ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic Boku No Hero Academia / BNHA || Only U [ Midoriya x OC ]

    ลำดับตอนที่ #6 : ARC 0 :: 4. [ I only see my goals, I don’t believe in failure ]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.72K
      168
      12 ก.ย. 64


     


     

     

    o n l y  u | fanfic bnha

    midoriya izuku x shiori sachita (oc)

    อัพตอนสมบูรณ์ ; 30 January 2021

    แก้ไขย่อหน้า ; 8 June 2021


     

    ARC 0 :: 4. [ I only see my goals, I don’t believe in failure ]




     

         "ข้อนั้นไม่ใช่แบบนั้น"


     

         เสียงเรียบของคนเป็นพ่อเลี้ยงควบกับตำแหน่งครูเอ่ยบอกหลังจากที่คืนกระดาษคำตอบของซาจิตะคืน เด็กสาววัยสิบสามปีรับแผ่นกระดาษมาจากมือของอีกคน ก่อนไล่สายตาอ่านดู คิ้วของเด็กสาวขมวดขึ้น ท่าทางนั้นทำให้ครูจำเป็นยอมอธิบาย "ข้อนั้นมันต้องเอาไปแทนค่ากับสมการของคำตอบจากข้อที่แล้ว"


     

         "แบบนี้นี่เอง…"


     

         ซาจิตะพูดออกไปเป็นเชิงเข้าใจในโจทย์ที่ทำผิดไป เธอก็ว่าอยู่ว่าตัวเลขเฉลยที่เขาให้มันมาจากไหน หลังจากได้แนวแล้ว เด็กสาววัยสิบสามก็ขยับตัวไปนั่งบนเก้าอี้ที่ตอนแรกพ่อเลี้ยงนั่งอยู่ เธอนั่งเมื่อเขาลุกออกไป เพราะมีสอนต่อ


     

         "อีเรเซอร์นี่จริงจังตลอดเลย อย่าไปซีเรียสเลยน้า! ชิโอริจัง!"


     

         "มีลูกสาวน่ารักๆแบบนี้ ยังจะใจร้ายอีก สอนดีๆก็ได้นี่เนอะ"


     

         เสียงที่สองดังต่อจากเสียงแรก สองคนอย่างฮีโร่พรีเซนท์ไมค์และฮีโร่มิดไนท์ต่างพูดจาหยอกแซวเอเรเซอร์เฮดที่มีสอนต่อ ซาจิตะกระพริบตามองปริบๆ ก่อนที่ฝ่ามือของฮีโร่สาวจะวางลงบนกลุ่มผมสีเทาที่ตัดสั้นระคนต้นคอของเธอ "สู้ๆนะ!"


     

         ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ซาจิตะถึงพยักหน้ากลับไป - สีหน้าของเธอไม่ได้ยิ้มแย้ม หากแต่เป็นสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่ทันจะได้เอ่ยปากรับคำขอบคุณจากมิดไนท์หรือคายามะ เนมูริ หญิงสาวผมสีดำขลับคนนั้นก็หันไปพูดกับเพื่อนร่วมงาน ร่วมอาชีพในทันที "ไมค์ดูสิ! ต้องเป็นเพราะเด็กคนนี้ถูกหมอนั่นเลี้ยงมาแน่ๆ หมอนั่นกำลังทำให้เธอหน้านิ่งตามเขาไปแล้วนะ!"


     

         "ไอ้หยา! แบบนี้ไม่ดีเลยนะ!"


     

         เขาสองคนพูดคุยหัวเราะกัน ขณะที่ซาจิตะหันมาสนใจโจทย์ที่ต้องทำ - ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปหลังจากที่ไอซาวะ โชตะ รับเธอมาเป็นลูกบุญธรรม มันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ

         ซาจิตะรู้ว่าเธอถูกดึงขึ้นมาจากขุมนรกเพราะเขา

         ตั้งแต่วันแรก เขาดูแลเธอ ให้ความรัก ให้ความอบอุ่นจนขั้วหัวใจของเธอมันอุ่นวาบขึ้นมา ผิดจากตอนอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วันกี่ปี ซาจิก็รู้สึกทั้งหนาวและเปล่าเปลี่ยว - ผิดกับตอนนี้ที่มีพ่อของเธอ มีเพื่อนร่วมงานของพ่อที่คอยพยุงเธอขึ้น คอยสอนคอยค่อยเป็นค่อยไปในทุกๆเรื่องเหมือนจะบอกว่ารอการเติบโตของเธอไปในทุกย่างก้าว

