พี่หมอครับ...เป็นแฟนผมสักที - นิยาย พี่หมอครับ...เป็นแฟนผมสักที : Dek-D.com - Writer
×

    พี่หมอครับ...เป็นแฟนผมสักที

    โดย NANA_AA

    กลับมาคราวนี้ ผมมาตามหาหัวใจของผมที่โดนพี่ชายข้างบ้านแย่งไป " คุณหมอกีรติของผม "

    ผู้เข้าชมรวม

    71

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    71

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  7 เม.ย. 67 / 08:58 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทที่ 1

              ( เจอกันวันแรก )

    เวลาผ่านมาสี่ทุ่มครึ่งผมพึ่งจะได้ย่างก้าวออกมาจากห้องผ่าตัดหลังจากที่เจอเคสหนักมาตั้งแต่เที่ยงวัน เหตุรถทัวร์ชนเข้ากับรถบรรทุกเหล็กยาว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 14 ราย และเสียชีวิตไป 7 ราย  ข่าวนี้หดหู่มาก เพราะส่วนใหญ่คนในรถจะเป็นเด็ก เด็กๆกำลังจะไปทัศนศึกษากันแท้ๆ อีกไม่ถึง 10 กิโลเมตร พวกเขาก็ถึงที่หมายกันแล้ว 

    " เป็นไงบ้างพวกมึง " นายแพทย์เจไดหรือไอ้เจเพื่อนสนิทของผมที่สนิทกันมาตั้งแต่มัธยม และก็สอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยพร้อมกัน ติดคู่ ไม่รู้ฟ้าลิขิตหรือเวรกรรมของผมที่หนีจากมันไม่รอดสักที 

    " ก็โอเค สงสารน้องๆ คงจะเจ็บกันน่าดู " แพทย์หญิงพรีมเพื่อนที่ผมกับไอ้เจเจอที่มหาลัยพูดออกมาพร้อมกับทำหน้าเศร้า 

    " ไม่รู้ป่านนี้พ่อแม่จะเป็นยังไงกันบ้าง " พี่หมอนินที่สนิทกันหลังจากที่ผมได้เข้ามาทำงานที่นี้ อายุมากกว่าผมแต่จบพร้อมกัน 

    " นั้นสิพี่ ผมกลับก่อนดีกว่า วันนี้ข้าวยังไม่ตกถึงท้องเลยสักคำ เดี๋ยวผมได้มาเป็นคนไข้พี่ต่ออีก " ผมเอ่ยออกไปเพราะตั้งแต่เช้าผมยังไม่ได้ทานอะไร ทานแค่กาแฟกับขนมปังรองท้อง วันนี้คนไข้เยอะมาก ทำเอาผมลืมเวลาทานข้าวไปเลย

    " เอออ พี่ก็จะกลับละ เจอกัน " พี่หมอเอ่ยจบก่อนจะเดินนำออกไปเหลือแค่ผมกับเจและก็พรีมที่เดินไปรอลิฟต์อย่างหมดแรง 

    " เอออไอ้ฟาร์ คืนนี้กูขอไปค้างห้องมึงนะ พอดีคอนโดกูไกลขี้เกียจขับรถไกลๆ " เจไดเอ่ยบอกผม นานๆทีมันจะขอค้างที่ห้องของผม

    " เอออ แล้วแต่มึงเหอะ " 

                     ********

    ณ.คอนโดหมอฟาร์

    แกร๊กก~

    ประตูคอนโดหรูถูกเปิดออกเผยให้เห็นภายในห้องที่มืดมิดไร้แสงไฟ นิ้วเรียวยื่นไปเปิดสวิตช์ไฟข้างประตู 

    พรึ่บบ! 

    ไฟสว่างถูกเปิดเผยให้เห็นภายในห้องที่ตกแต่งสวยงามอย่างประณีต แต่... 

