[Saint Seiya Fic] Moonlight Serenade (2015) Shion x Mu - นิยาย [Saint Seiya Fic] Moonlight Serenade (2015) Shion x Mu : Dek-D.com - Writer
×

    [Saint Seiya Fic] Moonlight Serenade (2015) Shion x Mu

    ในเมื่อข้าคืออาจารย์ของเจ้า จึงถือเป็นผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเจ้ามาจนเติบใหญ่ อีกทั้งยังอบรมสั่งสอนให้เจ้ากลายเป็นโกลเซนต์ที่งามสง่าทั้งกายใจ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงไม่อาจตอบสนองความรักของเจ้าได้"

    ผู้เข้าชมรวม

    5,167

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    33

    ผู้เข้าชมรวม


    5.16K

    ความคิดเห็น


    65

    คนติดตาม


    97
    จำนวนตอน :  43 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.ย. 66 / 19:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    สวัสดีค่ะ

    อธิบายผลงานกันสักเล็กน้อย^0^

     

    ฟิคเรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกดราม่า (มั้ง) ระหว่างสองศิษย์อาจารย์   คือ ชิออน และ มู ซึ่งเป็นตัวละครจากเซนต์ เซย่า ภาคหลัก  แต่ว่าในเรื่องนี้  เกิดอะไรบางอย่างขึ้นทำให้มูกลายเป็นผู้หญิง   ดังนั้นฟิคเรื่องนี้ก็เลยไม่ Y อย่างที่ควรจะเป็น -*-

    สีสันของฟิคเรื่องนี้อาจไม่เหมาะสมกับผู้อ่านเด็กๆ นัก   ไม่ใช่ว่าติดเรทนะคะแต่ค่อนข้างหนักเอาการ  เนื้อเรื่องมีการพูดถึงประเด็นของจารีต  ศีลธรรม  ภาระหน้าที่ ความจงรักภักดี   ทรยศหักหลัง ความปรารถนา  และความรัก

     

    จำนวนตอนทั้งหมด : 37
     

     

    บทนำ

     

    Atlantis

     


    Credit:https:// twitter.com /ti ttyhawk

     


     

    นานมาแล้วเรื่องเล่า  ตำนาน   ปริศนา  และความลึกลับของอาถรรพ์เก่าแก่โบราณเคยเปล่งประกายเรืองรองดุจทองคำ  ล้ำค่ายิ่งกว่าอัญมณี   กระทั่งเรื่องของภูตผีปีศาจ  ความเร้นลับ  เวทมนตร์คาถาที่หลายคนไม่เคยล่วงรู้ถึงการคงอยู่ของมัน   ผู้คนส่วนหนึ่งคิดว่ามันช่างไร้สาระหรือไม่ก็เป็นเพียงเรื่องหลอกเด็ก    ในเมื่อพวกเขาต่างก็ติดอยู่ในโลกแห่งเทคโนโลยีที่แสนสะดวกสบาย  ยึดติดกับความเจริญทางวัตถุอย่างหน้ามืดตามัวจนถึงกับบูชาให้มันเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต   บางคนเฝ้าหลงวนเวียนอยู่กับแสงนีออนหลากสีที่แปรเปลี่ยนความมืดมิดยามราตรีให้กระจ่างยิ่งกว่าทิวา  จนลืมเลือนคุณค่าและความสำคัญของแสงจันทร์ที่เคยส่องสว่าง ณ ท้องฟ้าเบื้องบนมาแสนนาน 

     

    ในตอนนี้จะมีสักกี่คน   ที่จะยังคงแหงนมองดวงจันทร์พร้อมกับคิดคำนึงถึงเรื่องราวแต่หนหลัง  หรือเพราะกาลเวลานับหมื่นปีซึ่งล่วงผ่านทำให้พวกเขาลืมเลือนไปหมด   ว่าครั้งหนึ่งมนุษย์เคยดำรงชีวิตอยู่ภายใต้อิทธิพลของแสงจันทร์นวลอันอบอุ่นอ่อนโยน  ไม่น้อยไปกว่าแสงอาทิตย์อันแผดร้อนแรงกล้า  ลืมเลือนหมดสิ้น  ถึงอาถรรพ์โบราณและเรื่องราวน่าขนพองสยองเกล้าที่ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แสงจันทร์งามผุดผ่องนั้น   แต่มาเถิด   พวกท่านทั้งหลาย  เหล่านักเดินทางยุคใหม่   มาย้อนสู่ห้วงเวลาซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยปริศนาอันเร้นลับ   หวนกลับไปสู่ตำนานโบราณซึ่งถูกลืมเลือนไปจนหมดสิ้นแล้ว   จงฟังข้าเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมาของดินแดนอันเก่าแก่โบราณแห่งหนึ่ง   แผ่นดินซึ่งเปรียบเสมือนสรวงสวรรค์อันอุดมสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของมนุษยชาติที่ชื่อว่าแอตแลนติส

