หนิงเทียน ราชันจักรพรรดิ ฉบับรีไรท์ จบแล้ว - นิยาย หนิงเทียน ราชันจักรพรรดิ ฉบับรีไรท์ จบแล้ว : Dek-D.com - Writer
×

    หนิงเทียน ราชันจักรพรรดิ ฉบับรีไรท์ จบแล้ว

    ภายใต้แรงขับดันของการแสวงหาอำนาจ อัจฉริยะผู้ปราดเปรื่องในแต่ละยุคสมัยละทิ้งพู่กันหันมายึดกุมดาบและกระบี่ก่อไฟสงครามแย่งชิงเขตแดนและแสวงหาอำนาจกันอย่างบ้าคลั่ง

    ผู้เข้าชมรวม

    650

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    76

    ผู้เข้าชมรวม


    650

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    17
    จำนวนตอน :  29 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  4 พ.ย. 67 / 18:31 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    นิยายจบแล้วนะครับ ถ้าใครอยากติดจรวด อ่าน30เล่มให้จบ ทักมาเฟสบุ๊ค ภพทนันท์ นักเขียน ข้ามกำแพง นะครับ

     

    มนุษย์อ้างตนเป็นสัตว์ประเสริฐที่สุดในบรรดาสรรพสัตว์ทั้งมวล แต่ภายใต้แรงขับดันของการแสวงหาอำนาจ อัจฉริยะผู้ปราดเปรื่องในแต่ละยุคสมัยละทิ้งพู่กันหันมายึดกุมดาบและกระบี่ก่อไฟสงครามแย่งชิงเขตแดนและแสวงหาอำนาจกันอย่างบ้าคลั่ง

     

    ซือหม่า หนิงเทียน ยอดขุนศึกของแผ่นดินฉิน เขาได้รับฉายาว่า ‘ขุนพลสวรรค์’ หนิงเทียน ถูกจักรพรรดิฉินหักหลังจนเสียชีวิตหลังจากที่ตายลง

    วิญญาณของ หนิงเทียน ได้มาเกิดใหม่ในร่างกายของ เด็กทารกผู้กำเนิดมาพร้อมกับ

    ร่างกายเทวะสวรรค์ในตำนานและถูกเลี้ยงดูโดยคนประหลาด5คน

    หนิงเทียนพบว่าเขาอยู่ในโลกที่แตกต่างจากโลกเดิมที่เขาเคยอยู่อย่างมากมาย

    หนิงเทียนต้องพบกับการสู้รบอันดุเดือด

    จนถึงการปะทะกันระหว่าง อัจฉริยะทั่วทั้งแผ่นดิน

    เพื่อก้าวสู่เส้นทางแห่งจักรพรรดิ

    *** สนับสนุนอ่านโดยตรงกับนักเขียน ราคาพิเศษสุดคุ้ม ติดตามในกลุ่ม นันทภพ นักเขียนนิยาย

    “ในชาติก่อน ข้าอยู่ใต้หนึ่งคนอยู่เหนือผู้คนทั่วหล้า”

    “ในชาตินี้ ข้าจะอยู่เหนือคนทั่วหล้าและใช้ฝ่ามือปิดบังแผ่นดิน”

     

    ตัวละครสำคัญ

     

    อู่โม่กุ้ย ห้าปีศาจแดนภูต

     

    เลือนหายเร้นกายในปฐพี

    หาใช่เป็นเหตุในความกลัว

    แต่ล้วนหน่ายเบื่อกับชีวิต

    ตามหาความสงบสุขของบั้นปลาย

     

    อดีตของตัวละครเหล่านี้ ไม่กระจ่างชัดในนิยายเล่มแรกๆ มีเพียงคำพูดของพวกมันที่เรียกตนเองว่ายอดคนและมีคำบอกเล่าที่กล่าวว่า ห้าปีศาจหายไปความสงบสุขคืนกลับสู่แผ่นดิน

     

     

