ตอนที่ 57 : +ลวงรัก 18+ ไม่ต้องการ ที่ ‘ยังต้องการ’ [3] 150%
“คุณ… ใส่ให้จีนทำไมคะ”
“ของขวัญต้อนรับค่ะ”
“หมายความว่ายังไง” ฉันจ้องคนตรงหน้าเหมือนคาดหวังอะไรสักอย่าง จากคำพูดที่กำลังจะหลุดออกจากปากเขา
“พี่ให้ของขวัญต้อนรับกับพนักงานทุกคนอยู่แล้วค่ะ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน”
ได้ยินเขาพูดแบบนั้นฉันก็เบือนหน้าหนี พร้อมทั้งแอบด่าตัวเองที่เผลอใจไปคิดอะไรเป็นตุเป็นตะ ทั้งที่คิดว่าตัวเองจะพิเศษกว่าคนอื่น แต่มันกลับไม่ใช่ “ขอบ…”
“แค่ของขวัญของน้องจีนมันพิเศษกว่าพนักงานคนอื่นน่ะค่ะ”
ฉันชะงักไปอีกครั้ง ก่อนที่คุณภาคินจะแย้มยิ้มให้ “พี่เลือกให้ด้วยตัวเองเลยนะคะ”
เลือกเอง? เลือกเก่งขนาดนี้คงเลือกบ่อย ๆ สินะ ไม่เห็นจะน่าแปลกใจ ครั้งก่อนที่เขายังสวมบทบาทภัคกี้ก็ดูเชี่ยวชาญจนฉันแปลกใจ
แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรน่าแปลกใจแล้วนี่ “เลือกเก่งขนาดนี้ คงจะเลือกให้คนอื่นบ่อยเลยสินะคะ”
อยู่ ๆ ฉันก็เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเมื่อช่วงบ่ายก่อนที่เขาและยัยคุณเมย์จะออกไปหาลูกค้า ฉันแอบได้ยินยัยคุณเมย์เอ่ยขอบคุณถึงกระเป๋าถือของเธอในวันนี้ที่เขาซื้อให้ด้วย
ก็ต้องยอมรับว่าเทสต์ดีจริง ๆ แต่ก็นะ กระเป๋าคอลเลกชันเดียวกับที่นอนอยู่ในตู้ที่ห้องนอนฉัน หลังกลับบ้านฉันจะเอามาประกาศขายมือสองในตลาดออนไลน์ แล้วเอาเงินไปซื้อคอลเลกชันอื่นให้สาแก่ใจ
การต้องใช้ของเหมือนยัยนั่น มันทำให้ฉันรู้สึกโมโหขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้าหมายถึงเลือกของให้ผู้หญิงละก็… ใช่ค่ะ พี่ก็เลือกบ่อยเลยนะคะ”
“เหรอคะ!” ฉันกระแทกเสียงตอบกลับเขาอย่างขุ่นเคืองใจ
ก่อนจะสวมรองเท้าที่เขาให้อย่างจำใจ “ไว้จีนจะโอนเงินค่ารองเท้าคืนให้นะคะ”
พูดจบฉันก็เอารองเท้าคู่เก่าของตัวเองใส่ในกล่องรองเท้าแบรนด์ดัง ก่อนจะฉวยกระเป๋าแล้วเดินลงมาจากรถทันที
เกลียด! ฉันเกลียดเขา ฉันเกลียดผู้ชายแบบเขาที่สุด ชาตินี้จะไม่ญาติดีด้วยแน่ ๆ
PHAKIN Talks
ผมนั่งรออยู่ในรถพักใหญ่ ก่อนจะเดินตามน้องเข้าไปในร้าน คาดว่าหากเดินตามไปติด ๆ ตั้งแต่แรก คงต้องโดนคนดื้อไม่พอใจเอายกใหญ่แน่ ๆ แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดูเหมือนน้องจะเกลียดขี้หน้าผมจนแทบจะทนไม่ไหว
“สวัสดีค่ะ จองเอาไว้หรือเปล่าคะ”
“จองไว้แล้วครับ” ผมตอบพนักงานต้อนรับหน้าร้านพร้อมกับเดินตรงไปยังห้องคาราโอเกะขนาดใหญ่ด้านในสุดของร้าน