         ตอนอยู่สถานรับเลี้ยง ซาจิตะไม่เคยแตะต้องหนังสือเรียน เธอไม่ได้ถูกจับให้เรียนหนังสือ การกลับเข้าไปในสังคมของโรงเรียนอีกครั้ง มันอาจทำให้เธอกังวลได้ ตอนนี้ชิโอริ ซาจิตะ ในวัยสิบสามปีจึงใช้ชีวิตการเรียนนอกระบบอยู่ภายใต้การดูแลของพ่อบุญธรรม...ผู้ชายที่เป็นทั้งฮีโร่และครู


     

         "คาบต่อไปเธอมีสอนรึเปล่า?"


     

         "อ่า ใช่ นายล่ะ?"


     

         "เหมือนกัน"


     

         "เหมือนไอซาวะเองก็มีสอนคาบเช้ายาวๆเลยนะ"


     

         "เห็นหมอนั่นมีสอนเสริมอีกตอนเที่ยงด้วยนะ"


     

         เธอกระพริบตาช้าๆ เงยขึ้นมาฟังบทสนทนาของสองฮีโร่ชายหญิงที่กำลังจะไปสอน พวกเขาพูดและหันมาหาเธอ "อยู่ได้ไหมเอ่ย?"


     

         ซาจิตะพยักหน้ารับ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องอยู่คนเดียว ถ้าหากเที่ยงแล้วยังไม่มีใครมา เด็กหญิงวัยสิบสามก็ไปหาอะไรทานที่โรงอาหารเพียงคนเดียวได้ แต่ตอนนี้นัยน์ตาสีฟ้าให้ความสนใจกับตัวหนังสือที่เต็มไปด้วยตัวเลข พอทำข้อที่สงสัยได้ ข้ออื่นๆบนกระดาษกลับง่ายดายขึ้นมาในพริบตาจนทำเสร็จในเวลาก่อนเที่ยง ระหว่างที่ได้ทำ มีอาจารย์ในยูเอย์หลายคนเดินผ่านไปผ่านมาในห้องพักครูที่เธออยู่

         มือเอื้อมหยิบหนังสือวิชาอื่นๆมาอ่านต่อ อาจเพราะว่าไม่ได้เรียนในระบบทำให้ซาจิตะเองก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะเรียนได้ดีหรือทำได้ดี เด็กหญิงจึงพยายามอ่านเองเท่าที่ทำได้ อย่างน้อยก็เพื่อในอีกสองสามปีข้างหน้า - เธอก็จะกลายเป็นนักเรียนม.ปลายคนหนึ่งที่จะได้เลือกว่าอนาคตตัวเองอยากจะเป็นอะไร และอยากจะทำอะไร

         หางตาที่กำลังจดจ้องบนตัวหนังสือเหลือบมองไปยังยาหยอดตาที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะทำงาน ซาจิตะค่อยๆมองไปรอบข้างเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจเธอ เด็กหญิงผมสั้นก็หยิบยาหยอดตานั้นขึ้นมา ค่อยๆเปิดฝาขึ้นมาและใช้อัตลักษณ์สร้างให้ของเหลวในยาหยอดที่พร่องลง เต็มภาชนะบรรจุอีกครั้งด้วยอัตลักษณ์ประเภทฮีลลิ่งอย่างยารักษา กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเจือขึ้นในอากาศ ก่อนที่ซาจิตะจะรีบพุ่งตรงไปที่ห้องน้ำ เธอก้มหน้าโค้งลงก่อนจะคายเลือดของตนเองออกมา เลือดที่เป็นพิษที่ตีขึ้นมา ช่วงนี้เพราะผู้เป็นพ่อบุญธรรมไม่ค่อยว่าง - เด็กหญิงจึงไม่มีเวลาไปพบแพทย์ แม้ว่าอัตลักษณ์จะดูแข็งแกร่งและมีประโยชน์ แต่ข้อจำกัดที่ถูกตั้งขึ้นก็ทำให้ทรมานไม่น้อย

         ซาจิตะจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะหมุนลูกบิดห้องน้ำออกมา ดวงตาสีฟ้าอ่อนเหมือนสีของท้องฟ้ามองไปรอบๆ ค้นพบว่าตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงของสถานศึกษา เด็กนักเรียนที่อายุมากกว่าเธอหลายคนเดินเต็มทางเดิน

         เธอเองก็ชักจะหิวขึ้นมาแล้ว ไว้ค่อยกลับไปอ่านหนังสือที่โต๊ะของพ่อแล้วกัน













     

         เธอกลับบ้านด้วยรถไฟฟ้าไปลงยังสถานีที่หมายในเวลาเย็น กำลังคิดว่าจะนั่งแท็กซี่ หรือ เดินเท้าไปดี แต่เมื่อเห็นเวลาที่ท้องฟ้ายังไม่ตกดินลง ซาจิตะก็เลือกเดินเท้ากลับไปยังบ้านของตัวเอง - เป็นอีกวันที่อีเรเซอร์เฮดถูกทางสำนักงานฮีโร่อื่นเรียกตัวไปทีมอัพในการทำภารกิจ ทำให้เธอตัดสินใจเดินทางกลับบ้านด้วยตัวเองพร้อมรับปากกับพ่อบุญธรรมว่าทันทีที่ถึงบ้าน เธอจะส่งข้อความหาเขา

         บริเวณที่ซาจิผ่านเป็นบริเวณย่านการค้า เวลาเย็นทำให้มีนักเรียนเดินเที่ยวเล่นกับกลุ่มเพื่อนเต็มไปหมด ดวงตาสีฟ้าไม่ได้จ้องมองเธอแค่มีความคิดจะเดินกลับไปยังบ้านของตัวเอง ไม่ทันจะำด้หลุดพ้นจากฝูงชน ร่างกายของใครสักคนก็วิ่งเข้ามากระแทกชนกับร่างกายของซาจิตะ การชนกันอย่างแรงทำให้มือที่ถืออุปกรณ์สื่อสารของเธอปล่อยมือให้มือถือที่กำลังเล่นเพลงฟังผ่านหูฟังของเด็กหญิงร่วงหล่นลงไปกองกับพื้น - จังหวะที่อุปกรณ์สื่อสารลงไปกองกับพื้น ทำเอาคนที่เข้ามาชนชิโอริ ซาจิตะถึงขั้นหน้าซีดไม่ต่างจากไก่ต้ม

         และเพราะของที่ถืออยู่ร่วง มันทำให้ซาจิตะเผลอตวัดสายตาของตนมองแรงใส่บุคคลตรงหน้า เธอขมวดคิ้วเงยหน้าจ้องเขา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งติดเย็นเหยียบ


     

         "ระวังหน่อยสิคะ - คนเยอะแบบนี้ มันอันตรายนะ"


     

         ถ้อยคำที่ทำให้คนฟังรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา เขาตัวสั่น ก่อนจะใจกล้าเอ่ยกลับมา "ข ขอโทษนะครับ!"


     

         "ขอโทษเหรอคะ…"


     

         เธอเอ่ยหลุบตาลงเพียงเสี้ยววิและตวัดตามองจ้องตาสีมรกตกลมโตอีกครั้ง


     

         "ฉันรับคำขอโทษค่ะ แต่คราวหลังช่วยระวังตามที่เตือนด้วยนะคะ"


     

         ซาจิตะเอ่ยจบก่อนจะก้มลงย่อตัวหยิบโทรศัพท์ที่ตกพื้นขึ้นมา มุมซ้ายบนของโทรศัพท์มีรอยแตกเล็กน้อย พอเห็นแบบนั้น คนที่เป็นต้นเหตุก็ยิ่งรู้สึกตัวหดลงไปกว่าเดิม โดยเฉพาะในจังหวะที่ตาสีฟ้าอ่อนยังคงจ้องมา

         หน้าตาน่ารัก - ต แต่ดุมาก

         เขาคิดในใจ ก่อนจะรีบสลัดหัวไล่ความคิดออกไป จะคิดแบบนี้กับคนที่ตนพึ่งทำความผิดใส่ไปแบบนี้ไม่ได้!


