย็นๆ ของบรรยากาศชั้นบนสุดของตึก เมื่อมองไปรอบๆ ตัวต่างก็พบกับแสงไฟมากมายที่ระยิบระยับจากตึกอื่นๆ บ้าง จากบ้านเรือนบ้าง
“ขวัญทำไมผมถึงยังไม่ลืมคุณนะ..”
ตั้งแต่จากกันวันนั้นผมก็ไม่เคยกลับไม่พบหน้าของเธออีกเลย ผมย้ายมหาลัยเพื่อไปเรียนที่เมืองนอกจนจบ แล้วย่างก้าวเข้ามาเหยียบแผ่นดินไทยเพียงแค่สองปีที่ผ่านมาเอง ผมเกลียดผู้หญิงที่เข้ามาตัวเองมากมาย เกลียดที่พวกเธอไม่รู้จักคุณค่าของตัวเอง เกลียดที่มองผู้ชายแค่เปลือกนอกเหมือนอย่างกับขวัญ เธอไม่เคยรู้ว่าผมมีฐานะเป็นอย่างไร และอีกอย่างในปัจจุบันนี้ผมก็ตัดผมสั้นเรียบร้อยแล้วจึงเหมือนไฮโซขึ้นมามากมั้งถึงมีผู้หญิงเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
Rr…………
“ว่า?”
ผมกรอกน้ำเสียงอย่างปกติเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครพร้อมกับยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก ก็แน่ล่ะตอนนี้เราสองคนเป็นเพื่อซี้กันไปแล้ว ตั้งแต่ไอ้เพื่อนทั้งสามคนมันมีเมียเป็นตัวเป็นตนไปหมด
“ไป..ฟันสาวกันเปล่าววะ?”
น้ำเสียงที่ค่อนข้างเซงๆ พูดขึ้นเสียงดังที่ปลายสาย
“ที่?”
“ไหนก็ได้! กูตามใจมึงไอ้แวน!”
“มันต้องอย่างนี้สิ! ไอ้รูธ ว่าแต่มึงพึงออกเวรหรือวะ?”
“เออ! ก็เลยอยากพักผ่อนบ้างคลายเครียดตามประสาคนโสด!”
“แล้วเจอกัน!”
ไม่ต้องพูดกันให้มันมากความเพราะว่าผมเข้าใจที่ไอ้รูธมันพูดดี ผมเข้าไปจัดการอาบน้ำและแต่งตัวเพื่อออกไปด้านนอกทันที โดยที่ไม่สนว่าจะเวลาเท่าไหร่
YANIN : PAST
เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม ณ คลับแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างจะมีผู้คนคับคลั่งอย่างล้นหลามจนต้องเบียดเสียดกันอย่างมากมาย มันค่อนข้างทึบและอึดอัดแบบนี้ฉันไม่ชอบเลยด้วยซ้ำแต่ดันไปรับปากเพื่อนๆ นักดื่มไว้จึงจำเป็นต้องมาโดยที่ไม่เต็มใจสักนิดเดียว
“เอ้าๆ ดื่มๆ ชนๆ”
เสียงของยัยนาเดียร์ดังขึ้นจนถึงขั้นแสบแก้วหู ทำไมเสียงถึงกังวานแบบนี้ก็ไม่รู้
“ยกสิยัยนิล ฉันไม่ได้พาแกมานั่งเป็นเจ้าที่ที่นี่นะ!”
