หัวใจลิขิตรัก
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนเองอีกเรื่องหนึ่ง(ที่จบลงได้ เพราะยังเหลือเรื่องอีกมากมายที่เขียน แต่ก็ค้างๆคาๆ ไม่จบซักที) เอาเป็นว่าลองอ่านดูแล้วกันนะ
ผู้เข้าชมรวม
598
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ฉะนั้น ฉันคงจะ ไม่สิ ควรจะตัดใจใช่ไหม ต้องเลิกรัก เลิกคิดถึง แล้วก็เลิกมีความหวังว่า ซักวันเขาจะหันมามองที่ฉัน ซึ่งในความเป็นจริงฉันก็รู้อยู่แล้วว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ฉันก็ยังหวังมาจนถึงตอนนี้ เพราะความหวังมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันรอมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะความหวังมันทำให้การรอคอย ไม่ทรมานจนเกินไปนัก...
ความจริงแล้วฉันกับเขา ก็เป็นเพื่อนธรรมดาที่ไม่ค่อยจะสนิทนัก ฉันไม่รู้ว่าการได้แอบมองอยู่ห่างๆอย่างนี้ กับการที่เข้าไปใกล้ชิด สนิทกับเขามากๆ แต่เขาไม่เคยที่จะมีใจ อย่างไหนมันจะเจ็บกว่ากัน แต่ฉันขอแค่ได้แอบมองก็เป็นสุขใจ โดยปกติแล้วฉันก็จะสนิทกับเพื่อนๆของเขาด้วย แต่ก็แค่บางคนเท่านั้นเอง แต่ถ้าให้พูดจริงๆแล้ว ฉันเองสนิทกับเพื่อนผู้ชายมากกว่าเพื่อนผู้หญิง อาจเพราะผู้ชายไม่ค่อยจู้จี้จุกจิก หรือซักไซ้ไล่เรียง หรือสอดรู้สอดเห็นจนเกินไปนัก โดยนิสัยแล้วผู้ชายจะรอให้เล่าเองเสียมากกว่า หรืออย่างดีก็อาจจะพูดว่า ‘ถ้าเองมีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็คุยกับข้าได้ ยกเว้นเรื่องเดียว เรื่องตังค์ เพราะข้าก็ไม่มีฟ่ะ’ อะไรทำนองนี้ แต่กับเขา ฉันไม่ค่อยจะสนิทใจที่จะคุยด้วย เพราะฉันไม่กล้าที่จะสบตากับเขาไงล่ะ ส่วนเขาเองก็เป็นคนที่ไม่ค่อยพูด (เป็นกับฉันคนเดียวนั่นแหละ เพราะกับคนอื่นเขาออกจะร่าเริง ขี้เล่น) ฉะนั้นถ้าคุยกันอยู่แค่สองคน เขาก็จะทำท่าว่าอึดอัด ซึ่งไม่ต่างอะไรกับฉันเลย
เขาเป็นใคร? เขาก็เป็นเพื่อนที่อยู่บ้านใกล้ๆกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ถึงงั้นก็เหอะ ฉันก็ยังกลัวอยู่ดีว่าถ้าเขารู้ว่าฉันคิดอะไรกับเขาเกินเพื่อน เขาจะโกรธ หรือเปลี่ยนแปลงไป อาจจะหลบหน้า ไม่คุยกันก็ได้ เลยได้แต่แอบมองไกลๆเท่านั้นเอง แล้วก็ได้แต่รอซักวันนึง เขาอาจจะเห็นฉันอยู่ในสายตา ในฐานะผู้หญิงคนนึง ...แต่ก็ไม่เคยมีวันนั้น...
