ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Call me Daddy

    ลำดับตอนที่ #2 : สถานะของลูกหนี้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 128
      0
      14 มี.ค. 65

           1_สถานะของลูกหนี้

     

           พิธีเผาศพถูกดำเนินการควันสีหม่นจากยอดเมรุลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าหยาดน้ำตาที่พยายามอดกลั้นเอาไว้ร่วงรินลงมาถึงแม้ภายในใจจะคิดโกรธเคืองผู้ให้กำเนิดมากแค่ไหนแต่ภายในจิตใจจริงๆเขาก็รักพวกท่านจนสุดหัวใจ

           “คุณหนูคะ”

           “…ป้านิ่ม”

           “นายท่านจากไปแล้วต่อไปนี้คุณหนูต้องเข้มแข็งนะคะ”

           เสียงเรียกจากป้านิ่มแม่บ้านที่เคยเลี้ยงดูครามมาตั้งแต่เด็กเขาหันไปหาก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแล้วโผเข้ากอดคนที่เขาสามารถปลดเปลื้องทุกความรู้สึกได้มือสากของหญิงวัยกลางคนลูบแผ่นหลังบางอย่างปลอบประโลม

           “คนหนูยอมให้พวกเราอยู่กับคุณหนูต่อเถอะนะครับ”

           “…”

           ลุงพลสามีของป้านิ่มเอ่ยขึ้นเขาเป็นคนขับรถและคนดูแลสวนสองสามีภรรยามองเด็กหนุ่มด้วยความคาดหวังว่าครามจะตกลงเห็นด้วยกับพวกเขาเพราะทั้งสองเองก็เห็นใจและสงสารคนหนูของตัวเองจับใจที่ต้องมาเห็นเด็กหนุ่มที่พวกเขาดูแลมาตั้งแต่เด็กอยู่ในสภาพแบบนี้ ครามส่ายหน้าน้อยๆพร้อมน้ำตาที่ร่วงรินและเอ่ยขอบคุณที่ทั้งสองคนยังดีต่อเขาเหมือนเดิม

           “ไม่เป็นไรครับผมขอบคุณลุงพลกับป้านิ่มมากนะครับที่ดีต่อผมเสมอมา แต่ตอนนี้ผมไม่อยากให้ลุงพลกับป้านิ่มต้องมาลำบากไปพร้อมกับผม”

           “โถคุณหนูอย่าคิดแบบนั้นสิป้ากับลุงไม่ได้ลำบากกันเลยสักนิดเพราะที่ผ่านมาคุณท่านก็ดูแลพวกเราดีมาโดยตลอด”

           “พวกเราอยากดูแลคุณหนูเพื่อตอบแทนคุณท่านทั้งสองนะครับ”

           “ขอบคุณมากนะครับแต่ไม่เป็นไรเลยจริงๆผมอยู่คนเดียวได้ลุงพลกับป้านิ่มไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”

           สองสามีภรรยาได้แต่ตัดใจในเมื่อคุณหนูยืนกรานที่จะเลือกแบบนั้นจริงๆพวกเขาก็ไม่อาจบังคับฝืนใจคุณหนูของตนต่อไปได้ พวกเขาได้แต่ภาวนาให้คุณหนูไม่ต้องเจอเรื่องเลวร้ายอีกแล้วในชีวิตเพราะแค่นี้คุณหนูของพวกเขาก็บอบช้ำมากเหลือเกิน สองสามีภรรยาเอ่ยลาคุณหนูของตนหลังจากนี้พวกเขาตั้งใจว่าจะกลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดเพื่อไปทำไร่ไถนาจากเงินลงทุนที่ครามได้มอบให้ในจำนวนมาก

           หลังจากเสร็จเรื่องงานศพแล้วครามก็คิดขึ้นมาได้ว่ายังมีเรื่องที่เขาต้องจัดการ เขาได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมาและยอมรับชะตากรรมของตัวเองที่กำลังจะได้รับในอีกไม่ช้า ครามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมสูดหายใจเข้าแล้วตัดสินใจโทรออกหาเจ้าหนี้ของเขา

           (อยากจะใช้หนี้แล้วเหรอ)

           “…”

           รอสายจากอีกฝ่ายไม่นานก็มีเสียงตอบรับกลับมาจนตัวเองสะดุ้งตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าเป็นเขา พอราฟาเอลไม่ได้ยินเสียงตอบรับกลับมาก็เอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ติดจะเย็นชา

           (ว่าไงฉันไม่มีเวลามากพอที่จะคุยกับเธอขนาดนั้นหรอกนะ)

           “ผมต้องการพบกับคุณ”

           (มาพบฉันที่คลับตอนนี้)

           “…”

           ปลายสายย้ำราวกับออกคำสั่งให้ทำตาม

     

    ...

