คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9
เช้าวันใหม่มาถึง เพโรกรินจะไม่รู้ว่ามันเช้าได้อย่างไรในเมื่อเอเนลูยกอาหารเช้ามาให้ถึงในห้อง ขนมปังอบใหม่กับซุปร้อนๆ ทำให้กระเพาะของเพโรกรินร้องประท้วง เมื่อวานเขาไม่ได้กินข้าวเย็นนี่นา
“กินซะ”
เอเนลูนั่งลงบนเตียงข้างเพโรกริน
เพโรกรินลุกขึ้นนั่งบนเตียงดีๆ เนื่องจากเขานอนอยู่ เขาหยิบถาดที่วางอยู่ข้างเตียงมาวางบนตัก ซดซุปร้อนๆ ไม่อร่อยเท่ารสมือซันจิ แต่ก็ไม่ได้แย่
“ทำเองหรอ”
เพโรกรินไม่รู้จะชวนเขาคุยเรื่องอะไร โดยพื้นฐานเพโรกรินไม่ใช่คนที่ชอบความเงียบ
“อย่างข้าไม่ลดตัวลงไปทำอาหารให้มนุษย์หรอก”
“นายอยู่ที่นี่คนเดียวหรือว่า…”
“กับลูกสมุน พอใจเจ้ายัง รีบกิน”
เพโรกรินฉีกขนมปังจุ่มซุป คาดว่าพวกนี้คงเป็นฝีมือของลูกสมุนเขา แต่ตอนนั้นเขาไม่เห็นใครเลยนะ แถมตั้งแต่เช้าเขาก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรที่ข้างนอกห้องเลย
“ข้าให้พวกมันอยู่ข้างนอก บนเรือลำนี้มีแต่ข้า”
“อ่า…”
เพโรกรินไปไม่ถูกอยู่บ้างที่คนที่ทำท่าจะฆ่ากันเมื่อวานมาใจดีด้วย
เอเนลูได้ยินเสียงในความคิดของเพโรกริน และเขาเห็นอดีตของเพโรกริน เขาไม่ใช่คนที่จะเมตตาหรือสงสารใครอื่น เพียงมีบางอย่างที่ติดอยู่ในใจเขา การต้องเลี้ยงเด็กมันก็ไม่ได้แย่นักหรอก ใช่ว่าปกติเขาจะมีอะไรทำนี่ มีสัตว์เลี้ยงแก้เบื่อก็ดีเหมือนกัน เอเนลูเห็นเด็กชายกินเสร็จแล้ว
“ที่นี่คือแฟรี่วาซ”
เพโรกรินทำหน้างง
“หรือก็คือบนดวงจันทร์ที่เจ้าเห็นจากในโลก เจ้าจึงไม่มีทางกลับไปยังไงล่ะ”
เพโรกรินแสดงสีหน้าตื่นตระหนกชัดเจน ขนมปังที่เพิ่งกินไปทำเขาอยากขย่อนออกมา เขายกมืออุดปากตัวเองเนื่องจากความเครียดมาจุกอยู่ที่คอ เอเนลูเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดต่อ อย่ามาอ้วกบนที่นอนเขานะเว้ย
“แต่ข้าสามารถไปกลับได้ เพราะฉะนั้นถ้าเจ้าเชื่อฟ้งข้าดีๆ เราอาจจะทำสัญญาแลกเปลี่ยน ส่งเจ้ากลับบ้าน ดีมั้ย”
เอเนลูแค่หาอะไรเล่นฆ่าเวลา
“จริงหรอ”
เพโรกรินเงยหน้ามองเอเนลูด้วยแววตามีความหวัง มันเปล่งประกายซะจนเอเนลูไม่กล้ามองตรงๆ
“พระเจ้าไม่เคยพูดโกหก” แค่พูดไม่หมด แค่นั้น
“ไม่ใช่เรื่องยาก”
เพโรกรินกลับมาร่าเริงแล้วหลังจากสลดอยู่หนึ่งคืนเต็ม เขาลุกขึ้นยืนบนเตียงมือทุบอกจนเนื้อเตียงกระเด้งยวบยาบ เอเนลูเกือบหน้าคะมำ
“การจะเดินทางไปกลับด้วยเรือแม็กซิมูค่อนข้างเป็นจุดเด่น แต่ข้าเดินทางได้เร็วกว่าเรือ”
กว่าเอเนลูจะมีความสามารถไปกลับระหว่างดวงดาวเขาก็เคยกระอักเลือดเกือบตาย ตั้งแต่ฝึกครั้งนั้นเขายังไม่เคยกลับไปที่โลกอีกเลย เรื่องอะไรจะกลับไปล่ะ เขาอยู่ที่นี่ เป็นพระเจ้าแด่เพียงผู้เดียว ปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แฟรี่วาซ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งน้ำ วัตถุดิบ พร้อมทั้งลูกสมุนที่เชื่อฟังคำสั่งเขาเพียงคนเดียว ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง แบบนี้มันดีจะตาย! แต่ตอนนี้เขามีสิ่งบันเทิงเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง มาดูกันดีกว่าว่าเด็กนี่จะทำให้เขารู้สึกสนุกแค่ไหน
