ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Story in Reverse (HP/DM)

    ลำดับตอนที่ #5 : 5.1 Dangerous Liaison

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 59


    ตอนที่ 5: Dangerous Liaisons         

     I didn't understand what was happening to me. And it was only when I began to feel actual, physical pain every time you left the room that it finally dawned on me: I was in love, for the first time in my life. I knew it was hopeless, but that didn't matter to me.- Choderlos de Laclos, Dangerous Liaisons


                “ยินดีต้อนรับกลับเพื่อน” รอนพูดแล้วดึงตัวเพื่อนรักเข้ามากอดแน่น ส่วนแฮร์รี่เองก็อดยิ้มกว้างไม่ได้ เขาคิดถึงที่นี่ ชายหนุ่มคิดขณะมองไปรอบๆสำนักงานมือปราบมาร ผู้วิเศษในเสื้อคลุมสีเลือดหมูของมือปราบมารพากันเดินขวักไขว่ เสียงตะโกนดังขึ้นไปทั่ว เป็นภาพแห่งความวุ่นวายโดยแท้ เป็นความวุ่นวายนี้แหละคือโลกของเขา ไม่ใช่คฤหาสน์กลางป่า ชาอังกฤษ และบทเรียนมารยาท แม้ว่าสิ่งหลังนั้นจะทำให้ใจเขาเต้นเร็วขึ้น แต่ก็เป็นเพราะคนที่เจอ หาใช่เพราะว่ามันน่าตื่นเต้นและเป็นชีวิตและลมหายใจของเขาเหมือนกับการออกล่าผู้ร้ายไม่

                    “รู้ยังงานใหม่ของนายน่ะทำกับฉัน” รอนพูดต่อ พร้อมกับเดินไปที่ห้องทำงานของหัวหน้ามือปราบมารด้วยกัน

                    “แล้วงานนี้นายจะบู๊ขนาดไหนก็ตามใจเลยเพื่อน” ชายหนุ่มผมแดงหัวเราะลั่น

     

                    แล้วก็เป็นดั่งที่รอนเล่าให้ฟัง เขาถูกมอบหมายให้ทำงานติดตามขบวนการลักลอบขายน้ำยาวิเศษที่มีฤทธิ์เสพติดอย่างรุนแรง มันออกฤทธิ์หลอนประสาทและโด่งดังมากในหมู่นักเที่ยวยามราตรี แฮร์รี่ฟังหัวหน้ามือปราบมารและเพื่อนสนิทบรีฟคดีให้ฟังแล้วคิดตาม

                    “แล้วนี้มีใครไปคุยกับพวกน๊อตต์รึยังครับ พวกเขาเป็นผู้ขายเครื่องปรุงยาวิเศษทั้งหลายไม่ใช่หรือ” แฮร์รี่เสนอขึ้นมาหลังจากฟังจบ

     

                    “ฉันประหลาดใจนะพอตเตอร์ที่เธอรู้ว่าคนที่คุมกิจการเครื่องปรุงยาคือพวกตระกูลน๊อตต์ แล้วก็ไม่ต้องห่วงวีสลีย์จัดการแล้ว”

     

                    แฮร์รี่พยักหน้าตอบรับ เขาก็ประหลาดใจเหมือนกันที่ตัวเองจำเรื่องที่เรียนกับแอสเทอเรียได้เยอะขนาดนั้น และเรื่องพวกนั้นมันก็เป็นประโชน์จริงๆเสียด้วย

     

                    “งานที่เหลือก็แค่จับพวกมันให้ได้พร้อมของกลาง วันนี้สายเราบอกว่าจะมีคนส่งยาเข้าไปในคลับพิษรักเซนเทอร์ ที่พวกนายต้องทำก็คือบุกจับมันให้ได้ งานนี้งานถนัดของนายอยู่แล้วนี้พอตเตอร์”  

                   

                    หลังจากนั้นพวกเขาก็วางแผนล้อมจับ และให้โรบาดส์ลงชื่ออนุญาตกับแผนการที่ว่า แต่ก่อนที่แฮร์รี่และรอนจะกลับออกไป หัวหน้าสำนักงานมือปราบมารก็เรียกเขาไว้เสียก่อน

                    “พอตเตอร์ขอคุยด้วยหน่อย”

     

                    แฮร์รี่พยักหน้าบอกรอนว่าเขาไม่เป็นไร ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินกลับมานั่งหน้าชายสูงวัยอีกครั้ง

                   

                    “เรื่องกรีนกราสเป็นยังไงบ้าง” โรบาดส์เข้าเรื่องทันที

     

                    “อย่างที่ผมเขียนในรายงาน เดฟนี กรีนกราสไม่เกี่ยวข้องกับวอลเตอร์ เรนฮาร์ท เธอไม่ได้มีส่วนรู้เห็น หรือว่าพยายามจะช่วยเหลือเขาเลยสักนิด” ชายหนุ่มตอบกลับ

     

                    มือปราบมารโรบาดส์พยักหน้า ก่อนจะมองตรงมาที่แฮร์รี่อีกครั้ง “แล้วเธอล่ะเป็นยังไงบ้างพอตเตอร์ เดมิทริสบอกว่าเธอเข้ากับพี่น้องกรีนกราสได้ดี เขาชอบเธอด้วยซ้ำ ฉันประหลาดใจนะพอตเตอร์”

     

                    แฮร์รี่กลืนน้ำลาย ไม่แน่ใจว่าหัวหน้าของเขาต้องการอะไร แต่ชายหนุ่มก็คงสีหน้าให้เรียบเฉยมากที่สุดขณะตอบกลับ “ผมก็สบายดีครับ ทุกคนในเวิร์ทวูดเป็นมิตรมาก ทำให้การทำงานของผมง่ายขึ้นมาก แล้วผมยังได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะจากการใช้เวลาสามสัปดาห์ที่นั้นด้วย”

     

                    ชายสูงวัยเลิกคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ถามต่อ “อีกเรื่องที่ฉันอยากคุยกับเธอ ก็คืองานและแผนการในอนาคต เธออยู่กับสำนักงานมาห้าปีแล้วนะพอตเตอร์ เธอเป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุดที่เรามี ทุกคดีที่เธอรับผิดชอบไม่มีที่ติ ที่จริงฉันกำลังพิจารณาเลื่อนขั้นเธอเป็นมือปราบมารอาสุโสด้วยซ้ำ แต่รู้ไหมทำไมฉันลังเล”

     

                    “รู้ครับ เพราะนิสัยมุทะลุ หุนหันพลันแล่น แล้วก็ความไม่ได้เรื่องในการเข้าใจการเมืองอย่างที่คุณด่าผมเสมอๆ” แฮร์รี่พูดยิ้มๆ เขาจะเปลี่ยนอะไรไม่ได้หากเป็นแค่เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ ชายหนุ่มคิดในใจอย่างมุ่งมั่นก่อนจะพูดต่อ

                    “แต่ผมรู้ว่านั้นไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง สำนักงานมือปราบมารเป็นอิสระก็จริง แต่เราก็ต้องการการสนับสนุนจากฝ่ายอื่นในกระทรวงเวทมนตร์ แล้วสังคมผู้วิเศษก็เกี่ยวพันกันกับตระกูลต่างๆอย่างแยกไม่ออก ถ้าคุณให้โอกาสผม ผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าผมไม่ใช่แค่มือปราบมารที่ชอบบุกเดี่ยวเข้าไปจับฝ่ายมืดอีกแล้ว ผมสามารถวางแผน ขอความร่วมมือ และเป็นหัวหน้าได้ ผมอาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปกลายเป็นคนอย่างคุณหรือคิงสลีย์ แต่ผมก็ไม่ใช่คนเดิมที่คุณคิดอีกแล้วนะครับ” แฮร์รี่พูดจบในรวดเดียว เขามีเวลาอีกไม่ถึงสิบปีก่อนที่กาเวน โรบาดส์จะเกษียน แฮร์รี่สัญญากับตัวเองว่าเขาจะต้องขึ้นเป็นหัวหน้ามือปราบมารให้ได้ เขาไม่ได้หวังในตำแหน่งหรืออะไร แต่การคุยกับแอสเทอเรียทำให้เขาเข้าใจว่าเขาจะทำอะไรได้มากเพียงไหนถ้าเขาขึ้นเป็นหัวหน้า

     

                    โรบาดส์เงียบไปสักครู่ ก่อนจะยิ้มออกมา “ฉันจะเก็บไปพิจารณานะพอตเตอร์ เอาล่ะออกไปได้แล้ว แล้วจับขบวนการค้ายานี้ให้ได้ล่ะ”

    .

    .

    .

                    “แฮร์รี่!” รอนกระซิบใส่หูแฮร์รี่ขณะที่พวกเขาซุ่มอยู่ที่ตึกตรงข้ามกับคลับพิษรักเซนเทอร์ สายของพวกเขาบอกว่าพวกนี้จะมาส่งยาโดยมาพร้อมกับเหล้า เพราะฉะนั้นพวกเขากำลังรอให้รถส่งเหล้าเข้ามาเสียก่อนที่จะบุกเข้าไป แฮร์รี่เฝ้ามองประตูออกด้านหลังที่เชื่อมกับครัวและที่เก็บของ

     

                    “อะไร” ชายหนุ่มหันมามองเพื่อนรักอย่างงงๆ ไม่เข้าใจทำไมรอนต้องกระซิบด้วย แต่รอนกลับลากเขาไปที่อีกหน้าต่างหนึ่งที่มองเห็นทางเข้าของคลับได้อย่างชัดเจน

     

                    “มัลฟอย” รอนพูดต่อ มือชี้ไปร่างสูงโปร่งผมสีอ่อนที่ก้มหน้าแล้วรีบเดินเข้าไปในคลับเหมือนกลัวว่าคนจะจำได้

                    “แล้วนายก็รู้ว่าพิษรักเซนเทอร์เป็นคลับแบบไหน” ชายหนุ่มผมแดงพูดต่อพร้อมทำตาโต

     

                    ...รู้สิ...แฮร์รี่ตอบกลับในใจ พิษรักเซนเทอร์เป็นคลับเฉพาะที่เปิดรับเฉพาะสมาชิกเท่านั้น ค่าสมาชิกรายปีสูงลิ่ว และสมาชิกก็มีแค่ผู้ชายเท่านั้นด้วย สั้นๆก็คือคลับเกย์นั้นเอง และเป็นคลับที่ใช้เพื่อหาคู่นอนโดยเฉพาะอีกด้วย ข้างล่างเป็นเป็นคลับส่วนที่เหลือของตึกถูกเปลี่ยนเป็นห้องโรงแรม

                     

                    “ให้ตายสิไอ้เฟอเร๊ตมันชอบผู้ชายเหรอวะ แม่งน่าจะเดาออก ผู้ชายแท้คนไหนกันวะที่จะไปคบกับยัยหน้าหมาปั๊กอย่างแพนซี่ได้ คงแค่เอาไว้บังหน้า” รอนพูดต่อโดยไม่ได้สนใจว่าคนข้างๆตัวเขาเงียบสนิท

                    “เอ หรือว่าจะเป็นไบ เพราะเจ้านั้นมันมีคู่หมั้นอยู่นี้” ชายหนุ่มผมแดงคิดออกมาดังๆ ก่อนจะต้องสะดุ้งโหยงเมื่อแก้วน้ำข้างๆตัวเขาระเบิดออก

                    “ฮะ...แฮร์รี่...เป็นอะไรไปเพื่อน”

     

