คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 9.1 Undeniable Truth
เดรโกมองกระจกตรงหน้า
ภาพสะท้อนกลับมาคือชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวปลอด...ชุดแต่งงาน...
แต่แทนที่ใบหน้านั้นจะยิ้มแย้มให้กับวันที่ควรจะมีความสุข
ตาสีเทาที่มองกลับมาตรงหน้าเขากลับเจือแววเศร้า ทั้งๆที่เขาตัดสินใจแล้วว่าจะทำแบบนี้
แต่ทำไมหัวใจยังถึงต้องเจ็บด้วยนะ เดรโกถามตัวเอง
ชายหนุ่มจัดปกคอเสื้ออย่างใจลอย
ในหัวหวนคิดถึงใครบางคนที่เขาไม่สามารถลืมได้
ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อสิบกว่าวันที่แล้ว ใครบางคนที่หายหน้าไปไม่โผล่ออกมาอีกเลย
ให้ตายสิ
เขาเป็นคนพูดจาไล่พอตเตอร์ไปเอง
แล้วทำไมเขาถึงต้องผิดหวังที่หมอนั้นเลือกจะยอมถอยกลับไปง่ายๆด้วยนะ
...เพราะลึกๆแล้วเขาได้แต่แอบหวังว่าพอตเตอร์จะไม่ยอมแพ้แล้วหาทางออกให้เขา...เดรโกยอมรับกับตัวเอง
ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็ยังเป็นคนเดิมที่ทั้งขี้ขลาดและอ่อนแอ
เขาไม่ยอมยืนหยัดเพื่อความสุขของตัวเอง แต่ได้แต่หวังว่าพอตเตอร์หรือใครสักคนจะเป็นคนหยิบยื่นมันให้
ทั้งๆที่เขาเคยบอกตัวเองว่าเขาจะเป็นคนเลือกทางเลือกให้กับตัวเอง
เขาจะไม่ถูกบังคับให้เลือกครอบครัวเหมือนอย่างระหว่างสงครามอีกแล้ว
แต่ทำไมมันกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้วนะ
“เดรโก” เสียงเคาะประตูห้องเบาๆ
ก่อนที่แม่ของเขาจะเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวของเขา
พวกเขาแต่งงานกันที่คฤหาสน์มัลฟอย
ความคุ้นเคยกับสถานที่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่พอจะช่วยให้เดรโกสงบใจได้
“ครับแม่” เดรโกหันไปมองหญิงสาว
นาร์ซิสซา มัลฟอยอยู่ในชุดพิธีการของตระกูลมัลฟอย เสื้อคลุมสีเงินดิ้นด้วยด้ายสีเขียวและปักตราตระกูลเด่นกลางหลัง
ใบหน้าของเธอเรียบเฉย แต่สายตาของเธอกลับมองเขาด้วยความเป็นห่วง
ก็จะไม่ให้ห่วงได้อย่างไร ในเมื่อแม่รู้ว่าเขาเข้าพิธีแต่งงานโดยไม่ได้รักคู่แต่งงานเลยสักนิด
เธอพยายามถามเขาถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจแต่งงานและไม่ยอมบอกความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เขาเป็นเกย์ให้ลูเซียสรู้
แต่เดรโกก็ไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังได้
เขาหวังว่าแม่จะเข้าใจเหตุผลทั้งหมดเองเมื่อรู้ว่าแอสเทอเรียท้อง
“พิธีจะเริ่มแล้วนะจ้ะ
แขกมากันหมดแล้ว พ่อมดผู้ทำพิธีก็พร้อมแล้ว” เดรโกพยักหน้า
พิธีแต่งงานของพวกเขาจะใช้พ่อมดทำพิธีผูกพันสาบานคู่แต่งงานเข้าด้วยกัน
