คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ปลาตัวที่ 14
ปลาตัวที่ 14
บริษัท มีปลา
16.26 น.
ครืดดดดดดดด!!!
เสียงประตูกระจกที่ถูกเลื่อนเพื่อเปิดเข้าไปในห้องทำงาน...มันกำลังสร้างความหงุดหงิดให้กับลูกชายคนเล็กแห่งอาณาจักรร้านขายปลาที่ใหญ่ที่สุด เพราะมันเป็นเสียงที่น่ารำคาญ แถมคนที่เดินเข้ามาในห้องก็เอาแต่เร่งให้เขาปริ้นรายชื่อเจ้าพวกหางสวยมาตั้งแต่เช้า เป็นวันที่แสนจะเบื่อที่สุดสำหรับคนที่ทำงานไม่ทันเวลา และทุกๆวันศุกร์งานก็มักจะเยอะแบบนี้เป็นประจำ เจ้าของดวงตาเรียวสวยมองค้อนพนักงานที่แพ็คปลาเก่งที่สุดในร้านและกำลังนั่งรอรายชื่อปลาจากเขาอยู่บนโซฟาเหมือนจะสื่อให้รู้ว่า....ต้องนั่งรอไปก่อนเพราะเขายังพิมพ์จำนวนปลาที่ลูกค้าสั่งไม่เสร็จ
“โกรธอะไรพี่หรือเปล่าครับน้องเซฮุน??” คนถูกมองค้อนถามออกไปด้วยความสงสัย เนื่องจากวันนี้ทั้งวันเขายังไม่เห็นรอยยิ้มหวานๆจากน้องเมียของลูกพี่ตัวเองเลยสักครั้ง และเห็นแต่คิ้วสวยได้รูปบนใบหน้าจิ้มลิ้มขมวดกันจนยุ่งกับสายตาที่จ้องเขาเหมือนโกรธกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
“หนูเบื่อพี่เฉินที่สุดเลยฮะ!! เดี๋ยวหนูปริ้นรายชื่อปลาเสร็จก็โทรไปบอกเองนั้นแหละ!!!” มือทำหน้าที่พิมพ์งานตรงหน้าไปด้วย แต่ปากก็บ่นลูกน้องของพี่เขยไปด้วย เพราะรู้สึกว่าการที่เฉินเข้ามาห้องนี้บ่อยๆมันเหมือนถูกกดดันให้ต้องทำงานเร็วขึ้นทั้งๆที่ตอนนี้ก็รีบจนมือจะหงิก
“ถ้าคุณคริสไม่สั่ง...พี่ก็ไม่เดินมาหาน้องเซฮุนหรอกครับ น้องเซฮุนอย่าเบื่อพี่เลย ไปเบื่อคุณคริสนู้นนนน...ถึงจะถูก!” การเดินไปมาระหว่างโกดังแพ็คปลากับหน้าบริษัทมันก็ทำให้พนักงานอย่างเขาเบื่อเหมือนกัน เพราะระยะทางค่อนข้างไกลแถมรถกอล์ฟที่เคยขับอยู่ในบริษัทก็เสียและยังไม่ได้ส่งซ่อมสักที
“ทีหลังก็ให้พี่คริสจ๋าเดินมาเองสิฮะ แล้วลูกค้าทำไมต้องมาสั่งของตอนใกล้จะปิดร้านด้วยก็ไม่รู้!! หนูเบื๊อ-เบื่อออออ!!!” พาลทุกเรื่องที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิด พร้อมกับกดแป้นพิมพ์ดังกึกกักเพื่อระบายอารมณ์เพราะวันนี้งานมันเร่งมากจนแทบไม่ได้พักให้หายใจหายคอกันเลยสักนิด
จานข้าวกลางวัน...ถุงขนมขบเคี้ยวและถ้วยของหวานต่างๆที่ทานหมดแล้วถูกวางทิ้งไว้อยู่ข้างโต๊ะทำงานเพราะไม่มีเวลาเดินเข้าไปเก็บในครัว และทุกๆคนในบริษัทก็ยุ่งกันหมด พี่อี้ก็ต้องดูแลลูกค้า พี่เขยต้องรีบแพ็คปลา ส่วนน้องคนเล็กอย่างเขาก็ต้องกินข้าวไปด้วยทำงานไปด้วยมาตั้งแต่เปิดร้าน น้องปลาต้องพิมพ์รายชื่อเจ้าหางสวยตามที่ลูกค้าสั่ง และปริ้นให้พนักงานในบริษัทเอาไปทำการแพ็คหนึ่งชุดแล้วเก็บใส่แฟ้มเพื่อเป็นประวัติการซื้อขายของร้านอีกหนึ่งชุด
มือบาง...คลิ๊กเม้าท์ไปที่สัญลักษณ์ของการปริ้นเอกสารเมื่อพิมพ์รายชื่อสัตว์น้ำต่างๆของลูกค้ารายสุดท้ายเสร็จสิ้น น้องปลาเริ่มทยอยเก็บอุปกรณ์ในการทำงานบนโต๊ะให้เข้าที่พร้อมทั้งจัดเรียงเอกสารการซื้อขายของวันนี้ใส่แฟ้มแยกเอาไว้ และเมื่อเสียงของเครื่องปริ้นหยุดการทำงาน กระดาษA4จำนวนยี่สิบแผ่นก็ถูกหยิบเก็บใส่แฟ้มสีชมพูเอาไว้สิบแผ่น แล้วส่วนที่เหลือก็ยื่นส่งให้เฉินเพื่อเอาไปใช้ในการแพ็คปลาในโกดังตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าโทรมาสั่ง
“ชื่อปลาที่หนูทำดอกจันเอาไว้ของจะมาส่งพรุ่งนี้นะฮะ พี่เฉินไม่ต้องไปสนใจ แล้วแพ็คปลาตัวอื่นไปเลย”
“อ้าววว...พรุ่งนี้ร้านปิด แล้วของจะมาส่งได้ไง พี่งง??”
“เดี๋ยวพี่คริสจ๋าจัดการเองฮะ พี่เฉินไม่ต้องเป็นห่วง”
“โอเค......”
ปลาบางชนิด...ที่ลูกค้าต้องการก็หายากจนต้องโทรไปขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นพ่อ นั่นจึงทำให้จีโฮไม่ค่อยได้กลับบ้านเหมือนแต่ก่อน และเมื่อหาเจ้าพวกหางสวยได้ครบของก็จะถูกส่งมาในวันที่ร้านปิดบ้างในบางครั้ง เพราะสินค้าที่ขายเป็นสิ่งมีชีวิต...ทางบริษัทจึงไม่สามารถกำหนดวันส่งได้ตามใจของตัวเอง ถึงแม้บริษัทจะปิดให้บริการในวันเสาร์กับวันอาทิตย์ แต่พี่เขยของน้องปลารวมถึงพี่ชายคนโตอย่างอี้ชิงก็ยังต้องทำงานและปิดยอดการขายของแต่ละอาทิตย์ให้เสร็จก่อนที่จะเริ่มเปิดร้านอีกครั้งในสัปดาห์ถัดไป
Rrrrr!!!
Rrrrr!!!
Rrrrr!!!
กำลังถือจานชามที่กองทิ้งไว้ในห้องทำงานออกไปล้างที่ห้องครัว แต่เสียงจากโทรศัพท์ของทางร้านก็ดังขึ้นเสียก่อน น้องปลาจึงจำเป็นต้องวางของทั้งหมดลงบนโต๊ะทำงานอีกครั้งแล้วรีบรับสาย เพราะเกรงว่าจะเป็นลูกค้าที่โทรเข้ามาสั่งเจ้าหางสวยเพิ่มเติม
“สวัสดีฮะ...บริษัท มีปลาฮะ”
(สวัสดีครับ...บริษัทนี้มีปลาชื่อโอเซฮุนขายไหมครับ?)
“มีฮะ แต่มีคนจองแล้ว ^3^”
(ใครจองไว้เหรอครับ? ^-^)
“คนจองชื่อคุณคิมฮะ....หล่อมาก >//<) มีซิกแพคด้วย แต่ชอบทำห้องรก”
(โธ่...น้องปลาาาา ห้องพี่ไม่รกแล้วคร้าบบบบบ พี่เก็บเรียบร้อยแล้ว)
“จริงเหรอฮะ!!? ถ้าวันนี้หนูเห็นว่ารกอีก หนูจะไม่ให้คุณคิมหอมแก้มนะฮะ”
(ถ้าไม่ให้หอม แต่เปลี่ยนเป็นจูบบบ...ได้ไหมครับ?!!)