                    ชายหนุ่มผมดำพยายามควบคุมความโกรธของตัวเอง แต่มันก็ยากเย็นเต็มที มัลฟอยทรยศแอสเทอเรียหรอกหรือ ทั้งๆที่เธอรักเขาเสียขนาดนั้น เขาแทบอยากจะหายตัวเข้าไปในคลับนั้นซะเดี๋ยวนี้แล้วกระชากคอมัลฟอยออกมา เจ้าบ้านั้นคิดอะไรอยู่กันนะ

                    แต่เขามีงานที่ต้องทำ รอให้จบงานนี้ก่อนเถอะ เขาจะกระชากหน้ากากของไอ้ปลิ้นปล้อนนั้นออกมาให้ได้เลย

     

    ########

     

                    เดรโกมองเครื่องดื่มตรงหน้าแล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง หลังจากเรื่องเมื่อวานเขาก็ยังไม่ได้บอกใครเรื่องจะแต่งงานกับแอสเทอเรีย ถึงมันจะเป็นความตั้งใจของเขาแต่ชายหนุ่มก็ยังอดรู้สึกแปลกๆไม่ได้ เขากำลังจะโกหกพ่อกับแม่อีกครั้ง แถมหากแต่งงานไปแล้วเขาคงไม่สามารถมาคลับแบบนี้ได้ เพราะถึงแม้เขาจะไม่ได้รักแอสเทอเรียแบบนั้น แต่เขาก็ไม่มีวันทำให้เธอต้องเสียชื่อหากมีคนจับได้

                    ชายหนุ่มยกแก้วขึ้นดื่ม เขาเริ่มรู้สึกถึงฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไปแล้ว สติของเขาค่อยๆพร่ามัว แต่จะเป็นไรเล่า หากเขาเมาคืนนี้ก็แค่เปิดห้องนอนที่นี่เท่านั้น เดรโกคิดแล้วยักไหล่ก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มอีกแล้ว

     

                    “คุณหนูมัลฟอย ไม่เห็นเสียตั้งนาน” เสียงทุ้มดังมาจากข้างหลังเขา พร้อมกับมืออุ่นแตะที่ไหล่เขา

     

                    “วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์” เดรโกตอบสั้นๆ ซึ่งนั้นก็คือความจริง ตั้งแต่เขาแน่ใจว่าเขารู้สึกอย่างไรกับพอตเตอร์ ความรู้สึกที่จะไปผูกสัมพันธ์กับคนอื่นก็ลดฮวบฮาบ วันนี้ก็เช่นกัน เขามาที่นี่ไม่ใช่เพื่อจะหาคู่นอนเหมือนทุกที แต่เพื่อดื่มเงียบๆ ข้อดีของที่นี่คือมันเป็นคลับเฉพาะ ดังนั้นจึงไม่มีคนพลุกพล่านเช่นเดียวกับที่อื่น แถมบาร์เทนดอร์ของที่นี่ยังชกเครื่องดื่มได้เหมาะเจาะถูกใจเขาอีกด้วย

     

                    “วันนี้อารมณ์ไม่ดีเหรอครับคุณหนู” เดรโกกลอกตา บางทีเขาน่าจะกลับไปดื่มที่บ้านนะ อย่างน้อยๆก็ไม่มีใครมากวนใจเขาให้รำคาญแบบนี้

     

                    “ชาร์ล—“ เดรโกพูดขึ้น

     

                    “ผมแพทริคต่างหาก ให้ตายสิเดรโก” ชายหนุ่มส่ายหน้า “คราวนี้ผมจะทำให้คุณแน่ใจเลยว่าคุณจะไม่ลืมชื่อผม” ชายที่ชื่อแพทริคพูด พร้อมกับส่งสายตาน่ารังเกียจมาให้เขา พร้อมกับเลื่อนมือขึ้นมาสัมผัสต้นขาเขาด้วย เดรโกขยับตัวหนี แต่เพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปทั้งหมดทำให้ชายหนุ่มเคลื่อนที่ไม่ได้ตามที่ใจคิด

                    “โอ๊ะ โอ ดูท่าคืนนี้คุณหนูมัลฟอยคงกลับบ้านไม่ไหวแล้วสินะครับ” เสียงกระซิบข้างหูจากคนที่ลุกขึ้นมาประคองเขา เดรโกถอนหายใจอย่างเซ็งๆ

     

                    “แล้วก็ทำอย่างอื่นไม่ไหวด้วย วันนี้ฉันมาดื่มอย่างเดียว” เดรโกพูดด้วยเสียงเด็ดขาด หรืออย่างน้อยๆก็เด็ดขาดเท่ากับคนที่เมาแอ๋จะทำได้ล่ะนะ

     

                    และก่อนที่อีกฝ่ายจะตอบออกมา เสียงระเบิดก็ดังขึ้น ประตูคลับถูกระเบิดออก มือปราบมารและเจ้าหน้าที่จับกุมทั้งหลายพากันกรูเข้ามา เสียงตะโกนบอกให้ทุกคนหยุดนิ่ง เดรโกตกใจแต่สัญชาติญานความเอาตัวรอดของเขายังมีอยู่เต็มเปี่ยม ให้ตายสิไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรล่ะ แต่เขาไม่ยุ่งด้วยแน่ เขาไม่อยากขึ้นข่าวหน้าหนึ่งของเดลี่โพรเฟ็ตพรุ่งนี้ คิดแล้วหนุ่มผมทองก็จะหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมา พร้อมกับพยายามสะบัดร่างของแพทริคที่ยังคงกอดเขาเอาไว้แม้จะตกใจอยู่ก็ตาม

                    “ปล่อย ฉันจะกลับบ้าน” เดรโกพูดเสียงเครียด พร้อมกับพยายามแกะมือหนวดปลาหมึกของอีกคนออก ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าแขนที่กอดเขาเอาไว้แน่นนั้นรีบปล่อยเขา แต่อาการโล่งอกก็หายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นสาเหตุที่แพทริครีบปล่อยเขา