ต่างจากการใช้บาทหลวงตามปกติ
ซึ่งเพราะการทำพิธีแบบนี้ทำให้การหย่าระหว่างพ่อมดและแม่มดสายเลือดบริสุทธิ์จึงยากกว่าพ่อมดแม่มดที่แต่งงานด้วยพิธีทั่วไป
“ถ้าพิธีสำเร็จแล้วลูกก็รู้นะจ้ะว่าการยกเลิกมันยากแค่ไหน”
แม่เขาเดินเข้ามาพูดเบาๆ “คิดดีๆนะเดรโก”
ชายหนุ่มฝืนยิ้มส่งให้มารดาของตัวเอง
“ผมคิดดีแล้วครับ ออกไปรับแขกกันเถอะครับ” เดรโกยื่นมือออกไปให้แม่เขาจับ
แล้วพาเธอเดินออกไป เขารู้ว่าแม่มีอีกหลายอย่างที่อยากจะพูดกับเขา
แต่เขาก็รู้ว่าเธอเกรงใจเขามากพอที่จะไม่พูดตามใจคิดเมื่ออยู่ต่อหน้าแขกหรื่อในงานของเขา
เมื่อเดินออกมาถึงสวนใหญ่
เดรโกก็หยุดแล้วมองไปรอบๆ พิธีแต่งงานจะจัดที่นี่
เก้าอี้สีขาวถูกตั้งเรียงเป็นรูปครึ่งวงกลมล้อมรอบแท่นหินสำหรับทำพิธี
เหล่าแขกที่ได้รับเชิญทยอยมากันเกือบหมดแล้ว
และท่ามกลางแขกก็มีทีมรักษาความปลอดภัยของคุณกรีนกราสปะปนอยู่ด้วย ตอนที่พวกเขาเลือกจัดงานที่คฤหาสน์มัลฟอย
แน่นอนว่าคุณกรีนกราสต้องยืนยันจะดูแลความปลอดภัยทุกอย่าง
แม้ว่าที่นี่จะมีปราการเวทมนตร์ที่เข้มแข็งขนาดไหนก็ตาม
คนที่ไม่ผ่านการตรวจเช็คจะไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าออกโดยเด็ดขาด
พนักงานจัดเลี้ยงทุกคนก็ถูกเช็คประวัติอย่างหนัก
คงเป็นเพราะคุณกรีนกราสยังเชื่อว่าแม้ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน
แต่ชื่อของมัลฟอยก็ไม่ใช่ข่าวดี ยังมีคนอีกหลายคนที่คิดจะทำร้ายตระกูลของเขา
โดยเฉพาะเมื่อเป็นงานแต่งงานของลูกชายคนเดียวอย่างเดรโก มัลฟอยด้วยแล้ว
“แอสเทอเรียล่ะครับ”
เดรโกหันไปถามแม่ของตัวเอง เขาไม่เห็นคู่หมั้นตั้งแต่เช้าแล้ว
ไม่รู้ว่าป่านนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง
ยิ่งนานเท่าไหร่อาการอ่อนเพลียของหล่อนยิ่งแย่ลง เดรโกหวังว่าหญิงสาวจะมีแรงพอที่จะยืนได้ตลอดพิธีแต่งงานนี้
ให้ตายสิ มันคงเป็นเรื่องตลกสิ้นดีที่ถ้าเรื่องมาแดงในงานพิธีแบบนี้
ทั้งๆที่พวกเขาปิดมาแทบตาย
“ยังอยู่ในห้องแต่งตัวอยู่เลยจ้ะ
แม่ไปเช็คดูน้องก็ดูหน้าซีดจริงๆเลย ไม่รู้ว่าจะไหวรึเปล่าดีนะที่งานไม่ร้อน”
ที่จริงต้องบอกว่าเย็นด้วยซ้ำ เดรโกคิดในใจ พวกเขาแต่งงานกันต้นฤดูหนาวแบบนี้ต้องขอบคุณท้องฟ้าที่ไม่ปล่อยหิมะลงมาให้เขากังวลเพิ่มอีกเรื่อง
“เอาล่ะถ้าลูกยืนยันว่าสบายดีแม่จะไปอยู่กับพ่อแล้วนะจ้ะ
ป่านนี้ไม่รู้ไปร้องไห้ที่ไหนแล้ว” แม่เขาพูดพร้อมกับส่ายหน้า หลังจากที่เดรโกบอกกับที่บ้านว่าหลังจากแต่งงานเขากับแอสเทอเรียจะย้ายออกไปอยู่อพาร์ทเมนต์ของเขาที่ลอนดอน
พ่อของเขาก็ประท้วงใหญ่
