ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จบแล้ว (EXO) น้องปลา (Kaihun Ft.Chanbaek,Krislay)

    ลำดับตอนที่ #18 : ปลาตัวที่ 14

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.29K
      31
      18 เม.ย. 64


    ปลาตัวที่ 14





    บริษัท  มีปลา

    16.26 น.

     

    ครืดดดดดดดด!!!

     

                เสียงประตูกระจกที่ถูกเลื่อนเพื่อเปิดเข้าไปในห้องทำงาน...มันกำลังสร้างความหงุดหงิดให้กับลูกชายคนเล็กแห่งอาณาจักรร้านขายปลาที่ใหญ่ที่สุด  เพราะมันเป็นเสียงที่น่ารำคาญ  แถมคนที่เดินเข้ามาในห้องก็เอาแต่เร่งให้เขาปริ้นรายชื่อเจ้าพวกหางสวยมาตั้งแต่เช้า  เป็นวันที่แสนจะเบื่อที่สุดสำหรับคนที่ทำงานไม่ทันเวลา  และทุกๆวันศุกร์งานก็มักจะเยอะแบบนี้เป็นประจำ  เจ้าของดวงตาเรียวสวยมองค้อนพนักงานที่แพ็คปลาเก่งที่สุดในร้านและกำลังนั่งรอรายชื่อปลาจากเขาอยู่บนโซฟาเหมือนจะสื่อให้รู้ว่า....ต้องนั่งรอไปก่อนเพราะเขายังพิมพ์จำนวนปลาที่ลูกค้าสั่งไม่เสร็จ

     

                “โกรธอะไรพี่หรือเปล่าครับน้องเซฮุน??”  คนถูกมองค้อนถามออกไปด้วยความสงสัย  เนื่องจากวันนี้ทั้งวันเขายังไม่เห็นรอยยิ้มหวานๆจากน้องเมียของลูกพี่ตัวเองเลยสักครั้ง  และเห็นแต่คิ้วสวยได้รูปบนใบหน้าจิ้มลิ้มขมวดกันจนยุ่งกับสายตาที่จ้องเขาเหมือนโกรธกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน

     

                “หนูเบื่อพี่เฉินที่สุดเลยฮะ!!  เดี๋ยวหนูปริ้นรายชื่อปลาเสร็จก็โทรไปบอกเองนั้นแหละ!!!”  มือทำหน้าที่พิมพ์งานตรงหน้าไปด้วย  แต่ปากก็บ่นลูกน้องของพี่เขยไปด้วย  เพราะรู้สึกว่าการที่เฉินเข้ามาห้องนี้บ่อยๆมันเหมือนถูกกดดันให้ต้องทำงานเร็วขึ้นทั้งๆที่ตอนนี้ก็รีบจนมือจะหงิก

     

                “ถ้าคุณคริสไม่สั่ง...พี่ก็ไม่เดินมาหาน้องเซฮุนหรอกครับ  น้องเซฮุนอย่าเบื่อพี่เลย  ไปเบื่อคุณคริสนู้นนนน...ถึงจะถูก!”  การเดินไปมาระหว่างโกดังแพ็คปลากับหน้าบริษัทมันก็ทำให้พนักงานอย่างเขาเบื่อเหมือนกัน  เพราะระยะทางค่อนข้างไกลแถมรถกอล์ฟที่เคยขับอยู่ในบริษัทก็เสียและยังไม่ได้ส่งซ่อมสักที

     

                “ทีหลังก็ให้พี่คริสจ๋าเดินมาเองสิฮะ  แล้วลูกค้าทำไมต้องมาสั่งของตอนใกล้จะปิดร้านด้วยก็ไม่รู้!!  หนูเบื๊อ-เบื่อออออ!!!”  พาลทุกเรื่องที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิด  พร้อมกับกดแป้นพิมพ์ดังกึกกักเพื่อระบายอารมณ์เพราะวันนี้งานมันเร่งมากจนแทบไม่ได้พักให้หายใจหายคอกันเลยสักนิด

     

                จานข้าวกลางวัน...ถุงขนมขบเคี้ยวและถ้วยของหวานต่างๆที่ทานหมดแล้วถูกวางทิ้งไว้อยู่ข้างโต๊ะทำงานเพราะไม่มีเวลาเดินเข้าไปเก็บในครัว  และทุกๆคนในบริษัทก็ยุ่งกันหมด  พี่อี้ก็ต้องดูแลลูกค้า  พี่เขยต้องรีบแพ็คปลา  ส่วนน้องคนเล็กอย่างเขาก็ต้องกินข้าวไปด้วยทำงานไปด้วยมาตั้งแต่เปิดร้าน  น้องปลาต้องพิมพ์รายชื่อเจ้าหางสวยตามที่ลูกค้าสั่ง  และปริ้นให้พนักงานในบริษัทเอาไปทำการแพ็คหนึ่งชุดแล้วเก็บใส่แฟ้มเพื่อเป็นประวัติการซื้อขายของร้านอีกหนึ่งชุด

     

                มือบาง...คลิ๊กเม้าท์ไปที่สัญลักษณ์ของการปริ้นเอกสารเมื่อพิมพ์รายชื่อสัตว์น้ำต่างๆของลูกค้ารายสุดท้ายเสร็จสิ้น  น้องปลาเริ่มทยอยเก็บอุปกรณ์ในการทำงานบนโต๊ะให้เข้าที่พร้อมทั้งจัดเรียงเอกสารการซื้อขายของวันนี้ใส่แฟ้มแยกเอาไว้  และเมื่อเสียงของเครื่องปริ้นหยุดการทำงาน  กระดาษA4จำนวนยี่สิบแผ่นก็ถูกหยิบเก็บใส่แฟ้มสีชมพูเอาไว้สิบแผ่น  แล้วส่วนที่เหลือก็ยื่นส่งให้เฉินเพื่อเอาไปใช้ในการแพ็คปลาในโกดังตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าโทรมาสั่ง

     

                “ชื่อปลาที่หนูทำดอกจันเอาไว้ของจะมาส่งพรุ่งนี้นะฮะ  พี่เฉินไม่ต้องไปสนใจ  แล้วแพ็คปลาตัวอื่นไปเลย”

     

                “อ้าววว...พรุ่งนี้ร้านปิด  แล้วของจะมาส่งได้ไง  พี่งง??”

     

                “เดี๋ยวพี่คริสจ๋าจัดการเองฮะ  พี่เฉินไม่ต้องเป็นห่วง”

     

                “โอเค......”

     

                ปลาบางชนิด...ที่ลูกค้าต้องการก็หายากจนต้องโทรไปขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นพ่อ  นั่นจึงทำให้จีโฮไม่ค่อยได้กลับบ้านเหมือนแต่ก่อน  และเมื่อหาเจ้าพวกหางสวยได้ครบของก็จะถูกส่งมาในวันที่ร้านปิดบ้างในบางครั้ง  เพราะสินค้าที่ขายเป็นสิ่งมีชีวิต...ทางบริษัทจึงไม่สามารถกำหนดวันส่งได้ตามใจของตัวเอง  ถึงแม้บริษัทจะปิดให้บริการในวันเสาร์กับวันอาทิตย์  แต่พี่เขยของน้องปลารวมถึงพี่ชายคนโตอย่างอี้ชิงก็ยังต้องทำงานและปิดยอดการขายของแต่ละอาทิตย์ให้เสร็จก่อนที่จะเริ่มเปิดร้านอีกครั้งในสัปดาห์ถัดไป

     

    Rrrrr!!!

    Rrrrr!!!

    Rrrrr!!!

     

                กำลังถือจานชามที่กองทิ้งไว้ในห้องทำงานออกไปล้างที่ห้องครัว  แต่เสียงจากโทรศัพท์ของทางร้านก็ดังขึ้นเสียก่อน  น้องปลาจึงจำเป็นต้องวางของทั้งหมดลงบนโต๊ะทำงานอีกครั้งแล้วรีบรับสาย  เพราะเกรงว่าจะเป็นลูกค้าที่โทรเข้ามาสั่งเจ้าหางสวยเพิ่มเติม

     

                “สวัสดีฮะ...บริษัท มีปลาฮะ”

     

                (สวัสดีครับ...บริษัทนี้มีปลาชื่อโอเซฮุนขายไหมครับ?)

     

                “มีฮะ  แต่มีคนจองแล้ว ^3^

     

                (ใครจองไว้เหรอครับ? ^-^)

     

                “คนจองชื่อคุณคิมฮะ....หล่อมาก >//<)  มีซิกแพคด้วย  แต่ชอบทำห้องรก”

     

                (โธ่...น้องปลาาาา  ห้องพี่ไม่รกแล้วคร้าบบบบบ  พี่เก็บเรียบร้อยแล้ว)

     

                “จริงเหรอฮะ!!?  ถ้าวันนี้หนูเห็นว่ารกอีก  หนูจะไม่ให้คุณคิมหอมแก้มนะฮะ”

     

                (ถ้าไม่ให้หอม  แต่เปลี่ยนเป็นจูบบบ...ได้ไหมครับ?!!)

