คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ARC 0 :: 5. [ You can become a hero ]
o n l y u | fanfic bnha
midoriya izuku x shiori sachita (oc)
อัพตอนสมบูรณ์ ; 7 March 2021
แก้ไขย่อหน้า ; 8 June 2021
ARC 0 :: 5. [ You can become a hero ]
warning - chasing suicide
"จะว่าไป มิโดริยะเองก็เลือกที่ยูเอย์เหมือนกันนี่นะ"
เสียงของคัตจังที่ตอนแรกกำลังส่งเสียงดังมีความสุขหยุดลงจนทำให้ทั้งห้องเงียบลงในชั่วขณะหนึ่ง หากแต่มีสิ่งเดียวที่ไม่ได้หยุดลงตามเสียงของทั้งห้อง
มันก็คือร่างกายที่สั่นของอิซึคุ คือเสียงหัวใจของเขาที่หวาดกลัวจนต้องฟุ่บหน้าหนีกับโต๊ะ - ไม่นานเสียงของคนทั้งห้องก็หัวเราะกับความฝันที่เขาฝันเอาไว้
"หา !? มิโดริยะเนี่ยนะครับ!"
"ไม่ไหวมั้ง!!"
"แค่เรียนเก่งอย่างเดียว เป็นฮีโร่ไม่ได้หรอกนะ!"
คำที่ทุกคนพูด - เขารู้
เขารู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะคิดว่าเขาฝันลมๆแล้งๆ
แต่เขาก็ยังยันตัวลุกขึ้น ริมฝีปากขยับพูดโต้ตอบคนพวกนั้น
"กฎแบบนั้น มันไม่มีแล้วนะ! - แค่ยังไม่มีใครทำมาก่---"
เสียงของเขาหยุดลงมันถูกแทรกด้วยเสียงระเบิดจากอัตลักษณ์ของบาคุโก คัตสึกิที่ใช้มันใส่โต๊ะเรียน แรงทำให้อิซึคุกระเด็นจนไปติดกับผนังของหลังห้องเรียน คัตจังมองเขา ใบหน้ามีความดูถูกตัวของเขาไม่น้อย
"ไม่ใช่แค่อัตลักษณ์ไม่มีอะไร แต่ตัวแกไม่มีอะไรด้วยซ้ำ"
เขารู้สึกกลัว
"คิดจะมายืนบนแท่นเดียวกับฉันเพื่ออะไรวะ"
ไม่นะ
ไม่ใช่เลย
"เดี๋ยว เปล่านะ ไม่ใช่สิ คัตจัง"
เขาไม่ได้คิดจะแข่งอะไรกับคัตจังเลย - เขาก็แค่ทำตามที่เขาอยากจะทำ อยากจะไล่ตามความฝันของตัวเอง
"มันก็แค่เป็นความฝันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว...ที่สำคัญถ้าไม่ลองก็ไม่รู้นี่นา"
ขนาดเธอคนนั้น คนที่รู้ว่าเขาไร้อัตลักษณ์ - เธอคนนั้นก็ยังบอกว่าเขาเป็นฮีโร่ได้
เขาเองก็เป็นฮีโร่ได้ เป็นได้สิ
"ไม่ลองก็ไม่รู้อะไรของแก!"คนผมสีฟางยังคงเอ่ย "คิดจะไปสอบเป็นที่ระลึกรึไง คนอย่างแกจะไปทำอะไรได้!?"
คนอย่างเขา…
ทำอะไรไม่ได้เลยงั้นเหรอ
ไม่ได้เลยสักนิดเหรอ?
สองปีแล้ว
ซาจิตะคิดขึ้นมายามมองอุปกรณ์สื่อสารในมือของตัวเองที่มีรอยแตกจากการชนกับเด็กหนุ่มผมสีเย็นตาเมื่อราวๆสองปีที่แล้ว
อยู่ดีๆหล่อนก็คิดขึ้นมาว่าเขาจะเป็นยังไง จะยังคงเชื่อในความฝันนั้นอยู่อีกไหม
ซาจิตะอิจฉาอีกฝ่ายที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ขณะที่เธอยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะเดินในเส้นทางไหนในชีวิตม.ปลาย - จะอยู่แบบนี้ จะเป็นฮีโร่ หรือจะทำอะไรในอนาคต เธอหาตัวของตัวเองไม่พบเลยแม้แต่นิดเดียว
"อยากทำอะไรในอนาคต"
ซาจิฟังพ่อเลี้ยงแนะแนว เขาถามคำถามนี้บ่อยขึ้นในช่วงนี้
"ไม่อยากทำอะไรเลยได้ไหมคะ"
"มันจะได้ยังไงเล่า"
อีเรเซอร์เฮดถอนหายใจกับการแนะแนวให้ "อยากทำอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?"