    " ไอ้ฟาร์ มึงเป็นหมอจริงปะเนี่ย! " เจไดเอ่ยออกมาทันทีที่เห็นสภาพห้องของผม มันมองหน้าผมกับสิ่งของที่วางเกลื่อนอยู่ในห้องสลับไปมา " เหี้ยย! กูนึกว่าโรงเก็บขยะ " 

    " มึงก็เขี่ยๆนอนไปละกัน ถ้าจะอาบน้ำ ห้องน้ำทางโน้น หรือไม่ก็ไปนอนห้องรับแขก สภาพก็...ไม่ต่างกันเท่าไหร่ " ผมเอ่ยพร้อมกับหาวไม่หยุด ง่วงมากกและเหนื่อยมาก ห้องรับแขกส่วนมากผมจะเข้าไปหาหนังสืออ่าน อ่านแล้วไม่เคยจะเก็บที่เดิมสักครั้ง มันก็เลยรกหน่อย

    " ละคือจะเข้านอนเลย ไม่อาบน้ำ " เจไดพูดทักขึ้นมา ผมส่ายหัวตอบไป ไม่ไหวจะอาบจริงๆ ง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น 

    " โห่วว ไอ้หมอชกมก!  " 

    " ขอบใจ " พูดจบผมก็เดินเข้าห้องทันที พอหัวถึงหมอนนุ่มๆ ภาพก็ตัดไปทันที 

    นายแพทย์ กีรติ ภัชรสกุล ชื่อของผม อายุ 25 เรียนจบคณะแพทย์มาแล้ว 3 ปี สอบเทียบติดตอนอายุ 16  ปีพร้อมกับเจได แน่นอนผมเป็นเด็กจำพวกชอบเรียน ชอบหาความรู้ อ่านหนังสือเกี่ยวกับตำราแพทย์เป็นประจำ ถึงได้สอบเทียบเข้ามาได้ ผมเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน ป๊าม๊าทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่นๆอีกที่ผมยังไม่รู้

                     ********

    Tru.....tru....tru....

    เสียงโทรเข้าทำให้ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไหลสนิทตลอดทั้งคืน นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมรู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากจะตื่น ถ้ามีคนมาหาข้าวหาน้ำให้กินคงจะดี 

    [ " ครับมาม๊า " ] 

    [ " พึ่งตื่นหรออ มาม๊ากวนหรือเปล่า " ] 

    [ " ไม่เลยครับ มาม๊ามีอะไรหรือเปล่า " ] 

    [ " คือแบบนี้ ลูกชายเพื่อนของมาม๊าจะกลับไปเรียนที่ไทย ม๊าอยากให้น้องไปอยู่กับฟาร์สักพัก เพราะน้องไม่รู้จักใคร ละก็ไม่คุ้นชินกับประเทศไทย แม่สุณีเขามาขอร้อง  " ] 

    [ " ไม่มีปัญหาครับมาม๊า ฟาร์ไม่ค่อยได้อยู่ห้องอยู่แล้วว น้องมาอยู่กับฟาร์ก็ดี เพราะฟาร์จะได้ไม่กลัวผี " ] 

    [ " เป็นคุณหมอแล้วยังกลัวผีอยู่อีก แล้วงานเป็นไงบ้าง เหนื่อยมั้ย " ]

    [ " ก็เหนื่อยครับมาม๊า เมื่อคืนเจอเคสหนักมา รถทัวร์เด็กนักเรียนชนรถบรรทุก เจ็บหนักหลายคนเลย เสียชีวิตด้วยเยอะเลย " ] 

    [ " น่าสงสารจัง มาม๊าเห็นข่าวอยู่ พ่อแม่คงจะใจสลายกันแน่ๆเลย มาม๊าคิดใส่ตัวเอง ถ้าเป็นมาม๊าที่ต้องเสียลูกชายอันเป็นที่รัก

    ของมาม๊ากับป๋าป๊าไป มาม๊าคงอยู่ไม่ได้ " ] 

    [ " มาม๊า ถึงผมไม่อยู่ มาม๊าก็ต้องอยู่ให้ได้นะครับ " ] 

    [ " ไม่รู้แหละ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว " ] 

    [ " แล้วมาม๊าเป็นไงบ้าง จะมาหาฟาร์ตอนไหน หอบของไปสวีทกันนานขนาดนี้ ลืมลูกชายที่น่ารักๆคนนี้ไปแล้วมั้ง " ] 

    [ " เราก็ อีก 2 เดือนมาม๊าก็กลับ จะกลับไปจัดปาร์ตี้วันเกิดด้วย อ๋อ น้องจะถึงตอนเย็นนะฟาร์ มาม๊าส่งที่อยู่ฟาร์ให้น้องแล้ว " ] 

    [ " ครับ มาม๊า " ] 

    [ " งั้นแค่นี้นะครับ มาม๊าจะไปดูงานกับ

    ปาป๊าหน่อย เดี๋ยวนี้งานปาป๊ายุ้ง " ] 