     

                “ได้ฮะ!!  แต่ให้จูบนิดเดียวนะฮะ”

     

                เป็นการรับสาย...จากเครื่องมือสื่อสารของบริษัทที่ทำให้น้องปลามีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า  เพราะวันนี้ทั้งวันมันมีแต่สายที่โทรเข้ามาสั่งเจ้าพวกหางสวย  แถมยังเป็นสายพันธุ์หายากและทางร้านก็มีไม่มากเท่ากับจำนวนที่ลูกค้าต้องการจนต้องโทรไปขอออร์เดอร์จากผู้เป็นพ่อที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศ

     

                (แต่พี่อยากจูบน้องปลาเยอะๆนี่ครับ)

     

                “อยากจูบเยอะๆก็มารับหนูเร็วๆสิฮะ  หนูทำงานเสร็จแล้วนะ”

     

                (เฮ้ออ!!  สงสัยจะอด...เพราะพี่จะโทรมาบอกว่าวันนี้พี่จะไปรับน้องปลาค่ำๆนะครับ)

     

                “ทำไมละฮะ??  คุณคิมไม่คิดถึงหนูเหรอ?  หนูคิดถึงคุณคิมจะแย่”

     

                (คิดถึงสิครับ  คิดถึงมาก ๆ ๆ ๆ มากที่สุด  แต่คุณคิมยังทำงานไม่เสร็จเลยครับ  น้องปลารอพี่หน่อยได้ไหม??)

     

                “แล้วตอนนี้คุณคิมอยู่ที่ไหนฮะ???”

     

                (บ้านลูกค้าครับ  กำลังซ่อมตู้ปลาให้ลูกค้าอยู่)

     

                “เหนื่อยไหมฮะ  แล้วกินข้าวหรือยัง?”

     

                (กินแล้วครับ  เหนื่อยนิดหน่อย  แต่คิดถึงน้องปลามากกว่า)

     

                “เหนื่อยก็ไม่ต้องมารับหนูหรอกฮะ  เดี๋ยวหนูให้พี่คริสจ๋าไปส่งที่บ้านคุณคิมก็ได้”

     

                (พี่ขอโทษนะครับ...น้องปลาไม่โกรธพี่ใช่ไหม)

     

                “ไม่โกรธฮะ  ก็คุณคิมงานเยอะหนิ”

     

                (พี่รักน้องปลานะครับ  แล้วเย็นนี้เจอกันที่บ้าน)

     

                “หนูก็รักคุณคิมนะฮะ  จุ๊บๆร้อยทีเพิ่มพลัง”

     

                (จุ๊บๆครับเด็กดี)

     

                “คุณคิมไปทำงานต่อเถอะฮะ  เดี๋ยวหนูจะรีบไปหา”

     

                ยิ้มได้ไม่ถึงห้านาทีก็ต้องหุบยิ้ม...เพราะคนที่เคยมารับตัวเองไปอยู่ที่บ้านในทุกๆวันศุกร์ของแต่ละสัปดาห์ไม่สามารถมารับได้เหมือนอย่างเช่นเคยเนื่องจากติดงาน  น้องปลาเข้าใจดีว่างานของคุณคิมต้องใช้ความละเอียดอ่อนและพิถีพิถันในการประกอบตู้ปลา  แถมของตกแต่งต่างๆอย่างพวกสาหร่าย  ก้อนหินหรือปะการังเทียมก็ต้องใช้เวลาในการจัดวางค่อนข้างนาน  และกว่าจะเดินท่อน้ำเพื่อบำบัดของเสียก็ต้องวางระบบให้ดี  ไม่อย่างนั้นท่ออาจแตกได้ในภายหลัง

     

    แต่ถึงจะเข้าใจเนื้องานของแฟนหนุ่มผิวเข้มมากแค่ไหน ...ปลาตัวน้อยของคุณคิมก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้อยู่ดี

     

                หลังจากวางสายของคุณคิมได้สักพัก...เด็กที่ไม่เข้าใจอารมณ์ของตัวเองว่าตอนนี้รู้สึกเช่นไรกันแน่  ก็รีบยกจานชามที่วางไว้บนโต๊ะทำงานออกไปล้างที่ห้องครัว  มือบางเปิดน้ำแล้วเริ่มล้างภาชนะที่ทำจากแก้วทีละใบทีละใบอย่างระมัดระวัง  แต่ในหัวก็ยังคิดถึงเจ้าของบริษัทบ้านปลาไปด้วยเพราะนี่คือครั้งแรกที่จงอินไม่สามารถมารับเขาได้  น้องปลาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย...มันสับสนและคิดว่าตัวเองถูกทิ้งหรือหมดความสำคัญ  แต่อีกใจก็รู้ดีว่าคนที่ทำให้ตัวเองคิดมากอยู่ตอนนี้กำลังงานยุ่ง

     

    แกร๊กก!!

     

                “.....!!!!!

     

                “อยู่นี่เอง...ทำอะไรอยู่น้องปลา?!!

     

                “ล้างจานอยู่ฮะ...เฮ้อออ!

     

                ตกใจ...จนเกือบทำจานใบสุดท้ายที่กำลังล้างฟองของน้ำยาล้างจานอยู่ในอ่างหลุดมือเมื่อน้องปลาได้ยินเสียงประตูของห้องครัวถูกเปิดออก  และตามมาด้วยเสียงของพี่ชายที่เอ่ยเรียกเนื่องจากสติมันไม่ได้อยู่ในห้องครัวเลยสักนิด  เพระมัวแต่คิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อยจนเกือบทำจานแตกบาดมือตัวเอง  ส่วนคนที่เดินตามหาน้องชายอยู่นานก็รีบเดินเข้ามาช่วยหยิบจานที่ล้างเสร็จแล้วมาเช็ดให้แห้งและเก็บเข้าตู้ไว้เหมือนเดิม

     

    แต่...สีหน้าหงอยๆรวมถึงอาการเหมอลอยของน้องปลาที่คนเป็นพี่เห็นอยู่ตอนนี้  มันกำลังทำให้คนมองรู้สึกเป็นห่วงเพราะถ้าเป็นเด็กชายโอเซฮุนของพี่อี้คนเดิม  น้องต้องโวยวายหรือไม่ก็ทำหน้าบึ้งเมื่อมีใครทำให้ตกใจ  แต่วันนี้กลับได้ยินเพียงแค่เสียงถอนหายใจ

     

                “ไม่สบายหรือเปล่าน้องปลา?  ปวดหัวไหม?  แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้น  หื้ม???”

     

                “วันนี้คุณคิมไม่ว่างมารับหนูฮะ”

     

                “อ้าว...ทำไมล่ะ?  เกิดอะไรขึ้น?”

     

                “คุณคิมติดงาน....แล้วบอกว่าจะมารับหนูค่ำๆ  แต่หนูไม่อยากรอ  หนูจะให้พี่คริสจ๋าไปส่ง  พี่อี้ไปบอกให้พี่คริสจ๋าออกรถเลยฮะ...หนูขอไปอาบน้ำแป้บนึง!!

     

                “น้องปลา!!...นั่งลงเดี๋ยวนี้  มาคุยกับพี่ให้รู้เรื่องก่อน  อย่าเพิ่งใจร้อน!

     

                คนเป็นพี่...จำเป็นออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง  พร้อมกับจ้องหน้าเด็กเอาแต่ใจเพื่อเป็นการปรามเมื่อรู้สาเหตุที่น้องปลาเหม่อลอย  อี้ชิงจูงมือน้องชายให้เดินมานั่งบนเก้าอี้ในห้องครัวแล้วกอดปลอบเพื่อหวังให้น้องปลาใจเย็นลง  โดยมีคนที่ยังคงมีความสับสนอยู่ภายในใจยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาโอบเอวของเขาเอาไว้  แถมยังเงยหน้าหงอยๆเกยไว้ที่พุงและส่งสายตามาให้อย่างออดอ้อน

     

                “หนูอยากไปหาคุณคิมเร็วๆฮะพี่อี้”

     

                “แล้วทำไมน้องปลาไม่รอให้คุณคิมมารับที่นี่ล่ะ?”

     

                “ก็คุณคิมงานเยอะ...แล้วก็ไม่รู้จะทำเสร็จตอนไหน  หนูไม่อยากรอก็เลยบอกคุณคิมว่าพี่คริสจ๋าจะไปส่ง”

     

                “ไม่อยากรอก็ต้องรอ  เพราะพี่คริสยังแพ็คปลาไม่เสร็จ”

     

                “พี่อี้ไปส่งก็ได้หนิฮะ  นะนะนะ...พี่อี้ไปส่งหนูหน่อยยย”

     

                “คิดถึงคุณคิมมากขนาดนั้นเลยเหรอน้องปลา?!!

     

                “ก็คิดถึงเท่ากันทุกวันแหละฮะ  ตะ...แต่วันนี้มันคิดถึง  แล้วก็รู้สึกหงุดหงิดด้วยฮะพี่อี้  หนูเป็นอะไรก็ไม่รู้ฮะ!!

     

                “งั้นก็รีบไปอาบน้ำ  เดี๋ยวพี่ไปส่งเองเพราะพี่คริสต้องรีบแพ็คปลาให้ลูกค้า”

     

                “เย้!!!...หนูรักพี่อี้ที่สุดในโลกเล้ยยยยยยย!!!!!

     

    ฟอดดดดดด!!

    ฟอดดดดดด!!