แล้วฉันต้องทำอย่างไร ถึงจะตัดใจจากเขาได้ ทำอย่างไรถึงจะลืมได้ ไม่ใช่ลืมเขา แต่ลืมความรู้สึกที่มีไป จนหลงเหลือเพียงคำว่าเพื่อนธรรมดาที่วันนั้นฉันจะสบตาเขาได้ เวลา...คงต้องใช้เวลาเพื่อลืม แต่มันจะต้องนานซักแค่ไหนกัน มันคงมีซักวันที่ฉันคงทำได้ ร้องไห้หรอ ร้องไห้เสียน้ำตาไปหลายต่อหลายครั้ง เมื่อคิดว่าที่ผ่านมา มีแค่ฉันคนเดียว ที่คิดไปเอง เพ้อไปคนเดียว แล้วก็คิดถึงเขาอยู่ได้ สบายดีหรือเปล่า หนาวไหมเพราะกลางคืนอากาศเย็นนะ แล้วตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ นอนแล้วหรือยัง นั่นสิ เขานอนแล้วหรือยังนะ คงจะนอนแล้วสินะ ถ้าไม่ได้คุยอยู่กับแฟน... แฟนของเขา แฟนของเบส อยากรู้ว่าเธอคือใคร แต่ที่รู้คือเธอโชคดีมากเลยนะที่เขารักเธอ ไม่ๆๆๆ เลิกฟุ้งซ่านเสียที เปิดเพลงฟังดีกว่า
ใจที่ให้เธอไป ยังคงให้เธอไป จะนานซักเท่าไหร่ ยังไงก็เหมือนเดิม เคยคิดถึงยังไง เคยมีรักยังไง วันนี้ก็ไม่เปลี่ยน ไม่ปันให้ใครเลย
เธอเองก็ไม่แตกต่าง ก็ยังคงเหมือนเคย ไม่มองมาหากันเลย วันไหนก็เหมือนเดิม
เราไม่เคยเปลี่ยน เรายังเป็นเหมือนที่เคย อะไรก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย เธอเคยไม่รักก็ยังไม่รัก ไม่แคร์บ้างเลย ส่วนที่ใจฉันมีเธอก็ยังคงรักเสมอ...ไม่เปลี่ยน
วันจะพ้นเป็นเดือน เดือนจะพ้นเป็นปี ไม่มีซักนาที ที่ลืมเธอได้เลย ยังเป็นฉันคนเดิม รอเธอที่เดิมๆ กับใจที่เหมือนเดิม ไม่ปันให้ใครเลย... (เราไม่เคยเปลี่ยน-แคทรียา อิงลิช)
ยิ่งได้ยินยิ่งปวดใจ เสียงเพลงที่ได้ยินมันยิ่งตอกย้ำว่าเราควรจะตัดใจให้ได้เสียที ว่าตอนนี้เขามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว และที่รู้ก็ อย่าลืมสิ เพื่อนเขาน่ะเพื่อนฉันทั้งนั้น นั่นแหละ เพื่อนๆก็บอกออกมาว่า ทำนองว่าเบสมีแฟนแล้วทั้งนั้น เช่น ‘เบสมันมีแฟนแล้ว แกรู้หรือยังเรน’ ‘แฟนเบสมันสวยชิบเลยว่ะเรน เห็นแล้วอิจฉาเลยจริงๆ’ ‘เบสกับแฟนมันน่ะหรอ โหย สวีทกันซะ’ แล้วพอฉันเปลี่ยนคลื่นวิทยุ
แค่เพื่อนธรรมดาอย่างฉัน ไม่มีสิทธิ์เป็นได้มากกว่านั้น ก็เขาไม่เคยจะมองที่ฉันตรงๆ ไม่เคยที่จะใส่ใจ แค่เพื่อนธรรมดาฉันไม่มีสิทธิ ก็เป็นได้เพียงแค่นี้ก็ได้ แต่เตือนตัวเองทุกๆนาที อย่าหวังอะไรมากมาย ให้มันเกินตัว... (เพื่อนธรรมดา-โรส สิรินทิพย์)
จากนั้นฉันก็ไม่ๆได้ยินเสียงเพลงอีกต่อไป หูฉันมันคงอื้อไปแล้ว น้ำตาอุ่นๆล้นทะลักออกมา เมื่อไหร่ฉันเองก็ไม่รู้ตัว ร้องไห้ไปเรื่อยๆจนไม่มีน้ำตาให้ร้อง และตั้งใจว่าจะปิดฉากความรักครั้งนี้เสียที จากนั้นก็เอื้อมมือไปปิดวิทยุ...
