ครองใจองเมียวจิ | ภาคสีเหลือง - นิยาย ครองใจองเมียวจิ | ภาคสีเหลือง : Dek-D.com - Writer
×

    ครองใจองเมียวจิ | ภาคสีเหลือง

    วิญญาณหนึ่งตั้งมั่นในสิ่งที่ต้องการ ส่วนอีกวิญญาณรักษาสัตย์สาบานชั่วนิรันดร์

    ผู้เข้าชมรวม

    179

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    179

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  24 ม.ค. 65 / 14:59 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ถ้าคุณลองฟังดีๆ จะได้ยินเสียงโหยหวนของพวกงากิ [1] แว่วมาตามลมที่พัดใบไม้ดังแซกๆ แทรกไปกับเสียงพระสวดในงานศพของแม่

    แม้จะไม่สันทัดแต่ทาดายูกิ จุน วัยสิบแปดเจ้าของผมยาวประบ่าและดวงตากลมโตอันโดดเด่นก็พยายามต้อนรับแขกซึ่งผลัดกันมาทักทายอย่างเต็มที่

    พิธีศพจัด ณ เรือนใหญ่ของตระกูลทาดายูกิ ซึ่งสืบทอดความเป็นองเมียวจิ [2] กันมาช้านาน การเวียนว่ายในวัฏสงสาร [3] ของมนุษย์และวิญญาณเลยเป็นอะไรที่เห็นจนชินตา

    ต่อให้เป็นองเมียวจิที่ได้ฉายา ‘จุนปลายแถว’ ก็ตามที

    “นี่ แม่มาหาบ้างไหม” คนที่เดินมาข้างๆ จุน คือพี่ชายแท้ๆ ของแม่ แต่อายุห่างกันเกือบสองรอบ ชื่อทาดายูกิ เอมิยะ

    หากมองภายนอก หนุ่มหล่อสวมสูทดำคนนี้คงคล้ายวัยรุ่นนักศึกษามากกว่าชายวัยกลางคนผู้ผ่านโลกมานานปี ว่ากันว่าเขาคือคนซึ่งเข้าใกล้คำว่าอมตะที่สุดในปัจจุบัน

    “ไม่ครับ เอจังล่ะ”

    คนถูกถามยิ้มรับ เมื่อหลานชายเรียกเขาด้วยชื่ออันเป็นกันเอง ชื่อที่สมัยเด็ก ๆ ใช้เรียกกันกับน้องสาว

    เอมิยะส่ายหน้าเบาๆ

    “ใจแข็งจังนะยายหัวไชเท้า”

    เสียงตัดพ้อสั่นเครือ ของคนข้างๆ ทำให้จุน หัวใจหล่นวูบ

    “จุนคุงไปพักเถอะ ลุงจะรับแขกให้เองนะ”

    สายตาเอมิยะไม่ได้มองมาที่หลานชาย สายตาเขาทอดยาวไปยังที่แสนไกล

    อีกฝ่ายไม่เอ่ยอะไร แค่ถอยออกมาให้คุณลุงได้อยู่ตามลำพัง

    เพราะนอกจากตัวเองกับคุณลุงแล้ว จุนไม่รู้สึกว่าคนอื่นเสียใจต่อการจากไปของแม่แต่อย่างใด

    จนในวันสุดท้ายของงานพิธี เมื่อจุนกำลังจะก้าวพ้นประตูของเรือนใหญ่ เขาสังเกตเห็นใครคนหนึ่งซึ่งมีผมสีเหลืองทองโดดเด่น

    ลักษณะเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งสวมชุดไว้ทุกข์ ยืนก้มหน้าอยู่นอกเขตอาคมของท่านตา

    ทันทีที่อีกฝ่ายเห็นจุน ก็เอาแต่จ้องไม่ละสายตา

    ไม่ใช่อมนุษย์ทั่วไป ควาามรู้สึกมันบอกอย่างนั้น

    “หอม” เด็กหนุ่มพึมพำสิ่งที่สัมผัสได้

    จุนมั่นใจ เรื่องญาณรับอสูรทางกลิ่น [4] ของตน วิญญาณตนนี้มีกลิ่นหอมที่คล้ายกับฟูกที่ตากแดดใหม่ๆ เรียบง่าย เบาบาง แต่ก็ทำให้จิตใจสงบ

    นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของอีกฝ่ายมองเขานิ่งๆ กลับทำให้คนถูกจ้องสะท้านทั่วร่างอย่างอย่างไม่เคยเป็น แต่ยังไม่ทันที่เขาจะไถ่ถาม วิญญาณชายปริศนาก็หายวับไป

    “นายท่านสั่งไว้เจ้าค่ะ ให้ข้ามารอต้อนรับท่านจุน และนำกุญแจเรือนตะวันออกมามอบให้” สาวใช้ผู้ดูสะสวยไม่ต่างจากที่เขาเห็นตอนเด็กๆ ยกน้ำชาพร้อมของว่างมาให้

    เขาไม่ได้มาเยือนเรือนใหญ่ของท่านตานานมากแล้ว เพราะถูกส่งเข้าโรงเรียนประจำตั้งแต่แปดขวบ

    “กุญแจที่ว่านี่” จุนมองถุงผ้าสีขาวปักรูปใบแปะก๊วยสีทองที่วางอยู่สลับกับมองหน้าสาวใช้ เหมือนอยากได้คำยืนยัน

    “ยินดีด้วยนะเจ้าคะ ที่ถูกเลือกเป็นเจ้าเรือนตะวันออกต่อจากท่านซายูริ”

    “ต่อจากแม่”

    จุนหยิบถุงผ้ามากำไว้แน่น เรือนดังกล่าวเป็นหนึ่งในเรือนบริวารของเรือนใหญ่ มีคำกล่าวกันในตระกูลว่า

    ‘ผู้ใดครองเรือนบริวารผู้นั้นคือองเมียวจิที่แท้จริง’ ตอนนี้ท่านตาได้มอบสิทธิพิเศษนี้ให้เขา ไม่ใช่บรรดาเครือญาติหรือพี่ๆ คนอื่น

    ‘คนที่ถูกเรียกว่าจุนปลายแถว อาจได้รับการยอมรับขึ้นมาบ้างแล้วก็ได้’

    “จริงสิ ผมเอาชาฝรั่งมาฝาก รบกวนเอาไปชงทีเดี๋ยวท่านตาจะมาใช่ไหม” จุนพยายามซ่อนความยินดีที่มากเกินไปจนล้นออกทางสีหน้า พร้อมหยิบห่อชาราคาแพงซึ่งเขาตตั้งใจซื้อมาเป็นของฝากส่งให้

    “คงไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะ” สาวใช้แทรกขึ้น “นายท่านสั่งไว้ว่าถ้าได้รับกุญแจแล้วก็กลับไปได้เลย ของใช้ส่วนตัวก็ส่งคนไปเอาจากโรงแรมมาให้แล้ว ท่านต้องการพักผ่อนเจ้าค่ะ”

    ประกายความยินดี จางไปจากแววตาของเด็กหนุ่ม

    ‘คอยดูเถอะ สักวันเขาจะกลับมาที่นี่แล้วทำให้ทุกคนยอมรับ’

    “เหรอ ผมไม่รบกวนแล้ว บอกท่านตารักษาสุขภาพด้วย”

    จากนั้นไม่นาน จุนก็เดินมาหยุดอยู่หน้าประตูไม้ใหญ่ของเรือนตะวันออก ถึงจะบอกว่าเพราะมาปลูกอยู่ไกลผู้ไกลคน แถมเมืองนี้ยังเป็นแถบชนบทก็เถอะ แต่บรรยากาศรอบ ๆ บ้านหลังนี้มันยังไงกันแน่ แม้แต่เสียงนกเสียงแมลงก็ไม่ได้ยิน

    จุนคิดว่าจะลองเคาะประตูดีไหม หรือกดกริ่งที่อยู่ใกล้ๆ ดี แต่ทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัสบานประตู มันก็ลั่นดังเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกเอง

    “ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะ นายท่าน” เสียงเด็กผู้หญิงมอต้นในชุดกิโมโนสีแดงสด กับผมหน้าม้าดำสนิททักทายอย่างสุภาพ

    “ที่นี่ไม่มีใครอยู่เลยเหรอ” จุนถามออกไปทันที เพราะกลิ่นของเธอบอกชัดเจนว่าไม่ใช่มนุษย์

    “เจ้าค่ะ ข้าเป็นซาชิกิวาราชิ [5] ของที่นี่นามว่ายูโกะ เชิญด้านในก่อน”

    จุนก้าวไปตามทางเดินของสวนหินซึ่งจัดอย่างประณีต

    “นั่น..” เขาชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นต้นแป๊ะก๊วยสีเหลืองทองสูงตระหง่านอยู่ในสวน ส่วนกลางลำต้นมีเชือกชิเมะนะวะ [6] เส้นใหญ่ผูกไว้

