ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic Boku No Hero Academia / BNHA || Only U [ Midoriya x OC ]

    ลำดับตอนที่ #7 : ARC 0 :: 5. [ You can become a hero ]

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 64


     


     

    o n l y  u | fanfic bnha

    midoriya izuku x shiori sachita (oc)

    อัพตอนสมบูรณ์ ; 7 March 2021

    แก้ไขย่อหน้า ; 8 June 2021


     

    ARC 0 :: 5. [ You can become a hero ]

    warning - chasing suicide








     

    "จะว่าไป มิโดริยะเองก็เลือกที่ยูเอย์เหมือนกันนี่นะ"


    เสียงของคัตจังที่ตอนแรกกำลังส่งเสียงดังมีความสุขหยุดลงจนทำให้ทั้งห้องเงียบลงในชั่วขณะหนึ่ง หากแต่มีสิ่งเดียวที่ไม่ได้หยุดลงตามเสียงของทั้งห้อง

    มันก็คือร่างกายที่สั่นของอิซึคุ คือเสียงหัวใจของเขาที่หวาดกลัวจนต้องฟุ่บหน้าหนีกับโต๊ะ - ไม่นานเสียงของคนทั้งห้องก็หัวเราะกับความฝันที่เขาฝันเอาไว้


    "หา !? มิโดริยะเนี่ยนะครับ!"


    "ไม่ไหวมั้ง!!"


    "แค่เรียนเก่งอย่างเดียว เป็นฮีโร่ไม่ได้หรอกนะ!"


    คำที่ทุกคนพูด - เขารู้

    เขารู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะคิดว่าเขาฝันลมๆแล้งๆ

    แต่เขาก็ยังยันตัวลุกขึ้น ริมฝีปากขยับพูดโต้ตอบคนพวกนั้น


    "กฎแบบนั้น มันไม่มีแล้วนะ! - แค่ยังไม่มีใครทำมาก่---"


    เสียงของเขาหยุดลงมันถูกแทรกด้วยเสียงระเบิดจากอัตลักษณ์ของบาคุโก คัตสึกิที่ใช้มันใส่โต๊ะเรียน แรงทำให้อิซึคุกระเด็นจนไปติดกับผนังของหลังห้องเรียน คัตจังมองเขา ใบหน้ามีความดูถูกตัวของเขาไม่น้อย


    "ไม่ใช่แค่อัตลักษณ์ไม่มีอะไร แต่ตัวแกไม่มีอะไรด้วยซ้ำ"


    เขารู้สึกกลัว


    "คิดจะมายืนบนแท่นเดียวกับฉันเพื่ออะไรวะ"


    ไม่นะ

    ไม่ใช่เลย


    "เดี๋ยว เปล่านะ ไม่ใช่สิ คัตจัง"


    เขาไม่ได้คิดจะแข่งอะไรกับคัตจังเลย - เขาก็แค่ทำตามที่เขาอยากจะทำ อยากจะไล่ตามความฝันของตัวเอง


    "มันก็แค่เป็นความฝันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว...ที่สำคัญถ้าไม่ลองก็ไม่รู้นี่นา"


    ขนาดเธอคนนั้น คนที่รู้ว่าเขาไร้อัตลักษณ์ - เธอคนนั้นก็ยังบอกว่าเขาเป็นฮีโร่ได้

    เขาเองก็เป็นฮีโร่ได้ เป็นได้สิ


    "ไม่ลองก็ไม่รู้อะไรของแก!"คนผมสีฟางยังคงเอ่ย "คิดจะไปสอบเป็นที่ระลึกรึไง คนอย่างแกจะไปทำอะไรได้!?"


    คนอย่างเขา…

    ทำอะไรไม่ได้เลยงั้นเหรอ

    ไม่ได้เลยสักนิดเหรอ?








    สองปีแล้ว

    ซาจิตะคิดขึ้นมายามมองอุปกรณ์สื่อสารในมือของตัวเองที่มีรอยแตกจากการชนกับเด็กหนุ่มผมสีเย็นตาเมื่อราวๆสองปีที่แล้ว

    อยู่ดีๆหล่อนก็คิดขึ้นมาว่าเขาจะเป็นยังไง จะยังคงเชื่อในความฝันนั้นอยู่อีกไหม

    ซาจิตะอิจฉาอีกฝ่ายที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ขณะที่เธอยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะเดินในเส้นทางไหนในชีวิตม.ปลาย - จะอยู่แบบนี้ จะเป็นฮีโร่ หรือจะทำอะไรในอนาคต เธอหาตัวของตัวเองไม่พบเลยแม้แต่นิดเดียว


    "อยากทำอะไรในอนาคต"


    ซาจิฟังพ่อเลี้ยงแนะแนว เขาถามคำถามนี้บ่อยขึ้นในช่วงนี้


    "ไม่อยากทำอะไรเลยได้ไหมคะ"


    "มันจะได้ยังไงเล่า"


    อีเรเซอร์เฮดถอนหายใจกับการแนะแนวให้ "อยากทำอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?"