“อ้าว! คุณภาคิน มาด้วยเหรอคะ” ระหว่างทางที่กำลังเดินไปยังห้องเป้าหมาย คุณอิ๋วที่บังเอิญเดินออกมาจากห้องน้ำก็ทักทายผมด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ครับ” ผมตอบเธอยิ้ม ๆ เห็นแบบนั้นเธอก็ยกยิ้มตอบกลับแล้วเดินนำผมไปยังห้องคาราโอเกะที่จัดงานเลี้ยงฉลอง
ทันทีที่เปิดปะตูเข้าไปในห้องคาราโอเกะ นับสิบชีวิตที่กำลังร้องเพลงหรือพูดคุยกันอย่างสนุกสนานก็เริ่มเงียบเสียงลง เมื่อเริ่มมีคนสังเกตเห็นผมที่เข้ามายืนคู่กับคุณอิ๋ว
“ทุกคนฟังพี่นิดนึงนะ” คุณอิ๋วที่คว้าไมค์มาจากพนักงานคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “พอดีงานวันนี้คุณภาคินจะมาร่วมงานด้วย”
ผมกวาดสายตาพร้อมส่งยิ้มให้ทุกคนไปทั่วจนไปหยุดอยู่ที่หญิงสาวร่างเล็กผมประบ่าสีชมพูที่หันมามองผมด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
ท่าทางเธอจะไม่ค่อยอยากให้ผมมาร่วมงานจริง ๆ ด้วย แต่ว่า... ใครสนล่ะ ยิ่งน้องเกลียดอยู่แบบนี้ก็ต้องหาโอกาสเข้าใกล้เรื่อย ๆ สิ ในเมื่อตอนนี้กว่าจะหาทางเข้าใกล้น้องได้สักทีมันยากแสนยากกว่าตอนเป็นภัคกี้เยอะเลย
กว่าจะหาวิธีเข้าใกล้เธอได้แต่ละครั้ง บอกตรง ๆ ว่าใช้สมองมากกว่าตอนทำงานซะอีก เพราะน้องจีนมีท่าทีต่อต้านผมอยู่ตลอดเวลา ไม่สิ... อันที่จริงเธอแสดงท่าทีเกลียดชังทุกครั้งที่เห็นหน้ากันเลยซะมากกว่า
“คุณภาคินพูดอะไรสักหน่อยดีมั้ยคะ” คุณอิ๋วขยับเข้ามาป้องปากกระซิบผม ได้ยินดังนั้นผมก็พยักหน้ารับพร้อมหยิบไมค์จากมือเธอมา
“ผมแค่มาแสดงความยินดีกับคุณจีนครับ ยินดีต้อนรับคุณจีนเข้าทำงานตำแหน่งเลขาฯ ‘ของผม’ อย่างเป็นทางการนะครับ”
พูดจบผมก็โปรยยิ้มส่งให้คนที่พูดถึงทันที แต่เธอกลับสะบัดหน้าใส่จนแองจี้หัวหน้าฝ่ายควบคุมการผลิตที่ดูท่าจะสนิทกับน้องไม่น้อยต้องสะกิดให้เธอพูดอะไรตอบกลับผมมาบ้าง
เมื่อโดนเพื่อนเตือนแบบนั้นน้องก็ยอมลุกขึ้นยืนแล้วโค้งขอบคุณผมอย่างจำใจ
“จีนขอบคุณพี่ ๆ หลายคนที่ให้การต้อนรับจีนเป็นอย่างดีนะคะ หวังว่าเราจะทำงานด้วยกันอย่างราบรื่น จีนพร้อมรับฟังคำชี้แนะของทุกคนค่ะ แล้วก็...” น้องจีนหันมามองหน้าผมพร้อมกับฝืนใจปั้นยิ้มส่งมาให้กัน “ขอบคุณคุณภาคินมาก ๆ เลยนะคะ ที่ให้โอกาสจีน”
ทันทีที่น้องพูดจบก็มีเสียงปรบมือขึ้นมา ผมจึงยกไมค์ขึ้นมาพูดตอบรับคำของน้อง