    [ " ค้าบบบบ " ] 

    ก็อกๆ ก็อกๆ 

    หลังจากที่ผมวางสายจากผู้ให้กำเนิดหรือคุณมาม๊าของผมไปไม่นาน จากด้านนอก ไม่สิ คงต้องเรียกว่าทุบ! พร้อมกับเสียงเรียกโวยวายแต่เช้า ยังดีที่ห้องผมเก็บเสียง ไม่งั้นคงโดนข้างห้องด่าเละ 

    " ฟาร์โว้ยยย ฟาร์ " เสียงร้องตะโกนเสียงดังจนผมต้องลุกออกจากเตียงนุ่มเพื่อไปเปิดประตูให้กับเพื่อนสนิท 

    แกร๊กกกก~

    " ชุดยังไม่เปลี่ยน น้ำยังไม่อาบ อย่าบอกนะว่า... " แค่มันอ้าปาดจะพูดผมก็เห็นสันดานมันแล้วครับ จริงๆผมก็เป็นคนสกปรกโสโครกนั้นแหละ 

    " กูพึ่งตื่น กำลังจะไปอาบ " ผมเอ่ยออกมาก่อนที่มันจะพูดจบประโยค 

    " 07:20 น. เพื่อนกูพึ่งตื่น " 

    " เอออน่าาา 5 นาที " ผมตอบก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัว ไอ้เจมันไม่ค่อยได้มาห้องผมเท่าไหร่ มันก็เลยจะแปลกใจหน่อย นานๆมีเคสยาวๆจะมาที แต่ทุกทีมาม๊าจะเก็บห้องให้ รอบนี้มาม๊าไปดูงานกับปาป๊าก็เลยเป็นสภาพแบบที่เห็น 

    หลังห้านาทีให้หลัง ผมอาบน้ำเสร็จพร้อมกับแต่งตัวเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาจากห้องพร้อมกับผมที่ยังไม่แห้งดี 

    " ข้าวมาส่งพอดี กูรู้เลยว่าทำไมมึงตื่นสายแต่ยังไปทำงานทันทุกวัน " ทันทีที่เห็นผม เจไดก็พ้นคำพูดออกมาทันทีพร้อมกับมำท่าทางส่ายหัวไปมา ปกติทุกวันผมจะตื่นเจ็ดโมงเช้าจัดการตัวเองหนึ่งชั่วโมงก่อนไปทำงานทุกวัน ถึงโรงพยาบาลตรงเป๊ะ ไม่สายไม่เช้า

    " เรื่องกูเหอะน่าาา " ผมตอบไปสั้นๆก่อนจะมองดูอาหารบนโต๊ะ วันนี้ไอ้เจมานอนค้างด้วยผมถึงมีโอกาสได้ทานข้าวเช้า ไม่งั้นคงได้กินแค่กาแฟรองท้องไปทำงานแน่ๆ 

    " แดกๆเหอะงั้น เดะสาย " 

                              ****** 

    ณ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

    เวลาแปดโมงตรงผมเดินทางมาถึงโรงพยาบาล ผมต้องไปดูคนไข้เคสของผม รวมทั้งเคสที่มาเมื่อวานนี้ วันนี้มีนัดผ่าด้วยกัน 2 เคส หวังว่าวันนี้งานจะราบรื่น 

    " สวัสดีค่ะคุณหมอ " พยาบาลสาวเข้ามาทักเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาภายในห้องไอซียูเพื่อมาดูอาการของผู้ป่วยที่มีอาการหนัก 

    " ครับ " ผมตอบ ตาก็จ้องมองประวัติของคนไข้ในมือ " คุณวิลัย มีการตอบสนองมั้ยครับ " ผมถามพยาบาลสาวและตรวจวัดชีพจรต่างๆเพิ่มเติม 

    " คนไข้ยังมีอาการหายใจหอบค่ะ มีความดันต่ำอยู่ค่ะ มีการตอบสนองดีค่ะ  " พยาบาลสาวพูด ผมดูจากการตรวจเพิ่ม อาการดีขึ้นมาก รอถอดเครื่องช่วยหายใจก็สามารถออกจากห้องนี้ได้ 

    " โอเคครับ " 

