ตำนานจอมเวทย์มังกร - นิยาย ตำนานจอมเวทย์มังกร : Dek-D.com - Writer
×

    ตำนานจอมเวทย์มังกร

    ความยุติธรรม สงครามเต็มรูปแบบต่างฝ่ายต่างจับจ้องดินแดน คนต่างใช้ดาบในการต่อสู้ และมีพลังที่ชื่อว่ากิฟในตัวนักดาบ มีเด็กอายุ8ปีในชุมชน ซึ่งเขานั้นไม่สามารถ ใช้พลังกิฟ ได้ ทำให้ถูกมองขยะ แต่พลังลึกลับ

    ผู้เข้าชมรวม

    27

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    27

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  สงคราม
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  5 ต.ค. 67 / 16:32 น.
    e-receipt e-receipt
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    สงครามแห่งอาณาจักรอัส

    ในยามสงคราม ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับโชคชะตาที่โหดร้าย และในสงครามระหว่างอาณาจักรอัสและอาณาจักรแห่งลาชนั้น ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้ของนักดาบและนักธนู แต่ยังเป็นการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยกิฟท์และพลังอันเหนือมนุษย์ ผู้คนต่างใช้อาวุธของตน ไล่ล่ากันบนสนามรบที่เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องของผู้คน เสียงโลหะกระทบกัน และกลิ่นควันไฟที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า


    ท่ามกลางความโกลาหลนี้ ผู้บัญชาการอามาเนะของอาณาจักรอัสยืนอยู่บนที่สูง มองเห็นกองกำลังของตนที่กำลังยึดฐานทัพของศัตรูอยู่ “ตอนนี้กองกำลังเราได้ยึดฐานทัพของศัตรูแล้ว โปรดให้ทุกคนรักษาชีวิตไว้ด้วย อย่าได้ตาย พยายามห้ามตาย…” เสียงของเธอดังกังวานผ่านเสียงโหวกเหวกของสงคราม แต่ในใจของเธอนั้นกลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ความรู้สึกของการมีชีวิตรอดและภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ


    “รับทราบครับ!” กองกำลังของอาณาจักรอัสตอบรับเสียงดังพร้อมกัน แต่ในแววตาของพวกเขากลับมีความกลัวและความไม่แน่ใจซ่อนอยู่ ความหวาดหวั่นแผ่กระจายไปทั่ว ขณะที่เสียงของการต่อสู้อย่างดุเดือดดังขึ้นรอบตัว


    “ประชาชนห้ามฆ่าเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน เพราะประชาชนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง” อามาเนะย้ำเตือนในขณะที่เธอมองไปที่การต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้า เธอรู้ดีว่าแม้จะเป็นสงคราม แต่ก็มีผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ควรต้องประสบชะตากรรมเดียวกันกับผู้ร้ายขณะเดียวกัน


     ในอีกด้านหนึ่งของสนามรบ อาณาจักรแห่งลาชกำลังเผชิญหน้ากับการสูญเสียที่หนักหน่วง “ตอนนี้พวกเราได้เสียกองกำลังเป็นอย่างมากครับ” เสียงทหารคนหนึ่งสั่นเครือด้วยความกังวล ขณะที่กษัตริย์ดิอาโบลแห่งอาณาจักรลาชยิ้มเยาะ “เหอะ เจ้าพวกอาณาจักรชั้นต่ำ คิดว่าการมีกิฟท์ดีๆ จะชนะพวกเราได้หรือ? งั้นพวกเจ้า เปิดสิ่งนั้นมาเถอะ!”“


    เราจะใช้เจ้านั้นจริงหรือครับ? เจ้านั้นไม่คิดว่าใครพวกไหนมันจะกวาดล้างทั้งหมด มันจะล้างทั้งหมด” เสียงของดยุกมาเรียเต็มไปด้วยความกังวล แต่กษัตริย์ดิอาโบลกลับยืนยัน “ใครสน ทำตามที่ข้าบอกสะ!” ในขณะนั้น บรรยากาศดูเหมือนจะเปลี่ยนไป เขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นที่อาจนำพามาซึ่งการทำลายล้างครั้งใหญ่


    “ตอนนี้เราได้ยึดเมืองได้แล้ว เหลือแค่ที่เดียวนั้นก็คือพระราชวัง” อามาเนะประกาศอย่างมุ่งมั่น ขณะที่รองผู้บัญชาการเรียวพยักหน้า “อ๊ะ อย่าลืมผมด้วยสิครับ คุณผู้บัญชา!” ความรู้สึกของการต่อสู้และการมีส่วนร่วมสอดแทรกอยู่ในน้ำเสียงของเขา


    “เรามีการตัดสินใจแล้ว ไปบุกพระราชวังกันเถอะ” อามาเนะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ขณะที่เธอมองไปที่พระราชวังซึ่งดูหรูหราจนผิดแปลกไปจากการต่อสู้ในขณะนี้