อยากบอกว่ารักใจจะขาด รักใจจะขาด แต่มันต้องห้ามเอาไว้ให้อยู่ ก็กลัวเธอนั้นจะยังไม่พร้อม กับรัก....เสียงริงโทนของฉันเองแหละ โดนใจจริงๆ ใช่ไหมล่ะ...สี่ทุ่ม ใครกันนะแต่ฉันรับโทรศัพท์ ทั้งที่ยังไม่ได้ดูเบอร์ที่โทรเข้ามาเสียด้วยซ้ำ
“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ”
“ฮัลโหลเรน” เสียงนี่เหมือนของเบสจัง นี่เราคิดมากขนาดนี้เลยหรอเนี่ย
“อืมม์”
“เรน นี่เบสนะ” เท่านั้นแหละฉันก็ตกอยู่ในอาการตะลึงพรึงเพริดไปในทันที จนเขาต้องเรียกซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ฉันถึงได้สติ
“เรน ยังอยู่ไหมเนี่ย” ตั้งใจว่าจะตัดใจ แต่มันทำได้ทันทีซะที่ไหน เขาโทรมาหาอย่างนี้ แล้วฉันจะตัดใจได้ไหมล่ะเนี่ย
“อืมม์ อยู่ มีอะไรหรือเปล่า” ฉันถามกลับไป เพราะโดยปกติแล้วเบสเองไม่เคยโทรมาหาฉันก่อน แล้วฉันเองก็ไม่เคยโทรไปด้วย แล้วเบสเอาเบอร์โทรฉันมายังไง แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นเบสก็ตอบว่า
“ทำไม เบสไม่มีอะไรเนี่ยโทรหาเรนไม่ได้หรือไง ต้องมีธุระก่อนหรือไงถึงจะโทรได้”
“ปะ เปล่า เพียงแต่ปกติไม่เห็นจะโทรมา เลยนึกว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่าไง” ตอนนี้ไม่เห็นหน้าเลยคุยได้ล่ะมั้ง ไม่เห็นหน้าไม่ต้องสบตา แต่ถ้าโทรมาบ่อยๆคงตัดใจยากเหมือนกันนะ
“จะนอนแล้วหรอ งั้นไปนอนเหอะ ไม่กวนแล้ว”
“เฮ้ย เดี๋ยว ยังๆ เรนยังไม่นอน กำลังฟังเพลงอยู่ ตกลงแล้วมีอะไรหรือเปล่าเนี่ย”
“ไม่มีหรอก อยากโทรมาหา ไม่ได้หรือไง” คำพูดชักแปลกๆแล้วนะเนี่ย
“มีอะไรหรือเปล่า เล่าให้เราฟังได้นะ ครั้งนี้ครั้งแรก จะไม่คิดค่าปรึกษาเพราะเห็นว่า เพื่อนกัน แต่ครั้งต่อไป จะคิดค่าปรึกษาครั้งละ สองร้อยบาท ฮะฮะ” ฉันตัดสินใจพูดว่า เพื่อนกัน เพื่อนกัน ช่างฝืนใจจริงๆ
“แค่เพื่อนเองหรอ” ชักแปลกมากขึ้นไปอีกแล้วนะเนี่ย
“แล้วอยากเป็นอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพื่อน” ฉันถามกลับไป
“งั้นขอปรึกษาก่อน เบสเห็นว่าเรนไม่มีใคร ไม่มีแฟน แล้วถ้าเบสอยากเป็นแฟนเรน เบสจะต้องทำไงบ้าง” อ่า...ฉันนิ่งอึ้งไปในทันที
“...”
“...”
“...” หลังจากที่เงียบกันอยู่ซักพักหนึ่ง เขาก็ทำลายความเงียบ
“เรน อยู่ไหม”
“เมาอยู่เปล่าเนี่ย ถ้าเบสไม่เมาเรนก็คงฝันไป ต้องฝันไปแล้วแหงๆ” ฉันออกอาการบ้าขึ้นมาทันที
“เรนไม่ได้ฝัน เบสก็ไม่ได้เมา แล้วเบสก็พูดจริงๆนะ”
“แล้วแฟนเบสล่ะ” ใช่ๆแล้วแฟนเขาล่ะ
“แฟนเบส หือ?”
“ใช่แฟนเบสล่ะ เห็นคนอื่นบอกว่าเบสมีแฟนแล้วไง”
“หา ไม่ ไม่มีซักหน่อยความจริงแค่...”
“แค่อะไร พูดดังๆ อย่าขมุบขมิบดิ ไม่ได้ยินเลย”
“อยากรู้หรอ”
“ไม่อยาก...ถ้าเบสไม่อยากให้เล่าให้ฟัง เราไม่อยากเซ้าซี้ถ้าเบสลำบากใจ”
“อยากฟังหน่อยดิ เบสอยากเล่า”
“งั้นก็เล่ามา”
“ความจริงเบสไม่มีแฟนหรอก ไม่มีใครด้วย เพียงแต่ให้คนอื่นช่วย ไปบอกเรนว่าเบสมีแฟนแล้ว อยากรู้ว่าเรนจะทำยังไงเพราะเบสชอบเรน แต่ไม่รู้ว่าเรนคิดยังไง ไม่กล้าถามกลัวเรนโกรธ”
“แล้วก็เลยลองใจเรนว่างั้นเหอะ”
“ใช่ แต่เรน เบสขอโทษ เบสอยากรู้ว่าเรนคิดยังไง”
“...”
“...”