    " คุณวิภาดา พึ่งผ่าตัดเมื่อวาน ครูบนรถทัวร์ ถูกเหล็กเสียบเฉียดหัวใจ " ผมอ่านประวัติคนไข้ก่อนจะตรวจเพิ่มเติม ยังดีที่เหล็กไม่โดนจุดสำคัญ 

    " โอเค คุณภานุชัย ตอบสนองแล้วใช่มั้ย

    ครับ " 

    " ค่ะ มีการขยับนิ้ว ลืมตาได้บ้างแล้วค่ะ แต่ยังหายใจเหนื่อยอยู่ เกล็ดเลือดก็ยังต่ำอยู่ค่ะ " พยาบาลเจ้าของไข้เข้ามาอธิบายกับผม ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเร่งตรวจจนครบ 

    " เป็นไงบ้างครับคุณยาย แผลเป็นไงบ้าง " ผมมาตรวจคนไข้ของผมที่จะให้กลับบ้านวันนี้ คุณยายจัน ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ 

    " โอเคเลือดไม่ซึม ไม่เจ็บแผลแล้วใช่มั้ย

    ครับ " 

    " ไม่แล้วจ๊ะ ขอบคุณหมอมากเลยนะจ๊ะที่จ่ายค่ารักษาให้ยาย ไม่งั้นยายก็คงไม่รู้จะทำยังไง " ยายยกมือไหว้ผมจนนับครั้งไม่ถ้วน ยายแกอาศัยอยู่คนเดียว มีลูกถึง 5 คน แต่ไม่มีใครมาดูแลแกเลย 

    " ไม่เป็นไรครับยาย ยายหายเจ็บก็ดีแล้ว " ผมตรวจคนไข้ของผมกว่าจะครบทุกคนก็ปาไปเกือบเที่ยงแล้วครับ ออกไปจิบกาแฟสักหน่อยดีกว่า เริ่มหิวละแฮะ

    " ไงมึง เป็นไงบ้าง " ไอ้เจไดเดินเข้ามาทางผมที่กำลังชงกาแฟอยู่ที่ห้องพักแพทย์ มันก็คงพึ่งจะตรวจเสร็จเหมือนผม 

    " เคสกูโอเคดี ที่ผ่าตัดเมื่อวานที่หน้าเป็นห่วงแค่ 2 ราย ที่เหลือก็รู้สึกตัวกันหมดแล้ว " ผมเอ่ยออกไปพร้อมกับจิบกาแฟร้อนไปพราง

    " เอออกูก็ดีเหมือนกัน วันนี้ใครสั่งพิชซ่ามากินในโรงพยาบาลนะ กูจะด่าให้วอดเลยสัส " เจไดพูดออกมา พิซซ่าคือของต้องห้ามของโรงพยาบาลผมเลยละครับ วันไหนมีคนสั่งมากินหรือมีคนซื้อมาให้ จะมีเหตุไม่คาดคิดเข้ามาตลอดสาย

    " ฮึกก ฮือออ " ผมกับเจไดหันไปมองตามเสียงสะอื้นของคนที่พึ่งจะเข้ามา พรีม พรีมเป็นหมอกุมารเวช ส่วนผมเป็นศัลยกรรมหัวใจ ไอ้เจไดก็เหมือนกัน 

    " พวกแก น้องเสียไปอีกหนึ่งคนแล้ว สงสารผู้ปกครองมากก ฮือออ น้องยังเด็กอยู่เลย ฮึกก " พรีมร้องไห้สะอื้นใหญ่ ผมกับเจไดมองหน้ากันพักหนึ่ง 

    " นั้นสิ กูก็ใจหายเหมือนกัน สรุปทำไมรถถึงชนกันวะ รถทัวร์ที่มีเด็กหรือรถบรรทุก " เจไดถามออกไป อย่างสงสัย ผมเองก็สงสัย พวกเขากำลังจะได้ไปสนุกกับทัศนะศึกษาแล้วแท้ๆ

    " รถทัวร์ผ่าไฟแดง ฮึก " ผมถึงกับขมวดคิ้วทันที ทำไม ทั้งๆที่มีเด็ก.. แต่ก็เถอะ ยังไงก็อุบัติเหตุ 

    " คนขับหลับใน ฮึกก " พรีมยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น เจไดกับผมเลยปลอบหน่อย พรีมเป็นคนที่อ่อนไหวมาก

    Tru... Tru... Tru.... 

