ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF Singular [รวมเรื่องสั้นตามอารมณ์]

    ลำดับตอนที่ #1 : Un : ง้อ(nut)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.17K
      8
      26 มิ.ย. 55

     SF singular

    Un : ง้อ

     

              “ดีวีดีคอนเสริต ใกล้จะจะออกแล้ว เดือนหน้าชัวร์ ถ้าไม่ออกนี่ให้ยำยำยำใครดีฮะ นักร้องนำบนเวทีเข้าช่วงท็อคช่วงสุดท้ายก่อนจะจบไลฟ์ในคืนนี้ ใบหน้าหวานๆหันไปมองรอบเวทีว่าจะส่งมุกไปให้ใครดี

     

                    ไม่เกี่ยวกับผมนะฮะ ผมทำส่วนของผมเสร็จแล้วนะครับมือกีตาร์ที่ดูจะประหยัดถ้อยประหยัดคำมากในช่วงไลฟ์หลังๆพูดขึ้นมาแบบไม่ได้เตี้ยมไว้ก่อนกับนักร้องนำ สายตามองไปที่เพื่อนสนิทเพื่อคอรอยการตอบสนองของอีกฝ่าย แต่เปล่าเลย นอกจากซินจะไม่ตอบมุกที่อุตส่าห์ส่งไปให้แล้ว ร่างบางยังทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของเขา แถมยังมองผ่านเลยไปไหนต่อไหนรอบเวที จนมาจบที่

     

                    ยำแบงค์ละกันนะครับพูดจบก็พยักเพยิดกับแบ็คอัพข้างหลังพลางพูดเข้าเพลงสุดท้าย ปล่อยให้มือกีตาร์ใจหล่อหน้ามึนยืนอึ้งที่ช่วงนี้ถูกเพื่อนสนิทหน้าสวยเมินบ่อยเหลือเกิน นัทขึ้นอินโทรเพลงต่อไป แต่ในใจนั้นกำลังสาปส่งแบงค์อย่างเมามัน

     

    เชี่ยแบงค์ มึงแย่งหน้าที่กู ….ปกติคนที่ไอ้ซินแซว ให้มารุมยำ มากระทืบ บนเวทีต้องเป็นกูคนเดียววววววว แม่งงงงง   กูเกลียดมึ๊งงง กูน้อยใจT^T

     

    แต่ก็ได้แต่เพียงสาปส่งอยู่ในใจ แม้จะรู้ว่ามันไม่ได้ความผิดแบ็คอัพตัวเองเลยแม้แต่นิด ประเด็นจริงๆมันอยู่ที่ซินต่างหากล่ะที่เมินเขา  แต่ไอ้ครั้นจะให้ไปสาปส่งซินในใจ ชายโชก็ไม่แม้แต่จะกล้าคิด เพราะรู้อยู่ว่าเพื่อนสนิทคนนี้มีสโลแกนประจำตัวว่า กูถูกเสมอ!”

     

    อะไรนะ….เสียงใครดังแว่วๆผ่านหูว่าเขากลัวซิน?

    ไม่ได้กลัวเว้ย  แค่เกรงใจอ่ะ ชัดมั้ย แค่ไม่อยากขัดใจมันเฉยๆ เปล่ากลัวจริงๆนะครับ(= v =);;;

     

    นัทยังเล่นกีตาร์ต่อไปเรื่อยๆ ร่างสูงพยายามส่งอารมณ์ร่วมไปให้คนที่ยืนร้องอยู่ข้างๆ ด้วยการเข้าไปโซโล่ใกล้ๆ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความว่างเปล่าล้วนๆ ซินยังคงร้องเพลงต่อไปด้วยหันไปมองทุกในร้านยกเว้นมุมข้างๆตัวเองที่มีนัทนัทยืนอยู่เท่านั้น  คนถูกเมินเหมือนจะไม่ละความพยายามโดยการแอบมองซินเป็นระยะๆ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่มองกลับมาเลยแม้แต่น้อย

     

    นี่ตกลงผมมาเล่นคนละงานกับซินใช่ไหม? แม่งงง…. กูเซ็ง!!=______________=

     

     

              “ซินกลับแล้วนะฮะ ขอบคุณทุกคนมากครับซินยิ้นหวานพลางกล่าวลากับเจ้าของเจ้ารวมไปถึงทีมงานทุกคน ไม่เว้นแม่แต่แฟนคลับที่มารอขอถ่ายรูปและทีมแบ็คอัพเอ่อเว้นไว้คนเดียวที่ร่างบางไม่แม้จะหันมามองเลยแม้แต่น้อย เป็นใครไม่ได้นอกจากคุณมือกีตาร์ที่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บกีตาร์ลูกรักอยู่นั่นเอง