จนทั้งเขาทั้งแม่ต้องกลอกตาใส่อย่างแล้วเลิกสนใจความดราม่าของพ่อ
เดรโกพยักหน้าแล้วส่งแม่ของเขา
ส่วนตัวชายหนุ่มก็รีบปั้นหน้าแล้วหันไปต้อนรับแขกคนอื่น
ขณะสายตามองไปรอบๆให้แน่ใจว่าจะไม่มีมือปราบมารหนุ่มผมยุ่งในกลุ่มแขก
เขาไม่แน่ใจว่าตัวเขาจะเข้มแข็งพอที่จะทำพิธีโดยมีสายตาพอตเตอร์มองอยู่ได้
เมื่อถึงเวลาเดรโกก็ไปรอที่แท่นพิธี
ลูเซียสกับนาร์ซิสซานั่งอยู่แถวหน้าสุด คุณกรีนกราสจะเป็นคนเดินมาส่งแอสเทอเรียที่แท่นพิธี
ส่วนเดฟนี...หญิงสาวหายหน้าไปเช่นกัน ทั้งๆที่เธอควรจะอยู่ในกลุ่มแขก
บางทีเธอคงอยู่ช่วยแอสเทอเรียก่อน
พิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมแบบนี้จะไม่มีเพื่อนเจ้าสาวหรือเพื่อนเจ้าบ่าวอย่างพิธีสมัยใหม่
ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง ไม่มีเวลาถอยกลับแล้ว เขาจะต้องไม่เป็นไร
เขาจะต้องลืมความรู้สึกที่มีต่อพอตเตอร์ได้
แล้วเขาก็จะรักลูกของแอสเทอเรียอย่างที่เด็กคนหนึ่งควรจะได้รับจากพ่อ
ตาสีเทาก้มมองเสื้อคลุมของตระกูลมัลฟอยในมือ เมื่อแอสเทอเรียมาถึงเขาจะต้องคลุมเสื้อคลุมนี้ให้กับแอสเทอเรีย
เป็นการบ่งบอกว่าเธอจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลมัลฟอย ท้องเขาปั่นป่วนไปหมด
ชายหนุ่มสั่นศีรษะไล่ความคิดที่ว่าคนที่เขาอยากใส่เสื้อคลุมไม่ใช่แอสเทอเรียแต่เป็นชายหนุ่มผมดำต่างหาก
เสียงเพลงบอกว่าเจ้าสาวกำลังเดินเข้ามาปลุกให้เดรโกตื่นขึ้นมาจากภวังค์ความคิด
เขาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามา
หน้าตาของแอสเทอเรียไม่ได้ดูดีไปกว่าเขาสักเท่าไหร่เลย
หญิงสาวดูเหมือนเดินเข้าสู่พิธีประหารมากกว่าพิธีแต่งงาน
ใบหน้าของเธอซูบซีดอย่างไร้สีเลือด ขณะที่คุณกรีนกราสยิ้มอย่างมีความสุข
เขารับมือแอสเทอเรียมาจากพ่อของเธอ
ถ้าหากเป็นคนอื่นตรงนี้นอกจากเขาคงมีความสุขที่เห็นเจ้าสาวสวยขนาดนี้ตรงหน้า
แต่ไม่ใช่เขา สายตาเขากวาดไปมองสักขีพยานที่นั่งเรียงรายอีกครั้ง ไม่มีแฮร์รี่
พอตเตอร์เช่นเดิม เดรโกถอนหายใจ
จนถึงขั้นนี้แล้วทำไมเขาจะต้องมองตามหาพอตเตอร์อีกด้วยนะ
พ่อมดผู้ทำพิธีเริ่มพิธีกรรม เดรโกก็รู้สึกถึงเวทมนตร์ที่ค่อยๆแผ่คลุมรอบตัวเขา
ก่อนจะเริ่มพิธีขั้นสุดท้ายผู้ทำพิธีก็ต้องถามว่ามีผู้ใดคัดค้านพิธีการแต่งงานระหว่างบุคคลทั้งสองนี้หรือไม่
และแน่นอนว่าผู้ร่วมงานทุกคนเงียบสนิท แต่ก่อนที่พิธีกรรมจะดำเนินต่อ
เสียงตะโกนก็ดังลั่นมาจากสนาม พร้อมกับร่างสูงในชุดเสื้อคลุมสีเลือดหมูของมือปราบมารวิ่งฝ่าทีมรักษาความปลอดภัยเข้ามา
