[SF-Taokacha]ก่อนหมอกจะจางหายไป - [SF-Taokacha]ก่อนหมอกจะจางหายไป นิยาย [SF-Taokacha]ก่อนหมอกจะจางหายไป : Dek-D.com - Writer

    [SF-Taokacha]ก่อนหมอกจะจางหายไป

    ระหว่างหมอกกับควัน ... เต๋าจะให้ชาเป็นอะไร ?

    ผู้เข้าชมรวม

    2,838

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    2.83K

    ความคิดเห็น


    23

    คนติดตาม


    15
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.ย. 54 / 22:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ก่อนอื่นแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแนว ชายรักชาย นะคะ
    หากท่านผู้อ่านท่านใดไม่มีรสนิยมในการอ่านทางด้านนี้
    แนะนำให้คลิก x ที่มุมขวาปิดได้เลยนะคะ

    เรื่องที่สอง แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นคู่ เต๋าคชา(สวนด.)นะคะ
    หากไม่นิยมคู่นี้ก็อนุญาตให้จิ้ม x มุมขวาบนได้เลยเช่นกันค่ะ


    ขอบคุณรีดเดอร์ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ทั้งนักอ่านเงาและผู้เปิดเผยตัว
    แอบวงเล็บว่า ถ้าไม่เงาก็จะดีนะคะ ฮ่าๆๆ XD


    ปล.มันสั้นมาเลยนะ..ตีบตัน = =;;
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       
      เป็นเช้าที่ท้องฟ้าแทบไม่มีกลุ่มควันดำ อากาศเย็นสบาย และมีหมอกจางๆหาได้ยากเหลือเกินในกรุงเทพมหานคร ร่างเล็กลุกขึ้นมาจากเตียงตอนเช้าตรู่ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกจากห้องพักมารับลมที่ระเบียงข้างหน้าเพียงลำพัง

      ในความมืดสลัวมีเสียงฝีเท้าอีกคู่ที่ไม่ใช่ของเขา ไม่ใช่คนไม่ดีหรอก เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยแบบนี้...

      ชาเสียงทุ้มดังเบาราวกับเสียงกระซิบ แต่ในความเงียบสนิทนี้มีหรือที่ฝ่ายถูกเรียกจะไม่ได้ยิน คชายิ้มเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปหาต้นเสียง

      ตื่นเช้านะ เต๋าร่างสูงไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่ส่งยิ้มให้แล้วเดินเข้ามายืนรับลมด้วยกัน

      วันนี้อากาศดีนะ ลมแรงด้วยคชาพูดยิ้มๆพลางหันไปมองคนตัวสูงข้างๆ

      ใช่ ลมแรง หนาวรึเปล่าล่ะเต๋าเอาแขนโอบคนตัวเล็กอย่างถือวิสาสะ แต่มีเหรอที่คนถูกโอบจะว่าอะไร ยังจับมือใหญ่เอาไว้แน่นด้วยซ้ำ

      ถ้าตอบว่าไม่หนาวล่ะคชาถามหยั่งเชิง

      แล้วไงเต๋ายักไหล่ไม่สนใจ คชายิ้มอีกครั้ง ใครจะว่าคชามีหน้าเดียว ก็ขอให้รู้ไว้ซะว่าเวลาอยู่กับเต๋า หน้าเดียวที่คชาจะทำได้ก็ได้ ยิ้ม ยิ้ม และยิ้มเท่านั้นล่ะ

      ชาตัวเล็ก ยิ้มแบบนี้บ่อยๆนะ รู้ตัวมั้ยว่าเมื่อไหร่ที่ชายิ้ม โลกทั้งใบจะสว่าง สว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์นั่นอีกเต๋าชี้ไปที่ดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น ความมืดหายไปแล้ว หมอกก็จางลงจนเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และพอแสงสว่างสาดส่องทั่วทุกพื้นที่ หมอกทั้งหมดก็จะจางหายไป และมีแต่ควันแทน ทั้งจากโรงงาน ทั้งจากท่อไอเสียรถยนต์ที่แล่นกันเต็มท้องถนน..

      เต๋า ระหว่างหมอกกับควัน... เต๋าจะให้ชาเป็นอะไรคชาถามขึ้นเรียบๆ

      อืม...บางทีก็คิดว่าชาเป็นควันเต๋าตอบแบบใช้ความคิด

      ทำไมล่ะ

      ไม่อยากเป็นควันเหรอ

      ใครจะอยากเป็น ควันมันไม่ดีนะ ส่งผลเสียตั้งหลายอย่าง เต๋าว่าชาไม่ดีเหรอคชาเริ่มแสดงออกว่าไม่พอใจ มือที่จับกับมืออีกคนปล่อยออกแล้วกอดอกแทน

      ไม่ใช่แบบนั้น เต๋าก็มีเหตุผลว่าทำไมคิดว่าชาเป็นควัน

      เหตุผลว่าไงล่ะ

      อยู่กรุงเทพน่ะ เห็นควันตลอดเวลาเลยนะ แต่หมอกเนี่ย นานๆจะเจอที เต๋าเริ่มอธิบายเหตุผล

      แล้วก็ ควันน่ะลอยสูงนะ แต่หมอกน่ะ ลอยต่ำๆ

      “’ก็ใช่ แต่...