“แต่ก่อนหน้านั้นเจ้าต้องทนกับสภาพอากาศที่นี่ให้ได้ก่อน และยังต้องฝึกเรื่องแรงกดอากาศด้วย หากร่างของเจ้าสามารถทนไฟได้เป็นอันว่าผ่าน”
ห๊าาา
เพโรกรินอ้าปากค้าง จากอาการที่เคยลิงโลดก็ไหลฮวบ นั่งกองอยู่บนเตียง ไฟมันคือของแพ้ทางเขาเลยนะ จะไปทนได้ยังไงเล่า อย่าลืมสิว่าพลังของเพโรกรินคือน้ำตาล น้ำตาลน่ะแพ้ไฟ จะใช้พลังก็ไม่ได้ อีกอย่างมนุษย์ธรรมดาคงโดนไฟเผาจนเกรียม
เอเนลูได้ยินเสียงความคิดของเพโรกรินที่เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงก็ชักปวดหัว เขานัดแนะให้เพโรกรินออกมาหาเขาตอนเที่ยง เอเนลูมีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยใช้มาก่อน เขามอบมันให้เพโรกริน
“บีเบิ้ลการ์ด”
“เรื่องนี้กว้างใหญ่มากนะไอหนู ฮ่าๆๆ”
เอเนลูเดินจากไป หรึย ปราสาทโมเรียเขายังไม่หลงเลย กะอีแค่เรือยักษ์นิดหน่อย เขาเดินวันเดียวก็จำทางได้แล้ว คอยดูเถอะ เพโรกรินใช้เวลาในช่วงเช้าไปกับการจำแผนผังของเรือ เขาเดินจนไปถึงห้องควบคุมเรือ ทำเอาเอเนลูที่เห็นอนาคตวิ่งไปห้ามแทบไม่ทัน
“ทนไป”
“แฮ่กๆ แค่กๆๆ ไม่ไหวแล้ว…”
ตอนนี้เพโรกรินอยู่บนดาดฟ้าของเรือ ที่ซึ่งไร้ออกซิเจน อันดับแรกเอเนลูให้เขาฝึกหายใจได้แบบชาวสกายเปี้ยน หรือมันอาจจะร้ายแรงกว่านั้น คือให้เขาฝึกควบคุมลมหายใจ โดยไม่ใช้ออกซิเจน เขาต้องกลั้นหายใจให้นานที่สุด รักษาออกซิเจนในร่างกาย แน่นอนมนุษย์ปกติทำไม่ได้หรอก เอเนลูให้เขาฝึกทั้งวัน ได้กินข้าวแค่เช้ากับเย็น
ที่นี่ไม่มีเวลากลางวัน เพราะมองเห็นแต่ท้องฟ้ายามราตรี จึงต้องอาศัยจากการมองดาวโลกว่าตอนนี้ดวงจันทร์อยู่องศาที่เท่าไหร่ พอเพโรกรินหมดสติจะถูกลาก(อุ้ม)กลับเข้าไปในห้อง พอฟื้นเอเนลูก็จะโยนเขาออกมาที่ดาดฟ้าเรืออีกครั้ง เอเนลูดูสนุกที่เห็นเขาทรมาน ตอนเขาฟื้นทุกครั้งเลยข่วนหน้าเอเนลูตลอด ปะทะกันทุกทีกว่าจะได้ฝึกต่อ
วนอยู่อย่างนี้ 10 วัน เพโรกรินถึงสามารถหายใจบนดวงจันทร์ได้ กว่าจะสำเร็จเอเนลูก็หน้าลาย ส่วนเพโรกรินผมตั้งเนื่องจากไฟช็อต สภาพดูไม่จืดทั้งคู่ เพโรกรินต้องหมักผมกว่าหนึ่งชั่วโมงถึงกลับมาเป็นแบบเดิม
วันที่ 11 เอเนลูให้เขาลองสัมผัสกับพื้นแฟรี่วาซ หลังจากอยู่แต่ในเรือมาหลายวันติด ร่างกายของเพโรกริบเบาโหว่ง เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ เพโรกรินกระเด็นลอยไปมาอย่างไร้ทิศทาง เกือบจะหลุดขอบดินแดนแฟรี่วาซ ดีที่เอเนลูไปคว้ากลับมาทัน เล่นเอาเพโรกรินกรี๊ดแตกไปหนึ่งรอบ เอเนลูบอกว่าที่นี่มีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าบนโลก แต่ก็ไม่ถึงขนาดเดินเหินไม่ได้ แค่รู้สึกว่าร่างกายเบากว่าปกติ