ทุกคนในงานหยุดนิ่งมองหน้ากันเลิกลั่กอย่างไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“หยุด”
พอตเตอร์ตะโกนขณะก้าวมาหยุดที่หน้าแท่นพิธี
เสื้อผ้าหน้าผมของพอตเตอร์ดูยุ่งเหยิงยิ่งกว่าปกติ
ลมหายใจของชายหนุ่มหอบเหนื่อยอย่างคนที่เพิ่งวิ่งเป็นระยะทางไกล...อย่างน้อยคงไกลพอๆกับจากประตูหน้าคฤหาสน์มัลฟอยจนมาถึงที่นี่
“เดรโก” ชายหนุ่มพูดชื่อเขาออกมา
พร้อมกับเสียงสูดหายใจอย่างตกใจของทุกคนในงาน
ก็แน่หล่ะคงไม่มีใครนึกว่าคนที่พอตเตอร์จะมาห้ามเป็นเขาไม่ใช่แอสเทอเรีย“ฉันยังไม่ได้สายเกินไปใช่ไหน”
พอตเตอร์ถามพร้อมส่งสายตาอ้อนมาหาเขา
เสียงกระแอมของผู้ทำพิธีทำให้เดรโกสะดุ้ง
เขารีบละสายตาจากพอตเตอร์กลับขึ้นไปมองพ่อมดที่อยู่ตรงหน้า
“คุณจะคัดค้านงานแต่งงานระหว่างเดรโก มัลฟอยกับแอสเทอเรีย กรีนกราสหรือ”
พ่อมดชราถามพอตเตอร์
แต่เดรโกรีบชิงตอบแทน “ไม่ใช่ครับ
ที่จริงเขากำลังจะกลับแล้ว” พูดจบเดรโกก็หันกลับไปส่งสายตาดุๆให้พอตเตอร์
หมอนั้นคิดบ้าอะไรอยู่ถึงโผล่มากลางงานแบบนี้
เขามองไปที่กลุ่มผู้รักษาความปลอดภัยของคุณกรีนกราส
ให้ตายเถอะพอตเตอร์อาจจะเข้ามาได้ แต่การจะออกไปจากที่นี่ง่ายๆนั้นอย่าหวังเลย ทั้งปราการเวทมนตร์ของคฤหาสน์มัลฟอย
แล้วยังมีของพวกกรีนกราสซ้อนทับอีก
“ไม่” พอตเตอร์พูดอย่างดื้อด้าน
พร้อมกับเดินขึ้นมาหยุดตรงหน้าเขา มือหนายื่นมากระชากมือเขาออกจากมือของแอสเทอเรีย
หญิงสาวมองทุกอย่างตรงหน้าด้วยความตกใจ เธอกำลังปะติดปะต่อเรื่องได้แล้ว ถ้าเธอรู้ว่าเขาเลือกเธอแทนที่จะเป็นพอตเตอร์เธอต้องเป็นคนยกเลิกงานทั้งหมดก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรแน่ๆ
“อย่าทำแบบนี้เลยนะมัลฟอย
หยุดงานนี้แล้วมากับฉันนะ” ชายหนุ่มส่งสายตาอ้อนอีกครั้ง
เดรโกต้องบังคับตัวเองไม่ได้พยักหน้ากับคำพูดนั้น
เขาต้องเข้มแข็ง ชายหนุ่มส่ายหน้าแล้วพยายามจะดึงมือออกจากข้อมืออีกคน
“ฉันไม่รู้นายกำลังเมายาอะไรอยู่นะพอตเตอร์ แต่นายจะทำอย่างนี้ไม่ได้”
เขาพยายามจะช่วยให้คนอื่นคิดว่าพอตเตอร์นั้นป่วย แทนที่จะมาคัดค้านเพราะเขา
อย่างน้อยถ้าอย่างนั้นพอตเตอร์คงไม่โดนคุณกรีนกราสจัดการ ซึ่งตอนนี้ทั้งคุณกรีนกราสทั้งพ่อเขากำลังลุกขึ้นมาที่เวทีพิธีการแล้ว
พอตเตอร์กัดริมฝีปากตัวเองแล้วมองเขา
ก่อนจะกระชับมือรอบข้อมือเขาแล้วดึงเขามาก่อนแน่นพร้อมพึมพำขอโทษ
เป็นอีกครั้งที่เดรโกรู้สึกถึงเวทมนตร์รอบตัวเขา
แต่ก่อนที่เขาจะได้ทันประท้วงภาพทั้งหมดตรงหน้าก็ค่อยๆเลือนลาง พร้อมกับเสียงในหัวของเขาที่ตะโกนกลับมาอย่างตกใจ
....พอตเตอร์กำลังพาเขาหายตัว...ผ่านปราการเวทมนตร์...