     

           Ref Club คือสถานที่บันเทิงแห่งหนึ่งที่ทุกคนต่างมองว่ามันคือคลับธรรมดาทั่วไปของนักท่องราตรีแต่ทว่าข้างในนั้นกลับมีธุรกิจดำมืดอย่างบ่อนคาสิโนสำหรับพวกกระเป๋าหนักๆรวมทั้งคนระดับสูงที่เข้ามาหาเศษหาเลยจากคลับแห่งนี้

           ร่างบางเดินเข้ามาในเรฟคลับมือขาวยกขึ้นปิดจมูกเมื่อกลิ่นบุหรี่ลอยเข้ามาเตะจมูกซึ่งเป็นกลิ่นที่เขาไม่ชอบ กลิ่นเหล้ากลิ่นน้ำหอมลอยคละคลุ้งกันจนฉุนไปหมด

           “คุณครามใช่ไหมครับ”

           ลูกน้องราฟาเอลเมื่อเจอกับคนที่เจ้านายให้พาไปพบก็เข้ามาหาทันที ครามพยักหน้าตอบรับก่อนลูกน้องราฟาเอลจะเดินนำเขาขึ้นไปยังห้องวีไอพี

           “เชิญครับ นายท่านรออยู่ข้างใน”

           เมื่อมาถึงห้องวีไอพีลูกน้องของราฟาเอลก็ผายมือให้เขาเข้าไปข้างใน ภายในห้องถูกตกแต่งด้วยไฟหลากสีห้องทั้งห้องดูหรูหราเป็นส่วนตัวไม่มีเสียงรบกวนจากข้างนอกให้ได้ยิน

           “มาเร็วกว่าที่คิดนะ”

           !!

           ครามสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงทุ้มจากคนที่นั่งอยู่โซฟากลางห้อง ราฟาเอลอยู่ในเสื้อเชิ้ตและกางเกงสีดำขลับให้ชายหนุ่มดูภูมิฐานใครพบเห็นต่างก็ต้องยำเกรง เด็กหนุ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีเมื่อเจอกับราฟาเอลอย่างเปิดเผยเขาพยายามปรับสีหน้าให้เรียบนิ่งแล้วเดินเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้าม

           “คุณจะให้ผมชดใช้หนี้ยังไง”

           “ยังไงดีล่ะ”

           “…”

           ราฟาเอลไม่ตอบคำถามแต่เป็นคนถามกลับ เขาแสร้งทำสีหน้าครุ่นคิดพลางมองครามตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเผยรอยยิ้มขึ้นมา

           “คุณหนูอย่างนายฉันว่าไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้ให้ฉันได้หรอก”

           “แล้วถ้าผมหามาให้ได้ล่ะ”

           “หึ...”

           “…”

            “ถ้าหามาได้ก็ดีแต่ถ้าหาไม่ได้...สถานะลูกหนี้อย่างนายก็เป็นได้แค่อีตัวเท่านั้นแหละ

           “คุณราฟาเอล!”

           มือขาวจิกเข้าหากันอย่างระงับอารมณ์ ปากบางเม้มเข้าหากันเมื่อประโยคถัดมาถูกเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์หลังจากเขาพูดเสร็จก็ลุกขึ้นยืดตัวตรงเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจเด็กหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่ด้วยความโกรธจนเลือดขึ้นหน้า

           “ฉันให้เวลาเธอเจ็ดวันสำหรับหาเงินมาใช้หนี้และถ้าหามาไม่ได้ก็เอาตัวเธอมาใช้หนี้ซะ”

     

           สามวันแล้วที่เขายังหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ บ้านหลังใหญ่ที่เป็นสมบัติของตระกูลก็กำลังจะโดนยึดรวมทั้งข้าวของที่มีอยู่ในบ้านด้วยเช่นกัน เงินเก็บที่มีอยู่ในบัญชีก็มีไม่ถึงหนึ่งล้านบาทเด็กหนุ่มเม้มปากแน่นเขาไม่รู้จะไปหายืมเงินตั้งมากมายนั้นได้จากที่ไหนแล้วจริงๆ ญาติที่มีก็ไม่ให้ความช่วยเหลือกันเลยสักนิดแถมพวกเขายังเกลียดชังและพูดจาดูถูกเขาสารพัด