     

         "ค คือว่า…"


     

         เขาพยายามที่จะอธิบาย ที่เร่งรีบขนาดนี้ก็เพราะอยากจะรีบไปที่หน้าร้านที่วางขายสินค้าของออลไมท์ที่เขากดจองไม่ทันน่ะแหละ แต่ยิ่งรีบ...ความซวยก็เหมือนจะมาเยือนจนได้

         ระหว่างที่เขากำลังทำตัวลนลาน เลิ่กลั่ก ไปไม่ถูก เด็กสาวตรงหน้าก็ถอนหายใจออกมา


     

         "ช่างเถอะค่ะ ยังไงทีหลังก็ช่วยระวังด้วยนะคะ"


     

         เธอตัดสินใจพูดตัดปัญหาและขยับตัวเดินผ่านเด็กหนุ่มเรือนผมสีเขียวเข้มคนนั้น แต่เพราะท่าทางปล่อยของเธอทำให้ร่างกายของคู่กรณีตอบสนอง เขาคิดคว้าตัวเธอ เอื้อมมือพร้อมเรียก


     

         "เดี๋ยวก่อนครับ!--"


     

         เสียงหยุดลงก่อนตามมาด้วยเสียงล้มคะมำหน้าคว่ำจากอีกฝ่าย ซาจิตะรีบหันและก้มมองดู ค้นพบว่าเขากำลังจับข้อเท้าของเธอ - และเมื่อเด็กสาวผมหยักศกหยุดฝีเท้าของตนลง คู่กรณีวัยไล่เลี่ยกันก็เงยขึ้นมา หน้าของเขาที่ทิ่มพื้นไป ใบหน้ามีเลือดกำเดาไหลดูไม่ได้

         โคตรดูไม่ได้สุดๆเลย


     

         "ผมทำมือถือคุณเป็นรอยเลยนะครับ ค คือว่า!"


     

         "ไหวไหมคะ นั่น…?"


     

         "ผมไหวครับ!"


     

         ทางนั้นตอบ ขณะที่เธอถอนหายใจ ย่อตัวลงกับพื้นหน้าอีกคน ใช้ปลายนิ้วชี้ของมือที่ไม่ได้จับโทรศัพท์ข้างที่มุมบนซ้ายแตกยกขึ้นมาค่อยๆชี้ไปที่ของเหลวสีแดงที่ไหลออกมาจากรูจมูกของเด็กหนุ่มตาสีมรกตตรงหน้า "เลือดนะคะ"


     

         "อ เอ๋!?"


     

         ทางนั้นรีบใช้หลังมือเช็ดลวกๆ - เห็นแล้วชวนให้ซาจิตะยิ่งจะหงุดหงิดไปมากกว่าเดิมเสียอีก มือเปลี่ยนจากการชี้นิ้วเป็นการตีไปที่แขนข้างที่ยกขึ้นมาเช็ดของคนสวมชุดกักคุรัน พร้อมขมวดคิ้วไม่พอใจใส่เขาไปด้วย


     

         "มันสกปรก อย่าทำแบบนั้นสิคะ"


     

         "ข ขอโทษนะครับ!"


     

         นี่เขาเป็นเครื่องขอโทษอัตโนมัติรึไงกัน


     

         "อย่าขอโทษไปเรื่อยสิคะ" เธอพูดพร้อมพ่นลมหายใจ "การขอโทษมากๆมันดูเป็นเรื่องไม่จริงใจนะคะ"


     

         เราทำผิด เราก็ขอโทษ - และมนุษย์เราก็ทำผิดกับเรื่องเดิมๆซ้ำๆ

         และการจะให้อภัยในทุกเรื่องก็ย่อมเป็นไปไม่ได้


     

         เขาเงียบไป ใบหน้าดูเหวอจากคำพูดของเจ้าของตาสีฟ้า - ลูกแก้วสีมรกตของเจ้าตัวหลุบต่ำลงมองพื้นหลังจากที่เปลี่ยนท่าจากล้มคะมำมาเป็นนั่งกับพื้น ท่าทางดูน่าเป็นห่วงไม่น้อย ไอ้ท่าทางก้มหน้าก้มตาสำนึกผิดเนี่ยแหละ - ซาจิตะที่ย่อตัวมองเขาอยู่ถอนหายใจอีกครั้ง


     

         "ขออนุญาตนะคะ"


     

         ชิโอริ ซาจิตะเอื้อมมือไปตีหลังเขา "หลังตรงค่ะ"


     

         สัมผัสทำให้คนที่ถูกสั่งหลังตรงขึ้นในทันควัน นิ้วมือของซาจิตะกดลงบีบจมูกให้เขา คนตาสีมรกตเบิกตากว้างดูตกใจ ไม่ทีนจะได้ขยับปากแย้ง เธอก็พูดต่อ