                    พอตเตอร์ยืนตัวตรงจ้องเขาเขม็ง ตาสีเขียวเป็นประกายโรจน์ เห็นได้ชัดว่ามือปราบมารหนุ่มกำลังโกรธจัด ชายหนุ่มผมดำไม่รอให้เขาพูดอะไร ร่างนั้นคว้าข้อมือเขาแล้วลากเขาออกมาจากหน้าบาร์ทันที พร้อมกับตะโกนสั่งเพื่อนร่วมงาน

                   

                    “รอน ได้ตัวมันไหม”

                   

                    วีสลีย์หันกลับมาพร้อมจะตอบกลับ ก่อนจะปิดปากเมื่อเห็นว่าคนที่พอตเตอร์จับแขนไว้คือใคร

                   

                    “พอตเตอร์ปล่อยนะ นายจะจับฉันได้ไง” เดรโกตะโกนใส่ร่างสูงที่เหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขาหันไปมองวีสลีย์อย่างขอความช่วยเหลือ

     

                    ชายหนุ่มผมแดงมองเขากับพอตเตอร์สลับกัน ก่อนจะเปิดปากพูด “ได้ พร้อมของกลางด้วย ส่งมันกลับไปที่ห้องสอบปากคำที่สำนักงานแล้ว เอ่อ นายจับมัลฟอยทำไมพวก หมอนั้นเอี่ยวด้วยเหรอ”

     

                    “ไม่เกี่ยวเลยสักนิด ฉันไม่รู้ว่าพวกนายมาทำอะไรที่นี่ ฉันแค่เข้ามาดื่ม ถามบาร์เทนเดอร์หรือผู้ชายที่ชื่อแพทริคนั้นก็ได้” เดรโกพูดอย่างเร็ว ทั้งเหล้า ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้น มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังจะอาเจียน

                    แล้วทำไมพอตเตอร์ถึงต้องมองเขาด้วยสายตาเหมือนจะเผาเขาตอนที่เขาพูดถึงชื่อแพทริคด้วยล่ะ

     

                    “รอนนายจัดการต่อได้นะ ฉันกับมัลฟอยมีเรื่องต้องคุยกัน ยาวเลยด้วย” พูดจบพอตเตอร์ก็ลากแขนเขาให้เดินตามขึ้นบันไดไปที่ห้องพักข้างบน แต่มีหรือที่เดรโกจะยอมง่ายๆ เขาขัดขืนสุดชีวิต เขาพอจะรู้หรอกน่าว่าเรื่องที่พอตเตอร์อยากคุยด้วยนั้นคืออะไร

     

                    “เพ็ตตริฟิคัส โททาลัส” พอตเตอร์ร่ายคาถาใส่เขา เดรโกล้มหงายหลังทันทีแต่ก่อนที่เขาจะแตะพื้นชายหนุ่มก็ส่งอีกคาถามาทางเขา “โลโคมอเตอร์” เดรโกรู้สึกร่างเขาลอยขึ้นจากพื้นแล้วเคลื่อนที่ตามพอตเตอร์ไป ขณะที่วิสลีย์ตะโกนเรียกชื่อเพื่อนสนิทอย่างตกใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อพอตเตอร์ร่ายอีกคาถากั้นไม่ให้ใครตามพวกเขามา

    ###########

     

                    แฮร์รี่สะบัดไม้กายสิทธิ์แล้วปล่อยให้ร่างของเดรโก มัลฟอยนอนลงบนเตียง สายตามองชายหนุ่มผมทองอย่างเย็นชา โชคร้ายของมัลฟอยเสียหน่อยที่งานนี้จบลงง่ายๆ พวกเขาคุมตัวคนส่งยาพร้อมของกลาง เหลือก็แค่เค้นข้อมูลจากมันแล้วทลายปฏิบัติการณ์ รอนคงจัดการเรื่องสอบปากคำได้ เพราะเขามีเรื่องที่ต้องจัดการเดี๋ยวนี้ ...ก่อนที่คนตรงหน้าจะหนีกลับไปที่คฤหาสน์มัลฟอยและเขาจะไม่สามารถตามไปได้อีกต่อไป

     

                    “อินคาเซอรัส” เชือกไหลออกมาผูกข้อเท้ากับข้อมือของมัลฟอย เมื่อเห็นว่าร่างโปร่งนั้นถูกผูกไว้อย่างแน่นหนาดีแล้วแฮร์รี่ก็คลายคาถาผูกร่าง ให้มัลฟอยสามารถขยับได้อีกครั้ง อย่างน้อยก็ขยับพอที่จะพูดตอบโต้ได้ ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆคนบนเตียง สายตามองไปที่ดวงตาสีเทาที่มองเขาอย่างตื่นกลัว

     

                    “กลัวอย่างนี้แสดงว่ารู้ใช่ไหมว่าทำอะไรผิด” แฮร์รี่พูดขึ้นมาก่อน

     

                    “ปล่อยฉันนะพอตเตอร์ ไม่อย่างนั้นฉันจะ—“

     

                    “จะไปฟ้องพ่อเหรอ เชิญเลยมัลฟอย ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่านายจะอธิบายให้พ่อนายฟังได้ยังไงที่นายมาโผล่ในคลับเกย์แบบนี้”

     

                    ร่างโปร่งเม้มปาก ก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกทาง แต่เขาต่างหากที่เป็นคนคุมเกมส์ แฮร์รี่ไม่ยอมให้มัลฟอยหันหน้าหนีเขาง่ายๆ เขาจับกรามของอีกคนบังคับให้สายตาคู่นั้นกลับมามองเขาอีกครั้ง ตาสีเทาเป็นประกายระริก

                    ...เหมือนเหลือเกิน...เหมือนกับแอสเทอเรียไม่มีผิด ท่าทางของมัลฟอยเวลาโกรธ แต่ทันทีที่คิดถึงหญิงสาวความโกรธก็พลุ่งพล่านในใจ

