คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 13
“อะไรวะเนี่ย”
ทราฟาลก้า ลอว์ เดินกลับมาที่ห้องพักของตัวเองอีกครั้ง เพื่อหวังเอาอาหารมาให้และเขาจะถือโอกาสพักสักหน่อย แต่เมื่อเห็นสภาพห้อง เจ้าเด็กสีชมพูกลับไม่อยู่ ส่วนสภาพห้องจะเรียกว่ามีแต่ศพก็ไม่เชิง เมื่อพวกมันกลายเป็นตุ๊กตาน้ำตาลที่ไม่สมประกอบ ลอว์สแกนจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครซ่อนอยู่ในห้องจริงๆ เขาวางถาดอาหารทิ้งแล้วเดินออกไปอย่างหัวเสีย
“บ้าจริง ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าจะมีหายนะตามมากัน”
ลอว์พาดดาบยาวกับบ่าแล้วเดินต่อไป ตอนนี้ภารกิจของเขาสำคัญกว่า มันคือแผนการที่วางมาอย่างยาวนาน จะให้จิตใจมานำเหนือความคิดไม่ได้ ก็หวังว่าเด็กนั่นจะไม่แข็งตายอยู่ที่ไหนสักที่หรอกนะ
“เอิ่ก เอามาอีก เอามาอีกกก”
เพโรกรินนอนคว่ำอยู่กลางห้องอย่างหมดสภาพ เด็กตัวเล็กตัวใหญ่ต่างเข้ามารุมล้อมเขาดูอาการอย่างน่าเป็นห่วง
“พี่เพย์ไหวรึเปล่าค่ะ”
“ต้องการ..เตียงนอน…”
โมฉะ เด็กหญิงตัวใหญ่ผมสีดำ นับว่าตอนนี้เธอสนิทกับเพโรกรินที่สุด เขาอนุญาตให้เธอเรียกชื่อเล่นที่เธอถือวิสาสะตั้งให้ เธอดีใจมาก โมฉะใช้สองนิ้วหิ้วปีกพี่ชายร่างน้อยด้วยความเบามือสุดๆ เธอนำไปวางบนเตียงที่เล็กเกินไปสำหรับเธอแต่มันพอดีกับเพโรกริน พี่เพย์อยู่ที่นี่มาได้ 10 กว่าวันแล้ว ไม่รู้เขาจะอยากออกไปเมื่อไหร่ เธอได้แต่ตั้งตารอวันที่พี่เพย์จะทำตามสัญญา ส่วนคนอื่นๆ คงลืมไปแล้ว ไม่เป็นไร เธอจำคนเดียวก็พอ
บางขณะเหมือนพี่เพย์รีบร้อนจะออกไป แต่สักพักก็หยุดตัวลงที่หน้าประตูแล้วเดินกลับเข้ามานอนกองในตะกร้าขนมใบใหญ่ หลังๆ มานี้จากที่เคยแบ่งกันกินขนม พี่เพย์ก็ห้ามไม่ให้พวกเรากินด้วยเลย พี่เขากินคนเดียวจนหมด ทุกคนโกรธเคืองพี่เพย์มาก แต่พี่เพย์บอกว่าพวกเราจะป่วยเพิ่มอีกถ้ายังกินขนมอยู่ ดูจากอาการของพี่เพย์แล้วพวกเราก็เชื่อ พี่เพย์ชอบละเมอตอนไม่ได้สติทุกครั้งว่า
‘อย่า..กิน เด็ดขาด เลยนะ’ แปลใจความ อย่ากินขนมของผมเด็ดขาดเลยนะ!