“เบสอยากจะให้เรนตอบว่าไงล่ะ”
“ตอบอย่างที่เรนรู้สึก”
“...”
“งั้นแค่นี้ก่อนแล้วกัน เรน คงลำบากใจที่จะตอบเบสตอนนี้”
“เดี๋ยว”
“เรนยังไม่ต้องตอบก็ได้ เพียงแต่เบสไม่อยากให้เรนเปลี่ยนไป ถ้าเบสบอกเรนว่าเบสชอบเรน”
“เรนยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ งั้นเรนถามหน่อย”
“เบสชอบเรนตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เรื่องนั้น...ไม่รู้สิ เบสไม่รู้จริงๆ รู้แต่ว่าเวลาเห็นเรนทีไร เบสทำตัวไม่ถูกทุกที”
“งั้นหรอ แล้วจะชอบเรนไปถึงเมื่อไหร่”
“อันนั้นเบสเองก็ตอบไม่ได้อีกเหมือนกัน เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคตนะ”
“งั้นเบสชอบเรนเพราะอะไร”
“ไม่รู้สิ เพราะรัก คำเดียวเบสก็ว่ามันมีความหมายในตัวเองอยู่แล้วนะ”
“งั้นลองคบกันไหม เป็นแฟนกัน”
“เรนพูดจริงนะ ไม่ได้แกล้งล้อเราเล่นนะ”
“ล้อเล่นน่ะ...”
“อย่าล้อเล่นแบบนี้จะได้ไหม เล่นกับหัวใจคนมันไม่ดีหรอกนะ”
“โอ๋ๆๆๆ ขอโทษๆ พูดจริงๆ จะคบกันไหมล่ะ”
“ทีนี้พูดจริงใช่ไหม ถ้าพูดจริงๆก็ แบบว่าโอเคเลย ทันที”
“งั้นวันนี้เราก็คบกันวันแรก ใช่ปะ”
“ช่ายแล้วววววว แล้วนี่เรนทำ’ไรอยู่”
“ก็กำลังจะนอน”
“งั้นก็นอนเหอะ แค่นี้แล้วกันนะ ฝันดีล่ะ”
“อืมม์ ราตรีสวัสดิ์”
“อย่าลืมฝันถึงเบสด้วยนะ”
“...” น่ารักอ่ะ และปกติ ฉันต้องรอให้ฝั่งนู้นวางโทรศัพท์เสียก่อน เพราะฉันไม่ชอบวางก่อนไงล่ะ แล้วฉันก็ได้ยินเสียงลอดออกมาจากโทรศัพท์ ถึงจะไกลๆ แต่ก็ยังได้ยินอยู่
“เฮ้ยพวกมึง เรนยอมคบกะกูแล้ว เอามาคนละพันซะดีๆ กูบอกแล้วใช่ไหมว่าง่ายจะตาย”
“น่าสงสารเรนว่ะ โดนมึงหลอกซะแล้ว”
“สงสารตัวเองเหอะ เอามาซะดีๆ ขอบใจนะพวกมึง หึๆ”
“...”ฉันเอง นี่คงต้องขอบคุณนิสัยแบบนี้ของฉันใช่ไหม ที่ทำให้ฉันได้รู้ความจริงเสียก่อน อีตาบ้าเอ๊ย มาทำลายภาพพจน์ของชายในฝันฉันซะป่นปี้หมด
สรุปแล้ว เขาก็หลอกฉัน แล้วที่ฉันพร่ำเพ้อแอบรักเขามาทั้งหมดเพื่ออะไร บ้าไปคนเดียว เขาต่างหากที่เป็นคนล้อเล่นกับหัวใจคนอื่น ฉันเชื่อซะสนิทใจเลยนะเนี่ย แสดงได้แนบเนียนดีจริงๆ แล้วก็คงแสดงมานานแล้วด้วยนะเนี่ย ไม่ต้องตัดใจเลย เขาทำให้ฉันเกลียดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดีเหมือนกัน ไม่ต้องเปลืองเวลา แต่เมื่อรู้ว่าโดนหลอก ฉันก็ไม่ยอมอภัยให้ง่ายๆหรอกนะ แต่ตอนนี้จะเล่นตามบทซะก่อน แล้วจะรู้ว่ามาทำอย่างงี้กับฉันแล้วจะเป็นไง...