เด็กสาวส่ายหน้า นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่สามารถตอบคำถามของคนเป็นพ่อได้ ฮีโร่วัยสามสิบถอนหายใจอีกครั้ง "ยังไงก็ไม่ต้องรีบคิดนะ...ทำอะไรที่อยากทำก็ได้"
เธอไม่ได้อยากทำอะไรเลย
ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรแน่ชัดเลย
ตั้งแต่วันเกิดอายุสี่ขวบ
ความฝันก็เลือนลาง และ แตกสลาย
"หนูไม่รู้ด้วยซ้ำเลยค่ะ ว่า ตัวของหนูพอจะทำอะไรได้บ้าง"
"ซาจิ"
"ขอโทษนะคะ - แต่หนูก็คิดแบบนั้นมาตลอดเลยนะ"
ตลกชะมัด
ตลกที่เมื่อปีสองปีที่แล้วหล่อนให้กำลังใจว่าคนไร้อัตลักษณ์เป็นฮีโร่ได้ - แต่เธอกลับบอกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ความฝันเธอก็ยังคิดว่าเธอพอจะฝันอะไรได้
"สนใจมาเป็นฮีโร่ไหม?"
"คนอย่างหนูช่วยใครไม่ได้หรอกนะคะ"
"ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก"
ซาจิตะถอนหายใจ - เด็กสาววัยรุ่นเลือกที่จะหันไปสนใจเค้กในจานข้างๆเอกสารแนะแนวอาชีพที่พ่อบุญธรรมเตรียมไว้ให้ รสชาติหวานของเค้กวนิลาแทรกเข้ามาในริมฝีปาก
ไม่ลองก็ไม่รู้
แต่ว่าก็ว่าเถอะความคิดที่จะสนใจในการเป็นฮีโร่ของหล่อน - หล่อนไม่ได้สนใจนี่
เป็นอาชีพที่ไม่ปลอดภัย เวลาอยู่กับครอบครัวก็น้อย
"วิเคราะห์ฮีโร่ เพื่ออนาคต? หูย เอาจริงดิ มิโดริยะเอ๊ย!"
เขาฟังคำพูดวิจารณ์ออกด้วยใจที่เต้นรัวเพราะความรู้สึกหวาดกลัวในอกของตัวเอง มือไม้ขยับโบก "ไม่เป็นเป็นไรเลยนี่ เอาคืนมานะ!!"
หลังคำพูดของเขาจบลง
สมุดบันทึกที่ใช้เวลาทั้งชีวิตในการเขียนเล่มนั้น ก็ถูกระเบิดด้วยฝีมือของเพื่อนสมัยเด็กอย่างคัตจัง ตาสีมรกตของอิซึคุเบิกกว้าง "เกินไปแล้วนะ"
เกินไปแล้ว
เกินไปแล้วจริงๆนะ - คัตจัง
"ท็อปฮีโร่ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีเรื่องเจ๋งๆในสมัยเรียน เพราะงั้นฉันถึงอยากได้คำว่าเป็นผู้สอบเข้ายูเอย์คนแรกและคนเดียวจากโรงเรียนประจำเมืองที่แสนธรรมดานี่"และมือของบาคุโกก็จับลงที่ไหล่ของเพื่อนร่วมห้อง ตาสีโกเมนมองมา "เพราะฉะนั้นช่วยอย่าไปสอบที่ยูเอย์ด้วยล่ะ พ่อเด็กเนิร์ด"
อิซึคุกัดฟันไม่รู้จะพูดอะไร ร่างของคัตจังและเพื่อนอีกสองคนเดินผ่านเขาไปแล้ว
สมุดของเขาถูกโยนลงไปจากหน้าต่าง
"แต่ถ้าอยากเป็นฮีโร่ขนาดนั้นล่ะก็ก็อธิษฐานขอให้ชาติหน้ามีอัตลักษณ์และดิ่งลงมาจากดาดฟ้าสิ"
เขาโกรธจนหันไปหา หากแต่ความโกรธก็แทนที่ด้วยความกลัวในอีกฝ่ายมากกว่า
เขาทำอะไรไม่ได้เลย
เขาทำอะไรไม่ได้
หยิบสมุดที่เปียกชื้นขึ้นมาจากบ่อน้ำที่เลี้ยงปลา ความรู้สึกในตอนนี้มีการต่อว่าเพื่อนสมัยเด็กในใจ และ นึกถึงคำพูดของเธอที่บอกให้กำลังใจที่เขาใช้เป็นกำลังใจในยามท้อ
คุณเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เลยค่ะ
ไม่ต้องเท่ก็ได้
ไม่ต้องเท่ - แต่เขา เขาจะได้เป็นฮีโร่ใช่ไหม?