    เด็กสาวส่ายหน้า นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่สามารถตอบคำถามของคนเป็นพ่อได้ ฮีโร่วัยสามสิบถอนหายใจอีกครั้ง "ยังไงก็ไม่ต้องรีบคิดนะ...ทำอะไรที่อยากทำก็ได้"


    เธอไม่ได้อยากทำอะไรเลย

    ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรแน่ชัดเลย

    ตั้งแต่วันเกิดอายุสี่ขวบ

    ความฝันก็เลือนลาง และ แตกสลาย


    "หนูไม่รู้ด้วยซ้ำเลยค่ะ ว่า ตัวของหนูพอจะทำอะไรได้บ้าง"


    "ซาจิ"


    "ขอโทษนะคะ - แต่หนูก็คิดแบบนั้นมาตลอดเลยนะ"


    ตลกชะมัด

    ตลกที่เมื่อปีสองปีที่แล้วหล่อนให้กำลังใจว่าคนไร้อัตลักษณ์เป็นฮีโร่ได้ - แต่เธอกลับบอกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ความฝันเธอก็ยังคิดว่าเธอพอจะฝันอะไรได้


    "สนใจมาเป็นฮีโร่ไหม?"


    "คนอย่างหนูช่วยใครไม่ได้หรอกนะคะ"


    "ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก"


    ซาจิตะถอนหายใจ - เด็กสาววัยรุ่นเลือกที่จะหันไปสนใจเค้กในจานข้างๆเอกสารแนะแนวอาชีพที่พ่อบุญธรรมเตรียมไว้ให้ รสชาติหวานของเค้กวนิลาแทรกเข้ามาในริมฝีปาก

    ไม่ลองก็ไม่รู้

    แต่ว่าก็ว่าเถอะความคิดที่จะสนใจในการเป็นฮีโร่ของหล่อน - หล่อนไม่ได้สนใจนี่

    เป็นอาชีพที่ไม่ปลอดภัย เวลาอยู่กับครอบครัวก็น้อย









    "วิเคราะห์ฮีโร่ เพื่ออนาคต? หูย เอาจริงดิ มิโดริยะเอ๊ย!"


    เขาฟังคำพูดวิจารณ์ออกด้วยใจที่เต้นรัวเพราะความรู้สึกหวาดกลัวในอกของตัวเอง มือไม้ขยับโบก "ไม่เป็นเป็นไรเลยนี่ เอาคืนมานะ!!"


    หลังคำพูดของเขาจบลง

    สมุดบันทึกที่ใช้เวลาทั้งชีวิตในการเขียนเล่มนั้น ก็ถูกระเบิดด้วยฝีมือของเพื่อนสมัยเด็กอย่างคัตจัง ตาสีมรกตของอิซึคุเบิกกว้าง "เกินไปแล้วนะ"


    เกินไปแล้ว

    เกินไปแล้วจริงๆนะ - คัตจัง


    "ท็อปฮีโร่ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีเรื่องเจ๋งๆในสมัยเรียน เพราะงั้นฉันถึงอยากได้คำว่าเป็นผู้สอบเข้ายูเอย์คนแรกและคนเดียวจากโรงเรียนประจำเมืองที่แสนธรรมดานี่"และมือของบาคุโกก็จับลงที่ไหล่ของเพื่อนร่วมห้อง ตาสีโกเมนมองมา "เพราะฉะนั้นช่วยอย่าไปสอบที่ยูเอย์ด้วยล่ะ พ่อเด็กเนิร์ด"


    อิซึคุกัดฟันไม่รู้จะพูดอะไร ร่างของคัตจังและเพื่อนอีกสองคนเดินผ่านเขาไปแล้ว

    สมุดของเขาถูกโยนลงไปจากหน้าต่าง


    "แต่ถ้าอยากเป็นฮีโร่ขนาดนั้นล่ะก็ก็อธิษฐานขอให้ชาติหน้ามีอัตลักษณ์และดิ่งลงมาจากดาดฟ้าสิ"


