*~ชั้นก้อน้อยใจเปนนะ~* - *~ชั้นก้อน้อยใจเปนนะ~* นิยาย *~ชั้นก้อน้อยใจเปนนะ~* : Dek-D.com - Writer

    *~ชั้นก้อน้อยใจเปนนะ~*

    ชั้นก้อเจ็บเปนนะ ไม่ใช่เวลาชั้นเจ็บเทอบอกเทอก้อเคยเจ็บแบบนี้ หัดอดทนมั่ง เมื่อไหร่ที่ชั้นตายเทอก้อไม่ต้องมาว่าชั้นใช่มั้ย ... และเวลานั้นก้อมาถึง

    ผู้เข้าชมรวม

    247

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    247

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 เม.ย. 49 / 16:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      "ก๊อกๆๆๆๆ" เสียงเคาะประตูรัวๆ ด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวของใครบางคนที่คุ้นเคยกันดี ทำให้ผมต้องลุกขึ้นไปเปิดโดยเร็ว

      "เป็นไรมาอีกหล่ะ?" ผมถามด้วยสีหน้ารู้ทัน ที่นอกห้องเพื่อนของผมยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ มันมองหน้าผมอย่างกับว่าจะเอาเรื่อง ผมยิ้มขำกับอารมณ์ของมันในตอนนี้ ก่อนจะเปิดประตูห้องกว้างมากขึ้นแล้วมันก็เดินเข้ามา...

      ...บี...เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มีอันเป็นไปจากคำสั่งบนฟากฟ้า..!!มันเป็นทอม!!..เราเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่มัธยมจนอุดมศึกษา และมาถึงตอนนี้ที่ต่างก็มีงานมีการทำกันแล้ว บีมันเป็นคนขี้เล่นอารมณ์ดี สนุกสนาน จึงทำให้เพื่อนมันค่อนข้างเยอะ เรื่องพูดละก็..ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่ามันน่าจะเป็นคนพูดเก่งขนาดไหน เราทำงานที่เดียวกัน อ้อ..ลืมบอกไปว่าผมก็เป็นหนึ่งในคนที่โดนใบสั่งจากฟากฟ้าด้วยเหมือนกัน

      ผมกับบีจะสนิทกันมาก บีมีแฟนแล้ว ชื่อ..พลอย พลอยเป็นคนน่ารักนิสัยดี เข้ากับเพื่อนๆทุกคนของบีได้ พลอยก็เลยกลายเป็นเพื่อนที่สนิทของผมไปอีกคนโดยปริยาย เรา..หมายถึงผม บีแล้วก็พลอย ต่างก็ออกจากบ้านมาพักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใจกลางเมืองหลวงอันแสนจะวุ่นวาย โดยที่ผมขอพักอยู่คนเดียว บีกับพลอยพักอยู่ห้องเดียวกัน แต่เราอยู่กันคนละชั้น เพราะมันไม่มีห้องที่ใกล้ๆกันให้เราอยู่

      บีกับพลอยรักกันมาก มันอาจจะเป็นเพราะว่าทั้งสองคนมีอะไรหลายๆอย่างที่เข้ากันได้ดีและเหมือนๆกัน คิดเหมือนกัน ชอบเหมือนกัน สรุป..ก็คือทั้งคู่รสนิยมเดียวกัน จึงทำให้ไม่ต่องจูนอะไรหากันให้มากมายนัก แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่เพื่อนของผมทั้งคู่ไม่เหมือนกัน นั่นก็คือ