“ได้ฮะ!! แต่ให้จูบนิดเดียวนะฮะ”
เป็นการรับสาย...จากเครื่องมือสื่อสารของบริษัทที่ทำให้น้องปลามีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้า เพราะวันนี้ทั้งวันมันมีแต่สายที่โทรเข้ามาสั่งเจ้าพวกหางสวย แถมยังเป็นสายพันธุ์หายากและทางร้านก็มีไม่มากเท่ากับจำนวนที่ลูกค้าต้องการจนต้องโทรไปขอออร์เดอร์จากผู้เป็นพ่อที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศ
(แต่พี่อยากจูบน้องปลาเยอะๆนี่ครับ)
“อยากจูบเยอะๆก็มารับหนูเร็วๆสิฮะ หนูทำงานเสร็จแล้วนะ”
(เฮ้ออ!! สงสัยจะอด...เพราะพี่จะโทรมาบอกว่าวันนี้พี่จะไปรับน้องปลาค่ำๆนะครับ)
“ทำไมละฮะ?? คุณคิมไม่คิดถึงหนูเหรอ? หนูคิดถึงคุณคิมจะแย่”
(คิดถึงสิครับ คิดถึงมาก ๆ ๆ ๆ มากที่สุด แต่คุณคิมยังทำงานไม่เสร็จเลยครับ น้องปลารอพี่หน่อยได้ไหม??)
“แล้วตอนนี้คุณคิมอยู่ที่ไหนฮะ???”
(บ้านลูกค้าครับ กำลังซ่อมตู้ปลาให้ลูกค้าอยู่)
“เหนื่อยไหมฮะ แล้วกินข้าวหรือยัง?”
(กินแล้วครับ เหนื่อยนิดหน่อย แต่คิดถึงน้องปลามากกว่า)
“เหนื่อยก็ไม่ต้องมารับหนูหรอกฮะ เดี๋ยวหนูให้พี่คริสจ๋าไปส่งที่บ้านคุณคิมก็ได้”
(พี่ขอโทษนะครับ...น้องปลาไม่โกรธพี่ใช่ไหม)
“ไม่โกรธฮะ ก็คุณคิมงานเยอะหนิ”
(พี่รักน้องปลานะครับ แล้วเย็นนี้เจอกันที่บ้าน)
“หนูก็รักคุณคิมนะฮะ จุ๊บๆร้อยทีเพิ่มพลัง”
(จุ๊บๆครับเด็กดี)
“คุณคิมไปทำงานต่อเถอะฮะ เดี๋ยวหนูจะรีบไปหา”
ยิ้มได้ไม่ถึงห้านาทีก็ต้องหุบยิ้ม...เพราะคนที่เคยมารับตัวเองไปอยู่ที่บ้านในทุกๆวันศุกร์ของแต่ละสัปดาห์ไม่สามารถมารับได้เหมือนอย่างเช่นเคยเนื่องจากติดงาน น้องปลาเข้าใจดีว่างานของคุณคิมต้องใช้ความละเอียดอ่อนและพิถีพิถันในการประกอบตู้ปลา แถมของตกแต่งต่างๆอย่างพวกสาหร่าย ก้อนหินหรือปะการังเทียมก็ต้องใช้เวลาในการจัดวางค่อนข้างนาน และกว่าจะเดินท่อน้ำเพื่อบำบัดของเสียก็ต้องวางระบบให้ดี ไม่อย่างนั้นท่ออาจแตกได้ในภายหลัง
แต่ถึงจะเข้าใจเนื้องานของแฟนหนุ่มผิวเข้มมากแค่ไหน ...ปลาตัวน้อยของคุณคิมก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้อยู่ดี
หลังจากวางสายของคุณคิมได้สักพัก...เด็กที่ไม่เข้าใจอารมณ์ของตัวเองว่าตอนนี้รู้สึกเช่นไรกันแน่ ก็รีบยกจานชามที่วางไว้บนโต๊ะทำงานออกไปล้างที่ห้องครัว มือบางเปิดน้ำแล้วเริ่มล้างภาชนะที่ทำจากแก้วทีละใบทีละใบอย่างระมัดระวัง แต่ในหัวก็ยังคิดถึงเจ้าของบริษัทบ้านปลาไปด้วยเพราะนี่คือครั้งแรกที่จงอินไม่สามารถมารับเขาได้ น้องปลาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย...มันสับสนและคิดว่าตัวเองถูกทิ้งหรือหมดความสำคัญ แต่อีกใจก็รู้ดีว่าคนที่ทำให้ตัวเองคิดมากอยู่ตอนนี้กำลังงานยุ่ง
แกร๊กก!!
“.....!!!!!”
“อยู่นี่เอง...ทำอะไรอยู่น้องปลา?!!”
“ล้างจานอยู่ฮะ...เฮ้อออ!”
ตกใจ...จนเกือบทำจานใบสุดท้ายที่กำลังล้างฟองของน้ำยาล้างจานอยู่ในอ่างหลุดมือเมื่อน้องปลาได้ยินเสียงประตูของห้องครัวถูกเปิดออก และตามมาด้วยเสียงของพี่ชายที่เอ่ยเรียกเนื่องจากสติมันไม่ได้อยู่ในห้องครัวเลยสักนิด เพระมัวแต่คิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อยจนเกือบทำจานแตกบาดมือตัวเอง ส่วนคนที่เดินตามหาน้องชายอยู่นานก็รีบเดินเข้ามาช่วยหยิบจานที่ล้างเสร็จแล้วมาเช็ดให้แห้งและเก็บเข้าตู้ไว้เหมือนเดิม
แต่...สีหน้าหงอยๆรวมถึงอาการเหมอลอยของน้องปลาที่คนเป็นพี่เห็นอยู่ตอนนี้ มันกำลังทำให้คนมองรู้สึกเป็นห่วงเพราะถ้าเป็นเด็กชายโอเซฮุนของพี่อี้คนเดิม น้องต้องโวยวายหรือไม่ก็ทำหน้าบึ้งเมื่อมีใครทำให้ตกใจ แต่วันนี้กลับได้ยินเพียงแค่เสียงถอนหายใจ
“ไม่สบายหรือเปล่าน้องปลา? ปวดหัวไหม? แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้น หื้ม???”
“วันนี้คุณคิมไม่ว่างมารับหนูฮะ”
“อ้าว...ทำไมล่ะ? เกิดอะไรขึ้น?”
“คุณคิมติดงาน....แล้วบอกว่าจะมารับหนูค่ำๆ แต่หนูไม่อยากรอ หนูจะให้พี่คริสจ๋าไปส่ง พี่อี้ไปบอกให้พี่คริสจ๋าออกรถเลยฮะ...หนูขอไปอาบน้ำแป้บนึง!!”
“น้องปลา!!...นั่งลงเดี๋ยวนี้ มาคุยกับพี่ให้รู้เรื่องก่อน อย่าเพิ่งใจร้อน!”
คนเป็นพี่...จำเป็นออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง พร้อมกับจ้องหน้าเด็กเอาแต่ใจเพื่อเป็นการปรามเมื่อรู้สาเหตุที่น้องปลาเหม่อลอย อี้ชิงจูงมือน้องชายให้เดินมานั่งบนเก้าอี้ในห้องครัวแล้วกอดปลอบเพื่อหวังให้น้องปลาใจเย็นลง โดยมีคนที่ยังคงมีความสับสนอยู่ภายในใจยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาโอบเอวของเขาเอาไว้ แถมยังเงยหน้าหงอยๆเกยไว้ที่พุงและส่งสายตามาให้อย่างออดอ้อน
“หนูอยากไปหาคุณคิมเร็วๆฮะพี่อี้”
“แล้วทำไมน้องปลาไม่รอให้คุณคิมมารับที่นี่ล่ะ?”
“ก็คุณคิมงานเยอะ...แล้วก็ไม่รู้จะทำเสร็จตอนไหน หนูไม่อยากรอก็เลยบอกคุณคิมว่าพี่คริสจ๋าจะไปส่ง”
“ไม่อยากรอก็ต้องรอ เพราะพี่คริสยังแพ็คปลาไม่เสร็จ”
“พี่อี้ไปส่งก็ได้หนิฮะ นะนะนะ...พี่อี้ไปส่งหนูหน่อยยย”
“คิดถึงคุณคิมมากขนาดนั้นเลยเหรอน้องปลา?!!”
“ก็คิดถึงเท่ากันทุกวันแหละฮะ ตะ...แต่วันนี้มันคิดถึง แล้วก็รู้สึกหงุดหงิดด้วยฮะพี่อี้ หนูเป็นอะไรก็ไม่รู้ฮะ!!”
“งั้นก็รีบไปอาบน้ำ เดี๋ยวพี่ไปส่งเองเพราะพี่คริสต้องรีบแพ็คปลาให้ลูกค้า”
“เย้!!!...หนูรักพี่อี้ที่สุดในโลกเล้ยยยยยยย!!!!!”
ฟอดดดดดด!!
ฟอดดดดดด!!
คนถูกหอม...ไม่รู้ว่าน้องของตัวเองเป็นอะไร แต่พอเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มที่ใครๆต่างก็หลงรักออกอาการหงอยดูไม่สดชื่น เขาก็อดที่จะตามใจไม่ได้และงานในบริษัทวันนี้ก็เยอะมากจนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องปลาหงุดหงิด อี้ชิงจึงไม่อยากดุหรือขัดใจน้องชายมากนัก ดวงตาคู่สวยมองตามเด็กที่หอมแก้มเขาด้วยความดีใจวิ่งออกไปจากห้องครัวอย่างคิดถึงอนาคตในวันข้างหน้า เพราะอี้ชิงยังมองไม่ออกเลยว่าเมื่อน้องปลาโตขึ้น....น้องจะสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นๆในสังคมได้หรือไม่ถ้าไม่มีเขาและบุคคลในครอบครัวคอยตามใจ
ห้างสรรพสินค้า XOXO
18.43 น.