    เขาโกรธจนหันไปหา หากแต่ความโกรธก็แทนที่ด้วยความกลัวในอีกฝ่ายมากกว่า


    เขาทำอะไรไม่ได้เลย

    เขาทำอะไรไม่ได้


    หยิบสมุดที่เปียกชื้นขึ้นมาจากบ่อน้ำที่เลี้ยงปลา ความรู้สึกในตอนนี้มีการต่อว่าเพื่อนสมัยเด็กในใจ และ นึกถึงคำพูดของเธอที่บอกให้กำลังใจที่เขาใช้เป็นกำลังใจในยามท้อ

    คุณเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เลยค่ะ

    ไม่ต้องเท่ก็ได้

    ไม่ต้องเท่ - แต่เขา เขาจะได้เป็นฮีโร่ใช่ไหม?


    เขาคิดและเดินทางกลับบ้านแบบทุกวัน ระหว่างจะกลับบ้าน

    วิลเลินโผล่มาจากข้างหลัง ร่างกายเป็นของเหลวกำลังรัดมิโดริยะ จนเด็กหนุ่มผมสีเย็นตาหายใจไม่ออก ตัวของเขาไม่มีแรง

    และสิ่งสุดท้ายที่เขารับรู้

    ออลไมท์มาแล้ว


    เขาตามตื้ออีกฝ่ายเกาะอีกฝ่ายไปหลังจากที่ได้สติหลังถูกวิลเลินทำร้าย ออลไมท์สามารถจัดการวิลเลินร้ายกาจได้ในเวลาไม่นานสมกับตำแหน่งฮีโร่อันดับหนึ่งที่เจ้าตัวครองเอาไว้

    อิซึคุและออลไมท์มาถึงสถานีตำรวจ ออลไมท์จอดลงที่ด้านบนของอาคาร ออลไมท์ตำหนิเขา กำลังทำท่าจะไปจากตรงนี้ และทำให้เด็กหนุ่มรีบถามออกไป


    "เดี๋ยวครับ เดี๋ยวก่อน! ถึงไม่มีอัตลักษณ์ก็จะเป็นฮีโร่ได้รึเปล่าครับ!! จะเป็นเหมือนอย่างคุณได้รึเปล่าครับ!"


    เขาอยากเป็น

    เป็นฮีโร่


    "ช่วยเหลือผู้คนด้วยรอยยิ้ม ผมก็อยากเป็นสุดยอดฮีโร่แบบคุณ"


    เขาพูดจบประโยคและส่งเสียงร้องตกใจกับสภาพของออลไมท์ที่เห็น ร่างกายที่เล็กลงรูปลักษณ์ผิดกับร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ตอนนี้ร่างตรงหน้าของอิซึคุมีแต่ชายหลังงอดูผอมแห้ง

    คนตรงหน้าคือออลไมท์


    "รอยยิ้มที่ไม่รู้จักคำว่ากลัวงั้นเหรอ?"ออลไมท์นั่งลงและทวนคำถามของคนเด็กกว่า "ไหนๆก็โดนเห็นร่างจริงแล้ว แต่ว่านะหนุ่มน้อย อย่าได้เอาไปบอกในเน็ตล่ะ"


    มือของฮีโร่อันดับหนึ่งเลิกชายเสื้อยืดสีขาวขึ้น ภาพโชว์ให้เห็นร่างกายของออลไมท์ที่บาดเจ็บ "ฉันได้แผลนี้มาตอนห้าปีที่แล้ว ระบบทางเดินหายใจหายไปครึ่งหนึ่ง ระบบอาหารก็ต้องผ่าตัดใหม่หมด พอต้องผ่าตัดตอดต่อกันร่างกายของฉันก็ผอมกะหร่อง และ เวลาทำงานหนึ่งวันก็มีเพียงสามชั่วโมง"


    อีกฝ่ายยังคงพูดต่อ "นี่เป็นเรื่องที่ฉันขอไม่ให้ประกาศออกไป เพราะรอยยิ้มแห่งสันติภาพต้องคอยช่วยเหลือทุกคนด้วยรอยยิ้มจะแพ้ให้กับความชั่วร้ายไม่ได้ไม่ได้เด็ดขาด ที่ฉันหัวเราะก็เพื่อกลบเกลื่อน มือโปรน่ะถึงเมื่อไรก็ต้องเต็มที่เสมอ"


    คุณเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เลย


    "เพราะแบบนั้น ถึงไม่มีอัตลักษณ์ก็เป็นฮีโร่ได้ คำพวกนั้นคงเป็นไปไม่ได้หรอกนะ"


    อิซึคุชาไปหมด ตัวของเขานิ่งค้างขยับไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูก

    มันถึงเวลาแล้วหรือ - ถึงจุดที่เขาต้องยอมแพ้เสียแล้วน่ะ








    แม่เคยอยากเป็นฮีโร่

    ซาจิตะจำได้ แม่ของเธอเคยอยากเป็นฮีโร่

    และอีกฝ่ายก็ไปไม่ถึงความฝัน แต่ถึงแบบนั้นหล่อนก็ยังเป็นฮีโร่จนวินาทีสุดท้ายของชีวิตของหล่อน นั่นคือการปกป้องซาจิเอาไว้ในตอนนั้น

    ทำหน้าที่ดีแล้ว ดีที่สุดเลย

    ทำดีที่สุดจริงๆ


    "ถ้าอยากช่วยคนอื่น…"


    เธอพึมพำ


    "เป็นหมออาจช่วยคนได้เยอะก็ได้นะ"


    ซาจิตะคิด - การเป็นหมออาจดีกว่าอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องไปเสี่ยงอันตราย หรือ ทำให้ใครเป็นห่วง

    เพราะทุกครั้งเวลาที่พ่อบุญธรรมกลับมา เวลาที่เธอต้องซักเสื้อที่เปื้อนเลือดของเขา

    ซาจิเป็นห่วงจริงๆนะ

    และก็กลัวมากๆด้วย ขี้ขลาดชะมัด








    ถึงเวลาต้องคิดเรื่องในอนาคตอย่างจริงจังแล้ว

    ขนาดท็อปฮีโร่ยังพูดแบบนั้น

    มิโดริยะยกแขนขึ้นปาดน้ำตาของตัวเองออก - เขาบอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้ เขารู้ดี รู้ดีอยู่แล้วนี่ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เพราะรู้ดี

    เพราะรู้เขาถึงพยายาม พยายามมาตลอด


    ก่อนที่เขาจะค้างยามเห็นวิลเลินโคลนตัวเหลวที่จำได้ว่าออลไมท์จับได้แล้วกำลังทำร้ายคนอยู่ - ใช่ และความรู้สึกผิดก็ประดังประเดเข้ามาใส่เด็กหนุ่ม เพราะเขาใช่ไหม เพราะเขาทำให้วิลเลินโคลนหลุดออกมา

    ใบหน้าที่ทุกข์ทรมานของเหยื่อปรากฎให้เห็น

    ใบหน้าของคนที่คุ้นเคย

    ใบหน้าของเพื่อนสมัยเด็ก

    คัตจัง

    รู้อีกทีขาสองข้างก็วิ่งออกไปเสียแล้ว

    วิ่งออกไป

    วิ่งทั้งๆที่กลัว

    แต่ทั้งๆที่กลัว


    คุณเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เลยค่ะ


    คำพูดนั้นก็ยังซ้ำอยู่ในหัวของเขา









    "อะไรกันล่ะนั่น…?"


    ภาพที่ปรากฎบนจอโทรทัศน์เรียกความสนใจของเด็กสาวผมสั้นหยักศกให้หันไปมอง ข่าวที่นำเสนอเรื่องตรงหน้าเป็นการถ่ายทอดสดสถานการณ์ที่วิลเลินโคลนกำลังทำร้ายตัวประกันที่มีอัตลักษณ์ระเบิด และ มีเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับซาจิตะและตัวประกันฝ่าวงวิ่งเข้าไป

    และใช่

    เธอจำได้

    จำคนที่วิ่งเข้าไปคนนั้นได้

    เด็กหนุ่มไร้อัตลักษณ์ที่ถามว่าเขาจะเป็นฮีโร่ได้ไหม

    ให้ตายสิ

    เป็นคนที่ฝันไกลไม่น้อยเลย และเดินมาไกลมากๆเลยนะ

    ความกล้าในฐานะของฮีโร่

    ความกล้าแบบที่เธอไม่มี

    แต่ว่า…


    ในเวลานั้น - เธอกลับตัดสินใจได้ เมื่อเห็นเขากำลังสู้อยู่


    เธอเดินตรงไปเคาะประตูห้องของพ่อบุญธรรม

    เธอยังไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะทำอะไร

    แต่เขาเองก็บอกไม่ใช่เหรอว่าไม่ลองก็ไม่รู้


    เธอเองก็อยากจะลองดู - ขนาดเด็กผู้ชายคนนั้นยังสู้เลย

    เธอก็อยากสู้เหมือนกัน


    ประตูถูกเปิดออกด้วยเจ้าของห้อง

    ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปากถามลูกสาวผมเทา คนเป็นลูกสาวก็ตอบสวนออกไป