    ( เบอร์แปลก ) 

    [ " สวัสดีครับ นายแพทย์กีรติพูดครับ " ] 

    [ " password " ] 

    [ " ห๊ะ! What password? " ] 

    [ " Room password " ] เสียงปริศนาถามหารหัสผ่านห้องของผม ผมนึกสักพักก่อนจะเผลอหลุดปากพูดออกไป 

    [ " 49094 เดี๋ยว! เห้ยย ใครวะ! " ] ผมร้องตะโกนจนเพื่อนหันมามอง เหี้ยโจรขึ้นบ้านกูปะเนี้ย ดันไปบอกรหัสผ่านเขาอีก 

    [ " Keen " ]  อ่อลูกชายแม่สุณี บอกชื่อเสร็จตัดสายหนีไปเลย ละขึ้นห้องไปได้ไงวะ รู้ได้ไงว่าห้องไหน ช่างเถอะ ปวดสมอง 

    " อะไรอีฟาร์ " พรีมเอ่ยออกมาพร้อมกับจ้องมองจับผิดผม เมื่อกี้ยังร้องไห้ขี้มูกโปร่งยุเลย ตอนนี้หูเริ่มยาวละ

    " อะไร แค่แม่กูฝากน้องที่พึ่งกลับมาไทยมาอยู่ห้องกูก่อน น้องมันไม่รู้จักใคร อะไรของพวกมึง " 

    " อ่ออ หล่อป่ะๆ " พรีมเช็ดน้ำมูกน้ำตา ดวงตาเปียกลุกวาวขึ้นมาทันที 

    " กูยังไม่ทันได้เจอน้องเขาเลย เจอล่าสุดตอนกูอายุ 15 โน้นนน เลิกสนใจผู้ก่อนเนอะ ไปกินข้าวก่อน " พูดจบผมก็กอดคอเพื่อนสนิททั้งสองไปหาไรกินอร่อยๆ ไม่อยากสั่ง เบื่อละ

    " กินไรดีวันนี้ "

    KEEN..

    เหตุการณ์ก่อนหน้า 

    พรึ่บบ! 

    ร่างสูงทิ้งตัวโถมเข้าใส่ผู้เป็นเเม่พร้อมกับเอาใบหน้าที่หล่อเหลาไปถูกับแขนเรียวขาวของผู้เป็นเเม่อย่างออดอ้อน 

    " ม๊าค้าบบบ คีนขอไปเรียนที่ไทยได้มั้ย นะ

    ค้าบม๊า คีนอยากเจอพี่ฟาร์  " ผมใช้ทุกท่วงท่าออดอ้อนหญิงผู้เป็นเเม่ของผมอย่างสุดความสามารถ พี่ฟาร์พี่คนนั้นที่ผมเคยเจอตอนเป็นเด็ก ตอนนั้นพี่เขาอายุ 15 ส่วนผมอายุ 11 ได้ยินว่าตอนนี้พี่เขาเป็นคุณหมออายุน้อย ผมก็เลยคิดอยากได้คุณหมอมาดูแลแด๊ดกับม๊า แด๊ดเป็นลูกครึ่งจีน-เยอรมัน โตที่เยอรมันไปเจอม๊าได้ไงก็ไม่รู้ ส่วนม๊าเป็นไทยแท้ ผมเองก็พึ่งย้ายมาเยอรมันตอนอายุ 11 ปีนั้นแหละ 

    " cannot! What do you plan to play? " แด๊ดเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ เขาหาว่าผมคิดจะเล่นอะไรแปลกๆ หรือทำอะไรสักอย่าง สมแล้วที่เป็นพ่อผม

    " why? " ผมถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ แด๊ดไม่เคยห้ามอะไรผมได้สักครั้ง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ผมส่งสายตาให้ม๊าช่วย

    " shut up your mouth ลูกชายฉัน ฉันจัดการเอง คุณไม่ได้เป็นคนคลอด ไม่ได้เป็นคนให้นม เพราะงั้น stop your mouth " แด๊กถึงกับเงียบไปเลยครับ ม๊าของผมเอาแด๊ดอยู่ จะใหญ่มาจากไหนก็แพ้ทางเมียจ๋าอยู่ดี หุหุ

    " ได้เลยลูก อยากไปไปเลย อย่าลืมพาพี่ฟาร์

    มาเจอม๊าด้วยนะ " เยสส! ผมอยากจะตะโกนแล้ววิ่งอ้อมบ้านสัก 3 รอบ คิดมาตั้งนานเผื่อจะยอมตัดสินใจได้ ในที่สุดก็ได้ไปสักที