     

         "ก้มหน้าลงเล็กน้อย อ้าปากหายใจห้านาทีค่ะ"


     

         ท่าทางจริงจังที่ทำให้เด็กอายุรุ่นเดียวกันยอมทำตามไปเสียทุกอย่าง - มิโดริยะ อิซึคุ รู้สึกหวาดหวั่นกับน้ำเสียงและท่าทางดุของคยตรงหน้า เขาทำตามที่เธอบอกทุกอย่าง ใช้ปากของตนรับออกซิเจนแทนจมูกที่ถูกนิ้วมือบีบ

         น่ากลัวชะมัดเลย…

         แต่ก็...ไม่น่าใช่คนไม่ดี ไม่สิ - เธอเป็นคนดี

         เขายอมอดทนสักพักก่อนที่เธอจะผละนิ้วมือออกไป 


     

         "ฉันบอกให้คุณระวังตัว"


     

         เธอบอก


     

         "บอกตอนที่คุณชนฉัน"


     

         อ่า เขาผิดจริงๆ


     

         "แต่คุณก็ยังล้มหน้าคะมำแบบนี้อีก"


     

         อิซึคุรู้สึกเหงื่อแตกยามถูกดุจากริมฝีปากเล็กตรงหน้า - แต่คือเขาก็ผิดจริงๆ ทำอะไรไม่ได้นอกจากการเกาหลังคอตัวเองเบาๆอย่างรู้สึกผิด

         เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอโกรธซะหน่อย…


     

         "ข…"


     

         "หยุดเลยค่ะ"


     

         มิโดริยะ อิซึคุ แทบจะยกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเองแทบไม่ทันยามที่เธอทำตาขวางใส่ออกมา ไอ้เขาก็ติดปากในคำนั้นทั้งๆที่เธอเองก็เตือนเขาแล้วว่าอย่าพูดว่าขอโทษ

         เด็กหนุ่มกลืนคำพูดของตัวเองลงคอ


     

         "เลือดหยุดแล้วนะคะ"


     

         เธอบอก

         อิซึคุกระพริบตาลงเชื่องช้า เขาไม่รู้สึกตัวเลย จนกระทั่งเธอพูด "ต่อจากนี้ดูแลตัวเองให้ดี อย่าไปสะดุดล้มที่ไหนอีก แล้วก็ช่วยยืนขึ้นด้วยค่ะ"


     

         เขาขยับทำตามคำบอก ลุกขึ้นยืนเต็มส่วนสูงของตัวเอง

         ก่อนจะลนลานอีกครั้ง ยามที่ฝ่ามือที่ช่วยเหลือกำลังแตะเส้นเชือกของรองเท้าผ้าใบที่หลุดรุ่ย


     

         "เพราะแบบนี้ไงคะ ถึงล้ม"


     

         เธอดุเขาอีกครั้ง

         ให้ตาย เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเชือกรองเท้าหลุดตอนไหน


     

         "แหะ...คือไม่ได้สังเกตน่ะครับ"


     

         "ระวังหน่อยค่ะ"


     

         เธอบอก ปลายนิ้วของเธอสัมผัสเส้นเชือกและค่อยๆเกี่ยวมันเบาๆเพ่อที่จะผูกเชือกรองเท้าผ้าใบให้กับเขา


     

         "ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญนะคะ"


     

         เขานิ่งเงียบไป วันนี้เขาถูกเพื่อนในห้องแกล้งนิดหน่อย จนเกือบจะบันได อ่า ความปลอดภัยมันสำคัญจริงๆน่ะแหละ

         โดยเฉพาะกับเขา - เขาที่ไร้อัตลักษณ์...เขาก็ควรจะดูแลตัวเองให้ดี


     

         "ขอบคุณนะครับ"


     

         "มันเป็นสิ่งที่คนปกติควรได้รับไม่ใช่เหรอคะ"


     

         เธอบอกพร้อมขยับมือทัดเส้นผมสีเทาราวควันบุหรี่กับหูของตนเอง มิโดริยะ อิซึคุมองทุกอิริยาบถของเธอ เขารู้สึกว่าก้อนเนื้อใต้อกเต้นแรงขึ้นมา ทั้งท่าทางและคำพูดของเธอ


     

         "เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับความปลอดภัยและความคุ้มครอง"


     

         เขาฟังเธอ - คำพูดที่เรียบนิ่งหากแต่ดูจริงใจและแนะนำชี้แนวทางในทุกประโยคที่ไหลออกมาจากริมฝีปาก "ไม่ว่าใครก็ควรปลอดภัยและได้รับชีวิตที่ดี ไม่ใช่เหรอคะ?"