                    “ฉันอาจจะคิดว่านายแค่มาดื่ม ถ้าฉันไม่เห็นกับตาว่านายอยู่ในอ้อมกอดของพ่อหนุ่มนั้น” แฮร์รี่พูดเสียงลอดไรฟัน

                    “นายคิดบ้าอะไรอยู่มัลฟอย นายมีคนรักอยู่ทั้งคน เธอทั้งแสนดี ทั้งรักนาย นายทำอย่างนี้ได้ยังไง”

     

                    “มันเรื่องของฉัน” ร่างโปร่งพูดเสียงสะบัด  

     

                    คำตอบนั้นเหมือนยิ่งกระพือไฟในใจของแฮร์รี่ ตอนแรกเขาคิดว่ามัลฟอยคงเป็นห่วงเธอจริง ดูจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานที่แอสเทอเรียเป็นลม หมอนั้นก็เฝ้าเธอไม่ห่าง แม้กระทั่งหลังจากแฮร์รี่เก็บของและลาท่านเดมิทริส กรีนกราสแล้ว เขาก็ยังเห็นว่ามัลฟอยยังอยู่ในห้องแอสเทอเรียไม่จากไปไหน ตอนนั้นเขาคิดว่าเขาคงต้องตัดใจเสียแล้ว มัลฟอยคงไม่ได้แย่นักหรอก หมอนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรผิดอีกหลังจากสงคราม และเขายังดูรักแอสเทอเรียจริงแบบนี้ คนอย่างเขาคงไม่มีสิทธิ์

                    ...แต่ถ้าเรื่องมันเป็นอย่างนี้...เขาจะทำทุกทางไม่ให้ไอ้คนอย่างเดรโก มัลฟอยแต่งงานกับแอสเทอเรีย กรีนกราสให้ได้

     

                    “เลิกกับแอสเทอเรียซะ นายไม่ได้รักเธอจริง นายจะทำให้เธอเสียใจ” แฮร์รี่พูดเสียงแข็ง แต่อีกคนกลับหัวเราะลั่นทันทีที่ได้ยินแฮร์รี่พูดแบบนั้น ชายหนุ่มหรี่ตาดูคนที่นอนอยู่บนเตียง มัลฟอยเมา...มากเสียด้วย

     

                    “พอตเตอร์ นายไม่เข้าใจเรื่องระหว่างฉันกับแอสเทอเรียเลยสักนิด” ตาสีเทามองเขาอย่างท้าทายเหมือนจะให้เขาแย้ง แต่แฮร์รี่ก็รู้ว่านั้นเป็นความจริง เขาไม่ได้รู้เรื่องระหว่างมัลฟอยกับแอสเทอเรียดีพอ แต่การนอกใจแบบนั้นไม่ว่ามองจากมุมไหนก็ผิดทั้งนั้น

                    “ฉันก็รักแอสเทอเรีย แต่คงไม่ใช่แบบที่นายคิด นี้ป่านนี้นายยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่าฉันชอบผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง” มัลฟอยกลอกตาเมื่อเห็นเขาทำหน้างง

     

                    “นายไม่ใช่ไบเหรอ” แฮร์รี่ขมวดคิ้ว แสดงว่าหมอนั้นหลอกแอสเทอเรียมาตลอดหรือ

     

                    “ไม่ใช่ ฉันชอบผู้ชายแล้วก่อนที่นายจะด่าฉัน แอสเทอเรียก็รู้ดี”

     

                    แฮร์รี่รู้สึกเหมือนโดนน้ำเย็นราดรดไปทั้งตัว นี้หมายความว่ายังไงกันแน่ เจ้าบ้านั้นเอาชนะเขาได้ทั้งๆที่เป็นเกย์อย่างนั้นหรือ เขาแพ้ให้กับผู้ชายที่ไม่ได้อยู่ในเกมส์การแข่งด้วยซ้ำ ให้ตายสิ

                    “ตะ...แต่แอสเทอเรียรักนาย”

     

                    มัลฟอยมองเขาเหมือนสงสารเต็มที “โธ่ พอตเตอร์ สมองกริฟฟินดอร์ของนายอาจจะไม่เข้าใจ แต่ระหว่างชายหญิงมันไม่ได้มีความรักได้แบบเดียว สำหรับแอสเทอเรียฉันเป็นพี่ชายที่แสนดี แล้วใครต้องการความรักแบบนั้นกัน มีไปก็มีแต่เจ็บปวด” ประโยคสุดท้ายมัลฟอยพูดเบาๆเหมือนเตือนตัวเอง

                   

                    แอสเทอเรียไม่ได้รักเดรโก มัลฟอยเหมือนคนรักอย่างนั้นหรือ แสดงว่าเขาก็มีหวังสิ แต่แล้วสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นแหวนหมั้นบนมือชายหนุ่ม

                    “แต่นายก็ยังหมั้นกับแอสเทอเรีย”

     

                    มัลฟอยกลอกตาอีกครั้ง “นั้นก็เรื่องของฉันกับแอสเทอเรียเหมือนกัน แต่ให้นายรู้เอาไว้เลยว่าฉันไม่เคยหลอกแอสเทอเรียสักครั้ง น้องรู้ทุกอย่าง รู้ว่าฉันชอบผู้ชาย” มัลฟอยหยุดพูด มองเขาจากหัวจรดเท้า ตาสีเทาคู่นั้นเป็นประกายแปลกๆ ก่อนที่จะพูดต่อด้วยเสียงต่ำ “โดยเฉพาะแบบที่เป็นพวกหัวดื้อ ผมสีดำ ตาสีเขียวเนี้ยใช่เลย” ทั้งน้ำเสียงทั้งสายตานั้นทำให้แฮร์รี่ไม่ต้องเดาเลยว่ามัลฟอยหมายความว่ายังไง เขารีบกระโดดออกจากเตียงนั้นราวกับมัลฟอยเป็นเหล็กร้อนๆ แล้วหากเขาอยู่ใกล้ร่างโปร่งอีกวินาทีเดียวเขาจะโดนลวก

     

                    “กลัวเหรอ พอตเตอร์” มัลฟอยพูดต่อ มุมปากยกขึ้นน้อยๆ แฮร์รี่หลับตาพร้อมกับด่าตัวเองที่ทำไมต้องใจเต้นขึ้นมาแวบนึงด้วยนะ แน่นอนว่ามัลฟอยไม่ใช่คนที่หน้าตาน่าเกลียด แล้วเขาอาจจะไม่เคยบอกใครแต่เขาค่อนข้างแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ชอบผู้หญิง 100% หรอก แต่ใจเต้นกับคนอย่างมัลฟอยเนี้ยนะ!!!