ชายหนุ่มหลับตาสนิทรอรับความเจ็บปวดที่จะมาถึงพร้อมกับการบังคับตัวเองผ่านปราการเวทมนตร์
แต่มันก็ไม่มา เมื่อเขาเปิดตาขึ้นอีกครั้งเขาก็อยู่ในบ้านเก่าแก่ที่เขาไม่คุ้นเคย
เสียงหายใจหอบของทั้งเขาและพอตเตอร์ก้องอยู่ในห้องโถงที่ว่างเปล่า
“พอตเตอร์ นาย...”
เดรโกประคองร่างของอีกคนที่ตอนนี้มีบาดแผลไปทั้งตัว
ปราการเวทมนตร์ของคฤหาสน์มัลฟอยคงยอมให้เขาผ่านเข้าออกโดยสะดวกเพราะฉะนั้นเขาถึงไม่เจ็บตัว
แต่ไม่ใช่สำหรับพอตเตอร์ หมอนั้นหายตัวโดยรู้ว่าจะต้องเจ็บแบบนี้
มือปราบมารหนุ่มสูดหายใจลึกเหมือนพยายามควบคุมความเจ็บ
แต่ไม่ว่าจะเจ็บแค่ไหนแต่พอตเตอร์ก็ยังคงไม่ยอมปล่อยตัวเขา ตาสีเขียวนั้นมองมาที่เขาอย่างกับเขาเป็นของที่สำคัญที่สุดในโลก
เขาเคยเห็นสายตาคู่นี้มาก่อน...ทุกครั้งที่พวกเขาเล่นควิดดิชด้วยกัน
แต่ปกติแล้วมันมักจะเก็บเอาไว้มองลูกสนิช ไม่ใช่มองมาที่เขาแบบนี้
“ห้ามหนีฉันไปนะ”
พอตเตอร์พูดแค่นั้นแล้วก็หมดสติลง ทิ้งให้เดรโกช๊อคจนแทบทำอะไรไม่ถูก
เขาต้องรีบตั้งสติแล้ววางร่างชายหนุ่มลง ขณะที่ในหัวพยายามนึกถึงคาถารักษาทั้งหลายที่เขาเคยเรียนสมัยอยู่ฮอกวอตส์
ให้ตายสิเขาไม่จำเป็นต้องใช้คาถาพวกนั้นตั้งแต่เรียนจบซึ่งก็ผ่านมาตั้งห้าปีแล้ว
เขารีบค้นหาไม้กายสิทธิ์ที่เสียบไว้กับเสื้อคลุม
ก่อนจะยกมือสั่นๆขึ้นมาร่ายคาถา หวังว่ามันจะได้ผล
แล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเลือดของพอตเตอร์หยุดไหล
เพราะบาดแผลที่เกิดขึ้นเป็นบาดแผลจากเวทมนตร์คาถารักษาจึงมีผลแค่ช่วงในการปิดแผลเท่านั้น
ต้องให้ร่างกายของพ่อมดรักษาบาดแผลที่เกิดขึ้นเอง คิดแล้วเดรโกก็ลดไม้กายสิทธิ์ลง
...เขามีโอกาสที่จะกลับไปที่พิธีได้...
ที่จริงพอตเตอร์ไม่ได้ขู่เข็ญหรือบังคับให้เขาอยู่ด้วยซ้ำ
คำว่าห้ามของหมอนั้นมันไม่ต่างจากการขอร้องสักเท่าไหร่ เพียงแต่ว่า...