    "ฮีโร่ค่ะ"


    การเป็นฮีโร่มันน่ากลัว

    แต่ลึกๆแล้ว ซาจิตะเอง 

    - ก็อยากชนะความกลัวเหมือนกัน


    "หนูจะเป็นฮีโร่"


    เธอเคยบอกแม่ว่าเธอไม่อยากเป็นฮีโร่

    เพราะมันอันตราย

    เพราะเธอกลัว และ เธอขี้ขลาดเกินไปที่จะเป็น

    แต่เอาเข้าจริง - เธอก็อยากเป็นฮีโร่


    ตอนนั้นแม่ของเธอก็เป็นฮีโร่ของเธอ เพื่อเธอ

    หรือแม้แต่คุณฮีโร่ที่ไม่เท่คนนั้นก็ยังพยายาม


    "หนูก็...อยากเป็นฮีโร่เพื่อใครสักคนเหมือนกัน"


    ดวงตาสีนิลมองซาจิตะที่กำลังมุ่งมั่น เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอดูมุ่งมั่นขนาดนี้ ความคิดและความเชื่อมั่นที่จะเดินหน้าต่อไป วินาทีแรกทำให้เขานึกถึงแววตาสีฟ้าอ่อนสดใสที่มักสร้างพลังให้คนรอบข้างเสมอจากรุ่นพี่สาวคนนั้น

    แววตาที่เหมือนชิโอริ ซาโตมิ

    ผู้หญิงที่สร้างแรงบันดาลใจให้เขาได้มายืนอยู่ตรงนี้


    "ได้สิ เธอต้องเป็นฮีโร่ที่ดีเหมือนแม่ของเธอได้แน่ๆ"


    มันไม่เกี่ยวหรอกว่ารุ่นพี่จะจบหลักสูตรฮีโร่หรือไม่

    แต่สำหรับเขาฮีโร่ใต้ดิน อีเรเซอร์เฮด - ชิโอริ ซาโตมิ คือฮีโร่ และ ซาจิตะก็คงคิดเหมือนเขา


    "ลูกเป็นฮีโร่ได้ ซาจิ"









    "เดกุ!!"


    ทุกอย่างจบลงด้วยดี และ มิโดริยะกำลังกลับบ้าน

    แต่เขาหันตามเสียงเรียกของเพื่อนสมัยเด็กที่กำลังยืนกำหมัดตัวสั่น 


    "ฉันน่ะ! ไม่ได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากแกสักหน่อย! แล้วก็ไม่ได้ถูกแกช่วยเอาไว้ด้วย! ฉันเอาตัวรอดคนเดียวได้หรอก! ไอ้ห่วยไร้อัตลักษณ์ ไม่ต้องมาทำเป็นเก่งกว่าเลยนะ! คิดจะสร้างบุญคุณต่อกันเหรอ อย่ามาดูถูกกันซะให้ยาก!!"


    คำพูดยาวเหยียดปิดท้ายด้วยสรรพนามที่คุ้นเคย "ไอ้เนิร์ดเวรเอ้ย!!"


    พร้อมการหันหลังเดินหนีไป

    อิซึคุระบายยิ้มบางออกจากริมฝีปากของตัวเอง


    คุณคงเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เลยค่ะ


    ขอโทษนะครับ

    ที่ตอนนี้คงเป็นไม่ได้แม้กระทั่งฮีโร่แล้วน่ะ - เขาคิดว่าเขาจะตัดใจแล้วหลังจากได้พบเจอเหตุการณ์ต่างๆในวันนี้

    มันควรจะหยุดได้แล้ว


    "ฉันมาแล้ว!!"


    "หวา!"


    อิซึคุชะงักปลายเท้าหลังฮีโร่อันดับหนึ่งโผล่มาตรงหน้า "ออลไมท์ไหงมาอยู่ที่นี่ได้!?"


