The mirror สงครามจอมบัลลังก์
อัศนีบาดฝาดลงมาอีกครั้งต่อหน้าสระศักดิ์สิทธิ์ สระที่มีความใสสะอาดและบริสุทธิ์ราวกับกระจกบานมหึมาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ หยาดเลือดที่หยดลงในสระ สายฟ้าฟาดที่ฟาดลงทำให้เกิดช่องว่างแห่งมิติ ซึ่งสระน้ำแห่งนี้ได้กลายเป็นสิ่งเชื่อมต่อมิติระหว
ผู้เข้าชมรวม
114
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
The mirror. 4
บทที่หนึ่ง
“เร่งมือหน่อย เราต้องรีบแล้ว เช็ดให้ทั่วอย่าให้เหลือ นั่น! บนหลังตู้” หญิงวัยกลางคนออกคำสั่ง นัยน์ตาที่แสดงถึงความหงุดหงิดถูกจดจ้องเพราะคำพูดของเจ้าหล่อนเอง
“มองอะไรยะ เร่งเข้าสิ มัวชักช้าไม่ได้เรื่องเอาซะเลย พวกเธอต้องทำความสะอาดให้เสร็จก่อนที่คุณนายทาส์วจะมาถึง” หญิงผู้พูดเน้นเสียงคำว่า‘ทาส์ว’อย่างชัดเจนจนผู้ฟังนับสิบอดหัวเราะไม่ได้ นางยังคงชี้นิ้วสั่งอยู่บนเก้าอี้เหมือนดั่งเคย
“แสดงว่าจะต้องมีใครได้ไปอยู่กับคุณนายทาส์วใช่ไหมคะ” เด็กหญิงคนหนึ่งถาม ภายใต้นัยน์ตาสีม่วงอ่อนที่ไม่เหมือนใคร ยังคงมีความหวังที่จะเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกเลือก
“ใช่!” ผู้มีอายุแก่กว่าตอบพลางเอาไม้กระบองสีฟ้าที่ถืออยู่ทุบลงกับพื้นหนึ่งครั้งเพื่อแสดงถึงความมั่นใจ แต่ทว่าด้วยความแรงของกำลังที่มีอยู่ทุบเข้าอย่างจังมันจึงยากเกินกว่าที่เก้าอี้เก่าๆซึ่งหล่อนได้ยืนอยู่จะรับไหว
โครม!!!
เสียงเก้าอี้หักลงมาอย่างสนั่นหวั่นไหว แน่นอนร่างซึ่งเคยยืนอยู่บนนั้นก็ได้ร่วงลงมาไม่เป็นท่าเช่นเดียวกัน สร้างเสียงหัวเราะในใจให้กับเด็กๆในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ผู้ที่ล้มนอนกองอยู่กับพื้นก็ยังคงรักษาฟอร์มเชิดหน้าและโบกมือให้กับเด็กๆที่หัวเราะเบาๆ นางประคองตัวเองลุกขึ้นช้าๆพร้อมกับกล่าวว่า
“เอาละหมดเวลาสนุก ขึ้นไปแต่งตัวได้แล้ว” นางพูดจบก็เดินตัวเอนพลางเอามือปิดบั้นท้ายไว้เพราะความเจ็บปวด ในใจก็อดที่จะขำตัวเองไม่ได้เช่นกัน
เสียงรถคันหรูจอดลงเบื้องหน้าตึกเล็กๆที่มีป้ายติดว่า ‘ บ้านมาดามไบเรท’ ประตูบานหลังถูกเปิดขึ้นอย่างช้าๆ หญิงชราก้าวเท้าออกมาข้างหนึ่งพร้อมใช้มือหนึ่งข้างดึงกระโปรงสีแดงที่ลากยาวส่วนมือที่เหลือได้กำกระเป๋าใบหรูไว้ ใช่!หญิงชราผู้นี้คือคุณนายทาส์วหญิงในคำล่ำลือของเด็กๆ ตอนนี้เด็กที่น่ารักยืนเข้าแถวเรียงต้อนรับผู้มาเยือน มาดามไบเรทสวมกอดคุณนายทาส์วก่อนที่จะหันหลังไปทางเด็กๆ
“ เอาละเด็กๆ” ผู้กล่าวๆขึ้นพร้อมปรบมือสองครั้งและพูดต่อว่า
“ตอนนี้คุณนายทาส์วได้มาถึงแล้ว ฉันว่าคุณนายคงอยากได้ยินพวกเธอแนะนำตัวนะ” มาดามไบเรทพูดจบก็หันไปทางคุณนายทาส์วเป็นเชิงรู้กัน
The mirror. 5
“จ๊ะ! ฉันอยากจะรู้ว่าหนูน้อยที่น่ารักชื่ออะไรกัน” หญิงชรานามว่าคุณนายทาส์วเอ่ยขึ้นและส่งยิ้มอย่างโอบอ้อมอารี
การแนะนำตัวดูจะเป็นไปอย่างราบรื่นดี เมื่อเด็กหญิงคนสุดท้ายแนะนำตัวเสร็จผู้มาเยือนจึงปรบมือเสียงดังอย่างพอใจ แต่ยังคงมีผู้หญิงคงสงสัยอะไรบางอย่างอยู่ นางผู้เป็นใหญ่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ายังคงจดจ้องสายตาไปทางเด็กๆ ปากขยับเล็กน้อยว่า “ หนึ่ง สอง สาม.............” เมื่อบวกลบเสร็จแล้วนางจึงรู้ว่ามีเด็กหายไปหนึ่งคน ในขณะเดียวกันที่หญิงสาวหน้าตาน่ารักวิ่งออกมาด้วยความรีบเร่ง
“กว่าจะเสด็จมาได้นะหล่อน”
“ขอโทษคะมาดามไบเรท พอดี.......”