“ครับ ผมก็หวังว่าคุณจีนจะให้โอกาสผมในหลาย ๆ เรื่องด้วยนะครับ” ได้ยินแบบนั้นสายตาหลากหลายคู่ก็จับจ้องมาที่ผมด้วยความแปลกใจระคนสงสัยพร้อมกับสายตาน้องจีนที่ถลึงมองกัน “ยังไงก็ขอให้ทุกคนสนุกกันให้เต็มที่นะครับ ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนอยู่ตรงนี้ก็ได้ ไม่ต้องเกร็งแค่สนุกกันก็พอครับ งานฉลองแบบนี้ไม่ต้องมีคำว่าเจ้านายหรือลูกน้องหรอกครับ”
สิ้นเสียงผม เสียงโห่ร้องพร้อมเสียงปรบมือก็ดังขึ้นรัว ๆ ผมจึงยกยิ้มให้ทุกคนก่อนจะเดินตามคุณอิ๋วไปยังที่นั่งด้านในที่ดันเยื้องกับน้องจีนเข้าพอดี
ในระหว่างที่งานเลี้ยงกำลังดำเนินไปเรื่อย ๆ หลายคนก็ยังคงร้องเพลงอย่างสนุกสนาน แต่หลายคนก็เริ่มดื่มจนไร้สติไปไม่น้อย โดยเฉพาะหญิงสาวที่อยู่ในสายตาผมแทบตลอดเวลา ที่เริ่มยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกรวดเดียวหมดเป็นแก้วที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ค่อยแน่ใจ
“ไหน ๆ จีน มาดูดิว่าจะแน่สักแค่ไหน” พนักงานผู้ชายคนหนึ่งที่เมาได้ที่ ขยับเข้ามานั่งเบียดบนโซฟาข้างกายคนตัวเล็ก
“เฮ้ย ๆ หยุดเลยไอ้พี่บี อย่ามาทำตัวแบบนี้ใส่จีนนะเว้ย” แองจี้ที่นั่งอีกฝั่งของน้องจีนคอยผลักตัวผู้ชายคนนั้นให้ออกห่าง
เห็นท่าทางสำมะเลเทเมา ทั้งยังทำตัวเบียดเสียดน้องจีนไม่เลิก ผมก็เริ่มคิ้วกระตุกขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
“อะไรวะแองจี้ น้องจีนยังไม่พูดอะไรเลย ไหนชนแก้วกับพี่หน่อยสิจ๊ะ” บีตอบกลับแองจี้ ก่อนจะหันไปคุยกับน้องจีนที่นั่งก้มหน้าอยู่ ทั้งยังเริ่มขยับเข้าไปใกล้น้องอีกครั้ง
เห็นแบบนั้นผมก็ทำทีเป็นจะเอื้อมมือไปตักอาหารตรงหน้าผู้ชายคนนั้น พร้อมกับวางแผนในใจว่าจะทำทีเป็นปัดจานให้หกใส่เขา จะได้ออกไปไกล ๆ ไม่ต้องมาทำตัวเกาะแกะน้องจีนของผมสักที
แต่ยังไม่ทันได้ทำตามแผนที่คิดไว้ คนร่างเล็กกลับทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดด้วยการผลักหน้าไอ้รุ่นพี่คนนั้นออกไปอย่างแรงจนเขาเกือบจะหงายเงิบตกเก้าอี้ไป พร้อมกับยกแก้วน้ำสีอำพันในมือตัวเองขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด แล้วยืนขึ้นตะคอกใส่หน้าเขาทันที
“ใครบอกจีนไม่ว่า จีนกำลังจะด่าพี่อยู่เนี่ย! ออกไปห่าง ๆ เลย เหม็นปาก!!” พูดจบน้องก็สะบัดหน้าใส่หลายคนที่กำลังนั่งอึ้งอยู่ ก่อนจะเดินกระแทกเท้าออกไปจากห้องด้วยท่าทางเอาแต่ใจทันที
“จีนไปไหนอะแองจี้” คุณอิ๋วที่นั่งอยู่ข้างผมถามแองจี้ที่กำลังช่วยพยุงพนักงานที่ชื่อบีขึ้นมานั่ง
“น่าจะไปห้องน้ำพี่ เดี๋ยวมันมา จี้จะตามไปด้วยละก็ไม่ยอม บอกไหว ๆ อยู่นั่น”
“เออ ๆ ไว้ถ้านานละยังไม่กลับมาเดี๋ยวแกตามออกไปดูด้วยละกัน ท่าทางจะเมาไม่น้อยเลยนะนั้น”