“ฮัลโหล หยก” ถึงฉันจะมีเพื่อนส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แต่ฉันก็มีนะ เพื่อนผู้หญิงน่ะ เพราะหยก เพื่อนของฉันคนนี้ เอาแค่ภายนอกก่อน สวย เซ็กซี่ เปรี้ยว ซ่าส์ หยกเป็นสาวผมยาวสลวย แต่ดัดเฉพาะปลายเป็นลอนใหญ่ๆ ดูทันสมัย การแต่งตัว ก็เปรี้ยวจี๊ดถึงใจจริงๆ แบบว่าถ้าเธอเดินผ่าน ก็จะมีแต่คนมองจนเหลียวหลังเลยทีเดียว แต่เป็นคนที่ไม่จู้จี้จุกจิกอย่างที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เป็น พูดเก่งแต่ไม่ไร้สาระ แล้วก็ไม่เซ้าซี้ ไม่นินทาใครอีกด้วย
“อืมม์ โทรมาดึกป่านนี้มีอะไรหรือเปล่า”
“มีสิ มีแน่ๆ หึๆๆ”
“เออว่ามาดิ”
“ฉันมีอะไรให้แกช่วยหน่อย จะได้ไหม”
“ถ้าไม่ช่วยแก แล้วฉันจะไปช่วยหมาที่ไหน แต่ตอนนี้ขอนอนก่อนได้ไหม จะตายอยู่แล้ว”
“เออๆ งั้นเดี๋ยววันไหนดี เอาเป็นมะรืนนี้ละกันฉันไปหาแกที่ร้านแกนะ” อ๋า ฉันลืมบอกไปใช่ไหมว่า หยกมันเป็นเจ้าของของร้านเสริมสวยชื่อดัง โดยปกติแล้วมันจะไม่ค่อยไปยุ่งซักเท่าไหร่ นอกจากจะไปหาพี่ชายหรือที่เรียกกันว่าพี่แชมป์ (ซึ่งหยกมันเคยยืนยันว่า พี่ชายมันแมนเต็มร้อย) ซึ่งเป็นเจ้าของร้านตัวจริง
“เออ ซัก เที่ยงๆ ได้ไหมแก”
“โห สิบโมงแล้วกันนะแก”
“เออ สิบก็สิบ งั้นแค่นี้นะ”
“เออๆ”
เมื่อฉันเป็นประตูเข้าไปที่ร้าน พี่แชมป์ที่ยืนหันหลังอยู่ก็หันกลับมาทันที
“สวัสดีค่ะ พี่แชมป์”ฉันทักพร้อมกันไหว้งามๆหนึ่งที ทั้งที่พี่แชมป์อายุมากกว่าฉันกับหยกแค่ ปีกว่าเกือบสองปีเท่านั้น แต่ก็ฉันมันคนมารยาทดี...
“หวัดดีค่ะ ไหนว่านัดกัน สิบโมงไงคะ นี่พี่ว่ามันยังไม่เก้าโมงดีเลยนะ เพราะหยกโทรมาเมื่อวานตอนเย็น บอกว่าน้องเรนจะมาตอนสิบโมง”
“ค่ะ งั้นเรนนั่งรอตรงนี้นะคะ” ฉันยิ้มให้พี่แชมป์แบบแหยๆ ซักพักพี่แชมป์ก็เดินเข้ามาหาฉันแล้วก็พูดว่า
“เมื่อกี้ พี่ก็โทรไปหาหยก คือ กลายเป็นพี่โทรไปปลุกหยก”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรนรอได้”
“แล้วเมื่อกี้พี่ก็ถามหยกว่านานไหม หยกบอกว่า ถ้ารถไม่ติดก็อาจจะเร็ว งั้นก็หมายความว่า น้องเรนต้องรอหยกนานน่าดูเลยนะ”
“ค่ะ”
“เพราะฉะนั้น พี่ก็เลย จะถามว่า พี่จะจับเรนมาเป็นตุ๊กตา ระหว่างที่เรนรอหยก เรนจะว่าอะไรไหม”
“เอ่อ ก็ได้ค่ะ” ฉันใช้เวลาคิดอยู่ไม่นาน เพราะผมที่สไลด์ไล่ๆละบ่าเริ่มจะยาวแล้ว
“งั้นมานอนนี่เลย ให้พี่สระผมให้ก่อน มา” อ่ะ สบายจัง หลับดีกว่า....
