คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 11
จากที่ตอนแรกเพโรกรินมุ่งมั่นว่าจะกลับไปที่เกาะชาบอนดี้ เขาก็ต้องเปลี่ยนใจแล้วบอกให้เอเนลูไปส่งเขาสุ่มๆ ลงเกาะไหนสักเกาะเถอะ เมื่อมั่นใจว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว เอเนลูก็ใช้ความเร็วสายฟ้าของเขาพาเพโรกรินไปที่เกาะแห่งหนึ่ง ไม่มีใครรู้เลยว่าระหว่างผ่านชั้นบรรยากาศของดาวโลก จากความกดดัน พลังผลปีศาจของเพโรกรินก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น แต่เนื่องจากเขาสวมแหวนหินไคโรอยู่จึงไม่มีใครรู้
และตามความจริงการเดินทางข้ามอวกาศครั้งแรกของเพโรกรินคงทรมานมากกว่านี้ถ้าเอเนลูไม่ได้โอบเพโรกรินไว้ให้อยู่ข้างใน เขาป้องกันแรงเสียดทานจากชั้นบรรยากาศให้เด็กชายโดยใช้ตัวเองบัง
เพโรกรินถูกเอเนลูปล่อยทิ้งร้างไว้ที่เกาะที่เต็มไปด้วยหิมะ เพโรกรินที่ใส่ขาสั้นหนาวเย็นไปถึงกระดูก อาการพะอืดพะอมเหมือนจะอ้วกจากการเดินทางด้วยความเร็วดุจแสง และการผ่านชั้นบรรยากาศจนร่างกายไฟลุก พอลงมาถึงพื้นฮาคิเกราะของเพโรกรินก็แตกระเจิง นี่ถ้าเขาไม่มีฮาคิเกราะ เขาคงเป็นผงไปตั้งแต่แรก ส่วนเทพเจ้าจูนิเบียวนั่นชิงหนีเขากลับไปแล้ว
นี่คิดจะเอาคืนกันจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยใช่มั้ย! เพโรกรินรีบคุ้ยของในกระเป๋า หยิบผ้าสีขาวผืนใหญ่กว่าตัวเพโรกรินเล็กน้อยออกมาห่ม เขาจำที่เอเนลูสอนให้ร่างกายทนไฟได้ดี จึงเคลือบฮาคิเกราะทั้งตัวอีกครั้งกันหนาวไปก่อน ตอนนี้เพโรกรินกลายเป็นตัวประหลาดสีดำที่เดินท่ามกลางหิมะสีขาว จำไว้เลยนะเอเนลู!
เพโรกรินเห็นถ้ำที่เหมือนกับซากปรักหักพังของอะไรสักอย่าง เขารีบเข้าไปหลบลมหนาว คลายฮาคิเกราะออก เพโรกรินหยิบกระติกน้ำร้อนมาจิบแก้หนาว เอเนลูสอนทุกอย่าง แต่อนิจจา ลืมสอนการเอาชีวิตรอดให้เพโรกรินด้วย เพโรกรินได้แต่ทนหนาวสั่นอยู่ในถ้ำจนผล็อยหลับไป
ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าของรองเท้าหนังคู่หนึ่งเดินเข้ามาในถ้ำ เขาก้มลงมองเด็กชายในห่อผ้าพร้อมกระเป๋าเป้สีชมพูข้างกาย เขาย่อตัวลงนั่งยองๆ จ้องมองใบหน้าที่หลับพริ้มทั้งที่ตัวสั่น
“ฮิ เจอตัวแล้ว”
เพโรกรินถูกคนปริศนาอุ้มไปตอนหลับอีกแล้ว
เด็กชายผมสีชมพูครึ่งหนึ่งสีดำครึ่งหนึ่งกระพริบตาปริบๆ นัยน์ตาเป็นประกายสีชมพูปรากฏให้เห็น แต่เจ้าตัวยังไม่รู้หรอกว่ามีบางสิ่งในร่างกายของตัวเองเปลี่ยนไป เพโรกรินลืมตาตื่นมาในสถานที่ๆ ไม่คุ้นเคยอีกแล้ว จำได้ว่าเขาหลบลมหนาวอย่างไม่มีที่ไปในถ้ำจนน่าจะเผลอหลับไป แต่ที่นี่อบอุ่น มีสีขาว และเตียงนอนเหมือนอยู่บ้าน เพียงแต่… ไม่มีหน้าต่างอีกแล้ว ไอสถานการณ์แบบนี้คือเขาโดนคนอื่นพาตัวมาแน่ๆ ติดที่ว่าใครและต้องการอะไรเท่านั้นเอง เพโรกรินสำรวจตัวเองเพราะมีสิ่งแปลกปลอม ร่างกายของเขาถูกคลุมด้วยเสื้อกันหนาวขนสัตว์สีดำใหญ่กว่าไซส์ของเพโรกรินมากโข มันคลุมมิดมือมิดเท้าของเพโรกรินแถมยังเลยเท้าเขาไปอีกช่วง เรียกได้ว่า เพโรกรินต้องยกเสื้อคลุมดุจเจ้าหญิงก่อนก้าวขาลงจากเตียง ที่เกือบปลายเสื้อและแขนข้างหนึ่งมีลายสีเหลืองและสัญลักษณ์หัวกระโหลก
เกร้ง
…
เพโรกรินจะตัดหัวมัน