ได้ยินที่เธอพูดกันแบบนั้นผมก็ทำทีเป็นยืดเส้นยืดสายพร้อมกับลุกออกจากเก้าอี้ช้า ๆ แต่ก็คงไม่สามารถเล็ดลอดคุณอิ๋วที่หูตาไวไปได้
“คุณภาคินจะกลับแล้วเหรอคะ”
“เปล่าครับ ผมแค่จะออกไปสูบบุหรี่สักหน่อย” ผมตอบเธอด้วยน้ำเสียงปกติ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปทันที
แม้ว่าท่าทีของคุณอิ๋วจะดูสงสัยกันไม่น้อย แต่จากประสบการณ์การทำงานด้วยกันมาพักใหญ่ ก็พอรู้ได้ว่าเธอไม่ใช่คนที่สงสัยหรือรู้อะไรแล้วจะพูดหรือขยายต่อให้คนอื่นได้ยินเลยสักนิด
ผมมองหาผู้หญิงร่างเล็กที่เดินออกมาได้ไม่นาน ก่อนจะเห็นน้องกำลังเดินคลำทางไปทางห้องน้ำ แต่แล้วผมกลับต้องรีบวิ่งเข้าไปคว้าแขนเธอเอาไว้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินเข้าไปทางห้องน้ำชาย
คนร่างเล็กหันขวับมามองผมด้วยความไม่พอใจ ทั้งยังสะบัดแขนออกทันทีด้วยท่าทางรังเกียจผมซะเต็มประดา
“ตามมาทำไม?”
“ใครตามคะ พี่มาเข้าห้องน้ำต่างหาก” ผมยกยิ้มชอบใจกับท่าทางพยศของคนตรงหน้า
“โกหก! ถ้าไม่ได้ตามแล้วมาจับทำไม”
“พี่มาห้าม เพราะน้องจีนกำลังเข้าห้องน้ำผิดต่างหากคะ” ได้ยินที่ผมพูดแบบนั้นน้องก็เงยหน้ามองป้ายตรงหน้า ได้ทีผมจึงก้มหน้าลงไปใกล้ แล้วใช้นิ้วจิ้มหัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันบนใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอ
“คนดื้อขี้เมา”
“ไม่ต้องมายุ่งได้มั้ย” น้องรีบปัดมือผมออกทั้งยังมองมาด้วยความเกลียดชัง “คุณจะไปไหนก็ไปเลย เลิกยุ่งกับจีนสักที”
“ไม่ให้พี่ยุ่ง หมายความว่าน้องจีนจะเข้าห้องน้ำนี้เหรอคะ งั้นก็เข้าด้วยกันเลยค่ะ” ผมแหย่น้องด้วยการคว้าข้อมือเล็ก ๆ ให้ตามกันเข้าไปในห้องน้ำชาย
แต่อีกคนกลับโวยวายเสียงดังทั้งยังรัวมือตีต้นแขนผมจนต้องยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำห้องถัดไปทันที
เห็นแบบนั้นผมก็อมยิ้มกับท่าทีดื้อดึงที่แสนน่ารักของอีกคน เพียงครู่เดียวน้องจีนก็ออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับใบหน้าที่เปียกหมาด ๆ เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวคงจะหายเข้าไปล้างหน้าให้ตัวเองสร่างเมาเพื่อออกมารับมือกับผมแน่นอน
น้องจีนเหล่ตามองผมเล็กน้อย ก่อนจะทำทีเป็นไม่เห็นกันแล้วเดินผ่านตัวผมกลับไปทางห้องคาราโอเกะทันที ไม่นานก็กลับออกมาพร้อมกระเป๋าสะพายและกล่องรองเท้าที่น้องยอมรับมันไปจากผมในวันนี้
“จะกลับแล้วเหรอคะ” ผมเอ่ยถามพร้อมเดินตีคู่น้องที่ตรงไปยังหน้าร้าน
