เรียกข้าว่าสิงขร - นิยาย เรียกข้าว่าสิงขร : Dek-D.com - Writer
×

    เรียกข้าว่าสิงขร

    โดย MrNeko

    นามข้าหน่ะรึ นามข้านั้นคือ หมื่นสิง สิงขรแห่งกรุงศริ

    ผู้เข้าชมรวม

    53

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    53

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    จำนวนตอน : 3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  16 มี.ค. 60 / 10:55 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

                ครั้งเมื่อหงษายกทัพมาประชิดหน้าประตูเมืองกรุงศรีศึกในครั้งนั้นทำให้กรุงศรีแตก เหล่าราชดอนต้องพากันวิ่งหนีเข้าป่ากระจัดกระจายกันไปคนละทิศละทาง

                “ท่านหมื่นได้โปรดไปกับพวกข้าพเจ้าเถอะขอรับ”นายทหารคนหนึ่งพูดขอร้องผู้เป็นหัวหน้าของเขา

                “มิได้หากมิมีคนถ่วงเวลารึจักหนีไปได้พ้นรึ”ตัวข้านั้นตวาดกลับแล้วพูดต่อไปว่า”ตัวข้านั้นไร้ครอบครัว ไร้สิ่งที่ต้องปกป้องนอกจากบ้านเมืองแต่กระนั้นแล้วบ้านเมืองแตกเสี่ยงๆเยี่ยงนี้ตัวข้าจะทำการอันใดต่อเล่า ต่างจากพวกเจ้าลองหันไปมองดูลูกเมียของพวกเจ้าสิ พวกเขาต้องการให้พวกเจ้าอยู่เขียงข้างพวกเขา เอาล่ะทีนี้พวกเจ้าต้องไปได้แล้วพระคุ้มครอง”ในตอนที่ข้ากล่าวประโยคออกมานั้นเหล่าทหารหารทั้งหลายกลับหลั่งน้ำตาออกมา ข้าเลยพูดแหย่เล่นไปว่า”เอ้า...พวกเองนี้กระไรร้องไห้กันเป็นเด็กไปได้ไปกันได้แล้ว”หลังจากพูดแหย่ข้าตะโกนสั่งให้คนขับรถเดินทางไป

                เมื่อรถม้าของพวกเขาลับสายตาไปแล้วข้าเลยหันหลังกับไปทางกรุงที่มีควันไฟลอยขึ้น กลิ่นศพไหม้ไปไกลถึงจุดที่ข้ายืนอยู่(หากพวกลูกเจ้าหลานเธอไม่พากันกัดกันเองกรุงศรีคง...)ในระหว่างที่ข้ากำลังพึมพำอาลัยอาวรณ์อยู่นั้น ก็มีเสียงฝีเท้าของคนวิ่งไล่ตามมากับทหารม้ามาปะปลาย

                “เองเป็นผู้ได้ใยถึงไม่ยอมจำนน”ทหารม้าหงษาดูเหมือนจะเป็นนายกองชี้ปลายดาบแล้วตามข้า

                “ข้ารึ ข้าชื่อ สิงขร  หมื่นสิงขรแห่งกรุงศรี”ข้ากำดาบทั้งสองข้างไว้แน่น จ้องมองพวกมันด้วยสายตาอย่างกะจะกินเลือดกินเนื้อพวกมัน

                “งั้นรึ หมื่นสิง ผู้นั้นเองรึ พอจักได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาบ้าง งั้นถ้าเจ้าสามารถล้มกองทหารของข้าได้ข้าจักปล่อยเจ้ารอดไปก็ได้”มันนั่งอยู่บนหลังมาพูดออกมาด้วยท่าทางที่ยโส โอหัง

                “อย่ามั่วแต่เห่าเลยใครอยากตายก็เข้ามาเลย”ข้าตะโกนออกมาแล้ววิ่งเข้าไปประจันหน้าหวังจะเอาเลือดนายกองมาล้างตีนให้จงได้

    เหล่าทหารหงษาพากันวิ่งมาประจันหน้าเช่นกัน พร้อมกับคมดาบคมหอกที่หมายจักสังหารข้า ใช้ว่าข้าจะตายง่ายๆรึไม่ข้าจักเอาเลือดพวกมันมาล้างตีนด้วยเช่นกันข้าจึงปัดป้องพร้อมสังหารพวกมันศพแล้วศพเล่าฝ่ากองทหารมันไปเรื่อย ยามลงดาบคราได้ครานั้นย่อมมีเลือดนองออกมาราวกับแม่น้ำสีแดงสดสายเล็กๆสายหนึ่ง จนข้าได้มาประจันหน้านายกองที่กำลังแสดงสีหน้าทั้งกลัว ทั้งกังวลออกมาส่วนตัวข้านั้นกลับแสยะยิ้ม ยามเมื่อข้ากำลังประชิดตัวมัน ตัวมันกลับขับม้าหนี ข้าเห็นดังนั้นจึงวิ่งหลบดงคมดาบ เมื่อถึงระยะแล้วข้าจึงกระโดด ง้างดาบ และ ลงดาบไปที่ลำคอของมันเลือดนายกองพุ่งกระเซนไปทั่วร่างข้า ภาพรอบๆตัวข้ามันเป็นภาพที่สยดสยองยิ่งนัก แต่ตัวข้ากลับยิ้มและเข่นฆ่าไปเรื่อย ลงดาบแล้วดาบเล่า ศพแล้วศพเล่า จนร่างกายข้าอ่อนแรงจนไม่มีแม้กระทั้งจะยกดาบ ตอนนั้นเองคือ วินาทีสุดท้ายของข้า คมหอกคมดาบ ของทหารหงษาพากันทั้งฟัน แทง มาที่ตัวข้า ข้าใช้แรงสุดท้ายแหงนมองท้องฟ้าและยิ้มให้ท้องฟ้านั้น

    ท้องฟ้านั้นสดใส มีเมฆปะปลาย นั้นคือสิ่งสุดท้ายที่ข้าเห็นก่อนโลกทั้งใบกลับมืดลง

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น