“เรน น้องเรนคะ ลุกขึ้นมาก่อนค่ะ” เสียงของพี่แชมป์ช่างนุ่มทุ้มดีจริงๆ ทำเอาฉันจินตนาการไปไกลเลย อิอิ ถ้าหยกมันรู้ว่าเราคิดจะทำอะไรพี่ชายมัน มันจะว่าไงนะ... (นางเอกช่างหื่น^^)
“คะ ค่ะ” ฉันสะลึมสะลือตอบ แล้วก็รู้แค่ว่า โดนจูงไปนั่ง ไปนั่น ไปโน่น ไปนี่แล้วก็...หลับต่อ
“น้องเรนคะ น้องเรน เสร็จแล้วนะคะ ตื่นขึ้นมาเร็วๆ”
“คะ ค่ะ หา หือ อือ เฮ้ย” ในกระจก...น่า น่ารักโคตร ใครวะ เราเองนี่หว่า เพิ่งรู้นะว่า แค่เปลี่ยนสีผม จากสีดำเป็นสีน้ำตาลประกายทองแดง แล้วผมที่สไลด์ยาวละๆบ่า ถูกซอยไล่ขึ้นมาจนล้อมกรอบหน้า ช่วยทำให้หน้าแลดูมีแก้มมากขึ้นอีกนิด น่ารักจริงๆเลย (นอกจากหื่นแล้วยังหลงตัวเองอีกด้วย)
“เป็นไงมั่ง”
“ก็ดีค่ะ แล้วหยกอ่ะคะ พี่แชมป์”
“หยกมันรอจนหลับไปแล้วมั้ง เพราะพี่จับเรามา ทำสี แล้วก็ดัดปลายให้มันดูฟูๆแบบเป็นธรรมชาติน่ะ สุดท้ายก็หมัก เพื่อบำรุงไม่ให้ผมแตกปลาย ความจริงพี่ก็ปลุกเราหลายรอบนะ แต่เราก็ คะ ค่ะ หา หือ อืมม์ แล้วก็หลับ พี่เลยต้องจูงไม่งั้นเราก็จะเดินไปชนโน่นชนนี่ แล้วกว่าจะทำได้ นานมาก แล้วเราพูดแค่ ก็ดีค่ะ แค่นี้เองหรอ”
“ก็ดีจริงๆนี่คะ เรนสวยขึ้นอีกตั้งเยอะ จะให้บอกว่าไม่ดีได้ยังไง แล้วก็ เท่าไหร่คะ จะได้จ่ายถูก เสร็จแล้วเรนจะได้ไปหาหยก
“ไม่ต้องหรอกแก พูดเหมือนแกไม่ใช่เพื่อนเจ้าของร้านงั้นแหละ”
“แต่ค่าน้ำยา อะไรแบบนี้...”
“ไม่ต้องจ่ายหรอกค่ะ ของน้องเรนคนเดียวไม่ทำให้ร้านพี่เจ๊งหรอกนะคะ”
“โหยจะอ้วก น้องเรน แหวะ เรนไปกันเหอะ ปล่อยพี่แชมป์ทิ้งไว้นี่แหละแก ไปหา’ไรกินกันดีกว่า หิวแล้วตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินไรเลย ที่จะสามโมงแล้ว แล้วแกก็มีเรื่องอะไรจะให้ฉันช่วยไม่ใช่หรือไงล่ะ”
“ใช่ ไปแก ไปกันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไปก่อนนะคะพี่แชมป์ หวัดดีค่ะ”
“มีอะไรก็ว่ามา” หยกพูดขึ้นมาหลังจากที่บริกรเดินห่างออกไป
“ก็อยากให้ไปหักอกผู้ชายให้คน”
“เฮ้ย พูดเล่นแหง”
“พูดจริง คืองี้นะ...”ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้หยกฟัง โดยที่ละตรงที่ฉันแอบชอบเค้า มันอับอายเกินไปที่จะเล่า ว่าฉันพร่ำเพ้อถึงเค้า แต่ตอนนี้เปลี่ยนจากรักแสนรัก มาเป็นแค้นแสนแค้นแทนเสียแล้ว
“โหย ไอ้เลว ผู้ชายเฮงซวยอย่างนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ ตกลงเลยแกฉันจัดการให้ กำหนดมาเลยดีกว่าว่าระยะเวลาในการปฏิบัติการ แก้แค้นผู้ชายเฮงซวยครั้งนี้น่ะ” ฉันตอบออกไป โหยผู้ชายอย่างงี้ปล่อยไว้ไม่ได้ บังอาจมาหลอกเพื่อนฉัน อยากจะรู้นักว่ามันจะหน้าตาดีซักแค่ไหน
“ซักสามเดือนละกัน” เรนบอกออกมาหลังจากทำท่าคิดนิดนึง