VROOMMMM!!
เจ้าของรถมินิคูเปอร์สีขาว...หักพวงมาลัยเลี้ยวตามทางเข้ามายังลานจอดรถเมื่อขับมาถึงห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริษัทของรุ่นน้องสามี และพอมองเห็นที่ว่างขาเรียวในกางเกงยีนส์สีเข้มก็ค่อยๆเหยียบคันเร่งถอยเข้าที่จอดอย่างชำนาญพร้อมกับดับเครื่องยนต์ทันที
“น้องปลาอยากกินอะไร??...คิดเอาไว้หรือยัง?”
“อยากกินพิซซ่าฮะ”
“เดี๋ยวก็เข้าโรงพยาบาลอีกหรอก ไม่กลัวพี่หมอซูโฮจับฉีดยาเหรอ?”
“ก็เอาแบบที่ไม่มีหอยสิฮะพี่อี้”
“ตามใจ...แต่อย่าบอกพี่คริสก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่คริสโกรธ”
“โอเคฮะ...แล้วหนูซื้อกลับไปให้คุณคิมกับบยอนนี่กินด้วยได้ไหมฮะ?”
“เอาสิ...อยากสั่งอะไรก็สั่ง แต่ห้ามบอกพี่คริสเด็ดขาด”
คนเป็นพี่...จูงมือน้องชายเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าเมื่อลงจากรถ และตรงไปที่ร้านพิซซ่าทันทีเนื่องจากมันคือเมนูที่น้องบอกว่าอยากทาน อะไรที่ทำให้น้องปลามีความสุข อี้ชิงยอมทำทุกอย่าง แต่ก็ใช่ว่าจะตามใจกันได้ทุกวัน ยิ่งเป็นของกินอย่างพิซซ่าด้วยแล้วก็ยิ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษ เพราะส่วนผสมจำพวกหอยมันทำให้น้องเกิดอาการแพ้หรือไม่ก็ทำให้อาหารเป็นพิษได้ในภายหลัง และถ้าสามีรู้ว่าเขาพาน้องเมียอันเป็นที่รักมาทานของแบบนี้...มีหวังคงได้โดนทำโทษไปอีกหลายวัน
อี้ชิงทราบดี...ว่าคริสไม่ชอบให้น้องปลาทานของไม่มีประโยชน์อย่างพวกพิซซ่า น้ำอัดลมและท๊อฟฟี่ แต่ถ้าสามีได้มาเห็นรอยยิ้มที่ดูมีความสุขของเด็กที่เขาจูงมืออยู่ในตอนนี้ คริสคงยอมทุกอย่างไม่ต่างไปจากเขาและอาจพาน้องปลาไปซื้อนั่นซื้อนี่โดยไม่บ่นอะไรสักคำ ส่วนเรื่องที่เขาต้องให้น้องชายมาทานอาหารที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ก่อนที่จะพาไปส่งที่บ้านของจงอินก็เป็นเพราะไม่อยากรบกวนรวมถึงเกรงใจแบคฮยอนที่มักจะทำของว่างหรือไม่ก็ทำมื้อเย็นให้น้องของเขาทานเป็นประจำเมื่อเดินทางไปถึง
...
...
...
...
...
“ของที่สั่งได้ครบแล้วครับ!”
“ขอบคุณนะฮะ (:”
ส่งยิ้มหวานๆให้พนักงาน...แล้วรับถุงที่เต็มไปด้วยพิซซ่าหน้าต่างๆเป็นจำนวนสามกล่อง รวมถึงไก่อบซอสและพาสต้าที่สั่งไปให้คุณคิมกับบยอนนี่ทานที่บ้านมาถือไว้จนเต็มมือ และวันนี้เขาก็ได้กินน้ำอัดลมที่ไม่ได้กินมานานเกือบสามเดือนอีกด้วย เพราะฉะนั้นอาหารเย็นมื้อนี้ก็จะต้องถูกปิดไว้เป็นความลับ!!
ใช่ว่าน้องปลาอยากขัดคำสั่งของคนเป็นพี่เขย แต่เวลาที่ได้กินน้ำหวานรสซ่าทีไรมันก็ทำให้รู้สึกสดชื่นทุกครั้ง และเขาก็กินในปริมาณที่พอจะกินได้ เนื่องจากเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเองดีว่าถ้ากินมากเกินไปมันจะทำให้ท้องอืดจนต้องเข้าไปนอนอยู่ในโรงพยาบาล
“อยากกินอะไรอีกไหมน้องปลา?”
“หนูอยากกินไอติมร้านที่คุณคิมเคยพาไปฮะ”
“แล้วร้านอยู่ตรงไหน?”
“เดี๋ยวหนูพาไปเอง ที่ร้านนั้นมีไอติมรสช็อคโกแลตมินต์ด้วยฮะพี่อี้”
“ร้านอื่นก็มี”
“แต่ร้านนี้อร่อยที่สุดฮะ”
ไม่รู้ว่าอร่อยเพราะรสชาติของไอศกรีมจริงๆหรือเป็นเพราะคนที่พามากันแน่ น้องปลาถึงได้อยากกินจนต้องอ้อนให้พี่ชายพาไปซื้อ แถมยังเดินนำโดยที่ไม่รอให้อี้ชิงจ่ายค่าพิซซ่าเสร็จก่อนอีกด้วย คนเป็นพี่...ไม่ค่อยได้มาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้บ่อยเท่าไหร่เนื่องจากอยู่ไกลบริษัทของตัวเองแต่ใกล้บ้านของรุ่นน้องสามี และคนที่รู้จักห้างสรรพสินค้านี้ดีกว่าเขาก็คงเป็นน้องชายจอมแก่นที่มักจะมากับแฟนหนุ่มเกือบทุกสัปดาห์
อี้ชิงเดินตามน้องปลาไปเรื่อยๆ...และเมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงชั้นที่สี่ เขาก็เห็นร้านไอศกรีมที่คาดว่าน่าจะเป็นร้านที่น้องปลามาทานกับจงอินบ่อยๆ เพราะสีสันที่สดใสรวมถึงของตกแต่งหน้าร้านก็ค่อนข้างดึงดูดความสนใจของลูกค้ามากอยู่พอสมควร แต่!!!การที่น้องชายสุดที่รักยืนนิ่งอยู่หน้าร้านและหันกลับมามองเขาด้วยสายตาเหมือนกำลังโกรธ...มันกลับดึงดูดอี้ชิงได้มากกว่าความน่ารักหรือความสวยงามของร้านไอศกรีมเสียอีก
“น้องปลาเป็นอะไร????”
“หนูขอยืมโทรศัพท์หน่อยฮะพี่อี้”
“น้องปลาจะโทรหาใคร?”
“โทรหาคุณคิมฮะ”
ยังไม่ทันเดินเข้าไปหาน้องชายที่ยืนนิ่งมองอะไรบางอย่างอยู่ที่หน้าร้านไอศกรีม...น้องปลาก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับมาหาอี้ชิงที่เพิ่งก้าวขาพ้นออกมาจากบันไดเลื่อนได้เพียงไม่กี่ก้าว และขอยืมเครื่องมือสื่อสารเพื่อโทรหาแฟนหนุ่มผิวเข้ม มือเรียวสวยของคนที่กำลังโกรธเพราะเห็นภาพที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นรีบคว้าโทรศัพท์มาจากมือพี่ชายแล้วกดเบอร์ที่เคยวิดีโอคอลหากันเกือบทุกคืน แต่!!สำหรับครั้งนี้ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้...มันอาจเป็นการโทรหากันครั้งสุดท้ายและไม่ใช่การวิดีโอคอลเหมือนอย่างเช่นที่เคยทำ
Rrrr!!!
Rrrr!!!
Rrrr!!!
อี้ชิง...ถูกน้องปลาพาเดินมานั่งบนเก้าอี้ไม้แบบยาวที่ไร้พนักพิงตรงด้านข้างของบันไดเลื่อน โดยที่มืออีกข้างของน้องชายก็ยังคงถือสมาร์ทโฟนของเขาเอาไว้และดูเหมือนว่าคนปลายสายจะยอมรับโทรศัพท์สักที อี้ชิงมองการกระทำของคนเป็นน้องอย่างงงๆเพราะตอนนี้ในมือของน้องปลามันเต็มไปด้วยของกินที่เพิ่งซื้อมาจากร้านพิซซ่า และมีใบหน้าที่คิ้วสวยได้รูปขมวดกันจนยุ่งเมื่อต้องกดเบอร์ของจงอินซ้ำอีกครั้ง น้องปลาแทบไม่ได้สนใจเลยว่าของกินต่างๆมันจะเละจากการยกแขนขึ้นๆลงๆไปมาเพื่อโทรหาแฟนหนุ่ม
Rrrrr!!!!