      บี..มันจะเป็นคนสำออยมาก เจ็บนิดเจ็บหน่อยก็จะเป็นจะตาย มันติดพ่อมันมา ผมเคยไปบ้านมัน แม่มันเล่าให้ฟังว่าพ่อมันก็เป็นแบบนี้ ถ้าเป็นแผลถึงขั้นเลือดออกนะ โอ้โห..อย่าให้พูดเลย ไอ้บีเพื่อนผมมันทำตัวประหนึ่งว่าคงต้องตาย ทั้งๆที่บางทีแผลมันเล็กนิดเดียว เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเฉพาะที่บ้านนะ แต่ไอ้บีมันดังไปทั้งออฟฟิศ ครั้งหนึ่ง..มันเคยโดนมีดคัตเตอร์บาดนิ้ว มันแหกปากร้องดีดดิ้นอย่างกับหมาโดนน้ำร้อนลวก ตั้งแต่วันนั้นมาคนที่ออฟฟิศก็ได้รู้ว่ามันเป็นโรคสำออยเข้าเส้นเลือด

      ที่จริงแล้ว แม่บีเค้าเคยบอกผมว่า เป็นห่วงมันเหมือนกัน ก็เพราะไอ้ความเจ็บนิดเจ็บหน่อยก็จะเป็นจะตายของมันนี่แหละ แม่บอกว่า บีมันไม่ได้เป็นโรคสำออยเข้าเส้นเลือดหรอก แต่มันเป็นคนไม่อดทนต่อความเจ็บปวดทางร่างกาย แต่ผิดกับใจมันนะ ผมรู้สึกว่าถ้ามันหัดอดทนความเจ็บปวดทางร่างกายได้เท่ากับที่มันมักจะมีเรื่องที่ต้องอดทนทางใจ มันก็จะเป็นคนที่เพอร์เฟ็คกว่านี้เป็นร้อยเท่าเลยทีเดียว

      ผิดกับพลอย...พลอยจะเป็นผู้หญิงที่มีความอดทนทางร่างกายสูง เป็นเพราะว่าพลอยเคยได้รับความเจ็บปวดทางร่างกายมาแล้วถึงขั้นที่จะต้องนอนโรงพยาบาล พลอยเคยตกบันไดหัวแตก แขนหัก แล้วก็สลบไปตอนที่ยังอยู่ชั้นมัธยม สาเหตุมาจากการที่รีบวิ่งลงมาชั้นล่างจนก้าวพลาดนั่นเอง ตอนนั้นก็ถือว่าหนักเอาการ เพราะพลอยสลบไปหลายวันเลยทีเดียว พอฟื้นขึ้นมารักษาจนหาย มันก็เลยกลายเป็นว่าพลอยสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดทางร่างกายได้ในเวลาต่อมา พลอยเคยบอกผมว่าเจ็บมาเกือบตายแล้วไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย

      บีกับพลอยจะทะเลาะกันเป็นประจำกับเรื่องที่พลอยคิดว่าเล็กน้อย แต่บีมันเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ ผมลืมบอกไป บีมันเป็นโรคขี้น้อยใจด้วยนะ

      "เป็นอะไรมาอีกหล่ะวันนี้มึง" ผมถามมันเมื่อบีมันเข้ามานั่งหน้ามุ่ยอยู่บนเตียงนอนของผม

      "ก็พลอยน่ะสิ ว่ากูอีกแล้ว" บีบ่นเสียงน้อยใจเหมือนเดิม

      "แล้วมึงไปทำอะไรมาอีกหล่ะ เจ็บตัวอีกแล้วสิ" ผมพูดพลางมองหาว่ามันเจ็บอะไรตรงไหน

      "ก็กูไม่ได้อยากให้เกิดนี่หว่า หยิบขวดเป๊บซี่ลิตรในตู้เย็นมาเปิด ยังไม่ทันเปิดมันเสือกหลุดมือหล่นใส่นิ้วโป้งเท้าอย่างแรง แม่...ง เจ็บฉิบ..เลย" บีมันยกเท้าขึ้นมาลูบคลำ

      "ทีนี้ก็เลยแหกปากร้องเลยสิมึง" ผมดักคอมันอย่างรู้ทันนิสัย แต่ก็มองไปที่นิ้วโป้งเท้ามันที่ยังแดงๆอยู่ สงสัยมันคงเจ็บมากตอนโดน