“ได้อยู่แล้ว เด็กๆ” จากนั้นเราก็ทานอาหารกันอย่างมีความสุข และเมื่ออิ่มแล้วเรนก็เริ่มอธิบายแผนครั้งนี้ให้ฉันฟัง
“แกต้องเริ่มจากเอาโทรศัพท์เครื่องนี้ไปใช้ แล้วสลับเครื่องกับเขามาซะ แล้วแกค่อยโทรไปนัดเอามือถือมาคืน แกจะทำไงก็ได้ที่จะทำให้เค้าตกหลุมแก โอเคมะ”
“อืมม์ แล้วไงต่อ” ฉันถามต่อ
“อันนี้ก็แล้วแต่แก ฉันปูทางให้แกแค่นี้แหละ แล้วแกก็อย่าลืมโทรเรียกฉันทุกครั้งที่แกออกมาเจอกับเบสนะ ตกลงไหม” อ้าวอะไรของมัน เออๆ หาทางเอาเองก็ได้ว้า
“เออ มีอะไรอีกไหม”
“อ่า อย่าลืมว่าแกต้องเขี่ย...ผู้หญิงทุกคนของเขาก่อนมันถึงจะสะใจ แล้วสุดท้าย แกก็จะควงเค้าไป...ไป ไหนดีหว่า...อะไปโรงหนังแล้วกัน แล้วทีนี้ ฉันก็จะมองเห็นพวกแกสองคน ฉันจะเข้าไปตบแกแล้วแกก็ต้องล้มลงไป แล้วก็พอฉันบอกเลิกเค้าแล้วก็จะวิ่งหนีไป ส่วนแกพอลุกขึ้นมา เอามือกุมหน้าแล้วแกก็บอกเลิกเค้าตรงนั้นเลยเหมือนกันแล้วก็ต่างคนต่างไป สุดท้าย เราก็จะมาฉลองให้กับความสำเร็จครั้งนี้ ดีไหมแก”
“ก็ดี เอาตามที่แกว่าแหละ แกเลี้ยงนะ แล้วระหว่างนั้นฉันก็ต้องหาทางสานสัมพันธ์กับเค้าเอาเองใช่ไหม” ฉันถาม
“ถูก งั้นก็ตามนี้ ฉันเลี้ยงเอง มื้อนี้ด้วย มื้อฉลองด้วยถ้าแกทำสำเร็จ”
“ดี งั้นฉันจะล้างท้องรอแกเลี้ยงนะ โฮะๆๆๆ”
“งั้นไปผับกันต่อไหมแก คืนนี้”
“ก็ดี”
จากนั้นทั้งฉันแล้วก็เรนก็ไปเดินช็อปกันสนั่นแล้วก็ไปแดนซ์กันกระจายจนเหนื่อย ทั้งแสงสี และเสียงเพลงทำเอาฉันที่เมื่อคืนอยู่ซะดึกดื่นเพราะปั่นงานส่งเจ้านาย ถึงกับหมดแรงแทบหงาย และเมื่อกลับมาถึงบ้าน
“ไปไหนกันมา ถึงได้กลับมาป่านนี้กัน” หวาย พี่แชมป์ยังไม่นอนอีกหรอเนี่ย ไม่ใช่ว่านั่งรอเราหรอกนะ
“เรื่องของผู้หญิง พี่ไม่เกี่ยว แบร่ ไปนอนดีกว่า ลั่นลา”
“อารมณ์ดีเหลือเกิน” ฉันเห็นนะพี่ส่ายหน้าทำท่าว่าละอาฉันน่ะ แล้วก็ทำท่าว่าจะขึ้นไปนอนเมื่อเห็นว่าฉันไม่ตอบ แต่อารมณ์ฉันดี ยอมๆเค้าไปเหอะ ยังไม่อยากจะมีเรื่อง ว่าแต่ที่มานั่งรอเนี่ยคงไม่ใช่เพราะฉันหรอกมั้ง ท่าทางงานนี้จะมีอะไรแปลกๆระหว่างเพื่อนกับพี่ซะแล้วสิเนี่ย
“เดี๋ยว พี่แชมป์ พี่แชมป์ชอบเรนมันใช่ไหม”
“เฮ้ย รู้ได้ไง” ต้ายพี่ชายฉันหน้าแดง ไม่อยากจะเชื่อ แล้วนี่ยัยเรนมันจะชอบพี่ชายฉันไหมล่ะนั่น มันออกจะน่ารักขนาดนั้น
“งั้นก็แปลว่าจริง โฮะๆๆ ว่าแต่ชอบมานานแล้วหรือยังล่ะ แล้วอยากให้ช่วยไหมล่ะพี่ จะได้ช่วย อ้อ แล้วห้ามหลอกเพื่อนฉันนะเข้าใจไหม พี่ก็พี่เหอะ ฉันไม่เอาไว้แน่ แล้วก็หนึ่งมื้อนะพี่แชมป์ อย่าลืม” ดวงตาเป็นประกายหมายมาด ฉันชอบให้คนเลี้ยงจริงๆ อิ่มแบบไม่เสียตังค์ โฮะๆๆๆมีความสุขจริงๆเลยฉัน
“อืมม์ หลายๆมื้อก็ยังได้ ถ้าแกทำได้จริงนะเว้ย”
“โธ่ เด็กๆ เอาไว้ค่อยว่ากัน งั้นหยกไปนอนก่อนนะ”