เพโรกรินฝึกอยู่สองวันก็ชิน พอชินปุ๊บเอเนลูก็หมดสนุกที่จะได้แกล้งเขา(ให้หลุดออกนอกดวงจันทร์) จึงเปลี่ยนมาวิ่งไล่จับ โกหกหน้าด้านๆ ว่าเพื่อฝึกเขาเพิ่มความเร็วและความแข็งแรงของร่างกาย แล้วส่งสายฟ้าไล่หลังมาทำไมละเฮ้ย เพโรกรินวิ่งหนี เอเนลูบินตาม ขี้โกงซะไม่มี
การฝึกต่อไปที่เพโรกรินกลัวที่สุด ลุยไฟ แค่เห็นกองไฟตรงหน้าที่พวกลูกสมุนเอเนลูช่วยกันสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อเขาโดยเฉพาะ เพโรกรินกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ส่วนเอเนลูยิ้มหน้าเหี้ย(ม) โชคดีที่เอเนลูยังใจดีสอนเรื่องฮาคิให้เขา ฮาคิเกราะ(เจ้าตัวฝึกเพราะลูฟี่) ฮาคิสังเกตหรือที่เขาเรียกว่ามันโทร่า
นอกจากนี้เอเนลูยังฝึกมันโทร่าแบบเต็มหลักสูตรให้เขา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพโรกรินเคลือบฮาคิเกราะทั้งตัวก่อนจะเดินลุยไฟ เอเนลูผิวปาก ยอมรับว่าเด็กของเขามีมันสมองน่าทึ่งมาก แค่อธิบายปากเปล่าเพโรกรินก็ทำตามได้ทันที แม้ตอนแรกมันจะเหมือนทารกหัดเดินก็เถอะ แต่ฮาคิของเพโรกรินเปราะบางมาก ถ้าเกิดมีอะไรมากระแทกแรงๆ ฮาคิของเขาคงแตกทันทีแต่ถ้าเพื่อต้านแรงกดอากาศหรือกันอุณหภูมิโดยรอบก็พอไปวัดไปวาได้อยู่ ได้อยู่ที่แปลว่า… ให้มันแปลตรงตัวของมันเถอะ
ชีวิตของเพโรกรินที่แฟรี่วาซ ในวันที่ 21
วันนี้วันดีเอเนลูให้เขาหยุดหนึ่งวันหรือเจ้าตัวแค่ขี้เกียจสอน หลังจากวิ่งไล่จับกันมาหลายวัน ซึ่งน่าทึ่งมาก ตอนนี้เพโรกรินทนสายฟ้าของเอเนลูได้แล้ว ทั้งเจ้าตัวยังสำเร็จท่าเคาน์เตอร์ช็อต ที่มีลักษณะเหมือนสายฟ้าโจมตีศัตรูจากพื้นดินหรือที่ตัวศัตรูโดยตรงเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวชั่วขณะ ถ้ามีพลังมากหน่อยก็สามารถทำให้สลบได้ เพโรกรินจึงได้มานั่งกินนอนกินที่ห้องนอน ซึ่งมารู้ภายหลังว่าคือห้องของเอเนลู แล้วปกติเอเนลูไปนอนไหนละ? เอเนลูบอกว่าตัวเองเป็นพระเจ้าจึงไม่นอนน่ะ
แต่ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังนอนเล่นในห้องเดียวกัน ถึงที่นี่จะสมบูรณ์พร้อมด้วยวัตถุดิบพื้นฐานและพ่อครัวตัวจิ๋ว แต่สิ่งที่อร่อยที่สุดในแฟรี่วาซ ตอนนี้คือ…. บอกแล้วอย่าตกใจล่ะ คิกๆ น้ำตาลไอซิ่ง! ของเพโรกรินเอง ตอนที่ว่างๆ เอเนลูก็จะเอาผลไม้มาให้เขาเปลี่ยนเป็นน้ำตาลไอซิ่งเนื่องจากเจ้าตัวก็เบื่ออาหารบนดาวเหมือนกัน เพโรกรินกล้าอวดอย่างภาคภูมิ ณ ที่นี้เลยว่า ในแฟรรี่วาซ ไม่มีอะไรอร่อยไปกว่าน้ำตาลไอซิ่งของเพโรกริน
Talk
ไรท์ขอสมมติว่าเวลาบนดวงจันทร์ 1 วัน เท่ากับ 1 เดือนของโลก เพโรกรินจะมีเวลาฝึกกับเอเนลูแค่ 24 วันหรืออาจมากกว่านั้น เนื่องจากน้องไม่รู้นัดหมายกับลูฟี่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกวันพีช เพราะงั้น ความรู้วิทยาศาสตร์ก็ไม่ต้องไปจริงจังกับมันมากหรอกนะ
ปล.ไรท์เพิ่งรู้ว่าท่าเคาน์เตอร์ช็อตเป็นของลอว์ ตรั้ยแล้ว
29/11/65
ความคิดเห็น