      "ก็เออสิวะ แล้วมึงดูดิ พอกูร้องนะ พลอยก็บอกว่าอย่าเวอร์ แค่นิดเดียวเอง แต่กูเจ็บนะโว้ย.." บีมันทำหน้ายุ่ง มือมันนวดคลึงนิ้วโป้งเท้าตลอดเวลา ผมเดินเข้ามาจับดู มันสะดุ้งโหยงแหกปากร้องลั่น จนผมตกใจ

      "เฮ้ย...เป็นไร"

      "ก็กูเจ็บนะโว้ย เจ็บจริงๆ" บีมันมองหน้าผมเหมือนจะเอาเรื่องที่ไปโดนนิ้วมัน ผมได้แต่ขำกับท่าทางของมัน ทำไมมันไม่รู้จักอดทนเสียบ้างเลยก็ไม่รู้

      นี่คือหนึ่งในหลายๆเรื่องที่มันต้องมาบ่นให้ผมฟังเสมอเวลาที่แฟนมันไม่สนใจว่ามันเจ็บตัวอะไรมา ส่วนมากผมจะเข้าข้างพลอยเสมอว่าถูกแล้ว จะได้ดัดนิสัยมันให้เป็นคนที่อดทนต่อความเจ็บปวดเสียบ้าง แต่ในบางครั้ง...ที่เห็นว่าบีมันตาบวมๆมาจาการที่โดนแฟนดัดนิสัย ผมก็นึกเข้าข้างบีมันเหมือนกัน เพราะว่าบีมันเคยบอกผมว่า

      "เจ็บน่ะมันเจ็บอยู่แล้ว จะให้อดทนกูก็ทำได้บ้างนะ แต่กูอยากให้พลอยพูดอะไรที่มากกว่า เจ็บนิดเดียวเอง แค่นี้เอง พลอยก็เคย พลอยโดนมายิ่งกว่านี้อีก กูเพียงแต่อยากให้พลอยบอกว่า ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวก็หาย ไหนมาดูสิ แค่นี้กูก็คงหายเจ็บลงบ้าง ปลอบใจอ่ะ มึงเข้าใจมั๊ยกูอยากให้พลอยปลอบใจบ้าง ไม่ใช่ว่ากูสำออยอย่างเดียวเลย"

      นี่เป็นคำพูดที่มันมักจะมาบ่นเสมอๆ ว่าพลอยคงคิดว่ามันแกล้งเจ็บ มันน้อยใจ บางครั้งมันจะมาร้องไห้กับผมเสมอๆ ผมทำได้แค่นั่งมองมันเฉยๆ โดยที่ไม่ซ้ำเติมอะไรมันอีก ผมก็ไม่รู้หรอกว่าคนที่ไม่อดทนต่อความเจ็บปวดมันเป็นยังไง แต่ผมพอจะเข้าใจว่า คนพวกนี้ถ้าได้ยารักษาที่เป็นคำปลอบโยนดีๆ ก็คงจะทุเลาอาการเจ็บปวดลงได้บ้าง

      มีอยู่ครั้งหนึ่งซึ่งบีมันดูจะเสียใจมาก....

      "กีอกๆๆๆๆๆ" ผมลุกขึ้นไปเปิดประตูให้เพื่อนเหมือนเดิม

      "มึงเป็นไร" ผมถามค่อนข้างตกใจ เพราะเห็นมันร้องไห้ตาบวมกุมหัวมา

      "หัวโน" มันตอบเบาๆ เสียงสั่นๆ ก่อนจะเข้ามานั่งบนเตียงเหมือนเดิม

      "โดนอะไร" ผมถามเสียงเป็นห่วง คงไม่ใช่พลอยทำมันหรอก เพราะพลอยไม่ใช่คนอย่างนั้น

      "หัวเตียง" มันตอบสั้นๆ ไม่ยาวเหมือนเคย เสียงมันดูเศร้าสะเทือนใจยังไงไม่รู้

      "ไปทำอีท่าไหนเข้าวะ" ผมถามก่อนจะเดินไปแหวกหัวมันดู เห็นลูกมะนาวลูกเล็กๆ อยู่บนหัวมัน