Rrrrr!!!!!
(สวัสดีครับพี่อี้ชิง)
“น้องปลาเองฮะ....ไม่ใช่พี่อี้”
(ว่าไงครับน้องปลา แล้วตอนนี้อยู่ไหน? ทำไมพี่ไม่ค่อยได้ยินเสียงน้องปลาเลยครับ)
“ออกมาทานข้าวเย็นกับพี่อี้ฮะ พี่อี้กำลังไปส่งหนูที่บ้านคุณคิม...แล้วคุณคิมล่ะฮะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน?”
(กำลังกลับบ้านครับ งานพี่เพิ่งเสร็จ น้องปลารีบมานะครับ พี่คิดถึง)
“ฮึกกก!! ฮืออออออ!!!”
(น้องปลาเป็นอะไรนะ...น้อง)
ติ๊ดดด!!
ไม่มีแรง...แม้แต่จะกดวางสายเพื่อจบการสนทนาเมื่อน้องปลาได้ยินคำหลอกลวงจากคนที่เคยสัญญากันไว้ว่าจะไม่มีวันโกหก และก็เป็นเจ้าของโทรศัพท์ที่ต้องกดวางให้พร้อมกอดน้องชายของตัวเองเอาไว้แน่นโดยที่ไม่รู้เลยว่าทำไมน้องปลาถึงต้องร้องไห้มากมายขนาดนี้ อี้ชิงเป็นห่วงน้องชายแทบขาดใจไปพร้อมๆกับเสียงร้องไห้ที่ได้ยินอยู่ในตอนนี้และรีบถามถึงสาเหตุที่ทำให้คนในอ้อมกอดเอาแต่สะอึกสะอื้นจนตัวโยน
“น้องปลาเป็นอะไร บอกพี่อี้หน่อยได้ไหม”
“ฮึกกก!! คุณคิม ฮึกก! โกหก...คุณคิมพาผู้หญิงคนนั้นมากินไอติม ฮึก! แต่บอกหนูว่ากำลัง ฮึกกก!!...จะกลับบ้าน ฮืออออออ!!”
“น้องปลาใจเย็นๆ ผู้หญิงคนนั้นอาจเป็นเพื่อนคุณคิมก็ได้ น้องปลาอย่าเพิ่งคิดมากนะ หยุดร้องไห้ก่อน”
“ไม่ใช่เพื่อนนน!!! ฮึกก! หนูจำได้...ผู้หญิงคนนั้น ฮึก! เป็นแฟนเก่าของคุณคิม ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่เพื่อน!!! พี่อี้เข้าใจไหมมมม!!!!”
“น้องปลาใจยะ...เย็น เดี๋ยววว..จะเดินไปไหน? กลับมาหาพี่อี้เดี๋ยวนี้!! น้องปลา น้องปลาาา!!!”
อี้ชิง...รีบวิ่งตามน้องชายที่เอาแต่โวยวายพร้อมกับร้องไห้จนตาแดงก่ำไปด้วยความรู้สึกสงสารและตกใจ เพราะอยู่ดีๆน้องปลาก็ลุกออกจากเก้าอี้ด้วยความรวดเร็วแล้วตรงไปที่หน้าร้านไอศกรีมอีกครั้ง และภาพ...ที่อี้ชิงเห็นอยู่ตรงหน้าหลังจากวิ่งตามน้องปลาไปได้ไม่กี่ก้าวก็ทำให้ขาทั้งสองข้างถึงกับก้าวต่อไปไม่ไหว เพราะเห็นรุ่นน้องคนสนิทของสามีเดินควงแขนผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากร้านของหวานสีสันสดใส
แต่!!สิ่งที่ทำให้คนเป็นพี่คนโตอย่างอี้ชิงต้องก้าวขาเดินไปให้ถึงหน้าร้านไอศกรีมอีกครั้งก็เป็นเพราะต้องรีบเข้าไปห้ามศึกที่กำลังจะเกิดขึ้น
ปึ่กกก!!
ปั่กกก!!
เหมือนทุกอย่างจะสายเกินไปสำหรับอี้ชิง...เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นและเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือถุงที่มีพิซซ่าอยู่สามกล่องรวมถึงถุงที่มีทั้งพาสต้าทั้งไก่อบซอสได้ถูกน้องชายของเขาขว้างใส่หน้าคมเข้มของแฟนหนุ่มด้วยความโกรธ จนของกินต่างๆแตกหกกระจัดกระจายเกลื่อนอยู่บนพื้นที่หน้าร้านไอศกรีม และได้ยินแต่เสียงของคนที่มีแต่ความผิดหวังเสียใจโวยวายใส่คนที่ตัวของอี้ชิงเองก็ไม่คิดว่าจะทำให้น้องของเขาร้องไห้ได้มากมายถึงขนาดนี้
“คุณคิมโกหก!!! หนูเกลียดคุณคิมมม!!”
“น้องปลาฟังพี่ก่อน พะ...พี่”
“ไปให้พ้น!! อย่ามายุ่งกับหนู...ปล่อยยย!!!”
“น้องปลาอย่าเป็นแบบนี้...พี่ขอร้อง น้องปลาฟังพี่ก่อนนะครับ”
เพี๊ยะ!!!
“อย่ามาแตะต้องน้องชายของฉัน!!!!!!”
“พี่อี้ชิงครับ! พี่อี้ชิง...พี่อี้ชิงฟังผมก่อนครับ!!”
ข้อมือของหญิงสาว...ที่รุ่นน้องคนสนิทของสามีพามาทานไอศกรีมถูกอี้ชิงฟาดด้วยแรงที่ค่อนข้างมาก เพราะที่ผู้หญิงคนนี้จะมาจับตัวน้องปลาแยกออกจากแฟนหนุ่มผิวเข้ม คนเป็นพี่จ้องหน้าทุกคนด้วยสายตาที่แทบจะฆ่าใครก็ได้ที่กล้าทำให้น้องชายของเขาเสียใจ อี้ชิงรีบดึงน้องปลาออกมาจากอ้อมกอดจงอินและพากลับบ้านทันทีโดยไม่สนใจเจ้าของเสียงทุ้มที่เรียกเขาด้วยความวิงวอนกึ่งขอร้อง
ใจหนึ่ง...ก็รู้สึกโกรธน้องชายของตัวเองที่คุมสติไม่อยู่และโวยวายทำเรื่องที่ไม่ควรทำในที่สาธารณะ แต่อีกใจก็ทราบดีว่าเด็กที่อายุเท่าๆกับน้องปลาก็คงไม่สามารถรับมือหรือหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีเท่ากับผู้ใหญ่ แต่บางที...คนเป็นผู้ใหญ่(บางคน) ก็ยังรับมือไม่ไหวเมื่อต้องมาเห็นภาพที่ทำให้รู้สึกเสียใจจากคนที่ขึ้นชื่อว่า “แฟน”
Rrrrr!!
Rrrrr!!
Rrrrr!!
ขับรถออกมาจากห้างสรรพสินค้าได้ไม่ถึงครึ่งทาง...เสียงโทรศัพท์ของคนขับก็ดังขึ้น และผู้ที่โทรเข้ามาก็คือผู้ที่ทำให้น้องของตัวเองยังคงร้องไห้ไม่หยุด อี้ชิงเปิดไฟเลี้ยวแล้วพยายามเบี่ยงรถเข้าข้างทางเพื่อหาที่จอดเพราะถ้าให้คุยสายในขณะที่ขับรถไปพร้อมๆกับได้ยินเสียงร้องไห้ของน้องปลา วันนี้เขาคงได้ขับชนอะไรสักอย่างแน่ๆ
“ว่าไงจงอิน นี่พี่อี้ชิงเอง”
(พี่อี้ชิงงง...ผมขอคุยกับน้องปลาหน่อยครับ)
“ตอนนี้คงไม่ได้...พี่ว่ารอให้น้องปลาใจเย็นลงกว่านี้ก่อนแล้วค่อยคุยกันจะดีกว่า”
(ไม่ครับ!...ถ้าพี่อี้ชิงไม่ให้ผมคุยสายก็ไปคุยกันที่บ้านเลยครับ ผมจะขับรถไปหาน้องปลาที่บ้าน!!)
“ถ้าไม่กลัวพี่คริสต่อยหน้าแหกก็มาได้เลย”
(ผมไม่กลัวเฮียคริสต่อยหรอกครับ ผมกลัวน้องปลาไม่รักมากกว่า)
“เฮ้ออออ...ตามใจ แต่ถ้าโดนต่อยแล้วโดนน้องปลาเกลียดมากกว่านี้ก็อย่าหาว่าพี่ไม่เตือนนะ”
(โถ่...พี่อี้ชิงอย่าแช่งผมแบบนั้นสิครับ)
“จงอินเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ตอบคำถามของพี่คริสเถอะ พี่ไม่อยากเป็นคนตัดสินว่าใครผิดใครถูก แล้วขอบอกตรงๆว่าพี่โกรธจงอินมากๆ”
(ผมขอโทษครับพี่อี้ชิง แล้วววว...น้องปลาเป็นยังไงบ้างครับ?)