           “อะไรกัน! เงินตั้งสองร้อยล้านฉันไม่มีให้หรอกนะและต่อไปนี้เธอไม่ต้องมายุ่งกับพวกเราอีกแม้แต่ญาติฉันยังไม่อยากนับด้วยเลย”

           ครามได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนเดินออกมาจากบ้านป้าแท้ๆของตัวเองเขายังจำได้ดีว่าเมื่อก่อนป้าขวัญจันทร์มักจะไปขอความช่วยเหลือจากแม่ของเขาอยู่บ่อยๆแถมยังได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มใจซะอีก ครามได้แต่คิดว่าทำไมชีวิตเขาต้องได้มาเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย วัยอย่างเขาแทนที่จะได้เข้าไปอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆได้สนุกสนานรื่นเริงในช่วงชีวิตของวัยรุ่น

           บ้านหลังโตโอ่อ่าแต่ปราศจากผู้อยู่อาศัยร่างบางเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีเหนื่อยล้าไร้ทุกหนทางที่จะหาเงินมาใช้หนี้แล้วจริงๆ เขากวาดสายตามองดูภายในบ้านที่อีกไม่นานมันก็จะไม่ใช่บ้านของเขาและคงจะไม่มีโอกาสได้มาเหยียบที่นี่อีกแล้ว ครามได้แต่นึกถึงช่วงเวลาดีๆที่มีอยู่ในบ้านหลังนี้พลันความทรงจำเก่าๆก็ไหลกลับเข้ามา

     

           (อดีต)

           “ครามลูกมาหาแม่หน่อยจ้ะ”

           เสียงหวานเอ่ยเรียกให้เด็กน้อยวัยสิบขวบเดินเข้าไปหาผู้เป็นมารดา ดวงตากลมแป๋วจ้องมองแม่ตัวเองสลับกับคนแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จักสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแม่ของเขามีผู้ใหญ่สองคนกำลังส่งรอยยิ้มเอ็นดูมาให้เขาส่วนเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งกลับมีใบหน้าราบเรียบ

           “นี่ครามลูกของฉันค่ะ ส่วนครามนี่คุณลุงพอลกับคุณป้ามิเชลและนี่พี่ราฟาเอลต่อไปนี้พวกลูกสองคนต้องทำความรู้จักกันไว้นะเพราะอีกไม่นานพวกเขาจะย้ายเข้ามาเป็นเพื่อนบ้านของเรา”

           แก้วขวัญแนะนำคนแปลกหน้าให้เด็กน้อยได้รู้จัก ส่วนครามจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยความไร้เดียงสาเขาส่งรอยยิ้มไปให้ราฟาเอลที่ยังคงสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์

           ราฟาเอลและครามได้ทำความรู้จักกันในทีแรกราฟาเอลไม่ยอมคุยกับครามเลยแม้สักคำเดียวจนเวลาเลยผ่านไปเป็นเดือนด้วยความที่ครามเป็นเด็กน่ารักร่าเริงน้ำเสียงเจื้อยแจ้วน่าฟังเมื่อเขาได้มีเพื่อนบ้านก็ชอบพูดคุยจ้อไม่หยุดถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ยอมคุยด้วยก็ตามแค่เขาได้มีเพื่อนแบบนี้ก็ช่วยให้หายเหงาได้มากจนในที่สุดราฟาเอลก็ยอมคุยกับคราม

           “ฮึก ฮึก ฮือ”

           “ร้องไห้ทำไม”

           “…”

           ดวงตาสีน้ำตาลที่เคลือบไปด้วยน้ำตาเงยมองคนที่ยอมพูดกับเขาเป็นครั้งแรก เด็กน้อยรู้สึกดีใจมากที่พี่คนเย็นชายอมคุยกับเขาเสียทีแต่ก็ยังคงสะอึกสะอื้นเนื่องด้วยกำลังเสียใจอยู่ ครามไม่ได้ตอบคำถามของราฟาเอลจนเขาต้องถามย้ำอีกครั้ง

           “ฉันถามว่านายร้องไห้ทำไม”

           “พ่อกับแม่ อึก พวกเขาทะเลาะกัน”