“เอาละอย่ามากความ สายก็คือสาย” คำพูดของผู้ถูกเรียกว่ามาดาม ทำให้เด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงนัยน์ตาสีม่วงอ่อนถึงกับก้มหน้า
“ค่ะ มาดามพูดถูกหนูผิดเอง”
“ดี! รู้ใช่ไหมว่าจะต้องทำอย่างไง”
“ค่ะ”
“แต่เดี๋ยวคะ เด็กคนนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดมากนี่คะ ยังจะพออ่อนข้อสักนิดได้ไหม”คุณนายทาส์วพูดขึ้นด้วยความเวทนา
“กฏย่อมคือกฏ เราจะตัดสิทธิ์การคัดเลือกในครั้งนี้ และกักบริเวณในห้องเก็บของหนึ่งวัน ถ้าเราไม่ทำอย่างนี้มีหวังคุณได้ลูกที่ไม่ดีแน่”
“คุณสอนเด็กได้ดีเลยทีเดียว” คุณนายทาส์วถึงกับกล่าวชม
เด็กสาวได้แต่ก้มหน้าเดินตรงไปยังห้องเก็บของ แม้เธอจะไม่ได้ถูกคัดเลือกแต่เธอก็ดีใจกับเพื่อนที่จะได้มีครอบครัว เธอเดินขึ้นบันไดใต้หลังคาสูง และค่อยๆปิดบานประตูสนิมเครอะช้าๆจนไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามาในประตูเลยแม้แต่นิดเดียว ลมที่ผ่านช่องใต้ประตูน้อยๆทำให้เธอรู้สึกเย็นขึ้น หน้าต่างเล็กๆข้างประตูทึบถูกเลื่อนขึ้นค้างไว้ ทว่าฝุ่นในห้องเก็บของนี้เยอะเกินไปจึงทำให้ผู้อยู่ในนั้นต้องจาม
กึ้งๆๆ เอี๊ยด
เสียงประตูถูกเปิดออก ปรากฏร่างของเด็กสาวผู้หนึ่งยืนถือซุปอุ่นๆไว้ในมือ
The mirror. 6
“ ไอริส ฉันเอาซุปมาให้ ฉันคิดว่าเธอคงหิว”
“ ขอบใจนะ .......เจนี่”
“จ๊ะ แต่อีกเดี๋ยวฉันก็จะต้องไปแล้ว คุณนายทส์วเลือกฉัน” ขณะนี้ผู้ถือซุปค่อยๆวางถ้วยลงบนพื้นแล้วหันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“เธอ.........ถูกเลือก” เด็กสาวนามว่าไอรีสพูดอย่างดีใจ ในขณะที่เด็กสาวผู้ถูกเลือกพยักหน้าลงเป็นเชิงตอบรับ
“ทานซุปเถอะเดี๋ยวเย็นหมดไม่อร่อยนะ” เด็กหญิงยิ้ม แววตาสีฟ้าเข้มประกายแสดงถึงความดีใจและคิดถึงเพื่อนที่จะต้องลาจาก
“ฉันทานไม่ลง คิดถึงเธอนะ จะให้ทานลงได้ไง”
“ไม่เอาน่า........นะ ร่าเริงหน่อยสิ” เจนี่หรือเจนีวีฟพูดทั้งคราบน้ำตา นัยน์ตาของเธอแฝงไปด้วยความเศร้า
ฟึบ!!!
ผ้าคลุมผืนใหญ่ตกลงมา ปรากฏสิ่งที่เคยอยู่เบื้องหลัง นั่นคือกระจกบานบานใหญ่ บานกระจกโบราณที่ทั้งใหญ่และสวยงาม จนผู้เห็นตกอยู่ในภวังค์ภายใต้มนตร์สะกดของมิติ บัดนี้ประตูมิติได้เปิดออกอีกครั้ง ฝีเท้าที่ย่างก้าวเข้าไปเรื่อยๆ ยิ่งเดินใกล้รกระจกแห่งมิติเท่าไหร่ ประตูมิติก็เริ่มหดลง ร่างเด็กสาวซึ่งตกอยู่ในภวังค์ ได้ตื่นจากมนตร์สะกด แต่ทว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในห้องเก็บของเสียแล้ว เด็กสาวผมยาวปะบ่าได้ยืนอยู่หน้าสระศักดิ์สิทธิ์ นัยน์ตาสีฟ้าเข้มยังคงงุนงง สายลมอ่อนๆพัดโชยเอาผมสีดำสวยๆของเธอปลิวไปตามทิศทาง เสียงแมลงต่างๆก้องอยู่ทั่วสารทิศ ความวังเวงได้มาเยือนแล้ว......................
ท่ามกลางฝูงคนมากมายและความสับสนปนกัน ช่างเป็นสิ่งที่น่าสงสัยยิ่ง เด็กหญิงลูบผมน้ำตาลแดงของตนเบาๆก่อนที่จะใช้นิ้วบิดบนแก้มของตนหนึ่งครั้งว่านี่ไม่ใช่ฝัน ใบหน้าผู้คนเหล่านั้นช่างไม่คุ้นเคยเอาเสียเลยบวกกับบรรยากาศที่แสนจะอึมครึมด้วยแล้ว ทำให้เธอแน่ใจว่าที่นี่ต้องไม่ใช่โลกมนุษย์แน่ เธอกำสร้อยสีทองขึ้น และภาวนาขออย่าให้มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับเธอเลย
ผลงานอื่นๆ ของ LeeZ-niE ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ LeeZ-niE
ความคิดเห็น