    เมื่อพวกเขาเข้ามาที่พระราชวัง ทหารอาณาจักรแห่งลาชก็ได้เอาดาบจี้หัวพวกเขาอยู่ “ยินดีต้อนรับสู่ที่ประทับของข้า” กษัตริย์ดิอาโบลกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้า 2 คนสินะที่เป็นตำนานดาบแรงค์ S ข้าเสียด้ายิ่งนัก ที่ไม่ได้พวกเจ้ามาเป็นพวก


    ”“สวัสดีค่ะ ฉันคือผู้บัญชาการอามาเนะ ดาคิ และคนที่อยู่ข้างนี้คือรองผู้บัญชาการเรียว เก็น วันนี้ท่านได้แพ้กับพวกดิฉันแล้ว ดังนั้น โปรดให้เราจับตัวง่ายๆ ได้หรือเปล่าคะ” อามาเนะพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ แม้ในใจจะมีความกังวลเกี่ยวกับการต่อสู้ที่รุนแรงที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่


    กษัตริย์ดิอาโบลกลับยิ้มเยาะ “โห่ๆ ข้าควรตายไปที่นี่อยู่แล้ว แต่ว่าพวกที่ชั่ว ชั้นต่ำ อย่างพวกอาณาจักรอัส…” เสียงของเขาขาดหายไปเมื่อเสียงฟ้าร้องดังก้องกังวานเข้ามา มันเป็นเสียงที่พาให้ทุกคนรู้สึกถึงความตึงเครียดและความรู้สึกถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา“ถึงยังไง พวกเขาก็ต้องฆ่าข้าอยู่ดี


     แต่ข้านั้นเห็นแสงศักดิ์สิทธิ์จากพวกเจ้า…” เสียงของเขาดูเหมือนจะพูดไปไม่จบ เมื่อมีเสียงดาบและแสงที่มาแต่ไกลพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ข้อความสุดท้ายของเขาก็ดับลงขณะที่ดาบแทงเข้าที่หัวของเขาจนล้มลงกลางพื้น


    นขณะที่อามาเนะได้ยินเช่นนั้น เธอรีบสั่งให้กองกำลังทุกคนให้รีบย้ายประชาชนไปที่เขาอาเจน บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดกลับถูกแทนที่ด้วยความรีบเร่งและความกลัว ทุกคนต่างพยายามช่วยเหลือกันในยามที่อันตรายใกล้เข้ามา


    เวลาผ่านไปไม่กี่นาที ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับถูกปกคลุมด้วยก้อนเมฆสีดำขมุกขมัว พร้อมกับเสียงคำรามที่ทำให้หัวใจทุกคนสะดุ้ง กระแสไฟที่โหมกระหน่ำเข้ามา และแล้วมังกรแห่งไฟก็ปรากฏขึ้นกลางเวหา ความร้อนระอุและกลิ่นควันไฟเริ่มแผ่กระจายไปทั่ว ฟ้าผ่ากับเสียงคำรามของมันดังกึกก้อง บรรยากาศถูกทับถมด้วยความตึงเครียดและความหวาดกลัว


    “ต้องหนีให้เร็ว!” เสียงของอามาเนะดังก้องในหูผู้คน ขณะที่พวกเขารีบวิ่งหนีไปตามถนนที่เต็มไปด้วยเศษซากของบ้านเรือนที่ถูกไฟไหม้ ผู้คนมากมายต่างตื่นตระหนกกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น บางคนร้องไห้และกรีดร้อง สูญเสียทุกอย่างที่พวกเขารัก เสียงระเบิดดังสนั่นเหมือนโลกกำลังจะถึงจุดจบ


    มังกรแห่งไฟระเบิดพลุ่งพล่าน พ่นเปลวไฟที่เผาไหม้ทุกสิ่งที่ขวางหน้า สถานที่ที่เคยสงบสุขตอนนี้กลับกลายเป็นทะเลเพลิงที่เต็มไปด้วยกองเลือด กลิ่นของการเผาไหม้และเสียงร้องครวญครางของผู้คนที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามดังสะท้อนอยู่ในอากาศ


    อามาเนะยืนอยู่ท่ามกลางความโกลาหล เธอรู้สึกถึงความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กำลังรออยู่ข้างหน้า ในใจของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความหวังว่าเธอจะสามารถนำประชาชนของเธอออกไปจากนรกแห่งนี้ได้ แม้จะเผชิญกับความสิ้นหวัง เธอรู้ว่าต้องยืนหยัด และต่อสู้เพื่อชีวิตของผู้คน เพราะนี่คือหน้าที่ของเธอในฐานะผู้นำ


    “อย่าหยุด! วิ่งไป! อย่าหันหลังกลับ!” เสียงของอามาเนะยังคงดังออกมาแม้ในยามที่เพลิงแห่งความพินาศลุกโชน พวกเขาทั้งหมดต้องก้าวเดินไป


    ติดตามตอนต่อไป....

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น