ทะลุมิติไปเป็นองค์หญิงไร้ค่า - นิยาย ทะลุมิติไปเป็นองค์หญิงไร้ค่า : Dek-D.com - Writer
×

    ทะลุมิติไปเป็นองค์หญิงไร้ค่า

    โอ๊ย อยากจะบ้าตาย ทะลุมิติมาตอนไหนไม่มา มาตอนที่เขากำลังจะ...เอาละ ไหน ๆ ก็มาแล้ว จะไม่มีองค์หญิงผู้ไร้ค่าอีกต่อไป สามีไม่ชอบใช่ไหม ข้าไม่สน ว่าแต่ทำไมท่านกลืนน้ำลายตัวเองแบบนี้

    ผู้เข้าชมรวม

    5,002

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    120

    ผู้เข้าชมรวม


    5K

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    99
    จำนวนตอน :  35 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  24 ส.ค. 67 / 08:12 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    # มีฉากวาบหวิวเพียงแค่ฉากแรกเท่านั้น จึงไม่ติดเรท

     

    ทะลุมิติไปเป็นองค์หญิงไร้ค่า

     

    ผู้แต่ง หวังเสี่ยวชิง

    จำนวน 35 ตอน

    ภาพปก ปกสำเร็จ by Monita

     

    นิยายเรื่องนี้ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ฉบับ พ.ศ.2537 และฉบับเพิ่มเติม ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก ดัดแปลง หรือลอกเลียนแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพหน้าปกหรือเนื้อหา หากผู้ใดฝ่าฝืน จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

     

    ตัวอย่าง

     

     

    เสียงหวานครวญครางเสียงดังไม่เป็นจังหวะ คลอเคล้าผสานเสียงของเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั่วห้องนอนของเรือนรอง

    “มะ...โม่โฉว ได้โปรด”

    เสียงสั่นพร่าหลุดรอดผ่านริมฝีปากอวบอิ่มอย่างยากเย็น อีกทั้งแผ่วเบาเสียจนคนที่คร่อมอยู่เหนือร่างแทบจะไม่ได้ยิน

    “ได้โปรด ที่หมายถึงอย่าหยุดใช่หรือไม่...ได้...ข้ายินดีทำตามความต้องการของเจ้าอย่างไม่มีบิดพลิ้ว”

    เอวแกร่งยิ่งขยับเข้าออกกลางหว่างขาเรียวงามที่ถูกเขาจับขึ้นไปพาดบนบ่าคนละด้าน ทุกจังหวะกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรงไร้ความปรานี ไม่สนว่าร่างเล็กที่สั่นกระเพื่อมตามจังหวะขยับของบั้นเอวนั้น จะรู้สึกเจ็บปวดมากเพียงใด

    หนำซ้ำนัยน์ตาเหยี่ยวมองเห็นดอกบัวตูมทั้งสองกระเพื่อมไหว ล่อตาล่อใจ ยิ่งเป็นการกระตุ้นอารมณ์ดิบให้เพิ่มทวีขึ้นไปอีก

    บุรุษที่คร่อมอยู่เหนือร่างเล็ก จึงขยับเปลี่ยนท่าทาง จับขาของอีกฝ่ายให้มาโอบรอบเอวแกร่งของตน ในขณะที่ใบหน้าและลำตัวก็โน้มเข้าหาสิ่งที่กระเพื่อมไหวอยู่ พร้อมจัดการใช้ริมฝีปากดูดกลืนเม็ดถันสีชมพูอ่อนอย่างเมามัน

    “ไม่ ได้โปรดหยุดเถอะ ข้าไม่ไหวแล้ว”

     

    ********************

     

    “ท่านพี่มีอะไรจะพูดหรือไม่เจ้าคะ” หนิงเซียนเห็นคนที่นั่งอยู่ขอบเตียงเอาแต่จ้องหน้านางจะพูดอะไรก็ไม่พูดเสียที จึงเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาก่อน