“ห่วงตัวเองก่อนดีกว่าจงอิน น้องพี่...พี่ดูแลเองได้”
ตอนนี้...อี้ชิงมีเรื่องให้คิดมากกว่าการปกป้องความรู้สึกของน้องชาย เพราะถ้าจงอินจะมาคุยปัญหาทั้งหมดให้คริสได้รับทราบ คนเป็นภรรยาอย่างเขาคงต้องเตรียมตัวรับศึกใหญ่ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เพราะถ้าคนเป็นพี่เขยได้เห็นน้องเมียสุดรักสุดหวงที่คอยดูแลและทะนุถนอมมาตั้งแต่ยังเด็กร้องไห้เสียใจจนตาบวม คริสคงอาละวาดบ้านแตกหรือไม่ก็...กระทืบรุ่นน้องคนสนิทตายคาบ้านก่อนที่จะได้ฟังเหตุผลของเรื่องที่เกิดขึ้น
บริษัท มีปลา
21.23 น.
VROOMMMM!!!!
“น้องปลา...ถึงบ้านแล้วนะ ขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องก่อนดีไหม?”
“ฮึกกก!!! ฮึกก!”
ใช้เวลาอยู่นานพอสมควร...กว่าจะขับรถมาถึงที่บ้าน และตอนนี้อี้ชิงก็กำลังพยายามเรียกสติคนที่เอาแต่ร้องไห้มาตลอดทางให้ลงจากรถก่อนที่จะต้องเสียน้ำตามากไปกว่านี้ เพราะคนต้นเหตุที่ทำให้น้องปลาร้องไห้ไม่หยุดก็คงใกล้จะมาถึงที่นี่แล้ว แต่!!ดูเหมือนว่าน้องชายของเขาจะไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งนั้นและไม่พูดหรือตอบสนองในสิ่งที่ได้ยินเลยสักนิด
!!!!!!!!!
“มัวทำอะไรอยู่ หึ!!!..น้องอี้?? มาถึงแล้วทำไมไม่เข้าบ้าน? ประตูรั้วก็ไม่ปิด???”
“.....!!!”
เสียวทุ้มหนักที่เอ่ยทักของคนเป็นสามี...ทำเอาภรรยาสะดุ้งสุดตัวเพราะกำลังตกอยู่ในภวังค์ของความคิดมากเรื่องที่น้องชายสุดที่รักเอาแต่ร้องไห้และไม่ยอมลงมาจากรถ ส่วนคริสที่เพิ่งแพ็คปลาเสร็จได้สักพัก แล้วนั่งพิงหัวเตียงดูทีวีรออี้ชิงอยู่ในห้องนอนก็ได้ยินเสียงรถเคลื่อนตัวเข้ามาจอดในบ้าน แต่ก็ไม่วี่แววว่าจะดับเครื่องยนต์สักที นั่นจึงทำให้คนที่รออาบน้ำพร้อมภรรยาต้องเดินลงมาตาม...และพอก้าวขามาจนถึงตัวรถก็ยังเห็นประตูรั้วถูกเปิดทิ้งไว้อีก
“คือออ...น้องอี้ เอ่อออออ”
“น้องอี้เป็นอะไรคะ?? เกิดอะไรขึ้น? ค่อยๆเล่านะคะ ใจเย็นๆ”
สีหน้า...ที่เต็มไปด้วยความกังวลและท่าทางที่เหมือนอยากจะพูดแต่พูดไม่ออกของภรรยา มันก็ทำให้คริสเริ่มเป็นห่วงจนต้องดึงตัวเข้ามากอดปลอบพร้อมลูบหลังเบาๆเพื่อให้คนในอ้อมกอดรู้สึกผ่อนคลาย อี้ชิงกอดตอบเจ้าของอกกว้างที่แสนอบอุ่นไว้แน่นและรู้สึกสบายใจมากขึ้นหลังจากที่เครียดเรื่องของน้องชายมาได้สักพักใหญ่ แล้วเริ่มอธิบาย...ในสิ่งที่คนเป็นสามีถามก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะถูกเล่าซ้ำอีกครั้งจากปากของคนที่ทำให้น้องปลาร้องไห้
“วันนี้น้องปลาทะเลาะกับจงอินแรงมากเลยครับพี่คริส น้องร้องไห้...แล้วก็ไม่ยอมลงจากรถ พี่คริสช่วยพูดกับน้องปลาหน่อยสิครับ”
“จงอินมันทำอะไร?!!...ทำไมถึงทะเลาะกัน”
“คะ...คือ อี้พาน้องปลาไปกินข้าวที่ห้างแล้วน้องเห็นจงอินพาแฟนเก่ามากินไอติม น้องปลาก็เลยเสียใจ พี่คริสช่วยน้องปลาด้วยนะครับ อี้สงสารน้อง”
“เดี๋ยวพี่จัดการเรื่องนี้เอง...น้องอี้เข้าบ้านไปก่อนนะคะ”
“มีอีกเรื่องนึงครับพี่คริส!! จงอะ...อิน”
VROOMMM!!
VROOMMM!!
พูดยังไม่ทันจบประโยค...เจ้าของพาหนะสีดำคันใหญ่ที่อี้ชิงกำลังเอ่ยชื่อเมื่อครู่ก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดในบ้านด้วยความรีบร้อน และไม่ได้มีแค่คริสกับภรรยาเท่านั้นที่เห็นรถของจงอิน เพราะคนที่เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ในรถของพี่ชายก็เห็นเช่นกัน มือบางที่เปียกจากการเช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าของตัวเองรีบเปิดประตูรถที่ยังไม่ได้ดับเครื่องยนต์ แล้ววิ่งเข้าไปหาพี่เขยทันทีพร้อมกอดเอวหนาไว้แน่นเหมือนต้องการหาที่พึ่งทั้งทางกายและทางใจ
“ฮืออออ...พี่คริสจ๋าาาาาาาา”
เสียงร้องไห้...ที่มาพร้อมการเรียกชื่อพิเศษของน้องเมียมันทำให้หัวใจของคนดูแลเด็กคนนี้มาเป็นอย่างดีเจ็บมากกว่าเจ้าของน้ำตาเป็นสิบเท่า คริสกอดน้องปลาเอาไว้ด้วยความเป็นห่วงและไม่อยากเห็นใครร้องไห้แบบนี้ไม่ว่าจะเป็นน้องเมียหรือภรรยา ส่วนคนที่ขับรถมาที่นี่เพื่อปรับความเข้าใจกับแฟนก็รู้สึกเป็นห่วงปลาตัวน้อยไม่ต่างไปจากรุ่นพี่คนสนิทเลยสักนิดและอยากแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองทำผิดก่อนที่จะไม่มีโอกาส
“น้องปลาครับ...ฟังพี่อธิบายก่อนนะครับ น้องปลากำลังเข้าใจผิด” เดินเข้าไปหาปลาตัวน้อยเหมือนคนหมดแรง และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนโดยไม่นึกกลัวรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ไม่ฟัง!!!...หนูไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น คุณคิมไปให้พ้นเลยหนูไม่อยากเห็นหน้า!!!!” ละใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาออกจากอกกว้างของพี่เขย แล้วตะโกนเสียงแหบแห้งที่เต็มไปด้วยความโกรธไล่คนโกหกออกไปจากบ้าน
อี้ชิง...เมินหน้าหนีแล้วรีบเดินไปดับเครื่องยนต์ที่รถมินิคูเปอร์ของตัวเองทันที พร้อมกดรีโมทเพื่อปิดประตูรั้วเนื่องจากทนเห็นภาพที่น้องชายเอาแต่ร้องไห้และโวยวายไล่แฟนผิวเข้มไม่ไหว ใจของคนเป็นพี่มันเจ็บไปหมดเพราะไม่เคยเห็นน้องปลาเสียใจมากขนาดนี้มาก่อน
“ชู่ววววว...ใจเย็นๆก่อนค่ะน้องปลา พี่คริสจ๋ารักน้องปลานะคะ”
“รักหนู...ก็ไล่คุณคิมออกไปเลย หนูเกลียดคนโกหก!!”
“ไม่เอาค่ะ...ไม่พูดคำนี้นะคะ”
พยายามปลอบ...เด็กที่โกรธจนขาดสติและเอาแต่โวยวายให้หยุดพูดทำร้ายความรู้สึกของคนฟังอย่างจงอิน เพราะถ้าให้เขาเปรียบตัวเองเป็นเหมือนกับรุ่นน้องคนสนิทในตอนนี้ คริสคงเสียใจกับพูดของน้องปลาไม่ใช่น้อย และเขาก็ไม่อยากให้จงอินถือสาหรือคิดมากกับคำพูดที่เอ่ยออกมาจากความโกรธของเด็กที่เพิ่งเคยผิดหวังในตัวของคนรักเป็นครั้งแรก
...
...
...
...
...
22.19 น.
แกร๊กกก!!