น้องจีนไม่ตอบอะไรทั้งยังทำเหมือนผมเป็นธาตุอากาศที่เธอมองไม่เห็นหัว แต่เดินออกไปนอกร้านได้เพียงแค่ก้าวเดียว คนร่างเล็กก็ก้าวถอยหลังกลับมาจนชนกับผมเข้าเต็มแรง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ผมถามน้องจีนที่ดูมีท่าทีตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัดทั้งยังกำแขนเสื้อเชิ้ตผมเอาไว้แน่น
“ไอ้บ้านี่! ทำไมถึงตามไม่เลิกเลยนะ” น้องจีนสบถด่าออกไปไม่เป็นภาษาก่อนจะหันมาเกาะแขนผมพร้อมทำสีหน้าเว้าวอน “ช่วยหน่อยสิ มันตามจีนมาที่นี่ได้ยังไงก็ไม่รู้”
เมื่อเห็นว่าน้องมีท่าทีตื่นกลัวผมก็ชะโงกหน้าออกไปบ้าง ก่อนจะเห็นผู้ชายที่ดูท่าทางหัวเสียคนหนึ่งกำลังยกโทรศัพท์ขึ้นเหมือนต้องการติดต่อใครสักคน
“ให้พี่ไปส่งมั้ยคะ”
“ได้เหรอ” น้องจีนพูดออกมาไม่ยั้งคิด ท่าทีดูหวาดกลัวคนที่อยู่ด้านนอกทำเอาผมรีบคว้าตัวเธอเข้ามากอดแล้วลูบหัวปลอบเธอ แต่เพียงครู่เดียวก็เหมือนน้องจะนึกขึ้นได้ว่ามีอคติกับผมอยู่ จึงรีบปฏิเสธพร้อมกับขยับตัวออกห่าง
“จีนจะโทรหาโก” น้องจีนพูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพบว่าหน้าจอโทรศัพท์นั้นดำสนิท
เห็นแบบนั้นผมก็หัวเราะออกมาเบา ๆ จนคนดื้อตวัดสายตามองด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะแบมือเล็ก ๆ ออกมาตรงหน้าผม “ขอยืมโทรศัพท์หน่อย”
“ของพี่ก็แบตฯ หมดค่ะ” ผมตอบก่อนจะกดปิดเครื่องโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วยกขึ้นมาโชว์ให้น้องดู
“โกหก! เป็น CEO อะไรปล่อยให้โทรศัพท์แบตฯ หมด”
“แล้วน้องจีนเป็นเลขาฯ อะไรถึงปล่อยให้โทรศัพท์แบตฯ หมดล่ะคะ ถ้าพี่มีงานด่วนขึ้นมาจะทำยังไงเอ่ย” ผมพูดย้อนกลับจนน้องนิ่งงันไป
“ไปยืมแองจี้ก็ได้”
“จะไปรบกวนเพื่อนทำไมล่ะคะ เพื่อนกำลังสนุกเลยนะ” ผมรีบคว้าแขนน้องเอาไว้อีกครั้ง “กลัวตัวสั่นแบบนี้ ให้พี่ไปส่งตามที่ร้องขอตั้งแต่แรกเถอะค่ะ ถ้าต้องรอนานกว่านี้แล้วโดนไอ้นั่นมาเห็นเข้าล่ะคะ คงไม่ดีแน่ ๆ เลย ใช่มั้ยล่ะ”
“...” น้องจีนนิ่งทั้งยังมีท่าทีครุ่นคิด และสุดท้ายเธอก็ยอมพยักหน้ายอมรับข้อตกลงกัน
ดูท่าทีแล้วเหตุการณ์เมื่อช่วงเย็นคงทำเธอมองไอ้เวรนั่นเปลี่ยนไปไม่น้อยเลย
“ตกลงว่ายอมจำนนให้พี่เป็นแฟน กันหมาบ้าออกจากชีวิตน้องจีนนะคะ”
“แฟนปลอม ๆ ต่างหาก!” น้องรีบแย้งขึ้นมาจนผมหลุดยิ้ม
“ก็ได้ค่ะ แฟนปลอม ๆ ที่จะเป็นแฟนจริง ๆ ในอนาคต”
“ไม่มีทาง”
ผมถือวิสาสะจังหวะที่น้องเผลอคว้าตัวน้องเข้ามาแนบอกก่อนจะกดจูบเบา ๆ ลงบนหน้าผากมน “เดี๋ยวก็รู้ค่ะ”
“ไอ้...”