    " งั้นผมไปเก็บของนะม๊า ม๊าจองเครื่องให้ผมเลยนะ ผมจะไปพรุ่งนี้เลย " ม๊าพยักหน้าตอบ ผมรีบวิ่งขึ้นไปเก็บของทันที

    " mommy " 

    " เงียบ! " ผมได้ยินเสียงดังตามหลัง แด๊ดไม่เคยจะชนะม๊าสักครั้งเลย

    ณ.คอนโดพี่ฟาร์

    ผมเดินทางมาถึงคอนโดของพี่ฟาร์แล้ว คอนโดดูหรูมากแต่ผมยังไม่ได้เข้าไปในห้อง ผมโทรถามรหัสพี่ฟาร์มาแล้วเรียบร้อย คุณแม่แก้วเป็นคนให้ที่อยู่ผมมา พร้อมกับเบอร์มือถือพี่ฟาร์

    ติ๊งงง~ แกร๊กกก~ 

    ประตูบานหรูถูกเปิดออกเผยให้เห็นภายในห้อง ผมถึงกับยืนอึ้งไปยกใหญ่ สภาพห้อง...

    มันรกจนผมไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ 

    " เป็นหมอจริงหรอวะ " ผมลากกระเป๋าเดินเบี่ยงเดินเลี่ยงสิ่งของที่วางละเกะละกะเต็มพื้น ก่อนจะยืนท้าวเอวมองสิ่งตรงหน้า ผมต้องทำงานหนักตั้งแต่มาถึงเลยหรอเนี้ย 

    " เฮ้อออ เอาก็เอาวะ " ผมยืนมองอยู่นายก่อนจะตัดสินใจทำความสะอาดห้อง เปลี่ยนจากห้องที่รกให้กลายเป็นคอนโดที่หรูหราเหมือนเดิม ผมเริ่มจากเก็บเสื้อผ้าที่ถูกถอดโยนไว้เกลื่อนห้อง และก็เก็บขยะ ยังไม่ทันไรผมก็ได้เป็นพ่อบ้านสะละ 

                     ********

        17 : 02 น. 

    ฟู่ววววว~

    ผมเป่าลมออกปากเบาๆอย่างเหนื่อยล้า ผมก็พึ่งรู้ว่าคนเป็นหมอมีเวลาดูแลคนอื่นแต่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองจริงๆก็วันนี้แหละครับ คงจะยุ้งมากจริงๆ ผมทำความสะอาดทุกห้องทุกมุม จนตอนนี้ภายในห้องถูกจัดแต่งจนใหม่เอี่ยม ผมเดินเข้าไปในห้องนอนทั้งสองห้องเพื่อดูว่าพี่ฟาร์นอนห้องไหน และแน่นอนผมเลือกจัดของของตนเองไว้ในห้องนอนของพี่ฟาร์  

    " หอมจัง " ผมสูดดมกลิ่นเทียนหอมของพี่ฟาร์หลังจากที่ผมพึ่งจุดไปไม่นาน ผมรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเมื่อได้กลิ่นของมัน ดีจัง 

    ผมใช้เวลาไม่นานข้าวของก็ถูกจัดวางเป็นระเบียบ ต่างจากของคุณหมอที่ถูกค้นจนแทบจะล้นออกตู้ และแน่นอนผมต้องจัดเข้าที่ให้เขา 

    Tru... Tru... Tru... 

    ( ซี ) 

    เพื่อนสมัยประถมของผมและก็เป็นญาติผมด้วยเพราะมันเป็นลูกชายของน้าชายของผมที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาล ส่วนน้าสะใภ้เป็นผอ.โรงพยาบาล 

    [ " ฮะโหล ไอ้คีน มาถึงยัง ออกมาเจอหน่อยป่ะ กูมีเพื่อนมาแนะนำให้มึงรู้จัก " ] น้ำเสียงห้วนพูดออกมาทันทีที่ผมรับสาย

    [ " อืม ที่ไหน " ] 

    [ " เดี๋ยวกูไปรับที่หน้าคอนพี่ฟาร์ เดี๋ยวมึงหลงทาง จะแย่เอา " ] 

    [ " โอเค " ] 