     

                คนถูกหอม...ไม่รู้ว่าน้องของตัวเองเป็นอะไร  แต่พอเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มที่ใครๆต่างก็หลงรักออกอาการหงอยดูไม่สดชื่น  เขาก็อดที่จะตามใจไม่ได้และงานในบริษัทวันนี้ก็เยอะมากจนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องปลาหงุดหงิด  อี้ชิงจึงไม่อยากดุหรือขัดใจน้องชายมากนัก  ดวงตาคู่สวยมองตามเด็กที่หอมแก้มเขาด้วยความดีใจวิ่งออกไปจากห้องครัวอย่างคิดถึงอนาคตในวันข้างหน้า  เพราะอี้ชิงยังมองไม่ออกเลยว่าเมื่อน้องปลาโตขึ้น....น้องจะสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นๆในสังคมได้หรือไม่ถ้าไม่มีเขาและบุคคลในครอบครัวคอยตามใจ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ห้างสรรพสินค้า  XOXO

    18.43 น.

     

    VROOMMMM!!

     

                เจ้าของรถมินิคูเปอร์สีขาว...หักพวงมาลัยเลี้ยวตามทางเข้ามายังลานจอดรถเมื่อขับมาถึงห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริษัทของรุ่นน้องสามี  และพอมองเห็นที่ว่างขาเรียวในกางเกงยีนส์สีเข้มก็ค่อยๆเหยียบคันเร่งถอยเข้าที่จอดอย่างชำนาญพร้อมกับดับเครื่องยนต์ทันที

     

                “น้องปลาอยากกินอะไร??...คิดเอาไว้หรือยัง?”

     

                “อยากกินพิซซ่าฮะ”

     

                “เดี๋ยวก็เข้าโรงพยาบาลอีกหรอก  ไม่กลัวพี่หมอซูโฮจับฉีดยาเหรอ?”

     

                “ก็เอาแบบที่ไม่มีหอยสิฮะพี่อี้”

     

                “ตามใจ...แต่อย่าบอกพี่คริสก็แล้วกัน  เดี๋ยวพี่คริสโกรธ”

     

                “โอเคฮะ...แล้วหนูซื้อกลับไปให้คุณคิมกับบยอนนี่กินด้วยได้ไหมฮะ?”

     

                “เอาสิ...อยากสั่งอะไรก็สั่ง  แต่ห้ามบอกพี่คริสเด็ดขาด”

     

                คนเป็นพี่...จูงมือน้องชายเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าเมื่อลงจากรถ  และตรงไปที่ร้านพิซซ่าทันทีเนื่องจากมันคือเมนูที่น้องบอกว่าอยากทาน  อะไรที่ทำให้น้องปลามีความสุข  อี้ชิงยอมทำทุกอย่าง  แต่ก็ใช่ว่าจะตามใจกันได้ทุกวัน  ยิ่งเป็นของกินอย่างพิซซ่าด้วยแล้วก็ยิ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษ  เพราะส่วนผสมจำพวกหอยมันทำให้น้องเกิดอาการแพ้หรือไม่ก็ทำให้อาหารเป็นพิษได้ในภายหลัง  และถ้าสามีรู้ว่าเขาพาน้องเมียอันเป็นที่รักมาทานของแบบนี้...มีหวังคงได้โดนทำโทษไปอีกหลายวัน

     


                อี้ชิงทราบดี...ว่าคริสไม่ชอบให้น้องปลาทานของไม่มีประโยชน์อย่างพวกพิซซ่า  น้ำอัดลมและท๊อฟฟี่  แต่ถ้าสามีได้มาเห็นรอยยิ้มที่ดูมีความสุขของเด็กที่เขาจูงมืออยู่ในตอนนี้  คริสคงยอมทุกอย่างไม่ต่างไปจากเขาและอาจพาน้องปลาไปซื้อนั่นซื้อนี่โดยไม่บ่นอะไรสักคำ  ส่วนเรื่องที่เขาต้องให้น้องชายมาทานอาหารที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ก่อนที่จะพาไปส่งที่บ้านของจงอินก็เป็นเพราะไม่อยากรบกวนรวมถึงเกรงใจแบคฮยอนที่มักจะทำของว่างหรือไม่ก็ทำมื้อเย็นให้น้องของเขาทานเป็นประจำเมื่อเดินทางไปถึง

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

                “ของที่สั่งได้ครบแล้วครับ!

     

                “ขอบคุณนะฮะ (:

     

                ส่งยิ้มหวานๆให้พนักงาน...แล้วรับถุงที่เต็มไปด้วยพิซซ่าหน้าต่างๆเป็นจำนวนสามกล่อง  รวมถึงไก่อบซอสและพาสต้าที่สั่งไปให้คุณคิมกับบยอนนี่ทานที่บ้านมาถือไว้จนเต็มมือ  และวันนี้เขาก็ได้กินน้ำอัดลมที่ไม่ได้กินมานานเกือบสามเดือนอีกด้วย  เพราะฉะนั้นอาหารเย็นมื้อนี้ก็จะต้องถูกปิดไว้เป็นความลับ!!

     

                ใช่ว่าน้องปลาอยากขัดคำสั่งของคนเป็นพี่เขย  แต่เวลาที่ได้กินน้ำหวานรสซ่าทีไรมันก็ทำให้รู้สึกสดชื่นทุกครั้ง  และเขาก็กินในปริมาณที่พอจะกินได้  เนื่องจากเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเองดีว่าถ้ากินมากเกินไปมันจะทำให้ท้องอืดจนต้องเข้าไปนอนอยู่ในโรงพยาบาล

     

                “อยากกินอะไรอีกไหมน้องปลา?”

     

                “หนูอยากกินไอติมร้านที่คุณคิมเคยพาไปฮะ”

     

                “แล้วร้านอยู่ตรงไหน?”

     

                “เดี๋ยวหนูพาไปเอง  ที่ร้านนั้นมีไอติมรสช็อคโกแลตมินต์ด้วยฮะพี่อี้”

     

                “ร้านอื่นก็มี”

     

                “แต่ร้านนี้อร่อยที่สุดฮะ”

     

                ไม่รู้ว่าอร่อยเพราะรสชาติของไอศกรีมจริงๆหรือเป็นเพราะคนที่พามากันแน่  น้องปลาถึงได้อยากกินจนต้องอ้อนให้พี่ชายพาไปซื้อ  แถมยังเดินนำโดยที่ไม่รอให้อี้ชิงจ่ายค่าพิซซ่าเสร็จก่อนอีกด้วย  คนเป็นพี่...ไม่ค่อยได้มาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้บ่อยเท่าไหร่เนื่องจากอยู่ไกลบริษัทของตัวเองแต่ใกล้บ้านของรุ่นน้องสามี  และคนที่รู้จักห้างสรรพสินค้านี้ดีกว่าเขาก็คงเป็นน้องชายจอมแก่นที่มักจะมากับแฟนหนุ่มเกือบทุกสัปดาห์

     


                อี้ชิงเดินตามน้องปลาไปเรื่อยๆ...และเมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงชั้นที่สี่  เขาก็เห็นร้านไอศกรีมที่คาดว่าน่าจะเป็นร้านที่น้องปลามาทานกับจงอินบ่อยๆ  เพราะสีสันที่สดใสรวมถึงของตกแต่งหน้าร้านก็ค่อนข้างดึงดูดความสนใจของลูกค้ามากอยู่พอสมควร  แต่!!!การที่น้องชายสุดที่รักยืนนิ่งอยู่หน้าร้านและหันกลับมามองเขาด้วยสายตาเหมือนกำลังโกรธ...มันกลับดึงดูดอี้ชิงได้มากกว่าความน่ารักหรือความสวยงามของร้านไอศกรีมเสียอีก

     

                “น้องปลาเป็นอะไร????”

     

                “หนูขอยืมโทรศัพท์หน่อยฮะพี่อี้”

     

                “น้องปลาจะโทรหาใคร?”

     

                “โทรหาคุณคิมฮะ”

     

                ยังไม่ทันเดินเข้าไปหาน้องชายที่ยืนนิ่งมองอะไรบางอย่างอยู่ที่หน้าร้านไอศกรีม...น้องปลาก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับมาหาอี้ชิงที่เพิ่งก้าวขาพ้นออกมาจากบันไดเลื่อนได้เพียงไม่กี่ก้าว  และขอยืมเครื่องมือสื่อสารเพื่อโทรหาแฟนหนุ่มผิวเข้ม  มือเรียวสวยของคนที่กำลังโกรธเพราะเห็นภาพที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นรีบคว้าโทรศัพท์มาจากมือพี่ชายแล้วกดเบอร์ที่เคยวิดีโอคอลหากันเกือบทุกคืน  แต่!!สำหรับครั้งนี้  ตอนนี้  เดี๋ยวนี้...มันอาจเป็นการโทรหากันครั้งสุดท้ายและไม่ใช่การวิดีโอคอลเหมือนอย่างเช่นที่เคยทำ

     

    Rrrr!!! 

    Rrrr!!!

    Rrrr!!!

     

                อี้ชิง...ถูกน้องปลาพาเดินมานั่งบนเก้าอี้ไม้แบบยาวที่ไร้พนักพิงตรงด้านข้างของบันไดเลื่อน  โดยที่มืออีกข้างของน้องชายก็ยังคงถือสมาร์ทโฟนของเขาเอาไว้และดูเหมือนว่าคนปลายสายจะยอมรับโทรศัพท์สักที  อี้ชิงมองการกระทำของคนเป็นน้องอย่างงงๆเพราะตอนนี้ในมือของน้องปลามันเต็มไปด้วยของกินที่เพิ่งซื้อมาจากร้านพิซซ่า  และมีใบหน้าที่คิ้วสวยได้รูปขมวดกันจนยุ่งเมื่อต้องกดเบอร์ของจงอินซ้ำอีกครั้ง  น้องปลาแทบไม่ได้สนใจเลยว่าของกินต่างๆมันจะเละจากการยกแขนขึ้นๆลงๆไปมาเพื่อโทรหาแฟนหนุ่ม

     

    Rrrrr!!!! 

