คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Deux: เหตุผลของคนงอน(sin)
Deux: เหตุผลของคนงอน
“ดีวีดีคอนเสริต ใกล้จะจะออกแล้ว เดือนหน้า
ชัวร์ ถ้าไม่ออกนี่ให้ยำ
ยำ
ยำใครดีฮะ” ซินเข้าช่วงท็อคช่วงสุดท้ายก่อนจะจบไลฟ์ในคืนนี้ ใบหน้าหวานๆหันไปมองรอบเวทีว่าจะส่งมุกไปให้ใครดี
“ไม่เกี่ยวกับผมนะฮะ ผมทำส่วนของผมเสร็จแล้วนะครับ” เสียงแว่วดังออกมาจากไมค์ของมือกีตาร์ข้างตัวที่ซินคิดว่าจะไม่ได้ยินเสียงจนจบงานแล้วซะอีก เสี้ยวหน้าหวานตวัดมองคนพูดแทรกโดยไม่ได้เตี้ยมอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง ก่อนจะแกล้งเมินทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วตวาดสายตาไปรอบเวที ก่อนจะส่งมุขไปให้แบ็คอัพที่เงยหน้าขึ้นมาสบตาพอดีโดยไม่สนใจนัทแม้แต่น้อย
“ยำแบงค์ละกันนะครับ” พูดจบก็พยักเพยิดกับแบ็คอัพข้างหลังพลางพูดเข้าเพลงสุดท้าย ร่างบางกระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆเมื่อเห็นอีกคนทำหน้าเจื่อนๆที่ไม่ได้รับความสนใจ ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาให้ความสนใจกับกีตาร์เสมือนยืนโดดเดี่ยวลำพังบนเวที
ใช่แล้ว
ซินกำลังงอนนัท
แล้วไอ้เพื่อนบ้าซื่อบื้อนี่มันก็ไม่รู้สักทีว่าเขางอน ไอ้คนความรู้สึกช้า
ซินเซียร์เครียด!
โดนเมินแบบนี้น่ะดีแล้ว จะได้รู้สึกตัวว่าทำอะไรผิด
แต่ก็ได้บ่นอยู่ในใจ ก่อนจะดึงสมาธิไปยังเพลงสุดท้ายที่ใช้ร้องปิดไลฟ์ในวันนี้ ร่างบางพยายามหันไปมองแฟนคลับ มองคนดู มองเพดาน มองพื้นกระเบื้อง มองโต๊ะ มองเก้าอี้ มองมัน แม่งทุกที่ๆไม่ใช่ข้างๆตัวที่มีนัทยืนอยู่ แต่สุดท้ายสายตาเจ้ากรรมก็อดเหลือบไปเห็นไม่ได้ ทำได้น่ะเหรอ ก็ไอ้มึนมันถือวิสาสะเดินมาโซโล่กีตาร์ข้างเขาน่ะสิ=__=
ซินเหลือบมองคนพยายามเรียกร้องความสนใจด้วยหางตา ก่อนจะสะบัดหน้าหนีแล้วใช้มาตรการ ‘ มึงอยากเรียกร้องความสนใจก็ทำไป กูจะเมินซะอย่าง’ ไม่ช้าคนพยายามเรียกร้องความสนใจก็ยอมแพ้ ก่อนจะกลับไปเล่นกีตาร์เงียบๆอีกมุมตามเดิม
อะไรนะ
.เสียงใครดังแว่วๆผ่านหูว่าเขาเอาแต่ใจแถมยังขี้งอน?
ไม่เคยได้ยินกันเหรอว่าซินเซียร์ทำอะไรก็ถูกไปหมดน่ะ?