หลังจากนั้นทั้งฉันและเรนก็มาปรึกษาเรื่องแผนปฏิบัติการและความคืบหน้าของแผนที่วางเอาไว้ที่ร้านของพี่แชมป์บ่อยขึ้น ฉันทำเพื่อแกแล้ว ฉันขอทำเพื่อพี่ชายฉันมั่งนะแก โฮะๆๆๆ แล้วระยะเวลาสามเดือนมันก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก ปฏิบัติการก็สำเร็จเรียบร้อย สมแล้วกับคนแบบนั้น
“สำเร็จ เยสๆๆ ขอบใจมากนะแก ฉันงี้สะใจจริงๆ แถมแกเล่นซะเนียนมากเลยอ่ะ ฉันนี่อึ้งไปเลยกับการตอแหลระดับเทพของแก ha” เรนมันท่าจะบ้าไปแล้ว
“ไม่เป็นไร แกด่าฉันนี่ ช่างเหอะ แต่ฉันมีเรื่องอยากถามแกหน่อย แล้วแกห้ามบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมตอบนะ”
“เออๆ ถามมาดิ ถ้าตอบได้ก็จะตอบ”
“แกตอบฉันได้อยู่แล้ว กลัวแต่แกจะไม่ตอบ ฉันอยากรู้ว่าแกชอบพี่ชายฉันไหม ทุกครั้งที่นัดกัน แกจะมาก่อนเวลานัด เกือบชั่วโมง ทั้งที่ไม่จำเป็น แล้วแกสองคนก็แอบสบตากัน อย่านึกว่าฉันไม่เห็นนะ”
“ก็...ก็ชอบดิ พี่ชายแกไม่ได้ทำอะไรให้ฉันไม่ชอบนี่นา”
“แกรู้ความหมายของคำถามดี ตอบมาเดี๋ยวนี้นะแก”
“เออ ชอบ ฉันชอบพี่ชายแก มีอะไรไหม”
“ก็เท่านั้นแหละ”
“อ้าว นี่แกจะไม่ว่าอะไรเลยหรือไง”
“ทำไมต้องว่า พี่ชายฉันก็ชอบแก แกก็ชอบพี่ชายฉัน ก็แฮปปี้ดีนี่ แล้วฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้าแกจะเป็นแฟนพี่ชายฉัน เพียงแต่จะมีข้อแม้ว่า แกห้ามมาหลอกพี่ชายฉันเด็ดขาด ไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่”
“จริงอ่ะ พี่แชมป์ชอบฉันหรอ โอ๊ย ฉันก็นึกว่าฉันจะคิดไปเองคนเดียว ขอบใจแกมาก งั้นวันนี้ฉันเลี้ยงแกเอง”
“ดีมาก ว่าแต่อันนี้ไม่เกี่ยวกับฉลองนะแก”
“เออ แกนี่งกจริงๆ”
“โฮะๆๆๆแกเพิ่งรู้หรือไงยะ”
อยากรู้ไหมคะ ว่าจากนี้เรื่องจะเป็นยังไง แต่ไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไง เรนจะรักกับพี่แชมป์หรือเปล่า มันก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ(คนอ่านจะคิดอย่างนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้) เพราะว่ามันเป็นเรื่องของอนาคตที่มันยังมาไม่ถึง เราแค่ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว และบทสรุปมันก็ไม่ตายตัวหรอกนะคะ เพราะชีวิต มันมีอะไรเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยที่เราไม่คาดคิด ยังไงก็ขอให้ทุกคนมีความสุขกับชีวิตมากๆนะคะ เพราะถึงมีอุปสรรคเราก็ต้องฝ่ามันไปให้ได้ แต่ตอนนี้หยกต้องขอไปกินๆๆๆ ให้อิ่มก่อนนะคะ เรื่องปากท้องสำคัญที่สุดค่ะ... และที่สำคัญมื้อนี่ฟรีเพราะเรนเลี้ยงนั่นเองค่ะ โฮะๆๆๆ
ผลงานอื่นๆ ของ Muisheng ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Muisheng
ความคิดเห็น