    “โยริชิโระ [7] เจ้าค่ะ” เด็กสาวเอ่ย

    “ก็หอมดีนะ” จุนพูดเบาๆ ขณะมองต้นไม้ใหญ่

    “คึก! เจ้าตัวได้ยินคงเขินนะเจ้าคะ” ซาชิกิวาราชิหัวเราะคิดคัก “เข้าบ้านเถอะเจ้าค่ะ”

    ทั้งที่บ้านไม่มีคนอยู่ แต่ภายในกลับสะอาดสะอ้าน กลิ่นสิ่งชั่วร้ายก็ไม่มี จุนจึงยิ่งข้องใจ

    “ปกติมีใครมาดูแลที่นี่ให้สินะ” ผู้มาเยือนถามเมื่อเข้ามายังห้องใหญ่ที่เป็นจุดศูนย์กลาง

    “ท่านเอมิยะคอยให้คนมาดูแลที่นี่ตั้งสมัยที่ท่านซายูริยังมีชีวิตเจ้าค่ะ”

    “อ้าว ทำไมแม่ไม่ทำเอง”

    “แม่ของจุน เขาไม่ค่อยจะอยู่บ้านน่ะสิ นานๆ จะพักอยู่สักระยะ” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง

    เมื่อจุนหันไป ก็เห็นหนุ่มหล่อยืนมองเขาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้

    “เอจัง!” จุนอุทาน

    เอมิยะควงพวงกุญแจในมือ “ลุงแวะเอากุญแจอีกชุดมาคืน แล้วก็มาทำเรื่องสำคัญด้วย”

    เขาเอ่ยพลางเหลือบมองซาชิกิวาราชิ

    จุนยังไม่เข้าใจสิ่งที่ลุุงพูดมากนัก “เรื่องอะไรเหรอ”

    “พร้อมไหมยูโกะ” เอมิยะไม่ได้ฟังจุน แต่หันไปพูดกับเด็กผู้หญิงชุดแดงแทน

    เธอพยักหน้ารับ

    เอมิยะวาดเส้นตรงกลางอากาศในลักษณะขนานกับพื้นชี้หน้ายูโกะด้วยนิ้วชี้และนิ้วกลาง พลันในห้องก็เกิดสายลมแผ่วๆ พัดวนโดยรอบ

    ตอนนี้จุนรู้แล้วว่ามันคืออะไร เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น

    เอมิยะเริ่มพูดบางอย่าง ลมในห้องเหมือนจะตอบรับคำพูดนั้นด้วยการพัดแรงขึ้นเล็กน้อย

    “ข้าลั่นวาจาขอตัดสัมพันธ์ด้วยชื่อยูโกะนั้น เป็นดั่งโซ่ตรวนหนัก ศักดิ์และสิทธิ์ริบหมดสิ้น ส่งคืนวิญญาณเจ้านี้สู่อ้อมอกแม่ธรณีดังเดิม”

    เมื่อเอมิยะพูดจบร่างกายของยูโกะก็ค่อยๆ มีลักษณะโปร่งแสง แสดงความเป็นวิญญาณออกมาชัดเจน

    “เอจังเป็นคนตั้งชื่อให้ยูโกะเหรอ คิดว่าแม่เป็นคนตั้งซะอีก”

    “ท่านเอมิยะเป็นเจ้าเรือนตะวันออกตั้งแต่อายุพอๆ กับท่านจุนเลยนะเจ้าคะ แล้วค่อยมายกให้ท่านซายูริไม่กี่ปีมานี้”

    “เอจังเนี่ยสุดยอดจริงๆ ผมชอบคิดว่าลุงไม่แก่ขนาดนั้นอยู่เรื่อย”

    “อย่าพูดว่าแก่สิ” เอมิยะเสยผมแล้วพูดต่อ “จุนตั้งชื่อให้เธอเร็ว ทำเป็นใช่ไหม”

    “ทำก็ทำได้อยู่หรอกนะ แต่ว่า…” จุนหันไปหาวิญญาณเด็กสาว “เธอน่ะ จะดีจริงๆ เหรอที่เปลี่ยนมารับใช้ฉัน รู้กิตติสรรพของฉันใช่ไหม”

    “ทราบดีเจ้าค่ะ แต่ข้าก็เรียกท่านจุนว่านายท่านตั้งแต่เจอกันนี่เจ้าคะ”

    “จะเอาเงื่อนไขแบบไหนล่ะ” จุนถาม

    “เป็นเพื่อนเจ้าค่ะ”

    “หยุดก่อน!”