เพื่อแทนที่ขนมพวกนั้นพี่เพย์จะเสกของเล่นเป็นน้ำตาลไอซิ่ง และทุกครั้งที่พวกคนของมาสเตอร์เข้ามาตรวจ ถ้าหากเรากินขนมไม่หมดพวกเขาจะอยู่ดูเราจนกว่าจะกินหมด เป็นแบบนั้นพวกเราก็จะนั่งล้อมวงบังพี่เพย์แล้วหยิบกินคนละนิดคนละหน่อยจากมือพี่เพย์ที่ส่งให้ ส่วนที่เหลือพี่เพย์ก็จะกวาดในตะกร้ากินอย่างรวดเร็ว โมฉะสงสารตัวน้อยๆ ของพี่เพย์จัง พี่เพย์ตัวเล็กมาก จะกินขนาดนั่นเข้าไปทั้งหมดได้ยังไง โมฉะจิ้มพุงเพโรกรินที่พองขึ้น เขาดูจะตัวใหญ่ขึ้นเหมือนพวกเรารึเปล่านะ แต่ทำไมไม่สูงขึ้นเลยล่ะ พี่เพย์เป็นคนแคระหรอ
พอพวกเราทำแบบนั้นกินน้อยลงเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าไม่อยากกินขนมของมาสเตอร์แล้ว ทั้งที่ปกติจะอยากกินมากแท้ๆ แต่บางครั้งมาสเตอร์จะมาหาแล้วแจกลูกอมให้คนละเม็ดใหญ่ เพราะคงเห็นว่าพวกเราเบื่อขนมในตะกร้า แต่ที่จริงมันไม่ใช่เลย โมฉะสังเกตเห็นความผิดปกติในขนมแต่พี่เพย์ไม่ยอมบอกเธอเลย
เพโรกรินยกมือพยายามไขว่คว้าอากาศ โมฉะรีบจับมือเขา เพโรกรินปรือตาขึ้นมอง
“โมฉะ…”
“คะพี่เพย์”
ตั้งแต่มาอยู่ที่ห้องบิสกิต เขาเปิดใช้ฮาคิการสังเกตตลอดเวลา เพราะว่าเขาต้องระวังคนที่เข้าออก แต่เขาต้องบอกให้เด็กๆ หนีไปกับคนกลุ่มนี้ เพราะฮาคิเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานที่คุ้นเคย สีเหลืองอ่อน ดูอบอุ่น ใจจริงเขาก็อยากจะพาเด็กๆ หนีออกไปตั้งแต่แรก ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำรู้มั้ย แต่ว่าในขนมนั่นมีสารเสพติด เพโรกรินรู้ได้ไงน่ะหรอ เขาเป็นพวกที่ไวต่อส่วนผสมในขนมน่ะสิ! แค่ได้รสชาติแปลกๆ กับสังเกตอาการของเด็กที่อยู่ที่นี่ก็รู้แล้ว อัจฉริยะใช่มั้ยล่ะ เขาเปลี่ยนยาเสพติดให้เป็นน้ำตาลไอซิ่งหมดแล้ว เพราะฉะนั้นกินได้ไม่มีปัญหา ที่สำออยนี่คือขี้เกียจล้วนๆ พอน้ำหนักขึ้นแล้วก็ไม่อยากจะขยับตัวไปไหนเลย ให้ตายสิ เขาไม่เคยกินขนมเยอะขนาดนี้เลยนะ
แต่ว่าพวกเด็กที่อยู่มานานยังมีสารเสพติดตกค้างอยู่ในร่างกาย ถ้าให้กินขนมเหมือนเดิมถึงจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลไอซิ่งแล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีผลอะไรรึเปล่า กันไว้ก่อนดีกว่าแก้ แถมไอเจ้ามาสเตอร์นั่น เขาได้เห็นหน้ามันแล้วตอนที่มันมา เขาหลบอยู่ในกลุ่มผมของโมฉะ หมอนั่นหน้าตาก็ดีอยู่หรอกแต่ชอบยิ้มประหลาดๆ แล้วหน้าอุบาทว์มาก เสียชาติเกิดจริงๆ มันให้ลูกอมกับมือเลยทำให้เขาไม่มีโอกาสเปลี่ยนลูกอมให้เด็กๆ ทำให้เด็กพวกนี้ยังต้องรับยาเสพติดกันต่อไป
ช่วงเวลาที่ไม่มีคนเฝ้า เพโรกรินจะพาเด็กที่ตัวเล็กที่สุดออกไปด้วย เพื่อสำรวจที่นี่ และหาทางแก้อื่นให้เด็กๆ ที่ติดยา ถึงร่างกายเขาจะไม่สู้ดีนัก(น้ำหนักขึ้นแล้วขี้เกียจ) เพโรกรินก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำเพื่อคนอื่นขนาดนี้ อาจเพราะเด็กพวกนี้น่าสงสารและเขาใจดีกับคนที่เหมือนเด็กมากกว่า จะว่าไปแล้วก็นึกถึงคนที่ทำตัวเหมือนลิงจัง ท่าทางอยากรู้อยากเห็นกับนิสัยกระโตกกระตาก ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ ต้องโตมาเป็นลิงค่างแน่นอน ช่างเรื่องความหลังก่อน
“มีคนกำลังมา เธอกับเพื่อนๆ ต้องไปกับพวกเขา”
“แล้วพี่ละคะ!?”