เพโรกรินเลิกเสื้อคลุมมองดูข้อเท้าที่ถูกล็อกด้วยกุญแจสองข้าง และมันคือหินไคโรแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเพโรกรินถอดแหวนดูแล้วก็ใช้พลังไม่ได้ จะว่าโชคดีที่เขาเป็นครึ่งมนุษย์เงือกรึเปล่า เลยทนของที่คล้ายกับทะเลได้ ไม่ถึงกับหมดแรง เพโรกรินมองบานประตูเหล็กหนา ไม่ใช่คุกก็ดูเหมือนแล้วตอนนี้ ในห้องนี้นอกจากของใช้ไม่กี่ชิ้นกับเตียงนอนโง่ๆ ก็ไม่มีอย่างอื่น รอคอยไม่นานเหมือนจะมีคนรู้แล้วว่าเขาตื่น ประตูถูกเปิดออก เพโรกรินถอยหลังจากประตูไปตั้งหลักเกือบสะดุดล้มหงายหลัง พอยืนตัวตรงได้เขาก็จับเข้าที่น่องขาของตัวเอง
ไม่มี
เพโรกรินเปิดเสื้อคลุมก้มมองสายรัดขาใส่มีดสั้นของเขา มันหายไป เพโรกรินจับหัวตัวเอง ชูริเคนรูปปีกค้างคาวของเขาก็ไม่อยู่ โว้ย! ไอคนที่พาตัวเขามามันจะรอบคอบไปไหน รู้ได้ไงว่าที่เขาติดอยู่บนหัวเป็นประจำคืออาวุธของมีคม แถมรู้ว่าเขากินผลปีศาจอีก ถึงไม่มีอาวุธก็ใช่ว่าเพโรกรินจะกลัวซะหน่อย
“ไง ตื่นเร็วดีนี่”
“อะ..อะ..ไอหมอเถื่อน!?”
เพโรกรินตกใจเสียงสั่น ยืนชี้นิ้วใส่หน้าลอว์ที่ปรากฏตัว และเขาก็สังเกตเห็นว่าเสื้อที่เขาสวมอยู่เป็นแบบเดียวกับคนตรงหน้า ลอว์ยืนพิงขอบประตูพลางกอดดาบประจำตัวแนบกับอกมองเด็กชายตรงหน้า ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อเป็นการกันทางหนีไว้ก่อน ดูๆ ไปแล้วเสื้อนั่นเหมือนเด็กเอาเสื้อพ่อมาห่ม
“ขอบใจที่ทักทายกันอย่างสุภาพนะ”
ลอว์ประชด
“นายมาอยู่่ที่นี่ได้ยังไง ไม่สิ นายพาฉันมาที่นี่ทำไม”
“ก็บอกไว้แล้วนี่ว่านายเป็นเชลยของฉัน”
“ไม่เป็นเว้ย”
เพโรกรินเดินตึงตังมากระชากคอเสื้อลอว์ให้โน้มตัวต่ำ เกือบจะสะดุดล้มอีกแล้วแต่เขาคว้าตัวลอว์ไว้ได้ทัน ทำไมหมอนี่ถึงสูงพุ่งปรี๊ดกว่าเขา ตอนที่เจอกันครั้งแรกเพโรกรินจำได้ว่าหัวของเขายังเกือบถึงปลายคางอีกฝ่ายอยู่เลย เพโรกรินไม่ชอบสายตาที่ลอว์มองเขาลงมาเลย มันเหมือนกับว่าเขาตัวเล็กตัวน้อยอย่างนั้นแหละ แล้วสายตานี่อะไรกัน อย่ามามองเหมือนว่าเอ็นดูเขานะ เหมือนกับที่เอเนลูมองเขาไม่มีผิด เขาไม่ชอบ ทำไมใครๆ ถึงมองเขาด้วยสายตาแบบนั้น
“แต่ตอนนี้ฉันเป็นคนเดียวที่ปลดกุญแจให้นายได้”
ลอว์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เพโรกรินจึงปล่อยมือรวบชายเสื้อสะบัดก้นเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง เขาหน้ามุ่ยกอดอก
“พวกผู้ใหญ่ชอบเอาเปรียบเด็ก”
ลอว์เดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง
“ฉันตามหานายมาตลอด 2 ปี ไปหลบอยู่ที่ไหนมาละ”
“เรื่องอะไรผมต้องบอก”
เพโรกรินหันหน้าหนี
“เอาเถอะ ฉันไม่คิดจะคาดคั้นนายอยู่แล้ว แค่ถามเพราะสงสัย เผื่อนายจะยอมตอบดีๆ”
ลอว์ยกมือเชิงยอมแพ้ ตอนนี้เขาเจอเด็กดื้อแล้ว อดีตที่ผ่านจะเป็นยังไงจะไปสนใจทำไม เขาพาดดาบบนบ่าเตรียมหันหลังกลับ
“บอกไว้ก่อนว่าฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำที่นี่ ไว้เสร็จธุระแล้วจะมารับ ถ้าหิวก็บอกคนที่อยู่หน้าห้องล่ะ”
เพโรกรินแลบลิ้นไล่หลังคนเดินออกไป เหอะ เพโรกรินยกขาขึ้นมาบนเตียง คิดว่าแค่นี้เพโรกรินต้องพึ่งกุญแจจากหมอนั่นอย่างเดียวรึไง เพโรกรินแสบสันกว่าที่คิด
“โอ้ยยย เจ็บจะตายแล้ว อ๊ากกก”
คนหน้าห้องได้ยินเสียงร้องจากข้างใน พวกเขารีบเข้าไปดูเนื่องจากเป็นคนสำคัญคู่ค้าของด็อกเตอร์เจ้านายของพวกเขา ที่ทราฟาลก้า ลอว์ ฝากให้พวกเขาเฝ้าดูแล เกิดเด็กในห้องเป็นอะไรไปพวกเขาถูกหมอนั่นสับเป็นชิ้นแน่
“เกิดอะไรขึ้น!?”
