คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1st movement: สถานีคิงส์ครอส ชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่
ขณะนี้เป็นเวลาสิบโมงสี่สิบห้านาทีแล้ว เหลือเวลาอีกเพียงสิบห้านาทีรถด่วนฮอกวอตส์ก็จะเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา ...เด็กหนุ่มผมสีบลอนด์จางกับผิวและดวงตาสีซีดกำลังถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เขาไม่เคยไม่รู้สึกรำคาญเลยแม้แต่ครั้งเดียวกับเสียงผู้คนที่พูดคุยกันดังจ้อกแจ้กจนฟังไม่ได้ศัพท์ และเสียงหีบหนักๆที่ถูกลากไปกับพื้นก็ไม่เคยทำให้เขารอดพ้นจากอาการเสียวฟันไปได้เลย เด็กหนุ่มนิ่วหน้าพร้อมกับเอื้อมมือปิดกระจกหน้าต่างรถไฟก่อนจะทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเก้าอี้เต็มแรงพลางล้วงนาฬิกาพกเรือนเงินออกมาดูเวลา
เหลือเวลาอีกสิบนาที
และทันใดนั้น
“ครืด
” ประตูห้องโดยสารเลื่อนเปิดออก แล้วเด็กหนุ่มอีกสองคนก็ก้าวเข้ามา
“นายมาอยู่ที่นี่เองมัลฟอย พวกเราเดินหานายมาตั้งแต่ต้นขบวนเลย”
แครบพูดพลางเช็ดเหงื่อที่หน้าผากแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับกอยล์เพื่อนคู่หู มัลฟอยเงยหน้าขึ้นมองลูกสมุนทั้งสองด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ ก่อนจะถอนหายใจยาวพลางเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ความโกลาหลวุ่นวายเมื่อครู่เบาบางลงมากแล้ว
“นายเป็นอะไรเหรอ”กอยล์ถามขึ้นเมื่อได้เห็นสีหน้าบึ้งตึงของมัลฟอย
“เฮอะ!”มัลฟอยพ่นลมออกทางจมูกอย่างรำคาญ
“ก็จะอะไรซะอีกล่ะ ฉันก็รำคาญเสียงโหวกเหวกโวยวายข้างนอกนั่นน่ะสิ เป็นอย่างนี้ทุกปีนั่นละ”
“แล้วนายยังไม่ชินอีกเหรอ นี่ก็ปีที่หกแล้วนะ” แครบพูดยังไม่ทันจบก็มีอันต้องหยุดกระทันหันเมื่อเห็นสีหน้าของมัลฟอย
“พวกแกไสหัวไปให้พ้นๆหน้าฉันซะทีได้มั้ย! ตอนนี้ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ” มัลฟอยหันมาตวาดดังลั่น ทำให้ลูกสมุนทั้งสองถึงกับสะดุ้ง
“เอ่อ
ง งั้นพวกเราไปก่อนนะ”
มัลฟอยถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายอีกครั้ง หลังจากที่แครบกับกอยล์ออกจากห้องไปด้วยความงุนงงกับอารมณ์ฉุนเฉียวของลูกพี่ใหญ่.... ต้นเหตุของความหงุดหงิดมันเกิดจากความฝันประหลาดเมื่อคืนนี้...
มันต้องเป็นเพราะไวน์นั่นแน่ๆ เด็กหนุ่มคิด... เมื่อวานนี้ คอนีเลียส ฟัดจ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเวทมนต์ได้มอบไวน์ขวดหนึ่งให้เป็นของกำนัลเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของนายลูเชียส มัลฟอยพ่อของเขา จากนั้นทุกคนก็เริ่มดื่มฉลองกัน ..มัลฟอยจำได้ว่าตอนที่เขาเข้านอนนั้น เสียงพูดคุยสรวลเสเฮฮายังคงดังอยู่ และความฝันที่เป็นต้นเหตุของอารมณ์ขุ่นมัวในเช้าวันนี้ ทำให้เขาอยากจะหัวเราะก็ไม่ใช่ ร้องไห้ก็ไม่เชิง
“ทำไมต้องเป็นยัยนั่น” มัลฟอยกระซิบกับตัวเองอย่างชิงชัง
“ยัยเกรนเจอร์เลือดสีโคลนโสโครก”เขาเบะปากอย่างนึกรังเกียจ
ตลอดเวลาหกปีที่ฮอกวอตส์กับพวกแฮรรี่ พอตเตอร์ ไม่เคยมีการเผชิญหน้าครั้งใดที่ทั้งสองฝ่ายจะจบลงด้วยดี เด็กหนุ่มยังจำได้ว่าเมื่อปีที่แล้วเขาได้ฝากรอยเขียวช้ำไว้ที่ตาซ้ายของรอน วีสลี่ย์ เมื่อทั้งสองชกต่อยกันที่ระเบียงนอกห้องเรียนวิชาแปลงร่าง ซึ่งนั่นดูเหมือนว่าเขากับคู่อริทั้งสามคงจะต้องเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันไปตลอดชีวิต
...............................................