    “ข้ามีเรื่องจะสารภาพ คือว่า...คือว่า ข้ารักเจ้า” ในที่สุดคำพูดนั้นก็หลุดออกมาจากปากของแม่ทัพหนุ่มจนได้

    คนที่ถูกสารภาพรักไป ถึงกลับริมฝีปากอ้าค้าง ตกใจไม่คิดว่า เขาจะมาสารภาพรักเอาดื้อ ๆ ในยามที่นางพึ่งผ่านพ้นอันตรายมาเช่นนี้

    “ท่านพี่ล้อข้าเล่นหรือเปล่า เมื่อก่อนท่านเกลียดข้าจะตาย” หลังจากตั้งสติได้แล้ว หญิงสาวจึงหยัดกายลุกขึ้นนั่ง สำรวจเข้าไปในแววตาคู่นั้น ว่ามีความจริงใจแค่ไหน ถึงได้หลุดคำนั้นออกมา

    “ใช่เมื่อก่อนข้าอาจจะเกลียดองค์หญิงมาก กระทั่งข้าได้เปิดใจจนค้นพบอีกด้านหนึ่ง องค์หญิงที่ข้าเคยกล่าวหาว่าไร้ค่านั้น เนื้อแท้แล้วเป็นคนจิตใจดี รู้จักทำเพื่อคนอื่น โดยไม่ห่วงว่าตัวเองจะเดือดร้อน ยิ่งได้อยู่ใกล้ ความเกลียดชังที่เคยมี เริ่มแปรเปลี่ยน กลายเป็นความชอบโดยไม่รู้ตัว แล้วยิ่งมาเจอเหตุการณ์ในวันนี้ มันทำให้ข้ายอมรับหัวใจตนเองแล้วว่า รักองค์หญิงไร้ค่าผู้นี้เข้าให้แล้ว”

    อาจจะเป็นคำสารภาพรัก ที่ฟังดูทื่อ ๆ ไปหน่อย ไม่ค่อยมีความหวานอย่างที่หญิงสาวจากโลกปัจจุบันเคยใฝ่ฝัน แต่หนิงเซียนหรือแก้วตาก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจที่มีเต็มเปี่ยมในคำพูดนั้น เพียงเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ที่นางจะยอมเปิดหัวใจให้เขาเช่นกัน

    “เจ้าค่ะ”

    ใบหน้าคมเข้มเลิ่กลั่กกับคำตอบรับแสนสั้นนั้น เขาคิดว่านางจะดีใจหรือเขินอายมากกว่านี้เสียอีก หรือแม้กระทั่งคาดหวัง ว่าจะได้คำสารภาพรักจากปากของนางกลับคืนมาบ้าง แต่เปล่าเลย

    “เจ้าค่ะ สั้น ๆ แค่นี้นะหรือ”

    “เจ้าค่ะ ท่านพี่จะให้ข้าพูดอะไรต่ออีกหรือเจ้าคะ” หนิงเซียนยกคิ้วสูงอย่างฉงน ไม่เข้าใจว่าเขาอยากจะได้ยินอะไรจากปากของนางไปมากกว่านี้หรือ

    “เฮ้อ”

    อวี้โม่โฉว ถอนหายใจเสียงดัง ดันกายของหญิงสาวให้กลับลงไปนอนเช่นเดิม ก่อนที่ตัวเขาจะขึ้นไปเอนกายลงนอนเคียงข้าง โอบกอดหญิงคนรักเอาไว้

    แม้อยากจะได้ยินคำว่ารักจากปากของหญิงสาวเช่นกัน เขาก็รู้ตัวว่า ที่ผ่านมาเขาใจร้าย หมางเมินฮูหยินรองของเขามากเพียงใด นางคงเจ็บปวดหัวใจมาก จะให้เปิดใจกลับมารักเขาเช่นเมื่อก่อนได้ง่าย ๆ เช่นไร เขาคงต้องอดทนเฝ้ารอ เฝ้ารอวันที่หญิงสาวพร้อม พร้อมที่กลับมารักเขาอีกครั้ง