เขาคิดและเดินทางกลับบ้านแบบทุกวัน ระหว่างจะกลับบ้าน
วิลเลินโผล่มาจากข้างหลัง ร่างกายเป็นของเหลวกำลังรัดมิโดริยะ จนเด็กหนุ่มผมสีเย็นตาหายใจไม่ออก ตัวของเขาไม่มีแรง
และสิ่งสุดท้ายที่เขารับรู้
ออลไมท์มาแล้ว
เขาตามตื้ออีกฝ่ายเกาะอีกฝ่ายไปหลังจากที่ได้สติหลังถูกวิลเลินทำร้าย ออลไมท์สามารถจัดการวิลเลินร้ายกาจได้ในเวลาไม่นานสมกับตำแหน่งฮีโร่อันดับหนึ่งที่เจ้าตัวครองเอาไว้
อิซึคุและออลไมท์มาถึงสถานีตำรวจ ออลไมท์จอดลงที่ด้านบนของอาคาร ออลไมท์ตำหนิเขา กำลังทำท่าจะไปจากตรงนี้ และทำให้เด็กหนุ่มรีบถามออกไป
"เดี๋ยวครับ เดี๋ยวก่อน! ถึงไม่มีอัตลักษณ์ก็จะเป็นฮีโร่ได้รึเปล่าครับ!! จะเป็นเหมือนอย่างคุณได้รึเปล่าครับ!"
เขาอยากเป็น
เป็นฮีโร่
"ช่วยเหลือผู้คนด้วยรอยยิ้ม ผมก็อยากเป็นสุดยอดฮีโร่แบบคุณ"
เขาพูดจบประโยคและส่งเสียงร้องตกใจกับสภาพของออลไมท์ที่เห็น ร่างกายที่เล็กลงรูปลักษณ์ผิดกับร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ตอนนี้ร่างตรงหน้าของอิซึคุมีแต่ชายหลังงอดูผอมแห้ง
คนตรงหน้าคือออลไมท์
"รอยยิ้มที่ไม่รู้จักคำว่ากลัวงั้นเหรอ?"ออลไมท์นั่งลงและทวนคำถามของคนเด็กกว่า "ไหนๆก็โดนเห็นร่างจริงแล้ว แต่ว่านะหนุ่มน้อย อย่าได้เอาไปบอกในเน็ตล่ะ"
มือของฮีโร่อันดับหนึ่งเลิกชายเสื้อยืดสีขาวขึ้น ภาพโชว์ให้เห็นร่างกายของออลไมท์ที่บาดเจ็บ "ฉันได้แผลนี้มาตอนห้าปีที่แล้ว ระบบทางเดินหายใจหายไปครึ่งหนึ่ง ระบบอาหารก็ต้องผ่าตัดใหม่หมด พอต้องผ่าตัดตอดต่อกันร่างกายของฉันก็ผอมกะหร่อง และ เวลาทำงานหนึ่งวันก็มีเพียงสามชั่วโมง"
อีกฝ่ายยังคงพูดต่อ "นี่เป็นเรื่องที่ฉันขอไม่ให้ประกาศออกไป เพราะรอยยิ้มแห่งสันติภาพต้องคอยช่วยเหลือทุกคนด้วยรอยยิ้มจะแพ้ให้กับความชั่วร้ายไม่ได้ไม่ได้เด็ดขาด ที่ฉันหัวเราะก็เพื่อกลบเกลื่อน มือโปรน่ะถึงเมื่อไรก็ต้องเต็มที่เสมอ"
คุณเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เลย
"เพราะแบบนั้น ถึงไม่มีอัตลักษณ์ก็เป็นฮีโร่ได้ คำพวกนั้นคงเป็นไปไม่ได้หรอกนะ"
อิซึคุชาไปหมด ตัวของเขานิ่งค้างขยับไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูก
มันถึงเวลาแล้วหรือ - ถึงจุดที่เขาต้องยอมแพ้เสียแล้วน่ะ
แม่เคยอยากเป็นฮีโร่
ซาจิตะจำได้ แม่ของเธอเคยอยากเป็นฮีโร่