      "ก็นอนอยู่แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ เดินกลับมานอนผิดจังหวะ ลงที่หัวเตียงเต็มที่เลย" มันเริ่มพูดยาวๆได้บ้าง

      "แล้วพลอยว่าไง" ผมถามอะไรที่ซื่อบื้อมากๆออกไป ไอ้บีมันน้ำตาร่วงพรูออกมาจนผมตกใจก่อนจะบอกผมว่า

      "ตอนแรกพลอยได้ยิน พลอยก็บอกว่าอุ๊ยเจ็บมั๊ยหล่ะ โดนเต็มที่เลย กูเจ็บไง กูก็เลยพยักหน้า แล้วจับหัวดู มันเจ็บมากตกใจนึกว่าแตก กูก็เลยน้ำตาร่วง พลอยเห็นกูร้องไห้ พลอยก็บอกว่า กูเว่อร์ แค่นี้เอง พลอยก็เคยโดน จะร้องไห้ทำไม มึงดูสิ กูเจ็บฉิ...บกูยังโดนว่าอีก กูเสียใจก็เลยยิ่งร้องใหญ่ พลอยก็คงหมั่นไส้กูมั๊ง ไม่เห็นเข้ามาดูกูเลย" มันพักยกสะอื้นเหมือนเด็กๆ

      "กูก็เลยลุกไปหยิบผ้าเช็ดหน้าเอาไปชุบน้ำแล้วแช่ในตู้เย็น เอาออกมาประคบหัวโนๆของกูเอง เฮ้ย..กูแม่.....งโคต...ร น้อยใจเลยหว่ะ ทำไมพลอยดีกับกูทุกเรื่องเว้นอยู่เรื่องเดียวก็คือเรื่องความเจ็บตัวของกู ที่พลอยจะต้องบอกกูเสมอว่าพลอยเจ็บมามากกว่านี้อีก พลอยต้องรอให้กูเจ็บขนาดไหนก่อนเหรอว่ะถึงจะมาปลอบกูดีๆได้"

      ผมได้แต่นั่งฟังมันพร่ำพรรณาร้องห่มร้องไห้น้อยใจแฟนอยู่อย่างนั้น โดยไม่รู้จะทำอย่างไร อยากจะเดินไปบอกพลอยว่าบีมันน้อยใจ มันเจ็บจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องของผม ก็เพราะไอ้ความสำออยของมันที่มีมาแต่เกิดนี่แหละครับ ดันมาเจอแฟนจอมอึดเข้า ก็เลยไม่เข้าใจกัน มันเป็นแค่เรื่องเดียวที่ไม่เข้าใจกันนอกนั้นมันทั้งคู่ก็เป็นปี่เป็นขลุ่ยด้วยกันไปซะทุกเรื่อง

      แต่คราวนี้ผมเห็นแววตาอะไรบางอย่างของบีมัน มันเป็นแววตาที่บีแทบจะไม่เคยแสดงออกมาก่อน

      "มึงเป็นไรมากเปล่าว่ะบี ทำไมทำหน้าอย่างนี้" ผมเริ่มห่วงๆมัน

      "ไม่รู้สิ กูกำลังคิดว่า ต่อไปนี้ ถ้ากูเป็นอะไร เจ็บแค่ไหน กูจะไม่บอกพลอยอีก พลอยจะได้ไม่ต้องว่ากูเว่อร์อีก กูเจ็บตัวก็พอแล้ว ถ้าให้กูต้องมาโดนพลอยว่าให้เจ็บในหัวใจอีก กูก็ยิ่งรู้สึกแย่ไปกันใหญ่ กูรักพลอย กูไม่อยากให้เรื่องพวกนี้มาทำให้กูกับพลอยมีปัญหากัน"

      "เออแหะ..มึงคิดได้ยังไงเนี่ย คนเป็นแฟนกันมีอะไรก็ต้องบอกกัน จะโดนว่ายังไงมึงก็ต้องบอกพลอย มึงอยู่กันมาทำไมยังไม่รู้นิสัยกันอีกว่ะ มึกก็รู้ว่าพลอยเค้าอึด มีความอดทนต่อความเจ็บตัวสูง มึงก็ต้องทำใจ มึงก็อดทนหน่อยซีว่ะ" ผมบอกมันชุดใหญ่