    เทพกระบี่

    ซุนเอิน เจ้าของสมญาเทพกระบี่ พี่ใหญ่ของห้าปีศาจแดนภูต เป็นยอดฝีมือที่มีพลังลมปราณล้ำลึกและเป็นที่ยำเกรงของน้องๆทั้งสี่คน หากมีความขัดแย้ง คำสั่งของเทพกระบี่ล้วนเป็นเด็ดขาด แม้ตัวตนของซุนเอินจะอยู่มาหลายพันปี แต่รูปลักษณ์กลับหยุดอยู่ที่วัยกลางคน ผมยาวสีดำเข้มและหางคิ้วที่ชี้ขึ้นประดุจกระบี่แหลม หนวดเคราขึ้นตามใบหน้าประปราย ทำให้รูปลักษณ์ของมันมิได้ดูโรยราไปตามอายุ ซุนเอินชอบสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวเป็นนิจ ท่าไม้ตายของมันคือ สิบสามเพลงกระบี่สังหารเทพในตำนาน อดีตที่มันยังโลดแล่นอยู่ในยุทธภพภาคกลาง ซุนเอินได้สร้างปรากฎการณ์ที่ชื่อว่า ปีศาจล่ากระบี่ ‘อนึ่งมีเพียงข้าที่สามารถจับกระบี่ได้’ หลังจากการเร้นกายของยอดคน ชื่อเสียงของมันเหลือเพียงไม่กี่ตัวตนที่รู้จัก

     

     

    ราชันหมื่นพิษ

    แซ่เกา ถูกตั้งให้ตามชื่อของผู้เป็นอาจารย์ ฉางกงคือชื่อที่ศิษย์พี่และอาจารย์เรียกมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเข้าสู่ยุทธภพ แซ่เกา นามฉางกง จึงกลายเป็นชื่อที่เข็ดขยาดของผู้คนมากมาย ถึงจะมีอายุหลายพันปี แต่ใบหน้าของมันก็มาหยุดแค่วัยกลางคนเท่านั้น รูปร่างและความสูงคล้ายบุรุษทั่วไป หน้าตาเจ่าเล่ห์ทว่าเปี่ยมด้วยเสน่ห์ ใบหน้าเกลี้ยงเกลางดงาม ผมดำยาวสลวยและการที่ได้รับอิทธิพลจากพี่ใหญ่ทำให้ราชันหมื่นพิษมักสวมใส่เสื้อผ้าที่มีโทนสีเขียวเป็นนิจ สมญาราชันหมื่นพิษได้มาเพราะวิธีการต่อสู้ที่ใช้พิษเป็นหลัก ใช้ลมปราณเป็นรองแต่ละพิษที่ใช้ล้วนหลากหลายแปลกใหม่นับพันนับหมื่นวิธี เกาฉางกงเป็นพี่รองในกลุ่มห้าภูตปีศาจ นอกจากพิษร้ายนับหมื่นที่มันสามารถสร้างได้ดั่งใจนึกแล้ว สติปัญญา ความฉลาดของคนผู้นี้ยังเป็นที่หวาดกลัวต่อตัวตนในระดับเดียวกัน คำพูดที่เกาฉางกงมักจะพูดบ่อยๆคือ “ข้ารักษาคนได้ แต่ข้าชอบสังหารคนมากกว่า”

     

     

    อสูรคลั่ง

    อสูรคลั่ง นาม หวงหลง ชายฉกรรจ์รูปร่างใหญ่โตผิดมนุษย์ ร่างกายกำยำ ใบหน้าแข็งกร้าว ผิวหนังหยาบกระด้างดวงตากลมกว้างและมีผมสีขาวชี้ตั้งประบ่าเป็นเอกลักษณ์ มันเป็นพี่สามในกลุ่มห้าภูตปีศาจ หวงหลงไม่มีความทรงจำเดิมหลงเหลืออยู่ มันเติบโตขึ้นมาด้วยพลังลมปราณที่กล้าแข็งกว่าคนทั่วไปในรุ่นเดียวหลายร้อยหลายพันเท่าตัว อดีตของหวงหลงไม่ปรากฏชัด มีเพียงสิ่งเดียวที่พี่น้องคนอื่นๆของมันรับรู้ คือมันไม่ใช่มนุษย์ เผ่าพันธุ์ดั่งเดิมของหวงหลงคืออสูร ทว่าความลับของอสูรนั้นหาใช่เรื่องที่มนุษย์จะเข้าใจได้ สิ่งที่ติดตัวมันมาตั้งแต่กำเนิดคือ ทักษะวิชากายาเทพอสูร ที่ประทับแน่นกลางแผ่นหลังและลำตัวของมัน ในยามที่มันโกรธหวงหลงไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ มันจะอาละวาดจนกว่าความโกรธแค้นจะจางหายไป ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงเรียกมันว่า อสูรคลั่ง

     