ประตูห้องนอนของน้องเมีย...ถูกเปิดออกด้วยมือของคนเป็นพี่เขยโดยมีร่างของผู้ที่เป็นเจ้าของห้องอยู่ในอ้อมกอด คริสว่างน้องปลาลงบนที่เตียงกว้าง และตัดสินใจแล้วว่าจะให้คนที่ก่อเรื่องได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง แต่ใครจะผิดใครจะถูกและผลของการปรับความเข้าใจจะออกมาเป็นอย่างไร ตัวเขา...ก็ยังคงเป็นพี่เขยที่รักน้องเมียคนนี้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และเขาก็มั่นใจว่าปัญาหาที่รุ่นน้องก่อไว้ก็อาจเป็นเรื่องที่ภรรยากับน้องปลาเข้าใจผิดกันไปเอง เพราะถึงแม้ในอดีต...จงอินจะเจ้าชู้รองๆลงมาจากรุ่นพี่ในคณะฯ แต่ก็ไม่ได้เลวถึงขึ้นกินไม่เลือกหรือชอบทำร้ายจิตใจคนที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่
“พี่คริสจ๋าไม่รักหนูแล้วเหรอฮะ”
“รักสิคะ...รักมากที่สุด”
“รักแล้วทำไมไม่ไล่คุณคิมออกไปละฮะ”
“พี่อยากให้น้องปลาใจเย็นๆ แล้วคุยกับคุณคิมดีๆ...พี่ไม่อยากเห็นน้องปลาเสียใจแบบนี้อีก น้องปลาเข้าใจที่พี่คริสพูดไหมคะ?”
“เข้าใจฮะ...เข้าใจเพราะหนูรักพี่คริสจ๋า”
“น้องปลาลองฟังเหตุผลของคุณคิมก่อนนะคะ...แล้วก็คิดทบทวนให้ดีว่าควรหายโกรธคุณคิมได้หรือยัง”
“แล้วถ้าไม่หายโกรธละฮะ?!”
“ก็ลองคุยกันก่อนสิคะ...แล้วถ้าไม่หายโกรธจริงๆ เดี๋ยวพี่โทรตามคุณปลาวาฬจ๋าให้มาจัดการคุณคิมดีไหมคะ?”
“ดีฮะ...ตกลงตามนั้น!!!”
ดีใจ...ที่ไม่โดนรุ่นพี่คนสนิทต่อยหน้าแหก แถมยังเปิดโอกาสให้เข้ามาเคลียร์ใจกับแฟนถึงในห้องนอน แต่!!!พอได้ยินชื่อพิเศษของผู้ชายที่รักน้องปลาจนแทบอยากจะเอาไปดูแลเองที่ฮ่องกง จงอินก็ถึงกับหน้าถอดสีเพราะถ้าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะแก้ไขมันไม่ได้ทำให้ปลาตัวน้อยหายโกรธ มีหวังงานนี้เขาคงได้โดนทั้งตีนของเฮียคริสและของพี่อูบินกระทืบตายคาบ้านแน่ๆ
“คุยกันดีๆนะไอ้ดำ!!!...แล้วถ้าน้องกูร้องไห้อีกรอบมึงเตรียมตัวบอกลาครอบครัวได้เลย!”
“คะ...ครับเฮีย ขอบคุณมากนะครับ”
วางมือ...ลงบนบ่าของรุ่นน้องคนสนิทและบีบเบาๆพร้อมพูดเป็นเชิงเตือน เพราะถึงแม้เขาจะอนุญาตให้จงอินเคลียร์ปัญหาต่างๆกับน้องปลาในห้องนอนแบบสองต่อสอง แต่ก็ใช่ว่าจะให้โอกาสกันได้ทุกครั้ง และเมื่อเจ้าของคำพูดที่ทำให้คนฟังรู้สึกชาวาบไปทั้งตัวเดินออกไปจากห้องเรียบร้อย จงอินก็ค่อยๆก้าวขาเดินไปนั่งคุกเข่าลงกับพื้นตรงหน้าปลาตัวน้อยแล้วจับมือนุ่มทั้งสองข้างขึ้นมาหอมซ้ำๆด้วยความรัก
แต่.......
“ไม่ต้องมาหอมหนูเลย...ไปหอมยัยมินะนู้นนนน!!!” พยายามใจเย็นเหมือนอย่างที่พี่เขยสั่ง แต่ภาพที่หญิงสาวควงแขนจงอินเดินออกมาจากร้านไอศกรีมมันยังติดอยู่ในความทรงจำ น้องปลาจึงรู้สึกหงุดหงิดและสะบัดมือออกจากรอยจูบที่แสนจะคิดถึง แล้วรีบคว้าผ้าห่มผืนโตคลุมโปงพร้อมนอนหันหลังให้คนที่ทำให้ร้องไห้จนตาบวม
“น้องปลาาาา...ฟังพี่อธิบายก่อนนะครับ พี่ขอโทษ” รีบกระโดดขึ้นเตียงตามไปง้อปลาตัวน้อยที่นอนคดกายอยู่ในผ้าห่มลายม้าน้ำ แล้วกอดก้อนผ้าสีหวานไว้อย่างหลวมๆเพราะเกรงว่าคนที่อยู่ข้างในจะอึดอัดและหายใจไม่ออก
“คุณคิมโกหกหนู!! คุณคิมผิดสัญญา!!...คนเป็นแฟนกันห้ามโกหก! คุณคิมลืมแล้วใช่ไหม คุณคิมนิสัยไม่ดี คุณคิมใจร้ายยยยย!!!” เสียงต่อว่าต่อขานดังอู้อี้อยู่ในผ้าห่มผืนหนาและรู้สึกเจ็บทุกครั้งเมื่อถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองเจอมาในวันนี้ เพราะคำสัญญาคำนั้น...มันเป็นคำที่คนโกหกเคยสอนเอาไว้เมื่อตอนที่เริ่มคบกันใหม่ๆ
น้องปลาจำได้ไม่เคยลืม...ว่าวันงานเลี้ยงรุ่นเมื่อหลายเดือนก่อน จงอินก็เคยทำให้เขาร้องไห้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่งานในวันนั้นมันเกิดจากความเข้าใจผิดของเขาเองที่คิดว่าคุณคิมนัดแฟนเก่ามาเจอกันในงานเลี้ยงและได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้...น้องปลาคงไม่ได้เข้าใจผิดหรือคิดไปเองเพราะสิ่งที่เห็นกับตาได้ยินกับหูมันทำให้ตัวเขามั่นใจว่าคุณคิมโกหก
การบอกผ่านทางโทรศัพท์ว่ากำลังจะกลับบ้าน...แต่ความเป็นจริงนั่งทานไอศกรีมอยู่กับแฟนเก่า แล้วแบบนี้จะให้น้องปลารู้สึกอะไรได้นอกจากความเสียใจ โกรธ ผิดหวังและไม่อยากเชื่อคำพูดของคุณคิมอีกต่อไป
“น้องปลาออกมาคุยกับพี่ก่อนนะครับ เดี๋ยวหายใจไม่ออก”
พยายามดึงผ้าห่มผืนโตออกจากปลาตัวน้อย...แต่เหมือนทุกอย่างจะยากเกินกำลังของเขา เพราะคนที่อยู่ด้านในนอนทับผ้าเอาไว้และเกรงว่าเมื่อดึงออกแล้วน้องปลาอาจได้รับบาดเจ็บ จงอินรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะไม่คิดว่าเด็กที่ม้วนตัวอยู่ในผ้าห่มตอนนี้จะเห็นเขากับแฟนเก่าที่ห้างสรรพค้า มันเป็นจังหวะชีวิตที่นรกแตกที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นถ้าให้พูดถึงเรื่องของความบังเอิญ จงอินจึงรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันแบบนี้ไม่ทันจนทำให้คนที่ตัวเองรักและเคยสัญญาไว้ว่าจะไม่โกหกต้องร้องไห้เสียใจ
พรึ่บบบ!!
“หายใจไม่ออกก็ตายไงฮะ!! ตายไปเลย! คุณคิมจะได้กลับไปคบกับแฟนเก่าไงฮะ!!!!” ยอมออกมาจากผ้าห่ม พร้อมตะโกนคำพูดที่เต็มไปด้วยความน้อยใจและจ้องหน้าคุณคิมด้วยแววตาผิดหวัง
“ไม่เอาครับ...ไม่พูดแบบนี้ ถ้าน้องปลาตายแล้วพี่จะอยู่กับใครล่ะครับ” รีบคว้าผ้าห่มแล้วโยนออกไปจากเตียงก่อนที่เด็กตรงหน้าจะหยิบมาคลุมกายอีกรอบ แล้วดึงตัวของน้องปลาเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก
“คุณคิมไม่ต้องมากอดหนูเลย ไม่รักหนูแล้วก็ไม่ต้องมากอดหนะ...หนู”
เคร้งงงงงงง!!!
“เฮ้ยยยย!!!!”
“คุณส้มแป้นนน...ไม่นะ!!”
“น้องปลานั่งอยู่บนเตียงก่อนครับ...เดี๋ยวพี่จัดการเอง”
“คุณคิมช่วยคุณส้มแป้นด้วยนะฮะ...อย่าให้มันตายนะ!!!”