      ตั้งแต่วันนั้นมา ห้องผมก็กลายเป็นสถานที่ระบายความในใจ น้อยใจแฟน เพราะไอ้บีมันมีอันต้องเจ็บโน่น โดนนี่ อยู่เป็นประจำ ก็มันเองมันก็ไม่ค่อยจะระวังตัวเอาเสียเลย ซุ่มซ่ามเฟอะฟะอยู่เป็นประจำ ผมก็ได้แต่นั่งฟังอย่างเดียว เดี๋ยวพอมันพูดจบมันก็ออกไปเอง

      แต่บางครั้งผมก็สงสารมันนะ อยากให้พลอยอ่อนลงมาบ้าง เชื่อว่ามันเจ็บจริงบ้าง ผมเองก็คิดได้อยู่อย่างหนึ่งว่า คนเราเกิดมาไม่ได้มีอะไรเหมือนกันหรือเท่าเทียมกันไปเสียทุกคน พลอยจะให้บีต้องอดทนต่อความเจ็บปวดร่างกายได้เท่ากับพลอยคงเป็นไปไม่ได้ และบีจะให้พลอยต้องกลายมาเป็นคนสำออยเหมือนบีก็คงไม่ได้ แล้วผมจะช่วยเพื่อนๆผมยังไงดี

      ....จนกระทั่งวันหนึ่ง....

      "เฮ้ย! บีไปทำอะไรมา" ผมเงยหน้าขึ้นจากกองงานบนโต๊ะก็เจอเข้ากับร่างของไอ้บีเพื่อนรักที่มอมแมมเหมือนไปฟัดกับหมาที่ไหนมา

      "ตกมอเตอร์ไซค์" บีบอกเสียงเนือยๆก่อนจะนั่งลงพร้อมกับเอามือลูบคลำที่ท้ายทอยไปมา

      "อะไรนะ! ที่ไหน" ผมตกใจกับคำบอกของมัน พร้อมกับเห็นสีหน้ามันที่ดูซีดๆยังไงพิกล

      "ตกมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เมื่อกี้ ตอนจะออกไปหาพลอยที่ที่ทำงานพลอย" บียังคงพูดด้วยน้ำเสียงเนิบๆเหมือนเดิม สะบัดหัวไปมาขยี้ตาเบาๆ

      "แล้วเป็นไรมากเปล่า ไหนดูสิ" ผมรีบลุกขึ้นเดินไปจับตัวมันสำรวจไปทั่วๆ ไม่พบแผลใดๆ

      "มึนๆ" บีมันบอกเบาๆ

      "มึงเอาหัวลงเหรอ ไหนดูซิ" ผมจับหัวมันแหวกทันทีมองหาแผลแต่ไม่เจอ เห็นแต่รอยแดงๆที่หัวด้านหลัง

      "เออ กูหงายหลัง ยังไม่ทันใส่หมวกเลย แม่...งเสือกออกรถกูก็เลยหล่นเลย" บีมันบอกยิ้มๆ แต่มือมันยังคงตบที่ท้ายทอยอยู่ตลอดเวลา มันคงจะมึนๆอยู่

      "โทรบอกพลอยหรือยัง" ผมถามด้วยความเป็นห่วง

      "ไม่เอา เดี๋ยวพลอยว่า นั่งยังไงให้ตก" บีมันรีบบอกปฏิเสธ

      "เออๆ ตามใจ เดี๋ยวมึงนั่งก่อนกูจะไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดฝุ่นที่เปื้อนตัวมึง" ผมบอก

      "เออๆ" สิ้นเสียงรับคำของบีผมก็หันหลังเดินไปที่ห้องน้ำของออฟฟิศทันทีโดยไม่รู้ว่าบีมันได้ค่อยๆฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงานของผม

      ผมกลับมาอีกทีพร้อมกับผ้าชุบน้ำ มองไปเห็นบีมันฟุบอยู่ก็เลยไม่ได้เรียกมัน สงสัยมันคงมึนๆ ให้มันพักตาสักพักก็คงดีขึ้น แต่ผมคิดผิด...ผ่านไปได้สักห้านาที มันก็ยังไม่เงยขึ้นมา ผมจึงเดินไปจับตัวมันเขย่าเบาๆ มันขยับตัวนิดหน่อยก่อนจะรับคำในลำคอให้รู้ว่าได้ยินแล้วที่เรียก ผมเริ่มสงสัยในอาการของมันที่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา ผมเลยจับไหล่มันให้เงยขึ้น


      ภาพตรงหน้าทำเอาผมช็อค!!

      มีเลือดสดๆไหลออกมาจากจมูกของเพื่อนผม ตามันสลึมสลือไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองผมแต่อย่างใด สักพักมันก็อาเจียนออกมา เสียงอาเจียนของมันทำให้คนในออฟฟิศตกใจแล้วพากันวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเองก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนผมเป็นอะไร ผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่ตะโกนบอกให้เรียกรถพยาบาล ทุกคนตกตะลึงนิ่งอึ้งกับสภาพของบีในตอนนั้น พี่คนหนึ่งได้สติก่อนใคร รีบวิ่งไปโทรตามรถพยาบาล แต่พี่อีกคนบอกว่าให้ไปรถเค้าดีกว่า รอรถพยาบาลเมื่อไหร่จะมา เราก็เลยช่วยกันพาบีขึ้นรถ โดยมีผมนั่งที่เบาะหลัง แล้วบีมันนอนหนุนตักผมอยู่ ผมร้องไห้...ตลอดทาง

      "บี บี โทรบอกพลอยนะ" ผมก้มลงบอกกับมัน มันจับมือผมไว้

      "ไม่เอา...เดี๋ยวพลอยว่า....พลอยก็เคยหัวฟาดพื้น...กูจำได้....พลอยเคยเล่าให้ฟัง บอกพลอยเดี๋ยวพลอยก็ว่ากูไม่อดทนอีก" บีมันพูดเบาๆ เหนื่อยๆ เท่าที่แรงมันจะพูดได้

      "มึงอย่าคิดไปเองบี มึงอย่าคิดไปเอง" ผมปลอบใจเพื่อนพร้อมกับร้องไห้ออกมา พลอยจะรู้ไหมว่าคราวนี้บีมันเจ็บจริงๆ ผมตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหาพลอยทันที

      "ฮัลโหล พลอยเหรอ บี...มันตกมอเตอร์ไซค์ หัวฟาดพื้น" ผมบอกด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

      "ห๊า...แล้วเป็นอะไรมากเปล่า" พลอยถามเสียงตกใจ

      "กำลังจะพาไปโรงพยาบาล" ผมบอก

      "ไหนขอพูดกับบีหน่อย" พลอยบอกมาตามสาย ผมเอาโทรศัพท์แนบกับหูเพื่อน

      "ฮัลโหล พลอย...บีตกมอเตอร์ไซค์" บีมันค่อยๆพูดออกไป ผมฟังดูก็รู้ว่ามันกำลังจะไม่ไหว

      "แล้วนั่งยังไง......" ผมไม่รู้ว่าพลอยพูดอะไรกับมัน แต่ผมเห็นมันเอนหน้าหนีโทรศัพท์ ก่อนที่น้ำตามันจะไหลรินลงมาอย่างมากมาย ผมจึงยกโทรศัพท์มาฟังเอง

      "เป็นอะไรมากหรือเปล่า เอาตรงไหนลง หัวฟาดพื้นแรงมั๊ย บีเจ็บตรงไหนบอกพลอยซิ บี บี บี" นั่นเป็นคำพูดที่ผมเป็นคนได้ยิน ผมเดาเอาว่า บีมันคงได้ยินแค่ประโยคแรกจากพลอย แล้วมันก็คงไม่อยากฟังอีก มันจึงไม่รู้ว่าพลอยพูดอะไรต่อไปจากประโยคแรก ซึ่งผมฟังดูแล้วพลอยก็เป็นห่วงบีมากอยู่ ไม่เห็นพลอยว่ามันสักคำ