เดรโกมองคนที่นอนเหยียดตรงหน้าอีกครั้ง
เขาลังเลใจอยู่ชั่วครู่แต่เมื่อตัดสินใจได้ชายหนุ่มก็กำไม้กายสิทธิ์แน่นพร้อมกับคิดถึงคฤหาสน์มัลฟอย
แต่แทนที่จะรู้สึกถึงแรงดึงดูดให้เคลื่อนที่เหมือนทุกครั้ง
ร่างกายเขากลับนิ่งไม่ขยับไปไหน ชายหนุ่มสบถขึ้นมาเบาๆ
พอตเตอร์คงร่ายคาถาห้ามหายตัวเอาไว้กับที่นี่
เดรโกเม้มปากก่อนลุกขึ้นไปเพื่อเปิดประตู
ถึงเขาจะเป็นห่วงพอตเตอร์แค่ไหนแต่เขาก็ต้องกลับไป
ไม่รู้ว่าป่านนี้ที่บ้านจะวุ่นวายแค่ไหน แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เดรโกต้องสบถออกมา
เพราะทันทีที่เขาแตะลูกบิดกระแสไฟก็วิ่งพล่านผ่านร่างของเขา
ร่างโปร่งหันไปมองคนที่ยังหมดสติ ให้ตายสิเขาคิดง่ายๆเกินไป
คำว่าห้ามหนีฉันไปของพอตเตอร์ไม่ใช่คำขอร้องเลยสักนิด
หมอนั้นพูดจริงๆ ด้วยการพาเขามาขังไว้ในกรงที่เดรโกไม่มีวันหนีออกไปได้
อย่างน้อยๆเดรโกก็ได้รู้ว่าพอตเตอร์รู้จักเขามากกว่าที่เขาคิด
พอตเตอร์คงไม่คิดว่าแค่การพาเขาหนีออกมาจากงานแต่งจะเปลี่ยนใจเดรโกได้
ชายหนุ่มหัวเราะขื่นๆ
แล้วกลับไปนั่งลงข้างๆคนที่พาเขามาที่นี่
“นายกะไม่ให้ฉันหนีจริงๆสินะพอตเตอร์”
#####
แฮร์รี่ครางออกมาเบาๆ
ก่อนจะค่อยๆเปิดตาขึ้น เขารู้สึกปวดไปทั้งตัว ชายหนุ่มสูดหายใจลึกแล้วฝืนใจยันตัวขึ้น
เขามองไปรอบๆอีกครั้งก่อนหยุดที่ร่างสูงโปร่งที่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ตื่นแล้วหรือพอตเตอร์”
เสียงคนในชุดขาวทักโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา แฮร์รี่ดันตัวขึ้นพร้อมกับรู้สึกถึงเสื้อคลุมอุ่นๆไหลลงไปกองที่เท้า
เมื่อเขาก้มหยิบมันขึ้นมาเขาก็จำได้ว่ามันอยู่ในมือของเดรโกตอนที่ทำพิธีแต่งงาน
ผ้าคลุมไหล่สีเงินประดับประดาสวยงามและที่สำคัญที่สุดคือตราสัญลักษณ์ของตระกูลมัลฟอยกลางหลัง
มองสิ่งของในมือแล้วหัวใจของแฮร์รี่ก็เต้นรัวขึ้นอีกครั้ง
โชคดีเหลือเกินที่เขามาทัน
ตระกูลมัลฟอยเลือกที่จะใช้พิธีผูกสาบานแบบโบราณแทนที่จะเป็นพิธีแต่งงานตามปกติ
เมื่อเสร็จพิธีกรรมแล้วการแยกเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะไม่สามารถทำได้โดยง่าย
แอสเทอเรียจะรับรู้ตลอดเวลาว่าเดรโกอยู่ที่ไหน การลักพาตัวชายหนุ่มมาที่นี่คงทำไม่ได้โดยง่ายอย่างนี้
“ฉันดีใจนะที่นายไม่หนีไปไหน”
แฮร์รี่เดินเข้าไปใกล้ร่างโปร่ง แล้วสวมผ้าคลุมให้อีกคน
เขาไม่ได้มีเวลาจุดไฟให้บ้านอุ่นก่อนพาเดรโกมาที่นี่
ชายหนุ่มคงต้องทนหนาวจนเขาในฐานะเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมานั้นแหละ