     

                    “ฝันไปเถอะ มัลฟอย” แฮร์รี่พูดเสียงรอดไรฟัน แต่ก็ไม่ขยับไปจากจุดที่เขายืนอยู่ ไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรต่อดี ความเข้าใจของเขาที่มีต่อความสัมพันธ์ระหว่างมัลฟอยกับแอสเทอเรียเพิ่งพลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือไม่ถึงนาทีที่ผ่านมา เขาเข้าใจมาตลอดว่าทั้งคู่รักกัน แล้วความจริงคือพวกเขาหมั้นกันโดยที่เข้าใจว่ามัลฟอยชอบผู้ชายเนี้ยนะ!!! แฮร์รี่ไม่เข้าใจพวกเลือดบริสุทธิ์สักนิด ชายหนุ่มหยุดคิดบางทีเขาต้องคิดแบบพวกสลิธีรินสินะ ไม่ใช่ใช้อารมณ์ตัดสินอย่างที่เขาคิดมาตลอด

                    “แอสเทอเรียได้อะไรจากการหมั้นกับนาย”

     

                    มัลฟอยยิ้มกว้างขึ้น “ดูเหมือนบทเรียนพวกนั้นจะไม่เสียเปล่านะพอตเตอร์ แล้วเพราะนายถามคำถามได้ดี ฉันจะใจดีตอบนายก็ได้ แอสเทอเรียได้อิสระยังไงล่ะ แอสเทอเรียเป็นลูกคนที่สองของตระกูลกรีนกราส เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะสืบทอดตระกูล หากเธอไม่ทำงาน ชีวิตเธอก็จะถูกควบคุมโดยมรดกที่คุณกรีนกราสทิ้งไว้ให้เท่านั้น นายคิดว่าเป็นนักวิชาการนี้ได้เงินสักเท่าไหร่กันหรือ ถ้าเธอแต่งกับฉัน เธอจะเป็นคุณนายมัลฟอย แล้วเธอก็จะทำทุกอย่างได้ตามที่ต้องการ โดยที่สามีอย่างฉันไม่เข้ามายุ่ง”

     

                    แฮร์รี่ขมวดคิ้ว “แต่ก็ไม่มีรัก”

     

                    “มันจำเป็นมากนักหรือไอ้ความรักที่นายพูดถึงเนี้ย มีแต่ความช้ำใจให้ แล้วมันยังมีอีกเป็นร้อยสิ่งที่สำคัญ ครอบครัว เพื่อน ประวัติศาสตร์ เกียรติยศ ได้ทำงานที่รัก”

     

                    ชายหนุ่มก้มหน้าคิดตาม มันก็จริงอย่างที่มัลฟอยพูด แต่แอสเทอเรียไม่ใช่คนที่ไม่มีตัวเลือกสักหน่อย “มันไม่ดีกว่าหรือ ถ้าจะได้ทุกอย่างทั้งสิ่งที่นายพูด แล้วก็มีชีวิตกับคนที่เรารักโดยไม่หลอกลวง” ในแฮร์รี่หวนคิดถึงอดีตศาสตราจารย์วิชาปรุงยา

     

                    แม้มัลฟอยจะไม่ตอบออกมา แต่แฮร์รี่ก็เข้าใจคำตอบจากเพียงสายตาที่ส่งมาให้เขา ตาสีเทาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเสียใจ แน่นอนอยู่แล้วมันต้องดีกว่าอยู่แล้ว แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่ทำ

                    “ฉันไม่เข้าใจพวกนายเลย” แฮร์รี่พูดออกมาในที่สุด

     

                    เป็นอีกครั้งที่มัลฟอยหัวเราะออกมา “ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกของฉันพอตเตอร์ โลกที่ไม่ได้มีแค่ทางเลือกที่ถูกกับผิด”

                    “แล้วนายก็ปล่อยฉันได้แล้ว ถ้ายังไม่อยากเห็นฉันอ้วกใส่หน้านาย” มัลฟอยพูดพร้อมทำหน้าพะอืดพะอม ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบร่ายคาถาปลดเชือกแล้วพยุงร่างโปร่งไปที่ห้องน้ำ ก่อนจะยืนรออยู่ข้างหน้า เขารู้ว่าอีกคนไม่หนีไปไหนแน่ โดยเฉพาะไม่มีไม้กายสิทธิ์แบบนี้

     

                    แต่สักพักเสียงโอ้กอ้ากในห้องน้ำก็เงียบไป และเมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป ร่างโปร่งก็นอนฟุบอยู่กับอ่างน้ำเสียแล้ว แถมปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ฟื้นเสียด้วย แฮร์รี่ถอนหายใจก่อนจะก้มลงอุ้มคนตรงหน้าขึ้นมา

                    “ฉันยังไม่ได้ถามนายเลยว่าทำไมต้องทำสายตาแบบนั้นทุกครั้งที่มองฉันด้วย ฉันทำให้นายเสียใจขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันมัลฟอย” แฮร์รี่พูดเบาๆกับคนที่หมดสติไปแล้ว ก่อนจะยกไม้กายสิทธิ์แล้วหายตัวออกไป

     

    ##########

                   