     

    ********************

     

    “ตอนนี้เกิดเรื่องกับท่านแม่ทัพแล้วขอรับ” หลงเป่ารายงานยังไม่ทันจบ หม่าหนิงเซียนก็ถามแทรกขึ้นมา

    “เรื่องอะไร”

    “ท่านแม่ทัพถูกจับขังคุก ข้อหาคิดจะก่อกบฏ พรุ่งนี้เช้าฝ่าบาททรงตัดสินให้ประหารทันทีขอรับ”

    “ไม่จริง” สตรีทั้งสามนางร้องขึ้นมาพร้อมเพรียงกัน หลิวฮูหยินเองพอได้ยินว่าบุตรชายจะถูกประหาร ก็หน้ามืดจะเป็นลม ฮูหยินรองเยียนเยียน จึงรีบเข้ามาคอยดูแล

    ส่วนหนิงเซียนก็ลุกขึ้นยืน สอบถามความเป็นมาเป็นไปจากหลงเป่าให้แน่ชัด หลังจากฟังหลงเป่าอธิบายจบ นางก็ตั้งท่าจะไปเยี่ยมสามีที่คุกหลวงทันที แต่หลงเป่าร้องห้ามขึ้นมาเสียก่อน

    “อย่าไปเลยขอรับฮูหยิน ฝ่าบาทมีรับสั่งออกมาแล้ว ย่อมเปลี่ยนแปลงไม่ได้ นอกจากนี้ท่านแม่ทัพยังฝากบอกข้าว่า ไม่ให้ใครในสกุลอวี้ไปเยี่ยม เพราะกลัวจะถูกกล่าวหาไปด้วย แล้วยังมีอีกอย่าง”

    หลงเป่าล้วงหยิบหนังสือม้วนหนึ่งออกมายื่นให้สตรีตรงหน้า พร้อมกับแจ้งด้วยว่า

    “ท่านแม่ทัพไม่อยากให้ฮูหยินเดือดร้อนไปด้วย หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น จึงกำชับให้ข้ามอบหนังสือนี้ให้ถึงมือฮูหยิน”

    หม่าหนิงเซียนรับม้วนหนังสือมาแกะเปิดอ่าน ด้วยมืออันสั่นเทา หลังจากอ่านเนื้อความในจดหมายแล้ว นางก็ฉีกทำลายทิ้งต่อหน้าต่อตาทุกคน พร้อมเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว

    “ข้าไม่มีวันหย่าเป็นอันขาด หากสกุลอวี้จะถูกประหารทั้งตระกูล หนึ่งในนั้นก็ต้องมีศีรษะของข้าด้วย”

    “สะใภ้ใหญ่” หลิวฮูหยินได้ฟังคำนั้นก็ซาบซึ้งใจ ดีใจที่บุตรชายของนางได้เจอสตรีที่แสนดีทั้งสองคน

    “ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะไม่ยอมให้ท่านพี่และทุกคนในสกุลอวี้ได้รับโทษอย่างไม่เป็นธรรมแน่” หนิงเซียนหันมากล่าวปลอบใจแม่สามีจบ ก็หันไปสั่งการให้หลงเป่าเตรียมรถม้าพานางเดินทางเข้าวังหลวง

     

    ********************

     

    พูดคุย

     

    สุดท้ายนี้ ขอฝากนิยายเรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมใจของนักอ่านทุกคนด้วยนะคะ หากมีคำติชมแนะนำมาได้เลยค่ะ นักเขียนจะพยายามปรับปรุงเท่าที่จะทำได้ ภาษาอาจจะไม่สวย แต่ถูกตัวอักษร ทำเต็มความสามารถของไรต์ตัวอวบอ้วนคนนี้แล้วค่ะ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น