กำลังขยับตัวหนี...เพื่อให้หลุดออกจากอ้อมกอดของจงอิน แต่แรงสะบัดร่างกายกลับทำให้มือบางปัดไปโดนโหลปลารูปดาวที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงจนหล่นกลิ้งลงไปกองอยู่บนพื้นห้อง เจ้าหางสวยสีส้มกระเด็นออกมาดิ้นอยู่ด้านนอกและดีที่โหลปลาไม่แตก แต่ก็เกิดรอยร้าวมากพอจะทำให้น้ำที่อยู่ด้านในรั่วออกมาเปียกพื้นไปหมด
จงอิน...ก้าวขาลงมาจากเตียงแล้วค่อยๆหยิบสัตว์น้ำที่น้องปลาตั้งชื่อให้ว่าคุณส้มแป้นไปใส่ไว้ในโหลอีกใบที่เป็นรูปหัวใจและมีปลาสีดำที่ชื่อว่ามืดตื๋อแหวกว่ายอยู่ในนั้น คนเป็นเจ้าของห้อง...มองปลาต่างสีทั้งสองตัวที่ตอนนี้ต้องอยู่ในโหลใบเดียวกันไปก่อนเพราะบ้านของเจ้าหางสวยสีส้มมันร้าว และเมื่อจงอินนำผ้าเช็ดเท้ามาซับน้ำบนพื้นห้องจนแห้งหมดแล้วพร้อมเอาโหลปลารูปดาวไปทิ้งเรียบร้อย เขาก็รีบกลับขึ้นมานั่งบนเตียงและคว้ามือของน้องปลาขึ้นมาดูว่ามีบาดแผลหรือไม่
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับน้องปลา?”
“มะ...ไม่เจ็บฮะ”
ดวงตาเรียวสวย...จ้องมองคนที่ช่วยชีวิตสัตว์น้ำตัวโปรดของเขาเอาไว้ได้อีกครั้งอย่างนึกขอบคุณ และพยายามทำใจให้เย็นลงเพราะไม่อยากให้อารมณ์ร้อนๆของตัวเองเป็นเหตุให้เกิดเรื่องแย่ๆขึ้นมาอีกรอบ ส่วนจงอิน...ก็เข้าใจเจ้าของดวงตาบวมช้ำว่ากำลังสื่อความหมายหรือกำลังรู้สึกอะไร และไม่นึกโทษเรื่องที่น้องปลาทำของที่เขาตั้งใจสร้างให้กับมือหล่นลงมาจนเกิดความเสียหาย เพราะของทุกชิ้นมันไม่สำคัญเท่ากับเด็กที่นั่งทำหน้าสำนึกผิดอยู่ในตอนนี้
จุ๊บบ!!
จุ๊บบ!!
ใบหน้าคมเข้ม...เลื่อนเข้าใกล้ปลาตัวน้อยอย่างช้าๆและส่งปากหยักจูบเบาๆลงบนเปลือกตาที่เกิดรอยช้ำจากการร้องไห้ทีละข้างด้วยความทะนุถนอม และกอดคนของหัวใจเอาไว้ในอ้อมกอด จงอินไม่อยากทำให้น้องปลาร้องไห้อีกแล้ว และเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้เขาก็จะจำไว้เป็นบทเรียนว่าอย่าโกหกใครเพื่อความสบายใจเพราะมันอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง...แล้วก็ทำให้คนรักต้องเสียใจ
“น้องปลาอย่าร้องไห้อีกได้ไหมครับ พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ”
“คุณคิมไม่รักหนูแล้วใช่ไหมฮะ คุณคิมถึงโกหกหนู”
“รักสิครับ รักมากๆ แล้วพี่ก็ไม่ได้ตั้งใจโกหกน้องปลาด้วยครับ”
“ไม่ได้ตั้งใจ...แต่คุณคิมก็ทำไปแล้ว คุณคิมรู้ไหมฮะว่าหนูเจ็บมากๆเลย เจ็บตรงนี้ เจ็บมากที่สุด”
จับมือคนโกหกขึ้นมาทุบที่อกข้างซ้ายของตัวเอง...เพราะน้องปลารู้สึกเจ็บทุกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเย็นที่ผ่านมา จงอินขืนแรงทุบเอาไว้แล้วดึงมือออกพร้อมพลิกกายนอนลงบนเตียงกว้างโดยมีปลาตัวน้อยนอนทับอยู่บนอก และโอบร่างหอมๆเหมือนอยากให้คนในอ้อมกอดรับรู้ว่าเขารู้สึกผิดมากแต่ไหน
“พี่ผิดไปแล้วครับ น้องปลาให้อภัยพี่ได้ไหม?...พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำให้น้องปลาร้องไห้อีกแล้ว”
“คำสัญญา...ของคนที่เพิ่งทำผิดสัญญา คุณคิมยังจะให้หนูเชื่ออะไรอีกเหรอฮะ? คุณคิมบอกหนูว่าไปซ่อมตู้ปลาให้ลูกค้า แต่คุณคิมพาผู้หญิงคนนั้นไปกินไอติม แล้วยังโกหกหนูอีกว่ากำลังกลับบ้าน ฮึกก!! คุณคิมใจร้าย ฮึก!”
“ไม่ร้องไห้แล้วครับ...น้องปลาฟังพี่อธิบายก่อนนะ คือบ้านลูกค้าที่พี่ไปซ่อมตู้ปลาให้มันเป็นบ้านพี่ชายของมินะ คนที่เคยมาซื้อปลาที่ร้านของหนูไงครับ แล้วพอดีตู้ปลาของเขามันร้าว พี่ก็เลยต้องรีบเข้าไปซ่อม ส่วนเรื่องที่พี่ไปกินไอติมกับมินะ พี่ก็ไปในฐานะเพื่อน พี่ไม่ได้คิดจะกลับไปคบกับเธอแน่นอน แล้วเรื่องที่พี่โกหกว่ากำลังจะกลับบ้าน...พี่ขอยอมรับผิดครับ แต่ที่ต้องโกหกเพราะพี่ไม่อยากให้น้องปลาคิดมาก”
รีบอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ปลาตัวน้อยฟังก่อนที่จะหมดโอกาส...และสิ่งที่พูดออกไปทั้งหมดก็คือเรื่องจริงเพราะตู้ปลาที่ทำมาจากแก้วเกรดต่ำราคาถูกที่พี่ชายของหญิงสาวชื่อมินะสั่งทำมาจากร้านที่ไม่ได้มาตรฐานมันมีรอยร้าวจนทำให้น้ำรั่วออกมาอย่างที่ได้เล่าให้น้องปลาฟังไปเมื่อครู่
ก่อนวันเกิดเรื่อง...จงอินได้รับโทรศัพท์จากแฟนเก่าที่โทรมาขอความช่วยเหลือเรื่องตู้ปลาของพี่ชายที่มีรอยร้าว และไม่รู้ว่ามันจะแตกเมื่อไหร่เนื่องจากพี่ของเธอเผลอยกเก้าอี้ไปกระทบกับตู้ปลาที่วางไว้ใกล้ๆโต๊ะทำงานจนทำให้มีรอยแตกเล็กน้อยที่ขอบกระจกด้านบน...แล้วน้ำก็เริ่มซึมออกมาเรื่อยๆ
จงอิน...นึกภาพของตู้ปลาออกทันทีว่าถ้ามีรอยร้าว รอยบิ่นหรือรอยแยกเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นจุดไหนของตู้ มันก็อาจทำให้สัตว์น้ำที่อยู่ด้านในตายได้ แล้วถ้าเขาไม่รีบเข้าไปซ่อม ตู้ปลาก็อาจแตกเสียหายมากกว่าที่เป็นอยู่ และเมื่อได้ไปเห็นตู้ปลาของจริงที่บ้านพี่ชายมินะในวันนี้ จงอินก็ต้องรีบซ่อมให้แต่ก็ซ่อมไว้แบบชั่วคราวไปก่อน แล้วค่อยทำตู้ปลาที่ได้มาตรฐานกว่านี้ส่งให้พี่ชายของแฟนเก่าอีกครั้งในวันหลัง และดีที่ปลาทั้งหมดมันไม่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนรวมถึงตู้ก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงต้องรื้อตู้ทิ้งแล้ววางท่อบำบัดน้ำเสียแล้วเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆในตู้ปลาให้วุ่นไปหมด
เพี๊ยะ!!