     

         อิซึคุยังคงนิ่ง เขาที่วิ่งไล่ตามความฝันด้วยแสงริบหรี่มาตลอดในตอนนี้...ก็ยังคงเป็นแบบเดิม เป็นแบบนี้เสมอ จนเขาเองก็เริ่มท้อ...ตลอดชีวิตประถมที่คอยถูกหัวเราะและบอกว่าเขาไม่ควรที่จะฝัน

         เพราะแค่คำว่าเขาไร้อัตลักษณ์


     

         "ถ้าเข้าใจแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ"


     

         "เดี๋ยวก่อนครับ!"


     

         เขารีบเรียกรั้งเธอเอาไว้


     

         "คะ?"


     

         "แม้แต่คนไร้อัตลักษณ์แบบผม...ก็เหมือนกันงั้นเหรอครับ?"


     

         ใบหน้าเรียบนิ่งค่อยๆยิ้มบางออกมา


     

         "ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะมีอัตลักษณ์หรือไม่มีอัตลักษณ์ ฉันคิดว่าทุกคนเกิดมาเพื่อที่จะมีความสุข มีชีวิตที่ปลอดภัยและที่ดีค่ะ"


     

         คำพูดของเธอกำลังเติมเต็มเขา

         เติมเต็มความรู้สึกข้างใน


     

         "แม้แต่ความฝัน...ก็ด้วยงั้นเหรอครับ?"


     

         "ค่ะ"


     

         "ผมอยากเป็นฮีโร่"


     

         "งั้นคุณก็คงเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เอาซะเลย"


     

         เธอบอกพร้อมส่ายหัว - เธอเดินนำออกไป เดินห่างออกไป

    และเขาก็เลือกที่จะตะโกน


     

         "ขอบคุณมากๆครับ!"








     

         ผมมีความฝัน

         ผมเชื่อมาตลอดว่าผมที่ไร้อัตลักษณ์

         จะสามารถทำมันได้ - ใช่ แต่ผมก็แค่เด็กคนหนึ่ง

         ผมในตอนนั้นยังเป็นแค่เด็กที่หลงทางคนหนึ่ง







     

         คุณคงเป็นฮีโร่ที่ไม่เท่เอาซะเลย

         ประโยคธรรมดาจากคนแปลกหน้าคนนั้น

         สอนให้เขารู้ - รู้ว่าแม้แต่เสียงที่เล็ก หรือ คนตัวเล็กๆอย่างเขาที่ไม่เอาไหน ก็สามารถเป็นได้

         อื้อ ใช่ ต่อจากนี้น่ะ…

         เขาเห็นแต่เป้าหมายของเขา และเขาเอง...ก็ไม่เชื่อในความล้มเหลว













     

    |||||


     

    Talk with มาวว ♡

    แง กลับมาพับกบ พบกับมาวอีกครั้งนะคะ ! มะเจอกันนานเลย คิดถึงทุกคนมากๆ มีความหวังว่าทุกคนจะคิดถึงเหมือนๆกัน tt

    ถ้ายังตามกันอยู่ มาวขอกำลังใจได้ไหมคะ ปิ๊งๆ แง 55555

    สำหรับเนื้อหาตอนนี้ เปงก่อนหน้าที่พี่เดจะเจออลไมท์ค่ะ ประมาณปีสองปี

    พล็อตหลังรีไรท์มาวยอมรับเลยค่ะว่าเนื้อหาใน Arc0 มาวพยายามปูเรื่องมาก่อน จะพยายามไม่ให้เกิน 10 ตอนค่ะ แง 

    พอจบ Arc0 จะเข้า Arc1 ซึ่งจะดำเนินตามเรื่องหลักไป

    มาวก็หวังว่าทุกคนจะรู้สึกชอบและรู้สึกกับการอ่านฟิคเล็กๆฟืคนี้

    ขอบคุณทุกคนนะคะ มาวรักทุกคนเลย ❤


     


     

    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×