    "เรื่องปลีกตัวออกมาน่ะ เป็นงานถนัดของฉันเลยล่ะ แค่กๆ!"เสียงไอกระอักเลือดดังขึ้นพร้อมกับการคืนสู่ร่างเดิมของท็อปฮีโร่


    ทุกอย่างตกในความเงียบ


    "หนุ่มน้อยที่ฉันมาเพราะฉันอยากจะขอถอนคำพูด และ ก็ยื่นข้อเสนอให้กับเธอ"อันดับหนึ่งพูดอย่างจริงใจ "ถ้าไม่มีเธอ ไม่ได้ฟังเรื่องราวของเธอ ฉันก็เป็นได้แค่ไอ้กล้ามจอมปลอมที่ดีแต่ปากไปแล้ว"


    "กล้ามจอมปลอม..? ไม่จริงหรอกครับที่จริงมันก็เป็นเพราะผมที่เข้าไปเกะกะด้วย ทั้งที่ไร้อัตลักษณ์แท้ๆ"


    อิซึคุยอมรับความจริง


    "ใช่แล้ว!!"เขาส่งเสียงดังออกมา และ คำพูดถัดไปก็ทำให้อิซึคุจดจ้องอีกฝ่ายด้วยตาสีมรกตของตัวเองอย่างไม่อาจละสายตาจากคนพูดได้ "ไม่ใช่ใครอื่นเลยในสถานที่นั้น แต่เพราะเป็นเธอ เป็นเธอที่ขี้ขลาดและไร้อัตลักษณ์!"


    ร่างกายของอิซึคุเริ่มสั่น "เพราะเธอฉันถึงกล้าลงมือได้"


    สั่นจนเหมือนจะล้มลงกับพื้น


    "ท็อปฮีโร่ต่างก็มีเรื่องเด่นต่างๆในสมัยเรียน"เสียงของออลไมท์ชวนให้อิซึคุรู้สึกสบายใจ


    "ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาจะถูกเชื่อมโยงกันด้วยคำว่าร่างกายขยับไปก่อนความคิดเสมอ"


    อิซึคุล้มลง เข่าของเขากระทบกับพื้น มือจับที่หน้าอกและร้องไห้ออกมา นึกถึงเรื่องเก่าๆในอดีตที่เคยประสบมาตลอดตั้งแต่จำความได้ และ คำที่ติดในหัวมาตลอด

    วันนั้น

    ที่แม่ขอโทษเขา


    "เธอเองก็เหมือนกันใช่ไหม?"


    ที่ขาวิ่งออกไปก่อนความคิด


    "อื้อ!"


    เขาร้องไห้

    เขารู้ดีว่าคำที่เขาต้องการมาตลอดคืออะไร

    แม่ครับ...ผมน่ะ ไม่ได้ต้องการคำว่าขอโทษเลยสักครั้ง

    สิ่งที่ผมอยากได้ยินมาตลอดทั้งชีวิตของผม


    คำที่ว่า


    "เธอเป็นได้ ฮีโร่น่ะ"


    คุณเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เลยค่ะ


    กว่าผมจะรู้ตัวถ้อยคำเหล่านั้นก็กลายเป็นแสงสว่าง เป็นคำที่ทำให้ความรู้ากภายในอกอุ่นขึ้นมาในทุกคราที่นึกถึง

    เป็นความจริงที่ทำให้ใจของเขา - อบอุ่นทุกครา

    เป็นความฝันที่กลายเป็นความจริง


    ผมเป็นฮีโร่ได้







    นี่คือเรื่องราวก่อนที่ผมจะกลายเป็นสุดยอดฮีโร่

    เรื่องราวของผม - และเธอ.







     


     

     






     

    |||||


     

    Talk with มาวว ♡

    มาแล้วค่ะๆๆ หลังจากหายไปส่งport เข้ามหาลัยนานเป็นเดือน อุแง ในที่สุด ในที่สุดก็ปิดจ๊อบสักที มีที่เรียน ได้มาต่อที่ค้างไว้แล้ว

    //ชกใจตัวเอง

    สำหรับฟิคเรื่องนี้ หากใครยังตามอ่าน ติดตามกันอยู่

    มาวขอขอบคุณจริงๆนะคะ สำหรับการติดตามและกำลังใจที่ให้

    อาจดำเนินเรื่องช้ามากๆถ้าเทียบกับเวอร์เก่า

    แต่มาวก็พยายามเต็มที่ในทุกตอนที่เขียนเสมอค่ะ หวังว่าทุกคนจะชอบและรู้สึกสนุกกับฟิคเล็กๆเรื่องนี้

    ช่วยเป็นกำลังใจให้เค้าหน่อยนะคะ

    เค้ารักทุกคนค่ะ ❤


     


     


     


     


     


     

    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×