    พูดจบสายก็ตัดไป ผมเลยลุกขึ้นไปเตรียมตัวอาบน้ำเพราะตัวเองมีแต่กลิ่นเหงื่อ 

    ณ.ร้านซูซิแห่งหนึ่ง

    ผมเดินเข้ามาภายในร้าน นานมากแล้วที่ผมไม่ได้กลับมาที่เมืองไทย ทุกอย่างต่างไปจากแต่ก่อนมาก ผมที่สวมเพียงแค่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนเดินผ่านผู้คนมากมายเข้ามาในโต๊ะที่ไอ้ซีมันจองไว้

    " มาเร็วนี่หว่าาา นี่เพื่อนที่กูบอกพวกมึง ไอ้เนม ไอ้เลย์ พวกมึงนี่ไอ้คีน เพื่อนกูที่พึ่งกลับมา " ทันทีที่มาถึงโต๊ะที่จองไว้ ซีก็แนะนำผมให้เพื่อนๆได้รู้จัก พวกมันก็ยกมือเป็นการทักทายผม ผมก็พยักหน้าให้ 

    " สั่งๆเลยมึง ไอ้ซีมันเลี้ยง " เลย์คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมนั่งคู่กับเนม ส่วนผมนั่งคู่กับไอ้ซีเอ่ยออกมา

    " อะไรวะ กูอีกแล้วหรออ " ซีบ่นออกมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีที่ไม่ดีอะไร

    " กูเลี้ยงเอง เต็มที่ " ผมเอ่ยออกไปพรางกับหยิบเมนูขึ้นมาวางบนโต๊ะ ถือว่าเลี้ยงให้กับการเป็นเพื่อนกันวันแรก 

    " เชี้ยย นอกจากหน้าจะหล่อแล้ว ยังรวยอีกนะเพื่อนใหม่กู ไม่เหมือนไอ้เหี้ยซี ขี้งกชิป " ไอ้เนมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงก่อนจะหันไปเหน็บไอ้ซีเล็กน้อย

    " เอ้า ไอ้เวรนี้ "

    " เอออว่าแต่ทำไมมึงถึงย้ายเข้ามาปี 3 ได้เลยวะ แปลก " เลย์ถามออกมาอย่างสงสัย แน่นอนว่าคนแบบผมต้องใช้เส้นสายอยู่แล้ว 

    " ม๊ากูจัดการให้ เรียกว่าใช้เส้นมั้ย " ผมตอบออกไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไร 

    " เอออใช้ แต่เรียนที่เยอรมันมันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอวะ " ซีเอ่ยออกมาพร้อมกับทำหน้าทำตางงๆ มันก็ดีครับ แต่ผมอยากมาทำตามหัวใจตัวเองมากกว่า 

    " อืม " 

    " ปกติมึงหน้านิ่งแบบนี้ป่ะ " ไอ้เนมเอ่ยถามออกมา ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้าให้แทน " อย่างกับพระเอกซีรี่ย์หน้านิ่งๆ หล่อๆ ไปเป็นดาราได้เลยนะ " 

    " ให้กูเป็นคนปกติก็พอละ กูไม่ชอบความวุ้นวาย " ผมพูดพร้อมกับกวักมือเรียกพนักงานเพื่อสั่งอาหาร 

    " ลูกค้ารับอะไรดีคะ " พนักงานสาววิ่งมาทางโต๊ะของพวกผมก่อนจะเอ่ยปากถาม

    " เอามาก่อนอย่างละหนึ่ง ทุกเมนูเลยครับ " ทันทีที่ผมเอ่ยจบ เพื่อนในโต๊ะก็ต่างพากันนั่งนิ่งเงียบอึ้งไปตามๆกัน 

    " เจ๋งว่ะ ชอบๆ " เลย์พูดออกมาพร้อมกับยกนิ้วให้ผม จริงๆผมก็ไม่ได้อยากอวดรวยหรอก แค่ผมไม่รู้ว่าต้องสั่งอะไร เพราะไม่รู้ว่าอันไหนอร่อย อันไหนไม่อร่อย 

    " มึงจะลากกูมาทำไมเนี้ยยย กูจะกลับไปนอน อุส่าได้ลงเวรเร็ว เสียเวลานอนกูหมด " 

    " รอสักครู่นะคะ "