แต่ถึงคนอื่นจะว่าผิด
ผมก็จะยืนยันอยู่ว่าผมถูกนั่นแหละ =_,=
“ซินกลับแล้วนะฮะ ขอบคุณทุกคนมากครับ” ซินยิ้นหวานพลางกล่าวลากับเจ้าของเจ้ารวมไปถึงทีมงานทุกคน ไม่เว้นแม่แต่แฟนคลับที่มารอขอถ่ายรูปและทีมแบ็คอัพ
เอ่อ
เว้นไว้คนเดียวที่ร่างบางไม่แม้จะหันมามองเลยแม้แต่น้อย เป็นใครไม่ได้นอกจากคุณมือกีตาร์ที่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บกีตาร์ลูกรักอยู่นั่นเอง
“เดี๋ยวซิน
แล้วกลับไง ป๊ามารับแล้วเหรอ?” เสียงคนที่คุ้นเคยเอ่ยถามขึ้น แต่ซินไม่มีอารมณ์จะตอบอีกฝ่ายแต่อย่างใด ขาเรียวขาตัวเองก้าวฉับๆออกมาโดยไม่สนใจนัทที่เอ่ยถาม ทิ้งให้เหล่าทีมงานและแฟนคลับที่มารอส่งอึ้งไปตามๆกัน
“ทำไมวันนี้งานเลิกเร็วจังน้องซิน แล้วทีมงานคนอื่นไปไหนหมดล่ะ?” บิดาของซินถามขึ้นหลังจากลูกชายขึ้นมาบนรถ เพราะปกติงานกลางคืนของซิงกูล่าจะเลิกดึกไม่น้อย
“วันนี้งานเริ่มเช้าไงฮะป๊า คนอื่นเค้าอยู่กินต่อที่ร้านกันอ่ะ แต่ซินเหนื่อย อยากกลับไปพัก” คนหน้าหวานตอบ ก่อนจะค้นกระเป๋าเอาหูฟังมาเสียบไอโฟนสีขาวขอองตัวเองอย่างเนือยๆ
“แล้วนัทล่ะลูก?”
“ไม่อยู่ต่อก็โทรชวนสาวออกไปไหนไม่รู้แล้วมั้งฮะ ซินไม่ได้สนใจ” เบ้ปากน้อยๆเมื่อบิดาของตนเองพูดถึงอีกฝ่าย ก่อนที่ซินจะเสียบหูฟังใส่หู เตรียมงีบหลับเพราะระหว่างร้านกู๊ดวิวกับบ้านของเขามีระยะห่างไม่น้อย
“งอนเพื่อนอีกแล้วเหรอซินเอ้ย” คนเป็นพ่อส่ายหัวพลางยิ้มขำๆให้กับท่าทางของลูกชาย แปลกใจไม่น้อยว่าทีมงานที่ดูแลซิงกูล่าไม่ปวดหัวกันบ้างรึไงกับศิลปินที่เดี๋ยวงอน เดี๋ยวน้อยใจกันอยู่ตลอด เผลอๆนัทกับซินดูจะงอนกันบ่อยกว่าเขากับแม่ซินตอนเป็นแฟนกันใหม่ๆซะอีก
ป๊าซินไม่ได้รู้หรอกว่าพีอาร์ซิงกูล่าไม่เคยปวดหัวกับการที่ศิลปินงอนกันบ่อยเลยสักครั้ง เพราะสองคนนี้ทะเลาะกันทีไร นัทก็ต้องตกเป็นฝ่ายโดนทีมงานไล่ไปง้อซินอยู่ฝ่ายเดียวร่ำไป-w- อาเมน~
..................
.
ซินอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยเตรียมเข้านอน ร่างบางหยิบหนังสือเล่มโปรดเตรียมจะอ่านบนเตียงก่อนนอนให้สบายใจ แต่พลันเสียงเรียกเขาในมือถือก็ดับความสบายใจของร่างบางไปหมดสิ้น
“ว่าไงครับพี่โอ๊ต ” คนหน้าหวานกระแทกเสียงใส่ปลายสาย ก็เล่นโทรมาซะตีหนึ่ง ก็
มีอารมณ์พูดดีได้แค่นี้แหละ=___=
“ซิน
ไอ้นัทแย่แล้วเว้ย มันเมามากเลย” น้ำเสียงปลายสายดูร้นรน แต่พอพี่โอ๊ตเอ่ยชื่ออีกคนให้ได้ยินซินแทบจะตัดสายทิ้ง
ดีที่ยั้งมือตัวเองทันไว้ก่อน
“แล้วเกี่ยวอะไรกับผมด้วยอ่ะครับ?” ซินถามกลับ
“ซินสงสารนัทมันเหอะ มันเมาก็เพราะแกนะเว้ย
เห็นมันบ่นน้อยใจที่แกเมินมันมาหลายงานแล้ว...พวกพี่ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟังกินเหล้าจนล้มฟุบไปกับโต๊ะเลย” คนปลายสายพยายามโน้มน้าว
“แล้วมันเป็นไรมากมั้ยฮะ
เอ่อ
ไม่สิ
ไม่ๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับซินอยู่ดีนี่ พวกพี่ก็ขับไปส่งมันที่บ้านก็พอนี่ฮะ?” ร่างบางยั้งปากตัวเองที่เผลอเป็นห่วงอีกฝ่ายไว้ทัน
“ก็นี่แหละที่น่าห่วง พ่อแม่มันไปต่างจังหวัดหมดแล้วใครจะอยู่ดูแลวะ ยิ่งไปกว่านั้น ตะกี้มันร่ำๆว่าจะฆ่าตัวตายด้วยนะ เกิดแม่งอยู่คนเดียวแล้วคิดสั้นขึ้นมาจะทำไงวะ พวกพี่ก็ติดธุระ ต้องรีบกลับบ้านกันหมดเลย”
“
” ร่างบางนิ่งคิด ความเป็นห่วงอีกคนเลยทำให้ลืมนึกว่าทำไมคืนนี้ชีวิตนัทมันดูรันทดเกินความจำเป็นนัก แต่จะให้วานป๊าไปส่งบ้านนัทก็เกรงใจ ซินคิดแล้วคิดอีกจนกระทั่ง
.