“เออๆ รู้แล้วๆ”
ยัยนาเดียร์พูดขึ้นทำให้คนในกลุ่มหันมาจ้องหน้าฉันอย่างเป็นจุดศูนย์รวมจึงทำให้ฉันจำใจยกขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ไม่รู้ว่าเหล้าที่ดื่มไปมันมีฤทธิ์มากหรือน้อยด้วยซ้ำ
ฉันขอแนะนำตัวเลยแล้วกันว่าฉันชื่อญานิน เป็นลูกจ้างประจำร้านเค้กแห่งหนึ่งในเมืองนี่แหละ การศึกษาไม่ต้องถามปริญญายังไม่ได้เรียนด้วยซ้ำทั้งๆ ที่อายุย่างเข้าจะยี่สิบสองแล้วเพราะว่าจนเป็นเหตุ ยิ่งในยุคที่ข้าวของแพงแบบนี้เลี้ยงตัวและส่งเงินให้ปู่กับย่าที่อยู่บ้านนอกยังไม่พอใช้เลยด้วยซ้ำ
“เออพวกแก ฉันขอตัวกลับก่อนนะพรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้าตรู่”
ยังไม่ได้ฟังเสียงของเพื่อนๆ สักนิดฉันก็ลุกขึ้นและก้าวออกมาทางหลังร้านทันที ถ้าเกิดว่ารอคำตอบนะเช้าก็ยังไม่ได้กลับเลยด้วยซ้ำอีกทั้งตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกมึนๆ ยังไงชอบกล
“อ๊ะ! เบาๆ หน่อยสิคะ น้ำไม่ไหวแล้ว โอ้...แวน..”
เท้าฉันหยุดชักงักทันทีก่อนที่จะมองไปยังหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่กำลังซุกไซ้กันอย่างเมามันอยู่ที่กำแพงในมุมมืด ช่างกล้าเนาะ!
“น่าไม่อาย!”
ฉันพูดขึ้นอย่างดังโดยไม่กลัวว่าสองชายหญิงนั้นจะได้ยินจนหยุดกิจกรรมดังกล่าวก่อนที่ฝ่ายหญิงจะมองมาทางฉันด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
“ชอบแส่นักหรือคะ?” ผู้หญิงคนนั้นเดินมาและพูดขึ้น
“ก็ไม่เชิงหรอกคะ? เพียงแต่ไม่อยากเห็นหมาเดือนสิบสองผสมพันธุ์กันเฉยๆ มันเป็นเสนียดสายตา! เอ๊ะ! อย่ากรี๊ดนะคะ เป็นสุภาพสตรีหน่อยเดี๋ยวผู้ชายจะเบื่อเอา!”
กึก!
“เธอไม่ผ่านการเป็นผู้หญิงของชั้นเสียใจด้วยนะ ชั้นไม่ชอบให้คนขัดจังหวะ!”
เสียงผู้ชายดังกล่าวเดินเข้ามาทำให้ฉันตะลึง เขาตัวสูง ผิวขาวราวหิมะ จะเรืองแสงหรือไงพ่อคุณ สีผมสีน้ำตาลตัดสั้นจนเข้ากับรูปใบหน้าหวานแต่นิสัยคงไม่หวานอย่างที่คิดเมื่อเขาปฏิเสธสาวที่ฉันพึ่งด่าไปเมื่อกี้ จากนั้นเขาก็เดินจากไปโดยไม่สนใจฉันเลยสักนิดเดียว
“แกทำให้ฉันเสียโอกาส รู้ไหม? กว่าฉันจะได้เจอกับเขามันต้องใช้ความพยายามมากเท่าไหร่ห่ะ?”
ใบหน้าที่ค่อนข้างจะจริงจังและหาเรื่องเดินเข้ามาประชิดตัวของฉันทันทีโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัวเลยสักนิดเดียว
“เอาเวลาไปเรียนดีกว่าไหม? จะได้ไม่เสียเวลาวิ่งตามผู้ชายที่เขาไม่สนใจ?” ฉันตรอกกลับหน้าหญิงคนนั้นอย่างเด็ดขาด
“งั้นถ้าคนอย่างแกมีปัญญาให้เขาพาออกไปจากคลับด้วย ฉันให้สองแสน!”
“สองแสน!” สายตาของฉันลุกวาวทันที เงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นมันทำให้ปู่ย่าสบายไปทั้งชาติเลยนะแต่ว่ามันค่อนข้างเสี่ยง
“หรือว่าไม่กล้า เพราะสารรูปอย่างเธอคงยากที่เขาจะเอา!”
“ตกลง ฉันรับคำท้า”
------------------------------------
ความคิดเห็น