และอีกฝ่ายก็ไปไม่ถึงความฝัน แต่ถึงแบบนั้นหล่อนก็ยังเป็นฮีโร่จนวินาทีสุดท้ายของชีวิตของหล่อน นั่นคือการปกป้องซาจิเอาไว้ในตอนนั้น
ทำหน้าที่ดีแล้ว ดีที่สุดเลย
ทำดีที่สุดจริงๆ
"ถ้าอยากช่วยคนอื่น…"
เธอพึมพำ
"เป็นหมออาจช่วยคนได้เยอะก็ได้นะ"
ซาจิตะคิด - การเป็นหมออาจดีกว่าอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องไปเสี่ยงอันตราย หรือ ทำให้ใครเป็นห่วง
เพราะทุกครั้งเวลาที่พ่อบุญธรรมกลับมา เวลาที่เธอต้องซักเสื้อที่เปื้อนเลือดของเขา
ซาจิเป็นห่วงจริงๆนะ
และก็กลัวมากๆด้วย ขี้ขลาดชะมัด
ถึงเวลาต้องคิดเรื่องในอนาคตอย่างจริงจังแล้ว
ขนาดท็อปฮีโร่ยังพูดแบบนั้น
มิโดริยะยกแขนขึ้นปาดน้ำตาของตัวเองออก - เขาบอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้ เขารู้ดี รู้ดีอยู่แล้วนี่ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เพราะรู้ดี
เพราะรู้เขาถึงพยายาม พยายามมาตลอด
ก่อนที่เขาจะค้างยามเห็นวิลเลินโคลนตัวเหลวที่จำได้ว่าออลไมท์จับได้แล้วกำลังทำร้ายคนอยู่ - ใช่ และความรู้สึกผิดก็ประดังประเดเข้ามาใส่เด็กหนุ่ม เพราะเขาใช่ไหม เพราะเขาทำให้วิลเลินโคลนหลุดออกมา
ใบหน้าที่ทุกข์ทรมานของเหยื่อปรากฎให้เห็น
ใบหน้าของคนที่คุ้นเคย
ใบหน้าของเพื่อนสมัยเด็ก
คัตจัง
รู้อีกทีขาสองข้างก็วิ่งออกไปเสียแล้ว
วิ่งออกไป
วิ่งทั้งๆที่กลัว
แต่ทั้งๆที่กลัว
คุณเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เลยค่ะ
คำพูดนั้นก็ยังซ้ำอยู่ในหัวของเขา
"อะไรกันล่ะนั่น…?"
ภาพที่ปรากฎบนจอโทรทัศน์เรียกความสนใจของเด็กสาวผมสั้นหยักศกให้หันไปมอง ข่าวที่นำเสนอเรื่องตรงหน้าเป็นการถ่ายทอดสดสถานการณ์ที่วิลเลินโคลนกำลังทำร้ายตัวประกันที่มีอัตลักษณ์ระเบิด และ มีเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับซาจิตะและตัวประกันฝ่าวงวิ่งเข้าไป
และใช่
เธอจำได้
จำคนที่วิ่งเข้าไปคนนั้นได้
เด็กหนุ่มไร้อัตลักษณ์ที่ถามว่าเขาจะเป็นฮีโร่ได้ไหม
ให้ตายสิ
เป็นคนที่ฝันไกลไม่น้อยเลย และเดินมาไกลมากๆเลยนะ
ความกล้าในฐานะของฮีโร่
ความกล้าแบบที่เธอไม่มี
แต่ว่า…
ในเวลานั้น - เธอกลับตัดสินใจได้ เมื่อเห็นเขากำลังสู้อยู่
เธอเดินตรงไปเคาะประตูห้องของพ่อบุญธรรม
เธอยังไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะทำอะไร
แต่เขาเองก็บอกไม่ใช่เหรอว่าไม่ลองก็ไม่รู้