“ฮึ เข้าใจผิดแล้วพอตเตอร์
ฉันไม่ออกไปไหนเพราะออกไปไม่ได้ต่างหาย นายก็รู้” คนถูกถามตอบกลับโดยยังไม่หันกลับมามองเขาเช่นเคย
แต่กลับรับผ้าคลุมที่เขาสวมให้ มือเรียวกระชับเสื้อคลุมเข้ากับตัว
“ก็เพราะฉันรู้ว่านายมันจะต้องดื้อด้านถึงที่สุด
ฉันเลยต้องทำแบบนี้ไงเดรโก” แฮร์รี่พูดเบาๆ มือยังวางอยู่บนไหล่ของอีกคน
เขาอยากจะแน่ใจว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือเดรโก มัลฟอยจริงๆ
เดรโกถอนหายใจแล้วหันกลับมาในที่สุด
ตาสีเทามองตรงมาที่เขา ใบหน้าเรียบเฉยนั้นทำให้เขาอ่านเดรโกไม่ออกอีกเช่นเคย
“อย่างที่หนึ่งคนที่ดื้อด้านนี้มันนายหรือฉัน
นายเป็นคนลักพาตัวฉันมาจากพิธีแต่งงานนะ
ป่านนี้ที่บ้านคงพยายามหานายพลิกแผ่นดินแล้ว อย่างที่สอง
ใครอนุญาตให้เรียกว่าเดรโกไม่ทราบ”
แฮร์รี่อดยิ้มออกมาไม่ได้
คนตรงหน้าเขายังไงก็คือเดรโก มัลฟอยจริงๆด้วย คำพูด ท่าทาง
ทุกอย่างไม่มีวันเลยที่จะเป็นคนอื่นไปได้
“จะให้ตอบข้อไหนก่อนดีนะ”
แฮร์รี่เดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วรวบตัวอีกคนเข้ามากอดอย่างคิดถึง
ให้ตายสิเขาคิดถึงเดรโกแทบบ้าตาย เขาไม่ได้เจอร่างสูงมาสัปดาห์กว่าๆแล้ว
เขาอยากแตะต้อง อยากสัมผัส อยากจะทำทุกอย่างที่คนที่รักทำกัน
แต่ดูท่ามันคงไม่เกิดขึ้นง่ายๆ โดยเฉพาะเมื่อคนในอ้อมกอดเขาส่งสายตาเย็นชาพร้อมกับขู่ฟ่อว่าจะชกเขากลับจริงๆด้วยหากเขายังคงไม่ปล่อย
...แต่มีหรือที่แฮร์รี่จะยอมง่ายๆ...เขารวบมืออีกคนเอาไว้ง่ายๆ
ต้องขอบคุณการฝึกของมือปราบมาร
แทนที่จะใช้กับคนร้ายเขาก็ได้มาใช้กับคนใจร้ายแทนนี้แหละ
“ฉันจะเรียกนายว่าเดรโก
เพราะนั้นเป็นสิ่งที่คนปกติทั่วไปเขาเรียกกัน นายไม่คิดบ้างเหรอว่ามันตลกขนาดไหนที่พวกเรารู้จักกันมาตั้งสิบสองปีแต่ยังเรียกนามสกุลกันอยู่เลย”
แฮร์รี่ถามกลับ
“ไม่ล่ะพอตเตอร์”
เดรโกลากเสียงตอบเหมือนจะเน้นให้ชัดๆว่ายังไงเขาเป็นเป็นพอตเตอร์อยู่ดีไม่ใช่แฮร์รี่
“อีกอย่างเวลาพูดว่ามัลฟอยฉันจะนึกถึงพ่อของนายนะ
คิดดูสิเดรโกถ้าฉันทำอะไรๆกับนายแล้วพูดออกมาว่ามัลฟอยฉันคงหมดอารมณ์ทันที”
แฮร์รี่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นแก้มอีกคนเจือสี
“แล้วถ้าจะให้ตอบข้อแรกล่ะก็
สั้นๆก็คือฉันไม่ใช่คนดื้อด้านแต่ต้องเรียกว่ามีแผนการพร้อมต่างหาก
แต่ถ้าให้ตอบยาวๆ...” แฮร์รี่คิดพร้อมกับมองคนตรงหน้า
พลางคิดว่าเขาควรจะขออะไรตอบแทนดีหรือเปล่าหนอ