ทันทีที่อีกคนดิ้นออกจากอ้อมแขน ผมก็รีบแตะนิ้วลงบนริมฝีปากจิ้มลิ้มนั่นเป็นการห้ามปรามที่เธอกำลังจะพ่นคำด่าใส่กัน
“รอพี่ตรงนี้ อย่าเดินไปไหนนะคะคนดื้อ ถ้าไม่ยอมเชื่อฟังจะโดนทำโทษนะคะ”
End talks
TALK WITH ME
พ่อคนแพรวพราว แพรวพราวใส่น้องไม่หยุดดดด รู้มั้ยว่าทีมแม่ถือไม่หน้าสามรอเป็นขบวนแล้ววว ทำไมไม่จัดการเรื่องตัวเองห้ะ อิพี่!!! เดี๋ยวเถอะ แต่โอ๊ตนี่ยังไง ตามมาได้ไง คุณตำรวจปล่อยมันมาทำไมก่อนนนน น้องกลัวตัวสั่นแน้วนะ!
...
แอบเอาสปอยสเปเชี่ยลโปสการ์ดมาฝาก(ได้ทุกออเดอร์ที่สั่งหนังสืองับ) แสนซนนนไม่ไหว ไม่รู้พิภัคหรือน้องจีนซน แงงงงงงง ครอปมาแค่นี้พอ!! ทั้งรูปมันวูบวาบไป 5555555555
คนถามอีบุ๊คมาเยอะมว๊ากกกก มีค้าบบบ ประมาณวันที่ 20 นิด ๆ ราคา 420 มีโปรวันแรกค่ะ เกียมหยอดตะปุกไว้สอยเลย
ส่วนใครอยากเก็บหนังสือและของสะสมน่ารัก ๆ ด้วย สั่งซื้อหนังสือได้ตามด้านล่างเลย...
มินนิคเปิดพรีออเดอร์หนังสือแล้วนะคะ
ขออนุญาตแปะขายของ อย่าลืมไปสอยกันน้า ฟิลลิ้งกู๊ดมว๊ากกกกจีง ๆ
สนใจกดซื้อได้ที่ http://minnik.lnwshop.com/
หรือ INBOX ที่เพจ MINNIK
จิ้มติดตามข่าวสารหนังสือได้ที่เพจ MINNIK นะคะ ขอฝากเพจหน่อยไปกดไลก์กันได้น้า ♥
.
ป.ล. ใครเล่นทวิตไปคุยกันในแท็กได้นะคะ วันดีคืนดีมินนิคก็ไปสปอยในนั้นแหละ >,<
MINNIK
มีคำผิดบอกได้นะคะ เพราะแต่งสดลงสดงับ
อย่าลืมกด ♥ และคอมเมนต์เป็นกำลังใจดี ๆ ใจเรานะคะ
1 เมนต์ = สิบล้านกำลังใจ
ร๊ากกกรีดเดอร์สองล้านเท่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มามั้ยน้าา วันนี้ สามวันแล้ววว ใจจิขาดด
แฟนปลอมๆแต่จีนก็ยับเยินแล้วค่ะ เป็นแฟนจริงเมื่อไหร่นี่ เฮอะๆๆ
เอาให้หนักๆเดินไม่ไหวไปเลย น้องจะได้ไม่ดื้อ
แพรวพราวจัดจ้านที่สูดดด ยกให้คูมพี่ภัคเค้าเลย
ถึงเวลาที่ต้องปกป้องน้อง พี่ก็ทำได้เต็มที่ จนอยากจะยกน้องให้อยู่น้าา
แต่เหลืออย่างเดียว แค่พี่ต้องไปจัดการเรื่องคุณเมย์ก่อนนะค้าา