                    เดรโกเปิดตาแล้วต้องรีบปิดอย่างรวดเร็ว ให้ตายสิ แสงแดดเป็นภัยที่ร้ายที่สุดในเช้าหลังจากดื่มหนักแบบนี้ หัวเขาปวดตุบๆ ชายหนุ่มควานหาไม้กายสิทธิ์ที่เขาเก็บไว้ข้างเตียงเสมอ แต่แทนที่แขนเขาจะขยับได้ตามใจชอบ มันกลับติดกับอะไรสักอย่างที่ไม่ยอมขยับ เดรโกต้องฝืนลืมตาขึ้น แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าแขนเขาถูกใส่กุญแจข้อมือไว้กับหัวเตียง แถมไม่ใช่เตียงของเขาเสียด้วย

                    ชายหนุ่มรีบกวาดสายตาไปทั่วห้อง ขณะที่ความทรงจำเมื่อคืนค่อยๆกลับคืนมา เขาพอจะเดาได้ว่าเขาอยู่ที่ห้องใคร ถ้าเดาไม่ถูกจากสภาพรกและเสื้อผ้ามักเกิ้ลไร้รสนิยมที่กระจายเกลื่อนบนพื้นห้อง ก็คงเป็นภาพข้างหัวเตียงที่เป็นภาพของชายหญิงคู่หนึ่ง ที่ฝ่ายชายดูเหมือนกับคนที่เขาเชื่อว่าเป็นเจ้าของห้องอย่างกับแกะ

                    “พอตเตอร์!” เดรโกตะโกนหาเจ้าของห้องลั่น ขณะที่พยายามขยับข้อมือให้หลุดจากกุญแจมือ แต่ดูเหมือนไม่มีผลอะไรเลย ให้ตายสิเจ้าบ้านั้นใส่กุญแจมือเขาไว้ทั้งคืน ชายหนุ่มมองข้อมือของตัวเองที่เริ่มเป็นสีเขียวช้ำ

                    แล้วยังไม่รวมเรื่องเมื่อคืนที่เขาเล่าทุกอย่างให้พอตเตอร์ฟังอีก เพราะอย่างนี้แหละเขาถึงไม่ชอบเมาต่อหน้าคนอื่น เขามักจะพูดอะไรที่ไม่สมควรออกไปทุกครั้ง แล้วคนที่ไม่สมควรที่สุดก็พอตเตอร์นี้แหละ

     

                    “ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มดังมาจากประตู พร้อมกับร่างสูงในบ็อกเซอร์เดินมาพิงประตูมองเขานิ่ง

     

                    “นี้จะปล่อยฉันได้รึยัง” เดรโกตะโกนถาม หัวก็ปวด ตัวก็ปวด แขนยังเจ็บอีก โอ๊ยช่วงนี้เขาดวงตกรึไงนะ

     

                    พอตเตอร์โบกไม้กายสิทธิ์และชั่วพริบตาเดียวกุญแจมือก็หายวับไป เดรโกจับข้อมือซ้ายของตัวเองเบาๆ ให้ตายสิพอตเตอร์มันคิดยังไงอยู่ถึงได้ใส่กุญแจข้อมือเขาตอนนอนนะ ดีนะที่ไม่เจ็บไปกว่านี้

                   

                    “เจ็บมากไหม” พอตเตอร์เดินเข้ามานั่งข้างๆ พร้อมกับยื่นมือมาแตะที่ข้อมือเขาเบาๆ ชายหนุ่มอดมองค้อนกลับอย่างเสียไม่ได้ เจ็บไม่เจ็บก็เห็นกันอยู่ ทั้งบวมทั้งเขียวแบบนี้

                    “ขอโทษแต่นายเล่น ทั้งแตะทั้งต่อย แล้วจะหาทางหายตัวกลับบ้านให้ได้ทั้งๆที่เมาขนาดนั้น แล้วฉันก็เหนื่อยแล้วก็ง่วงด้วย” พอตเตอร์อธิบาย พร้อมกับดึงข้อมือของเขาไปสำรวจ โดยไม่สนใจเสียงประท้วงของเขา ก่อนจะใช้ไม้กายสิทธิ์ร่ายคาถารักษาทำให้ทั้งรอยช้ำและรอยบวมหายสนิท แล้วปล่อยข้อมือเขาคืน  

                    แต่ชายหนุ่มกลับไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ พอตเตอร์ดึงตัวเขาขึ้น ก่อนจะแตะไม้กายสิทธิ์ไปตามจุดต่างๆของร่างกายเขา ตั้งแต่กราม คอ ข้อมืออีกข้าง จนถึงข้อเท้า เวทมนตร์รักษาค่อยๆทำให้อาการปวดของเขาหายไปทีละนิด

                    “นายโคตรจะช้ำง่ายเลยว่ะมัลฟอย” พอตเตอร์พูดพร้อมกับสั่นศีรษะ “แค่โดนเชือกมัดก็เป็นรอยช้ำซะชัดขนาดนั้น”

     

                    เดรโกยังปวดหัวตุบๆ คันปากอยากจะตะโกนด่าว่าแล้วมันจะเป็นรอยไหมเล่าถ้านายไม่เล่นใช้เชือกมัดฉันเมื่อคืน แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้พูดอะไร พอตเตอร์ก็เปิดปากพูดอีกครั้ง

     

                    “เรายังคุยกันไม่จบ” ตาสีเขียวสดมองตรงมาที่เขา ภาพตรงหน้าซ้อนกับภาพเบลอๆในความทรงจำของเดรโก เขาแน่ใจว่าเมื่อคืนอีกคนก็มานั่งข้างๆเขาแบบนี้ขณะสอบปากคำ

                   

                    “เรื่องอะไรอีก” เดรโกกระเถิบตัวถอยหนี คราวนี้เขาไม่หลุดปากอะไรแน่นอน ถึงสติจะไม่เต็มร้อย แต่เขาก็ไม่เมาเท่าเมื่อคืนล่ะ

     

                    “ฉันไม่สนเรื่องนายเป็นเกย์ แต่นายเลิกกับแอสเทอเรียซะ”