เธอเองก็อยากจะลองดู - ขนาดเด็กผู้ชายคนนั้นยังสู้เลย
เธอก็อยากสู้เหมือนกัน
ประตูถูกเปิดออกด้วยเจ้าของห้อง
ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปากถามลูกสาวผมเทา คนเป็นลูกสาวก็ตอบสวนออกไป
"ฮีโร่ค่ะ"
การเป็นฮีโร่มันน่ากลัว
แต่ลึกๆแล้ว ซาจิตะเอง
- ก็อยากชนะความกลัวเหมือนกัน
"หนูจะเป็นฮีโร่"
เธอเคยบอกแม่ว่าเธอไม่อยากเป็นฮีโร่
เพราะมันอันตราย
เพราะเธอกลัว และ เธอขี้ขลาดเกินไปที่จะเป็น
แต่เอาเข้าจริง - เธอก็อยากเป็นฮีโร่
ตอนนั้นแม่ของเธอก็เป็นฮีโร่ของเธอ เพื่อเธอ
หรือแม้แต่คุณฮีโร่ที่ไม่เท่คนนั้นก็ยังพยายาม
"หนูก็...อยากเป็นฮีโร่เพื่อใครสักคนเหมือนกัน"
ดวงตาสีนิลมองซาจิตะที่กำลังมุ่งมั่น เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอดูมุ่งมั่นขนาดนี้ ความคิดและความเชื่อมั่นที่จะเดินหน้าต่อไป วินาทีแรกทำให้เขานึกถึงแววตาสีฟ้าอ่อนสดใสที่มักสร้างพลังให้คนรอบข้างเสมอจากรุ่นพี่สาวคนนั้น
แววตาที่เหมือนชิโอริ ซาโตมิ
ผู้หญิงที่สร้างแรงบันดาลใจให้เขาได้มายืนอยู่ตรงนี้
"ได้สิ เธอต้องเป็นฮีโร่ที่ดีเหมือนแม่ของเธอได้แน่ๆ"
มันไม่เกี่ยวหรอกว่ารุ่นพี่จะจบหลักสูตรฮีโร่หรือไม่
แต่สำหรับเขาฮีโร่ใต้ดิน อีเรเซอร์เฮด - ชิโอริ ซาโตมิ คือฮีโร่ และ ซาจิตะก็คงคิดเหมือนเขา
"ลูกเป็นฮีโร่ได้ ซาจิ"
"เดกุ!!"
ทุกอย่างจบลงด้วยดี และ มิโดริยะกำลังกลับบ้าน
แต่เขาหันตามเสียงเรียกของเพื่อนสมัยเด็กที่กำลังยืนกำหมัดตัวสั่น
"ฉันน่ะ! ไม่ได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากแกสักหน่อย! แล้วก็ไม่ได้ถูกแกช่วยเอาไว้ด้วย! ฉันเอาตัวรอดคนเดียวได้หรอก! ไอ้ห่วยไร้อัตลักษณ์ ไม่ต้องมาทำเป็นเก่งกว่าเลยนะ! คิดจะสร้างบุญคุณต่อกันเหรอ อย่ามาดูถูกกันซะให้ยาก!!"
คำพูดยาวเหยียดปิดท้ายด้วยสรรพนามที่คุ้นเคย "ไอ้เนิร์ดเวรเอ้ย!!"
พร้อมการหันหลังเดินหนีไป
อิซึคุระบายยิ้มบางออกจากริมฝีปากของตัวเอง
คุณคงเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เลยค่ะ
ขอโทษนะครับ
ที่ตอนนี้คงเป็นไม่ได้แม้กระทั่งฮีโร่แล้วน่ะ - เขาคิดว่าเขาจะตัดใจแล้วหลังจากได้พบเจอเหตุการณ์ต่างๆในวันนี้
มันควรจะหยุดได้แล้ว
"ฉันมาแล้ว!!"
"หวา!"
อิซึคุชะงักปลายเท้าหลังฮีโร่อันดับหนึ่งโผล่มาตรงหน้า "ออลไมท์ไหงมาอยู่ที่นี่ได้!?"