คนประหลาดในชุดสีเหลืองวิ่งเข้าไปดูเพโรกรินที่นอนร้องโอดโอยอยู่บนเตียง มือสองข้างก็กุมข้อเท้าของตัวเองไว้แน่น เพโรกรินเหลือบมองชายในชุดสีเหลืองตัวใหญ่สองคน หวานหมูล่ะ หน้าตาดูหลอกง่าย
“เป็นอะไรไม่รู้ แต่ตรงนี้มันร้อนไปหมด”
เพโรกรินพูดจบก็กรีดร้องออกมา เรื่องอย่างนี้เขาถนัดนัก
“ทะ..ทำไงดี ให้มาสเตอร์ช่วยดูดีมั้ย”
“นายจะบ้าหรอ หมอนั่นบอกห้ามพาออกจากห้องนี้”
ชายอีกคนตบหัวเพื่อนร่วมงาน
“ผมต้องแพ้หินไคโรแน่ๆ”
“อะไรนะ”
“แพ้ได้ด้วยหรอ”
“ได้สิ! ก็ร่างกายของผมไม่ถูกกับน้ำทะเล หินไคโรที่มีคุณสมบัติเดียวกันผมก็ต้องแพ้สิ นี่มันเป็นโรคประจำตัวนะ ไม่รู้จักหรอ โรคภูมิแพ้น่ะ!”
“จริงหรอ ทราฟาลก้าไม่เห็นบอกไว้เลย หมอนั่นเป็นศัลยแพทย์แห่งความตายนี่นา”
“หมอมันจะไปรู้ดีกว่าคนป่วยได้ไงเล่า!”
สองลูกน้องเกาหัวแกรกๆ พวกเขาตัดสินใจปลดหินไคโรให้เพโรกรินก่อนโดยหวังว่าจะหาอย่างอื่นมาล่ามแทน แต่ไม่ทัน ทันทีที่ปลดเสร็จ เพโรกรินใช้ขาสองข้างล็อกคอคนข้างหน้าจัดการบิดจนน็อก อีกคนที่เห็นเพื่อนโดนเล่นงานก็ยกปืนขึ้นมา เพโรกรินสไลด์ลงจากเตียงคว้าปืนที่ตกพื้นของอีกคนมายิงเสียก่อน
ปัง!
หนึ่งนัดเข้ากลางตัว ผู้ชายคนนั้นล้มลง เพโรกรินเดินถือปืนเข้าไปหา จัดการยิงอีกหลายนัดจนแน่ใจว่าตายสนิท เขาเปลี่ยนทั้งสองคนเป็นตุ๊กตามนุษย์น้ำตาลไอซิ่ง และนั่นทำให้เพโรกรินรู้ว่าพลังของเขาแปลกไปเพราะนิ้วชี้ของเขาแค่เพิ่งสัมผัสร่างกายคนอื่น
“เอ๋…ทำไมพลังมันถึงเพิ่มขึ้นละ”
เพโรกรินรีบสวมแหวนกลับเข้าที่เดิม เขาจัดการทำลายหลักฐาน แน่นอนว่าด้วยวิธีที่ทุกคนก็รู้ๆ กันอยู่ เพโรกรินเดินสำรวจในห้องอีกนิดหน่อย เมื่อไม่เจอกระเป๋าเป้ก็คาดว่าลอว์เป็นคนเก็บไป เพโรกรินปิดประตูลงเขาเดินออกมาที่โถงทางเดิน รอบๆ ข้างเป็นกำแพงที่ดูราวกับป้อมปราการหนา อากาศเย็นขึ้นนิดหน่อย โชคดีที่หมอนั่นไม่ได้มายึดเสื้อกันหนาวคืน แต่ยาวรุ่มร่ามน่ารำคาญชะมัด อันดับแรกเพโรกรินมองหาคลังอาวุธหรือห้องครัวก่อนเลย เขาจะตัดไอเสื้อยาวๆ นี่ทิ้ง
06/12/65
ความคิดเห็น