    ทูตมรณะ

    ผู้ส่งสาส์นแห่งความตาย แซ่จู นามว่าซ่ง  ผู้คนเรียกขานว่า ทูตมรณะ จูซ่ง ถึงอายุของมันจะไล่เลี่ยกับคนอื่นๆในห้าภูต แต่ด้วยทักษะและชาติกำเนิด ทำให้จูซ่งมีรูปลักษณ์เป็นหนุ่มอยู่ตลอดเวลา จูซ่งมีโครงหน้ายาวแหลม ดวงตาดำสนิท รูปร่างสมสัดส่วน ผมสั้นสีดำสนิท ชอบใส่หมวกทรงสูงครอบเอาไว้ตลอดเวลา สองมือสวมใส่ถุงมือสีขาวที่ประดับด้วยเล็บปลอมแหลมยาวคล้ายมีดสั้นเป็นเอกลักษณ์ ในอดีตจูซ่งเป็นคนของทวีปใต้ แต่มันเกิดความขัดแย้งที่ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกับราชาแห่งแดนใต้จึงได้หลบหนีออกมาสู่โลกกว้าง และเรื่องราวในอดีตระหว่างพวกมันทำให้ ชายที่เคยมีนิสัยอบอุ่นแปรเปลี่ยนเป็นปีศาจร้าย สังหารผู้คนนับพันเพียงแค่การก้าวเดินหนึ่งครั้ง วิชาที่จูซ่งใช้สร้างชื่อคือ ก้าววิญญาณไร้เงา มีความเร็วในการเคลื่อนที่สูงสุดจนได้รับการยกย่องให้เป็นท่าเท้าอันดับหนึ่ง สิ่งที่จูซ่งถนัดที่สุดคือการลอบสังหาร มีคำกล่าวว่า “หากทูตมรณะส่งสาส์นแห่งความตายมาให้ เจ้าจงไปทำในสิ่งที่ชีวิตต้องการและยังไม่ได้ทำให้ครบเสียเถิด เวลาของเจ้าเหลืออีกไม่มากแล้ว”

     

     

    ธิดาโลหิต

    เทียนไห่ชางเยว่ คำประดับหน้าว่า เทียนไห่ เป็นที่ประจักษ์ชัดว่านางนั้นมีสายเลือดแห่งเอกโลหิตไหลเวียนอยู่ในร่างกาย นางเป็นทายาทเพียงคนเดียวของผู้นำนิกายเอกโลหิต และเป็นบุตรีของหนึ่งในสิบสองผู้แข็งแกร่ง ชะตาของนางถูกกำหนดให้เป็นผู้นำนิกายคนต่อไป ด้วยความเบื่อหน่ายทำให้นางมาอยู่ในฐานะน้องห้าของห้าภูตปีศาจ นิสัยส่วนตัวนางเป็นสตรีที่เอาแต่ใจเป็นเอก แม้ว่าธิดาโลหิตจะอยู่มานานหลายพันปี ทว่าใบหน้าของนางยังคงความงดงามของสตรีผู้เลอโฉม แม้มีใบหน้าอ่อนเยาว์กลับไร้ซึ่งคราบดรุณีน้อย ความงดงามในแบบของผู้ใหญ่ทำโลกต้องคล้อยตามแค่เพียงการชี้นิ้ว ชางเยว่ เป็นสตรีผู้มีสองรูปลักษณ์ ในยามปกติ นางมีความงดงามปานเทพธิดา ผิวขาวประดุจกำเนิดจากผนึกแก้ว หลุดพ้นไปจากโลกียวิสัยของมนุษย์ ในยามโกรธ ร่างของนางจะถูกชโลมย้อมด้วยโลหิตของศัตรู ความงดงามถูกทดแทนที่ด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิตและรูปลักษณ์อันงดงามจะกลายเป็นที่หมายปองต่อโลกีย์ของบุรุษทั่วหล้า ทักษะวิชาที่สร้างชื่อให้แก่ธิดาโลหิต คือทักษะที่สืบทอดในตระกูลเทียนไห่ ‘ยามใดที่เหมันต์นิรันดร์ปรากฏ ยามนั้นโลกทั้งใบจักกลายเป็นน้ำแข็ง’

     

    ระดับการ บ่มเพาะ แต่ละชั้น มี9 ระดับ

    1.ดินแดนมนุษย์

    2.ดินแดนนักรบ

    3.ดินแดนองค์รักษ์

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น