    คำสั่งดังก้องไปทั่วห้อง พลันปรากฏร่างของชายหนุ่มผมสีทองสวมยูกาตะ พร้อมกลิ่นหอมบางเบาลอยอบอวล

    จุนจำเขาได้ เขาคือคนที่เจอในงานศพของแม่

    “เอมิยะ เจ้าอย่าให้เด็กคนนี้ต้องแบกรับเคราะห์กรรมของทาดะยูกิไปอีกคนเลย” คนมาใหม่พูดเรียบๆ พลางยกมือขึ้นกอดอก

    “เห้อ” เขาถอนหายใจยาว ใบหน้าหล่อเหลาและสายตาเย็นชากำลังพิจารณาจุนช้าๆ ก่อนจะพูดบางอย่าง

    “ตัดใจเรื่องผู้นำตระกูลซะ ถ้าไม่อยากลงเอยแบบแม่ของเจ้า”

    สายตาเย็นชาสบเข้ากับตาของเด็กหนุ่ม จุนมองเข้าไปในแววตาสีน้ำตาลซึ่งฉายเเววเเน่วแน่

    ‘เขาเอาจริง แต่เพราะอะไรล่ะ’

    ทำไม เพราะเขาเป็นแค่ ‘จุนปลายแถว’ ใช่ไหม ก็เลยไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะทำได้จริงๆ

    จุนกำหมัดแน่น สูดหายใจลึก แล้วตะโกนออกมา

    “ไม่!”

    ทั้งห้องเงียบกริบ

    “ไอ้เจ้าเด็กนี่” อีกฝ่ายถลึงตามองอย่างไม่พอใจ

    แต่จุนรีบพูดทันที “ถ้าจะอยู่ด้วยกัน นายก็ควรฟังที่ฉันพูด เพราะฉัน ทาดายูกิ จุน เป็นเจ้าเรือนตะวันออกแล้ว เข้าใจไหม คุณผีบ้านผีเรือน”

    __________________________

    [1] งากิ : ผีประเภทเดียวกับผีเปรต โลกของเปรตคือหนึ่งหกโลกภูมิหลังความตาย ได้แก่ นรก โลกสัตว์เดียรัจฉานโลกของการสังหารผลาญชีวิต โลกคน โลกสวรรค์ และโลกของผีเปรต

    [2] องเมียวจิ : ตำแหน่งในวังหลวงญี่ปุ่นสมัยโบราณมีหน้าที่ทำนาย ปัดรังควาน ประกอบพิธีต่างๆ คล้ายกับหมอผีผสมหมอดู

    [3] วัฏสงสาร : การดำรงอยู่ในการหมุนเวียนจองการเกิดและการตาย

    [4] ญาณรับอสูร : มีที่มาจากสัมผัสพิเศษทั้งห้าในองเมียวโบราณ เขียนเลือกใช้ ญาณ ที่แปลว่า ความรู้ หรือเครื่องรู้มารวมกับคำว่าอสูร

    [5] ซาชิกิวาราชิ : ปีศาจประเภทหนึ่งของญึ่ปุ่นสถิตอยู่ในบ้าน ลักษณะภายนอกเป็นเด็กผู้หญิง

    [6] เชือกชิเมะนะวะ : เชือกมงคลของชินโต ทำจากวัสดุที่เหลือหลังจากการเก๋บเกี่ยวพืชผล เช่น ข้าวฟ้าง เป็นต้น

    [7] โยริชิโระ : วัตถุอันมีวิญญานสถิตอยู่ตามเชื่อแบบชินโต โยริชิโระส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ที่มีอายุนับร้อยปี ซึ่งจะผูกด้วยเชือกชิเมะนะวะ

    ____________________________

    Writer talk  "จุนจังลูกอุตส่าห์ได้เป็นใหญ่เป็นโตครองบ้านครองเรือน ดันมีผีบ้านผีเรือนสุดหล่อมาบอกให้เลิกล้มความตั้งใจซะงั้น หนอยแน่

    เธอเป็นไผ หึ!  

    ___________________________

    ติดตามตอนต่อไปด้วยนะ วันพุธนะ 

    ตอนต่อไป  บทที่1 : กลิ่นแห่งห้วงภวังค์​

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น