                    เดี๋ยวซิน แล้วกลับไง ป๊ามารับแล้วเหรอ?ถามออกไปขณะที่อีกคนกำลังจะเดินออกจากร้าน แต่ดูเหมือนคนถูกถามจะไม่ค่อยใส่ใจแต่อย่างใด ร่างเพรียวบางเดินฉับๆออกจากร้านโดยไม่ใส่ใจจะกลับมาตอบคำถามแม้แต่น้อย สร้างความมึนงงให้กับคนถามรวมไปถึงทีมงานทุกคนที่ตอนนี้กำลังมองเขาอย่างจับผิดก่อนแต่ละคนจะรัวคำถามมาใส่เขาแบบไม่ยั้ง

                    เฮ้ยนัท มึงไปทำอะไรให้ซินโกรธวะ?

     

              “ไปขอโทษซินเลยนะเว้ย ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน

     

              “แม่งไอ้นัทรังแกซินตลอด นิสัย!”

     

                    หรือว่ามึงได้ซินแล้วทิ้งวะ”  คำถามสุดท้ายออกมาจากปากพี่โอ๊ต ทำให้นัทแทบสะดุ้ง พลางค้อนตาลีตาเหลือกใส่คนที่ใส่ความ

     

              “บ้ารึไงพี่ เป็นเพื่อนกันเฉยๆมั้ย? หรือถึงผมจะอยากได้มัน มันก็คงไม่ยอมผมหรอกเฮ้ย ไม่ใช่!”

              เอาแล้วไง เห็นมะไอ้พี่พวกนี้  แซวกันจนซะจนกูเคลิ้ม=.=

     

                    ทำไมพวกพี่ถึงคิดว่าผมผิดท่าเดียวเลยอ่ะ ไม่คิดมั่งเหรอว่าซินต้องมาง้อผมบ้างอ่ะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะครับนัทตัดพ้อก๊วนทีมงาน พลางยกแก้วของเหลวสีอำพันเข้าปาก

                    ไม่เคยคิดอ่ะ เอาจริงๆนะนัท ยังไงมึงก็ผิดตลอด เสียงจากพี่ม่อนแว่วมา พลางหัวเราะชอบใจในชะตากรรมของร่างสูงที่มีป้ายแปะติดหัวว่า *ผิดตลอด*

              “ความจริงจะง้อซินมันไม่มีอะไรยากหรอก กูแนะนำให้เอาป่าวววว?พี่เดฟพูดพร้อมทำหน้าตาจริงจรังจนนัทสนใจไม่น้อย ร่างสูงยกแก้วเบียร์ในมือมาจิบเป็นระยะพลางฟังอีกคนอย่างตั้งใจ

                    สามวิธีง่ายๆเว้ย ขั้นที่หนึ่งทำยังไงก็ได้ให้อยู่ด้วยกันสองคน ยิ่งในห้องนอนยิ่งดี อะไรๆมันจะได้ง่ายๆหึหึ

     

              วิธีพิสดารข้อแรกก็ทำเอานัทกลืนน้ำลายเอื้อกอย่างหวาดเสียว ก่อนจะยกเบียร์ขึ้นจิบอีกเป็นครั้งที่สอง

                    สองขอโทษซะ ง้อยังไงก็ได้ให้แม่งหายโกรธ แต่กูว่าไอ้ซินมันดื้อ ไม่ยอมมึงดีๆหรอกเพราะงั้นทีเด็ดอยู่นี่เว้ย ขั้นที่สาม

     

              “ถ้ามันไม่ยอม มึงก็กอดเลยเว้ย กอดแน่นๆ  ตอนแรกๆอาจจะมีดิ้นบ้าง แต่ไม่เป็นไร กอดไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หยุดดิ้น ต่อจากนั้นมึงจะอธิบาย จะขอโทษ จะง้อ จะทำอย่างอื่นต่อก็สุดแล้วแต่

     

              “แค่กๆๆ เชี่ย นัทที่สำลักเบียร์ตั้งแต่งประโยคที่ว่า กอดแน่นๆ กำลังจัดการกับเสื้อที่เปียกของตนเอง ปากก็บ่นเจริญพรคนที่ทำให้สำลักไปพลางๆ

                      

              “วิธีบ้าอะไรวะพี่ ขนลุก

     