“ไม่เป็นไรนะถ้าซินไม่ห่วงมัน อย่างน้อยที่สุดถ้ามันเกิดอะไรขึ้นกับนัท
ก็ขอให้รู้นะว่าพวกพี่ทำดีที่สุดแล้ว” เสียงปลายพยายยามบีบให้ดูเศร้ายิ่งกว่าเดิม ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะได้ผลเพราะสุดท้ายซินก็ตกปากรับคำจะไปบ้านนัทเรียบร้อย
“ครับ ตกลงซินไปก็ได้ ขอเวลาซักครึ่งชั่วโมงนะฮะ”
“เย้~~~~” เสียงทีมงานนับสิบรวมกีตาร์แมนตะโกนขึ้นมาจนแทรกเข้าไปในสาย ร้อนถึงคนคุยอยู่ต้องรีบเอานิ้วชี้แตะปากพร้อมเสียงชู่วๆ
“เสียงอะไรอ่ะครับพี่โอ๊ต” ซินถามอย่างข้องใจ
“เอ่อ
.เอ่อ เสียงพวกไอ่ม่อยเชียร์บอลอ่ะ เฮ้ยรีบมานะซิน งั้นเดี๋ยวพี่ดูแลไอ้นัทมันรอไปก่อนละกัน แค่นี้นะ”
ติ้ด
เสียงเตือนดังว่าคนปลายสายวางไปเรียบร้อยแล้ว ร่างบางถอยหายใจอย่างเดาอารมณ์ไม่ได้ ก่อนจะเก็บเข้าเก็บของเตรียมตัวไปดูแลกีตาร์แมนเจ้าปัญหา ร่างบางพึมพำกับตัวเองอย่างเซ็งๆก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป
“ไอ้งอกบ้า นี่ห่วงว่าซินจะซวยเพราะซิงกูล่าขาดมือกีตาร์หรอกนะถึงได้ไปดูแล ”
..................
.