    Rrrrr!!!!!

     

                (สวัสดีครับพี่อี้ชิง)

     

                “น้องปลาเองฮะ....ไม่ใช่พี่อี้”

     

                (ว่าไงครับน้องปลา  แล้วตอนนี้อยู่ไหน?  ทำไมพี่ไม่ค่อยได้ยินเสียงน้องปลาเลยครับ)

     

                “ออกมาทานข้าวเย็นกับพี่อี้ฮะ  พี่อี้กำลังไปส่งหนูที่บ้านคุณคิม...แล้วคุณคิมล่ะฮะ  ตอนนี้อยู่ที่ไหน?”

     

                (กำลังกลับบ้านครับ  งานพี่เพิ่งเสร็จ  น้องปลารีบมานะครับ  พี่คิดถึง)

     

                “ฮึกกก!!  ฮืออออออ!!!

     

                (น้องปลาเป็นอะไรนะ...น้อง)

     

    ติ๊ดดด!!

     

                ไม่มีแรง...แม้แต่จะกดวางสายเพื่อจบการสนทนาเมื่อน้องปลาได้ยินคำหลอกลวงจากคนที่เคยสัญญากันไว้ว่าจะไม่มีวันโกหก  และก็เป็นเจ้าของโทรศัพท์ที่ต้องกดวางให้พร้อมกอดน้องชายของตัวเองเอาไว้แน่นโดยที่ไม่รู้เลยว่าทำไมน้องปลาถึงต้องร้องไห้มากมายขนาดนี้  อี้ชิงเป็นห่วงน้องชายแทบขาดใจไปพร้อมๆกับเสียงร้องไห้ที่ได้ยินอยู่ในตอนนี้และรีบถามถึงสาเหตุที่ทำให้คนในอ้อมกอดเอาแต่สะอึกสะอื้นจนตัวโยน  

     

                “น้องปลาเป็นอะไร  บอกพี่อี้หน่อยได้ไหม”

     

                “ฮึกกก!!  คุณคิม  ฮึกก!  โกหก...คุณคิมพาผู้หญิงคนนั้นมากินไอติม  ฮึก!  แต่บอกหนูว่ากำลัง ฮึกกก!!...จะกลับบ้าน  ฮืออออออ!!

     

                “น้องปลาใจเย็นๆ  ผู้หญิงคนนั้นอาจเป็นเพื่อนคุณคิมก็ได้  น้องปลาอย่าเพิ่งคิดมากนะ  หยุดร้องไห้ก่อน”

     

                “ไม่ใช่เพื่อนนน!!!  ฮึกก!  หนูจำได้...ผู้หญิงคนนั้น  ฮึก!  เป็นแฟนเก่าของคุณคิม  ไม่ใช่เพื่อน  ไม่ใช่เพื่อน!!!  พี่อี้เข้าใจไหมมมม!!!!

     

                “น้องปลาใจยะ...เย็น  เดี๋ยววว..จะเดินไปไหน?  กลับมาหาพี่อี้เดี๋ยวนี้!!  น้องปลา  น้องปลาาา!!!

     

                อี้ชิง...รีบวิ่งตามน้องชายที่เอาแต่โวยวายพร้อมกับร้องไห้จนตาแดงก่ำไปด้วยความรู้สึกสงสารและตกใจ  เพราะอยู่ดีๆน้องปลาก็ลุกออกจากเก้าอี้ด้วยความรวดเร็วแล้วตรงไปที่หน้าร้านไอศกรีมอีกครั้ง  และภาพ...ที่อี้ชิงเห็นอยู่ตรงหน้าหลังจากวิ่งตามน้องปลาไปได้ไม่กี่ก้าวก็ทำให้ขาทั้งสองข้างถึงกับก้าวต่อไปไม่ไหว  เพราะเห็นรุ่นน้องคนสนิทของสามีเดินควงแขนผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากร้านของหวานสีสันสดใส

     

    แต่!!สิ่งที่ทำให้คนเป็นพี่คนโตอย่างอี้ชิงต้องก้าวขาเดินไปให้ถึงหน้าร้านไอศกรีมอีกครั้งก็เป็นเพราะต้องรีบเข้าไปห้ามศึกที่กำลังจะเกิดขึ้น

     

    ปึ่กกก!! 

    ปั่กกก!!

     

                เหมือนทุกอย่างจะสายเกินไปสำหรับอี้ชิง...เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นและเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือถุงที่มีพิซซ่าอยู่สามกล่องรวมถึงถุงที่มีทั้งพาสต้าทั้งไก่อบซอสได้ถูกน้องชายของเขาขว้างใส่หน้าคมเข้มของแฟนหนุ่มด้วยความโกรธ  จนของกินต่างๆแตกหกกระจัดกระจายเกลื่อนอยู่บนพื้นที่หน้าร้านไอศกรีม  และได้ยินแต่เสียงของคนที่มีแต่ความผิดหวังเสียใจโวยวายใส่คนที่ตัวของอี้ชิงเองก็ไม่คิดว่าจะทำให้น้องของเขาร้องไห้ได้มากมายถึงขนาดนี้

     

                “คุณคิมโกหก!!!  หนูเกลียดคุณคิมมม!!

     

                “น้องปลาฟังพี่ก่อน  พะ...พี่”

     

                “ไปให้พ้น!!  อย่ามายุ่งกับหนู...ปล่อยยย!!!

     

                “น้องปลาอย่าเป็นแบบนี้...พี่ขอร้อง  น้องปลาฟังพี่ก่อนนะครับ”

     

    เพี๊ยะ!!!

     

                “อย่ามาแตะต้องน้องชายของฉัน!!!!!!

     

                “พี่อี้ชิงครับ!  พี่อี้ชิง...พี่อี้ชิงฟังผมก่อนครับ!!

     

                ข้อมือของหญิงสาว...ที่รุ่นน้องคนสนิทของสามีพามาทานไอศกรีมถูกอี้ชิงฟาดด้วยแรงที่ค่อนข้างมาก  เพราะที่ผู้หญิงคนนี้จะมาจับตัวน้องปลาแยกออกจากแฟนหนุ่มผิวเข้ม  คนเป็นพี่จ้องหน้าทุกคนด้วยสายตาที่แทบจะฆ่าใครก็ได้ที่กล้าทำให้น้องชายของเขาเสียใจ  อี้ชิงรีบดึงน้องปลาออกมาจากอ้อมกอดจงอินและพากลับบ้านทันทีโดยไม่สนใจเจ้าของเสียงทุ้มที่เรียกเขาด้วยความวิงวอนกึ่งขอร้อง

     

                ใจหนึ่ง...ก็รู้สึกโกรธน้องชายของตัวเองที่คุมสติไม่อยู่และโวยวายทำเรื่องที่ไม่ควรทำในที่สาธารณะ  แต่อีกใจก็ทราบดีว่าเด็กที่อายุเท่าๆกับน้องปลาก็คงไม่สามารถรับมือหรือหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีเท่ากับผู้ใหญ่  แต่บางที...คนเป็นผู้ใหญ่(บางคน) ก็ยังรับมือไม่ไหวเมื่อต้องมาเห็นภาพที่ทำให้รู้สึกเสียใจจากคนที่ขึ้นชื่อว่า  “แฟน”

     

    Rrrrr!!

    Rrrrr!!

    Rrrrr!!

     

                ขับรถออกมาจากห้างสรรพสินค้าได้ไม่ถึงครึ่งทาง...เสียงโทรศัพท์ของคนขับก็ดังขึ้น  และผู้ที่โทรเข้ามาก็คือผู้ที่ทำให้น้องของตัวเองยังคงร้องไห้ไม่หยุด  อี้ชิงเปิดไฟเลี้ยวแล้วพยายามเบี่ยงรถเข้าข้างทางเพื่อหาที่จอดเพราะถ้าให้คุยสายในขณะที่ขับรถไปพร้อมๆกับได้ยินเสียงร้องไห้ของน้องปลา  วันนี้เขาคงได้ขับชนอะไรสักอย่างแน่ๆ

     

                “ว่าไงจงอิน  นี่พี่อี้ชิงเอง”

     

                (พี่อี้ชิงงง...ผมขอคุยกับน้องปลาหน่อยครับ)

     

                “ตอนนี้คงไม่ได้...พี่ว่ารอให้น้องปลาใจเย็นลงกว่านี้ก่อนแล้วค่อยคุยกันจะดีกว่า”

     

                (ไม่ครับ!...ถ้าพี่อี้ชิงไม่ให้ผมคุยสายก็ไปคุยกันที่บ้านเลยครับ  ผมจะขับรถไปหาน้องปลาที่บ้าน!!)

     

                “ถ้าไม่กลัวพี่คริสต่อยหน้าแหกก็มาได้เลย”

     

                (ผมไม่กลัวเฮียคริสต่อยหรอกครับ  ผมกลัวน้องปลาไม่รักมากกว่า)

     

                “เฮ้ออออ...ตามใจ  แต่ถ้าโดนต่อยแล้วโดนน้องปลาเกลียดมากกว่านี้ก็อย่าหาว่าพี่ไม่เตือนนะ”

     

                (โถ่...พี่อี้ชิงอย่าแช่งผมแบบนั้นสิครับ)

     

                “จงอินเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ตอบคำถามของพี่คริสเถอะ  พี่ไม่อยากเป็นคนตัดสินว่าใครผิดใครถูก  แล้วขอบอกตรงๆว่าพี่โกรธจงอินมากๆ”

     

                (ผมขอโทษครับพี่อี้ชิง  แล้วววว...น้องปลาเป็นยังไงบ้างครับ?)