      แต่ว่ายังไง ชาก็เป็นหมอกอยู่เสมอนั่นล่ะ เป็นหมอก...ที่อยู่ด้วยแล้วเย็น และรู้สึกสบายใจ เป็นหมอกที่ขาวสะอาดและบอบบาง หมอกที่ไม่ทำให้เต๋าแสบตา เป็นหมอกที่อยากจะเจอบ่อยๆ อยากให้อยู่ด้วยกันตลอด..

      แต่ว่า...ถ้าเป็นหมอก เต๋าก็ไม่ได้เจอน่ะสิ..คชาเริ่มรู้สึกอยากเป็นควันเพราะเหตุผลแรกของเต๋าซะอย่างนั้น

      อ๋อ..เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเต๋ายิ้ม

      หือ?

      เต๋าจะตื่นมาเช้าๆมาเจอหมอกทุกวันเลยไงคำตอบที่ทำให้หัวใจคนฟังพองโตอย่างประหลาด ใบหน้าคมติดจะสวยขยับแย้มรอยยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ ตื่นเช้าๆมาเจอหมอกงั้นเหรอ... แบบวันนี้ใช่ไหม..

      คิดได้อย่างนั้นก็แล้วไป..

      อะไร ชาไม่เชื่อใจเต๋าเหรอ

      งั้น..แล้วเรื่องหมอกลอยต่ำ ควันลอยสูงล่ะคชาเปลี่ยนเรื่องดื้อๆเมื่อได้ยินน้ำเสียงและแววตาของคู่สนทนา ก็สายตาแบบนั้น เสียงแบบนั้นน่ะ มันพาลจะทำให้ใจอ่อนลงเสียให้ได้

      อยู่ต่ำๆก็ดีแล้ว... อยู่สูงเกินไปเต๋าจะเอื้อมไม่ถึงนะเต๋าตอบด้วยเหตุผลที่อาจฟังดูแถไปบ้าง แต่สำหรับคชาน่ะ เหตุผลข้อนี้สำคัญทีเดียว เป็นหมอกลอยต่ำๆอยู่แค่ตรงนี้ อยู่ใกล้ๆคนที่เรารัก ดีกว่าเป็นควันที่ลอยขึ้นไปสูงๆจนคนบนพื้นไม่สามารถจะเอื้อมถึงได้อีก..

      เต๋าเสียงเรียกดังขึ้นจากคนข้างๆ เต๋ารีบหันไปมอง ก่อนที่คชาจะพูดต่อออกมา...ขอบคุณมากนะ

      ขอบคุณเต๋าทำไมล่ะชา

      ขอบคุณที่ให้ชาเป็นหมอก .. ที่ให้ชาอยู่ตรงนี้...คชาก้มหน้าลงนิดๆ

      เรื่องนี้เหรอ.. ชาฟังเต๋านะมือไหล่วางลงบนไหล่บางเบาๆ ก่อนจะสบสายตาอีกฝ่ายด้วยความจริงใจ

      เต๋าไม่ได้อนุญาตให้ชาอยู่ตรงนี้ ... แต่เพราะนี่เป็นที่ของชาต่างหาก มันเป็นที่ของชาคนเดียวตั้งแต่แรกแล้วเต๋าพูดด้วยแววตาจริงจังจนคชาอดที่จะน้ำตาคลอไม่ได้ แสงอาทิตย์สาดส่องไปทั่วบริเวณและหมอกก็จางหายไปเกือบทั้งหมด ความมืดถูกกลืนกินด้วยแสงสว่างแต่ยังไม่ทำร้ายสายตามากเท่าไรนัก แต่รถราบนถนนก็ยังไม่คับคั่งมากสักเท่าไหร่ ความสงบในเมืองหลวงจึงยังคงมีอยู่บ้าง

      เต๋าสะกิดให้คชามองหมอกที่หายจางไปก่อนจะพูดขึ้นมา

      รู้มั้ยอะไรที่ชาไม่เหมือนหมอก

      อะไรล่ะคชาถามกลับไป

      ตอนนี้หมอกหายไปแล้ว แต่ชายังอยู่ตรงนี้กับเต๋าไง

       

      คชายิ้มขึ้นอีกครั้งหลังจากได้ยินคำตอบ ทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันตรงนั้น... จนหมอกทั้งหมดจางหายไป และเมืองหลวงก็ถูกปกคลุมด้วยควันอีกครั้งดังเช่นวันธรรมดาๆทุกวันที่ผ่านมา...

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×