“สภาพอย่างผม พาไปด้วยมีแต่ถ่วงเปล่าๆ” กลิ้งเป็นลูกบอลหิมะแล้วเนี่ย
โมฉะทำหน้าเศร้า เพโรกรินจึงพูดปลอบ เขากวักมือให้โมฉะเอาหูมาใกล้บอกเรื่องที่ควรรู้
“หนูจะไปกับพวกเขาแล้วรีบกลับมารับพี่เพย์!”
ไม่ต้องมาหรอกเด็ก พวกเธอไปหมดแล้วเขาก็จะชิ่งเหมือนกัน ดีซะอีกจะได้ไม่ต้องไปส่งเด็กๆ อย่างน้อยก็ทำตามสัญญาครึ่งหนึ่งแล้วว่าจะส่งกลับบ้าน
“อึก!”
“พี่เพย์เป็นอะไร!?”
โมฉะเขย่าร่างของคนที่นอนทรมาน เพโรกรินทำหน้าเจ็บปวดมาก อยากบอกสาวน้อยว่าหยุดเขย่าเถอะ เขาจะอ้วกแล้ว รู้สึกว่าจะกินเยอะเกินไปสินะ เพโรกรินยกมืออุดปาก อีกมือโบกห้ามโมฉะ ระหว่างนั้นกลุ่มคนใหม่ก็วิ่งเข้ามาในห้อง
“นี่มันอะไรกันเนี่ย”
หญิงสาวผมสีส้มในชุดบิกินี่กางเกงยีนส์มองรอบห้องอย่างตกตะลึง คนอื่นเองก็ไม่ต่างกัน
“ทำไมมีเด็กมากมายขนาดนี้”
นามิยืนอึ้งอยู่หน้าประตู แต่พวกซันจิก็เร่งให้เธอวิ่งต่อ ระหว่างผ่านทางไปมีเด็กๆ มากมายวิ่งเข้ามาหาพวกเขา สนใจราวกับเจอของเล่นใหม่ แฟรงกี้กับช็อปเปอร์หยุดเล่นกับเด็กๆ สักพัก เมื่อพวกเขาทำท่าจะจากไปเด็กๆ ก็วิ่งตามไม่หยุด ลูกสมุนของมาสเตอร์ในชุดกันแก๊สสีเหลืองไล่ตามพวกเขามา โมฉะวิ่งเข้ามาหาพวกนามิ พยายามร้องขอให้ช่วย
ต้องไปด้วยให้ได้ เพื่อพี่เพย์ เพื่อทุกคน
“ได้โปรดเถอะ พวกพี่สาวมาจากข้างนอกใช่มั้ย พาพวกหนูไปด้วย”
“นามิซังเราไม่มีเวลามาช่วยเด็กพวกนี้นะครับ!”
ซันจิตะโกนบอกนามิที่หยุดวิ่ง
“เด็กๆ พวกนี้บอกว่าป่วยใช่มั้ย งั้นก็อยู่รักษาตัวในโรงพยาบาลไปสิ” ซันจิ
“พวกหนูรักษาหายแล้ว ได้โปรดเถอะ”
“ขอโทษนะเด็กๆ”
นามิออกตัววิ่งไม่หันไปมองข้างหลังอีก
“แงงง อย่างน้อย อย่างน้อยแค่พาพี่เพย์ไปที เขากำลังจะตาย!” คือเเดี๋ยวโมฉะ ผมแค่คลื่นไส้ อุบ
กลุ่มหมวกฟางหยุดวิ่ง
“เด็กๆ กำลังร้องขอให้ช่วย ฉันจะหนีไปได้ยังไง!”
“ในฐานะหมอฉันก็ทิ้งคนที่กำลังจะตายไม่ได้หรอก”
“ถ้าพวกเด็กๆ พูดกันขนาดนี้ สถานที่นี้คงไม่ดีอย่างที่คิด”
แฟรงกี้ตั้งท่า ยิงปืนจากนิ้วใส่พวกชุดเหลือง ซันจิโยนหัวซามูไรที่เคยถืออยู่ในมือไปทางพวกเด็กที่รับกันอย่างสนุกสนาน เขาหยิบไฟแช็กออกมาจากกระเป๋าอกเสื้อแล้วจึงจุดบุหรี่ขึ้นสูบใหม่ ซันจิพ่นควันออกมา
“ชิ ช่วยไม่ได้ ถ้ากัปตันรู้ว่าพวกฉันทิ้งคนให้ตายละก็ หมอนั่นคงโกรธน่าดู”
“หัวข้าน้อยไม่ใช่ลูกบอลนะขอรับ!”