    " มึงจะนอนห่าไรหนักหนาวะ มาหาไร

    แดกก่อนดิ เรียนก็เก่ง แถมยังได้เป็นหมอ เป็นหมอแต่ไม่มีสมองนะมึง นอนนมากๆอ่ะ " ผมกับเพื่อนหันไปสนใจโต๊ะข้างๆ ผู้ชายสองคนที่แต่งตัวดูสะอาดสะอ้านกำลังถกเถียงกันอยู่

    " เกี่ยวไรกันวะ " ผู้ชายรูปร่างบางสูงเกือบเท่าๆผม ผมสีดำสนิทอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำรองเท้าหนังสีดำ นัยตาสวย ผิวขาว แก้มนวลอมชมพู ริมฝีปากที่ได้รูป ใบหน้าหวานของหนุ่มคนนั้นทำเอาผมละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ

    " สวัสดีค่ะคุณหมอฟาร์คุณหมอเจได วันนี้ทานอะไรดีคะ " ทันทีที่พนักงานเรียกชื่อก็ทำเอาผมอึ้งไปพักใหญ่ นี้พี่ฟาร์ของผมหรออ น่ารักจัง

    " เอาอันนี้กับอันนี้ครับ " ผู้ชายที่มากับพี่ฟาร์เป็นคนสั่ง ผมนั่งมองร่างบางอย่างไม่ละสายตา

    " เอออ มึงจะไปไหนต่อป่ะคีน ไปดื่มมั้ย " เลย์เอ่ยปากถามขึ้น ผมหันไปมองมันก่อนจะส่ายหัว ผมไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืน ถ้าจะดื่มก็ต้องเป็นที่ห้อง

    " กูเหนื่อย จะกลับไปนอน "

    " เอออ พรุ่งนี้เดี๋ยวกูไปรับไปมหาลัย เดี๋ยวมึงหลง " ซีพูดออกมา

    " อืม "

    ********

    เวลาสิบเก้านาฬิกายี่สิบนาที ผมมาถึงห้องหกโมง น้ำหยดบนตัวของผมบ่งบอกให้รู้ว่าผมพึ่งอาบน้ำเสร็จ ผมสวมใส่เพียงแค่กางเกงขาสั้นตัวเดียวไร้เสื้อคลุมท่อนบน

    " คีน อยู่มั้ยทำไมไม่เปิดไฟ " ผมได้ยินเสียงเรียกมาจากห้องนั่งเล่นก่อนจะลุกเดินออกไปข้างนอกแล้วไปยืนซ้อนหลังของพี่ฟาร์

    " กลับมาแล้วหรอครับ " ผมกระซิบข้างหูของพี่ฟาร์ ตัวเราทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก

    " เห้ยย! " พี่ฟาร์ตกใจหมุนตัวหันหน้าเข้ามาผม ด้วยความตดใจทำให้ทรงตัวไม่อยู่ ล้มมาชนกับอกผม

    หมับ!

    พี่ฟาร์บีบมัดกล้ามของผมก่อนที่จะรีบเด้งตัวออกจากผมทันที

    " เจอกันวันแรกพี่ก็แตะอั่งผมเลยหรอ "

    " จะบ้าหรออ ไม่ได้ตั้งใจ " พี่ฟาร์พูดก่อนจะเดินไปเปิดไฟ

    พรึ่บ!

    " ละนี่จะนอนไหน " พี่ฟาร์เอ่ยขึ้นมา

    " นอนกับพี่ไง " ผมตอบหน้าตายพรางกับเดินไปนั่งบนโซฟา

    " ห๊ะ! ห้องรับแขกก็มี " พี่ฟาร์ดูตกใจไม่น้อยที่ได้ยินคำตอบผม

    " ผมนอนคนเดียวไม่ได้ ผมไปนอนละพี่ก็ไปอาบน้ำนอนได้ละ " โกหกครับ ผมอยากนอนกับพี่เขาเฉยๆ ผมเอ่ยจบก็เดินเข้าห้องไปทันที

    " เอ้าา! " พี่ฟาร์จืนเกาหัวสักพักก่อนจะเดินตรงไปทางห้องน้ำ น่ารักชมัดเลย

    #####

    ###

    ##

    นิยายเรื่องแรกของไรท์ อาจมีคำแปลกบ้าง หรือมีความผิดพลาดประการใดสามารถติชมได้นะคะ เนื้อเรื่องมาจากจิตนาการล้วน ไรท์ไม่มีประสบการณ์ทางการแพทย์ เขียนไปในความเข้าใจของตนเอง ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ

     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น