      "พลอย...ฟังนะ..บีมันเป็นอะไรไม่รู้ เลือดมันออกจากจมูกใหญ่เลย แล้วมันก็อ้วกด้วย เดี๋ยวเจอกันที่โรงพยาบาลนะ" ผมบอกแค่นั้นก่อนจะวางสายลงผมได้ยินเสียงพลอยร้องไห้

      ...ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล พลอยมายืนรออยู่ตรงด้านหน้าแล้วกับเพื่อนๆอีกสองสามคน เจ้าหน้าที่พาร่างอันไม่ได้สติของเพื่อนผมเข้าไปในห้องฉุกเฉิน พลอยเดินตามเกาะรถเข็นร้องไห้ไปตลอดทาง...

      ...เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน ตลอดเวลา ผมเห็นพยาบาลวิ่งเข้าวิ่งออกจากห้องนั้นกันโกลาหล ผมรู้ได้ทันทีเลยว่าเพื่อนผมแย่ พลอยหันมามองหน้าผมแล้วเราก็ร้องไห้ออกมาพร้อมๆกันอีกครั้ง ดูเหมือนว่าในตอนนี้เราต่างรู้ดีว่าเราคงไม่มีความหวังใดๆ จากสีหน้าของพยาบาลที่มองมาทางพวกเรา ไม่พูดเราก็รู้ได้....

      ....สักพักพยาบาลก็ออกมาบอกว่า...บีตายแล้ว...เพื่อนผม!...ตายได้ยังไง...บีมันตายได้ยังไง...มันเหมือนมีใครเอาค้อนหนักๆมาทุ่มลงบนหัวผม ผมอึ้ง ผมงง อยู่อย่างนั้น...เพื่อนผมมันตายได้ยังไง...

      ผมหันไปเห็นพลอยร้องไห้กอดกันอยู่กับเพื่อนๆของพลอย ผมได้ยินหมอบอกว่าบีมันเลือดคลั่งในสมอง ด้วยเพราะแรงกระแทกที่มันตกมอเตอร์ไซค์ ถ้ามันมาหาหมอตั้งแต่แรกมันน่าจะยังไม่ตาย เพราะหมอจะต้องดูอาการมันออก

      ...บีมันเริ่มอดทน...

      มันเริ่มอดทนเหมือนที่พลอยเคยบอกมันเอาไว้ มันปวดหัวตั้งแต่ตอนแรกที่มันเดินเข้ามาในออฟฟิศ แต่มันกำลังเริ่มที่จะฝึกความอดทนต่อความเจ็บปวดของร่างกาย มันมาเริ่มอะไรตอนนี้ มันเห็นว่าไม่มีแผลมันก็เลยฝึกความอดทน...ไอ้บ้า...ไอ้เพื่อนบ้า...ไอ้หน้าหมาบีเอ๊ย...ใครเค้าสอนให้มึงมาอดทนเอาตอนนี้...มึงลุกขึ้นมาระบายกับกูสิว่ะ กูอยู่ตรงนี้ มึงลุกขึ้นมาเลยไอ้บี....

      ผมได้แต่ตะโกนร้องเรียกมันอยู่ในใจ ร้องไห้จนน้ำตาแทบจะไม่มีให้ไหลริน

      ...ผมกลับมาที่อพาร์ตเมนต์พร้อมกับพลอยเพื่อมาเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนให้เพื่อนผม พลอยเดินร้องไห้ไปตามทางเดิน ผมเดินตามมองดูอย่างเวทนา แล้วพลอยมันจะอยู่ยังไง พลอยไขประตูห้องเปิดเข้าไปโดยมีผมเดินตามมา