     

                    เดรโกกลอกตา เขานึกว่าพอตเตอร์จะเข้าใจแล้วเสียอีกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรแอสเทอเรีย น้องได้ประโยชน์จากเขาไม่ต่างกัน พวกเขาช่วยเหลือกันและกัน

     

                    “เธอจะต้องเจอคนที่ดีกว่านายแน่นอน” พอตเตอร์พูดต่อ

     

                    เดรโกค่อนข้างจะแน่ใจว่าคงยากเสียหน่อย คนที่ว่าต้องยอมเลี้ยงลูกของแอสเทอเรียกับมักเกิ้ล ตัดตระกูลสูงเลือดบริสุทธิ์เกือบทั้งหมดออกไปได้เลย แล้วถ้าไม่ใช่ตระกูลพวกนั้นเขาแน่ใจว่าคุณกรีนกราสจะให้แอสเทอเรียแต่งงานไหม

                    แต่เขาจะอธิบายกับพอตเตอร์ได้ยังไง เขาไม่สามารถบอกพอตเตอร์เกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดได้

                    “ฉันสัญญากับแอสเทอเรียว่าถ้าเธอเจอคนที่เธอรักและพร้อมจะแต่งงานกับเขาฉันก็จะถอนหมั้นทันที” เดรโกพูดออกไป เขาไม่ได้โกหกเสียหน่อย

                   

                    พอตเตอร์เงียบไปอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ

                    “ถ้าเป็นฉันจะมีหวังไหมมัลฟอย”

     

                    เดรโกไม่แน่ใจว่าเขาเข้าใจที่พอตเตอร์พูด หรือไม่สมองเขาก็ไม่อยากจะเข้าใจกันแน่ “นะ..นายพูดอะไร”

     

                    “ฉันชอบแอสเทอเรีย มัลฟอยถ้าฉันจีบเธอฉันจะมีหวังไหม”

     

                    ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวชาไปทั้งร่าง พอตเตอร์ชอบแอสเทอเรีย...แต่แอสเทอเรียคนไหนกันล่ะที่จับใจพอตเตอร์เข้า

                    เขา...หรือ...ตัวจริงกันแน่

                    “นายชอบน้องเหรอ ทำไมกันล่ะ” เดรโกพยายามบังคับเสียงตัวเองให้นิ่งที่สุด

     

                    คนถูกถามยักไหล่ “ฉันก็อธิบายไม่ได้หรอก มันอาจจะเป็นสิ่งละอันพันละน้อยของเธอ เสียงหัวเราะของเธอ ประกายตาของเธอ ความเป็นห่วงเป็นใยที่เธอมีให้คนอื่น ความเข้มแข็ง ความฉลาด...ทุกอย่างเลย”

     

                    “ตั้งแต่เมื่อไหร่” พระเจ้า พระเจ้า ขอให้คำตอบนั้นไม่ใช่ตั้งแต่ตอนที่เป็นเขา นั้นจะเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้ตอนนี้ ถ้าหากพอตเตอร์ชอบเขา...แต่มันก็ไม่ใช่เขา

     

                    “อาจจะตั้งแต่แรก มันค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละนิด แต่ฉันแน่ใจในตอนงานวันเกิดของแครบ นั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันคิดว่าฉันอยากจะปกป้องผู้หญิงที่เต็มไปด้วยปัญหาคนนี้”

     

                    เดรโกเบือนหน้าหนี ความรู้สึกในหัวเขาสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือจะร้องไห้ดีนะ

                    ...พอตเตอร์ชอบเขา... คนที่พอตเตอร์รักก็คือเขา แต่เขาไม่สามารถพูดออกไปได้

                    เขาไม่เคยเสแสร้งเป็นใครเวลาอยู่ต่อหน้าพอตเตอร์ เขาก็คือเขา สิ่งเดียวที่เปลี่ยนก็คือหน้าตาเขา ให้ตายสิแค่เพียงพอตเตอร์เปิดตาดูสักนิดเขาก็จะรู้ว่าสิ่งที่ออกจากปากแอสเทอเรียคนนั้นกับเขาคนนี้แทบไม่ต่างกันเลย วิธีการพูด วิธีการคิด ทุกอย่างเลย

                    แต่มันคงจะดีแล้วที่พอตเตอร์ไม่รู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ที่เขาตกลงจะแต่งงานกับแอสเทอเรียแล้ว

                    และสุดท้ายถึงพอตเตอร์จะรู้ ก็ไม่ได้หมายความว่าพอตเตอร์จะรักเดรโก มัลฟอยด้วยนี้หน่า เขาลืมไปได้ยังไงว่าหมอนั้นชอบผู้หญิง 1,000%

                    คิดแล้วเดรโกก็รู้ว่าจะต้องทำยังไง เป็นตายร้ายดียังไงเขาก็ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ลืมไปเสียว่าคำพูดนั้นของพอตเตอร์ทำให้เขาดีใจแค่ไหน

                    “นายคงต้องถามแอสเทอเรียเอาแล้วล่ะพอตเตอร์” เดรโกแน่ใจว่าหญิงสาวจะปฏิเสธพอตเตอร์อย่างแน่นอน หัวใจแอสเทอเรียไม่มีให้ใครอีกแล้วนอกจากหนุ่มมักเกิ้ลคนนั้นของเธอ

     

                    พระเจ้าทำไมเรื่องมันถึงได้ยุ่งเหยิงขนาดนี้นะ เดรโกหลับตาแล้วด่าตัวเองในใจอีกรอบที่ตกลงทำตามแผนบ้าๆนั้น

     

    ###########


    Note: ตอนที่ 5 ยังไม่จบนะคะ แต่เราอยากอัพตอนที่ 4 กับ 5.1 ด้วยกัน ไม่อย่างนั้นจะเราว่าอ่านตอนที่ 4 คงรู้สึกค้างคามากอ้ะ 5.2 จะมาดึกๆคืนนี้ค่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×