     

                “ห่วงตัวเองก่อนดีกว่าจงอิน  น้องพี่...พี่ดูแลเองได้”

     

                ตอนนี้...อี้ชิงมีเรื่องให้คิดมากกว่าการปกป้องความรู้สึกของน้องชาย  เพราะถ้าจงอินจะมาคุยปัญหาทั้งหมดให้คริสได้รับทราบ  คนเป็นภรรยาอย่างเขาคงต้องเตรียมตัวรับศึกใหญ่ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า  เพราะถ้าคนเป็นพี่เขยได้เห็นน้องเมียสุดรักสุดหวงที่คอยดูแลและทะนุถนอมมาตั้งแต่ยังเด็กร้องไห้เสียใจจนตาบวม  คริสคงอาละวาดบ้านแตกหรือไม่ก็...กระทืบรุ่นน้องคนสนิทตายคาบ้านก่อนที่จะได้ฟังเหตุผลของเรื่องที่เกิดขึ้น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    บริษัท  มีปลา

    21.23 น.

     

    VROOMMMM!!!!

     

                “น้องปลา...ถึงบ้านแล้วนะ  ขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องก่อนดีไหม?”

     

                “ฮึกกก!!!  ฮึกก!

     

                ใช้เวลาอยู่นานพอสมควร...กว่าจะขับรถมาถึงที่บ้าน  และตอนนี้อี้ชิงก็กำลังพยายามเรียกสติคนที่เอาแต่ร้องไห้มาตลอดทางให้ลงจากรถก่อนที่จะต้องเสียน้ำตามากไปกว่านี้  เพราะคนต้นเหตุที่ทำให้น้องปลาร้องไห้ไม่หยุดก็คงใกล้จะมาถึงที่นี่แล้ว  แต่!!ดูเหมือนว่าน้องชายของเขาจะไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งนั้นและไม่พูดหรือตอบสนองในสิ่งที่ได้ยินเลยสักนิด

     

    !!!!!!!!!

     

                “มัวทำอะไรอยู่ หึ!!!..น้องอี้??  มาถึงแล้วทำไมไม่เข้าบ้าน?  ประตูรั้วก็ไม่ปิด???”

     

                “.....!!!

     

                เสียวทุ้มหนักที่เอ่ยทักของคนเป็นสามี...ทำเอาภรรยาสะดุ้งสุดตัวเพราะกำลังตกอยู่ในภวังค์ของความคิดมากเรื่องที่น้องชายสุดที่รักเอาแต่ร้องไห้และไม่ยอมลงมาจากรถ  ส่วนคริสที่เพิ่งแพ็คปลาเสร็จได้สักพัก  แล้วนั่งพิงหัวเตียงดูทีวีรออี้ชิงอยู่ในห้องนอนก็ได้ยินเสียงรถเคลื่อนตัวเข้ามาจอดในบ้าน  แต่ก็ไม่วี่แววว่าจะดับเครื่องยนต์สักที  นั่นจึงทำให้คนที่รออาบน้ำพร้อมภรรยาต้องเดินลงมาตาม...และพอก้าวขามาจนถึงตัวรถก็ยังเห็นประตูรั้วถูกเปิดทิ้งไว้อีก

     

                “คือออ...น้องอี้  เอ่อออออ”

     

                “น้องอี้เป็นอะไรคะ??  เกิดอะไรขึ้น?  ค่อยๆเล่านะคะ  ใจเย็นๆ”

     

                สีหน้า...ที่เต็มไปด้วยความกังวลและท่าทางที่เหมือนอยากจะพูดแต่พูดไม่ออกของภรรยา  มันก็ทำให้คริสเริ่มเป็นห่วงจนต้องดึงตัวเข้ามากอดปลอบพร้อมลูบหลังเบาๆเพื่อให้คนในอ้อมกอดรู้สึกผ่อนคลาย  อี้ชิงกอดตอบเจ้าของอกกว้างที่แสนอบอุ่นไว้แน่นและรู้สึกสบายใจมากขึ้นหลังจากที่เครียดเรื่องของน้องชายมาได้สักพักใหญ่  แล้วเริ่มอธิบาย...ในสิ่งที่คนเป็นสามีถามก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะถูกเล่าซ้ำอีกครั้งจากปากของคนที่ทำให้น้องปลาร้องไห้

     

                “วันนี้น้องปลาทะเลาะกับจงอินแรงมากเลยครับพี่คริส  น้องร้องไห้...แล้วก็ไม่ยอมลงจากรถ  พี่คริสช่วยพูดกับน้องปลาหน่อยสิครับ”

     

                “จงอินมันทำอะไร?!!...ทำไมถึงทะเลาะกัน”

     

                “คะ...คือ  อี้พาน้องปลาไปกินข้าวที่ห้างแล้วน้องเห็นจงอินพาแฟนเก่ามากินไอติม  น้องปลาก็เลยเสียใจ  พี่คริสช่วยน้องปลาด้วยนะครับ  อี้สงสารน้อง”

     

                “เดี๋ยวพี่จัดการเรื่องนี้เอง...น้องอี้เข้าบ้านไปก่อนนะคะ”

     

                “มีอีกเรื่องนึงครับพี่คริส!!  จงอะ...อิน”

     

    VROOMMM!! 

    VROOMMM!!

     

                พูดยังไม่ทันจบประโยค...เจ้าของพาหนะสีดำคันใหญ่ที่อี้ชิงกำลังเอ่ยชื่อเมื่อครู่ก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดในบ้านด้วยความรีบร้อน  และไม่ได้มีแค่คริสกับภรรยาเท่านั้นที่เห็นรถของจงอิน  เพราะคนที่เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถของพี่ชายก็เห็นเช่นกัน  มือบางที่เปียกจากการเช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าของตัวเองรีบเปิดประตูรถที่ยังไม่ได้ดับเครื่องยนต์  แล้ววิ่งเข้าไปหาพี่เขยทันทีพร้อมกอดเอวหนาไว้แน่นเหมือนต้องการหาที่พึ่งทั้งทางกายและทางใจ

     

                “ฮืออออ...พี่คริสจ๋าาาาาาาา”

     

                เสียงร้องไห้...ที่มาพร้อมการเรียกชื่อพิเศษของน้องเมียมันทำให้หัวใจของคนดูแลเด็กคนนี้มาเป็นอย่างดีเจ็บมากกว่าเจ้าของน้ำตาเป็นสิบเท่า  คริสกอดน้องปลาเอาไว้ด้วยความเป็นห่วงและไม่อยากเห็นใครร้องไห้แบบนี้ไม่ว่าจะเป็นน้องเมียหรือภรรยา  ส่วนคนที่ขับรถมาที่นี่เพื่อปรับความเข้าใจกับแฟนก็รู้สึกเป็นห่วงปลาตัวน้อยไม่ต่างไปจากรุ่นพี่คนสนิทเลยสักนิดและอยากแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองทำผิดก่อนที่จะไม่มีโอกาส

     

                “น้องปลาครับ...ฟังพี่อธิบายก่อนนะครับ  น้องปลากำลังเข้าใจผิด”  เดินเข้าไปหาปลาตัวน้อยเหมือนคนหมดแรง  และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนโดยไม่นึกกลัวรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า

     

                “ไม่ฟัง!!!...หนูไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น  คุณคิมไปให้พ้นเลยหนูไม่อยากเห็นหน้า!!!!”  ละใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาออกจากอกกว้างของพี่เขย  แล้วตะโกนเสียงแหบแห้งที่เต็มไปด้วยความโกรธไล่คนโกหกออกไปจากบ้าน

     

                อี้ชิง...เมินหน้าหนีแล้วรีบเดินไปดับเครื่องยนต์ที่รถมินิคูเปอร์ของตัวเองทันที  พร้อมกดรีโมทเพื่อปิดประตูรั้วเนื่องจากทนเห็นภาพที่น้องชายเอาแต่ร้องไห้และโวยวายไล่แฟนผิวเข้มไม่ไหว  ใจของคนเป็นพี่มันเจ็บไปหมดเพราะไม่เคยเห็นน้องปลาเสียใจมากขนาดนี้มาก่อน

     

                “ชู่ววววว...ใจเย็นๆก่อนค่ะน้องปลา  พี่คริสจ๋ารักน้องปลานะคะ” 

     

                “รักหนู...ก็ไล่คุณคิมออกไปเลย  หนูเกลียดคนโกหก!!

     

                “ไม่เอาค่ะ...ไม่พูดคำนี้นะคะ” 

     

                พยายามปลอบ...เด็กที่โกรธจนขาดสติและเอาแต่โวยวายให้หยุดพูดทำร้ายความรู้สึกของคนฟังอย่างจงอิน  เพราะถ้าให้เขาเปรียบตัวเองเป็นเหมือนกับรุ่นน้องคนสนิทในตอนนี้  คริสคงเสียใจกับพูดของน้องปลาไม่ใช่น้อย  และเขาก็ไม่อยากให้จงอินถือสาหรือคิดมากกับคำพูดที่เอ่ยออกมาจากความโกรธของเด็กที่เพิ่งเคยผิดหวังในตัวของคนรักเป็นครั้งแรก

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    22.19 น.

     

    แกร๊กกก!!