ซินหยิบยาแก้แฮงค์วางไว้บนหัวเตียง ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูไล่เช็ดตัวให้อีกคนอย่างเบามือ มือเรียวไล่ผ้านิ่มเช็ดไปทั่วร่างกายที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมา ก่อนจะปลุกให้คนที่หลับอยู่ลุกขึ้นมากินยา
“นัท ตื่น
กินยา” ร่างบางเขย่าแขนเบาๆ นัทจึงลืมตาๆ ก่อนที่จะรับยามาจากมืออีกฝ่าย ร่างสูงกลืนยาและน้ำตามพลางมองหน้าผู้ดูแลจำเป็นไปด้วย เมื่อซินเห็นว่านัทกินยาเสร็จแล้วก็ทำท่าว่าจะเดินออกจากห้องไป ร่างสูงที่ทำอะไรไม่ถูกก็คว้ามืออีกคนหมับ ส่งสายตาไปอ้อนอีกคนอย่างขอความเห็นใจ
“ทำไม?” ซินมองคนพยายามอ้อนด้วยสายตาเฉยชา พยายามจะสะบัดมือให้พ้นจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย
“อยู่กับกูก่อนได้มั้ย
” นัทจ้องตาอีกคนอย่างขอความเห็นใจอีกครั้ง แต่คราวนี้ซินกลับหลับสายตาอย่างที่ไม่ให้ร่างสูงเดาอารมณ์ถูก นัทเห็นอย่างนั้นจึงตัดสินใจดึงคนหน้าสวยเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะโผตัวเข้ากอดอีกฝ่ายแน่น
“นัท
เชี่ยนัท ปล่อยเรา” คนหน้าหวานได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอด จนสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้ได้แต่ยืนนิ่งๆให้นัทได้รุนรานตามใจชอบ
“กูไม่รู้ว่ามึงโกรธกูเรื่องอะไร แต่อย่าเป็นแบบนี้ต่อไปเลยนะซิน กูขอโทษ
เลิกเมินกูเถอะ
กูรู้สึกไม่ดีเลยเวลามึงไม่เล่นกับคนอื่นที่ไม่ใช่กู
เพราะสำหรับกู
มึงสำคัญว่ะซิน”นัทกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งกลิ่นหอมอ่อนๆที่มาจากตัวอีกฝ่ายบวกกับฤทธิ์เบียร์ที่กินไปส่งผลให้เขาควบคุมตัวเองไดไม่ดีนัก นัทซุกไซร้ร่างบางอย่างพอใจ ก่อนจะเลื่อนไปที่ริมฝีปากอิ่มของอีกฝ่าย
“นัท
อื้อ ไม่เอา หยุด”
สิ้นเสียงริมผีปากนัทก็ประกบไปที่ริมฝีปากของร่างบางราวกับจะปิดเสียงห้ามนั้นด้วยปาก ร่างสูงดูดเม้มริมฝีปากที่ปิดสนิทของอีกฝ่ายอย่างชำนาญ จนในที่สุดก็ควานเข้าไปฉกชิมความหวานภายในริมฝีปากของซินได้สำเร็จ เล่นเอาซินที่เป็นฝ่ายรับอารมณ์ของอีกฝ่ายระทวยจนต้องเอามือไปโอบรอบคออีกฝ่ายไว้แน่น กำแพงในหัวใจที่เคยกั้นไว้พังทลายไปจนหมด
ซินบอกไม่ได้ถึงเหตุผลที่อยู่ๆก็เมินคนข้างหน้า ร่างบางจึงตอบไม่ได้ว่านัททำผิดอะไร
บางที
ก็อาจจะเป็นแค่อารมณ์หงุดหงิดที่ช่วงหลังๆอีกคนออกไปนู่นไปนี่กับสาวน้อยคนหนึ่งบ่อยไปเท่านั้นแหละ
ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันใช่รักไหม? เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีอาจจเพียงแค่ซินไม่อยากเห็นนัทไปให้ความสนใจใครมากกว่าตัวเองก็เท่านั้นนั้น
ความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้นอาจจะต้องใช้เวลาและการกระทำอีกมากมายเพื่อตัดสิน รู้อย่างเดียวว่าในตอนนี้
เขาอยากให้คนๆนี้มองเพียงเขาแค่คนเดียว
และไม่เคยสังเกียจสัมผัสของนัทเลยสักครั้ง
..................
.
“ไอ้บ้านัท เราจะทำงาน
อย่าเอาคางมาเกยเซ่~ มันน่ารำคาญ อื้อออ” ซินกล่าวประท้วงแกมด่าอีกคนที่ทำให้เสียสมาธิ แต่เหมือนคนโดนด่าจะดูไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด มือกีตาร์ที่มีสัดส่วนละม้ายคล้ายถั่วงอกยังเอาหัวโตมาเกยเล่นที่ไหล่ของอีกฝ่าย
“หรือจะทำแบบเมื่อวานดีจ้ะพี่ซิน หึหึหึ”
“ไอ้หื่น กูเพื่อนมึงน้า ออกปายย~”
แล้วคิดว่าคนสวยจะรอดไหม?
FIN
talk : เรื่องที่สองตามมาแล้ว~~ ใครที่รีเควสอยากอ่านมุมมองพี่ซิน จัดให้แล้วนะจ้ะ
เจอกันใหม่เรื่องหน้า ครึ้มๆ เกิดมีเรื่องที่อยากเขียนอีกจะเอามาลงคร้าบบ
รักคนเม้นกับอ่าน
ความคิดเห็น