แต่เมื่อเห็นใบหน้าหวานดุกลับเขาก็ถอนหายใจแล้วเปิดปากอธิบายง่ายๆ
“ฉันก็จะบอกว่านายไม่ต้องห่วงฉันหรอกนะ
ฉันไม่ได้ลักพาตัวนายมาอย่างสิ้นหวังแน่ๆ
ถึงแม้นายจะคิดว่าคนอย่างฉันคงวางแผนอะไรไม่เป็นก็เถอะเดรโก
แต่คราวนี้นายเชื่อใจฉันได้เลยว่าทุกอย่างจะต้องลงเอยอย่างดี”
คนที่ถูกเขากอดดิ้นอีกครั้งเมื่อคำตอบที่ได้ไม่ถูกใจ
เอาแล้วไงล่ะ ทีตอนที่ไม่ยอมบอกอะไรเขาล่ะก็โอเค
แต่พอกลับมาต้องเป็นฝ่ายไม่รู้อะไรเสียบ้างเดรโกของเขาก็กลับหงุดหงิดขนาดนี้
...น่ารักชะมัด...นิสัยแบบนี้ของนาย
แฮร์รี่พูดกับตัวเองในใจ
“พอตเตอร์แค่ลักพาตัวฉันมานี้เรียกว่ามีแผนแล้วเหรอ
นี้รู้ใช่ไหมว่าฉันแต่งงานกับลูกสาวของท่านเดมิทริส
กรีนกราสเจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยอันดับหนึ่ง
คิดว่าคนอย่างคุณกรีนกราสจะหาตัวนายกับฉันไม่เจอเหรอพอตเตอร์ แล้วยังพ่อฉันอีก
นายได้กลายเป็นปุ๋ยแน่ถ้าโดนพบ” เดรโกพูดใส่หน้าเขาฉอดๆเมื่อเห็นว่าทำยังไงๆเขาก็ไม่ปล่อยอีกคนง่ายๆ
“ดีใจจังที่นายเป็นห่วงฉัน”
แฮร์รี่พูดยิ้มๆ
แล้วเขาก็ไม่กลัวเลยสักนิดกับคำขู่พวกนั้นของเดรโกเพราะเขาแน่ใจว่าจะไม่มีใครหาที่นี่พบ
ที่นี่เป็นบ้านพักเก่าแก่ของตระกูลพอตเตอร์ที่ไม่มีใครรู้
และยังสามารถเข้าออกได้หากมีสายเลือดพอตเตอร์เท่านั้นอีกด้วย
เขาเองก็เพิ่งค้นพบจากการคุยกับรูปวาดของย่าทวดที่เดรโกเอามาให้เขา
ที่จริงก็เป็นคุณย่าทวดเขาอีกนั้นแหละที่บอกวิธีที่เขาจะหายตัวผ่านปราการเวทมนตร์ที่คฤหาสน์มัลฟอยได้
เพียงแต่ที่แฮร์รี่เจ็บตัวเพราะเขาลืมคิดถึงปราการอีกด่านของคุณกรีนกราสต้องขอบคุณเวทมนตร์ของเขาที่แข็งแกร่งพอที่จะพาเขาหลุดออกมาได้โดยไม่มีอะไรหลุดออกไป
“จะไม่มีใครหาพวกเราพบที่นี่แน่เดรโก
จนกว่าพวกเราจะตัดสินใจออกไปนั้นแหละ”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะเจ้าบ้า
ไม่กลัวว่าจะมีคนแจ้งจับนายก่อนรึไง จากมือปราบมารกลายเป็นคนร้ายซะเอง
เลิกคิดเลยเรื่องที่จะเป็นหัวหน้าสำนักงานน่ะ” เดรโกทำเสียงดุใส่เขาอีกแล้ว
แต่คำพูดนั้นก็ทำให้เขารู้ว่าชายหนุ่มยังคงเป็นห่วงเขาอยู่ไม่น้อย
และก็ยังจำได้ด้วยว่าเขามีความฝันว่ายังไง
“ไม่เลยสักนิดเพราะตอนที่เราออกไป
นายจะบอกให้ทุกคนรู้ว่านายเต็มใจมากับฉันเอง”
เดรโกทำเสียงฮึดฮัดในคออย่างไม่เชื่อ
“เพราะฉันจะไม่ปล่อยให้นายก้าวออกไปจากที่นี่จนกว่านายจะยอมรับว่านายเองก็รักฉันเดรโก
มัลฟอย แล้วนายก็แต่งงานกับใครคนอื่นไม่ได้หากคนนั้นไม่ใช่ฉัน”
#####
ความคิดเห็น