      "เดี๋ยวพลอยจะไปเอาเสื้อผ้าบี ที่บีชอบใส่ไปให้บีนะ" พลอยเดินไปที่รูปคู่บนหลังตู้เย็นแล้วบอกกับรูปนั้น ผมต้องเบือนหน้าหนีกับภาพนั้น

      เวลาผ่านไปสักพัก พลอยทำไมยังเลือกเสื้อผ้าไม่ได้ ผมเดินตามเข้าไปในห้องนอนเห็นพลอยมันนั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร อยู่ตรงปลายเตียงหน้าตู้เสื้อผ้า ในมือพลอยถือกระดาษอะไรบางอย่างอยู่ ผมจึงเดินเข้าไปหยิบกระดาษนั้นขึ้นมาอ่าน....


      ...8 มี.ค....

      พลอย...บีเจ็บหัวจริงๆนะ บีเจ็บมากๆเลย
      บีไม่ได้เว่อร์ ตอนที่บีกระแทกกับหัวเตียง
      มันเจ็บมาก ทำไมพลอยไม่พูดกับบีดีๆ
      บีร้องไห้เพราะมันเจ็บ บีขอโทษที่ทำให้
      พลอยอารมณ์เสีย ก็บีเจ็บจริงๆนี่นา
      บีรู้ว่าพลอยก็เคยโดน ไม่ว่าบีจะเจ็บอะไร
      พลอยก็เคยโดนและเจ็บมาก่อนทั้งนั้น
      แต่พลอยก็อดทน แต่บีไม่อดทน
      สิ่งเดียวที่พลอยยังไม่เคยโดนก็คือ
      "ความตาย" ถ้าเมื่อไหร่ที่บีตาย พลอยก็คงจะว่า
      บีไม่ได้แล้วว่า แค่นี้เองพลอยก็เคยโดน
      เพราะพลอยยังไม่เคยตาย
      ดีเหมือนกันนะ ถ้าบีต้องเจ็บจนตายเมื่อไหร่
      บีจะได้ไม่ต้องโดนพลอยว่าอีก
      แล้วถ้าถึงตอนนั้นบีจะไปหาพลอยในฝันนะ
      แล้วเวลาที่พลอยหาว่าบีไม่อดทน
      บีก็จะหายตัวไป แล้วพอพลอยเลิกว่า
      บีก็จะกลับมาหาพลอยในฝันใหม่
      บีน้อยใจนะพลอย แล้วบีจะหัดอดทน
      ...บีสัญญา...
      แต่วันนี้หัวบีโนเจ็บจังเลยพลอย......


      ผมเข่าอ่อนนั่งลงร้องไห้ข้างๆพลอย ผมจำได้ว่าวันที่บีเขียนระบายความอัดอั้นนี้ ก็คือวันที่บีมันไปเคาะประตูเรียกผมวันนั้น มันเล่าให้ผมฟังซะยืดยาว แสดงว่าวันนั้นมันไม่ได้พูดอะไรกับพลอยเลย...มันก็เลยมาระบายออกเป็นตัวหนังสือก่อนจะไประบายกับผมอีกรอบหนึ่ง

      ผมนั่งมองพลอยที่ก้มหน้ากอดเข่าร้องไห้อยู่อย่างนั้นด้วยความสงสาร พลอยคงรู้แล้วว่าบีมันน้อยใจยังไง แล้วตอนนี้...บีมันก็คงรู้แล้วว่า...พลอยกำลังเสียใจ...

      "พลอย...ถ้าคืนไหนบีมันมาหาในฝัน พลอยอย่าว่าบีมันอีกนะ บีมันอดทนได้แล้ว เออ...แล้วฝากบอกมันด้วยนะว่า...เราคิดถึง"

      ผมแตะไหล่บอกกับพลอยก่อนจะลุกออกไป กลับไปที่ห้องของผมแล้วทิ้งตัวลงกับเตียงร้องไห้ออกมาอย่างไม่กลัวว่าใครจะได้ยิน





      เส้าๆค่า ยังไงก้อ ติดตามเรื่องต่อปัยนะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×