                    กูอ่านเจอในนิยายมาเว้ย รับรองผล เพราะใช้กับเมียมาแล้ว หึหึหึอีกฝ่ายยังยืนยันขันแข็ง แต่ดูเหมือนคำพูดรับรองของเดฟไม่ได้ทำให้ร่างสูงรู้สึกเชื่อมั่นมากขึ้นเลยแม้แต่น้อย

     

              “แต่นั่นมันซินนะพี่ ไม่ใช่เมียพี่ซะหน่อย เกิดผมซี้ซั้วลากไปไหนด้วยกันแค่สองต่อสอง ไม่ต้องรอให้ถึงขั้นกอดหรอกครับ แค่จูงมือลากมันเข้าห้องก็โดนหลังแหวนหน้าแหกแล้วกล่าวท้วงในความปลอดภัยเบาๆ ยิ่งนึกไปถึงแหวนแต่ละวงที่คนหน้าหวานชอบใส่ยิ่งขยาดจนต้องกลืนน้ำลายเอื้อก

              “กล้าๆหน่อยดิเฮ้ย หรือจะยอมให้ไอ้ซินมันเมินมึงอยู่อย่างนี้วะ เรื่องจัดฉากง้อกูคิดออกละ มึงไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพวกพี่จัดให้เว้ย

              “เฮ้ยพี่ เอาจริงเหรอ?กลายเป็นว่าคนอยากง้อเป็นฝ่ายลังเลซะเอง ทีมงานที่พยักหน้ากันพร้อมเพรียงแทนคำตอบว่าพวกกูเอาจริงทำให้หวั่นใจไม่น้อย

    พ่อแก้วแม่แก้ว ขอให้ลูกช้างไปง้อซินกลับมาด้วยอาการครบสามสิบสองด้วยเถอะครับT^T

     

    ..................….

     

                    ร่างสูงนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงในห้องตัวเอง ระหว่างรอซินที่ดูเหมือนจะไปหายาแก้แฮงค์กับผ้าขนหนูมาเช็คตัวให้เขาในครัว สุดท้ายนัทก็ได้อยู่กับซินสองต่อสองสมใจโดยไม่ต้องเสี่ยงหลังแหวนเลยแม้แต่น้อย ต้องยกความดีความชอบให้พี่โอ๊ตที่เป็นคนคิดแผนให้เขาแกล้งเมา ก่อนที่แบงค์จะโทรตามซินขอร้องให้มาดูแลเพราะอ้างว่าไม่มีใครอยู่บ้านนัทสักคน แถมพวกพี่ก็อยู่ดูแลเขาไม่ได้เพราะต้องรีบไปทำธุระต่อ จนสุดท้ายซินก็ใจอ่อนให้ป๊ามาส่งที่บ้านเขา

              แต่อันที่จริงจะว่าเขาแกล้งเมาก็ไม่ถูกทั้งหมดอ่ะน่ะ เพราะไอ้อาซาฮิที่ยกจิบเอาๆเมื่อกี้มันเริ่มออกฤทธิ์ซะแล้ว- -”

                    เสียงฝีเท้าดังขึ้นหน้าประตู ก่อนที่มันจะถูกเปิดออก ร่างสูงรีบกุลีกุจอจัดร่างนอนพลางแกล้งหลับ ก่อนที่ซินจะเปิดประตูเข้ามา อีกไม่กี่อึดใจก็รู้สึกถึงสัมผัสเย็นๆนุ่มๆที่ตรงหน้า ไล่มาจนถึงคอ แขน ที่ผ่านพ้นเสื้อออกมา

                    นัท ตื่นกินยา ร่างบางเขย่าแขนเบาๆ นัทจึงลืมตาๆ ก่อนที่จะรับยามาจากมืออีกฝ่าย ร่างสูงกลืนยาและน้ำตามพลางมองหน้าผู้ดูแลจำเป็นไปด้วย เมื่อซินเห็นว่านัทกินยาเสร็จแล้วก็ทำท่าว่าจะเดินออกจากห้องไป ร่างสูงที่ทำอะไรไม่ถูกก็คว้ามืออีกคนหมับ ส่งสายตาไปอ้อนอีกคนอย่างขอความเห็นใจ

                    ทำไม?ซินมองคนพยายามอ้อนด้วยสายตาเฉยชา พยายามจะสะบัดมือให้พ้นจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย

                    อยู่กับกูก่อนได้มั้ย …” นัทจ้องตาอีกคนอย่างขอความเห็นใจอีกครั้ง แต่คราวนี้ซินกลับหลับสายตาอย่างที่ไม่ให้ร่างสูงเดาอารมณ์ถูก นัทเห็นอย่างนั้นจึงตัดสินใจดึงคนหน้าสวยเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะโผตัวเข้ากอดอีกฝ่ายแน่น

                    นัทเชี่ยนัท ปล่อยเราคนหน้าหวานได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอด จนสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้ได้แต่ยืนนิ่งๆให้นัทได้รุนรานตามใจชอบ

              “กูไม่รู้ว่ามึงโกรธกูเรื่องอะไร แต่อย่าเป็นแบบนี้ต่อไปเลยนะซิน กูขอโทษเลิกเมินกูเถอะกูรู้สึกไม่ดีเลยเวลามึงไม่เล่นกับคนอื่นที่ไม่ใช่กู เพราะสำหรับกู มึงสำคัญว่ะซินนัทกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งกลิ่นหอมอ่อนๆที่มาจากตัวอีกฝ่ายบวกกับฤทธิ์เบียร์ที่กินไปส่งผลให้เขาควบคุมตัวเองไดไม่ดีนัก นัทซุกไซร้ร่างบางอย่างพอใจ ก่อนจะเลื่อนไปที่ริมฝีปากอิ่มของอีกฝ่าย

              “นัท อื้อ ไม่เอา หยุด

              สิ้นเสียงริมผีปากนัทก็ประกบไปที่ริมฝีปากของร่างบางราวกับจะปิดเสียงห้ามนั้นด้วยปาก ร่างสูงดูดเม้มริมฝีปากที่ปิดสนิทของอีกฝ่ายอย่างชำนาญ จนในที่สุดก็ควานเข้าไปฉกชิมความหวานภายในริมฝีปากของซินได้สำเร็จ เล่นเอาซินที่เป็นฝ่ายรับอารมณ์ของอีกฝ่ายระทวยจนต้องเอามือไปโอบรอบคออีกฝ่ายไว้แน่น กำแพงในหัวใจที่เคยกั้นไว้พังทลายไปจนหมด

     

                    นัทไม่ได้หน้ามืดหรือเมาจนขนาดที่ลืมว่าคนที่กำลังจูบตรงหน้าคือเพื่อนสนิทที่ทำเพลงมาด้วยกันมาสี่ปี แต่ความรู้สึกบางอย่างในจิตใจสั่งให้เขาทำอะไรแบบนี้ลงไป ความโหยหาที่ถูกใครอีกคนเมินมาช่วงนึงเต็มๆทำให้อยากเก็บทั้งดอกทั้งต้นโดยการฟัดคนที่ทำให้ต้องน้อยใจให้หนำใจ สมกับที่เขาถูกละเลย

     

    ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันใช่รักไหม? อาจจะต้ฮงใช้เวลาหรือการกระทำอีกมากมายเพื่อตัดสิน รู้อย่างเดียวว่าในตอนนี้เขาขาดคนๆนี้ไม่ได้

    ขาดซินไม่ได้จริงๆ

     

                    ..................….

     

     

    ฮ้าวเฮ้ย วันนี้เข้าบริษัทพร้อมกันซะด้วย โอ๊ตกล่าวทักดูโอ้ในความดูแล ก่อนที่จะกระซิบเบาๆกับมือกีตาร์ให้พอได้ยินกันแค่สองคน

    แสดงว่าวิธีของไอ้เดฟเมื่อวานได้ผลเหรอวะ?

     

    อย่างเจ๋งอ่ะพี่ ไว้วันหลังจะเลี้ยงขอบคุณทั้งก๊วนเลยนัทตอบ ก่อนจะชวนซินเข้าไปที่สตูอัดเพลงโอ๊ตมองสองคนที่ดูเทคแคร์กันกว่าปกติ ยิ่งซินที่ยิ้มหวานอยู่ตลอดทั้งที่เมื่อคืนพอมองหน้านัททีไร เป็นอันต้องทำหน้าเหมือนใครตายทุกทีอย่างประหลาดใจ ก่อนคิดกล่าวสรรเสริญมือกลองของวงแบ็คอัพอย่างชื่นชม

    ไอ้เดฟแม่งเทพว่ะ ต่อไปคงต้องลองใช้วิธีนี้กับสาวๆดูมั่งแล้ว หึหึหึ

    Fin

     talK : กลับมาพร้อมฟิคสั้นค่ะ 555
    รักคนเม้นคนอ่านเหมือนเดิมครับ>M<

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×