คุณแค่ แค่คุณ (Only You) - นิยาย คุณแค่ แค่คุณ (Only You) : Dek-D.com - Writer
×

    คุณแค่ แค่คุณ (Only You)

    ลิเภา นักแสดงซีรีส์วายเป็นโรคสองบุคลิกโดนคู่จิ้นตามตื๊อให้สร้างโมเม้นท์น่ารำคาญ จนความลับเรื่องอาการของเขาหลุดไป ทำให้สิงหาผู้กำกับบ้าพลังต้องเข้ามาพัวพันช่วยเก็บความลับ ก่อเกิดเป็นเรื่องราวชุลมุน

    ผู้เข้าชมรวม

    73

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    73

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  27 ก.ย. 63 / 18:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ทักทาย

    สวัสดีค่ะ มือพายเองค่ะ

    เขียนวายเรื่องแรงเนื่องจากต้องการสนองความฟิน

    จากคู่วายที่เราแอบฟินอยู่ตอนนี้

    (ดูจากแทคได้เลย)

    แอบสปอย ~ .อ.. ฟ.. แค่นี้ ฮ่า ๆ


    อยากคุยอะไรกับไรท์ ทักมาได้นะ มีทวิตเตอร์อยู่

    “ไม้พายสะท้านคลื่น”

    มาพูดคุยกันได้น้า หรือ จะมาตามให้มาแต่งต่อก็ได้ หุหุ


    สุดท้ายขอฝาก คุณแค่...แค่คุณ (Only You) ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะงับ อาจจะดราม่านิด ๆ แต่เชื่อได้ว่าจัดหนักให้ฟินแน่นอน เป็นเนื้อหาที่หนักหน่วง แต่ก็ซึ้งกินใจ ค่อย ๆ เรียนรู้กันไปนะคะ




    บทนำ

    จิ๊ด ๆ

         เสียงหนูบ้านตัวใหญ่กำลังจิกกัดลังกระดาษที่ใส่อาหารกระป๋องอยู่ริมห้อง ถึงแม้ภายในห้องแคบ ๆ นี้จะไม่มีไฟดวงใดให้ความสว่างได้เท่ากับแสงจันทร์สาดเป็นลำส่องเข้ามาทางหน้าต่างบานเล็กนั้นแล้ว แต่แค่นั้นก็เพียงพอให้เห็นเด็กน้อยใบหน้าซูบผอม ในมือถือซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รอบข้างเต็มไปด้วยน้ำขวดวางสะเปะสะปะ เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยของเสียจากการขับถ่ายของเขา ดวงตาช้ำลึกจากการร้องไห้ไม่หยุดมาตลอดสามวันเต็ม ๆ

         “อะ” เด็กชายยื่นซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปให้เจ้าหนูน้อยตัวนั้นด้วยมือที่สั่นไหว

         “แรงก็ไม่มี หิวก็หิวยังจะแบ่งอีกเหรอ” เสียงแหบพร่าของเด็กชายอีกคนเอ่ยขึ้นมา และดึงมือของเขากลับไป ทำให้เด็กคนนั้นหันกลับมามอง นัยน์ตารื้นขึ้นมา

         “แต่มันอาจจะหิวนะ” เสียงเศร้าใจ มองเด็กชายอีกคนด้วยแววตาเว้าวอน

         “แต่ถ้าให้มันไป เราก็จะเป็นคนหิวแทนนะ ทนไหวเหรอ”

         คำถามสุดท้ายทำเด็กชายนึกถึงครั้งแรกที่เขาท้องว่างหิวโซ เขาไม่เคยรู้สึกหิวขนาดนั้นมาก่อน หิวทั้งน้ำหิวทั้งข้าว เขาร้องเรียกคนข้างนอก ใครก็ได้ช่วยมาเปิดบานประตูนี้ออกให้ที แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน รอแล้วรออีกจนทนไม่ไหว คุ้ยหาอะไรก็ได้ประทังความหิว เมื่อได้เจอลังใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ยังไม่ได้แกะ มือน้อยใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีฉีกมันออก เขายังจำได้ที่คนดูแลของเขามักดุเวลาแอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบไม่ใส่น้ำร้อน เขาชอบกินมันเป็นขนมกรุบกรอบเพลิน ๆ แต่ตอนนี้เขาต้องกินมันแทนข้าว เขาไม่เคยรู้สึกอยากให้คนดูแลจับได้แล้วดุด่าเขาเท่าตอนนี้...ยังไงก็ได้ เขายอมโดนกักบริเวณ เขายอมโดนตี ขอแค่เพียงพาเขาออกไปจากที่นี่ที เขากลัวจะแย่อยู่แล้ว