     

                ประตูห้องนอนของน้องเมีย...ถูกเปิดออกด้วยมือของคนเป็นพี่เขยโดยมีร่างของผู้ที่เป็นเจ้าของห้องอยู่ในอ้อมกอด  คริสว่างน้องปลาลงบนที่เตียงกว้าง  และตัดสินใจแล้วว่าจะให้คนที่ก่อเรื่องได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง  แต่ใครจะผิดใครจะถูกและผลของการปรับความเข้าใจจะออกมาเป็นอย่างไร  ตัวเขา...ก็ยังคงเป็นพี่เขยที่รักน้องเมียคนนี้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง  และเขาก็มั่นใจว่าปัญาหาที่รุ่นน้องก่อไว้ก็อาจเป็นเรื่องที่ภรรยากับน้องปลาเข้าใจผิดกันไปเอง  เพราะถึงแม้ในอดีต...จงอินจะเจ้าชู้รองๆลงมาจากรุ่นพี่ในคณะฯ  แต่ก็ไม่ได้เลวถึงขึ้นกินไม่เลือกหรือชอบทำร้ายจิตใจคนที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่

     

                “พี่คริสจ๋าไม่รักหนูแล้วเหรอฮะ”

     

                “รักสิคะ...รักมากที่สุด”

     

                “รักแล้วทำไมไม่ไล่คุณคิมออกไปละฮะ”

     

                “พี่อยากให้น้องปลาใจเย็นๆ  แล้วคุยกับคุณคิมดีๆ...พี่ไม่อยากเห็นน้องปลาเสียใจแบบนี้อีก  น้องปลาเข้าใจที่พี่คริสพูดไหมคะ?”

     

                “เข้าใจฮะ...เข้าใจเพราะหนูรักพี่คริสจ๋า”

     

                “น้องปลาลองฟังเหตุผลของคุณคิมก่อนนะคะ...แล้วก็คิดทบทวนให้ดีว่าควรหายโกรธคุณคิมได้หรือยัง”

     

                “แล้วถ้าไม่หายโกรธละฮะ?!

     

                “ก็ลองคุยกันก่อนสิคะ...แล้วถ้าไม่หายโกรธจริงๆ  เดี๋ยวพี่โทรตามคุณปลาวาฬจ๋าให้มาจัดการคุณคิมดีไหมคะ?”

     

                “ดีฮะ...ตกลงตามนั้น!!!

     

                ดีใจ...ที่ไม่โดนรุ่นพี่คนสนิทต่อยหน้าแหก  แถมยังเปิดโอกาสให้เข้ามาเคลียร์ใจกับแฟนถึงในห้องนอน  แต่!!!พอได้ยินชื่อพิเศษของผู้ชายที่รักน้องปลาจนแทบอยากจะเอาไปดูแลเองที่ฮ่องกง  จงอินก็ถึงกับหน้าถอดสีเพราะถ้าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะแก้ไขมันไม่ได้ทำให้ปลาตัวน้อยหายโกรธ  มีหวังงานนี้เขาคงได้โดนทั้งตีนของเฮียคริสและของพี่อูบินกระทืบตายคาบ้านแน่ๆ

     

                “คุยกันดีๆนะไอ้ดำ!!!...แล้วถ้าน้องกูร้องไห้อีกรอบมึงเตรียมตัวบอกลาครอบครัวได้เลย!

     

                “คะ...ครับเฮีย  ขอบคุณมากนะครับ”

     

                วางมือ...ลงบนบ่าของรุ่นน้องคนสนิทและบีบเบาๆพร้อมพูดเป็นเชิงเตือน  เพราะถึงแม้เขาจะอนุญาตให้จงอินเคลียร์ปัญหาต่างๆกับน้องปลาในห้องนอนแบบสองต่อสอง  แต่ก็ใช่ว่าจะให้โอกาสกันได้ทุกครั้ง  และเมื่อเจ้าของคำพูดที่ทำให้คนฟังรู้สึกชาวาบไปทั้งตัวเดินออกไปจากห้องเรียบร้อย  จงอินก็ค่อยๆก้าวขาเดินไปนั่งคุกเข่าลงกับพื้นตรงหน้าปลาตัวน้อยแล้วจับมือนุ่มทั้งสองข้างขึ้นมาหอมซ้ำๆด้วยความรัก

     

    แต่.......

     

                “ไม่ต้องมาหอมหนูเลย...ไปหอมยัยมินะนู้นนนน!!!”  พยายามใจเย็นเหมือนอย่างที่พี่เขยสั่ง  แต่ภาพที่หญิงสาวควงแขนจงอินเดินออกมาจากร้านไอศกรีมมันยังติดอยู่ในความทรงจำ  น้องปลาจึงรู้สึกหงุดหงิดและสะบัดมือออกจากรอยจูบที่แสนจะคิดถึง  แล้วรีบคว้าผ้าห่มผืนโตคลุมโปงพร้อมนอนหันหลังให้คนที่ทำให้ร้องไห้จนตาบวม

     

                “น้องปลาาาา...ฟังพี่อธิบายก่อนนะครับ  พี่ขอโทษ”  รีบกระโดดขึ้นเตียงตามไปง้อปลาตัวน้อยที่นอนคดกายอยู่ในผ้าห่มลายม้าน้ำ  แล้วกอดก้อนผ้าสีหวานไว้อย่างหลวมๆเพราะเกรงว่าคนที่อยู่ข้างในจะอึดอัดและหายใจไม่ออก

     

                “คุณคิมโกหกหนู!!  คุณคิมผิดสัญญา!!...คนเป็นแฟนกันห้ามโกหก!  คุณคิมลืมแล้วใช่ไหม  คุณคิมนิสัยไม่ดี  คุณคิมใจร้ายยยยย!!!”  เสียงต่อว่าต่อขานดังอู้อี้อยู่ในผ้าห่มผืนหนาและรู้สึกเจ็บทุกครั้งเมื่อถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองเจอมาในวันนี้  เพราะคำสัญญาคำนั้น...มันเป็นคำที่คนโกหกเคยสอนเอาไว้เมื่อตอนที่เริ่มคบกันใหม่ๆ

     

                น้องปลาจำได้ไม่เคยลืม...ว่าวันงานเลี้ยงรุ่นเมื่อหลายเดือนก่อน  จงอินก็เคยทำให้เขาร้องไห้มาแล้วครั้งหนึ่ง  แต่งานในวันนั้นมันเกิดจากความเข้าใจผิดของเขาเองที่คิดว่าคุณคิมนัดแฟนเก่ามาเจอกันในงานเลี้ยงและได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว  แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้...น้องปลาคงไม่ได้เข้าใจผิดหรือคิดไปเองเพราะสิ่งที่เห็นกับตาได้ยินกับหูมันทำให้ตัวเขามั่นใจว่าคุณคิมโกหก

     

    การบอกผ่านทางโทรศัพท์ว่ากำลังจะกลับบ้าน...แต่ความเป็นจริงนั่งทานไอศกรีมอยู่กับแฟนเก่า  แล้วแบบนี้จะให้น้องปลารู้สึกอะไรได้นอกจากความเสียใจ  โกรธ  ผิดหวังและไม่อยากเชื่อคำพูดของคุณคิมอีกต่อไป

     

                “น้องปลาออกมาคุยกับพี่ก่อนนะครับ  เดี๋ยวหายใจไม่ออก”

     

                พยายามดึงผ้าห่มผืนโตออกจากปลาตัวน้อย...แต่เหมือนทุกอย่างจะยากเกินกำลังของเขา  เพราะคนที่อยู่ด้านในนอนทับผ้าเอาไว้และเกรงว่าเมื่อดึงออกแล้วน้องปลาอาจได้รับบาดเจ็บ  จงอินรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะไม่คิดว่าเด็กที่ม้วนตัวอยู่ในผ้าห่มตอนนี้จะเห็นเขากับแฟนเก่าที่ห้างสรรพค้า  มันเป็นจังหวะชีวิตที่นรกแตกที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นถ้าให้พูดถึงเรื่องของความบังเอิญ  จงอินจึงรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันแบบนี้ไม่ทันจนทำให้คนที่ตัวเองรักและเคยสัญญาไว้ว่าจะไม่โกหกต้องร้องไห้เสียใจ

     

    พรึ่บบบ!!

     

                “หายใจไม่ออกก็ตายไงฮะ!!  ตายไปเลย!  คุณคิมจะได้กลับไปคบกับแฟนเก่าไงฮะ!!!!”  ยอมออกมาจากผ้าห่ม  พร้อมตะโกนคำพูดที่เต็มไปด้วยความน้อยใจและจ้องหน้าคุณคิมด้วยแววตาผิดหวัง

     

                “ไม่เอาครับ...ไม่พูดแบบนี้  ถ้าน้องปลาตายแล้วพี่จะอยู่กับใครล่ะครับ”  รีบคว้าผ้าห่มแล้วโยนออกไปจากเตียงก่อนที่เด็กตรงหน้าจะหยิบมาคลุมกายอีกรอบ แล้วดึงตัวของน้องปลาเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก

     

                “คุณคิมไม่ต้องมากอดหนูเลย  ไม่รักหนูแล้วก็ไม่ต้องมากอดหนะ...หนู”

     

    เคร้งงงงงงง!!!

     

                “เฮ้ยยยย!!!!

     

                “คุณส้มแป้นนน...ไม่นะ!!