     

    สามร้อยห้าสิบห้าปีก่อนคริสตกาล   ปรัชญาเมธีผู้เรืองนามที่สุดแห่งยุคนามว่าเพลโต   ได้เคยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับทวีปที่แปดของโลกซึ่งล่มสลายไปนานแล้ว   เพลโตเล่าว่าทวีปที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนนั้นอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติก   เขาจึงเรียกทวีปนั้นว่าแอตแลนติส   ไม่มีใครทราบว่าแผ่นดินแอตแลนติสถือกำเนิดขึ้นเมื่อใด    รู้เพียงว่ามันคือเกาะแห่งหนึ่งที่มีมหาสมุทรล้อมรอบเมื่อราวเก้าพันปีมาแล้ว   เป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมเป็นอันมาก   ขยายอาณาเขตครอบคลุมไปทั่วบริเวณทั้งหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่อยู่ข้างเคียง   บางส่วนของทวีปอยู่เลยออกไปจนจรดอียิปต์    เลยพ้นทะเลเอเจียน  และยังยาวไกลไปจนถึงบางส่วนของทวีปยุโรปในปัจจุบัน

     

    แอตแลนติสเป็นดินแดนที่สงบสุข   เป็นที่ซึ่งหล่อเลี้ยงชนชาติผู้เรืองอำนาจและมากด้วยสติปัญญายิ่งกว่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ทั้งก่อนหน้านั้นและนับจากนั้นเป็นต้นไป   ทว่าภายใต้ความสมบูรณ์แบบนั้นก็ยังมีหลุมดำมืดมิดที่น่าสะพรึงกลัวแอบซ่อนอยู่เช่นกัน   มันคืออาถรรพ์เก่าแก่ซึ่งความเป็นมานั้นยังคงเป็นปริศนา  ดูราวกับจะเป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความวิบัติจากเงื้อมหัตถ์เทพเจ้าให้แก่ผืนแผ่นดินแอตแลนติสและผู้คนเหล่านั้น   ทำให้พวกเขาต้องรบราฆ่าฟันกันเอง  เพราะในทุกๆ ร้อยปีหรืออาจบ่อยกว่านั้น   จะมีสมาชิกของครอบครัวที่มีอายุครบสิบเจ็ดปีบริบูรณ์ภายใต้คืนจันทร์เต็มดวงต้องพบกับคำสาป  

     

    ราวกับปวงเทพกำลังจับตาดูการเสี่ยงโชคอยู่  ว่ายามเมื่อผู้คนเหล่านั้นบรรลุสู่ความเป็นผู้ใหญ่ด้วยวัยสิบเจ็ดปีจะได้พบกับเมล็ดพันธุ์อาถรรพ์ที่พระองค์หว่านไว้หรือไม่   และเมื่อคำสาปได้บังเกิดผลขึ้นพวกเขาก็จะต้องพบความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ   บางคนสามารถคงรูปกายที่เป็นมนุษย์เอาไว้ได้   แต่สำหรับคนที่ไม่มีโชค   คำสาปนั้นจะเปลี่ยนมนุษย์ปกติให้กลายเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายยิ่งกว่า  ทุกเศษเสี้ยวในกายและวิญญาณจะถูกครอบงำด้วยความวิบัติ   พวกเขาจะเปลี่ยนร่างเป็นอสูรกายน่าเกลียดน่ากลัวเกินกว่าจะคาดคิด  ทรงพลังเกินกว่าจะคาดเดา   พวกเขาจะกระหายเลือด   และพร้อมที่จะฉีกกระชากอะไรก็ตามที่ขวางหน้า   ส่งผลให้บิดาจำต้องฆ่าบุตร  พี่ฆ่าน้อง  โลหิตไหลนองไปทั่วทุกหัวระแหง  บ่อยครั้งเหลือเกินที่ในคืนพระจันทร์เต็มดวงเรามักจะได้ยินเสียงคำรามก้องของอสูรผู้น่าเวทนา   เสียงรบราฆ่าฟันกันเองของบุคคลให้ครอบครัว   และเสียงร่ำไห้แสนเจ็บปวดของสมาชิกที่ยังเหลืออยู่

     

                เรื่องราวแสนเศร้ายังคงดำเนินต่อไปปีแล้วปีเล่า   ศตวรรษแล้วศตวรรษเล่า  จวบจนวันแห่งความวิบัติที่แท้จริงได้มาถึง   เมื่อทั้งทวีปถึงกาลต้องจมลงสู่ห้วงมหาสมุทร

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น