         เด็กชายที่ดูแข็งแกร่งทางด้านอารมณ์มากกว่า ใบหน้าไม่มีแม้แต่รอยคราบน้ำตา กำมือแน่น กล่อมตัวเองในใจว่าเขาจะเข้มแข็ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งเกิดเสียงดังคลื่นใหญ่ทำเอาพื้นที่นั้นสั่นสะท้าน...เสียงฟ้าผ่า! ให้ตายสิ แค่อยู่ในห้องมืดแคบแบบนี้พวกเขาก็จะแย่อยู่แล้ว ทำไมถึงไม่มีใครตามหาเขาเสียที

         “ไม่นะ! กลัวแล้ว ๆ” เด็กชายขวัญอ่อนสะดุ้งโหยง ดตัวโค้งต้องการฝังตัวเองไปกับตู้ไม้เก่า ๆ ที่เขาพิงอยู่นี้เสียให้ได้ อย่างน้อยเป็นตู้ก็ไม่ต้องกลัวเสียงฟ้าผ่าหรือรู้สึกหิว

         “หม่าม้าอยู่ไหน ทำไมไม่มาหาเสียที หม่าม้าโกหก ทุกคนโกหก”

         ท่ามกลางสายฟ้าฟาดด้านนอกหน้าต่าง ฝนตกกระหน่ำ อุณหภูมิเริ่มหนาวเย็นขึ้น ร่างบางเริ่มหนาวสั่น เด็กทั้งสองนั่งเบียดชิดกัน เอื้อมแขนไปกอดอีกฝ่ายเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น

         “หม่าม้าจะมารับเราไหม” เสียงอ่อนแรงของเด็กที่ตาแดงก่ำเอ่ยขึ้นท่ามกลางเสียงฝนกระหน่ำ

         “มาสิ หม่าม้าบอกว่าจะมา” อีกเสียงที่เริ่มจะอ่อนแรงพอกันเอ่ยปลอบ เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับอีกฝ่าย

         “กลัวจัง กลัวไหม”

         คำถามทำให้ผู้ฟังที่พยายามเข้มแข็งมาเนิ่นนานเริ่มอ่อนไหว จะให้เขาเข้มแข็งไปตลอดได้อย่างไร เขาเป็นเพียงเด็กชายอายุหกขวบเองนะ เขาอยากจะตอบกลับว่าเขากลัวมาก ไม่เคยกลัวอะไรเท่านี้มาก่อน ถ้าคำถามนี้ไม่ได้ออกมาจากปากของฝั่งตรงข้ามที่ต้องการให้เขาตอบอีกอย่างหนึ่ง

         “ฉันยังอยู่นี่ ไม่ต้องกลัวนะ” บีบมืออีกฝ่ายแน่นเพื่อสร้างความมั่นใจ

         “ใช่ เราจะไม่เป็นไร เรายังมีกันและกันอยู่ เราจะไม่กลัว” เสียงสั่นสู้ เอ่ยพร้อมน้ำตาที่กำลังจะหยดไหลเพราะกำลังใจดีจากคนด้านข้าง

    เปรี้ยง!

         สายฟ้าฟาดดังราวกับมาผ่าลงมาอยู่ในห้องนี้ เด็กชายกรีดร้อง เรียกหามารดาที่ไม่ยอมมาหาเขาเสียที เสียงร้องดังลั่นออกมาจากบ้านหลังโต แต่รอบข้างกลับเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ เหมือนไม่มีใครดูแลมาแล้วหลายวัน ภายนอกมืดครึ้ม ไร้ซึ่งแสงจากหน้าต่างบานใดราวกับไม่มีใครอาศัยอยู่ มีเสียงร้องโหยหวนที่เริ่มจางหายไปเพราะเสียงฝนที่กระหน่ำตกลงมากลบ




    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น