แล้วซันจิก็เข้าร่วมสู้กับแฟรงกี้ พวกเด็กเผยรอยยิ้มอย่างดีใจ โมฉะเดินนำให้พี่สาวคนสวยเดินตาม
“ทางนี้ครับ”
เด็กชายตัวใหญ่เข้ามาสบทบ เขาดันกองของเล่นออกทำให้เห็นร่างเล็กนอนอยู่บนเตียง
“นี่มัน!?”
นามิเข้าไปเกาะข้างเตียงคนที่อาการไม่สู้ดีนัก ช็อปเปอร์ในร่างปกติรีบกระโดดขึ้นไปบนเตียงตรวจอาการทันที
“พี่เพย์บอกว่าในขนมที่มาสเตอร์ให้พวกเรากินทุกมื้อมียาเสพติด เขาจึงกินแทนพวกเราหมดเลย ละ..แล้วให้หนู ให้หนู..ไปกับพวกพี่เพื่อหายามารักษา แต่หนูทิ้งพี่เพย์ไม่ได้ ฮือออ”
โมฉะพูดไปพลางสะอื้นไป เด็กๆ ทุกคนทำหน้าเศร้า ไม่ใช่พวกเขาไม่รู้ แต่มันหยุดกินไม่ได้นี่นา พอหยุดกินก็ทรมานเหมือนจะตาย แต่ตอนนี้พวกเขาหายแล้ว! เพราะพี่เพโรกริน
“งั้นพวกเธอทุกคนก็ได้รับสารเสพติดกันหมดเลยหรอ”
ช็อปเปอร์สีหน้าเคร่งเครียด ถึงเด็กๆ พวกนี้จะเลิกกินแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะหายขาด เพียงอาการทุเลาลงและชะลอเวลาเท่านั้น ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือเพโรกริน ไม่รู้ว่าเขารับไปเยอะขนาดไหนหากไม่เจาะเลือดออกมาตรวจ แต่จากอาการภายนอกแล้วคงได้รับยาเกินขนาดแน่ ทำสีหน้าทรมานตลอดเวลา นี่มันยาเสพติดประเภทไหนกัน พวกซันจิที่เคลียร์เรียบร้อยแล้วก็เข้ามาหานามิ
“เฮ้ย เจ้าหนูสีชมพู!? หมอนี่เป็นอะไรช็อปเปอร์ ทำไมตัวบวมอย่างงี้”
ซันจิที่เห็นร่างเล็กบนเตียงตกใจจนบุหรี่แทบร่วงจากปาก
“ได้รับสารเสพติดมากไป เขาต้องได้รับการรักษาโดยด่วน ไม่งั้นร่างกายจะแย่เอา ฉันต้องหาห้องรักษาเขา”
คำพูดของช็อปเปอร์ทำให้ทุกคนต่างเคร่งเครียด โดยเฉพาะกุ๊กประจำเรือกลุ่มหมวกฟาง เขามองเพโรกริน เพโรกรินนอนหลับตาทรมาน และเขาก็คิดในสิ่งที่ไม่น่าจะใช่ตัวเขาเลย
คือพวกคุณแค่พาผมไปส่งห้องน้ำพอมั้ย แล้วตัวผมไม่ได้บวมมันแค่อ้วน
Talk
ตอนดูฉากนี้ไรท์ก็ร้องไห้อีกแล้วค่ะ T_T ใดๆ ตอนนี้ก็คืออยากจะหยุมหัวพี่ลอว์แล้วลากมาบอกว่าลูกชายฉันอยู่นี่ มาช่วยน้องหน่อย เผอิญว่าพี่แกมาสำรวจแค่วันแรกครั้งเดียว พอเห็นว่าเป็นห้องเด็กๆ พี่ลอว์ก็ไม่อยากจะมาอีกให้นึกถึงอดีตอ่ะเนอะ แบบว่าใครเห็นเด็กก็ต้องใจอ่อน แต่พี่แกไม่มีบุญขนาดไหน เพโรกรินเดินสำรวจตั้งหลายรอบไม่สวนกันสักแอะ ก็นะ พรหมลิขิตมันสำหรับพระเอกเท่านั้น ฮิๆ
ปล.คือน้องแค่อ้วนขึ้นนิดหน่อยเอง
19/12/65
ความคิดเห็น