"เรื่องปลีกตัวออกมาน่ะ เป็นงานถนัดของฉันเลยล่ะ แค่กๆ!"เสียงไอกระอักเลือดดังขึ้นพร้อมกับการคืนสู่ร่างเดิมของท็อปฮีโร่
ทุกอย่างตกในความเงียบ
"หนุ่มน้อยที่ฉันมาเพราะฉันอยากจะขอถอนคำพูด และ ก็ยื่นข้อเสนอให้กับเธอ"อันดับหนึ่งพูดอย่างจริงใจ "ถ้าไม่มีเธอ ไม่ได้ฟังเรื่องราวของเธอ ฉันก็เป็นได้แค่ไอ้กล้ามจอมปลอมที่ดีแต่ปากไปแล้ว"
"กล้ามจอมปลอม..? ไม่จริงหรอกครับที่จริงมันก็เป็นเพราะผมที่เข้าไปเกะกะด้วย ทั้งที่ไร้อัตลักษณ์แท้ๆ"
อิซึคุยอมรับความจริง
"ใช่แล้ว!!"เขาส่งเสียงดังออกมา และ คำพูดถัดไปก็ทำให้อิซึคุจดจ้องอีกฝ่ายด้วยตาสีมรกตของตัวเองอย่างไม่อาจละสายตาจากคนพูดได้ "ไม่ใช่ใครอื่นเลยในสถานที่นั้น แต่เพราะเป็นเธอ เป็นเธอที่ขี้ขลาดและไร้อัตลักษณ์!"
ร่างกายของอิซึคุเริ่มสั่น "เพราะเธอฉันถึงกล้าลงมือได้"
สั่นจนเหมือนจะล้มลงกับพื้น
"ท็อปฮีโร่ต่างก็มีเรื่องเด่นต่างๆในสมัยเรียน"เสียงของออลไมท์ชวนให้อิซึคุรู้สึกสบายใจ
"ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาจะถูกเชื่อมโยงกันด้วยคำว่าร่างกายขยับไปก่อนความคิดเสมอ"
อิซึคุล้มลง เข่าของเขากระทบกับพื้น มือจับที่หน้าอกและร้องไห้ออกมา นึกถึงเรื่องเก่าๆในอดีตที่เคยประสบมาตลอดตั้งแต่จำความได้ และ คำที่ติดในหัวมาตลอด
วันนั้น
ที่แม่ขอโทษเขา
"เธอเองก็เหมือนกันใช่ไหม?"
ที่ขาวิ่งออกไปก่อนความคิด
"อื้อ!"
เขาร้องไห้
เขารู้ดีว่าคำที่เขาต้องการมาตลอดคืออะไร
แม่ครับ...ผมน่ะ ไม่ได้ต้องการคำว่าขอโทษเลยสักครั้ง
สิ่งที่ผมอยากได้ยินมาตลอดทั้งชีวิตของผม
คำที่ว่า
"เธอเป็นได้ ฮีโร่น่ะ"
คุณเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เลยค่ะ
กว่าผมจะรู้ตัวถ้อยคำเหล่านั้นก็กลายเป็นแสงสว่าง เป็นคำที่ทำให้ความรู้ากภายในอกอุ่นขึ้นมาในทุกคราที่นึกถึง
เป็นความจริงที่ทำให้ใจของเขา - อบอุ่นทุกครา
เป็นความฝันที่กลายเป็นความจริง
ผมเป็นฮีโร่ได้
นี่คือเรื่องราวก่อนที่ผมจะกลายเป็นสุดยอดฮีโร่
เรื่องราวของผม - และเธอ.
|||||
Talk with มาวว ♡
มาแล้วค่ะๆๆ หลังจากหายไปส่งport เข้ามหาลัยนานเป็นเดือน อุแง ในที่สุด ในที่สุดก็ปิดจ๊อบสักที มีที่เรียน ได้มาต่อที่ค้างไว้แล้ว
//ชกใจตัวเอง
สำหรับฟิคเรื่องนี้ หากใครยังตามอ่าน ติดตามกันอยู่
มาวขอขอบคุณจริงๆนะคะ สำหรับการติดตามและกำลังใจที่ให้
อาจดำเนินเรื่องช้ามากๆถ้าเทียบกับเวอร์เก่า
แต่มาวก็พยายามเต็มที่ในทุกตอนที่เขียนเสมอค่ะ หวังว่าทุกคนจะชอบและรู้สึกสนุกกับฟิคเล็กๆเรื่องนี้
ช่วยเป็นกำลังใจให้เค้าหน่อยนะคะ
เค้ารักทุกคนค่ะ ❤
ความคิดเห็น