ในที่สุดรถไฟก็เริ่มเคลื่อนที่ออกจากชานชาลา ...มัลฟอยเห็นเด็กนักเรียนปีหนึ่งหลายคนชะโงกหน้าออกมาจากหน้าต่างพร้อมกับโบกมือลาผู้ที่มาส่ง และก่อนที่รถไฟจะตีวงเลี้ยวเขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหูดังมาจากระเบียงด้านนอก
“นี่! รอน นายจะรอให้เรากลับไปถึงตู้ก่อนแล้วค่อยเริ่มสวาปามได้มั้ย”เฮอร์ไมโอนี่บ่นเสียงเขียวเมื่อเห็นรอนกำลังแกะขนมที่เพิ่งซื้อมาเต็มสองแขนอย่างตะกละตะกราม
“ดูสิ แฮรรี่”เธอพูดอย่างไม่พอใจ
“ก็ใช่ว่าเธอจะไม่ชินนี่นา เฮอร์ไมโอนี่” แฮรรี่พูดกลั้วหัวเราะโดยไม่ได้หันมามองเพื่อนทั้งสอง
“โธ่ เฮอร์ไมโอนี่”รอนพูดพร้อมกับส่งพายฟักทองชิ้นที่สองเข้าปาก
“ไม่มีกฏข้อไหนระบุไว้ซะหน่อย ว่าห้ามเดินกินอะไร ต่อให้พรีเฟ็คอย่างเธอก็มาหักคะแนนฉันไม่ได้หรอก”รอนพูดอย่างไม่รู้สึกรู้สมขณะที่ทั้งสามเดินเรียงแถวกันกลับไปยังตู้โดยสารของตัวเอง
“ไง ตายอดตายอยากมาจากไหนอีกล่ะวีสลี่ย์”
มัลฟอยทักขึ้นด้วยน้ำเสียงยานคางอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ...ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม... ทุกครั้งที่ได้เห็น3คนนี้เขาจะต้องมีอาการหงุดหงิดรำคาญขึ้นมาเสียทุกทีไป
“เดรโก มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่หันหลังกลับมาพร้อมกับพูด
“แล้วมันหนักส่วนไหนของนายไม่ทราบ”เธอพูดพลางกางแขนออกกั้นไม่ให้รอนพุ่งเข้าใส่มัลฟอย
“ก็เพราะฉันต้องมาทนฟังเสียงพวกชั้นต่ำคุยกันน่ะสิ”มัลฟอยพูดพลางกอดอกยืนพิงผนังตู้โดยสารของเขาอย่างสบายอารมณ์
เฮอร์ไมโอนี่มองเข็มกลัดพรีเฟ็คสีเงินวาวที่อกเสื้อของมัลฟอยซึ่งอยู่ในระดับสายตาเธอพอดี ก่อนจะพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสียยิ่งกว่าเดิม
“ฮึ! แต่ถึงยังไงคนชั้นต่ำอย่างพวกเราก็ยังดีกว่าคนชั้นสูงขี้เก๊ก งี่เง่า ไร้มารยาทที่ชอบแอบฟังคนอื่นเค้าคุยกันละน่า”
แฮรรี่กับรอนหัวเราะอย่างสะใจ ใบหน้าของมัลฟอยเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ เขาขยับปากเตรียมจะตอบโต้ แต่ก็ยังช้ากว่าเฮอร์ไมโอนี่
“น่าเสียดายนะ ที่นายเป็นพรีเฟ็ค ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันจะหักคะแนนบ้านสลิธีรีนของนายให้ย่อยยับไปเลย” พูดจบเฮอร์ไมโอนี่ก็ดันหลังเพื่อนทั้งสองคนให้เดินต่อไป
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ยายตัวแสบ” มัลฟอยกล่าวอย่างมาดร้าย ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในตู้โดยสารของเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึงกว่าเดิม
ความคิดเห็น