     

                “น้องปลานั่งอยู่บนเตียงก่อนครับ...เดี๋ยวพี่จัดการเอง”

     

                “คุณคิมช่วยคุณส้มแป้นด้วยนะฮะ...อย่าให้มันตายนะ!!!

     

                กำลังขยับตัวหนี...เพื่อให้หลุดออกจากอ้อมกอดของจงอิน  แต่แรงสะบัดร่างกายกลับทำให้มือบางปัดไปโดนโหลปลารูปดาวที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงจนหล่นกลิ้งลงไปกองอยู่บนพื้นห้อง  เจ้าหางสวยสีส้มกระเด็นออกมาดิ้นอยู่ด้านนอกและดีที่โหลปลาไม่แตก  แต่ก็เกิดรอยร้าวมากพอจะทำให้น้ำที่อยู่ด้านในรั่วออกมาเปียกพื้นไปหมด

     

                จงอิน...ก้าวขาลงมาจากเตียงแล้วค่อยๆหยิบสัตว์น้ำที่น้องปลาตั้งชื่อให้ว่าคุณส้มแป้นไปใส่ไว้ในโหลอีกใบที่เป็นรูปหัวใจและมีปลาสีดำที่ชื่อว่ามืดตื๋อแหวกว่ายอยู่ในนั้น  คนเป็นเจ้าของห้อง...มองปลาต่างสีทั้งสองตัวที่ตอนนี้ต้องอยู่ในโหลใบเดียวกันไปก่อนเพราะบ้านของเจ้าหางสวยสีส้มมันร้าว  และเมื่อจงอินนำผ้าเช็ดเท้ามาซับน้ำบนพื้นห้องจนแห้งหมดแล้วพร้อมเอาโหลปลารูปดาวไปทิ้งเรียบร้อย  เขาก็รีบกลับขึ้นมานั่งบนเตียงและคว้ามือของน้องปลาขึ้นมาดูว่ามีบาดแผลหรือไม่

     

                “เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับน้องปลา?”

     

                “มะ...ไม่เจ็บฮะ”

     

                ดวงตาเรียวสวย...จ้องมองคนที่ช่วยชีวิตสัตว์น้ำตัวโปรดของเขาเอาไว้ได้อีกครั้งอย่างนึกขอบคุณ  และพยายามทำใจให้เย็นลงเพราะไม่อยากให้อารมณ์ร้อนๆของตัวเองเป็นเหตุให้เกิดเรื่องแย่ๆขึ้นมาอีกรอบ   ส่วนจงอิน...ก็เข้าใจเจ้าของดวงตาบวมช้ำว่ากำลังสื่อความหมายหรือกำลังรู้สึกอะไร  และไม่นึกโทษเรื่องที่น้องปลาทำของที่เขาตั้งใจสร้างให้กับมือหล่นลงมาจนเกิดความเสียหาย  เพราะของทุกชิ้นมันไม่สำคัญเท่ากับเด็กที่นั่งทำหน้าสำนึกผิดอยู่ในตอนนี้

     

    จุ๊บบ!! 

    จุ๊บบ!!

     

                ใบหน้าคมเข้ม...เลื่อนเข้าใกล้ปลาตัวน้อยอย่างช้าๆและส่งปากหยักจูบเบาๆลงบนเปลือกตาที่เกิดรอยช้ำจากการร้องไห้ทีละข้างด้วยความทะนุถนอม  และกอดคนของหัวใจเอาไว้ในอ้อมกอด  จงอินไม่อยากทำให้น้องปลาร้องไห้อีกแล้ว  และเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้เขาก็จะจำไว้เป็นบทเรียนว่าอย่าโกหกใครเพื่อความสบายใจเพราะมันอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง...แล้วก็ทำให้คนรักต้องเสียใจ

     

                “น้องปลาอย่าร้องไห้อีกได้ไหมครับ  พี่ขอโทษ  ขอโทษจริงๆ”

     

                “คุณคิมไม่รักหนูแล้วใช่ไหมฮะ  คุณคิมถึงโกหกหนู”

     

                “รักสิครับ  รักมากๆ  แล้วพี่ก็ไม่ได้ตั้งใจโกหกน้องปลาด้วยครับ”

     

                “ไม่ได้ตั้งใจ...แต่คุณคิมก็ทำไปแล้ว  คุณคิมรู้ไหมฮะว่าหนูเจ็บมากๆเลย  เจ็บตรงนี้  เจ็บมากที่สุด”

     

                จับมือคนโกหกขึ้นมาทุบที่อกข้างซ้ายของตัวเอง...เพราะน้องปลารู้สึกเจ็บทุกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเย็นที่ผ่านมา  จงอินขืนแรงทุบเอาไว้แล้วดึงมือออกพร้อมพลิกกายนอนลงบนเตียงกว้างโดยมีปลาตัวน้อยนอนทับอยู่บนอก  และโอบร่างหอมๆเหมือนอยากให้คนในอ้อมกอดรับรู้ว่าเขารู้สึกผิดมากแต่ไหน

     

                “พี่ผิดไปแล้วครับ  น้องปลาให้อภัยพี่ได้ไหม?...พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำให้น้องปลาร้องไห้อีกแล้ว”

     

                “คำสัญญา...ของคนที่เพิ่งทำผิดสัญญา  คุณคิมยังจะให้หนูเชื่ออะไรอีกเหรอฮะ?  คุณคิมบอกหนูว่าไปซ่อมตู้ปลาให้ลูกค้า  แต่คุณคิมพาผู้หญิงคนนั้นไปกินไอติม  แล้วยังโกหกหนูอีกว่ากำลังกลับบ้าน  ฮึกก!!  คุณคิมใจร้าย  ฮึก!

     

                “ไม่ร้องไห้แล้วครับ...น้องปลาฟังพี่อธิบายก่อนนะ  คือบ้านลูกค้าที่พี่ไปซ่อมตู้ปลาให้มันเป็นบ้านพี่ชายของมินะ  คนที่เคยมาซื้อปลาที่ร้านของหนูไงครับ  แล้วพอดีตู้ปลาของเขามันร้าว  พี่ก็เลยต้องรีบเข้าไปซ่อม  ส่วนเรื่องที่พี่ไปกินไอติมกับมินะ  พี่ก็ไปในฐานะเพื่อน  พี่ไม่ได้คิดจะกลับไปคบกับเธอแน่นอน  แล้วเรื่องที่พี่โกหกว่ากำลังจะกลับบ้าน...พี่ขอยอมรับผิดครับ  แต่ที่ต้องโกหกเพราะพี่ไม่อยากให้น้องปลาคิดมาก”

     

                รีบอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ปลาตัวน้อยฟังก่อนที่จะหมดโอกาส...และสิ่งที่พูดออกไปทั้งหมดก็คือเรื่องจริงเพราะตู้ปลาที่ทำมาจากแก้วเกรดต่ำราคาถูกที่พี่ชายของหญิงสาวชื่อมินะสั่งทำมาจากร้านที่ไม่ได้มาตรฐานมันมีรอยร้าวจนทำให้น้ำรั่วออกมาอย่างที่ได้เล่าให้น้องปลาฟังไปเมื่อครู่

     

                ก่อนวันเกิดเรื่อง...จงอินได้รับโทรศัพท์จากแฟนเก่าที่โทรมาขอความช่วยเหลือเรื่องตู้ปลาของพี่ชายที่มีรอยร้าว  และไม่รู้ว่ามันจะแตกเมื่อไหร่เนื่องจากพี่ของเธอเผลอยกเก้าอี้ไปกระทบกับตู้ปลาที่วางไว้ใกล้ๆโต๊ะทำงานจนทำให้มีรอยแตกเล็กน้อยที่ขอบกระจกด้านบน...แล้วน้ำก็เริ่มซึมออกมาเรื่อยๆ

     

                จงอิน...นึกภาพของตู้ปลาออกทันทีว่าถ้ามีรอยร้าว  รอยบิ่นหรือรอยแยกเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นจุดไหนของตู้  มันก็อาจทำให้สัตว์น้ำที่อยู่ด้านในตายได้  แล้วถ้าเขาไม่รีบเข้าไปซ่อม  ตู้ปลาก็อาจแตกเสียหายมากกว่าที่เป็นอยู่  และเมื่อได้ไปเห็นตู้ปลาของจริงที่บ้านพี่ชายมินะในวันนี้  จงอินก็ต้องรีบซ่อมให้แต่ก็ซ่อมไว้แบบชั่วคราวไปก่อน  แล้วค่อยทำตู้ปลาที่ได้มาตรฐานกว่านี้ส่งให้พี่ชายของแฟนเก่าอีกครั้งในวันหลัง  และดีที่ปลาทั้งหมดมันไม่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนรวมถึงตู้ก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก  เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงต้องรื้อตู้ทิ้งแล้ววางท่อบำบัดน้ำเสียแล้วเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆในตู้ปลาให้วุ่นไปหมด

     

    เพี๊ยะ!!