“ซ่อมตู้ปลาเสร็จ...ทำไมคุณคิมไม่กลับบ้านเลยละฮะ!! คุณคิมพายัยมินะไปกินไอติมทำไม!!!” เงยหน้าขึ้นจากแผ่นอกกว้างที่ซบอยู่อย่างสบายกาย แล้วเลื่อนมือที่กอดเอวหนาเอาไว้ขึ้นมาตีปากคนที่ไม่คิดจะบอกความจริงให้รู้ตั้งแต่แรก และปิดบังเรื่องทั้งหมดเอาไว้จนเขาต้องไปเจอเองด้วยความแรงที่ไม่มากนักพร้อมถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย...ถึงแม้การโกหกจะทำไปเพื่อให้เขาสบายใจ แต่ผลที่ออกมามันก็ไม่ได้ทดแทนความรู้สึกที่เสียไปก่อนหน้านั้นได้เลยสักนิด
“ตีอีกก็ได้ครับ ตีจนกว่าน้องปลาจะพอใจ” มากกว่าการโดนตบจงอินก็รับได้ถ้ามันทำให้ปลาตัวน้อยรู้สึกสบายใจมากขึ้น แต่การที่เขาต้องไปกินไอศกรีมกับแฟนเก่าก็เป็นเพราะมินะต้องการทานของหวานหลังจากพาไปเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการตอบแทนในเรื่องที่จงอินช่วยซ่อมตู้ปลาให้ และแฟนของน้องปลาก็ไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ
แต่...คนที่ไม่บริสุทธิ์ใจกลับเป็นคนชวนเสียมากกว่า และจงอินก็เพิ่งรู้ตัวตอนถูกเธอควงแขนเดินออกมาจากร้านไอศกรีมแล้วอ้อนให้พาไปเที่ยวต่อ และยังไม่ทันที่เขาจะได้ปฎิเสธความหวังดีประสงค์ร้ายของหญิงสาว เรื่องทุกอย่างก็เริ่มเลวร้ายลงเมื่อเห็นน้องปลากับอี้ชิงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“คุณคิมรักหนูจริงๆใช่ไหมฮะ รักเหมือนที่พี่คริสจ๋ารักพี่อี้หรือเปล่า??” ต่อให้ตบตีจงอินอีกสักกี่ครั้งมันก็ไม่ได้ทำช่วยให้น้องปลารู้สึกดีขึ้นหรือสามารถทดแทนความเสียใจได้เลยและมันอาจทำให้เขาเจ็บมากกว่าเดิม ส่วนที่พูดถึงเรื่องความรักระหว่างพี่เขยสุดหล่อกับพี่ชายของตัวเองก็เป็นเพราะน้องปลาไม่เคยเห็นคริสทำให้อี้ชิงต้องร้องไห้เลยสักครั้ง...และไม่เคยโกหกกันเหมือนอย่างที่จงอินทำกับเขา
น้องปลา...เห็นความรักที่พี่เขยมีให้อี้ชิงมาตั้งแต่ตัวเขายังเด็ก คริสซื่อสัตย์มากๆไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง ทำอะไร? อยู่ที่ไหน? ไปกับใคร? เพราะเหตุใดก็พูดออกมาตรงๆไม่เคยปิดบัง นั่นจึงทำให้พี่ชายของเขาไม่เคยร้องไห้ให้กับเรื่องโกหกหรือต้องมาเสียใจกับการกระทำที่ไม่น่าไว้ใจของคนเป็นสามี น้องปลาเห็นอี้ชิงร้องไห้แค่ตอนที่ต้องอยู่ห่างจากคริสเมื่อครั้งที่พี่เขยต้องเดินทางกลับไปประเทศจีนเป็นเวลาเกือบสามปีเพื่อเคลียร์งานกับผู้เป็นพ่อ และตลอดระยะเวลาที่พวกเขาทั้งคู่ต้องอยู่ห่างกันก็ไม่เคยมีคนใดคนหนึ่งคิดนอกใจ...รวมถึงคิดเรื่องโกหกเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจไปวันวัน
“พี่ขอโทษนะครับ คราวหลังพี่จะไม่โกหกน้องปลาอีกแล้ว น้องปลาอย่าเกลียดพี่เลยนะครับ พี่รักน้องปลามากๆ รักมากที่สุด รักคนเดียวไม่นอกใจ”
จงอินเข้าใจดี...ว่าที่น้องปลาพูดมาทั้งหมดเพื่อจะสื่อความหมายอะไรให้เขารับรู้ และการโกหกก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี ถึงแม้จะทำไปเพื่อความสบายใจของใครก็ตาม แต่ถ้าถูกจับได้ก็ต้องมานั่งทุกข์ใจในภายหลังเหมือนอย่างที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้ และการโกหกก็ยังทำลายความเชื่อใจที่คนรักเคยมีให้โดยที่ไม่รู้ว่าจะกลับมาเชื่อใจกันได้อีกครั้งหรือไม่??
มันเป็นความผิดพลาดมากๆในความรู้สึกของจงอิน...และเขาก็จะไม่มีทางทำผิดแบบนี้ซ้ำอีกเด็ดขาด!!
“หนูเกลียดคุณคิมไม่ลงหรอกฮะ...แล้วหนูก็รักคุณคิมมากๆเหมือนกัน คุณคิมอย่าโกหกหนูอีกนะฮะ หนูไม่อยากเจ็บ ฮึกก!! หนะ...หนู”
“ชู่ววว...ไม่ต้องพูดแล้วครับน้องปลา พี่จะไม่โกหก พี่จะไม่ทำน้องปลาร้องไห้อีกแล้ว พี่สัญญา”
“สัญญาแล้วนะฮะ ฮึกก!!”
“ครับ...พี่สัญญา”
เจ้าของกายสีน้ำผึ้ง...จับปลาตัวน้อยให้ลุกขึ้นนั่งพร้อมกับทำ สัญญาใจ เพื่อเป็นเครื่องเตือนความจำว่าจะไม่ทำผิดแบบนี้ซ้ำอีก จงอินใช้ปลายนิ้วชี้เขียนสัญลักษณ์ของการทำสัญญาใจลงบนฝ่ามือนุ่มๆของน้องปลา และวางมือเรียวสวยที่เพิ่งวาดรูปหัวใจใส่ไว้ในนั้นวางไว้ที่อกข้างซ้ายของตัวเอง แล้วเลื่อนใบหน้าคมเข้มส่งปากหยักจูบลงบนริมฝีปากสีหวานอย่างแผ่วเบา มันไม่ใช่รสสัมผัสที่ร้อนแรงเหมือนอย่างที่คนถูกจูบเคยได้รับ แต่การจุมพิตด้วยความอ่อนโยนและการทำสัญญาใจของคุณคิมมันกลับทดแทนความเจ็บปวด ความผิดหวัง ความเสียใจต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้จางลงไปเรื่อยๆจนน้องปลาเกือบลืมไปเลยว่า...เหตุการณ์ที่เจอมาก่อนหน้านี้มันทำให้ทุกข์ใจมากมายแค่ไหน ♥
ส่วนนนน...อีกห้องนอนหนึ่งของบริษัทมีปลา
23.40 น.
“น้องอี้คะ...มีอะไรจะสารภาพกับพี่ไหมคะ???”
“สารภาพเรื่องอะไรเหรอครับ...น้องอี้ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย?”
“แล้วใบเสร็จค่าพิซซ่าใบนี้มันหมายความว่าอะไรคะ?”
“ใบเสร็จอะไร...ไม่ใช่ของน้องอี้นะครับ!!”
“พี่ให้โอกาสน้องอี้ตอบใหม่อีกครั้งค่ะ...อีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”
“ก็ได้ ก็ได้...น้องอี้สารภาพก็ได้”
“รีบพูดมาเลยค่ะ...เพื่อโทษหนักจะได้กลายเป็นเบานะคะ”
“คะ...คือน้องปลาอยากกินพิซซ่า อี้ก็เลยพาน้องไปกิน”
“แล้วกินอะไรอีกคะนอกจากพิซซ่า??”
“กะ...กินโค้กด้วยครับ”
“งั้นน้องอี้เลือกได้เลยค่ะว่าคืนนี้...จะให้พี่ลงโทษแบบไหน??!”
“ระเบียง 1 โต๊ะเครื่องแป้ง 2 ตะ...เตียง 1 ครับ”
“ตามกฎ...เตียงต้องเป็น 2 นะคะ?!”
“น้องอี้ขอแค่ 1 ไม่ได้เหรอครับพี่คริส เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ไหว”
“พรุ่งนี้วันหยุดค่ะ...คนทำผิดกฎไม่มีสิทธิ์ต่อรองนะคะ น้องอี้ถอดเสื้อออกเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!”
...
...
...
...
...
“อ๊ะ!! อ๊ะ! พะ...พี่คริส!!!”
“อื้มมม ซี้ดดดดด!!”
“พี่คริสสส อ๊ะ!! ไหนบอกน้องอี้ว่า อ๊ะ! บนเตียงสองรอบไง ซี้ดด...นี่มันสามแล้วนะ อ๊ะ!!!”
“ซี้ดดด พี่แถมให้ค่ะ อื้มมมมม....อ่าห์!!!”
100%
Cr:ภาพ
น้องปลากลับมาแล้วค้าาาาา คิดถึงนักอ่านจังเลยยยยยย ^3^
อย่าโกรธคุณคิมเลยนะคะ คุณคิมไม่ได้ตั้งใจ
ขอบคุณสำหรับการรอคอย คอมเม้นท์และคำติชมทุกอย่างเลยค่ะ
แล้วจะเข้ามาตรวจคำผิดเรื่อยๆนะคะ
รัก ♥
#ฟิคน้องปลา
ความคิดเห็น