           เด็กน้อยว่าพลางสะอึกไปด้วย ราฟาเอลมองครามด้วยความรู้สึกหลากหลายดวงตาฉายแววอ่อนแสงลงพลางยื่นมือไปลูบแผ่นหลังบางของเด็กน้อยอย่างต้องการปลอบประโลม

     

     

           หน้าคฤหาสน์หรูสไตล์ยุโรปคือสถานที่ที่ครามต้องมาตามนัดเมื่อครบเวลาเจ็ดวันพอเขามาถึงบอดี้การ์ดก็นำพาเขาเข้าไปข้างใน ภายในถูกตกแต่งอย่างสวยงามโถงบันไดแยกเป็นปีกซ้ายและปีกขวาทุกสิ่งที่อยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ถูกแปรเปลี่ยนไปต่างจากเมื่อก่อนมาก ครามไม่มีเวลาที่จะมาสนใจการตกแต่งของคฤหาสน์หลังนี้มากนักเพราะเขามาที่นี่เพื่อมาตามนัดและชดใช้หนี้...

           ห้องทำงานถูกเปิดออกโดยบอดี้การ์ดเมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้านายแล้วครามเดินเข้าไปข้างในโดยไม่มีบอดี้การ์ดตามเข้ามาด้วย บรรยากาศรอบล้อมไปด้วยความเงียบชวนอึดอัดเมื่อทั้งสองคนอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง ครามเดินเข้าไปนั่งโซฟาที่อยู่หน้าโต๊ะทำงานเขาจ้องมองราฟาเอลที่อยู่ในชุดสูทสีดำไม่ว่าผู้ชายคนนี้จะแต่งตัวสไตล์ไหนเขาก็ยังคงดูดีอยู่เสมอใบหน้าเคร่งขรึมวางงานที่อยู่ตรงหน้าแล้วหันมาให้ความสนใจเด็กหนุ่มที่จดจ้องเขาอยู่จนครามสะดุ้งตกใจ

           “หาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้สินะ”

           “…”

           ราฟาเอลยิ้มหยันร่างสูงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงสองขาเดินไปนั่งไขว้ขายังฝั่งตรงข้ามมือประสานกันไว้ดวงตาสีรัตติกาลมองเด็กหนุ่มด้วยใบหน้าราบเรียบจนครามรู้สึกอึดอัดลำคอแห้งผากจะว่าเขากลัวคนตรงหน้าก็ว่าได้

           “ในเมื่อไม่มีเงินมาใช้หนี้เธอก็คงจะรู้แล้วใช้ไหมว่าสถานะของเธอคืออะไร”

           “…”

           “ทำไมตอนนี้ถึงกลัวฉันล่ะทั้งที่เมื่อวันก่อนยังปากดีอยู่เลย”

           ดวงตาสีน้ำตาลมองสบคนตรงหน้าทั้งสองคนจ้องมองกันความเงียบสงบถูกโอบล้อม ดวงตาสีน้ำตาลมีแววสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะเบี่ยงเบนสายตาไปทางอื่นเขาไม่อยากอ่อนแอต่อผู้ชายคนนี้ ราฟาเอลเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดอะไรเขาจึงเอ่ยขึ้นพร้อมเน้นย้ำสถานะของอีกฝ่ายและประโยคสำคัญเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ต่อต้านเขา

           “เอาล่ะหน้าที่ของเธอก็คืออีตัวของฉันต่อไปนี้ก็ปฏิบัติต่อฉันดีๆล่ะ ที่สำคัญอย่าทำให้ฉันโกรธหรือไม่พอใจ ฉันจะสั่งให้แม่บ้านพาตัวเธอไปยังห้องของเธอ”

           “ครับ…คุณราฟาเอล

           เด็กหนุ่มตอบรับด้วยใบหน้าเรียบเฉยที่เขาพยายามปั้นมันขึ้นมาเพื่อแสดงให้ผู้ชายตรงหน้าได้รู้ว่าเขาจะไม่มีทางตกเป็นเบี้ยล่างของผู้ชายคนนี้ตลอดไปแน่นอนถึงแม้ในใจจะมีคำถามหนึ่งที่วนเวียนอยู่ในสมองเขาพยายามถามตัวเองซ้ำๆว่าเขามีความผิดอะไรนักหนาผู้ชายคนนี้ถึงมองเขาด้วยสายตาเกลียดชังกันได้ถึงเพียงนี้...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×