     

                “ซ่อมตู้ปลาเสร็จ...ทำไมคุณคิมไม่กลับบ้านเลยละฮะ!!  คุณคิมพายัยมินะไปกินไอติมทำไม!!!”  เงยหน้าขึ้นจากแผ่นอกกว้างที่ซบอยู่อย่างสบายกาย  แล้วเลื่อนมือที่กอดเอวหนาเอาไว้ขึ้นมาตีปากคนที่ไม่คิดจะบอกความจริงให้รู้ตั้งแต่แรก  และปิดบังเรื่องทั้งหมดเอาไว้จนเขาต้องไปเจอเองด้วยความแรงที่ไม่มากนักพร้อมถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย...ถึงแม้การโกหกจะทำไปเพื่อให้เขาสบายใจ  แต่ผลที่ออกมามันก็ไม่ได้ทดแทนความรู้สึกที่เสียไปก่อนหน้านั้นได้เลยสักนิด

     

                “ตีอีกก็ได้ครับ  ตีจนกว่าน้องปลาจะพอใจ”  มากกว่าการโดนตบจงอินก็รับได้ถ้ามันทำให้ปลาตัวน้อยรู้สึกสบายใจมากขึ้น  แต่การที่เขาต้องไปกินไอศกรีมกับแฟนเก่าก็เป็นเพราะมินะต้องการทานของหวานหลังจากพาไปเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการตอบแทนในเรื่องที่จงอินช่วยซ่อมตู้ปลาให้  และแฟนของน้องปลาก็ไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ

     

    แต่...คนที่ไม่บริสุทธิ์ใจกลับเป็นคนชวนเสียมากกว่า  และจงอินก็เพิ่งรู้ตัวตอนถูกเธอควงแขนเดินออกมาจากร้านไอศกรีมแล้วอ้อนให้พาไปเที่ยวต่อ  และยังไม่ทันที่เขาจะได้ปฎิเสธความหวังดีประสงค์ร้ายของหญิงสาว  เรื่องทุกอย่างก็เริ่มเลวร้ายลงเมื่อเห็นน้องปลากับอี้ชิงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า

     

                “คุณคิมรักหนูจริงๆใช่ไหมฮะ  รักเหมือนที่พี่คริสจ๋ารักพี่อี้หรือเปล่า??”  ต่อให้ตบตีจงอินอีกสักกี่ครั้งมันก็ไม่ได้ทำช่วยให้น้องปลารู้สึกดีขึ้นหรือสามารถทดแทนความเสียใจได้เลยและมันอาจทำให้เขาเจ็บมากกว่าเดิม  ส่วนที่พูดถึงเรื่องความรักระหว่างพี่เขยสุดหล่อกับพี่ชายของตัวเองก็เป็นเพราะน้องปลาไม่เคยเห็นคริสทำให้อี้ชิงต้องร้องไห้เลยสักครั้ง...และไม่เคยโกหกกันเหมือนอย่างที่จงอินทำกับเขา

     

                น้องปลา...เห็นความรักที่พี่เขยมีให้อี้ชิงมาตั้งแต่ตัวเขายังเด็ก  คริสซื่อสัตย์มากๆไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง  ทำอะไร?  อยู่ที่ไหน?  ไปกับใคร?  เพราะเหตุใดก็พูดออกมาตรงๆไม่เคยปิดบัง  นั่นจึงทำให้พี่ชายของเขาไม่เคยร้องไห้ให้กับเรื่องโกหกหรือต้องมาเสียใจกับการกระทำที่ไม่น่าไว้ใจของคนเป็นสามี  น้องปลาเห็นอี้ชิงร้องไห้แค่ตอนที่ต้องอยู่ห่างจากคริสเมื่อครั้งที่พี่เขยต้องเดินทางกลับไปประเทศจีนเป็นเวลาเกือบสามปีเพื่อเคลียร์งานกับผู้เป็นพ่อ  และตลอดระยะเวลาที่พวกเขาทั้งคู่ต้องอยู่ห่างกันก็ไม่เคยมีคนใดคนหนึ่งคิดนอกใจ...รวมถึงคิดเรื่องโกหกเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจไปวันวัน

     

                “พี่ขอโทษนะครับ  คราวหลังพี่จะไม่โกหกน้องปลาอีกแล้ว  น้องปลาอย่าเกลียดพี่เลยนะครับ  พี่รักน้องปลามากๆ  รักมากที่สุด  รักคนเดียวไม่นอกใจ”

     

                จงอินเข้าใจดี...ว่าที่น้องปลาพูดมาทั้งหมดเพื่อจะสื่อความหมายอะไรให้เขารับรู้  และการโกหกก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี  ถึงแม้จะทำไปเพื่อความสบายใจของใครก็ตาม  แต่ถ้าถูกจับได้ก็ต้องมานั่งทุกข์ใจในภายหลังเหมือนอย่างที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้  และการโกหกก็ยังทำลายความเชื่อใจที่คนรักเคยมีให้โดยที่ไม่รู้ว่าจะกลับมาเชื่อใจกันได้อีกครั้งหรือไม่??

     

    มันเป็นความผิดพลาดมากๆในความรู้สึกของจงอิน...และเขาก็จะไม่มีทางทำผิดแบบนี้ซ้ำอีกเด็ดขาด!!

     

                “หนูเกลียดคุณคิมไม่ลงหรอกฮะ...แล้วหนูก็รักคุณคิมมากๆเหมือนกัน  คุณคิมอย่าโกหกหนูอีกนะฮะ  หนูไม่อยากเจ็บ  ฮึกก!!  หนะ...หนู”

     

                “ชู่ววว...ไม่ต้องพูดแล้วครับน้องปลา  พี่จะไม่โกหก  พี่จะไม่ทำน้องปลาร้องไห้อีกแล้ว  พี่สัญญา”

     

                “สัญญาแล้วนะฮะ  ฮึกก!!

     

                “ครับ...พี่สัญญา”

     

                เจ้าของกายสีน้ำผึ้ง...จับปลาตัวน้อยให้ลุกขึ้นนั่งพร้อมกับทำ  สัญญาใจ  เพื่อเป็นเครื่องเตือนความจำว่าจะไม่ทำผิดแบบนี้ซ้ำอีก  จงอินใช้ปลายนิ้วชี้เขียนสัญลักษณ์ของการทำสัญญาใจลงบนฝ่ามือนุ่มๆของน้องปลา  และวางมือเรียวสวยที่เพิ่งวาดรูปหัวใจใส่ไว้ในนั้นวางไว้ที่อกข้างซ้ายของตัวเอง  แล้วเลื่อนใบหน้าคมเข้มส่งปากหยักจูบลงบนริมฝีปากสีหวานอย่างแผ่วเบา  มันไม่ใช่รสสัมผัสที่ร้อนแรงเหมือนอย่างที่คนถูกจูบเคยได้รับ  แต่การจุมพิตด้วยความอ่อนโยนและการทำสัญญาใจของคุณคิมมันกลับทดแทนความเจ็บปวด  ความผิดหวัง  ความเสียใจต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้จางลงไปเรื่อยๆจนน้องปลาเกือบลืมไปเลยว่า...เหตุการณ์ที่เจอมาก่อนหน้านี้มันทำให้ทุกข์ใจมากมายแค่ไหน 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ส่วนนนน...อีกห้องนอนหนึ่งของบริษัทมีปลา


    23.40 น.

     

                “น้องอี้คะ...มีอะไรจะสารภาพกับพี่ไหมคะ???”

     

                “สารภาพเรื่องอะไรเหรอครับ...น้องอี้ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย?”

     

                “แล้วใบเสร็จค่าพิซซ่าใบนี้มันหมายความว่าอะไรคะ?”

     

                “ใบเสร็จอะไร...ไม่ใช่ของน้องอี้นะครับ!!

     

                “พี่ให้โอกาสน้องอี้ตอบใหม่อีกครั้งค่ะ...อีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”

     

                “ก็ได้  ก็ได้...น้องอี้สารภาพก็ได้”

     

                “รีบพูดมาเลยค่ะ...เพื่อโทษหนักจะได้กลายเป็นเบานะคะ”

     

                “คะ...คือน้องปลาอยากกินพิซซ่า  อี้ก็เลยพาน้องไปกิน”

     

                “แล้วกินอะไรอีกคะนอกจากพิซซ่า??”

     

                “กะ...กินโค้กด้วยครับ”

     

                “งั้นน้องอี้เลือกได้เลยค่ะว่าคืนนี้...จะให้พี่ลงโทษแบบไหน??!

     

                “ระเบียง  1  โต๊ะเครื่องแป้ง  2  ตะ...เตียง  1  ครับ”

     

                “ตามกฎ...เตียงต้องเป็น  2  นะคะ?!

     

                “น้องอี้ขอแค่  1  ไม่ได้เหรอครับพี่คริส  เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ไหว”

     

                “พรุ่งนี้วันหยุดค่ะ...คนทำผิดกฎไม่มีสิทธิ์ต่อรองนะคะ  น้องอี้ถอดเสื้อออกเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

     

    ...

     

                “อ๊ะ!!  อ๊ะพะ...พี่คริส!!!

     

                “อื้มมม  ซี้ดดดดด!!

     

                “พี่คริสสส  อ๊ะ!!  ไหนบอกน้องอี้ว่า  อ๊ะ!  บนเตียงสองรอบไง  ซี้ดด...นี่มันสามแล้วนะ  อ๊ะ!!!

     

                “ซี้ดดด  พี่แถมให้ค่ะ  อื้มมมมม....อ่าห์!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    100%

    Cr:ภาพ 

    น้องปลากลับมาแล้วค้าาาาา  คิดถึงนักอ่านจังเลยยยยยย ^3^

    อย่าโกรธคุณคิมเลยนะคะ  คุณคิมไม่ได้ตั้งใจ

    ขอบคุณสำหรับการรอคอย  คอมเม้นท์และคำติชมทุกอย่างเลยค่ะ

    แล้วจะเข้ามาตรวจคำผิดเรื่อยๆนะคะ

    รัก 

    #ฟิคน้องปลา 

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×